สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมหวานไทย

ขอแนะนำขนมทานเล่น ขนม โตเกียว แป้งนุ่ม หลากไส้ แสนอร่อย

ขนม โตเกียว

รู้หรือไม่! แท้จริงแล้ว ขนม โตเกียว ที่เราทานกันมาตั้งแต่เด็กนั้นไม่ได้เป็นขนมที่มาจากประเทศญี่ปุ่น แต่โตเกียวเป็นขนมไทยชนิดหนึ่งที่คล้ายกับโดรายากิของญี่ปุ่นที่ทำมาจากแป้งแพนเค้กมีความนุ่มนิ่ม หอมกลิ่นเนยอ่อนๆ นำมาทำให้แป้งแบนด้วยความร้อนและห่อด้วยไส้ต่างๆ อาทิ ไส้กรอก ไข่นกกระทา และไส้ครีมรสหวานอย่าง ไส้สังขยา คัสตาร์ด เผือกบด หรือบางร้านจะมีสูตร ขนม โตเกียวไส้พิเศษ เช่น ไส้มะพร้าว อ่อน ชีส บิ๊กไบต์ ไก่ยอ อื่นๆ ให้ลูกค้าได้เลือกทานอย่างจุใจ นอกจากนี้ขนมโตเกียวยังเป็นขนมที่สามารถหาทานได้ง่ายๆ ตามร้านขนมริมถนน หรือแม่ค้าบางคนจะทำขนมบนรถเข็นขายถึงหน้าบ้านเลยทีเดียว 

วิธีทำ ขนม โตเกียว ยอดฮิต รสชาติอร่อยกลมกล่อม สไตล์โฮมเมด

ขนม โตเกียว

อีกหนึ่งขนมไทยที่ได้รับความนิยมตลอดกาลอย่าง ขนมโตเกียว แป้งหอมนุ่ม สอดไส้หลากหลายรสชาติที่มาพร้อมกับความอร่อยนุ่มนิ่มฟินกำลังดี และที่สำคัญเป็นขนมที่มีราคาถูก และสามารถซื้อได้หลายชิ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นขนมที่อร่อย และราคาถูกขายดีตลอดกาล สำหรับคนไหนที่สนใจอยากขายขนมโตเกียวในช่วงวันว่างๆ ต้องไม่พลาด เพราะเรามีสูตร แป้ง โตเกียว แป้งนุ่มนิ่ม รสชาติกลมกล่อม ทำขายได้ง่ายๆ รับรองว่าหากใครที่ได้ลองทานต้องติดใจกลับมาซื้อทานอีกแน่นอน 

วัตถุดิบ และส่วนผสมทีเตรียมของแป้ง

  1. แป้งเค้ก 150 กรัม
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. เกลือ ½ ช้อนชา
  4. ผงฟู ½ ช้อนชา
  5. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  6. น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำเปล่า 150 กรัม
  8. วานิลลา 1 ช้อนชา
  9. ผงฟู ½ ช้อนชา
ขนม โตเกียว

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมไส้เค็ม

  1. ไข่นกกระทา 7-8 ฟอง
  2. ไส้กรอก 10 ชิ้น
  3. พริกไทยป่น 1 ขวด
  4. ซอสปรุงรส 1 ขวด

ขนม โตเกียวที่ได้รับความนิยมจะเป็นไส้เค็ม ดังนั้นสูตรที่จะทำเป็นสูตรโตเกียว ไส้ เค็มที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นพริกไทย ส่วนใครที่อยากเพิ่มหมูสับก็เพิ่มได้ตามใจชอบ จากนั้นเราจะมาทำขนมโตเกียวด้วยตัวเองดังนี้

ขนม โตเกียว
  1. นำแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือป่น ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาร่อนใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วมาเตรียมภาชนะอีกหนึ่งอัน ใส่ไข่ไก่ น้ำตาล เกลือ และกลิ่นวานิลลา ใช้ตระก้อตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่น้ำเปล่าลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไป คนให้แป้งเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นนำแป้งมากรองด้วยตะแกรงอีกครั้ง นำแป้งแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
  2. จากนั้นเราจะมาเริ่มทำขนมด้วยการอุ่นกระทะจนร้อน ตักแป้งโตเกียวลงไป คนให้เป็นวงกลม จากนั้นตักแป้งโตเกียวใส่ถุงบีบเป็นรูปต่างๆ ได้ตามใจชอบ ตอกไข่ลงไป ตามด้วยซอสปรุงรส ไส้กรอก ม้วนแป้งเข้าหากัน เป็นอันเสร็จแล้ว
ขนม โตเกียว

ขั้นตอนการทำขนม โตเกียวไส้เค็มจะเห็นว่าทำได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ที่สำคัญทำออกมาแล้วหน้าตา รวมถึงรสชาติอร่อยชวนทานเหมือนที่ขายตามรถเข็นเลยทีเดียว นอกจากนี้เนื้อแป้ง โตเกียวยังนุ่มนิ่มเคี้ยวได้อย่างเพลิดเพลินทั้งวันไม่มีคำว่าเบื่อ เพราะขนมโตเกียวทุกชิ้นมีแต่ความอร่อย 

ส่งต่อความละมุน ขนม โตเกียว ไส้หวาน นุ่มนุ่ม อร่อยในคำเดียว 

ขนม โตเกียว

หลังจากที่ได้ลองทำขนม โตเกียวไส้เค็ม รสชาติกลมกล่อมไปแล้ว ต่อมาเราจะลองมาทำขนมโตเกียวไส้หวานกันบ้าง เพื่อมอบให้แก่คนที่ชอบทานหวานกัน ซึ่งวิธี ทำ ขนม โตเกียวไส้หวานนั้นก็ง่ายๆ สามารถใช้สูตรแป้งตามไส้เค็มได้เลย เมื่อผสมแป้งเรียบร้อยแล้วทำการตักแป้งใส่กระทะร้อน วนแป้งให้เป็นวงกลม ตักไส้หวานอย่าง ครีมคัสตาร์ด สังขยา ลงไปได้ตามใจชอบ หลังจากที่แป้งสุกแล้วม้วนแป้งเข้าหากัน และพับปลายแป้งทั้งสองด้าน ยกใส่จานสวยๆ พร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารได้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

สูตร ข้าวเม่า ทอดกรอบ ขนมคุณยาย ข้าวนุ่มหนึบ หอมกลิ่นข้าวละมุน

ข้าวเม่า

ข้าวเม่า ถือว่าเป็นขนมที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก เพราะเป็นขนมโบราณสมัยรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ที่มักนำข้าวมาแปรรูปเป็นขนมทานเป็นของว่าง หรือเป็นอาหารรองท้องในระหว่างวัน ปัจจุบันขนม ไทยชนิดนี้ถือว่าหาทานได้ยากมาก เนื่องจากไม่ค่อยมีคนนิยมทำขายมากนัก เพราะวัตถุดิบหลักอย่างข้าวเม่าไม่ค่อยมีขาย หรือถ้ามีขายจะมีราคาค่อนข่างสูงเลยทีเดียว แต่ถ้าใครสนใจอยากลองทำขนมข้าวเม่าทานเอง ขอแนะนำสูตรข้าวเม่าทอด โบราณกรอบนอกนุ่มใน อร่อยฉ่ำๆ 

ขั้นตอนการทำขนม ข้าวเม่า สูตรดั้งเดิม กรอบนอกนุ่มใน หวานกำลังดี 

ข้าวเม่า

สำหรับข้าวเม่า เป็นข้าวที่ชาวบ้านในสมัยก่อนนิยมนำมาหาบเร่ขายตามหมู่บ้านต่างๆ และมักจะมีคุณยายมาซื้อทานกันเป็นประจำ แต่สูตรที่แม่ค้านำมาขายจะเป็นสูตรข้าวเม่าคลุกเคล้ามะพร้าวแบบดั้งเดิมที่คนเฒ่าคนแก่นิยมทานกัน แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำสูตรข้าวเม่าทอด เนื้อกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นกล้วยไข่หวานฉ่ำ ทานอร่อยไม่มีเบื่อ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของข้าวเม่า

  1. ข้าวเม่า 2 ถ้วยตวง
  2. มะพร้าวขูด 1 ½ ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลปิ๊บ 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
ข้าวเม่า

วัตถุดิบ และส่วนที่ต้องเตรียมของแป้งชุบทอด

  1. แป้งข้าวเจ้า 2 ½ ถ้วยตวง
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. หัวกะทิ 1 ½ ถ้วยตวง
  4. น้ำปูนใส ¼ ถ้วยตวง
  5. เกลือปุ่น 1 ช้อนชา
  6. กล้วยไข่ 10 ลูก
  7. น้ำมันพืช 1 ขวด

ขนมข้าวเม่าทอดไส้กล้วยหอมจะใช้กล้วยหอมลูกเล็กสุกแต่ยังไม่งอม หรือถ้าชอบขนมรสชาติหวานจัดจ้านสามารถใช้กล้วยไข่สุกงอมได้เลยตามใจชอบ ส่วนข้าวเม่า สดสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าออนไลน์ทั่วไป และหลังจากที่เตรียมส่วนผสมเรียบร้อยแล้วเราจะมาเข้าสู่ขั้นตอนวิธีทำกันง่ายๆ ดังต่อไปนี้

ข้าวเม่า
  1. มาเริ่มกันที่ทำแป้งขนมกันก่อน โดยนำกระทะมาตั้งเตาใส่ข้าวเม่าลงไป คั่วข้าวเม่าให้กรอบ นำมาตำให้ละเอียดจนกลายเป็นผง พักไว้ก่อน จากนั้นนำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำเปล่า น้ำตาลปิ๊บลงไป ใช้ไฟอ่อน คนน้ำตาลให้ละลาย ต้มให้เดือด ใส่มะพร้าวขูดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ผัดจนแห้ง ใส่ผงข้าวเม่าที่เตรียมไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันจนเหนียว ปิดไฟยกออกจากเตาได้เลย
  2. ต่อมาจะเป็นการทำแป้งชุบทอด นำแป้งข้าวเจ้าเทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ลงไป ค่อยๆ เติมน้ำกะทิ นวดให้เข้ากัน จนได้แป้งติดเป็นก้อน ตอกไข่ น้ำกะทิที่เหลือลงไป ตีส่วนผสมให้เข้ากัน เทใส่ในภาชนะแป้ง ใช้มือนวดให้เข้ากัน จากนั้นเทน้ำปูนใส เกลือ ลงไป คนส่วนผสมทั้งให้เข้ากัน
  3. นำแป้งข้าวเม่าที่เตรียมไว้ ใช้ช้อนตักแป้งมาวางบนถุงพลาสติก ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใส่กล้วยไว้ตรงกลาง จากนั้นม้วนแป้งเข้าหากัน นำไปทอดให้เหลืองกรอบ ตักพักไว้ก่อน จากนั้นมาทำแป้งฝอย โดยใช้มือจุ่มแป้ง หยดลงไปในกระทะให้กรอบตักขึ้นมาพักไว้ นำไปจัดใส่จานพร้อมข้าวเม่าทอดได้เลย
ข้าวเม่า

หลังจากที่ได้ขนมข้าวเม่าทอดกรอบไส้กล้วยไข่แล้ว อย่าลืมโรยด้วยแป้งฝอยกรอบๆ จะทำให้เพิ่มความกรอบของขนมมากขึ้น ต่อมาก็พร้อมชิมรสชาติขนมข้าวเม่าขนมไทย ทำเองกันให้เต็มอิ่ม สำหรับคนที่อยากทำขนมข้าวเม่าขายตามตลาดนัดสามารถใช้ตามสูตรที่เรานำมาแชร์กันได้เลย เรียกได้ว่า ข้าวเม่าคือ ขนมหวานคุณยายที่ทำทานเองก็อร่อยจะทำขายก็ขายได้กำไรดีงาม 

แชร์ความลับทำขนม ข้าวเม่า ทอดกรอบไส้กล้วย ให้กรอบนาน 

ข้าวเม่า

ข้าวเม่าทอดกรอบไส้กล้วยไข่ ถือว่าเป็นขนมไทย โบราณที่มีรสชาติอร่อย และมีวิธีทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แถมยังใช้วัตถุดิบเพียงน้อยนิด แต่สำหรับการทำขนมข้าวเม่าทอดให้กรอบนานตามสูตร ขนม ไทยทำเองนั้น ในขั้นตอนการทอดขนมจะใส่น้ำมันพืชในปริมาณที่พอเหมาะ และใช้ไฟปานกลาง ค่อยๆ ทอดข้าวเม่าให้เหลืองกรอบ จากนั้นนำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมที่กรอบอร่อย รสหวานนุ่มลิ้นเคี้ยวเพลินละมุนละไม 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

เปิดห้องเครื่องชวนทำ ข้าวเหนียว ทุเรียน ชาววัง รสหวานชื่นใจ

ข้าวเหนียว ทุเรียน

ทุเรียน จัดว่าเป็นราชาผลไม้ที่มีรสชาติหวาน มัน และมีกลิ่นที่โดดเด่นจึงทำให้ได้รับความนิยมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งทุเรียนสามารถทานเนื้ออย่างเดียว หรือนำมาแปรรูปเป็นขนมหวานอย่าง ข้าวเหนียว ทุเรียน เป็นหนึ่งในเมนูขนมหวานคลายร้อนที่ชาวบ้านมักทำทานกันในครอบครัวเป็นประจำ เพราะเป็นเมนูที่ทำง่ายๆ ไม่ต้องมีขั้นตอนมากมาย และยังช่วยประหยัดเวลาอีกด้วย แถมรสชาติของข้าวเหนียว มูน ทุเรียนมีความหวาน หอม กลมกล่อมอร่อนฟินทุกคำ 

วิธีทำ ข้าวเหนียว ทุเรียน สูตรชาวัง ข้าวเหนียวนุ่ม เนื้อทุเรียนจัดเต็ม

ข้าวเหนียว ทุเรียน

ในช่วงหน้าร้อนผู้คนมักจะหาเมนูขนมหวาน หรือเครื่องดื่มเย็นๆ ทานคลายร้อน แต่ยังมีอีกหนึ่งเมนูขนมหวานๆ ที่สามารถทานคลายร้อนได้เช่นกัน นั่นก็คือ ข้าวเหนียวทุเรียน เนื้อแน่น รสหวานฉ่ำ ผสมผสานกับข้าวเหนียวมูนนุ่มราดด้วยหัวกะทิเข้มข้น ทานแล้วฟินอร่อยหอมชื่นใจไม่มีเบื่อ และที่สำคัญเป็นเมนูหาทานได้แค่หนึ่งปีจะมีทานแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นใครที่มีทุเรียนอยู่บ้านอยากจะลองทำข้าวเหนียวทุเรียนไว้ให้คนในครอบครัวทาน เราได้หาสูตร และวิธี ทำ ข้าวเหนียว ทุเรียนอย่างง่ายๆ มาให้ทำที่บ้านด้วยนะ

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมของข้าวเหนียวมูน

  1. ข้าวเหนียว 400 กรัม
  2. หัวกะทิ 250 กรัม
  3. เกลือ 1 ½ ช้อนชา
  4. ใบเตย 2 ใบ
  5. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  6. สารส้ม 1 ก้อน
ข้าวเหนียว ทุเรียน

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียมทำน้ำกะทิ

  1. หัวกะทิ 600 กรัม
  2. เนื้อทุเรียน 350 กรัม
  3. เกลือ 1 ช้อนชา
  4. ใบเตย 1 ใบ
  5. น้ำตาลปิ๊บ 100 กรัม

ข้าวเหนียว ทุเรียนสูตรที่นำมาทำนั้นเป็นสูตรชาววัง เนื้อทุเรียนนุ่มหวานอร่อย หากใครอยากทำให้ข้าวเหนียวมีสีสันมากขึ้นสามารถใช้น้ำอัญชัน หรือน้ำใบเตยมาผสมกับข้าวเหนียวมูนจะทำให้ขนมมีสีสวยน่าทานมากขึ้น ในส่วนของวิธี ทำ น้ำกะทิ ทุเรียนข้าวเหนียวมูนมีดังนี้ 

ข้าวเหนียว ทุเรียน
  1. ขั้นตอนแรก นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำสะอาด จากนั้นนำข้าวมาขัดกับสารส้มเบาๆ จะช่วยให้ข้าวเหนียวเงาสวยมากขึ้น เสร็จแล้วใส่น้ำแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่ง โดยนำหม้อใส่น้ำ ใส่ใบเตยลงไป ตั้งเตาใช้ไฟแรง จากนำข้าวเหนียวมานึ่งเป็นเวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นนำข้าวนึ่งสุกมาใส่ในชามที่เตรียมไว้
  2. ต่อมานำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ ใบเตย ต้มให้น้ำตาลละลาย ด้วยไฟอ่อนๆ จากนั้นนำมาราดใส่ในข้าวเหนียวผสมให้เข้ากัน รอให้ข้าวดูดซึมน้ำกะทิ ประมาณ 1 ชั่วโมง
  3. ลำดับถัดมาจะเป็นการนำทุเรียนมาแกะเอาเม็ดด้านในออก และหั่นเป็นชิ้นปานกลาง เสร็จแล้วนำส้อมมายีทุเรียนให้เป็นเส้น พักไว้ก่อน 
  4. นำหม้อมาตั้งเตา ใส่หัวกะทิ เกลือ น้ำตาล ใบเตย เปิดเตาและใช้ๆฟอ่อนๆ ต้มจนกว่าน้ำตาลจะละลาย ตามด้วยเนื้อทุเรียน ต้มให้พอร้อน ยกออกจากเตา ได้เลย
  5. นำข้าวเหนียมมาตักใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิทุเรียน ใส่เนื้อทุเรียนลงไปด้วย เพื่อความสวยงาม เป็นอันเสร็จสิ้น พร้อมทาน
ข้าวเหนียว ทุเรียน

ข้าวเหนียวทุเรียนที่ทำเองจะมีรสชาติหวาน มัน เค็มอร่อยครบรส เพราะเราได้คัดสรรทุเรียนเองกับมือทำให้ได้เนื้อทุเรียนที่มีคุณภาพ เนื้อหวาน หอมละมุน ไม่เละเกินไป สำหรับคนไหนที่อยากทานขนมทุเรียนอร่อยๆ สามารถนำน้ำกะทิ ทุเรียนไปแช่ในตู้เย็นก่อนนำมาราดข้าวเหนียวจะช่วยให้ขนมเย็นชื่นใจ 

เคล็ดลับควรรู้! ทำ ข้าวเหนียว ทุเรียน เนื้อนุ่มละมุน ตามสูตรขนมโบราณให้อร่อย

ข้าวเหนียว ทุเรียน

การทำขนมข้าวเหนียว ทุเรียนทานเองนั้นข้อดีคือ ทำให้เราสามารถทานขนมหวานได้แบบไม่อั้น และยังสามารถทานได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ยังทำเก็บไว้ทานได้อีกหลายวัน แต่อย่างไรก็ตามหากทำข้าวเหนียว ทุเรียน โบราณทานเองให้อร่อย ในขั้นตอนการนึ่งข้าวเหนียวจะต้องใส่น้ำในหม้อนึ่งพอดีจะทำให้ได้ข้าวที่นุ่มหนึบ เมื่อนำมาคลุกกับน้ำกะทิจะได้ข้าวเหนียวมูนที่นิ่มๆ ไม่เละเกินไป และต้องใช้น้ำกะทิคั้นเอง หรือคั้นสดจากตลาดจะทำให้ขนมมีกลิ่นหอมผสมผสานกับกลิ่นของทุเรียนได้ละมุนมากขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

ขนมงานวัดในอดีต ขนม ถัง แตก ไส้ทะลัก ชิ้นเดียว ทานได้ทั้งวัน

ขนม ถัง แตก

หากพูดถึงขนมงานวัดในสมัยอดีตที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ต้องยกให้ ขนม ถัง แตก ขนมแป้งหนาฟู ชิ้นใหญ่ รสชาติหวานอร่อยทานทั้งวันก็ไม่หมด และสูตรขนมที่นิยมทานกันมากที่สุดจะเป็น ขนมถังแตกไส้มะพร้าว และสูตรใบเตย แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาขนม ถังแตกให้เลือกทานหลากหลายสูตร อาทิ ไส้ฝอยทอง สังขยาใบเตย ข้าวโพดกรอบๆ ที่สามารถทานได้แบบจุใจ แถมราคาต่อชิ้นก็ไม่แพงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ขนมชนิดนี้เป็นขนมของคนที่ชอบทำขนมหวานทานเอง เพราะมีวิธีทำง่ายๆ สามารถทำตามได้ที่บ้าน 

วิธีทำ ขนม ถัง แตก สูตรโบราณ แป้งหนาฟู ไส้ล้นทะลัก ฉบับทำเอง 

ขนม ถัง แตก

ได้เวลามาย้อนรอยวัยเด็กกันบ้าง กับขนมแป้งหนา ชิ้นโต อย่าง ขนม ถังแตก ขนมที่ไม่ว่าจะทานเวลาไหนก็อร่อย และอิ่มท้องนานสุดๆ แถมยังทานคนเดียวไม่หมดอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากทำขนมถังแตกให้คนในครอบครัวทานเองที่บ้าน เราก็มีสูตร ขนม ถัง แตก แป้งฟูนุ่ม ไส้ทะลักมาให้ได้ทำเล่นๆ ที่บ้าน รับรองว่าคนในครอบครัวต้องเรียกร้องให้ทำอีกอย่างแน่นอน 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมของแป้ง

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 600 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 250 กรัม
  4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  6. กะทิ 200 กรัม
  7. น้ำเปล่า 700 กรัม
  8. ยีสต์ 1 ช้อนชา
  9. ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
  10. เกลือ 1 ช้อนชา
ขนม ถัง แตก

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมโรยหน้า

  1. งาขาวคั่ว 50 กรัม
  2. งาดำคั่ว 50 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 200 กรัม
  4. มะพร้าวทึกขูดเส้น 250 กรัม
  5. เกลือ ½ ช้อนชา

ขนม ถัง แตกมีหลากหลายสูตรให้เลือกทำมากมาย แต่วันนี้เราจะมาทำขนมถังแตกสูตรดั้งเดิมอย่างขนมถังแตกมะพร้าวทึนทึกขูดเป็นฝอย เมื่อเราได้ส่วนผสมต่างๆ ครบแล้วมาต่อด้วยวิธี ทำ ขนม ถัง แตกง่ายๆ กันเลย

ขนม ถัง แตก
  1. นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ และแป้งข้าวเจ้าผสมกับน้ำอุ่น ใส่น้ำตาลทรายคนส่วนผสมให้เข้ากัน ต่อมานำยีสต์ผสมลงไปในน้ำอุ่น คนให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 5 นาที 
  2. นำไข่ไก่ กลิ่นวานิลลา หัวกะทิ และส่วนผสมของยีสต์ที่ทำไว้ ใส่ในส่วนผสมที่เป็นแป้ง ตะล่อมแป้งให้เข้ากัน จากนั้นใส่ผงฟูลงไป คนแป้งให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วพักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง 
  3. หลังจากที่รอแป้งครบเวลา เรามาทำไส้ขนม โดยเริ่มจากนำมะพร้าวขูดมานึ่งประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วนำมาคลุกกับเกลือ และเตรียมกระทะใส่งาขาว และงาดำ คั่วจนหอม นำไปบดให้แตก นำงามาคลุกกับน้ำตาล พักไว้ก่อน
  4. ในระหว่างนั้นนำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย รอให้กระทะร้อน ใส่แป้งลงไป ปิดฝาทิ้งไว้ รอประมาณ 2 นาที จากนั้นใส่มะพร้าว และโรยด้วยน้ำตาลผสมงาคั่ว ใช้ไม้พายแซะขนมออกจากกระทะ พับครึ่ง ตักใส่จานได้
ขนม ถัง แตก

ขนมถังแตก สูตรมะพร้าวน้ำตาลงาคั่ว เป็นสูตรดั้งเดิมที่มีรสชาติหวาน กรุบกรอบที่มาพร้อมกับแป้งหนาฟูแผ่นใหญ่ และหอมกลิ่นงาคั่วอ่อนๆ ชวนทานเป็นอย่างมาก อีกทั้งขนม ถัง แตก โบราณ เพียงชิ้นเดียวสามารถทานได้ทั้งครอบครัวอิ่มอร่อยใจฟูสุดๆ 

แจกสูตรเด็ดขนม ถัง แตกไส้ฝอยทอง รสชาติหวานจัดจ้าน ทำขายได้กำไร 

ขนม ถัง แตก

สำหรับขนม ถัง แตก เป็นขนมที่สามารถทำขายได้กำไรดีงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสูตรขนมถัง แตก โบราณไส้ฝอยทอง ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยุ่งยากสามารถใช้ส่วนผสมตามสูตรขนมถังแตกดั้งเดิมที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย เพียงแต่เปลี่ยนจากมะพร้าวเป็นฝอยทอง หลังจากที่ทำแป้งสุกแล้วใส่วิปครีม และฝอยทองโรยลงไป ตามด้วยงาดำคั่ว เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมขายได้เลย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

สูตร ขนม เทียน แก้ว แป้งใสเหนียวหนึบ ไส้หวาน เค็ม อร่อยจัดเต็ม

ขนม เทียน แก้ว

ขนม เทียน แก้ว ขนมไทยที่ชาวบ้านนิยมทำทานกันเป็นจำนวนมากในอดีต เพราะเป็นขนมที่ใช้วัตถุดิบที่หาได้ตามสวนหลังบ้าน นอกจากนี้ขนมเทียน แก้วยังมีรสชาติหวาน เค็มผสมผสานกับเนื้อแป้งเหนียวหนึบหนับเคี้ยวเพลินอร่อยได้ในคำเดียว ปัจจุบันขนมชนิดนี้ยังสามารถหาทานได้ง่ายตามตลาดแถวบ้านในราคาไม่แพงและสามารถซื้อทานได้หลายชิ้นอิ่มอร่อยคุ้มค่าสุดๆ ที่สำคัญขนมเทียนแก้วสามารถทำทานเองได้ และวิธีทำก็ง่ายๆ ตามฉบับขนมพื้นบ้าน ขนมงานบุญอีกด้วย

ชวนทำขนมไทย ขนม เทียน แก้ว แป้งใส ไส้อร่อย รสกลมกล่อม 

ขนม เทียน แก้ว

วันนี้เราจะพาทุกคนที่ชอบทานขนมไทยมาลองทำ ขนมเทียนแก้ว แป้งเหนียวนุ่ม ไส้ถั่วทะลักแบบจัดเต็ม โดยวิธี ทำ ขนมเทียน แก้วง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แถมทำออกมาแล้วรสชาติอร่อยเหมือนที่เคยซื้อทานอีกด้วย และวันนี้เราจะพาทำสูตรขนมเทียน ไส้ เค็ม รสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานหวานมาก

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมของแป้งขนม

  1. แป้งถั่วเขียว 1 ½ ถ้วยตวง
  2. น้ำลอยดอกมะลิ 5 ½ ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทราย 1 ½ ถ้วยตวง
  4. ใบตอง 1 กิโลกรัม
ขนม เทียน แก้ว

ส่วนผสม และวัตถุดิบของไส้ขนม

  1. ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 500 กรัม
  2. พริกไทย ½ ช้อนโต๊ะ
  3. กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  5. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  6. ต้นหอมซอย 2 ต้น
  7. เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ

ขนม เทียนแก้ว สูตรไส้เค็มจะใช้ส่วนผสม และวัตถุดิบเพียงเล็กน้อย สำหรับคนที่อยากทำขนม เทียนแก้วขายในวันว่างๆ สามารถทำขายได้ เพราะใช้ต้นทุนเพียงเล็กน้อย รับรองว่า ขายได้กำไรไม่ขาดทุนแน่นอน ในส่วนขั้นตอนการทำมีดังต่อไปนี้

ขนม เทียน แก้ว
  1. เตรียมทำแป้งขนมเทียน เริ่มจากนำน้ำตาลทราย และน้ำลอยดอกมะลิลงในหม้อ จากนั้นนำไปตั้งเตา ใช้ไฟปานกลาง คนน้ำตาลจนกว่าจะได้น้ำเชื่อม ปิดเตารอให้น้ำเชื่อมเย็น
  2. นำแป้งถั่วเขียว และน้ำลอยดอกมะลิผสมให้เข้ากัน นำมากรองใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วเทใส่กระทะทองเหลือง ใส่น้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ลงไป กวนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนกว่าแป้งจะสุก เปิดเตา รอให้แป้งเย็น 
  3. นำถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง เสร็จแล้วนำไปนึ่งให้สุก พักทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นนำกระเทียม พริกไทย มาโขลกให้เข้ากันจนเป็นเนื้อละเอียด 
  4. ใส่น้ำมันของไปในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลทราย เสร็จแล้วยกออกจากเตาได้
  5. นำแป้งใส่ใบตอง ตามด้วยไส้ขนม ห่อให้เป็นทรงสามเหลี่ยม จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟแรง ประมาณ 30 นาที ยกออกจากเตา จัดใส่จานให้สวยงาม
ขนม เทียน แก้ว

ขนมเทียนแก้วไส้เค็มนึ่งสุกใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมของพริกไทยอ่อนๆ ออกจากใบตอง และหลังจากนั้นนำมาแกะใบตองออกจะได้ขนมเทียนแป้งใสจนเห็นไส้ ขนม เทียนสีเหลืองสวยงามอยู่ด้านใน พอได้ลองทานเนื้อแป้งนุ่ม ไส้เค็มกลมกล่อมหอมละมุน 

แชร์ขนมอร่อย ขนม เทียน แก้ว ไส้หวาน แป้งสาคู นุ่มหนึบ หวานอร่อย ชื่นใจ 

ขนม เทียน แก้ว

มาถึงขนม เทียน แก้วไส้หวานกันบ้าง เชื่อว่าหลายคนยังคงชอบสูตร ขนม เทียนรสชาติหวานฉ่ำกันอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะมาทำขนม เทียน ไส้ หวานง่ายๆ โดยใช้แป้งสาคู 1 ถ้วย แช่น้ำทิ้งให้นุ่ม จากนั้นทำไส้ขนมด้วยการนำมะพร้าวอ่อนมาขูดให้เป็นฝอยๆ ใส่ถ้วยไว้ก่อน นำน้ำตาลปิ๊บมาเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ใส่เกลือ และมะพร้าวขูดลงไป คั่วจนกว่าน้ำตาลจะข้นขึ้น จากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ห่อด้วยแป้งสาคู และห่อด้วยใบตองเป็นรูปสามเหลี่ยม นำไปนึ่งให้สุกแล้วจะได้ขนมเทียนไส้หวานที่นุ่ม รสหวาน เนื้อมะพร้าวกรุบกรอบอร่อยทานได้ทุกวัน และในส่วนของขนมเทียนที่ทานไม่หมดสามารถแช่ในตู้เย็นได้ และหากจะทานค่อยนำมาอุ่นอีกครั้ง 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

มาทำความรู้จัก ขนม สาลี่ ขนมพื้นบ้านโบราณ แป้งฟู สีสวยสดใส

ขนม สาลี่

อีกหนึ่งขนมหวานพื้นบ้านที่อยากแนะนำให้รู้จักกับ ขนม สาลี่ ขนมโบราณที่มีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งลาสี ไข่ไก่ผสมกับน้ำตาลแล้วนำไปนึ่งให้สุกจะได้ขนมที่มีรสชาติหวาน หอมกลิ่นนมแมว และมีเนื้อแป้งนุ่มฟูหลากหลายสีสันสดใส ซึ่งคนในสมัยก่อนจะนิยมทานขนม สาลีคู่กับชา หรือกาแฟร้อนๆ ตัดกับความหวานของขนมได้อย่างลงตัว และแน่นอนว่าหากใครได้ลองทานรับรองจะต้องติดใจจนต้องกลับไปซื้อมาทานอีกครั้งอย่างแน่นอน แต่สำหรับคนที่ไม่อยากขับรถออกนอกบ้านแต่อยากทานขนมหวานๆ เรามีสูตร ขนม สาลี่แสนอร่อยมาให้ได้ทำทานเองที่บ้านแบบจุใจ

วิธีทำ ขนม สาลี่ สูตรโบราณ แป้งฟูนุ่ม กลิ่นหอม อร่อยเต็มคำ

ขนม สาลี่

มีหลายคนชอบทานขนม สาลี่โบราณเป็นอย่างมาก เพราะขนมมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่มาพร้อมกับความหวานละมุน แป้งนุ่มเด้งทานแล้วฟินอร่อยกำลังดี แถมยังสามารถทานได้เรื่อยๆ ทั้งวัน อีกทั้งขนมสาลี่ยังเป็นอีกหนึ่งขนมหวานที่สามารถทานรองท้องในระหว่างวันได้อิ่มแบบจุใจ โดยไม่ต้องไปหาข้าวทานเลยทีเดียว ดังนั้น ใครที่กำลังอยากทำขนมเก็บไว้ทานระหว่างวัน วันนี้เราจะมาแจกวิธี ทำ ขนม สาลี่ทานที่บ้านพร้อมครอบครัว โดยก่อนอื่นจะต้องมาเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อน

ขนม สาลี่
  1. แป้งเค้ก 100 กรัม
  2. ผงฟู 1 ช้อนชา
  3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  4. น้ำใบเตย 60 กรัม
  5. กลิ่นมะลิ ½ ช้อนชา
  6. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  7. น้ำตาลทราย 120 กรัม
  8. สาร SP 8 กรัม
  9. ลูกเกด ½ ถ้วยตวง

ในวันนี้เราจะมาทำขนม สาลี่ สูตรใบเตยทานกัน โดยวัตถุดิบจะมีไม่กี่อย่างสามารถหาซื้อตามกันได้ แต่สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีกลิ่นมะลิสามารถใช้กลิ่นนมแมว หรือกลิ่นวานิลลาแทนกันได้ ส่วนความหอมของขนมก็จะแตกกต่างกันออกไป ต่อมาเราจะมาลงมือทำขนมพร้อมๆ กันได้เลย

ขนม สาลี่
  1. นำแป้งเค้กและผงฟูมาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นเตรียมส่วนผสมที่เป็นของเหลว โดยนำไข่ไก่มาตอกใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ ตามน้ำตาลทราย น้ำใบเตย เกลือ และใส่กลิ่นมะลิลงไป 
  2. จากนนนั้นนำมาตีด้วยเครื่องติขนม โดยการป้ายสาร SP ที่หัวตะกร้อเครื่องตี เปิดความเร็วสูงสุด และตีแป้งเค้กเป็นเวลาประมาณ 10 นาที หลังจากที่ครบเวลาแล้วให้ลดความเร็วของเครื่องลงเป็นความเร็วต่ำสุด เสร็จแล้วทะยอยใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไป ทำการตีไปเรื่อยๆ จนกว่าเนื้อแป้งจะเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน 
  3. นำแป้งที่ได้มามาเทลงไปในถาดที่มีกระดาษไขรองอยู่ เกลี่ยหน้าแป้งให้เรียบ ต่อมาให้นำหม้อนึ่งมาตั้งเตา ใส่น้ำลงไปครึ่งหนึ่งของหม้อ นำถาดขนมใส่ลงไป นำผ้าขาวบางมาคลุมหน้าขนมไว้ เพื่อไม่ให้น้ำหยดลงหน้าขนม ปิดฝาให้สนิท นึ่งขนมด้วยไฟแรง เป็นเวลาประมาณ 15-20 นาที่ หลังจากนั้นให้ยกหม้อออกจากเตาได้เลย เสร็จแล้วนำมาพักไว้ให้เย็น ใช้มีดตัดแบ่งขนมเป็นชิ้นๆ ตามใจชอบ จัดแตกแต่งขนมด้วยหน้าลูกเกด เสร็จเรียบร้อย 
ขนม สาลี่

จบไปอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับขั้นตอนการทำ ขนมสาลี่ ก้อนสี่เหลี่ยม เนื้อแป้งนุ่มฟู หอมกลิ่นใบเตย และรสชาติหวานนุ่มลิ้นอร่อยโดนใจสุดๆ นอกจากนี้ยังมีคนสงสัยว่าขนมถ้วย ฟู ปุยฝ้าย สาลี่ เหมือนกันหรือไม่ ต้องบอกเลยว่า ขนมทั้งสามชนิดมีเนื้อสัมผัสคล้ายกัน แต่หน้าขนมจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

สูตรแนะนำ ขนม สาลี่กรอบ หวานชื่นใจ หอมกลิ่นมะพร้าวอ่อน

ขนม สาลี่

สาลี่ เป็นขนมไทยโบราณที่มีหลากหลายสูตรให้เลือกลองทานแบบจุใจ และอีกหนึ่งสูตรที่หลายคนบอกว่าอร่อยมากๆ นั่นก็คือ ขนม สาลี่ ไหว้เจ้า สูตรแป้งกรอบ เนื้อแน่น ทำง่ายๆ และที่สำคัญขั้นตอนไม่ยุ่งยากอีกด้วย ดังนั้นใครที่อยากลองทำก็สามารถทำตามสูตรขนมสาลี่ใบเตย จากนั้นใส่มะพร้าวขูดเป็นฝอยผสมลงไปในขั้นตอนตีแป้ง นำแป้งที่ได้มาเทใส่ถาดอบเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 45 นาที ก็จะได้ขนมสาลี่กรอบนอกนุ่มใน หวานอร่อย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

สูตร ขนม ผิง ชาววัง ขนมวัยเด็กแสนอร่อย แป้งกรอบ หวาน มัน

ขนม ผิง

ขนมหวานชาววังมีหลากหลายเมนูที่หลายคนเคยเห็น และมีขายในตลาดนัดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่ยังมีอีกหนึ่งขนมโบราณที่บางคนไม่เคยรู้จักมาก่อนอย่าง ขนม ผิง เป็นขนม ไทยที่มีขายตามหมู่บ้านต่างๆ โดยเด็กๆ สมัยก่อนนิยมทานกันมากที่สุด เนื่องจากเป็นขนมที่มีกลิ่นหอม รสชาติหวานกำลังดี และเนื้อแป้งกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน เคี้ยวมันสุดๆ แถมยังทานเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อทานได้ทั้งวัน ดังนั้นวันนี้เราจะพามาย้อนวัยเด็กกันบ้างด้วยการทำขนม ผิง โบราณทานเองง่ายๆ และทำขายได้ด้วย

วิธีทำขนมวัยเด็ก ขนม ผิง ขนมโบราณ ก้อนกลม กรุบกรอบ อย่างง่าย 

ขนม ผิง

ขนมผิง ก้อนกลมขนาดเล็ก แป้งแห้งกรอบ รสหวาน หอมกลิ่นนมแมวอ่อนๆ ผสมผสานกับกลิ่นกะทิกำลังดี ทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ สำหรับขนมชนิดนี้กำลังจะหาทานยาก และไม่ค่อยขายกันแล้ว ดังนั้น เราจะมาทำขนมผิงทานเองจะได้ไม่ต้องตะเวนหาซื้อให้เสียเวลา แถมยังได้ทานหลายชิ้นอีกด้วย ส่วนสูตร ขนม ผิง แป้งกรอบทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก และประหยัดเวลาอีกด้วย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ขนม ผิง
  1. แป้งมัน 1 ½ ถ้วยตวง
  2. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
  4. กลิ่นนมแมว 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กะทิ 1 ถ้วยตวง

ขนมผิง เป็นขนมชาววังที่ใช้วัตถุดิบในการทำน้อยมาก แถมไม่ต้องมีอุปกรณ์มากมายอีกด้วย สำหรับขนมผิงสูตรดั้งเดิมจะมีกลิ่นนมแมวอ่อนๆ แต่หากไม่สามารถหากลิ่นนมแมวได้ให้ใช้กลิ่นวานิลลาแทนได้เช่นกัน ในลำดับขั้นตอนถัดไปจะเป็นวิธี ทำ ขนม ผิงอย่างง่าย มีดังต่อไปนี้

ขนม ผิง
  1. นำกะทิ น้ำตาลทราย เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดให้ละลายเข้ากัน ต่อมาให้น้ำหม้อมาตั้งเตา ใช้ไฟปานกลางไปถึงอ่อน เทน้ำกะทิที่ผสมน้ำตาลลงไป ทำการคนเรื่อยๆ จนกว่าน้ำกะทิจะข้นหนืด เสร็จแล้วยกหม้อมาพักไว้ให้เย็น
  2. นำแป้งมาร่อนผ่านกระชอน เพื่อไม่ให้แป้งจับกันเป็นก้อน จากนั้นเติมนมแมวลงไปในน้ำกะทิ คนให้เข้ากัน ตามด้วยไข่ไก่ตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นเทลงไปในน้ำกะทิ ใส่แป้งมันที่เตรียมไว้ลงไป ใช้มือนวดให้แป้งเข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้ก่อน 
  3. เตรียมถาดสำหรับ นำกระดาษไขมาวางบนถาด เสร็จแล้วนำแป้งมาปั้นเป็นก้อนเล็กๆ วางเรียงบนถาดอบ จากนั้นนำไปเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน ล่าง ใช้เวลา 15 นาที เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น พร้อมทานได้เลย
ขนม ผิงขนม ผิง

เมื่อได้ขนม ผิงรสชาติหวานละมุน มันอร่อย ก้อนกลมสุดน่ารักแล้ว ให้นำมาใส่จาน หรือหากทำในปริมาณมากๆ สามารถเก็บขนมไว้ในขวดโหลแก้ว หรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องจะสามารถอยู่ได้นานเป็นเดือนเลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังตามหาสูตร ขนม ไทยทำง่ายๆ แนะนำขนมผิงทำง่าย และอร่อยด้วย

แจกเทคนิคง่ายๆ ทำขนม ผิงให้อร่อย ฉบับชาววัง แป้งกรอบนาน หอมละมุน 

ขนม ผิง

วันนี้เราจะมาแจกเคล็บลับการทำขนม ผิงให้อร่อยฉบับขนมไทย ทำเองง่ายๆ โดยในขั้นตอนการเคี่ยวน้ำกะทิที่ผสมน้ำตาลจะต้องใช้ไฟอ่อนๆ และคนไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำกะทิจะข้นหนืด โดยห้ามไม่ให้น้ำกะทิไหม้ เพราะจะทำให้ขนมมีรสขมไม่อร่อย นอกจากนี้ในการนวดแป้งจะต้องนวดจนกว่าส่วนผสมทั้งหมดจะเข้ากัน และเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อนำแป้งมาปั้นจะได้เนื้อแป้งที่เนียนละเอียด หลังจากนั้นนำเข้าเตาอบให้แป้งสุกจะได้ขนมผิงที่หอมละมุน และเนื้อแป้งเบากรุบกรอบ รสชาติหวานนุ่มลิ้น พร้อมละลายในปาก และที่สำคัญหากได้ลองทานขนมสักชิ้นจะไม่สามารถหยุดทานได้เลย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

สูตร ขนม ไข่นกกระทา กรอบนอกนุ่มใน ก้อนกลม สีสันสวยงาม

ขนม ไข่นกกระทา

มีหลายคนชอบทานขนมทอดเป็นชีวิตจิตใจ เพราะขนมทอดจะมีความกรอบนอกนุ่มใน หอมอร่อย และเรามีหนึ่งขนมที่อยากให้ลองทานอย่าง ขนม ไข่นกกระทา หรือขนมไข่เต่าที่เราเรียกมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ และมักจะซื้อทานหลังเลิกเรียนเป็นประจำ สำหรับขนมทอดไข่นกกระทาขายตามตลาดนัดตอนเย็น หรือถนนคนเดิน ซึ่งคนมักจะซื้อทานกันเยอะมากๆ เพราะมีรสชาติหวานน้อย หอมอร่อย แถมยังมีเนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มในอีกด้วย เรียกได้ว่าขนมไข่นกกระทาทอด เป็นเมนูขนมไทยโบราณที่ขายดีมากเลยทีเดียว

ขั้นตอนการทำ ขนม ไข่นกกระทา กรุบกรอบ หวานอร่อยกำลังดี 

ขนม ไข่นกกระทา

วันนี้เราจะมาแชร์สูตรขนม ไข่นกกระทาทอดโบราณให้ทุกคนได้ติดตาม โดยวิธีทำขนมไข่นกกระทาง่ายนิดเดียวสามารถทำขายสร้างกำไรสร้างอาชีพที่น่าสนใจเลยทีเดียว นอกจากนี้ขนมชนิดนี้ยังเป็นขนมที่เด็กๆ ชอบทานมากอีกด้วย เพราะรสชาติของขนมมีความหวานละมุน แถมยังกรอบนอกนุ่มในอร่อยฟินทุกคำ แต่ก่อนที่ลงมือทำขนมเรามาเตรียมส่วนผสมกันก่อนเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่เป็นแป้งสีม่วง

  1. แป้งมัน 200 กรัม
  2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
  3. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  4. มันม่วง 300 กรัม
  5. กะทิ 50 กรัม
ขนม ไข่นกกระทา

วัตถุดิบ และส่วนผสมแป้งสีส้ม

  1. แครอท 300 กรัม
  2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
  3. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  4. กะทิ 50 กรัม
  5. แป้งมัน 200 กรัม

ขนม ไข่นกกระทาที่เราจะทำนั้นจะมีสองสีคือ สีม่วง และสีส้ม สำหรับใครที่อยากทำมากกว่า 2 สีสามารถเพิ่มสีได้ตามใจชอบ หลังจากที่ได้วัตถุดิบทุกอย่างครบแล้ว ต่อมาจะเข้ากระบวนการทำไข่นกกระทา โบราณดังนี้

ขนม ไข่นกกระทา
  1. มาเริ่มทำแป้งกันก่อนเลย ขั้นตอนแรกให้นำมันม่วงที่ปอกเปลือกทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว มานึ่งให้สุกประมาณ 20-30 นาที เมื่อได้มันสุกแล้วให้นำออกมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้จากนั้นบดให้ลเอียด ตามด้วยแป้งมัน น้ำตาลทราย กะทิ และเกลือ ใช้มือนวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นค่อยๆ เทกะทิลงไปนวดส่วนผสมให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม โดยแป้งจะต้องไม่แตกออกจากัน จากนั้นนำมาเรียงใส่ถาดคุมด้วยผ้าขาวบาง
  2. ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการเตรียมแป้งสีส้ม โดยนำแครอทที่เตรียมไว้มาหั่นเป็นท่อนๆ แล้วนำไปนึ่งให้สุกใช้เวลาประมาณ 30 นาที เมื่อกำหนดเวลาแล้วให้นำแครอทออกมาใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นทำการบดให้ละเอียด เทแป้งมันลงไปผสมให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลทราย กะทิ และเกลือ ค่อยๆ นวดส่วนผสมทั้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำมาเรียงใส่ถาด และคลุมด้วยผ้าขาวบาง
  3. เตรียมทอดขนมด้วยการนำกระทะมาตั้งเตา เทน้ำมันพืชลงไปใช้ไฟปานกลางสักค่อยลดไฟลง ใส่ใบเตยลงไปทอด จากนั้นใส่แป้งไข่นกกระทาที่เตรียมไว้ลงไป รอให้ผิวขนมสุกเล็กน้อยแล้วค่อยตักออกมาพักให่สะเด็ดน้ำมัน
ขนม ไข่นกกระทา

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีทำขนม ไข่นกกระทาทอดกรอบ ซึ่งบอกเลยว่าทำไม่ยากอย่างที่คิด และที่สำคัญรสชาติหอมละมุน กรอบอร่อยจนต้องทำทานอีกรอบเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจอยากลองทำขนมไทย ง่ายๆ แนะนำขนมไข่นกกระทาทอดกรอบโฮมเมคทำทานเองอร่อยชัวร์ 

นำเสนอ ขนม ไข่นกกระทา สูตรไส้ชีส หอมอร่อย ชีสเข้มข้น

ขนม ไข่นกกระทา

ขนม ไข่นกกระทาเป็นขนมไทยที่สามารถทำได้หลากหลายสูตร และหนึ่งในนั้นก็คือ ไข่นกกระทาชีส โดยสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงใช้สูตรเดียวกับที่เรานำมาแชร์ไว้ข้างต้น จากนั้นนำแป้งที่เตรียมไว้มาห่อด้วยชีสแล้วนำไปทอดให้แป้งด้านนอกกรอบพอดี แล้วนำมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน พร้อมทานได้เลย สำหรับใครที่อยากทานไข่นกกระทาจริงๆ ขอแนะนำไข่นกกระทาทอดครกรสชาติแสนอร่อย แถมมีประโยชน์ต่อร่างกายเพียบ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

ขนมหวานสุดฮิต ขนมชั้นใบเตย หอมหวาน นุ่มละมุนลิ้น

ขนมชั้นใบเตย

มาเอาใจสายขนมชั้นกันบ้างกับ ขนมชั้นใบเตย รสชาติหวานฉ่ำ หอมอบอวลด้วยกลิ่นกะทิละมุนละไมทานแล้วชื่นใจสุดๆ เหมาะสำหรับเมนูขนมหวานทานคลายร้อนในช่วงสภาพอากาศร้อนๆ ในบ้านเราเลยทีเดียว และแน่นอนวันนี้เราก็จะไม่พลาดเอาสูตรขนมชั้นใบเตย และวิธีทำขนมชั้น ใบเตย ง่ายๆมาฝากทุกคนให้ได้ลองทำทานกันในครอบครัว หรือจะลองทำขายในช่วงวันว่างๆ รับรองว่าขายดีแน่นอน

เปิดครัวขนมหวานชวนทำ ขนมชั้นใบเตย แป้งเหนียวนุ่ม ทำง่าย อร่อยด้วย

ขนมชั้นใบเตย

ขนมชั้น ใบเตย เป็นขนมไทยโบราณที่ได้รับความนิยมมากๆ แถมยังสามารถหาทานได้ง่าย เพียงแค่ไปเดินตลาดนัดใกล้บ้านก็สามารถหาซื้อขนมไทยอย่างขนมชั้นทานได้แล้ว แต่ถ้าใครไม่อยากออกไปเดินตลาด หรือไม่มีเวลาไปเดินซื้อขนมทาน วันนี้เรามีสูตรขนมชั้นทำเองอย่างง่ายๆ แต่รสชาติหวานหอมตามฉบับของหวานไทยมาให้ได้ติดตาม เผื่อเอาไว้ทำทานในช่วงวันหยุดยาวนี้ ว่าแต่วัตถุดิบที่ต้องใช้ทำขนมมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

ขนมชั้นใบเตย
  1. แป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง
  2. แป้งมัน 1 ½ ถ้วยตวง
  3. แป้งท้าวยายม่อม ½ ถ้วยตวง
  4. น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
  6. หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
  7. แป้งข้าวเจ้า ½ ถ้วยตวง

ขนมชั้นใบเตยเป็นขนมที่มีวัตถุดิบที่ต้องใช้แป้งเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งแป้งที่ใช้ทำขนมสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายขนมทั่วไป และวัตถุดิบที่เป็นน้ำลอยดอกมะลิหากที่บ้านไม่มีก็สามารถไม่ใส่ก็ได้เช่นกัน และในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีทำขนมไทย ง่ายๆ ตามสูตรชาววังดังนี้

ขนมชั้นใบเตย
  1. ขั้นตอนแรก นำแป้งข้าวโพด แป้งข้าวเจ้า และแป้งท้าวยายม่อม มาเทลงในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ก่อน 
  2. ต่อมาเตรียมน้ำเชื่อม ด้วยการนำน้ำตาลทรายเทใส่ในหม้อ ตามด้วยน้ำลอยดอกมะลิ นำไปตั้งเตา เปิดไฟอ่อนๆ คนให้เข้ากัน หลังจากที่น้ำตาลละลายเรียบร้อยดีแล้วให้ยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็นลง
  3. หลัวจากที่น้ำเชื่อมเย็นแล้ว ให้นำน้ำกะทิเทลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่แป้งแล้วใช้มือขยำให้แป้งเข้ากันดี โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที นำแป้งมากรองด้วยกระชอน เพื่อให้แป้งมีเนื้อเนียน เสร็จแล้วแบ่งแป้งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนที่หนึ่งไม่ต้องใส่ผสม และอีกหนึ่งส่วนให้ใส่น้ำใบเตยที่เตรียมไว้ 
  4. นำหม้อนึ่งใส่น้ำ นำไปตั้งเตา เปิดไฟปานกลาง นำถาดไปวางบนหม้อนึ่ง เทแป้งที่เป็นสีเขียวลงไปในถาด ความหนาประมาณ 2 มิลลิเมตร นึ่งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นเทแป้งสีขาวลงไปประมาณ 2 มิลลิเมตร นึ่งประมาณ 5 นาที ทำสลับกันไปเรื่อยๆ ให้ได้ประม๊ณ 9 ชั้น เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 
ขนมชั้นใบเตย

หลังจากที่นึ่งขนมชั้นใบเตยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ยกออกจากเตามาพักไว้ให้เย็น จากนั้นใช้มีดตัดขนมเป็นรูปสี่เหลี่ยมเท่าๆ กัน นำมาจัดวางใส่จานพร้อมทานได้เลย โดยรสชาติของขนมที่ทำเสร็จแล้วจะมีความหวานละมุน หอมกลิ่นกะทิสด และเนื้อแป้งนุ่มละมุนอร่อยแบบชาววังเลยทีเดียว แถมวิธีทำของหวานง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องใช้เวลานานก็ได้ขนมอร่อยๆ ทานได้ทั้งครอบครัว

เผยสูตรลับ ขนมชั้นใบเตยชาววัง แป้งเหนียวนุ่ม หนึบหนับ หวานชื่นใจ

ขนมชั้นใบเตย

ถ้าอยากทำขนมชั้นใบเตยด้วยตัวเองให้อร่อยตามฉบับเมนูของหวานไทยง่ายๆ ในขั้นตอนการนึ่งแป้งต้องเช็คแป้งในแต่ชั้นที่เทลงไปว่าสุกดีแล้วหรือยัง เพื่อให้แป้งขนมแยกเป็นชั้นอย่างชัดเจน และอย่าลืมเช็ดน้ำที่เกาะบนฝาหม้อนึ่งด้วย เพราะน้ำที่เกาะบนฝาหม้อนึ่งจะตกลงไปโดนแป้งทำให้แป้งผิวหน้าไม่เรียบได้ หลังจากที่แป้งชั้นบนสุกแล้วค่อยเทแป้งลงไปทับอีกชั้น ทำต่อไปจนครบ 9 ชั้น สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูของหวานไทยสูตรขนมชั้นสีน้ำงินก็สามารถเปลี่ยนจากใบเตยเป็นดอกอัญชันได้ตามใจชอบ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

เปิดสูตรลองทำขนม ถั่วแปบ โบราณ หวาน หนึบหนับ หอมกลิ่นงาคั่ว

ถั่วแปบ

ขนม ถั่วแปบ เป็นขนมโบราณที่มักจะมีขายในตลาดนัดแถวบ้าน โดยแม่ค้าจะทำเป็นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ โรยด้วยน้ำตาล ถั่วทอง และงาคั่วหอมๆ ตามด้วยมะพร้าวขูดที่มาพร้อมกับความหอม มัน และหวาน เค็มเล็กน้อย และหากได้ลองทานขนมถั่วแปบสดสักชิ้นต้องมีชิ้นที่สองตามมาแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งขนมที่มีเนื้อสัมผัสที่หลากหลายรสชาติในชิ้นเดียว และไม่มีขนมชนิดเหมือนอีกด้วย นอกจากนี้วิธีทำขนมถั่วแปบก็ง่ายมากๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และใช้อุปกรณ์การทำขนมเพียงน้อยนิด หากใครอยากลองทำทานเอง เราก็มีสูตรถั่ว แปบโบราณง่ายๆ มาให้ลองทำด้วยนะ

วิธีทำขนม ถั่วแปบ ชาววัง แป้งนุ่ม หวานฉ่ำ อย่างง่าย ไม่ยุ่งยาก 

ถั่วแปบ

หากพูดถึงขนมถั่วแปบคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นของหวานไทยโบราณที่มีมาตั้งสมัยอดีต และยังเป็นขนมที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน แต่จะมีขายเป็นบางพื้นที่เท่านั้น สำหรับใครที่ชอบทานขนมชนิดนี้ และอยากจะลองทำทานเองสักครั้ง วันนี้เรามีสูตรขนมหวานโบราณมานำเสนอให้สายขนมหวานได้ลองทำตามง่ายๆ อย่างสูตรถั่วแปบโบราณหลากสีขนมไทยที่หาทานง่าย รสชาติหวานอร่อยตามฉบับชาววัง และวิธีทำก็สามารถทำได้ง่ายเช่นกัน 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ถั่วแปบ
  1. แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
  2. ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 300 กรัม
  3. มะพร้าวทึนทึก 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำอัญชันเข้มข้น 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำใบเตยเข้มข้น 1 ถ้วยตวง
  6. น้ำกระเจี๊ยบเข้มข้น 1 ถ้วยตวง
  7. งาขาวคั่ว ½ ถ้วยตวง
  8. น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
  9. น้ำใบเตย 1 ถ้วยตวง
  10. เกลือ ½ ช้อนชา

สำหรับวัตถุดิบที่เตรียมทำขนมถั่วแปบจะใช้สีสันจากธรรมชาติอย่าง ดอกกระเจี๊ยบ ดอกอัญชัน และใบเตย เป็นต้น สำหรับใครที่อยากได้สีอื่นก็สามารถเลือกใช้วัตถุดิบชนิดอื่นๆ ได้ตามใจชอบ ในส่วนของวิธีทำขนมไทย ง่ายๆ ทำตามได้ไม่ยาก 

ถั่วแปบ
  1. มาเริ่มกันที่นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาล้างทำความสะอาด จากนั้นแช่น้ำไว้ประมาณ 5 ชั่วโมง จากนั้นนำมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เตรียมหม้อนึ่งถั่วด้วยไฟปานแรงประมาณ 20 นาที 
  2. ในระหว่างที่รอถั่วเขียวสุก ให้นำมพะพร้าวทึนทึกมาขูดเป็นฝอย คลุกเค้าด้วยเกลือ นำไปนึ่งให้สุกประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้นำมาใส่ถาดพักไว้ทั้งถั่วเขียว และมะพร้าวทึนทึก
  3. ต่อมาจะเป็นขั้นตอนต้มแป้งข้าวเหนียว โดยทำการแบ่งออกเป็น 3 ส่วน เท่าๆ กัน จากนั้นใส่สีธรรมชาติที่เตรียมไว้ลงไปในแป้งแต่ละถ้วย จากนั้นนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. นำแป้งที่นวดเสร็จแล้วมาปั้นเป็นแผ่นทรงรีขนาดประมาณ 3-4 นิ้ว นำไปต้มในน้ำเดือด จากนั้นรอจนแป้งลอยขึ้นมาแล้วตักออก นำไปคลุกเคล้ากับถั่วเขียว และมะพร้าวทึนทึกที่เตรียมไว้ โรยด้วยงาคั่ว และน้ำตาล เป็นเสร็จเรียบร้อย
ถั่วแปบ

ขนมถั่วแปบโบราณที่ทำเสร็จแล้วจะมีสัสันสดใส และรสชาติหวาน เหนียวหนึบหนับ ตามสูตรขนมถั่วแปบชาววังที่เคยทานตามร้านขายขนมทั่วไป นอกจากนี้ขนมไทยโบราณที่ทำเองจะมีความหอมของกลิ่นมะพร้าวได้ดีกว่าที่เราซื้อทาน เรียกได้ว่าถั่วแปบ คือ ขนมที่ทำง่าย และรสชาติอร่อย หากได้ทานแล้วจะติดใจจนไม่สามารถหยุดทานเลยทีเดียว

แหล่งรวมเคล็ดลับการทำขนมถั่วแปบ แป้งนุ่มฟู ให้อร่อย ฟินทุกคำ

ถั่วแปบ

ขนมถั่วแปบ ถือว่าเป็นเมนูของหวานไทยที่สามารถนำไปเป็นของฝาก หรือนำไปถวายพระได้ด้วย แต่การทำขนมให้อร่อยจะต้องมีเทคนิคง่ายๆ เลยก็คือ ในขั้นตอนทำของหวานง่ายๆ ควรล้างถั่วให้สะอาด และแช่ในน้ำร้อนประมาณ 2 ชั่วโมง จะทำให้ถั่วไม่เหม็นเขียว อีกทั้งควรนำงาไปคั่วก่อนจะทำให้งาหอมมากขึ้น เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมถั่วแปบแสนอร่อย หนึ่งในเมนูของหวานไทยง่ายๆ ทำได้เองโดยไม่ต้องเรียนทำขนมให้เสียเวลาอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ: