สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมเบเกอรี่

บลูเบอรี่ชีสพาย เมนูเบเกอรี่ ที่สามารถทำทานเองได้แบบง่าย ๆ

บลูเบอรี่ชีสพาย

สวัสดีค่ะทุก ๆ ท่านนนน อากาศร้อนขนาดนี้ไม่รู้จะหาขนมอะไรมาทานให้คลายร้อนดีใช่ไหมคะ แถมยังต้องอยู่บ้านไม่ได้ออกไปช็อปปิ้ง หาคาเฟ่นั่งแบบเมื่อก่อน ไม่เป็นไรนะคะ วันนี้เราเตรียมเบเกอรี่ชนิดหนึ่งที่ยอดนิยมเอามาก ๆ ได้แก่เมนู บลูเบอรี่ชีสพาย เป็นเมนูจัดว่าในคาเฟ่หรือร้านกาแฟแทบทุกร้านต้องมี เราเลยเตรียมส่วนผสมและวิธีทำมาฝากกัน ไปติดตามชมกันได้เลยจ้า

ส่วนผสมขนม บลูเบอรรี่ชีสพาย

1. บลูเบอรี่กระป๋อง 1 กระป๋อง

2. แครกเกอร์กรอบ 1 ห่อ

3. คุกกี้เนย 1 ห่อเล็ก

4. เนยจืด 1 ก้อน

5. ครีมชีส 1 ห่อ

6. โยเกิร์ตรสธรรมชา 1 ถ้วย

7. นมข้นหวาน 1 ถ้วยตวง

8. มะนาว 1 ลูก

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 นำแครกเกอร์และคุกกี้ที่เตรียมไว้มาทุบให้ละเอียด ไม่เป็นชิ้น จากนั้นนำไปเทใส่ชามผสม

ขั้นตอนที่ 2 นำเนยจืดไปละลายในไมโครเวฟให้เป็นน้ำ แล้วนำมาใส่ชามผสมที่บนแครกเกอร์กับคุกกี้ไว้ คนให้เข้ากันดี

ขั้นตอนที่ 3 นำแครกเกอร์ที่ผสมรวมกับเนยแล้วกรุลงในถาด นำเข้าเตาอบ 15 นาที หรือจนกว่าเเครกเกอร์จะสุกดี

ขั้นตอนที่ 4 นำครีมชีสที่เตรียมไว้มาหั่นเป็นชิ้น ๆ เพื่อง่ายต่อการตี จากนั้นเทนมข้นหว่าลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ตีครีมชีสให้เข้ากับนมข้น ใส่มะนาวลงไป 1 ซีก ตีครีมชีสต่อพร้อมกับใส่นมข้นหวานอีก 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนที่ 5 ใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติลงไปในชามผสม ตีให้เข้ากันอีกครั้งจนเนื้อเนียนได้ที่

ขั้นตอนที่ 6 นำครีมชีสมาตักใส่ฐานแครกเกอร์ที่อบแล้ว ปริมาณตามชอบ นำเข้าตูเย็นเพื่อให้ครีมชีสเซ็ทตัว

ขั้นตอนที่ 7 ผ่านไป 15 นาที นำตัวขนมออกมา จากนั้นตักบลูเบอี่ใส่บนครีมชีส ตามชอบอีกเช่นเคย พร้อมเสิร์ฟกับเมนู บลูเบอรี่ชีสพาย

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่อบกรุบกรอบที่ขึ้นชื่ออย่างมากตามร้านกาแฟอย่าง บลูเบอรรี่ชีสพาย ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ วันไหนไปเดินเล่นที่ Tops ก็สามารถหาซื้อวัตถุดิบได้ครบทุกชิดเลย เพื่อน ๆ ลองลงมือทำดูนะคะอล้วจะรู้ว่าง่ายมาก เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือ การตีครีมชีสกับส่วนผสมอื่น ๆ ให้เข้ากันเป็นอย่างดี ไม่ให้มีส่วนใดเป็นก้อนนะจ๊ะ

Categories
อาหารนานาชาติ

เมนู มักกะโรนีอบชีส อาหารยอดนิยมของคนไทยที่ทำกินได้ที่บ้าน

มักกะโรนีอบชีส

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน การได้ทำอาหารอยู่ที่บ้านนับว่าเป็นการผ่อนคลายร่างกายอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารหรือการทำขนมก็สามารถนับว่าเป็นการพักผ่อนได้เช่นเดียวกัน วันนี้เราก็คงมีอาหารน่าสนใจวิธีทำง่าย ๆ มาฝากทุกคนอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ มักกะโรนีอบชีส นั่นเอง

       มักกะโรนี ได้รับการพัฒนามาจากเส้นก๋วยเตี๋ยวของประเทศจีน ซึ่งมักกะโรนีนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชนิดพาสต้า เมื่อทางยุโรปได้ชิมเส้นก๋วยเตี๋ยวของจีนจึงนำมาพัฒนาเป็นเส้นพาสต้าหลากหลายชนิดซึ่งชนิดที่ยอดนิยมมากที่สุดได้แก่ เส้นสปาเก็ตตี้ โดยยส่วนประกอบหลักของเส้นแต่ละชนิดประกอบไปด้วยแป้งสาลี น้ำ และไข่ ซึ่งส่วนมากเส้นจำพวกนี้ต้องมาประกอบอาหารทานคู่กับซอสอย่างใดอย่างหนึ่ง

ส่วนผสม/เครื่องปรุง เมนู มักกะโรนีอบชีส

1. มักกะโรนี 300 กรัม

2. สะโพกไก่ 1/2 กิโลกรัม

3. พาสต้าซอส 1 กระป๋อง

4. ผักสามสี 200 กรัม

5. โรสแมรี 3 ก้าน

6. ชีส 100 กรัม

7. เกลือ 1 ช้อนชา

8. พริกไทย 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำ สะโพกไก่ ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาดจากนั้นนำไปโรยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย

2. ตั้งกระทะด้วยไฟกลางนำสะโพกไก่ลงไปจี่พอให้เปลี่ยนสีเล็กน้อย

3. นำพาสต้าซอสเทลงไปในกระทะที่มีน้ำมันจี่สะโพกไก่แล้วตามด้วยผักสามสีผัดจนเข้ากัน

4. นำมักกะโรนีไปต้มน้ำประมาณ 10 นาที ใส่น้ำมันพืชและเกลือเล็กน้อย

5. นำเส้นที่สุกแล้วมาวางใส่จานราดด้วยซอสพาสต้าที่มีผักสามสีลงไปบนเส้นมักกะโรนีวางทับด้วยไก่จากนั้นให้โปะชีสที่ด้านบนแล้วนำเข้าไปอบจนชีสละลายนำออกมาตกแต่งด้วยโรสแมรี เสร็จแล้วจ้ากับ เมนูมักกะโรนีอบชีส

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ

       กับเมนูสไตล์ยุโรปยอดฮิตอย่าง มักกะโรนีอบชีส ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลียนสามารถลองเข้าครัวฝึกฝีมือทำเมนูนี้ได้ไม่ยากเลย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือ การลวกเส้นมักกะโรนีที่ต้องใส่น้ำมันลงไปก็เพื่อให้เส้นที่ลวกแล้วไม่ติดกันเป็นก้อนนะจ๊ะ 

Categories
ขนมหวานไทย

เมนู ตะโก้เผือก ขนมไทยโบราณยอดฮิต ที่ทำทานได้ง่าย ๆ ที่บ้าน

ตะโก้เผือก

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน การทำอาหารอยู่ในครัวในช่วงเวลาว่างนับว่าเป็นการพัฒนาฝีมือทางด้านการเข้าครัวอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านอาหารคาวหรืออาหารหวานก็ถือว่าเป็นสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่การที่ได้ทำขนมนั้นนับว่าเป็นทั้งการพัฒนาและเสริมสร้างความคิดคู่กับจินตนาการไปพร้อม ๆ กัน วันนี้เราก็เตรียมสูตรขนมไทยเด็ด ๆ มาฝากทุกคนอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ ตะโก้เผือก นั่นเองจ้า

       ขนมตะโก้ เป็นขนมไทยโบราณที่มีส่วนผสมหลักเป็นกะทิและน้ำตาลทราย โดยที่ตัวของขนมนั้นจะประกอบไปด้วย 2 วัตถุดิบที่กล่าวถึงไปแล้ว ส่วนหน้าของขนมจะทำด้วยกะทิเป็นหลัก ตัวของขนมนั้นสามารถเพิ่มวัตถุดิบอื่น ๆ อย่าง เผือก ข้าวโพด สีธรรมชาติต่าง ๆ ลงไปเพื่อเพิ่มความสวยงามได้

ส่วนผสมขนม ตะโก้เผือก

1. เผือกหั่นเต๋า 1 ถ้วยตวง

2. เเป้งมัน 1/3 ถ้วยตวง

3. แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง

4. แป้งข้าวโพด 1/3 ถ้วยตวง

5. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง

6. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง

7. หางกะทิ 1 ถ้วยตวง

8. น้ำเปล่าสะอาด 1 ลิตร

9. เกลือ  1 ช้อนโต๊ะ

10. กระทงจากใบเตย

วิธีทำ

1. นำเผือกที่เตียมไว้ไปล้างน้ำจนสะอาดดี นำเผือกไปนึ่งด้วยไฟกลางจนสุก

2. ขั้นตอนการเตรียมแป้งคือ นำหม้อไปตั้งไฟอ่อนจากนั้นใส่ แป้งข้าวเจ้า น้ำเปล่า และแป้งมัน คนจนแป้งเริ่มละลาย ให้ใส้น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้งจนเนื้อแป้งเริ่มใส

3. นำเผือกที่สุกแล้วมาเทใส่ในแป้งกวนจนเผือกเข้าไปทั่วทุกพื้นที่ จากนั้นตักแป้งใส่ลงไปในกระทงใส่จนเต็ม

4. ขั้นตอนการเตรียมหน้าขนม นำหัวกะทิ เกลือ หางกะทิ น้ำตาล แป้งมัน และแป้งข้าวโพดผสมให้ละลายจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปอังไฟแล้วกวนจนกะทิเหนียวข้นขึ้น

5. ราดกะทิที่ข้นแล้วลงบนตัวขนม พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้ากับเมนู ตะโก้เผือก

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูขนมไทยโบราณหายากอย่าง ตะโก้เผือก เมนูนี้วิธีทำง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะทุกคน ใครที่กำลังอยากทานแต่เบื่อต่อคิวซื้อหรือใครที่กำลังอยากฝึกฝีมือทางด้านในครัวนับว่าเมนูนี้น่าสนใจที่จะนำไปลองทำมากเลยทีเดียว เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการทำกะทิราดด้านบน ต้องผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดีก่อนจึงจะนำขึ้นไปกวนได้นะจ๊ะ

Categories
อาหารสุขภาพ

บะหมี่เกี๊ยวน้ำอกไก่ เมนูคลีน ๆ สำหรับคนรักสุขภาพ

บะหมี่เกี๊ยวน้ำอกไก่

สวัสดีค่ะทุก ๆ ท่านนนนน ใครรักสุขภาพยกมือขึ้น ทุกคนล้วนรักสุขภาพเหมือนกันหมดใช่ไหมคะ อาหารตามท้องตลาดในปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยไขมัน น้ำตาล และอีกมากมาย วันนี้เราเลยจัดเตรียมเมนูสำหรับคนรักสุขภาพมากฝาก เมนูนี้ก็คือ บะหมี่เกี๊ยวน้ำอกไก่ อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าเมนูนี้จะทำง่ายแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู บะหมี่เกี๊ยวน้ำอกไก่

1. อกไก่ 1/2 ชิ้น

2. ผักกวางตุ้ง 3 ต้น

3. แผ่นเกี๊ยว 10 แผ่น

4. บะหมี่ 20 กรัม

5. ต้นหอมผักชี 

6. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ

7. ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ

8. คนอร์ซุปก้อน 1 ก้อน

9. พริกไทย 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำอกไก่ที่เตรียมไว้ไปล้างให้สะอาด จากนั้นนำอกไก่มาสับให้ละเอียด

2. ใส่พริกไทย ซอสปรุงรส น้ำมันหอย ลงในอกไก่สับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

3. นำอกไก่ที่ผสมแล้วมาห่อในแผ่นเกี๋ยว จับจีบให้สวยงาม

4. ตั้งหม้อน้ำ รอจนเดือด จากนั้นนำเกี๊ยวที่ห่อแล้วและบะหมี่ลงไปลวก ลวกเสร็จให้นำไปน็อคในน้ำเย็น

5. หั่นกวางตุ้งให้มีความยาวแบบพอดีคำ นำไปลวกในหม้อ น็อคน้ำเย็นเช่นเดิม

6. ตั้งน้ำใส่หม้อ ใส่คนอร์ก้อนรอจนเดือด ใสซอสปรุงรส น้ำมันหอย พริกไทย ทิ้งไว้จนรสชาติเข้ากันดี

7. นำเกี๊ยว เส้นบะหมี่ ผักกวางตุ้งที่ลวกไว้แล้ว วางใส่ชามจัดให้สวยงาม จากนั้นตักน้ำซุปใส่ถ้วย โรยพริกไทยเล็กน้อย ตามด้วยต้นหอมผักชี เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟกับเมนู บะหมี่เกี๊ยวน้ำอกไก่ 

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูสำหรับคนรักสุขภาพเอามาก ๆ อย่าง บะหมี่เกี๊ยวน้ำอกไก่ ทำง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ อยากให้ทุกคนที่ชอบเข้าครัวหรืออาจจะลองเป็นครั้งแรกได้ลองทำกันนะคะ เมนูนี้ไม่ยากเลยสามารถทำทานได้บ่อยไม่มีเบื่อ เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือการลวกแป้งเกี๊ยวในน้ำเดือด ใช่เวลาประมาณ 3 – 4 นาที หรือจนกว่าแป้งจะใสโดยไม่เละจนเกินไปจะอร่อยเป็นพิเศษนะจ๊ะ

Categories
อาหารนานาชาติ

เมนู ต๊อกโบกี อาหารสไตล์เกาหลี ที่ทำง่ายราคาสบายกระเป๋า

ต๊อกโบกี
ต๊อกโบกี

อันยองฮาเซโยยยยยย กราบสวัสดีคุณผู้ชมทุกท่านจ้าา ประเทศเกาหลีใต้นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอาหารเลิศรสอยู่ทั่วทุกมุม และทุกวันนี้ก็ได้มีอิทธิพลเข้ามาอยู่ทั่วทุกมุมของบ้านเราอีกเช่นกัน ใครที่ชอบทานอาหารเกาหลีก็คงจะปลื้มใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะที่หาซื้อทานได้ง่ายมัก ๆ แต่จะไปหาซื้อทานบ่อยกระเป๋าสตางค์ก็คงจะฉีกไม่เบา วันนี้เราเลยเตรียมสูตรหนึ่งในเมนูพิเศษที่หลายคนคงชอบทาน เมนูนี้ก็คือ ต๊อกโบกี นั่นเองจ้า อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำจะดุเด็ดเผ็ดมันแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยยย

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู ต๊อกโบกี

1. แป้งข้าวเหนียว 400 กรัม

2. แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม 

3. น้ำเปล่า 1 ขวดใหญ่

4. ปลาแห้ง 1/2 ถ้วยตวง

5. สาหร่ายแห้ง 1/2 ถ้วยตวง

6. ซอสถั่วเหลือง 1/4 ถ้วยตวง

7. โคชูจัง 1/3 ถ้วยตวง

8. พริกป่นละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

10. หอมใหญ่ 1 หัว

11. กะหล่ำปลี 1/2 หัว

12. ต้นหอม ตามชอบ

13. มอสซาเรลาชีส ตามชอบ

วิธีทำ

1. เตรียมต๊อกโบกีด้วยการผสมแป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวเจ้าเข้าด้วยกัน ตามด้วยน้ำเปล่า ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปนึ่ง เมื่อนึ่งเสร็จแล้วให้นำไปนวดจนเข้ากัน เอาออกมาตัดให้เป็นแป้งต๊อกในขนาดที่พอคำ

2. ตั้งหม้อน้ำหนึ่งใบ จากนั้นใส่ปลาแห้งและสาหร่ายลงไปต้ม ตามด้วยซอสถั่วเหลือง ตามด้วยแป้งต๊อก และใส่โคชูจัง น้ำตาลทราย พริกป่นตามลงไป

3. เมื่อปรุงรสชาติเรียบร้อยแล้วให้ใส่หอมใหญ่หั่นแว่น กะหล่ำปลีซอยลงไปในหม้อ ตั้งทิ้งไว้จนต๊อกข้นขึ้น

4. ตักใส่ชามวางมอสซาเรลาชีสลงไปเบิร์นด้วยไฟให้ชีสละลาย โรยด้วยต้นหอมซอย เป็นอันเสร็จแล้วจ้า พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ต๊อกโบกี 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารสไตล์เกาหลีที่ไม่ธรรมดาอย่าง ต๊อกโบกี ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ใครที่อยากลองทำให้คนที่บ้านทานหรือชอบมาก ๆ อยากทำทานเองสามารถหาซื้อวัตถุดิบไว้ได้เลยเด้อ เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือ หากใส่แป้งข้าวเจ้ามากเกินไปจะทำให้แป้งนึ่งออกมาแล้วเเข็งนะจ๊ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

เมนู เครปเค้กสายรุ้ง เบเกอรี่ที่ทำทานเองได้ที่บ้าน ไม่ง้อเตาอบ

เครปเค้กสายรุ้ง
เครปเค้กสายรุ้ง

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนนน ใครที่กำลังเริ่มอยากลองทำเบเกอรี่แต่ยังไม่มีเตาอบก็สามารถที่จะลองฝีมือในครัวได้ด้วยนะ ด้วยการลงมือทำขนมตระกูลเค้กที่เรานำมาฝากในวันนี้ ได้แก่เมนู เครปเค้กสายรุ้ง เเค่ทุกคนมีกระทะ เทฟล่อนใบเดียวก็ได้ทานเค้กอร่อย ๆ แล้วจ้า อยากรู้วัตถุดิบและขั้นตอนการทำแล้วใช่ไหมคะ ไปติดตามกันได้เลยยย

ส่วนผสมขนม เครปเค้กสายรุ้ง

1. แป้งเค้ก 330 กรัม

2. นมสด 800 กรัม

3. เนยสด 200 กรัม

4. ไข่ไก่ 10 ฟอง

5. น้ำตาลทราย 300 กรัม

6. วิปปิ้งครีม 500 กรัม

7. สีผสมอาหาร 6 สี

8. สตอเบอร์รี่สดหรือแช่เเข็ง 200 กรัม

9. แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ 

1. นำนมสดที่เตรียมไว้ไปตั้งไฟอ่อน เมื่อเดือดแล้วให้นำลงมาพักไว้

2. นำเนยสดอุณหภูมิห้องไปละลาย เมื่อละลายแล้วให้พักไว้

3. ตอกไข่ใส่ชามผสม คนแค่พอเข้ากัน ไม่ให้ขึ้นฟูเหมือนไข่เจียวน้า จากนั้นใส่น้ำตาลทราย ตีวนจนน้ำตาลละลายดีแล้ว ค่อย ๆ ทยอยใส่แป้งเค้กให้ได้ 3 – 4 รอบ คนจนเข้ากันดี

4. ใส่นมสดที่พักจนเย็นแล้ว ทยอยใส่นะคะ 3 – 4 รอบเช่นเดียวกัน

5. นำเนยละลายที่พักไว้จนเย็นแล้วมาใส่ตามลงไป คนต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

6. นำส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วไปกรองจนเนื้อแป้งละเอียดทั้งหมด ไม่มีส่วนใดติดกับตะแกรง นำไปแช่ตู้เย็น 30 นาที

7. เมื่อครบเวลาตามกำหนด นำแป้งออกมาจากตู้เย็นแล้วตักแบ่งให้ได้ 6 ส่วน ใส่สีผสมอาหารส่วนละ 1 สี คนจนสีละลายดีแล้ว

8. นำกระทะมาตั้งไฟอ่อน ทาเนยสดที่กระทะจนทั่ว นำแป้งสีแรกมาตักใส่กระทะจากนั้นวนเป็นวงกลมจนได้แป้งแผ่นบาง ๆ ทำจนหมด แล้วเริ่มสีใหม่จนครบทุกสี เมื่อทำครบแล้วให้พักแป้งไว้ให้เย็น

9. นำวิปปิ้งครีมมาใส่ชามผสม ตีจนวิปปิ้งครีมตั้งยอดแบบอ่อน ๆ น่าทาน พักไว้ก่อน

10. นำ สตอเบอร์รี่ สดมาปั่นจนละเอียด เทใส่ชามผสม ตามด้วยน้ำตาล คนจนน้ำตาลละลายหมดให้ใส่แป้งข้าวโพดตามลงไป ตั้งไฟอ่อน ๆ คนจนแป้งละลาย

11. เมื่อแป้งเย็นแล้วให้นำแผ่นแรกมาวางปาดด้วยวิปปิ้งครีมตามด้วยแป้งแผ่นที่ 2 ทำแบบนี้ไปจนครบทุกที

12. เตรียมเสิร์ฟโดยการตัดแบ่งเป็น 6 – 8 ชิ้น นำมาวางใส่จาน โรยน้ำตาลไอซิ่ง ราดทับด้วยซอสสตอเบอร์รี่ เสร็จแล้วจ้ากับเมนู เครปเค้กสายรุ้ง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูยอดฮิตอย่าง เครปเค้กสายรุ้ง อย่างที่เราเคยบอกไปด้านบนว่าเมนูนี้ใครที่ไม่มีเตาอบก็สามารถที่จะทำเบเกอรี่ได้ หากใครอยากลองทำทานหรืออยากทำให้คนที่บ้านทานเป็น ของว่าง ก็สามารถเตรียมหาวัตถุดิบได้ตามห้างสรรพสินค้าเลยน้า

Categories
อาหารสุขภาพ

สลัดโรล น้ำสลัดครีมซีฟู้ด เมนูอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ

สลัดโรล น้ำสลัดครีมซีฟู้ด

สวัสดีชาวคลีนทุกท่าน หรือจะไม่คลีนก็กราบสวัสดีทุกท่านด้วยนะคะ มีเราก็ต้องมีเมนูอาหารสุดแสนวิเศษณ์มาฝากแน่นอนอยู่แล้ว ในวันนี้เราเตรียมเมนูเอาใจสายคลีนกันบ้าง เมนูนี้ก็คือสลัดโรลนั่นเองจ้า เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดครีมซีฟู้ดแซ่บ ๆ รับรองได้ทานจะต้องร้อง หืมมมมม อยากทานกันบ่อย ๆ แน่นอน ไปชมกันเลยจ้า

ส่วนผสมเมนูสลัดโรล

1. แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ

2. หมูยอ

3. ปูอัด

4. ทูน่า

5. ไข่กุ้ง

6. น้ำสลัดครีม

7. น้ำจิ้มซีฟู้ด

8. เรดโอ๊คหรือกรีนโอ๊ค

9. แครอท

10. แอปเปิ้ลเขียว

11. แตงกวา

วิธีทำ

1. นำแผ่นปอเปี๊ยะทาน้ำลงไปเล็กน้อย วางผักเรดโอ๊คหรือกรีนโอ๊คตามแนวยาว จากนั้นวางหมูยอ หรือปูอัด หรือทูน่าตามลงไป 

2. หั่นแตงกว่า แครอท แอปเปิ้ลเขียว ออกเป็น 4 ส่วนตามแนวยาว จากนั้นวางทับส่วนผสมลงไปเมื่อเสร็จแล้วให้ตัดครึ่ง ทำจนกว่าจะครบจำนวนตามที่ต้องการ

3. นำน้ำสลัดครีมผสมกับพริกและน้ำในน้ำจิ้มซีฟู้ดเล็กน้อยเพื่อตัดความเลี่ยนเป็นอันเสร็จสำหรับเมนูสลัดโรล

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูสลัดโรล รักสุขภาพพอไหม รับรองได้ว่าทานแล้วไม่มีเบื่อจะร้องทานอีกบ่อย ๆ เมนูนี้เน้นผักมากกว่าแป้ง ทานได้แบบไม่ต้องกลัวอ้อวนนะจ๊ะ เคล็ดลับสำคัญก็คือการเลือกผักต่าง ๆ ผักนั้นต้องสดใหม่ ไม่มีรอยช้ำหรือรอยเหี่ยวแห้ง และก่อนจะนำไปประกอบอาหารก็ต้องล้างให้สะอาดด้วยน้าา

 

Categories
ขนมเบเกอรี่

ช็อคโกแลตลาวา เมนูน่าอัศจรรย์ที่มีให้ทานทุก ๆ ร้านกาแฟ

ช็อคโกแลตลาวา

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ ท่านนนน หลายท่านก็คงชอบทานเมนูช็อคโกแลตไม่น้อยไปกว่าเรา ขนมอะไร ประเภทไหนก็ได้ขอแค่เป็นช็อคโกแลต วันนี้เราเลยเตรียมเมนูเบเกอรี่ที่ทำได้ไม่ยากแล้วก็อร่อยมากเช่นเดียวกัน เมนูนี้ก็คือ ช็อคโกแลตลาวา อยากรู้วิธีทำกันแล้วใช่ไหมคะ ไปติดตามกันได้เลยจ้า

ส่วนผสมขนม ช็อคโกแลตลาวา

1. ดาร์กช็อคโกแลต 200 กรัม

2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย

3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

4. เนยเค็ม 200 กรัม

5. ไข่ไก่ 5 ฟอง

6. เนยขาว 3 ช้อนโต๊ะ

7. น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 3 ช้อนโต๊ะ

8. ไอศกรีมสตอเบอร์รี่ 1 สคูป

วิธีทำ

1. ตั้งน้ำในหม้อจากนั้นนำช็อคโกแลตเทลงบนอ่างผสม คนบนไอร้อนจนละลาย เติมเนยเค็มลงไป คนต่ออีกครั้งจนเนื้อเข้ากันดี พักไว้สักครู่

2. นำไข่ไก่และน้ำตาลทรายเทลงไปในชามผสมอีกใบจากนั้นตีให้ขึ้นฟูด้วยตะกร้อมือ

3. จากนั้นทำการเติมแป้งลงไปทีละนิดจนหมด แล้วจึงเตรียมช็อคโกแลตที่ละลายไว้ลงไป คนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

4. นำถ้วยเซรามิคมาทาเนยขาวและโรยน้ำตาลทรายเล็กน้อย หยอดส่วนผสมที่เนื้อเข้ากันดีแล้วลงไป ประมาณ 3/4 ของถ้วย เคาะจนไม่มีฟองอากาศเหลือ

5. นำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาด้วยเวลาประมาณ 10 นาที

6. เมื่อสุกดีแล้วให้นำพิมพ์ออกมาใส่จาน จากนั้นให้คว่ำพิมพ์ลง ตกแต่งด้วยน้ำตาลไอซ์ซิ่งและไอศกรีม พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ช็อคโกแลตลาวา

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่สุดแสนพิเศษที่มีให้เลือกทานตามร้านกาแฟต่าง ๆ อย่าง ช็อคโกแลตลาวา ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ใครที่ชื่นชอบเมนูนี้หรืออยากลองทำให้คนที่บ้านทานก็สามารถหาวัตถุดิบมาเตรียมไว้ได้เลย ง่ายมาก ๆ เลยน้า เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการโรยน้ำตาลหลังจากทาเลยลงไปบนพิมพ์แล้วจะทำให้เนื้อขนมไม่ติดพิมพ์และเทออกมาอย่างง่ายดายนะจ๊ะ

       

Categories
อาหารสุขภาพ

โจ๊กข้าวกล้องอกไก่สับเห็ดหอม เมนูอาหารคลีนสำหรับคนรักสุขภาพ ทานได้บ่อยโดยไม่อ้วน

โจ๊กข้าวกล้องอกไก่สับเห็ดหอม
โจ๊กข้าวกล้องอกไก่สับเห็ดหอม

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนน ในปัจจุบันนี้คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่หันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพกัน ไม่ใช่แค่กลัวน้ำหนักขึ้น แต่ยังคงกลัวสุขภาพไม่ดีด้วยต่างหาก วันนี้เราเลยเตรียมสูตรอาหารดี ๆ มาฝาก เมนูนี้ก็คือ โจ๊กข้าวกล้องอกไก่สับเห็ดหอม ใครอยากลองทำเมนูนี้ดูไปติดตามวิธีทำกันได้เลยจ้า 

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู โจ๊กข้าวกล้องอกไก่สับเห็ดหอม

1. ข้าวกล้อง 3 ถ้วย

2. อกไก่ 1 ชิ้น

3. น้ำสะอาด 5 ถ้วย

4. ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ

5. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ

6. น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

7. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

8. เห็ดหอม 5 ดอก

9. ไข่ไก่ลวก ( ตามชอบ )

10. ต้นหอมผักชี

วิธีทำ

1. นำข้าวกล้องไปหุงในห้อมข้าว โดยใส่น้ำเปล่า 5 ถ้วย เพื่อให้ข้าวสุกจนกลายเป็นโจ๊ก

2. นำเห็ดหอมที่เตรียมไว้ไปล้างแล้วแช่น้ำทิ้งไว้

3. นำอกไก่ไปล้างแล้วนำไปสับจนละเอียด ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน

4. ตักโจ๊กออกจากหม้อหุงข้าวใส่หม้อ นำเห็ดหอมมาใส่ นำไปตั้งไฟ จากนั้นปั้นอกไก่ให้กลม ใส่ลงไปจนหมด 

5. ปรุงรสชาติด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาล คนให้เข้ากัน

6. ตักโจ๊กใส่ถ้วยโรยพริกไทยป่นและต้นหอมผักชีซอยเล็กน้อย ใส่ไข่ลวกตามลงไป เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟกับเมนู โจ๊กข้าวกล้องอกไก่สับเห็ดหอม

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูสำหรับคนรักสุขภาพอย่างเมนู โจ๊กข้าวกล้องอกไก่สับเห็ดหอม ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ สามารถทำทานได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ต้องกลัวน้ำหนักจะขึ้นเลยจ้า อยากให้ทุกคนได้ลองลงมือทำเมนูนี้ดูน้าง่ายมาก ๆ เลย เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือในช่วงเวลาที่หุงข้าวต้องหมั่นเปิดหม้อคนอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ข้าวจับตัวเป็นก้อนไม่งั้นจะไม่อร่อยนะคะทุกคนนน

Categories
อาหารสุขภาพ

ช็อคโกแลตมูส สูตรไม่อ้วน เมนูรักสุขภาพที่ใคร ๆ ก็ต้องชอบ

ช็อคโกแลตมูส สูตรไม่อ้วน
ช็อคโกแลตมูส สูตรไม่อ้วน

อันยองฮาเซโย ~ สวัสดีจ้าพ่อ แม่ พี่ น้องทั้งหลาย กลับมาพบกับเราอีกเช่นเคย เรายังคงคัดสรรเมนูอาหารดี ๆ เพื่อสุขภาพมากฝาก วันนี้พบกับเมนูช็อคโกแลตมูส สูตรไม่อ้วนนะจ๊ะ อะ งงใช่ไหม เป็นขนมแต่ทำไมทานแล้วไม่อ้วน ถ้าอย่างนั้นไปติดตามกันเลยจ้า

ส่วนผสมเมนูช็อคโกแลตมูส

1. ดาร์กช็อคโกแลต 75 % 30 กรัม

2. อะโวคาโด 2 ลูก

3. ผงโกโก้ 2 ช้อนชา

4. นมจืด 1/2 ถ้วย

5. นมข้นหวานคาร์เนชั่น 0 % 

วิธีทำ

1. นำดาร์กช็อคโกแลต 75 % เข้าไมโคเวฟ 2 – 3 นาทีหรือจนกว่าจะละลายทั้งหมด

2. ล้างลูกอะโวคาโดที่เตรียมไว้ หั่นครึ่งนำเมล็ดออก แล้วนำใส่เครื่องปั่น

3. ใส่ผงโกโก้ นมจืด ดาร์กช็อคโกแลตที่ละลายไว้ตามลงไป ปั่นจนเนื้อเนียนละเอียดส่วนผสมเข้ากันดี

4. ตักมูสช็อคโกแลตที่ได้ใส่ถุงบีบแล้วบีบใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นราดด้วยนมข้นหวาน 0 % เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับเมนูช็อคโกแลตมูส

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ สำหรับเมนูที่เราเตรียมมาวันนี้

       ง่ายใช่ไหมคะ เมนูช็อคโกแลตมูสนี้ไม่ว่าจะทำทานเวลาไหน ก็ถือว่าเป็นของหวานแบบไม่อ้วน สามารถทานได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงทุก ๆ ช่วงวัยด้วยนะ เคล็ดลับสำคัญของเมนูนี้ก็คือการเลือกลูกอะโวคาโด การเลือกนั้นต้องดูด้วยว่าเราจะนำมาใช้วันไหน ถ้าซื้อมาแล้วใช่เลยต้องเลือกลูกที่บีบแล้วนิ่ม แต่ถ้าซื้อมาเก็บไว้ก่อนต้องเลือกลูกที่บีบแล้วค่อนข้างแข็งหน่อยน้าา