กราบสวัสดีทุก ๆ ท่านจ้าาาา หลาย ๆ คนคงจะชอบอาหารที่เป็นเมนูเส้นเช่นเดียวกับเราใช่ไหมคะ แต่ก็ยังคงคิดไม่ออกว่าเย็นนี้จะทำอะไรทานกันดี วันนี้เราเลยเตรียมเมนูเส้น ๆ ผสมผสานนิด ๆ แนวอินเตอร์หน่อย ๆ กับเมนู สปาเก็ตตี้ซอสพริกแกงกุ้งแม่น้ำ ใครที่ชอบเข้าครัวอยู่แล้วเย็นนี้ไปเลือกซื้อส่วยผสมกันได้เลยแก

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู สปาเก็ตตี้ซอสพริกแกงกุ้งแม่น้ำ

1. เส้นสปาเก็ตตี้ 1 กำมือ

2. กุ้งแม่น้ำ 3 ตัว

3. พริกแกงเผ็ด 1/4 ถ้วยตวง

4. น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง

5. เกลือป่น 2 ช้อนชา

6. น้ำเปล่า 1 หม้อ

7. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง

8. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

10. สาหร่ายแห้งหั่นฝอย ( ตามชอบ )

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อน้ำไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชและเกลือเล็กน้อย ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ทั้งหมดลงไป

2. นำกุ้งแม่น้ำแกะเปลือกและหัวออก เหลือเปลือกส่วนหางไว้เล็กน้อย 

3. ตั้งหม้อน้ำอีก 1 หม้อ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ทิ้งน้ำไว้จนเดือดนำกุ้งลวก 30 วินาที

4. ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อยเพื่อนำกุ้งลงไปจี่จนสุกดี ไม่คาว

5. ตั้งกระทะอีกครั้งใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นนำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ตามด้วยใส่หัวกะทิ คนจนเข้ากันดี

6. ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา เคี่ยวจนกลายเป็นซอส ไม่เหลวเป็นน้ำ

7. นำเส้นที่ต้มไว้มาใส่ในจาน วางกุ้งลงไป ตามด้วยซอสที่เตรียมไว้ โรยด้วยสาหร่ายหั่นฝอย พร้อมเสิร์ฟกับเมนู สปาเก็ตตี้ซอสพริกแกงกุ้งแม่น้ำ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูแนวผสมผสานที่มีทั้งความเป็นไทยและต่างชาติไปพร้อม ๆ กัน เมนู สปาเก็ตตี้ซอสพริกแกงกุ้งแม่น้ำ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ อยากให้ทุกคนได้ลองลงมือทำดูน้าง่ายมาก ๆ เลย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการต้มเส้นสปาเก็ตตี้ต้องต้มให้อยู่ในระดับข้างนอกนุ่มแต่ด้านในยังคงกรุบอยู่ โดยใช้เวลาในการต้มประมาณ 7 – 10 นาทีนะจ๊ะ

 

สวัสดีเหล่าพ่อครัว แม่ครัวทั้งหลายจ้า ใครที่ชอบทานเมี่ยงปลาเผาคงจะรู้จักน้ำจิ้มชนิดนี้เป็นอย่างดีและหลาย ๆ คนก็คงชอบทานมันสุด ๆ น้ำจิ้มชนิดนี้คือน้ำจิ้มถั่วตัด รสชาติหวาน เปรี้ยว เผ็ด แซ่บกันให้ถึงทรวงใน น้ำจิ้มชนิดนี้ทำง่ายมาก ๆ ไปติดตามสูตรกันเลยแม่

ส่วนผสม / เครื่องปรุงน้ำจิ้มถั่วตัด

1. ถั่วตัด 2 ห่อ

2. กระเทียม 1 หัว

3. รากผักชี 3 ราก

4. พริกสด 20 เม็ด

5. น้ำปลา

6. น้ำมะนาว

7. น้ำตาลทราย

วิธีทำ

1. หักถั่วตัดที่เตรียมไว้ใส่ครก จากนั้นตำให้ละเอียด ตักออกพักไว้

2. ตำพริกสด รากผักชี และกระเทียมให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ชิมจนรสชาติได้ที่

3. นำถั่วตัดที่พักไว้ไปใส่ในครก คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จกับน้ำจิ้มถั่วตัดแสนอร่อย

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ ง่ายใช่ไหมคะกับสูตรน้ำจิ้มถั่วตัดที่ทานกับเมนูอะไรก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็นเมี่ยงปลาเผา เมี่ยงหมูสามชั้น เมี่ยงอกไก่สำหรับสายเมนูสุขภาพก็ย่อมได้ รับรองว่าสูตรนี้มลใครทำทานก็ติดใจ เคล็ดลับสำคัญของเมนูนี้ไม่มีอะไรมาก นอกจากการปรุงรสชาติให้เข้าที่

 

เมนูที่คุณอาจสนใจ: สูตรข้าวผัดกุ้ง ทำยังไงให้อร่อยเหมือนภัตตาคาร?

 

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

กราบสวัสดีมิตรรักทุกท่านจ้า กลับมาพบกับเราอีกเช่นเคย แน่นอนว่าเรายังคงมีสูตรอาหาร ขนมหวานอร่อย ๆ มาฝากอยู่เสมอ ในวันนี้เราเตรียมเมนูเบเกอรี่ แยมโรลเบอร์รี่มิกซ์ มาฝากกันจ้า ส่วนผสมไม่ได้เยอะแยะอะไร วิธีทำก็ไม่ได้ยาก ไปติดตามกันได้เล้ยย

ส่วนผสมขนม แยมโรลเบอร์รี่มิกซ์

1. แยมมิกซ์เบอร์รี่

2. แป้งเค้ก

3. ไข่ไก่

4. น้ำตาลทราย

5. กลิ่นวนิลลา

6. เนย

7. นม

วิธีทำ

1. เตรียมเตาอบในอุณหภูมิที่ 175 องศา

2. นำเนยไปละลายในไมโครเวฟ

3. นำแป้งเค้กที่เตรียมไว้มาร่อนพักไว้

4. นำไข่ไก่และน้ำตาลทรายที่เตรียมไว้มาตีเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อนวล

5. นำแป้งที่ร่อนไว้แล้วมาผสมกับ ข้อ 4 ตะล่อมให้เข้ากัน กลายเป็นเนื้อครีม

6. ผสมเนย นม และวนิลลาเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปผสมในเนื้อครีมอีกครั้ง คนให้เข้ากัน

7. นำเนื้อเค้กเทใส่พิมพ์ถาดที่เตรียมไว้ เข้าเตาอบ 12 นาที

8. เมื่อเค้กสุกแล้วให้นำกระดาษไขออก ม้วนเป็นโรลหลวม ๆ พักไว้ให้เย็น

9. นำแยมที่เตรียมไว้มาทาลงบนเนื้อเค้กปริมาณตามใจชอบ

10. ม้วนแยมโรลจนเป็นก้นหอย นำเข้าตู้เย็นเพื่อให้เซ็ทตัว

11. ตัดออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟกับเมนู แยมโรลเบอร์รี่มิกซ์

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่ แยมโรลเบอร์รี่มิกซ์ ไม่ได้ยากอย่างที่ทุกคนคิดเลยใช่ไหมคะ บ้านไหนที่มีเตาอบก็สามารถลองทำได้เลยนะคะ เมนูนี้ไม่สามารถทำกับไมโครเวฟได้น้า เคล็ดลับสำคัญ ก็คืออุณหภูมิที่ต้องคงที่ตลอดเวลา และส่วนผสมต้องไม่มีส่วนใดที่มากเกินไปนะจ๊ะ

สวัสดีจ้า วันนี้เราเตรียมเมนูอาหารของคนรักสุขภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำรับประทานกันนะคะ เมนูที่เราคัดสรรมาก็คือห่อหมกอกไก่ ที่ไม่ว่าจะทานบ่อยแค่ไหนน้ำหนักก็ไม่มีทางขึ้นแน่นอน เพราะสูตรของเราเน้นโปรตีนอย่างเต็มที่เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนน้าาา

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนูห่อหมกอกไก่

1. อกไก่ไม่เอาหนัง 200 กรัม

2. พริกแกงแบบละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

3. ไข่ไก่เบอร์ 0 1 ฟอง

4. ใบมะกรูดหั่นฝอย ( เตรียมไว้ตกแต่ง )

5. พริกชี้ฟ้าแดงซอย ( เตรียมไว้ตกแต่ง )

6. นมอัลมอนด์ไขมันต่ำ 1/2 ถ้วยตวง

7. แป้งข้าวจ้าว 1/2 ช้อนโต๊ะ

8. น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำปลาสูตรโซเดียมต่ำ 1 ช้อนโต๊ะ

10. ผักโขมลวก 

วิธีปรุงอาหาร

1. ล้างอกไก่ที่เตรียมไว้ให้สะอาดแล้วนำมาหั่นเป็นลูกเต๋า

2. ใส่ส่วนผสมทั้งอกไก่ที่หั่นเตรียมไว้ 3 ส่วน พริกแกงแบบละเอียดทั้งหมด น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ไข่ไก่ นมอัลมอนด์ จากนั้นปั่นรวมกันให้เนื้อเนียนละเอียด 

3. ใส่เนื้ออกไก่ที่หั่นไว้อีก 1 ส่วน คนผสมให้เข้ากับส่วนที่ปั่นไว้ จากนั้นเตรียมฐานรองห่อหมกด้วยผักโขมลวกหั่นหยาบ

4. นำผักโขมรองในภาชนะที่เตรียมไว้ กดให้แน่น จากนั้นนำส่วนผสมห่อหมกเทใส่ตามลงไป นึ่งด้วยไฟกลาง ประมาณ 30 นาที

5. เตรียมนมอัลมอนด์ใส่ลงในกระทะ กวนผสมกับแป้งข้าวจ้าวจนเปลี่ยนเป็นเนื้อครีมสีขาวนวล 

6. เมื่อนึ่งห่อหมกอกไก่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ราดนมที่เตรียมไว้ตามปริมาณที่ชอบ และตกแต่งด้วยใบมะกรูดซอยกับพริกชี้ฟ้าแดงซอย

เพื่อน ๆ ชอบไหมคะ สำหรับเมนูรักสุขภาพที่เราคัดสรรมาฝาก

     กับเมนูที่ชื่อว่าห่อหมกอกไก่ ที่ไม่ว่าจะทำรับประทานเวาลาเช้า กลางวัน เย็น หรือมื้อดึกก็สามารทำได้ เนื่องจากเมนูนี้เน้นโปรตีนเป็นหลัก ไม่ทำให้ตัวบวมขึ้นหรืออ้วนขึ้นนะจ๊ะ แต่เคล็ดลับสำคัญก็คือการไม่ทานอาหารมื้อดึกจัดเป็นการรักสุขภาพไปในตัวแล้วน้า

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนนน หลาย ๆ คนก็คงรักการกินเส้นเช่นเดียวกับเราใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยเตรียมเมนูแนวผสมผสานที่มีรสชาติเผ็ดนิด เปรี้ยวหน่อย แต่อร่อยไม่เบาเลย แถมยังมีการรวบรวมทั้งความเป็นไทย ไปจนถึงความเป็นสากลในเมนูเดียว เมนูนี้ก็คือ สปาเก็ตตี้ซอสต้มยำมันกุ้ง นั่นเองจ้า อยากรู้วิธีทำกันแล้วใช่ไหมคะ ไปติดตามกันเลยยยย

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู สปาเก็ตตี้ซอสต้มยำมันกุ้ง

1. กุ้งแม่น้ำหัวมัน 4 ตัว

2. เส้นสปาเก็ตตี้ 1 กำมือ

3. ข่า 2 หัว

4. ตะไคร้ 3 ต้น

5. ใบมะกรูด 5 ใบ

6. เห็ดฟาง 2 กอ

7. พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด

8. น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำปลา 3 ช้อนชา 

10. มะนาว 2 ลูก

11. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

12. นมข้นจืด 1/2 ถ้วยตวง

13. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

14. เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ตั้งน้ำในหม้อ ใส่น้ำมัน เกลือ และเส้นสปาเก็ตตี้ลงไป

2. นำกุ้งแม่น้ำ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เห็ดฟาง พริกขี้หนู ไปล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า

3. แกะกุ้งแม่น้ำที่เตรียมไว้ เอามันแยกใส่ 1 ถ้วย เอาเส้นกลางหลังออก แกะเปลือกให้เหลือส่วนหางไว้เล็กน้อย จากนั้นนำไปสะดุ้งน้ำร้อน 30 วินาที

4. ตั้งน้ำในหม้อ ใส่ข่า ตะไคร้ เปลือกกุ้ง ใบมะกรูดฉีก ตั้งไว้จนน้ำงวดลง

5. ตั้งกระทะอีกหนึ่งใบ ใส่มันกุ้ง พริกขี้หนูสับ น้ำพริกเผา คนจนสุกและเข้ากันดี

6. จากนั้นใส่เห็ดฟางฉีก ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลาและมะนาว คนจนเข้ากัน นำน้ำต้มยำที่งวดแล้วมาใส่ ใส่นมข้นจืดตามลงไป ตั้งกระทะทิ้งไว้จนน้ำงวดลงไปอีกกลายเป็นซอสต้มยำ

7. น้ำเส้นที่ต้มแล้วมาจัดใส่จาน จากนั้นนำซอสต้มยำมาราด ตามด้วยกุ้งลวก พร้อมเสิร์ฟกับเมนูสุดพิเศษ สปาเก็ตตี้ซอสต้มยำมันกุ้ง

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูออกแนวผสมผสาน ที่รสชาติจัดจ้านจนอยากทำทานบ่อย ๆ เมนู สปาเก็ตตี้ซอสต้มยำมันกุ้ง ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ อยากให้ทุก ๆ คนได้ลองทำดูนะง่ายมากเลย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการลวกกุ้งต้องใช้น้ำเดือดจัดและใช้เวลาลวกเพียง 30 วินาทีเท่านั้น เนื้อกุ้งถึงจะเด้งนะจ๊ะ

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกท่าน กลับมาพบกับเราอีกแล้วนะคะ กับเมนูอาหารที่อร่อยจนไม่กล้าที่จะลืม วันนี้เราเตรียมเมนูเด็ดมาฝากอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือปลาทับทิมสามรส ไม่ต้องง้อร้านอาหารแพง ๆ ก็สามารถทำเองได้ ด้วยงบที่ไม่บานปลาย

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนูปลาทับทิมสามรส

1. ปลาทับทิม

2. กระเทียมสับ

3. พริกแดงสับ

4. เกลือ

5. น้ำปลา

6. น้ำตาลปี๊บ

7. น้ำมะขามเปียก

8. น้ำมัน

9. น้ำเปล่า

วิธีทำ

1. เตรียมปลาทับทิมโดยให้แม้ค้าในร้านที่ซท้อมาจัดการให้เรียบร้อย เรานำมาบั้งเป็น 3 ขีดทั้ง 2 ฝั่งของตัวปลา โรยเกลือเล็กน้อย

2. ตั้งกระทะให้น้ำมันเดือด นำปลาลงไปทอดจดกลายเป็นสีเหลืองทอง  นำขึ้นมาพัก

3. การทำซอสสามรส ใส่น้ำมันพื้ชลงไปเล็ดน้อย ใส่กระเทียมสับและพริกสับลงไปผัด จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า และน้ำปลา คนจนซอสมีลักษณะเหนียวข้นขึ้น

4. ตักซอสราดบนตัวปลาที่ทอดไว้เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟกับเมนูปลาทับทิมสามรส

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ น่าทานไหมเอ่ย

       กับเมนูปลาทับทิมสามรสที่เราเตรียมสูตร วิธีการทำมาฝาก ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ลองทำดูได้เลยน้า มือใหม่ก็สามารถทำได้ เคล็ดลับสำคัญของเมนูนี้ก็คือการทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ ก่อนที่เราจะใส่ปลาลงไปในน้ำมันที่เดือด ให้โรยเกลือลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำปลาลงไปทอด รอให้หนังปลาร่อนจากกระทะแลวจึงกลับอีกด้านนะจ๊ะ

 

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนน การที่ได้เข้าครัวไปทำอาหารหรือขนมนับว่าเป็นความสุขของใครหลาย ๆ คน ที่ได้ผ่อนคลายร่างกายจากการทำงานรวมไปถึงเป็นการใช้เวลาว่างในการฝึกฝีมือตัวเองอีกด้วย วันนี้เราก็เตรียมสูตรเบเกอรี่อร่อย ๆ ที่หลายคนชอบทานมาฝากอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ ชูครีมวนิลลาช็อคโกแลตร้อน นั่นเองจ้า

       ชูครีม จัดเป็นขนมหวานชนิดหนึ่งจากทางประเทศฝรั่งเศษ โดยที่คำว่าชู หมายถึงกะหล่ำปลี ซึ่งรวม ๆ แล้ว ชูครีมก็คงจะหวายถึงขนมลักษณะคล้ายกะหล่ำปลีสอดไส้ครีมทางด้านใน ที่เมนูนี้เข้ามาโด่งดังในประเทศไทยก็เพราะว่าชาวฝรั่งเศษนำเข้ามารับประทาน ซึ่งก็มีขนมอีกชนิดหนึ่งที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากแต่เพิ่มลักษณะให้แปลกตาออกไปเรียกว่า เอแคร์

ส่วนผสมขนม ชูครีมวนิลลาช็อคโกแลต

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม

2. เนยจืด 60 กรัม

3. ไข่ไก่ 3 ฟอง

4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

5. เกลือ 1/3 ช้อนชา

6. น้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร

7. วิปปิ้งครีม 300 มิลลิลิตร

8. น้ำตาลไอซิ่ง 5 ช้อนโต๊ะ

9. กลิ่นวนิลลา

วิธีทำ

ขั้นตอนการทำแป้ง ชูครีม

1. โดยการเตรียมหม้อมา 1 ใบตามด้วยการใส่น้ำเปล่า น้ำตาลทราย เนยจืด และเกลือลงไป นำขึ้นตั้งไฟกลาง คนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเนยจะละลาย 

2. เมื่อเนยละลายแล้วให้นำออกมาพักไว้ จากนั้นนำแป้งอเนกประสงค์ที่ร่อนไว้ลงไปในหม้อ จนจนทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้วเปิดไฟอ่อน ๆ คนจนเนื้อแป้งเนียนละเอียด

3. นำแป้งมาตีในเครื่องด้วยความเร็วสูง เมื่อแป้งเย็นแล้วให้ใส่ไข่ไก่ตามลงไป 2 ฟอง

4. นำแป้งใส่ถุงบีบแล้วบีบลงในถาดที่วางด้วยกระดาษไข พร้อมทาไข่ไก่ที่หน้าชูครีม นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส 

5. เมื่ออบจนครบ 15 นาทีแล้ว ให้ทิ้งไว้ในเตาเอาแบบนั้นโดยเปิดเตาไว้เล็กน้อย

ขั้นตอนการทำไส้ครีมวนิลลา

1. นำชามผสมไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด รวมถึงวิปปิ้งครีมด้วย จากนั้นนำมาเทผสมกับน้ำตาลไอซิ่ง กลิ่นวนิลลา ตีจนเข้ากันแล้วจึงเพิ่มความเร็วจนขึ้นฟู

2. ตัดตัวขนมแบ่งครึ่งแนวบีบครีมใส่ลงไปตรงกลาง

ขั้นตอนการทำช็อคโกแลตร้อน

1. นำดาร์คช็อคโกแลตมาละลายบนหม้อน้ำ

เตรียมเสิร์ฟ

1. นำชูครีมมาวางบนจาน แล้วโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ราดช็อคโกแลตร้อน พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้ากับเมนู ชูครีมวนิลลาช็อคโกแลตร้อน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ

       กับเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตอย่าง ชูครีมวนิลลาช็อคโกแลตร้อน ถือว่าเป็นเมนูที่แอบมีขั้นตอนเยอะมาก ๆ เลยทีเดียว แต่ก็อร่อยเป็นพิเศษ เหมาะกับคนที่ชอบทานแต่ก็ไม่อยากไปสุงสิงในที่คนเยอะหรือเหมาะกับคนที่มีพื้นฐานทางด้านการทำเบเกอรี่อยู่แล้วบ้างเล็กน้อย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการตีแป้งด้วยความเร็วเพื่อคลายความร้อน ไม่ให้ไข่สุกขณะตอกไข่ใส่ลงไปในแป้ง

 

สวัสดีค่ะทุกคนนนนน ใครที่กำลังมองหาวิธีการลดน้ำหนัก วิธีการเอาพุงย้อย ๆ ออกไปจากร่างกาย แต่ดันไปออกกำลังกายซะจนเหงื่อหมดตัวก็ดันไม่ได้ผลมากเท่าไหร่นัก ข้อมูลตามเว็บไซต์มักจะบอกว่าการออกกำลังการถือเป็นการลดน้ำหนักได้เพียง 20% เท่านั้น แต่ส่วนที่ดีที่สุดที่ทำให้น้ำหนักลดแบบฮวบฮาบคือการควบคุมอาหารที่ลดหวาน ลดมัน ลดเค็ม ลดแป้ง ลดไขมันทั้งหมด ทานในแบบที่พอเหมาะพอดีมักจะได้ผล วันนี้เราก็เตรียมอาหารคลีนสูตรพิเศษมาฝากทุกคนอีกเช่นเคย ได้แก่เมนู สปาเก็ตตี้อกไก่ผัดพริกไทยดำ นั่นเอง

       สปาเก็ตตี้เป็นอาหารที่ได้รับวิวัฒนาการมาจากเส้นก๋วยเตี๋ยวประเทศจีนโดยที่พ่อค้านักเดินทางชาวอิตาเลียนได้นำเข้ามาในปี 1295 นับว่าเส้นสปาเก็ตตี้เป็นอาหารตระกูลเส้นชนิดหนึ่งที่เรียกว่าพาสต้าส่วนผสมหลักของเส้นสปาเก็ตตี้ก็คือแป้งสาลี ไข่ และน้ำ บางชนิดอาจมีการผสมน้ำมันมีการปรับแต่งรูปร่างมีการเติมสีสันให้สวยงามเช่น สีดำจากปลาหมึก สีส้มจากแครอท เป็นต้น

ส่วนผสม/เครื่องปรุงเมนู สปาเก็ตตี้อกไก่ผัดพริกไทยดำ

1. เส้นบุก 1 กำมือ

2. อกไก่ 200 กรัม

3. ไข่ต้ม 1 ฟอง

4. บล็อคโครี่ 1 หัว

5. ซีอิ๊วขาวลดโซเดียม 2 ช้อนโต๊ะ

6. พริกไทยดำ 2 ช้อนโต๊ะ

7. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

8. เกลือ

วิธีทำ

1. นำ อกไก่ ที่เตรียมไว้ไปล้างให้สะอาดลอกหนังออกจนหมด จากนั้นนำมาหมักด้วยเกลือและพริกไทยดำ

2. ตั้งหม้อน้ำใส่เกลือเล็กน้อย นำเส้นบุกลงไปลวกประมาณ 2 – 3 นาที

3. นำอกไก่ที่หมักไว้แล้วมาหั่นตามเส้นแนวอกไก่ จากนั้นนำลงไปผัดในกระทะจนมีกลิ่นพริกไทยหอมออกมา

4. เมื่อกลิ่นพริกไทยออกแล้วให้นำเส้นบุกตามลงไปผัดในกระทะจากนั้นใส่บล็อคโครี่หั่นชิ้นพอดีคำตามลงไป ปรุงรสชาติด้วยซีอิ๊วขาวสูตรลดโซเดียม

5. เตรียมจัดใส่จานให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้ากับเมนู สปาเก็ตตี้อกไก่ผัดพริกไทยดำ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารคลีนเพื่อสุขภาพอย่าง สปาเก็ตตี้อกไก่ผัดพริกไทยดำ ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะทุกคน ใครที่อยากลดน้ำหนักแบบจริง ๆ จัง ๆ สามารถใช้เมนูนี้ในการเริ่มลดน้ำหนักได้เลยนะคะ เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือเส้นบุกจะสุกไวกว่าเส้นสปาเก็ตตี้ทั่ว ๆ ไปใช้เวลาแค่ 2 – 3 นาทีในการลวกพอนะจ๊ะ

ฮัลโหลลล กลับมาพบกับเราอีกเช่นเคยกับการแนะนำเมนูอาหารสุดแสนพิเศษ และไม่เหมือนใคร และวันนี้เราก็ยังคงมีเมนูอาหารสูตรเด็ดมาฝาก แต่ออกแนวตะวันตกนิดนึงกับเมนู สปาเก็ตตี้ซอสแกงเขียวหวานไก่ ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเด็ดขนาดไหน ไปติดตามกันเลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู สปาเก็ตตี้ซอสแกงเขียวหวานไก่

1. เส้นสปาเก็ตตี้

2. เนื้อไก่หั่นชิ้น

3. น้ำพริกแกงเขียวหวาน

4. น้ำปลา

5. พริกชี้ฟ้าแดงซอย

6. ใบมะกรูดซอย

7. กะทิอร่อยดี

8. ใบโหระพา

9. มะเขือพวง

วิธีทำ

1. ต้มเส้นสปาเก็ตตี้ใส่เกลือและน้ำมันลงไปเล็กน้อย ประมาณ 10 นาที

2. นำน้ำพริกแกงเขียวหวานและหางกะทิใส่ลงไปผัดในกระทะจนแตกมัน

3. ใส่เครื่องในไก่ที่เตรียมไว้ลงไปรอจนสุกใส่เนื้อไก่ตามลงไป เมื่อสุกดีแล้วให้ปรุงรสตามชอบ

4. หลังจากปรุงรสชาติเสร็จแล้วให้ใส่มะเขือพวง พริกชี้ฟ้าแดงซอบ ใบมะกรูดซอย เคี่ยวทิ้งไว้จนมีกลิ่นหอม

5. ปิดไฟแล้วใส่ใบโหระพา พร้อมเสิร์ฟกับเมนู สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานไก่

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานไก่ สุดแสนอร่อยที่เราคัดสรรสูตรแบบพิเศษมาฝากทุกคนกัน อยากให้ทุกคนลองทำดูนะคะ แล้วจะรู้ว่าไม่ยากอย่างที่คิดเลย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการต้มเส้นสปาเก็ตตี้ต้องอยู่ในระดับที่ข้างนอกนุ่มแต่ข้างในยังมีความกรุบอยู่ ต้องลองดีด หรือชิมดูนะคะ กะเวลาประมาณ 7 – 10 นาที 

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้โชมมมมมม เมนูผัดพริกแกงของไทย อยู่คู่ครัวมาตั้งแต่สมัยโบราณไม่ว่าบ้านไหนก็ต้องเคยมีในเมนูกับข้าว ด้วยรสชาติที่เผ็ด หวาน เค็ม อร่อยกำลังดีจึงทำให้ใคร ๆ ก็ชอบที่จะรับประทาน สำหรับวันนี้เราก็มีเมนูเด็ด ๆ มาแนะนำอีกเช่นเคย เมนูนี้ได้แก่ ปลาดุกกรอบผัดพริกแกง นั่นเองจ้าา อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่ารสชาติจะเด็ดแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู ปลาดุกกรอบผัดพริกแกง

1. ปลาดุก 1 ตัว

2. พริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ

3. ใบกะเพราะ 1 ถ้วยตวง

4. แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง

5. กระชาย 1/3 ถ้วยตวง

6. พริกชี้ฟ้าแดง 1/3 ถ้วยตวง

7. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

8. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง

10. น้ำมันพืช

วิธีทำ

1. นำปลาดุกที่ทางร้านทำมาเรียบร้อยแล้วมาหั่นเป็นชิ้นประมาณ 5 ซ.ม. ล้างให้สะอาดด้วยน้ำผสมเกลือ หั่นกระชาย พริกชี้ฟ้าแดงให้เป็นฝอย

2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเตรียมทอดปลาด้วยไฟกลาง เตรียมแป้งทอดกรอบนำปลาที่หั่นแล้วไปชุบ นำลงทอดในกระทะจนสีเหลืองทอง

3. ตั้งกระทะอีก 1 ใบใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นนำพริกแกงลงไปผัดจนหอม ใส่กระชาย พริกชี้ฟ้าแดงตามลงไป ผัดจนเข้ากันถ้าแห้งให้เติมน้ำเปล่าลงไป

4. ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากันจนรสชาติเข้าที่จึงใส่ปลาที่ทอดกรอบแล้วลงไป คนจนรสชาติเข้าที่ดี

5. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เมื่อเดือดแล้วให้ใส่ใบกะเพราลงไปทอดจนกรอบ จากนั้นนำไปโรยบนผัดพริกแกงที่เสร็จแล้ว แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะเมนู ปลาดุกกรอบผัดพริกแกง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารไทยแสนอร่อยอย่าง ปลาดุกผัดพริกแกง ง่ายแสนง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ หากครอบครัวไหนอยากลองทำให้คนที่บ้านทาน เตรียมหาซื้อวัตถุดิบมาลองทำได้เลยจ้า เมนูนี้ไม่ยากเลย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการทอดปลาให้กรอบ วิธรการก็คือต้องตั้งน้ำมันให้ร้อนจัดจึงนำปลาที่ชุบแป้งแล้วลงไปทอดนะจ๊ะ