สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมหวานไทย

สูตร สัมปันนีอ่อน ขนมไทยหน้าตาหน้ากิน ทำง่ายด้วย

สัมปันนีอ่อน
สัมปันนีอ่อน

ขนมสัมปันนีอ่อน เป็นขนมหวานของไทยที่มีรสชาติหอมหวานของกะทิและน้ำตาล เวลาทานจะรู้สึกเหมือนละลายในปาก จะว่าไปขนมสัมปันนีอ่อนนี้ ก็ถือเป็นคุ้กกี้สไตล์ไทย ๆ ได้นะครับ ในส่วนของความหอมนั้น ถ้าท่านใดชอบความหอมของควันเทียน ก็สามารถอบควันเทียนได้เช่นกัน 

ขนมสัมปันนีอ่อนนี้ หากใครที่เป็นคอละครและติดออเจ้าจาก ละครเรื่องบุพเพสันนิวาสอย่างจริงจังแล้วล่ะก็ จะต้องรู้จักท้าวทองกีบม้า (หรือนางตองกีมา) ภรรยาของท่านฟอลคอนนั่นเองครับ ท้าวทองกีบม้าเป็นต้นห้องเครื่องหวานที่คิดค้นขนมไทยมาให้เราได้ทานกันมากมายทีเดียว แต่อาจมีกลิ่นไอของความเป็นโปรตุเกสอยู่บ้าง เราลองมาทำขนมสัมปันนีอ่อนทานกันดูนะครับ วัตถุดิบมีไม่มาก แถมยังหาได้ไม่ยากเลยครับ

วัตถุดิบ

  • แป้งมัน 1.5 ถ้วยตวง
  • กะทิ 1 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย 0.5 ถ้วยตวง 
  • สีผสมอาหาร

ขั้นตอนการทำ

เคล็ดลับของการทำขนมสัมปันนีอ่อนนี้อยู่ที่การกวนแป้งนะครับ เราต้องใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง ค่อยๆ กวนไปช้าๆ ใช้ไม้พายกดแป้งให้ติดกระทะไปเรื่อยๆ เผื่อที่แป้งโดนความร้อนจะได้สุกนะครับ ถ้าอยากรู้ว่าแป้งสุกจนใช้ได้หรือยังก็ลองชิมดูครับ หรือจะลองจับเนื้อแป้งดูก็ได้ หากแป้งไม่ติดกระทะ ไม่ติดมือ ก็เป็นอันว่าใช้ได้แล้วครับ

 

  1. นำกะทิและน้ำตาลทรายมาตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวให้เดือด ดูให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากันดีกับกะทิ ให้หรี่ไฟลง
  2. เติมแป้งมันที่เตรียมไว้ลงไป กวนด้วยไฟอ่อน ไปเรื่อยๆ ใช้ไม้พายกดแป้งให้ติดกับกระทะเพื่อให้แป้งสุก หลังจากดูว่าแป้งสุกดีแล้ว ให้นำลงจากเตาพักไว้
  3.  เมื่อแป้งอุ่นแล้ว ให้ใส่สีผสมอาหารลงไปตามชอบ
  4. นำแป้งใส่พิมพ์ กดให้แน่น เคาะออกมา เราก็จะได้ขนมสัมปันนีอ่อนที่สวยงาม น่ารับประทานแล้วครับ สำหรับท่านที่ชอบกลิ่นหอมของควันเทียน จะนำไปอบควันเทียนด้วย ก็ตามชอบเลยครับ

จริงๆ ขนมไทยเรานี่มีเยอะมากเลยนะครับ แต่วัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นแป้ง

กะทิ และน้ำตาลเป็นหลัก ทั้งน้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลโตนด ซึ่งจะให้ความหอมหวานที่ต่างกัน จึงมีความเหมาะสมกับขนมและอาหารแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน

ขนมสัมปันนีอ่อนในปัจจุบัน ไม่ได้หาทานได้ง่ายๆ นะครับ หากเราทำทานเอง

นอกจากจะได้ความภูมิใจที่ได้ทำขนมไทยหอมอร่อยไว้ทานเองแล้ว เรายังได้ความสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์จากการได้ผสมสี และพิมพ์ขนมเป็นรูปแบบต่างๆ ด้วยนะครับ 

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร ครีมฮอร์น เมนูเบเกอรี่แสนอร่อย ทำง่ายๆได้ที่บ้าน

ครีมฮอร์น
ครีมฮอร์น

สายเบเกอรี่ที่ชอบนม เนย ครีม ชีส และไม่กลัวอ้วนทั้งหลาย ถ้าถามเมนูในใจ “ครีมฮอร์น” คงจะเป็นเมนูโปรดของใครหลายคนนะครับ แล้วโดยเฉพาะปัจจุบันนี้ มีการพัฒนาสูตร ปรับรสชาติกันเยอะมาก สับเปลี่ยนเวียนทานกันไม่รู้เบื่อกันเลย

แต่วันนี้ สูตร ครีมฮอร์น ที่ผมจะมาแนะนำให้ลองทำกันเป็นสูตรออริจินอลนะครับ แล้วถ้าหากท่านใด อยากได้รสชาติอื่น อย่างรสชาติที่เป็นที่นิยมตอนนี้ได้แก่ ชาไทย ชาเขียว และกาแฟ เป็นต้น เมื่อได้พื้นฐานไปแล้ว ก็ลองไปปรับเปลี่ยนสูตรดูนะครับ

วัตถุดิบ 

  • แป้งพายชั้น นำมารีดให้บาง ขนาด 3 มม. กว้างประมาณ 1 นิ้ว
  • ไข่ไก่ 6 ฟอง
  • น้ำตาลทราย
  • เนยสดเค็ม 200 กรัม
  • เนยขาว 100 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 150 กรัม (ความหวานปรับได้ตามความชอบเลยครับ)

ขั้นตอนการทำ

สำหรับตัวแป้งที่จะขึ้นรูปนั้น จริงๆ แล้วก็มีสูตรที่สามารถนวดเองได้ แต่สำหรับสูตรนี้ ผมอยากให้มีความง่ายสำหรับทุกท่านมากขึ้น จึงได้ใช้ตัวแป้งพายชั้นสำเร็จรูปมาทำเลย ซึ่งจะง่ายกว่า ไม่ต้องมานวดแป้ง เพียงแต่นำมา Thaw แล้วก็ตัดตามที่บอกได้เลยนะครับ

  1. นำไข่แดง 5 ฟอง และไข่ไก่ทั้งฟอง 1 ฟอง มาตีให้เข้ากัน สำหรับทาตัวแป้งพายก่อนนำไปอบ
  2. นำแป้งที่พันรอบกรวยมาทาไข่ให้ทั่ว
  3. นำแป้งที่พันกรวยทาไข่แล้ว ไปคลุกกับน้ำตาลทรายขาวให้ทั่วทั้งอัน
  4. หลังจากนั้นนำไปอบ รอบที่ 1 ใช้ไฟ 200 บน-ล่าง ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นอบต่ออีก 15-20 นาที ลดไฟเหลือ 170
  5. หลังจากอบเสร็จ พักไว้ให้อุ่นลงแล้วถอดกรวยออก
  6. บีบครีมใส่ลงไป

ขั้นตอนการทำครีม

  1. นำน้ำตาลไอซิ่งมาละลาย 
  2. นำเนยทั้งสองชนิดใส่ลงไป แล้วตีให้เป็นครีมฟูขึ้นมา 
  3. เวลาหยอดครีม ให้ใช้ถุงพลาสติกทำเป็นกรวยแล้วหยอดให้ถึงก้นเลยนะครับ

การอบขนมครีมฮอร์นนั้น เรื่องอุณหภูมิหรือเวลาที่แนะนำ เป็นเวลาประมาณนะครับ 

ต้องขึ้นอยู่กับสภาพเตาอบของแต่ละเตาด้วยครับ หลังจากเสร็จแล้วก็จะได้ครีมฮอร์นที่ด้านนอกมีความกรอบ หอมมัน หวานน้ำตาลทรายที่เกาะอยู่ และความนุ่มของตัวครีมที่ออกรสหวานนิดๆ จากน้ำตาลไอซิ่ง

อย่างที่บอกไว้ตอนแรกครับ ถ้าหากอยากจะลองเปลี่ยนรสชาติดู ตอนตีครีมก็สามารถใส่รสชาติเพิ่มเติมได้ เช่น ใช้น้ำชาไทยตีกับเนยแทนน้ำตาลไอซิ่ง หรือใส่ผงโกโก้ เราก็จะได้รสชาติของครีมฮอร์นรสชาติต่างๆ ที่ไม่จำเจแล้วนะครับ หวังว่าสูตรนี้จะทำให้ทุกท่านได้ทำขนมอร่อยๆ ทานกันนะครับ

Categories
อาหารสุขภาพ

สูตร ไก่ผัดพริกหวาน อาหารสุขภาพสำหรับคนรักสุขภาพ

ไก่ผัดพริกหวาน
ไก่ผัดพริกหวาน

อาหารคลีน นอกจากทานแล้ว ดีต่อสุขภาพ ยังช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักด้วยนะครับ วัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวก ผัก ปลา อกไก่ เป็นต้น บางคนบอกว่าอาหารคลีนไม่อร่อย ไม่น่าทาน ไม่จริงเลยครับ ถ้าทำดีๆ หลายเมนูก็น่าทานและรสชาติดีมากเลยทีเดียวครับ ตัวผมเองก็ทำทานอยู่บ่อยๆ สายสุขภาพห้ามพลาดเลยครับ

เมนูอาหารคลีนที่จะแนะนำสูตรกันวันนี้ เราจะมาทำไก่ผัดพริกหวานกันครับ ทำง่ายแล้วในส่วนผสมก็จะเน้นผักเป็นหลัก ได้รสชาติความหวานจากน้ำผัก ไม่ต้องอาศัยเครื่องปรุงอะไรมากมาย ดีต่อสุขภาพครับ ลองนำไปทำกันดูนะครับ 

วัตถุดิบ

  • อกไก่ 200 กรัม
  • พริกหวานแดง 1 ลูก
  • พริกหวานเหลือง 1 ลูก
  • หอมหัวใหญ่ 0.5 หัว
  • แครอท 0.5 หัว
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายเล็กน้อย

ขั้นตอนการทำ

เวลาผัดผัก เราต้องนำผักที่สุกยากกว่าลงไปผัดก่อนนะครับ แต่ไม่ต้องให้ถึงกับสุก เพื่อที่เวลาเราใส่ผักที่สุกง่ายลงไปทีหลัง ผักจะได้สุกพร้อมกันพอดีครับ ในส่วนของพริกไทยดำที่จะใช้ ไม่ต้องบดละเอียดมากครับ 

  1. หั่นอกไก่ ให้เป็นชิ้นพอคำ หั่นพริกหวาน หอมหัวใหญ่ ชิ้นไม่ต้องเล็กมากสักประมาณ 1 นิ้วเลยครับ  แครอทหั่นเป็นแผ่น หรือจะตัดขอบให้เป็นหยัก พอสไลด์ออกมาจะเป็นรูปดอกไม้ครับ
  2. ใส่น้ำมันมะกอกลงในกระทะเล็กน้อย เปิดไฟกลาง
  3. ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม
  4. ใส่เนื้อไก่ตามลงไป ผัดกับกระเทียมจนไก่เหลือง ตามด้วยหอมหัวใหญ่กับแครอท เนื่องจากผัก  2 ชนิดนี้สุกยากกว่าพริกหวาน ผัดจนเกือบสุก เติมพริกหวานทั้งสองสีลงไป หากกระทะแห้ง เติมน้ำเปล่าลงไปนิดหน่อยได้ครับ ตอนนำผักลงไปผัดต้องใช้ไฟแรงนะครับ
  5. ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำตาลเล็กน้อย
  6. ปิดท้ายด้วยการเติมพริกไทยดำบดหยาบ 

สำหรับเมนูนี้ ไก่ผัดพริกหวานแนะนำให้ทานกับข้าวไรซ์เบอรี่นะครับ เข้ากันมาก 

อกไก่นุ่มๆ กับพริกหวานก็ให้รสชาติหวานเล็กน้อย ตัดด้วยพริกไทยดำไปอีก เป็นเมนูที่เผ็ดร้อนอีกเมนูหนึ่งเลยครับ

เห็นมั้ยครับ ใครว่าอาหารคลีนไม่น่าทาน รสชาติเราปรุงได้ อยู่ที่ส่วนประกอบของอาหารมากกว่าเราจะเลือกวัตถุดิบตัวไหนมาใช้ ส่วนใหญ่ก็จะใช้ผักอย่างพวกแครอท หน่อไม้ฝรั่ง กันเป็นหลักนะครับ เพื่อให้สีสันที่สวยงามด้วย เหมือนกับเมนูไก่ผัดพริกหวานนี้ เราก็ใช้สีสันของพริกหวานทำให้หน้าตาอาหารดูน่าทานมากขึ้นครับ

อ่านเพิ่มเติม > รวม 10 สูตร เมนูไก่ ยอดนิยม พร้อมวิธีแสนง่ายที่สามารถทำเองที่บ้านได้

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร แกงไก่เนย เมนูอาหารนานาชาติแสนอร่อย

แกงไก่เนย
แกงไก่เนย

หลาย ๆ ท่านคงชอบอาหารอินเดียกันใช่มั้ยครับ โดยเฉพาะท่านที่ชอบทานเครื่องเทศ แต่บางท่านจะติดภาพว่าเครื่องเทศในอาหารอินเดียนั้นมีกลิ่นแรง หรืออาหารอินเดียคนทำไม่สะอาด อะไรแล้วแต่ ผมยังเชื่อว่าอาหารอินเดีย ก็โดนใจใครหลายคนอยู่นะครับ บางท่านคิดว่าพ่อเป็นอาหารที่มีเครื่องเทศจะทำยาก ก็เฉพาะบางเมนูเท่านั้นครับ

บ้านเราตอนนี้หาทานไม่ยากเลยครับ แถวสุขุมวิทนี่เรียกได้ว่าตั้งติดกันเป็นแถว เมนูที่ผมชอบก็เนื้อตุ่นที่ทานกับโรตีครับ ตุ๋นเนื้อมาเปื่อยๆ ใส่เครื่องเทศหอมๆ ทานกับแป้งโรตี พูดถึงแล้วก็อยากทำทาน แต่ไม่มีเวลาเคี่ยวเนื้อขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นเรามาทำเมนูอีกเมนู ที่ทำง่ายๆ กันดีกว่าครับ เมนูที่ว่า “แกงไก่เนย” นั่นเองครับ วัตถุดิบหลักก็ซอสนั่นแหละครับ ส่วนฝีมือแทบไม่ต้องใช้เลยครับ

วัตถุดิบ

  • อกไก่หั่นเต๋า 300 กรัม
  • หอมหัวใหญ่สับ 100 กรัม
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอส Butter Chicken 200 กรัม

ขั้นตอนการทำ

สูตร แกงไก่เนย เมนูนี้เป็นอาหารอินเดียที่ทำง่ายมากเลยครับ เพราะทำจากตัวซอสสำเร็จรูปอยู่แล้ว เพียงแค่หั่นไก่ สับหอมหัวใหญ่ นอกนั้นให้ซอสจัดการครับ เมนูนี้ก็น่าจะเป็นที่โปรดปรานของแม่บ้านหลายท่าน เพราะทำง่ายนี่แหละครับ ตัวผมเองก็ทำบ่อยเหมือนกัน คนที่บ้านก็ชอบครับ เพราะเครื่องเทศไม่แรงเกินไป หอมกลิ่นเนยดีครับ

  1. หั่นอกไก่ให้เป็นลูกเต๋า
  2. สับหอมหัวใหญ่ ให้เป็นชิ้นเล็กๆ
  3. นำกระทะตั้งไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไป 
  4. พอน้ำมันร้อน ใส่หอมหัวใหญ่ลงไปผัดให้เหลือง หอม
  5. หลังจากหอมหัวใหญ่เหลืองแล้ว ใส่อกไก่ลงไปเลยครับ แล้วผัดจนเนื้อไก่สุกเหลืองเช่นเดียวกัน ให้แน่ใจว่าผัดไก่จนสุกเหลืองแล้วจริงๆ นะครับถึงจะใส่ซอสลงไป เพราะถ้าเราใส่ซอสไปแล้ว เนื้อไก่ก็จะไม่ได้กริลล์กับกระทะ
  6. เทซอสเติมลงไป ระหว่างนี้ผัดซอสให้เข้ากับไก่จนทั่ว แล้วปิดฝา ตั้งไฟอ่อนๆ ไว้ 15 นาทีครับ 

   เรียบร้อยแล้วครับแกงไก่เนย เมนูอาหารอินเดียง่ายๆ  ทำเองก็ได้ 

อร่อยด้วย ไม่ต้องฝ่าการจราจรที่ติดแสนติดไปถึงสุขุมวิท เพียงแค่มี Butter chicken Sauce ขวดเดียวพอเลยครับ นอกจากเมนูนี้แล้ว อีกเมนูที่น่าสนใจและอร่อยไม่แพ้กันก็คือไก่มาซาลา นะครับ ในส่วนของมาซาลานี่เราใช้ผงมาซาลาครับ กรรมวิธีไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่

ไม่ต้องกังวลเรื่องซอสนะครับมีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปเลยครับ ในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ตนะครับ แกงไก่เนยเป็นเมนูที่ทานกับข้าวนะครับ ข้าวสวยร้อนๆ กับแกงไก่เนย ที่มีกลิ่นหอมของเนยและเครื่องเทศอ่อน ๆ รับรองว่าประทับใจแน่นอนครับ



Categories
ขนมหวานไทย

สูตร ดาราทอง ขนนไทยโบราณที่น้อยคนจะรู้จัก

ดาราทอง
ดาราทอง

ขนมไทยหลายๆ ชนิดมีหน้าตาและสีสันที่ดูน่าทานมากเลยนะครับ โดยเฉพาะขนมดาราทอง เป็นขนมไทยมงคลอีกหนึ่งชนิด ที่มีความสวยงาม และมีความละเอียดอ่อนในทำค่อนข้างมาก ซึ่งคนส่วนใหญ่ จะเข้าใจผิดคิดว่าขนมดาราทองนั้น คือขนมจ่ามงกุฎ 

ถึงแม้จะยากแค่ไหน ก็ไม่ได้แปลว่าทำไม่นะครับ ผมมีสูตรขนมดาราทองมาให้ท่านลองทำกันดู ขอย้ำว่าต้องใจเย็นนะครับ เราจะได้ขนมดาราทองที่สวยงามไม่แพ้มืออาชีพเลยทีเดียว

วัตถุดิบ 

    • เมล็ดแตงโม (แกะเปลือกออก) 0.5 ถ้วยตวง
    • ไข่ไก่ 6 ฟอง
    • แป้งสาลีเอนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง
    • น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
    • น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
    • กะทิ 1 ถ้วยตวง
    • น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
    • แผ่นทองคำเปลว (นำมาแยกเป็นชิ้นเล็กๆ สำหรับติดยอดมงกุฎ)

ขั้นตอนการทำ

ขั้นตอนการทำขนมดาราทองนั้น จะค่อนข้างยุ่งยากนิดหน่อย แต่หลักการง่ายๆ ก็คือจะแบ่งเป็น 1. การทำฐานของขนม 2. การคั่วเมล็ดแตงโม 3. การประกอบรูปมงกุฎเข้าด้วยกัน แล้วก็ทำไปทีละส่วนนะครับ

  1. การทำฐานรอง
    1. ผสมแป้งสาลี  1 ถ้วยตวงกับไข่แดง 1 ฟอง นวดให้เข้ากันหากแห้งมากให้ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไป ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในไข่แดงด้วย ว่าต้องเติมเพิ่มหรือเปล่า 
    2. นำแป้งที่ได้มาคลึงให้เป็นแผ่นบาง ตัดให้เป็นวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร แล้วน้ำไปใส่ถ้วยตะไล กดลงไปให้เป็นรูปก้นถ้วย ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มให้ทั่วแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 150-200 องศาเซลเซียส หรือพอให้สุกเหลืองน่ารับประทาน 
  2. การทำเมล็ดแตงโม
    1. นำกระทะทองเหลืองมาตั้งไฟอ่อนๆ เช็ดกระทะด้วยผ้าขาวบางให้สะอาด 
    2. นำเมล็ดแตงโมที่เตรียมไว้ลงไปคั่วในกระทะ โดยล้างมือให้สะอาด จุ่มน้ำเชื่อมแล้วพรมลงไปบนเมล็ดแตงโม ทำจนกว่าน้ำเชื่อมจะเกาะเมล็ดแตงโมคล้ายกับหนามของมงกุฎ เสร็จแล้วนำขึ้นจากกระทะพักไว้ให้เย็นและแห้งเก็บใส่ภาชนะให้เรียบร้อยอย่าให้โดนอากาศ
  3. การทำมงกุฎ
    1. นำแป้งสาลี ไข่ไก่ กะทิ น้ำตาลทราย มาผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำใส่กระทะทองเหลือง กวนไปเรื่อยๆ ใช้ไฟอ่อนที่สุด กวนจนเข้ากันดี แป้งไม่ติดมือเป็นใช้ได้แล้วครับ 
    2. นำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วใช้มีดบางค่อยๆ กดลงไปให้เป็น 6 แฉก
  4. วิธีประกอบมงกุฎ
    1. นำเมล็ดแตงโมที่ทำเป็นหนามไว้ มาติดโดยรอบแป้งที่เป็นฐานรอง
    2. นำตัวมงกุฎที่ปั้นไว้มาใส่ลงตรงกลางฐานรอง แล้วปั้นแป้งเล็กๆ กลมๆ ติดไว้บนยอดมงกุฎ ติดทองคำเปลวชิ้นเล็กๆ ลงไป

ขนมไทย ที่จริงแล้วทำไม่ยากเลย แต่ต้องอาศัยความใส่ใจในรายละเอียดกัน

มากหน่อยนะครับ สำหรับดาราทองนี้ ถ้าทำเป็นของขวัญช่วงเทศกาลต่างๆ คงภูมิใจผู้ให้และประทับใจผู้รับไม่น้อยเลยนะครับ




Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร ทีรามิสุ เบเกอรี่สำหรับคนชอบกาแฟ

ทีรามิสุ
ทีรามิสุ

วันนี้ ถ้าเราเดินเข้าร้านเบเกอรี่กัน เมนูต่างๆ ที่เราจะได้พบเจอส่วนใหญ่ก็เช่น บลูเบอรี่เค้ก พายบลูเบอรี่ เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม เค้กส้มหน้านิ่ม เป็นหลักเลยนะครับ แต่เบเกอรี่อีกตัวหนึ่งที่หรูหราและเป็นนิยมของคอเบเกอรี่มาก นั่นก็คือ “ทีรามิสุ” นั่นเองครับ ทีรามิสุเป็นขนมสไตล์อิตาเลียนครับ มีส่วนผสมของเหล้ารัมด้วย แต่ถ้าใครที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ก็สามารถใช้กลิ่นรัมอย่างเดียวได้ครับ   

วัตถุดิบ

  • ไข่ไก่ 3 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
  • เหล้ารัม 1 ช้อนชา
  • ชีสมาสคาร์โปเน่ 250 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
  • ผงโกโก้ 50 กรัม สำหรับผสมน้ำกาแฟและโรยหน้าขนม
  • เลดี้ฟิงเกอร์ 1 แพค

ขั้นตอนการทำ

            การทำทีรามิสุ จะมี 2 ส่วนนะครับ คือส่วนของตัวชีสหน้าขนม และในส่วนของฐานขนม เดี๋ยวเราลองมาทำกันครับ

  1. นำไข่แดง 3 ฟองเทใส่กะละมัง ใช้ตะกร้อมือตีให้ไข่แตกเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. เติมน้ำตาลทาย 50 กรัม ลงไป แล้วตีให้ส่วนผสมขึ้นฟู
  3. ตั้งน้ำร้อน พอน้ำเดือด นำกะละมังขึ้นไปวางบนน้ำเดือด เพื่อให้ไข่แดงสุกครับ รวมทั้งให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากับไข่แดง ใช้ไฟอ่อนนะครับ เพื่อไม่ให้ไข่แดงสุกแข็ง ให้ค่อยๆ สุกแบบเนื้อเนียนๆ
  4. นำลงมาคนเพื่อคลายความร้อน แล้วเติมกลิ่นวนิลาลงไป เพื่อให้มีกลิ่นหอมและดับกลิ่นคาวของไข่ครับ
  5. เติมเหล้ารัม เพื่อช่วยเสริมรสทีรามิสุเราครับ
  6. หลังจากคนส่วนผสมเข้ากันแล้ว ให้เติมชีสมาสคาโปเน่ลงไปครับ แล้วใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  7. นำวิปปิ้งครีมมาตีให้ขึ้นฟู เนื้อเนียน แล้วนำไปผสมกับชีสที่ทำไว้ แล้วตะล่อมให้เข้ากัน เราก็ได้ในส่วนของชีสที่ใส่ด้านหน้าแล้วครับ
  8. นำน้ากาแฟมา เติมผงโกโก้เล็กน้อยให้มีกลิ่นไอของมอคค่าหน่อยๆ ครับ
  9. นำเลดี้ฟิงเกอร์จุ่มลงในน้ำกาแฟ แล้วใส่ในกล่องหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ครับ ให้เป็นฐาน
  10. ตักครีมชีสโปะด้านหน้าได้เลยครับ แล้วเอาเลดี้ฟิงเกอร์ที่ชุบน้ำกาแฟวางอีกชั้นและเหมือนเดิมครับ นำชีสโปะลงไปอีกครั้ง เท่ากับเราทำ 2 ชั้น นะครับ แล้วนำเข้าตู้เย็นไว้ก่อนครับ หลังจากเซ็ทตัวแล้ว นำออกมาแล้วโรยหน้าด้วยผงโกโก้ให้เต็มทั้งหน้า พร้อมเสริฟครับ

ใครที่เข้าใจว่าทีรามิสุเป็นขนมของชาวญี่ปุ่น ไม่ใช่นะครับ วิธีทำไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่ก็คุ้มนะครับถ้าทำเอง เพราะราคาต่อชิ้นในร้านเบเกอรี่ถือว่าสูงพอสมควรครับ