สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารนานาชาติ

สูตรไก่เทอริยากิ เมนูสุดปัง หอมกลิ่มซอสสไตล์ญี่ปุ่น

ไก่เทอริยากิ
ไก่เทอริยากิ

เหล่าสาวกคนที่รักอาหารญี่ปุ่นฟังทางนี้! วันนี้เรามีสูตรเมนูอาหารญี่ปุ่นอย่าง “ไก่เทอริยากิ” มาแนะนำ บอกเลยสูตรนี้ทุกคนไม่ควรพลาด ซึ่งสามารถทำเองได้ง่าย เราได้สูตรนี้มาจากแชลแนลยูทูปช่อง Devilishly Delicious Food เป็นเมนูที่ทำได้ง่ายๆ ไม่เหมือนใคร แถมอร่อยถูกปากคนไทยอีกด้วย

ส่วนผสมหลักของเมนูไก่เทอริยากิ

วัตถุดิบของการทำเมนูไก่เทอริยากิ มีไม่มากนัก หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป แถมยังประหยัดอีกด้วย เป็นอาหารญี่ปุ่นที่สามารถหาซื้อได้ง่ายๆตามเซเว่น แต่ถ้าเราได้มีโอกาสทำกินเองมันยิ่งจะทำให้การกินอร่อยเพิ่มขึ้นไปอีกแบบ แล้วยิ่งได้กินกับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ บอกเลยว่ามันฟินสุดๆ ไปเลย เรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนการทำกันเลยดีกว่าค่ะ

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. อกไก่ (ที่เอากระดูกออกแล้ว) 350 กรัม
  2. ซอสถั่วเหลือง 4 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำส้มสดแก้ว 1 แก้ว
  5. น้ำมันงา 2 ช้อนชา
  6. ขิง ใส่ได้ตามใจชอบ
  7. เนย ใช้ทากระทะเพิ่มกลิ่นหอม
  8. เมล็ดงา ใส่ได้ตามใจชอบ
  9. ต้นหอม ใส่ได้ตามใจชอบ
ไก่เทอริยากิ
ไก่เทอริยากิ

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. นำอกไก่ (อาจจะเป็นส่วนสะโพกไก่หรือปีกไก่ ก็ได้) หั่นให้มีขนาดปานกลางเท่าๆ กันและวางลงบนชามที่เตรียมไว้หมักไก่
  2. เริ่มหมักไก่ในชาม ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง น้ำผึ้งหวานหอม น้ำส้มคั้นสดๆ สุดท้ายก็ขูดขิงและเติมน้ำมันงาลงไป ทิ้งหมักไว้ประมาณ 30 นาที
  3. ตั้งกระทะย่างใช้ไฟปานกลาง หยอดน้ำมันพืชลงไปบนกระทะเล็กน้อย และนำไก่ที่หมักไว้ลงย่างให้สุกสีสักสวยงามและให้ได้กลิ่นหอมของน้ำหมัก จากนั้นนำขึ้นมาพักไว้
  4. ตั้งกระทะคั่วงาให้เกิดกลิ่มหอม แล้วพักไว้ เพื่อเตรียมโรยตอนปิดท้าย
  5. ตั้งกระทะทำน้ำซอสให้ไก่ที่เราย่างมีกลิ่มหอม เริ่มจากนำเนยมาละลายบนกระทะ จากนั้นเทน้ำหมักไก่ลงไปประมาณ 1 ถ้วยตวง
  6. นำไก่ที่ย่างไว้ลงไปใส่ในกระทะน้ำซอสทีละชิ้น จากนั้นผัดคลุกเคล้าไปมาจนน้ำซอสงวดลงไป แล้วนำออกจากกระทะ
  7. ขั้นตอนสุดท้ายจัดใส่จานแล้วโรยงาคั่วและต้นหอมซอยด้านบนเป็นอันเสร็จ

เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน สำหรับวิธีทำเมนูไก่เทอริยากิ เมนูง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้  เป็นเมนูยอดฮิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่หลายๆ คนต่างชื่นชอบ หรือใครเคยทัวร์ญี่ปุ่นก็อาจจะเคย ลิ้มรสเมนูนี้แล้ว สำหรับใครอยากดูวิธีทำแบบละเอียดๆ ก็สามารถตามไปชมที่คลิปของช่อง Devilishly Delicious Food ได้เลย ใครที่นำสูตรนี้ไปทำกินแล้วอย่าลืมแชร์ความอร่อยมาใครเราชื่นชมด้วยนะคะ

Categories
อาหารไทย

ซุปหน่อไม้ เมนูอาหารอีสาน สุดคลาสสิค ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

ซุปหน่อไม้
ซุปหน่อไม้

วันนี้เรามาชวนทุกคนเข้าครัวกับเมนูอาหารอีสานสุดแซ่บอย่าง “ซุปหน่อไม้” เมนูที่หลายๆ คนก็อาจจะเคยรู้จักกันมาบ้าง เป็นอาหารพื้นบ้านของคนอีสาน ที่สามารถหากินได้แทบจะทุกจังหวัด แต่มีวิธีในการปรุงซุปหน่อไม้ที่อาจจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละถิ่น แต่ก็ไม่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง มีรสชาติที่เข้มข้น เผ็ดแซ่บ หอมกลิ่นข้าวคั่วกับน้ำใบย่านาง ยิ่งใส่น้ำปลาร้าแซ่บนัวหอมๆ เสริมทัพด้วยการกินกับข้าวเหนียวร้อนๆ บอกเลยอร่อยจนต้องร้องว่า แซ่บอีหลีเด้อ! เป็นเมนูง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน ไม่รอช้าเราไปดูส่วนประกอบและขั้นตอนการทำกันเลย

ส่วนผสมหลักของเมนูซุปหน่อไม้

วัตถุดิบส่วนผสมของเมนู ซุปหน่อไม้ หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป เพียงแค่การเลือกซื้อหน่อไม่จะเป็น หน่อไม้ต้ม หรือหน่อไม้ดอง ควรเลือกซื้อแหล่งที่สะอาดและปลอดภัย เมื่อวัตถุของเราสะอาดทำอะไรก็อร่อยและดีต่อสุขภาพ เรามาดูส่วนผสมหลักๆ ในการทำกันเลย

  1. หน่อไม้ต้มหรือดอง ใส่น้ำใบย่านาง 2 ถ้วย
  2. พริกป่น หรือพริกสดก็ได้ ตามใจชอบ ใส่มากเผ็ดมาก ใส่น้อยเผ็ดน้อย
  3. น้ำปลาร้าต้ม 1/2 ช้อนโต๊ะ
  4. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มความหอม)
  7. น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  9. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  10. ใบสะระแหน่ 10 ใบ หรือตามใจชอบ
ซุปหน่อไม้
ซุปหน่อไม้

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. นำหน่อไม้กับน้ำใบย่านางใส่ลงไปในภาชนะสำหรับผสม
  2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้าต้ม น้ำมะนาว ชิมรสให้เปรี้ยวนำเค็มตามความชอบ
  3. เมื่อปรุงรสจนได้ที่แล้วใส่พริกป่น ข้าวคั่ว คลุกเคล้าผสมให้เข้ากัน
  4. จากนั้นจึงใส่ต้นหอมซอย ผักชีซอย ผักชีฝรั่งซอย และใบสะระแหน่ คลุกผสมเข้ากันอีกครั้ง พร้อมเสิร์ฟทันทีจะได้รสชาติที่สดใหม่และอร่อย

เป็นอย่างไรกันบ้างทุกคน เมนูซุปหน่อไม้ มีส่วนผสมไม่มาก แถมขั้นตอนการทำก็น้อย ประหยัดเวลาการทำอาหารไปได้เยอะเลย เมนูนี้อยู่คู่กับคนภาคอีสานมาตั้งแต่โบราณ ซุปหน่อไม้ก็มีรสชาติเหมือนๆ กับอาหารของภาคอีสานทั่วไป ที่มีรสจัดจ้าน และมีเครื่องปรุงหลักที่ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำปลาร้า เรียกได้ว่าชาวอีสานทุกครัวเรือน จะต้องมีน้ำปลาร้าประจำอยู่ในครัว และทุกครอบครัว ถือเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายอย่างหนึ่งของชาวอีสาน ซึ่งเมนูนี้ก็ทำกินง่ายๆ ได้ที่บ้าน หรือทำขายก็ขายดี เนื่องจากประชากรคนอีสานถือว่ามีจำนวนมากที่สุด เมื่อเทียบกับคนในแต่ละภาคของประเทศไทย และกระจัดกระจายไปทั่วไทย ทำขายที่จังหวัดไหนก็มีคนซื้อกินแน่นอน และเป็นเมนูง่ายๆ สบายๆ ใครก็ทำได้

Categories
ขนมหวานไทย

บ่ายมะขาม (มะขามกวน) เมนูขนมหวานขวัญใจคนอีสาน

บ่ายมะขาม (มะขามกวน)
บ่ายมะขาม (มะขามกวน)

มะขาม เป็นผลไม้ที่พบได้ทั่วไปในทุกๆ ภาค สามารถเติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 สายพันธุ์หลัก คือ มะขามหวาน และมะขามเปรี้ยว โดยมะขามหวานพบมีการปลูกเป็นแปลงใหญ่เพื่อส่งจำหน่ายในรูปผลสุกและนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายชนิด และมีการส่งเสริมสร้างรายได้ตั้งแต่ระดับครัวเรือน กลุ่มเกษตรกร ไปจนถึงแบบบริษัท และวันนี้เราขอแนะนำเมนูขนมหวานที่แปรรูปมาจากมะขามอย่างเมนู “บ่ายมะขาม (มะขามกวน)” เป็นเมนูขนมหวานจากจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่เป็นที่ชื่นชอบของคนอีสาน ซึ่งนิยมทานเล่นและบางคนก็นิยมกินกับข้าวเหนียว โดยคนอีสานส่วนใหญ่จะรับประทานข้าวเหนียวกับอาหารคาวและในเมนูขนมหวานบ้างเมนู บ่ายมะขามมีรูปแบบสองประเภทคือแบบแห้งที่สามารถเก็บไว้ได้นาน และแบบน้ำที่มีการเพิ่มน้ำกะทิลงไป

ส่วนผสมหลักของเมนูบ่ายมะขาม (มะขามกวน)

วัตถุดิบส่วนผสมหลักของเมนูขนมหวานบ่ายมะขาม (มะขามกวน) ก็คือ มะขาม โดยมะขามจัดเป็นผลไม้ที่พบได้ทุกภาคในประเทศไทย แต่จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องมะขามคงต้องยกให้กับจังหวัดเพชรบูรณ์ อีกทั้งมะขามกวนเพชรบูรณ์ก็ยังได้รับความนิยมทั่วประเทศ และยังมีมะขามกวนกาญจนบุรี ที่อร่อย โดยนิยมซื้อเป็นของฝาก เรามาดูส่วนผสม/อุปกรณ์และวิธีการทำกันเลยค่ะ!!

ส่วนผสมและอุปกรณ์การทำเมนูบ่ายมะขาม (มะขามกวน)

  1. เนื้อมะขามเปรี้ยวสุกสับละเอียด
  2. หัวกะทิ
  3. มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย
  4. แบะแซ
  5. น้ำตาลทราย
  6. นมข้นหวาน
  7. เกลือป่นเล็กน้อย
บ่ายมะขาม (มะขามกวน)
บ่ายมะขาม (มะขามกวน)

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ตั้งหม้อกวนโดยการผสมหัวกะทิ น้ำตาลทราย แบะแซ เคี่ยวพอกะทิแตกมัน แล้วใส่มะขามสับ เกลือป่น มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย นมข้นหวานกวนให้ส่วนผสมเหนียวและงวดลงขนาดพอปั้นได้
  2. ยกหม้อลงรอให้เย็น แล้วปั้นเป็นแท่งห่อด้วยพลาสติกใส จะเก็บไว้ได้นาน เวลาทานก็ปั้นข้าวเหนียวแบนๆ นำมะขามกวนใส่แล้วทานได้เลย หรือนำไปผสมกับน้ำกะทิ แล้วใส่น้ำแข็งก็อร่อยไปอีกแบบ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับเมนูบ่ายมะขาม (มะขามกวน) เป็นเมนูขนมหวาน ที่เป็นที่นิยมของคนภาคอีสาน ปัจจุบันชาวบ้านนำมะขามเปรี้ยวมาแปรรูปเป็นมะขามกวน ผลิตภัณฑ์ที่ ได้มีรสแปลกไปจากเดิม รสชาติอร่อย เปรี้ยวหวานมันกำลังดี เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค แถมยังมีประโยชน์มาก โดยมะขามกวน มีส่วนประกอบของน้ำตาล หัวกะทิ เนื้อมะพร้าวและนมข้นหวาน ซึ่งเป็นอาหารที่ให้สาร อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้พลังงาน ความเปรี้ยวของมะขามมีสารที่ช่วยระบายท้อง มีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอ่อนๆ จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติ

Categories
ขนมเบเกอรี่

วิธีทำ คุกกี้สิงคโปร์ เมนูที่เราคุ้นเคย ทำกินก็ง่าย ทำขายก็กำไรงาม

คุกกี้สิงคโปร์
คุกกี้สิงคโปร์

หากถามถึงเมนูขนมคุกกี้ หลายๆ คนคงจะนึกถึงคุกกี้เนยสดหรือคุกกี้ลูกเกดที่ใครๆ ก็ทำกัน  แต่วันนี้พิเศษสุด เราขอเชิญชวนทุกคนมาทำ “คุกกี้สิงคโปร์” คุกกี้ที่มีกลิ่นหอมจากการอบควันเทียน มีความกรอบร่วน รสชาติออกหวานๆเค็มๆติดปลายลิ้น มีความกรุบกรอบและรสมันของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ แต่ไม่ได้ถูกนำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์นะคะ ทำกินก็ง่าย ทำขายก็ได้กำไรงามคุ้มสุดๆ เป็นคุกกี้ที่ยืนหนึ่ง! ในทุกยุคทุกสมัย

ส่วนผสมหลักของคุกกี้สิงคโปร์

คุกกี้สิงคโปร์” เป็นคุกกี้สูตรดั้งเดิมที่คนไทยเป็นผู้คิดค้นนะคะ แต่สาเหตุที่ชื่อว่าคุกกี้สิงคโปร์ ก็เพราะวัตถุดิบในการทำเมนูคุกกี้ชนิดนี้มีแป้งมันสำปะหลังเป็นส่วนผสม และแป้งมันสําปะหลังในอดีตนั้น ก็ถูกนำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์นั่นเอง เมื่อทุกคนรู้ที่มาของชื่อแล้ว เรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำกันเลย!!

วัตถุดิบสำหรับคุกกี้สิงคโปร์

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 340 กรัม
  2. แป้งมัน 120 กรัม
  3. น้ำตาลไอซิง 160 กรัม
  4. เนยจืด 250 กรัม
  5. น้ำมันพืช 60 มิลลิลิตร
  6. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่ง 50 กรัม (หรือจะเปลี่ยนเป็นงาดำก็ได้)
  7. เทียนอบขนม 1 ชิ้น

วัตถุดิบทำไข่แดงสำหรับทาหน้าคุกกี้

  1. ไข่แดง 2 ฟอง
  2. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  3. กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
คุกกี้สิงคโปร์
คุกกี้สิงคโปร์

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. เปิดเตาอบเตรียมไว้ โดยใช้ไฟบน-ล่าง ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส
  2. ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ และแป้งมันลงในภาชนะผสม ตามด้วยน้ำตาลไอซิ่ง เนย และน้ำมันพืชลงในภาชนะผสม ใช้มีดสับเนยให้พอละเอียดแล้วใส่ลงในภาชนะผสม จากนั้นนวดส่วนผสมให้เข้ากันเป็นก้อนกลมๆ พักแป้งไว้ประมาณ 10-15 นาที
  3. นำแป้งที่พักไว้มารีดเป็นแผ่น หนาประมาณ 3/4 เซนติเมตร แล้วใช้ที่กดคุกกี้กดแป้งเป็นชิ้น วางเรียงบนถาดอบที่ปูกระดาษไขรองไว้
  4. นำไข่แดง เกลือป่น และกลิ่นวานิลา มาผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปทาหน้าคุกกี้ จากนั้นแปะเม็ดมะม่วงหิมพานลงหน้าคุกกี้ แล้วท่าส่วนผสมไข่แดงซ้ำอีกรอบ
  5. นำคุกกี้เข้าเตาอบด้วยไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 12 นาที นำคุกกี้ออกมาพักไว้ให้เย็น แล้วนำกลับไปอบอีกครั้ง ลดไฟลงให้เหลืออุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นเอาออกมาพักไว้จนเย็น
  6. นำคุกกี้ใส่หม้ออบควันเทียน จุดเทียนอบจนขนมหอมตามความต้องการ จากนั้นนำคุกกี้ใส่จานพร้อมเสิร์ฟหรือใส่ขวดโหลเอาไว้กิน แจก หรือขายก็ได้

เป็นอย่างไรบ้างกันคะทุกคน สำหรับวิธีทำเมนูขนมคุกกี้สิงคโปร์ ที่อร่อยกลมกล่อม กลิ่นหอมมัน รสหวานตัดเค็ม เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก จะทำทานเองในครอบครัวอร่อยดี หรือจะทำขายก็ขายได้ราคา เป็นขนมที่ไม่เคยตกเทรน เพราะในทุกยุคทุกสมัย แถมยังเก็บไว้ได้นานอีกด้วยนะคะ

Categories
อาหารสุขภาพ

ไก่นึ่งสมุนไพร เมนูง่ายๆ ดีต่อสุขภาพ ทานได้ทั้งครอบครัว

ไก่นึ่งสมุนไพร
ไก่นึ่งสมุนไพร

วันนี้เราจะพาทุกคนเข้าครัวไปทำเมนูเพื่อสุขภาพที่เป็นอาหารของคนทางภาษาเหนืออย่าง “ไก่นึ่งสมุนไพร” เป็นเมนูที่ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ที่น่าจะโดนใจใครหลายๆ คนที่เป็นสายรักสุขภาพนะคะ เมนูนี้ไม่ได้ใช้น้ำมันในการทำ แถมยังมีประโยชน์ เพราะส่วนผสมที่เราใช้ส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติ รสชาติอร่อยกลมกล่อม เผ็ดจัดจ้านโดนใจ และได้ลิ้มรสความนุ่มของเนื้อไก่ พร้อมกับกลิ่นหอมชวนน่ารับประทานของสมุนไพรที่เราใช้หมักให้เข้ากับเนื้อไก่ ยิ่งได้ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด บอกเลยว่าอร่อยถูกใจ ใครเห็นต้องน้ำลายสอแน่นอนค่ะ ปัจจุบันไก่นึ่งสมุนไพรได้รับความนิยมจากคนทุกภาคส่วนในประเทศไทย และยังมีการปรับปรุงให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนในแต่ละภาค เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำกันเลย!!

ส่วนผสมหลักของเมนูไก่นึ่งสมุนไพร

วัตถุดิบหลักของเมนูไก่นึ่งสมุนไพร เพื่อสุขภาพก็คือ อกไก่และสมุนไพรไทย ที่มีหลายหลาก อาทิเช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น สมุนไพรเหล่านี้จะช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้อาหารน่ากินยิ่งขึ้น เรามาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ

  1. อกไก่หรือชิ้นส่วนของไก่ที่คุณชอบ 4 ชิ้น
  2. ตะไคร้ 2 ต้น
  3. ใบมะกรูด 3 ใบ
  4. ข่า 1 แง่ง
  5. พริกขี้หนู 10 เม็ด
  6. กระเทียม 10 กลีบ
  7. รากผักชี 2 ราก
  8. หอมแดง 4 หัว
  9. น้ำปลาหรือเกลือ 1½ ช้อนโต๊ะ
  10. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
ไก่นึ่งสมุนไพร
ไก่นึ่งสมุนไพร

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. เริ่มทำเครื่องแกง โดยใส่พริกขี้หนู กระเทียม รากผักชี หอมแดง ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงในครก แล้วเริ่มโขลกสมุนไพรเข้ากันให้พอแหลก
  2. นำเครื่องแกงที่ตำไว้ มาใส่ในภาชนะผสม ใส่น้ำปลา และซอสหอยนางรมลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
  3. ใส่ไก่ลงไปคลุกกับเครื่องแกง แล้วหมักไว้ 15-20 นาที
  4. นำไก่ที่หมักเสร็จแล้ว ใส่ภาชนะเตรียมนึ่งด้วยไฟกลาง เวลานึ่งประมาณ 45 นาที
  5. ไก่เริ่มสุกให้เอาออกจากหม้อนึ่ง แล้วจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับเมนูไก่นึ่งสมุนไพร ทำง่ายไม่ยุ่งยาก แถมเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถทำกินได้ทั้งครอบครัวเลย ถ้าถามว่า เมนูไก่นึ่งสมุนไพรกี่แคล?  เราขอตอบว่าเมนูนี้แคลอรี่น้อยมาก เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก และคนรักสุขภาพ เมนูนี้อุดมไปด้วยโปรตีนชั้นดีที่ช่วยในการบำรุงธาตุ ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง คลื่นไส้อาเจียน ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี แก้ไอละลายเสมหะ และแก้ช้ำใน เรียกได้ว่าคุณสมบัติครบจบในเมนูเดียว

Categories
อาหารนานาชาติ

สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เมนูอาหารจานเดียวรสเด็ด ของสาวกคนรักเส้น

สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

เรียกได้ว่าเป็นเมนูยอดฮิตไม่ตกเทรนจริง ๆ กับเมนูปลาหมึกผัดไข่เค็ม วันนี้เราจึงได้หยิบยกเมนูนี้มาแนะนำทุกคนได้รู้จัก แต่เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ ในการทำอาหาร เราจึงได้นำสปาเก็ตตี้กับปลาหมึกผัดไข่เค็มรวมกัน เป็นอาหารจานเด็ดสุดพิเศษ และกลายมาเป็นเมนู “สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม”  เมนูทางเลือกสำหรับสาวกคนรักเส้น ที่เสิร์ฟพร้อมกับปลาหมึกเนื้อนุ่มๆ คลุกเคล้าไปด้วยไข่แดงเค็มมันๆ หอมๆ กับเส้นเหนียวนุ่ม แถมรสชาติปังสุดๆ เรามาดูส่วนผสมหลักกับขั้นตอนการทำกันเลย

ส่วนผสมหลักของเมนูสปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

จะเป็นอย่างไร? หากเมนูสปาเก็ตตี้มารวมอยู่ในจานเดียวกันกับเมนูไข่เค็ม พร้อมทั้งเสริมทัพด้วยปลาหมึกเนื้อนุ่มๆอย่าง สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เมนูที่ทำง่ายๆได้ที่บ้าน วัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป เรามาดูส่วนผสมหลักกับขั้นตอนการทำกันเลย

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. เส้นสปาเก็ตตี้ 100 กรัม
  2. เกลือ 1 ช้อนชา
  3. ไข่แดงเค็ม 3 ลูก
  4. ไข่เค็มหั่นชิ้น 1 ลูก
  5. น้ำเปล่า ⅓ ถ้วย
  6. พริกเผา 2 ช้อนชา
  7. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  10. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ปลาหมึกหั่นแว่น 350 กรัม
  12. ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1 ต้น
  13. ต้นหอมหั่นท่อน 1 ต้น
  14. พริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้น ไว้สำหรับตกแต่ง
  15. น้ำมันพืช ไว้สำหรับผัดเล็กน้อย
สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ตั้งหม้อใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำประมาณครึ่งหม้อ ใส่เกลือ รอจนน้ำเดือด จากนั้นใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไปต้มประมาณ 5 นาที เมื่อเส้นสุก ให้นำขึ้น แล้วนำไปล้างผ่านน้ำไหล แล้วพักไว้
  2. นำไข่แดงเค็มมาบดในถ้วย ผสมกับพริกเผา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  3. ให้คลุกเส้นสปาเก็ตตี้้พักไว้กับน้ำมันมะกอก เพื่อไม่ให้ตัวเส้นติดกันเป็นก้อน
  4. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง พอกระทะร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ ผัดจนพอเหลืองหอม
  5. ใส่ซอสไข่เค็มที่เตรียมไว้ลงไปผัด ตามด้วยปลาหมึกหั่นแว่น ไข่เค็มหั่นชิ้น ผัดจนปลาหมึกสุก และไข่แดงเค็มเคลือบปลาหมึกจนทั่ว
  6. ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ที่คลุกน้ำมันมะกอกลงไปในกระทะ แล้วผัดให้เข้ากันทั้งหมด
  7. ใส่ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ผัดให้เข้ากัน แล้วตักขึ้นจัดใส่จาน โรยด้วยพริกชี้ฟ้าแดงซอย พร้อมเสิร์ฟ

น่ากินมากๆ เลยใช่ไหมทุกคน สำหรับวิธีทำเมนูสปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เป็นเมนูประเภทผัดที่ถูกใจใครหลายๆ คนไม่ใช่น้อย และเรายังมี Tip แนะนำเพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังจะทำกิน นั่นก็คือ การผัดให้พอเข้ากัน อย่าผัดนาน เพราะอาจจะทำให้เส้นเละไดค่ะ ใครที่ทำเสร็จแล้วอย่าลืมส่งมาแชร์ความอร่อยกับเรากันนะคะ

Categories
อาหารไทย

ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ เมนูจานเด็ดหอมกลิ่นพริกแกงกับกุ้งตัวโตๆ

ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ
ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ

วันนี้ใครที่เข้าครัวทำอาหาร เราขอแนะนำอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยสูตรดั้งเดิม ที่ได้รับความนิยมให้ปัจจุบัน นั่นก็คือ “ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ” เป็นเมนูประเภทน้ำแกงข้นขลุกขลิกและหาทานได้ไม่บ่อยนัก มีรสชาติที่อร่อย หวานช่ำของเนื้อกุ้ง บวกกับรสชาติน้ำแกงเผ็ด เค็ม หวาน ครบเครื่องมากๆ หากกินกับข้าวสวยร้อนๆบอกเลยว่าฟินสุดๆ โดยปกติแล้วเมนูนี้นิยมนำ ปลาเนื้ออ่อน หรือปลาแม่น้ำมาทำฉู่ฉี่ แต่วันนี้เราจะทำฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ ที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนรสชาติจากฉู่ฉี่แบบธรรมดา

ส่วนผสมหลักของเมนูฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ

วัตถุดิบส่วนผสมเมนู ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ สามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งเมนูฉู่ฉี่ เราสามารนำเนื้อสัตว์ที่เราชื่นชอบมาประกอบอาหารได้ เช่น ไก่ หมู ปลา และกุ้งหมึก จะทำให้เมนูนี้แปลกใหม่ไปอีกแบบ และการที่เราทำพริกแกงเอง ก็จะยิ่งทำให้เมนูจานนี้อร่อยและพิเศษมากขึ้นไปอีก อย่ารอช้าตามเรามาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ

ส่วนผสมพริกแกงเผ็ด

  1. พริกชี้ฟ้าแห้งเอาเม็ดออกตามใจชอบ
  2. พริกขี้หนูแห้งเอาเม็ดออกตามใจชอบ
  3. กระเทียม 10 กลีบ
  4. หอมแดงซอย 7 หัว
  5. ข่าซอย 1 ช้อนชา
  6. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  7. รากผักชีสับ 1 ช้อนชา
  8. เกลือทะเล 1 ช้อนชา
  9. กะปิ 1 ช้อนชา

ส่วนผสมและเครื่องปรุงรส

  1. กุ้งแม่น้ำ 6 ตัว
  2. กะทิ 3 ถ้วย
  3. พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบตามใจชอบ
  4. ใบมะกรูดหั่นฝอย 4 ใบ
  5. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ผงปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ
ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. นำพริกชี้ฟ้าแห้ง พริกขี้หนูแห้งพร้อมเกลือทะเลลงไปในครกแล้วโขลกจนพริกแหลก ใส่ข่าและตะไคร้หั่น ตามลงไปแล้วโขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียว ตามด้วยตามด้วยหอมแดง กระเทียม รากผักชี กะปิ โขลกต่อจนพริกแกงเนียนเป็นเนื้อเดียวกันหรือจะนำไปปั่นก็ได้ จากนั้นพักไว้
  2. นำกุ้งแม่น้ำตัดหนวด ผ่าหลัง เอาเส้นดำออก จากนั้นนำกระทะขึ้นตั้งไฟใส่นำมัน รอจนน้ำมันเริ่มเดือด แล้วใส่กุ้งแม่น้ำลงไปทอดพอแค่ให้เนื้อกุ้งสุดกำลังดี แล้วตักออกมาพักไว้
  3. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ แล้วนำกะทิครึ่งหนึ่งไปลงไปผัดให้แตกมันตามด้วยน้ำพริกแกงที่ทำไว้ ลงไปผัดจนเครื่องแกงหอม จากนั้นเติมกะทิส่วนที่เหลือลง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลเคี่ยวต่อให้งวดพอได้ที่แล้วปิดไฟ
  4. จัดจานเรียงกุ้งที่ทอดไว้ให้สวยงาม จากนั้นตักน้ำแกงราดไปที่ตัวกุ้งที่เราจัดจานไว้ แล้วตกแต่งหน้าตาด้วยใบมะกรูดซอยและพริกชี้ฟ้า

เอาล่ะค่ะ เสร็จกันไปแล้วกับเมนูฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สูตรนี้บอกเลยว่าทำกินเองกับครอบครัวยิ่งอร่อย หรือทำขายก็ขายดิบขายดีเลยค่ะ และเราก็ดีสูตรเคล็ดที่ไม่ลับมาแนะนำทุกคนด้วย คือ การเลือกซื้อกุ้งที่ดี หัวกุ้งและลำตัวต้องไม่หลุดออกจากกันเนื้อต้องแน่นไม่เหลว เละ ถ้าจับส่วนหนวดกุ้งแล้วยกขึ้นหัวต้องไม่หลุดออกจากกัน ส่วนเราแนะนำกะปิแกงจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพราะจะได้รสชาติที่ดีกว่ากะปิตามตลาดทั่วไป

Categories
ขนมหวานไทย

ข้าวต้มมัด เมนูขนมหวาน จิตวิญญาณของคนอีสาน

ข้าวต้มมัด
ข้าวต้มมัด

ข้าวต้มมัด หรือ ข้าวต้มผัด เป็นขนมไทยโบราณตั้งแต่อดีต จนถึงสมัยนี้ก็ยังคงเห็นตามร้านขายขนม เป็นขนมที่ทำด้วยข้าวเหนียวผัดกับกะทิ แล้วนำไปห่อด้วยใบตองหรือใบมะพร้าวอ่อน ใส่ไส้กล้วย แล้วนำไปนึ่งให้สุก เมนูนี้ถือว่าเป็นจิตวิญญาณของคนอีสานเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นขนมยอดฮิตที่คนอีสานนิยมใช้เลี้ยงเวลามีงานทำบุญตักบาตร งานบวช ขึ้นบ้านใหม่ หรืองานแต่ง ถ้าจะกินแบบอร่อยๆ ต้องเป็นสูตรโบราณ ห่อใบตองแบบดั้งเดิม ในแต่ละภาคก็ใช้ชื่อเรียกที่แตกต่างกัน และมีวิธีการทำที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมภาคนั้นๆ เรามาดูส่วนผสมและวิธีการทำกันเลยค่ะ

ส่วนผสมหลักของเมนูข้าวต้มมัด

วัตถุดิบส่วนผสมของเมนูข้าวต้มมัด สามารถหาวัตถุดิบในการทำได้ง่ายในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังเป็นขนมที่นำข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยนำมาประยุกต์ ปรุงแต่งเป็นขนมหวาน จึงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษไทย การทำข้าวต้มมัดนั้น ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิด แต่เพียงรู้เคล็ดลับในการทำเท่านั้นคุณก็สามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันขนมต้มมัดมีการพัฒนาสูตรให้เข้ากับยุคสมัย เช่น ข้าวต้มมัดข้าวเหนียวดำ ข้าวต้มมัดไส้เผือก เป็นต้น เรามาดูส่วนผสมและอุปกรณ์ในการทำกันเลยค่ะ!!

ส่วนผสมสูตรข้าวต้มมัด

  1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงูใหม่ 800 กรัม
  2. กล้วยน้ำว้าสุก 10 ผล
  3. ถั่วดำ 100 กรัม
  4. ใบเตย 5 ใบ
  5. หัวกะทิ 3 ถ้วย (ใช้กะทิกล่องก็ได้)
  6. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  7. เกลือป่น 1 ช้อนชา

การเตรียมใบตองแบ่งออกเป็น 2 ส่วนในหนึ่งห่อ

  1. ใบตองชั้นแรก 8×9 นิ้ว
  2. ใบตองชั้นสอง 6×8 นิ้ว
  3. ตอกหรือเชือกสำหรับห่อ
ข้าวต้มมัด
ข้าวต้มมัด

ขั้นตอนวิธีการทำ

วิธีทำสูตรข้าวต้มมัดสอดไส้กล้วยน้ำว้า

  1. แช่ถั่วดำทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วนำมานึ่งให้พอสุก
  2. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วนำไปแช่น้ำ ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง เสร็จแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำพักไว้
  3. ตั้งกระทะใส่กะทิ ใบเตยลงไปเปิดไฟแรงปานกลาง เมื่อกะทิเริ่มเดือด ตักใบเตยออกแล้วใส่เกลือกับน้ำตาลลงไป
  4. ลดไฟลงใส่ข้าวเหนียวลงไปผัดกับกะทิ ผัดไปในทิศทางเดียวกัน ผัดจนข้าวเหนียวแห้ง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที พอข้าวเหนียวเริ่มแห้งก็ปิดไฟ พักข้าวเหนียวไว้ให้เย็น
  5. ปอกกล้วยแล้วผ่าครึ่งเตรียมไว้ วางใบตองประกบด้านสีอ่อนของใบตองเข้าหากัน ใบใหญ่ไว้ข้างนอกใบเล็กไว้ข้างใน
  6. ใส่ข้าวเหนียวลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใช้ช้อนเกลี่ยข้าวเหนียวให้แบน จากนั้นก็วางกล้วยลงไปตรงกลางและปิดด้วยข้าวเหนียวอีกที โรยหน้าด้วยถั่วดำ
  7. ห่อใบตองให้แน่นแล้วมัดด้วยตอกหรือเชือก นำข้าวต้มไปเรียงใส่หม้อนึ่ง นึ่งด้วยไฟแรงใช้เวลา 20 นาที เมื่อเสร็จแล้วก็ปิดไฟยกหม้อนึ่งลงพักไว้ และจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับเมนูขนมหวานอย่างข้าวต้มมัด เป็นเมนูที่พอเรารู้เคล็ดลับก็ทำให้วิธีทำข้าวต้มมัดเป็นเรื่องง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน แต่ต้องใช้เวลานานหน่อย เพราะต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำ

Categories
ขนมเบเกอรี่

วิธีทำ ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด เมนูเอาใจวัยรุ่นสายหวาน สอดไส้นมฉ่ำๆ

ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด
ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด

ถ้าพูดถึงเมนูเบเกอรี่ยอดฮิต ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นตอนนี้ หลายคนคงจะนึกถึงเมนูขนมปังเนยสด ที่สอดไส้นมทะลักฉ่ำๆ แล้วทาด้วยเนยบางๆ แค่นึกถึงก็น้ำลายไหลแล้วค่ะ แต่ในวันนี้พิเศษหน่อยเราขอนำเสนอสูตรขนมปังเนยสดสุดพิเศษอย่าง“ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด” เมนูขนมหวาน ที่อัดแน่นไปด้วยความเข้มข้นของช็อกโกแลตอัดแน่น และความหวานมัน ใครได้ลิ้มลองจะต้องติดใจอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งสูตรนี้เราได้มาจาก

ส่วนผสมหลักของขนมปังช็อกโกแลตเนยสด

โดยทั่วไปวัตถุดิบที่สำคัญในใช้ทำขนมปังเนยสดก็คือ แป้งขนมปังและไส้เนยสด แต่ความพิเศษของ “ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด” คือการผงโกโก้ลงไปในตัวแป้งขนมปัง เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและความแปลกใหม่จากเดิม แถมความอร่อยเพิ่มขึ้น รอช้าอยู่ใย เรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำกันเลย!!

ส่วนผสมตัวแป้งขนมปัง

  1. แป้งขนมปัง 220 กรัม
  2. แป้งเค้ก 80 กรัม
  3. ผงโกโก้ 35 กรัม
  4. ยีสต์แห้ง 6 กรัม
  5. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  6. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  7. ข้นจืด 60 กรัม
  8. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  9. น้ำอุ่น 120 มิลลิลิตร
  10. เนยจืด 20 กรัม

ส่วนผสมตัวไส้

  1. นมสด 230 มิลลิลิตร
  2. นมข้นหวาน 70 กรัม
  3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  4. กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  5. แป้งข้าวโพด 15 กรัม
  6. เนยจืด 10 กรัม

ส่วนผสมเนยสด

  1. เนยจืด 200 กรัม
  2. นมข้นหวาน 50 กรัม

ขั้นตอนวิธีการทำ

วิธีการผสมแป้งขนมปัง

  1. ร่อนแป้ง ผงโกโก้ และเกลือ ผสมกับน้ำตาลทรายและยีสต์ แล้วคนให้เข้ากัน
  2. ผสมข้นจืด ไข่ไก่ และน้ำอุ่น แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ เทส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมของแห้งสลับกับนวดให้เข้ากันทีละนิด จนเข้ากันดี
  3. ใส่เนยจืดลงในแป้ง นวดจนเข้ากัน พักไว้ 40 – 60 นาที จนแป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า
ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด
ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด

วิธีการผสมไส้ และแบ่งแป้งขนมปัง

  1. ตั้งไฟอ่อนใส่นมสด นมข้นหวาน ตรามะลิ ตามด้วยแป้งข้าวโพดละลายน้ำเล็กน้อย คนจนกว่าส่วนผสมจะมีความข้นได้ที่ จากนั้นใส่เนยจืดลงไป ตั้งพักไว้จนส่วนผสมเริ่มอุ่น
  2. ใส่ไข่ไก่ (ไข่แดง 2 ส่วน และไข่ขาว 1 ส่วน) และกลิ่นวานิลลาลงไปในส่วนผสมข้างต้น(ข้อ1) คนให้เข้ากันแล้วเปิดไฟอ่อนๆ จากนั้นคนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นหนืด แล้วนำไปใส่ถุงบีบและแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น
  3. นำแป้งที่ขึ้นฟูแล้วมาแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ ใส่ในภาชนะที่ทาเนยเอาไว้ แล้วนำแป้งไปพักอีกครั้งประมาณ 40 – 60 นาที จนขนาดแป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า

วิธีการอบและใส่ไส้เนยสด

  1. ผสมเนยจืด กับนมข้นหวาน แล้วตีด้วยความเร็วสูงจนเนยมีสีอ่อนลง
  2. ทานมผสมเนยบนแป้ง ก่อนนำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที
  3. เมื่อแป้งสุกพอดีแล้ว ให้นำมาเจาะรูข้างบน แล้วบีบไส้จากถุงบีบที่แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นลงไป จากนั้นทาด้วยเนยสดที่ตีไว้ด้านบนขนมปัง
  4. โรยผงโกโก้บนขนมปังอีกที แล้วจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

และแล้วเราก็ได้ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด ขนมปังไส้ทะลักที่แสนอร่อย หวานมันและเข้มข้น หากใครเบื่อไม่อยากกินไส้เนยสดก็สามารถซื้อไส้ช็อกโกแลตสำเร็จรูป มาใส่แทนได้นะคะ มันก็จะเพิ่มความเข้มข้นไปอีกแบบหรือจะเป็นไส้อื่นๆ ก็ได้ ตามความชอบเลยค่ะ

Categories
อาหารสุขภาพ

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เมนูเพื่อสุขภาพแถมยังอิ่มท้อง กินคู่กับน้ำจิ้มฟินสุดๆ

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

วันนี้เอาใจคนหนุ่มสาว หรือใครที่กำลังควบคุมน้ำหนัก แต่ไม่อยากพลาดความอร่อย เรามีเมนูเฮลธ์ตี้ คลีนๆ มาแนะนำอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน” เป็นเมนูที่ทำง่ายๆ ที่มีคาร์โบไฮเดรตไม่มาก ไม่ทำให้อ้วน อร่อยถูกปากใครหลายๆ แถมยังอิ่มท้อง และราคาถูกอีกด้วย หากทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดจะยิ่งเพิ่มความอร่อยขึ้นไปอีกระดับ เกริ่นมาขนาดนี้แล้วเรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำกันเลย!!

ส่วนผสมหลักของเมนูก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน” อาหารประเภทเส้น เป็นเมนูที่ทำง่าย และเป็นเมนูอาหารที่ได้ประโยชน์จากสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่เลยค่ะ ทั้งคาร์โบไฮเดรต จากเส้นก๋วยเตี๋ยว โปรตีนจากเนื้อสัตว์ และวิตามิน จากผักต่างๆ ครบจบในจานเดียวเลยค่ะ เมนูนี้ถูกสามารถเลือกใส่เนื้อสัตว์ที่ชอบได้ เช่น ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูยอ เป็นต้น นอกจากวัตถุดิบส่วนผสมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญมากไม่แพ้กันก็คือการทำน้ำจิ้มสำหรับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนนั่นเอง ถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบหลักๆ เลยที่ทำให้เมนูนี้อร่อยมากยิ่งขึ้น เรามาดูวัตถุดิบส่วนผสมกันเลย!!

  1. ซีอิ๋วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  2. เนื้อหมูสับ 1/2 กิโลกรัม
  3. แครอทหั่น 1/4 ถ้วยตวง
  4. เห็ดหูหนูสดหั่น 1/2 ถ้วยตวง
  5. แผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ 1 กิโลกรัม
  6. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  7. เห็ดหอมส่วนดอกแช่น้ำหั่น 1/4 ถ้วยตวง
  8. ผักชีไทย 5 ต้น
  9. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  10. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  11. รสดี รสหมู 2 ช้อนโต๊ะ
  12. โหระพา 7 กิ่ง
  13. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  14. ไชโป๊วหวานสับหยาบ 1/4 ถ้วยตวง
  15. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  16. ผักกาดหอม
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

ส่วนผสมและเครื่องปรุงน้ำจิ้ม

  1. กระเทียมกลีบเล็กหั่นหยาบๆ 20 กลีบ
  2. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  3. พริกขี้หนูสวนสีเขียวซอย 20 เม็ด
  4. ใบโหระพาซอยหยาบๆ 1/2 ถ้วยตวง
  5. พริกขี้หนูแบบยาวสีเขียวซอย 10 เม็ด
  6. น้ำเชื่อม (น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง ต้มจนน้ำละลาย พักให้เย็น)
  7. น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. วิธีทำไส้ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
  • เริ่มแรกให้หมักหมูกับรสดี ซีอิ๋วขาว พริกไทย และน้ำตาลทราย นวดให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 15 นาที
  • ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอเริ่มร้อน นำหมูที่หมักไว้ลงไปผัดพอสุก แล้วใส่ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และรสดี ผัดคลุกเคล้าให้ทั่ว ใส่เห็ดหอม เห็ดหูหนู แครอทและไชโป๊ว ผัดต่อจนเข้ากันดี ให้น้ำแห้ง ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น
  1. วิธีการห่อแผ่นก๋วยเตี๋ยว
  • นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่นึ่งแล้วมาพับครึ่ง ขนาด 12×18 นิ้ว ตัดบริเวณตรงปลายออก 4 นิ้ว จะได้ขนาด 8×8 นิ้ว ทำห่อแบบปอเปี๊ยะทอดจะได้ประมาณ 10 ชิ้น
  • วางแผ่นก๋วยเตี๋ยวลงบนแผ่นพลาสติก วางผักกาดหอมลงตรงกลาง โดยให้เหลือริมแผ่นไว้ข้างละ 2 นิ้ว วางเรียงไส้ตามลำดับ คือ โหระพา ผักกาดหอม ผักชี วางให้เสมอใบผักกาด ตักไส้ที่ผัดไว้ใส่พอประมาณแล้วจึงเกลี่ยให้ทั่วแผ่น
  • พับแผ่นก๋วยเตี๋ยวด้านข้างทั้ง 2 ด้านมาทับบนไส้ แล้วพับแผ่นก๋วยเตี๋ยวด้านล่างขึ้นทับพร้อมด้วยลอกแผ่นพลาสติก ค่อยๆ ม้วนให้แน่น วางเรียงบนจานเสิร์ฟ แล้วใช้มีดหั่นตามขวางพอคำ
  1. วิธีการทำน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
  • ปั่นกระเทียม ใบโหระพา พริกขี้หนูทั้งหมดให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ในชาม เติมน้ำเชื่อม เกลือ คนให้เกลือละลาย ชิมรสเปรี้ยวเค็มหวาน
  • น้ำจิ้มสามารถทำไว้ล่วงหน้าได้ โดยใส่ขวดแก้วแช่ในตู้เย็น รุ่งขึ้นน้ำจิ้มจะเข้มข้น ไม่มีกลิ่นใบโหระพา