สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมเบเกอรี่

ทาร์ตไข่ รสกลมกล่อม เนื้อเนียน อร่อยจริง ๆ

ทาร์ตไข่

ทาร์ตไข่ หอมเนยยั่ว ๆ อร่อยทุกครั้งเวลาที่ได้ลิ้มลอง วันนี้เรามีสูตรการทำง่ายๆมาแจก แต่จะอร่อยกว่า สูตรทาร์ตไข่ kfc หรือไม่ ต้องลอง

ส่วนผสม ทาร์ตไข่ 

ทาร์ตไข่เมนูขนมหวานฮิตติดลมบน ตามร้านเบเกอรี่นิยมทำขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบในการรับประทานขนมเมนูนี้ ด้วยกลิ่นหอม ๆ จากเนยสดและไข่แดงที่ผ่านการอบมาแล้วเป็นอย่างดี ก็ยิ่งทำให้การกัดกินขนมเมนูนี้ เป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น ทำให้ แอดมินไม่รอช้า ขอนำเสนอแนวทางการทำดังนี้

ทาร์ตไข่

และคำถามที่ว่า ถ้าจะซื้อทาร์ตสำเร็จรูปและคาราเมลราดสำเร็จรูปมาจากร้านจำหน่ายอุปกรณ์เบเกอรีรวมถึงร้านค้าส่งขนาดใหญ่ เป็นความคิดที่ดีหรือเปล่า ? ถ้าจะซื้อมา ก็ไม่ผิด เพราะจะทำให้ ทาร์ตไข่ มีขั้นตอนการทำที่น้อยลงมาอีก

วัตถุดิบในการทำทาร์ตไข่

ส่วนผสม แป้งพาย

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/2 ถ้วยตวง
  •  น้ำมันหมู 1/4 ถ้วยตวง
  •  เนยสด 1/4 ถ้วยตวง
  •  เกลือ 1/2 ช้อนชา
  •  น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ
  •  ไข่แดง 1 ฟอง
  •  น้ำเปล่า 1-2 ช้อนโต๊ะ
ทาร์ตไข่

ส่วนผสม ไส้คัสตาร์ด

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำมันหมู 1/4 ถ้วยตวง
  • เนยสด 1/4 ถ้วยตวง
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่แดง 1 ฟอง
  • น้ำเปล่า 1-2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 แป้ง เกลือ น้ำตาลไอซิ่ง นำมาผสมเข้าด้วยกัน

ขั้นตอนที่ 2 ทำหลุมแป้งเป็นบ่อตรงกลางไว้ ใส่น้ำมันหมู จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันหรือจะซื้อ ทาร์ตไข่ สำเร็จรูป

ขั้นตอนที่ 3 แป้งทาร์ตไข่

นำเนยสดมาตัดให้เป็นขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ตามด้วยไข่แดง แล้วเทน้ำเย็นจัดลงไป ตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำแป้งไปพักไว้ที่ตู้เย็น 2 ชั่วโมง

ขั้นตอนที่ 4 นำกะละมังที่ใหญ่กว่าโถผสม ตั้งไฟ 

ขั้นตอนที่ 5 นำไข่และน้ำตาลลงในโถที่วางอยู่บนกะละมังที่ร้อนจัด คนให้ส่วนผสม ละลายเข้ากัน ตามด้วยนมสดรสจืด วานิลลา เกลือ

ทาร์ตไข่

ขั้นตอนที่ 6 กรองครีมคัสตาร์ดด้วยกระชอน เพื่อเพิ่มความเนียนให้กับครีมคัสตาร์ด จากนั้น พักครีมคัสตาร์ดจนเนื้อเย็น

ขั้นตอนที่ 7 นำแป้งพายมากรุในถ้วย ให้ขอบแป้งสูงกว่าขอบถ้วยขึ้นมาเล็กน้อย แล้วนำไส้คัสตาร์ดที่เตรียมไว้มาหยอดในถ้วย

ขั้นตอนที่ 8 วอร์มเตา 220 องศา เปิดไฟบนล่าง จากนั้นถึงนำทาร์ตไปอบ ใช้เวลาอบ 20 นาที แป้งก็สุกแล้ว ในส่วนน้ำเชื่อมคาราเมลทาหน้าทาร์ตไข่ สามารถซื้อสำเร็จรูป โดยนำน้ำเชื่อมคาราเมลทาหน้าทาร์ตไข่ จากนั้น เข้าเตาอบอีกครั้ง ใช้แต่ไฟบน หน้าขนมก็สุกแล้ว เตรียมรับประทานได้

ทาร์ตไข่

ทาร์ตไข่เมนูขนมเบเกอรี่อร่อย ๆ กินคู่กับชาร้อน ช่างแสนสุขใจนัก ใครอยากเข้าครัว ลองทำด้วยตัวเองสักครั้ง บอกเลย สูตรนี้สามารถทำได้ ทำแล้วอร่อย จนต้องกินซ้ำ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมเบเกอรี่

ชูครีม ไส้แน่น อร่อยอุ่น ๆ กินได้เรื่อย ๆ 

ชูครีม

วันนี้เราจะมาแจกสูตรขนมหวานอย่าง ชูครีม ที่คุณสามารถทำตามได้ง่ายๆ แถมสูตรนี้ยังรับประกันความอร่อย ทำออกมาแล้วอร่อยเหมือนที่ร้านแน่นอน

ส่วนผสมในการทำ ชูครีม

ลักษณะของชูครีม จะเป็นลูกกลม ๆ มีไส้อยู่ข้างใน หลายคนเรียกขนมนี้ว่าแอแคล์ แต่จะเรียกแบบไหน ? เรียกตามถนัดได้เลย เพราะกินแล้ว ก็อร่อย เหมือน ๆ กัน โดยวันนี้ มีเคล็ดลับทำขนมมาฝากดังนี้

ชูครีม

ส่วนผสม ไส้คัสตาร์ดครีม

  • นมสด 2 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) 1/4 ถ้วยตวง
  • เกลือป่นหยิบมือ
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • ไข่แดง 4 ฟอง เบอร์ 1 
  • น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) 1/4 ถ้วยตวง
  • แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วยตวง
  • เนยสดชนิดจืด (นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ประมาณ 30 กรัม )
ชูครีม

ส่วนผสมแป้ง ชูครีม

  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • เนยสด 110 กรัม
  • แป้งอเนกประสงค์ 1 1/4 ถ้วย (ร่อนเตรียมไว้)
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง

วิธีทำ

ชูครีม

1.เทนมสดลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ประมาณ ¼ ถ้วย เกลือป่น และกลิ่นวานิลลา จากนั้น นำไปตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อน อุ่นพอให้ร้อน แล้วยกลงจากเตาได้เลย

2.แยกไข่แดงมาตีกับน้ำตาลทรายส่วนที่ 2 ประมาณ ¼ ถ้วย ใช้หัวตีตะกร้อตีจนไข่แดงและน้ำตาลเป็นสีเหลือง ในการจะทำชูครีม ให้อร่อย ใส่แป้งข้าวโพด จากนั้น คนผสมให้เข้ากัน

3.เทนมอุ่นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ผสมกับไข่แดงและน้ำตาลที่เราเตรียมไว้ในหัวข้อที่ 2 คนให้เข้ากัน

4.เทส่วนผสมในข้อที่ 3 กลับลงในหม้ออีกครั้งจากนั้นนำไปอุ่นบนเตาอีกครั้ง

ชูครีม

5.ใช้ไฟอ่อน และคอยคนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมทั้งหมดดูข้น ไม่ต้องเร่งไฟ เพราะจะทำให้ครีมที่จะนำมาทำชูครีม แอแคล์ ไหม้ได้

6.กวนจนส่วนผสมได้ที่ เทเนยสดลงไปในหม้อ เป็นเนยที่เราหั่นเป็นชิ้น ๆ กวนหรือคนให้เข้ากัน จากนั้น นำพลาสติกถนอมอาหารมาปิดไว้ รอกระทั่งไส้คัสตาร์ดเย็น

7.เทน้ำลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาล เกลือป่น เนยสด ต้มจนเดือด

8.ใส่แป้งที่เราได้ร่อนเอาไว้แล้วลงในหม้อ คนจนส่วนผสมแป้งไม่ไปติดกับหม้อ นำออกมาจากเตา

ชูครีม

9.นำแป้งที่คลายร้อนแล้ว ตามด้วยไข่ไก่ทีละฟอง แล้วคนให้เข้ากัน แล้วตักแป้งใส่ถุงบีบ จัดการบีบออกมาเป็นก้อน ๆ แล้วเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศา ใช้ทั้งไฟบนไฟล่าง อบ 10 นาที แล้วลดไฟเหลือ 180 องศาเซลเซียส อบต่อ 10 นาที

10.นำขนมออกมาจากเตา พักให้เย็น เจาะรูตรงบริเวณก้นขนม บีบไส้ครีมที่อยู่ในถุงบีบลงในตัวแป้ง ก็เสร็จแล้ว

เชื่อว่าเด็ก ๆ หลายคนน่าจะชอบเมนูนี้ เพราะกินง่าย และยังอร่อยอีกด้วย ใครที่นิยมชมชอบในขนมเบเกอรี อย่าพลาด สูตรนี้ ประกันความอร่อย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมเบเกอรี่

คุกกี้ สิงคโปร์ อร่อย ทำขายได้ กำไรดี 

คุกกี้ สิงคโปร์

คุกกี้ สิงคโปร์ อร่อยและมีคุณค่า ทำกินเอง อร่อยเท่า คุกกี้สิงคโปร์ เจ้าอร่อย หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้เช่นกัน

คุกกี้ สิงคโปร์ ส่วนผสมในการทำ

คุกกี้ สิงคโปร์

คุกกี้มีหลายแบบ เช่น คุกกี้เนย คุกกี้บราวนี่ คุกกี้ช็อคโกแลต และนี่เลย คุกกี้สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งคุกกี้ที่ให้กลิ่นอายของความเป็นคุกกี้ที่หอม กรุบ ๆ อร่อย ได้ประโยชน์จากเม็ดมะม่วงหิมพานต์รวมถึงไข่แดงที่นำมาทาหน้าคุกกี้ เหมาะสมนำมากินในช่วงพักเบรคเป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของเหตุผล ทำไมเรียกคุกกี้นี้ว่า คุกกี้สิงคโปร์ มาจาก สมัยก่อน เวลาทำคุกกี้ชนิดนี้ ใช้แป้งมันที่นำเข้าจากสิงคโปร์มาทำคุกกี้ เลยเป็นที่มาของชื่อคุกกี้ ทั้งที่แท้จริงแล้ว ไม่ได้มาจากสิงคโปร์

วัตถุดิบ

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 340 กรัม
  • แป้งมัน 120 กรัม
  • น้ำตาลไอซิง 160 กรัม
  • เนยจืด 250 กรัม
  • น้ำมันพืช 60 มิลลิลิตร
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่ง 50 กรัม
  • เทียนอบขนม 1 ชิ้น
  • วัตถุดิบไข่แดงสำหรับทาหน้า
  • ไข่แดง 2 ฟอง
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา 

วิธีทำ

คุกกี้ สิงคโปร์

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมวอร์มเตา ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 160 องศาเซลเซียส ทั้งเตาบนเตาล่าง ในระหว่างนั้นเตรียมทำ คุกกี้สิงคโปร์ โดยผสมแป้งกับไข่แดง สำหรับทาหน้า 

ขั้นตอนที่ 2 นำเนยที่เตรียมไว้มาตีจนเนยขึ้นฟู ในส่วนของน้ำตาลไอซิ่ง ให้ทยอยเท ตีให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นนำแป้งสาลีเอนกประสงค์ กับ แป้งมัน นำมาร่อนรวมกันลงในอ่างที่ตีเนยกับน้ำตาลไอซิ่งเป็นวิธีการทำ คุกกี้สิงคโปร์ สูตร อร่อย

ขั้นตอนที่ 3 เทน้ำมันลงในอ่างผสม นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ 15 นาที วิธีทำขั้นตอนต่อมา

คุกกี้สิงคโปร์ วิธีทำ นำ ไข่แดง เกลือป่น กลิ่นวานิลลา ตีและผสมหรือนวดให้เข้ากันอีกครั้งแล้วพักไว้

ขั้นตอนที่ 4 มาถึงขั้นตอนการอบ นำแป้งที่เตรียมไว้ มารีดเป็นแผ่น ความหนาอยู่ที่ 1 ซม.

คุกกี้ สิงคโปร์

ขั้นตอนที่ 5 นำที่กดคุกกี้ที่เตรียมไว้ โดยให้ความห่างของคุกกี้ ห่างกัน 1 ซม จากนั้นนำคุกกี้มาจัดเรียงลงในถาดที่วางกระดาษไขเอาไว้แล้วก่อนหน้านั้น

ขั้นตอนที่ 6  นำไข่แดงมาทาหน้าคุกกี้ แล้ววางเมล็ดมะม่วงหิมพานต์บนคุกกี้ ทาไข่แดงซ้ำ

ขั้นตอนที่ 7 นำคุกกี้เข้าเตาอบ ใช้อุณหภูมิในการอบอยู่ที่ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที แล้วนำออกมาจากเตาอบ จากนั้น พักให้เย็น เตรียมรับประทานได้เลย

คุกกี้ สิงคโปร์

การรับประทานคุกกี้ให้อร่อย ควรรับประทานคู่กับชาร้อน ๆ เหมาะกินยามว่าง เป็นของว่าง ของฝากที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ใครที่อยากกินคุกกี้ โดยไม่ต้องไปไกลถึงสิงคโปร์ ต้องลองนำสูตรดังกล่าวไปทำดู สูตรนี้ ทำได้จริง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย ขนมเบเกอรี่

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ เมนูอาหารว่าง ทำขายก็ปัง

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ ขนมไทย แต่ชื่อกลับไม่ไทย เป็นขนมหน้าโรงเรียนที่ใครต่างก็ชอบกิน วันนี้ขอนำเสนอ สูตรโตเกียวโบราณ เตรียมอะไรบ้าง ดูไปด้วยกัน

ส่วนผสมในการทำ โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ เป็นอีกหนึ่งขนมที่มีความแปลก นำมากินเล่นในยามว่าง ช่วงพักเบรค หรือรองท้องตอนหิว ทว่า ในขณะเดียวกัน ความที่ขนมชนิดนี้ มีจำนวนไส้หลายแบบ ทั้งไส้หวานและไส้เค็ม โดยเฉพาะไส้เค็มที่ถึงขั้น ได้มีการนำไส้กรอกหรือไข่นกกระทามาทำไส้ขนมโตเกียว กินเข้าไปครั้งใด เรียกได้ว่า อิ่มจนไม่ต้องง้อข้าว แล้วแบบนี้ จะไม่ลองเข้าครัวหัดทำขนมโตเกียวกันหรือ

วัตถุดิบโตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ วัตถุดิบที่จะนำมาทำโตเกียวสังขยา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก แป้งทำขนมโตเกียว ส่วนที่ 2 ไส้สังขยา โดยมีวัตถุดิบต้องเตรียมดังนี้

วัตถุดิบ ทำตัวแป้ง

  • ไข่ไก่จำนวน 4 ฟอง
  • แป้งสาลีเอนกประสงค์ ประมาณ 195 กรัม
  • น้ำตาลทราย 180 กรัม
  • น้ำประมาณ 3/4 ถ้วยตวง
  • เบคกิ้งโซดา 1 ชช
โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

ส่วนผสม สำหรับทำไส้ขนมโตเกียว

  • ไข่ไก่จำนวน 4 ฟอง
  • น้ำตาลทรายขาว 120 กรัม
  • เนยยี่ห้อใดก็ได้ 1 1/2 ชต.
  • นมประมาณ 3/4 ถ้วยตวง
  • แป้งข้าวโพดประมาณ 3 ชต.
  • เกลือป่น 1/2 ชช.
  • กลิ่นวานิลา 1 ชต.

วิธีทำ

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

ขั้นตอนที่ 1 ผสมแป้งเอนกประสงค์กับเบคกิ้งโซดา จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไป คนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี ตอกไข่ไก่พร้อมกับใส่น้ำตาลลงไปในอ่างผสม ขั้นตอนนี้ ต้องคนส่วนผสมดังกล่าวกระทั่งน้ำตาลละลาย ดูเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเตรียมขั้นตอนต่อไปในการทำโตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

ขั้นตอนที่ 2 เตรียมชามผสมอีกใบ เพื่อทำ โตเกียวนิ่มไส้สังขยา เริ่มจาก ตอกไข่ลงในชามผสมที่เตรียมไว้ ตามด้วยน้ำตาลทราย ต้องตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายให้ละลาย แล้วเทนมอุ่น ๆ ลงไป คนส่วนผสมดังกล่าวให้เข้ากันอีกครั้ง นำขึ้นตั้งไฟ กวนจนส่วนผสมทั้งหมดข้นและเหนียวจับเป็นก้อน ตามด้วยเนย และทำการคนส่วนผสมอีกครั้ง เมื่อพบว่า เข้ากันดีแล้ว ยกลงจากเตา พักให้เย็น

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

ขั้นตอนที่ 3 นำส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้แล้ว ละเลงในกะทะที่กำลังร้อน โดยกะทะที่เลือก ควรเป็นกะทะแบน ก่อนใส่ไส้สังขยา รอจนแป้งสุก เมื่อแป้งสุกแล้ว ตักไส้ขนมใส่บนตัวแป้ง แล้วทำการม้วนปิด แซะออกมาจากกะทะแบนและนำมารับประทาน

เคล็ดลับง่าย ๆ กินขนมโตเกียวให้อร่อย ต้องกินตอนขนมยังร้อน ๆ กินกับชาร้อน อร่อยลงตัวนัก

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

โตเกียวสังขยาสูตรโบราณสามารถหาซื้อจากตลาดนัดใกล้บ้าน ซึ่งก็จะมีหลายไส้ด้วยกัน ทั้งไส้หวานอย่างไส้สังขยาที่กำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ ไปจนถึงไส้เค็มอย่าง ไส้ไข่นกกระทา ไส้กรอก อยู่ที่ว่า ใครพร้อมในวัสดุชนิดใด ดังนั้น ขนมโตเกียวถึงเป็นอีกหนึ่งขนมที่นำมามิกซ์แอนด์แมทข์ปรับเปลี่ยนไส้ได้ตลอดเวลา ทำให้การกินขนมโตเกียว มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://gclubspecial168.com เว็บพนันด้านกีฬาออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยม

Categories
ขนมเบเกอรี่

โดนัทนมสด อวบอ้วน เนื้อนุ่มเข้มข้น น่ากิน

โดนัทนมสด

โดนัทนมสด อร่อย เข้มข้น หอม ๆ มัน ๆ โดนใจเหมือนกิน โดนัทดังกิ้น จะมีขั้นตอนทำอย่างไร มาดูกัน

ส่วนผสมในการทำ โดนัทนมสด

โดนัทนมสด เรียกได้ว่าเป็นการนำความชื่นชอบในการรับประทานนมสดมามิกซ์แอนด์แมทช์ให้กับขนมเบเกอรีของชาวตะวันตกอย่างโดนัท ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ในเวลาต่อมานั่นก็คือ ความลงตัว อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อว่า นมสดจะสามารถนำมาใช้ทำโดนัทได้ ซึ่งถ้าใครสนใจ อยากจะลองทำกินเองสักครั้ง แอดมินมีสูตร โดนัท วิธีทำ มาฝากผู้สนใจดังนี้ ไม่แน่ว่า ฝึกทำจนคล่องและเก่ง อาจจะเปิดร้านขายเป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมในสภาวะข้าวยากหมากแพงในช่วงนี้ขึ้นมาได้

วัตถุดิบสำหรับทำโดนัทนมสด

โดนัทนมสด

อุปกรณ์รวมถึงวัตถุดิบทั้งหมด หาซื้อจากร้านเบเกอรีได้เลย มีครบครันเพื่อนำกลับมาใช้ทำขนมสุดแสนอร่อยเทียบเท่า สูตรโดนัท มิสเตอร์โดนัท ได้

1.แป้งสาลียี่ห้ออะไรก็ได้ 500 กรัม

2.ยีสต์สำเร็จรูปสำหรับทำขนมปังหวาน 11 กรัม

3.เกลือป่นเสริมไอโอดีน 5 กรัม

4.นมผง 90 กรัม

5.น้ำตาลทราย 80 กรัม

6.เนยเค็ม 60 กรัม

7.ผงฟู 1 ½ ช้อนชา

8.ไข่ไก่เบอร์ 2 1 ฟอง

9.นมรสจืด อุณหภูมิห้อง 250 กรัม

10.กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำโดนัทง่าย ๆ แบบโดนใจ สูตรไม่ใส่สารเสริม

โดนัทนมสด

ขั้นตอนที่ 1 นำส่วนผสมทั้งหมดอันได้แก่ แป้งสาลี ยีสต์ เกลือป่นเสริมไอโอดีน น้ำตาล ผสมรวมกัน ใช้หัวตีรูปตะขอตีส่วนผสมให้พอเข้ากัน

ขั้นตอนที่ 2 ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำ โดนัทนมสด นั่นก็คือตีไข่แดง 1 ฟอง นมสดไปพร้อมกับกลิ่นวานิลลา ตีต่อจนแป้งจับตัวเป็นก้อน แล้วใส่เนยสดชนิดเค็ม 60 กรัม นวดจนก้อนโดเนียนแล้วปิดเครื่อง

โดนัทนมสด

ขั้นตอนที่ 3 ตัดก้อนโดน้ำหนัก 40 กรัม นำมาคลึงเป็นรูปทรงกลม เจาะรูตรงกลางเพื่อขึ้นรูปเป็น สูตรโดนัททอดทำขายอร่อย ๆ แล้ววางในถาดที่โรยด้วยแป้งนวล พักไว้ แป้งโดนัทจะขึ้นเป็น 2 เท่า

ขั้นตอนที่ 4 นำโดนัทไปทอดไฟอ่อนกระทั่งสุกเหลืองแล้วตักขึ้น พักให้เย็น แล้วโรยน้ำตาลหรือน้ำตาลไอซิ่ง ได้ตามชอบ หรือในบางราย ปรับเปลี่ยนมาเป็นโดนัทไข่เค็ม ก็ทำได้ไม่ยาก ซึ่งในส่วนของซอสไข่เค็มที่จะนำมาใช้ทำ โดนัทจิ๋ว หรือขนาดปกติ สามารถซื้อซอสสำเร็จรูปได้ตามห้างสรรพสินค้า แผนกเบเกอรี หรือจะเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเบเกอรี ก็จะมีจำหน่ายซอสไข่เค็ม จากนั้นถึงค่อยบีบซอสดังกล่าวลงในชิ้นโดนัทตามชอบ แล้วโรยผงไข่เค็ม เพียงเท่านี้ก็จะได้โดนัดรสชาติใหม่ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้มารับประทาน

โดนัทนมสด

ไม่น่าเชื่อว่า นมสดจะสามารถนำมาใช้ทำโดนัทแสนอร่อยได้ กระทั่ง เกิดเป็นกระแสฮิต ต้องสั่งมากินทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งสูตรโดนัทดังกล่าวที่ให้ไป สามารถนำมาปรับใช้ได้ตามชอบ โดยไม่ต้องออกไปยืนต่อแถวซื้อโดนัทกินเองอีกต่อไปแล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://gclubspecial168.com เว็บพนันออนไลน์ที่กำลังมาแรง

Categories
ขนมเบเกอรี่

ชีสเค้กชูเฟล ละมุนลิ้น ละลายในปาก

ชีสเค้กชูเฟล

ชีสเค้กชูเฟล สูตรฝรั่งเศสที่แอดมินสรรหามาฝากคงสามารถตอบคำถาม ชูเฟลชีสเค้กคือ ได้ไม่ยาก ใครอยากรู้ ทำอย่างไร ต้องติดตาม

ส่วนผสมในการทำ ชีสเค้กซูเฟล

ชีสเค้กชูเฟล สูตรนี้จะอร่อยเท่า ชูเฟลชีสเค้ก after you หรือไม่ มาดูส่วนผสมไปพร้อมกัน

ชีสเค้กชูเฟล

วัตถุดิบ

ชีสเค้กชูเฟล จุดเด่นของเค้กชนิดนี้คือความนุ่มฟูเหมือนละลายในปาก โดยมีวัตถุดิบต้องเตรียมดังนี้

1.ครีมชีส 100 กรัม

2.มัสการ์โปเนชีส 100 กรัม

3.แป้งข้าวโพด 30 กรัม

4.น้ำตาลทราย 80 กรัม

5.นมสดชนิดจืด 80 กรัม

6.วิปครีม 50 กรัม

7.ไข่ไก่ 7 ฟอง เลือกเป็นไข่แดง

8.ไข่ไก่ 3 ฟอง เลือกเฉพาะไข่ขาว

9.น้ำมะนาว 8 กรัม

10.พิมพ์เค้กกลม 2 ปอนด์

11.กระดาษไขสำหรับรองพิมพ์เค้ก

13.ถาดพร้อมตะแกรงสำหรับนำมาอบแบบหล่อน้ำ

ขั้นตอนการทำ ชีสเค้กชูเฟล

ชีสเค้กชูเฟล

ขั้นตอนที่ 1 ให้เริ่มต้นวอร์มเตาอบ อุณหภูมิที่ใช้ประมาณ 160 องศาเซลเซียส ในส่วนของพิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ ให้นำกระดาษไขมาตัดแล้วรองด้านข้างกับด้านล่างพิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ไว้

ขั้นตอนที่ 2 เตรียมอ่างผสม แล้วนำนมสด วิปปิ้งครีม แป้งข้าวโพดประมาณ 15 กรัม น้ำตาล 40 กรัม มัสการ์โปรเนชีสและครีมชีสลงในอ่างผสมแล้วใช้ไม้พาย ค่อย ๆ ตะล่อมให้ส่วนผสมดังกล่าวดูเข้ากันดี นำไข่แดงและกลิ่นวานิลลาเทลงในอ่างผสม คนให้ส่วนผสมดังกล่าวเข้ากันอีกครั้งจากนั้นนพักไว้ ในกรณีที่ส่วนผสมในอ่างดูไม่เนียน กรองด้วยกระชอนสัก 1 ครั้ง

ขั้นตอนที่ 3 ในการทำชีสเค้กชูเฟลให้อร่อยอยู่ที่การตีไข่ขาใให้ตั้งยอดหรือที่เราเรียกกันว่าเมอแลง ให้ใช้ความเร็วปานกลางในการตีไข่ขาวกระทั่งสังเกตดูว่าเป็นฟองหยาบหรือยัง จากนั้นให้น้ำตาลทรายขาวครั้งละ 40 กรัมลงในโถปั่น ตีไข่ขาวต่อ ขั้นตอนนี้ ให้หมั่นสังเกตอีกครั้งว่าฟองเริ่มละเอียดหรือยัง ถ้าละเอียดแล้ว ให้ผสมแป้งข้าวโพดพร้อมน้ำตาลที่เหลือ คนจนกระทั่งดูเข้ากัน ตามด้วยน้ำมะนาว ตีต่อจนไข่ขาวสามารภตั้งยอดเองได้อีกทั้งยังมีผิวที่มีลักษณะมันวาว

ชีสเค้กชูเฟล

ขั้นตอนที่ 4 เริ่มต้นแบ่งเมอร์แลงออกเป็น 3 ส่วน โดยให้ตักเมอแรงส่วนแรกผสมลงในอ่างที่มีไข่แดง นำพายยางมาตะล่อมให้ส่วนผสมไข่ขาวกับไข่แดงเข้ากัน พยายามทำอย่างเบามือ จากนั้นตามด้วยเมอร์แลงส่วนที่ 2 และ 3 จนหมด เตรียมตักใส่แม่พิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ที่เตรียมเอาไว้ ในส่วนของถาดอบให้ใส่น้ำร้อนแล้วถึงนำพิมพ์ขนาด 2 ปอนด์มาวางลงบนถาด โดยให้พิมพ์ 2 ปอนด์สัมผัสกับน้ำร้อนบนถาดโดยตรงในเตาอบที่เราวอร์มเอาไว้แล้ว ขั้นตอนนี้ใช้เวลาอบประมาณ 50 นาที

ขั้นตอนที่ 5 ระหว่างทำการอบ ให้คอยสังเกตุไปด้วยว่า หน้าชีวเค้กเป็นสีน้ำตาลทองรวมถึงพองแล้วหรือไม่ เมื่อเห็นว่าได้ตามลักษณะที่บอก ปิดไฟเตาอบ โดยไม่ลืม เปิดฝาเตาอบทิ้งไว้เพื่อลดอุณหภูมิภายในเตาให้ค่อย ๆ เย็นลงมาเรื่อย ๆ พักเค้กและรอจนกระทั่งอุณหภูมิในเตาอบลดลงและเย็น

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://paperindustrymag.com เว็บตรงไม่ผ่านตัวแทน บริการออนไลน์ตลอด 24 ชม. ฝากถอนง่าย ไม่ยุ่งยาก รอไม่นาน

Categories
ขนมเบเกอรี่ อาหารนานาชาติ

เค้กมันม่วง ไม่ง้อเตาอบ สีสวยและอร่อย

เค้กมันม่วง

เค้กมันม่วง เนื้อนุ่มฟู ๆ เค้กสีม่วงสวย ๆ สูตรไม่ง้อเตาอบ ฉบับใครก็ทำได้ อยากรู้ อร่อยไหม ต้องลองเข้าครัวทำ

ส่วนผสมในการทำ เค้กมันม่วง

เค้กมันม่วง

เค้กมันม่วง เป็นอีกหนึ่งกระแสมาแรงสำหรับสายสุขภาพ ทั้งนี้เพราะ มันม่วง เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย ใครที่ต้องการดูแลผิวพรรณ พบว่า ในมันม่วงมีสารแอนโทไซยานินและสารฟลาโวนอยส์ ว่ากันว่า สารทั้ง 2 ชนิดช่วยชะลอเซลส์ภายในร่างกาย ทำให้เซลส์ดังกล่าวเสื่อมช้าลงอีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ บริโภคมันม่วงบ่อย ๆ จะทำให้แก่ช้า เส้นผมดำขลับ ไม่หงอกเร็วกว่าวัยอันควร ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ ทดลองโดยนักศึกษาชื่อ นางสาวพัชรี มั่นคง นักศึกษาหลักสูตรพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการทดลองกับแมลงหวี่ พบว่า มันม่วงชะลอความแก่ได้ถึง 13% ในขณะเดียวกัน มันเทศ กลับชะลอความแก่เพียง 11% เท่านั้น เพราะฉะนั้น มาลองเข้าครัวทำ เค้กมันม่วงญี่ปุ่น กันเถอะ โดยมีการปรับสูตรให้เป็นคัพเค้กมันม่วงแบบไทย ๆ 

วัตถุดิบทำเค้กมันม่วง

เค้กมันม่วง สูตรนี้เป็นสูตรเค้กในถ้วยกระดาษหรือที่เราเรียกว่าคัพเค้กมันม่วง โดยมีวัตถุดิบต้องเตรียมดังนี้

1.แป้งเค้กยี่ห้อกิเลนแดง ประมาณ 120 กรัม

2.ผงฟู 1 ½ ชช.

3.มันม่วงนึ่ง 100 กรัม

4.ไข่ไก่ 1 ฟอง

5.กะทิ 50 มล.

6.น้ำมันรำข้าว 20 มล.

7.กลิ่นวานิลลา ¼ ชช.

8.เกลือป่น ¼ ชช.

วิธีการทำ

วิธีทำเค้กมันม่วง

ขั้นตอนที่ 1

เค้กมันม่วงสูตรนี้เป็นเค้กมันม่วงชิฟฟ่อน

ทำอย่างไรถึงอร่อย เริ่มจาก นำมันม่วงที่เราซื้อมาจากตลาด ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด นึ่งจนสุก รอเย็นแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้

ขั้นตอนที่ 2 นำมันม่วง ไข่ไก่ กะทิ น้ำตาลทราย เกลือป่นและกลิ่นวานิลลา ปั่นรวมกันในโถปั่นกระทั่งเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นพักไว้

ขั้นตอนที่ 3 แป้งกับผงฟู นำมาร่อนรวมกันแล้วแบ่งใส่ชามอีกใบ เวลาจะใส่รวมกับของเหลวที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2 ให้ทยอยตักแป้งออกจากชาม 3 รอบ คลุกและตะล่อมให้แป้งกับส่วนผสมในข้อที่ 2 เข้ากันดี พักไว้

ขั้นตอนที่ 4 เตรียมแม่พิมพ์ สูตรนี้เป็นคัพเค้กชิ้นเล็กน่ารักๆ นำกระดาษมารองในแม่พิมพ์ที่ทาเนยหรือน้ำมันไว้แล้ว จากนั้นหยอดส่วนผสมทั้งหมดลงในแม่พิมพ์ 

ขั้นตอนที่ 5 วิธีการนึ่งเหมือนกับการนึ่งสาคู นำลังถึงตั้งไฟ เทน้ำลงในลังถึง รอกระทั่งเดือด ให้เอาคัพเค้กมันม่วงลงไปนึ่งได้เลย กระทั่งสุกยกลงจากเตา 

เทคนิค วิธีตรวจดูว่า เค้กสุกหรือยัง ใช้ไม้จิ้มฟัน จิ้มลงในเค้กแล้วดึงออกมา ถ้าไม้จิ้มฟันดูแห้ง ไม่มีของเหลวติดมากับไม้จิ้มฟัน ถือว่าเค้กสุกแล้ว

เค้กมันม่วง นอกจากจะอร่อยและเก็บข้ามวันได้แล้ว พบว่าสารอาหารที่มีอยู่ในมันม่วงเป็นประโยชน์ให้กับสาว ๆ ที่ให้ความสำคัญกับผิวพรรณรวมถึงเส้นผม ใครอยากดูสาวแลดูอ่อนกว่าวัย เส้นผมไม่หงอกก่อนวัยอันควร เข้าครัวฝึกทำเค้กมันม่วงกันเถอะ ดีต่อใจและสุขภาพแน่นอนค่ะ

เครดิตภาพประกอบ

https://www.naibann.com/purple-sweet-potatoes-cup-cake-recipe/

อ่านบทความอื่นๆ : 

เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน นุ่มละมุน หอมและอร่อย

สนับสนุนโดย :

ufaball.betเว็บตรง ศูนย์รวมการเดิมพันกีฬาอันดับหนึ่งไม่ว่าจะบอลชุด บอลเต็ง บอลเสต็ป และกีฬาอีกหลายประเภท ราคาดีที่สุดในขณะนี้ ขั้นต่ำเพียง 10 บาท พร้อมโปรโมชั่นคืนยอดเสีย 5% ในทุกเดือน เล่นง่าย จ่ายจริง ร่วมเดิมพันกีฬาสุดมันส์กับเราได้ที่ https://ufaball.bet

Categories
ขนมเบเกอรี่ อาหารนานาชาติ

เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน นุ่มละมุน หอมและอร่อย

เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน

เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน นุ่ม ๆ ละมุนลิ้น เนื้อเบาไม่หวานมาก จะเป็น เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน ร้านไหนอร่อย หรือจะสู้ สูตรทำกินเอง

ส่วนผสมในการทำ เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน

เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน ใครที่ชอบกินเค้กบอกเลย ห้ามพลาด เพราะเป็นอีกหนึ่งเมนูเค้กที่มีรสสัมผัสค่อนข้างลงตัว มีความอร่อยกลมกล่อมอันเกิดจากความนิ่มของมะพร้าวอ่อนรวมถึงความฟูฟ่องของเนื้อเค้ก และยิ่งในปัจจุบัน มีการปรับสูตรมาเป็น เค้กมะพร้าวอ่อนหน้านิ่ม หรืออื่น ๆ ก็ยิ่งทำให้ เค้กประเภทนี้ เป็นที่ชื่นชอบสำหรับสาว ๆ ทุกคน จนต้องหาสูตรทำเค้กมาฝากผู้ที่สนใจ และสูตรทำเค้กที่กำลังนำเสนอนี้ บอกเลย อร่อยละมุน ดีต่อใจแน่นอน

วัตถุดิบสำหรับทำเค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน

https://lh5.googleusercontent.com/i6qBPRR1m4roLKnRP1U61myNtBdK3HaYxPDXaCt1rSRl3Lw0t4SPwvchvk9BpnpXxGC5B4DJQNtbpA9HmvqXeDK7sKsmu-94_Pf4-rTlNGkmzvnEnkKtIejufJI8w2qlSTPK_0c90EOssxDhVA

การเปลี่ยนความจำเจเดิม ๆ จากเค้กธรรมดามาเป็น คัพเค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน ก็ดี ต่างสร้างความพอใจแก่ผู้ที่นิยมชมชอบเค้กจนนึกอยากทำกินเองที่บ้าน โดยมีวัตถุดิบต้องเตรียมดังนี้

ส่วนที่ 1

  • แป้งเค้ก 60 กรัม
  • น้ำตาลทราย 39 กรัม
  • ผงฟู ½ ชช.
  • กะทิ 22 กรัม
  • ไข่แดง 2 ฟอง

ส่วนที่ 2 

  • กลิ่นใบเตย ½ ฝา
  • น้ำใบเตย 18 กรัม
  • น้ำมันพืช 22 กรัม

ส่วนที่ 3

  • ครีมออฟทาร์ทา ¼ ชช
  • ไข่ขาว 2 ใบ
  • น้ำตาลทรายป่น 39 กรัม

ส่วนผสมครีม

  • น้ำตาลไอซิ่ง 30 กรัม
  • วิปครีม 320 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา ½ ฝา

ไส้มะพร้าว

  • แป้งกวนไส้ 10 กรัม
  • เนยจืดแช่เย็น 10 กรัม
  • น้ำตาลทราย 18 กรัม
  • น้ำมะพร้าว 67 กรัม
  • กะทิ 112 กรัม
  • เกลือตามชอบ
  • มะพร้าวหั่นเป็นเส้น 1 ผล

วิธีทำ

https://lh3.googleusercontent.com/u6tObsPBhla-kRVWX8Dxn14e4A7-FZ7vrcLT6QZbyzPXpD-u6oks3Frm6jDi9hmLGnOh0BEbfbXZB34fYadxI_eAzx4fbR3UoviVD-FA674VU1qZ0B_--fwF_gLzGbiyKtyIvM34hLqen2bTXw

ขั้นตอนที่ 1 วอร์มเตาไว้ที่ 180 องศา ใช้ไฟบนและไฟล่าง นำส่วนผสมที่ 1 ร่อนเข้าด้วยกัน ตามด้วยส่วนผสมที่ 2 ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 2 ตีไข่ขาวและครีมออฟทาร์ทาร์กระทั่งตั้งยอดประมาณ 90% จากนั้นแบ่งไข่ขาวออกเป็น 3 ส่วน ใช้พายยางตะล่อมให้เข้ากับส่วนที่ 2 จนหมดก่อนจะอบ เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน

ขั้นตอนที่ 3 เทส่วนผสมทั้งหมดลงในพิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข โดยอุณหภูมิตั้งไว้ที่ 180 องศา อบประมาณ 20-30 นาที ในส่วนของ เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อนแบบนึ่ง สามารถใช้หม้อหุงข้าวได้ ทว่า ต้องหุง 2 ครั้ง เป็นเวลา 120 นาที

ขั้นตอนที่ 4 ในส่วนของการนำครีมมาตกแต่ง ให้ตีส่วนผสมครีมทั้งหมดกระทั่งตั้งยอด แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ใส่ถุงบีบ อีกส่วนนำมาปาดที่เค้ก ระหว่างรอ นำเค้กแช่ตู้เย็น แล้วหันมาทำไส้มะพร้าว โดยการนำส่วนผสมที่ใช้ในการทำไส้มะพร้าวทั้งหมดลงในหม้อ จากนั้น คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใช้ไฟปานกลาง รอจนแป้งละลาย สีข้น ปิดเตา ตามด้วยเนยจืด เมื่อไหร่ที่หายร้อน ผสมมะพร้าว รอเย็น ก็สามารถนำมาตกแต่งหน้าเค้กได้

เครดิตภาพประกอบ

https://cooking.kapook.com/view234699.html

อ่านบทความ : 

ขนมจีน แกงเผ็ดไก่ รสชาติเหมือนคุณยายทำ อร่อย ถูกปาก

สนับสนุนโดย :

GCLUB บาคาร่าอันดับหนึ่ง บริการออนไลน์ 24 ชั่วโมง พร้อมธุรกรรมที่รวดเร็วระบบฝากถอนออโต้ที่มีเสถียรภาพ ไม่เกิน 5 วินาที เปิดบริการมายาวนาน ตั้งแต่ปี 2005 จนปัจจุบัน เล่นได้ผ่านสมาร์ทโฟนทุกระบบ iOS และ Android

Categories
ขนมเบเกอรี่ อาหารนานาชาติ

เค้กชามะนาวหน้านิ่ม เปรี้ยวหวานนุ่มลิ้น อร่อยจัง

เค้กชามะนาวหน้านิ่ม

เค้กชามะนาวหน้านิ่ม นุ่มลิ้น จี๊ดจ๊าดโดนใจ วิธีทำเค้กง่าย ๆ ที่บ้าน ทำอย่างไร วันนี้มีรีวิว

ส่วนผสมในการทำ เค้กชามะนาวหน้านิ่ม

เค้กชามะนาวหน้านิ่ม จะลงตัวและอร่อยเหมือน เค้กมะนาวเชฟนุ่น หรือไม่ ต้องติดตาม รับประกันไม่ผิดหวัง ทั้งนี้เพราะเป็นการนำชามะนาวแบบไทย ๆ มามิกซ์แอนด์แมทช์และปรับสูตรจนกระทั่งได้ขนมเค้กอร่อย ๆ ลงตัว เปรี้ยว หวาน ละมุนลิ้น ดังนั้น เรามา ทำเค้กกินเอง กันเถอะ 

วัตถุดิบ ส่วนผสม เค้กชามะนาวหน้านิ่ม

เค้กชามะนาวหน้านิ่ม

1.แป้งเค้ก 80 กรัม

2.เกลือป่น ¼ ช้อนชา

3.ผงฟู ½ ช้อนชา

4.น้ำตาลทราย 80 กรัม

วัตถุดิบ ส่วนผสมของเหลว

1.ไข่แดง 3 ฟอง

2.น้ำมันพืช 60 กรัม

3.ลิปตันไอซ์ทีเลมอน 80 กรัม

วัตถุดิบส่วนผสมไข่ขาว

1.ไข่ขาว 3 ฟอง

2.ครีมออฟทาทาร์ ¼ ช้อนชา

3.น้ำตาลทราย 20 กรัม

วัตถุดิบ ซอสหน้านิ่ม

1.แป้งกวนไส้ 25 กรัม

2.เนยสด 20 กรัม 

3.ลิปตันไอซ์ทีเลมอน 300 กรัม

วิธีทำ

เค้กชามะนาวหน้านิ่ม

เค้กชามะนาวหน้านิ่มเป็นเค้กที่ค่อนข้างอยู่ในกระแส อันเป็นผลมาจาก รสชาติเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้าจนมีการซื้อมากินรวมถึงเผยแพร่สูตรลงในเว็บซึ่งแอดมินไม่พลาดที่จะนำเสนอดังนี้

1.นำวัตถุดิบที่ต้องเตรียมในส่วนผสมที่ 1 ร่อนรวมกัน หลังจากนั้นถึงเติมน้ำตาลและเกลือลงไปในถ้วยที่กำลังร่อนส่วนผสมวัตถุดิบที่ 1 อย่าลืมทำหลุมตรงกลางถ้วยแยกไว้

2.นำไข่แดงมาแยกไข่ขาว พักไว้

3.นำวัตถุดิบที่ 2 อันได้แก่ ลิปตันไอซ์ทีเลมอน น้ำมันพืชและไข่แดง ผสมให้เข้ากัน

STEP 2 การทำเค้ก

1.นำวัตถุดิบส่วนที่ 2 ที่เราผสมไว้แล้วเทลงตรงกลางหลุม คนให้เข้ากัน พักไว้

2.นำครีมออฟทาร์ทาร์และไข่ขาวมาตีโดยใช้ความเร็วปานกลาง ตีจนกระทั่งไข่ขาวขึ้นเป็นฟองหยาบ ๆ ให้เทน้ำตาลทรายลงไป ตีไข่ขาวต่อกระทั่งตั้งยอดปานกลางค่อนมาทางแข็ง

3.นำวัตถุดิบที่ 1 และ 2 มาผสมโดยใช้ไม้พายตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากัน แล้วถึงค่อยตักใส่พิมพ์รูปเลมอนที่เตรียมไว้ โดยให้อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที แล้วแต่เตาอบในแต่ละบ้าน

STEP 3 ทำซอสหน้านิ่ม

1.นำแป้งกวนและลิปตันไอซ์ทีคนในหม้อให้เข้ากัน ตั้งไฟ รอจนละลาย เมื่อส่วนผสมเริ่มข้น ใส่เนย คนจนละลายแล้วยกลงจากเตา พักไว้

2.เมื่อซอสมะนาวเริ่มเย็น ก็ให้ตักมาราดบนเค้กที่เตรียมไว้ได้เลย จากนั้นเสริ์ฟและพร้อมรับประทาน 

เค้กชามะนาวหน้านิ่มสูตรนี้ ทำออกมาแล้วอร่อยเหมือนรับประทาน เค้กส้มหน้านิ่ม ใครที่เบื่อความเลี่ยนของเค้กเนยสด ลองหันมาเข้าครัวทำเค้กชามะนาวกันเถอะ นำมากินร่วมกับชาร้อนในช่วงเช้าก็จะให้ความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าจนพร้อมที่จะเริ่มงานใหม่อีกครั้ง

เครดิตภาพประกอบ

https://sootded.org/วิธีทำ-เค้กชามะนาวหน้า/

อ่านบทความ : เค้กไข่ไต้หวัน เนื้อเด้ง ๆ เนียนอร่อย

สนับสนุนโดย :

ufaball.bet เว็บตรง ศูนย์รวมการเดิมพันกีฬาอันดับหนึ่งไม่ว่าจะบอลชุด บอลเต็ง บอลเสต็ป และกีฬาอีกหลายประเภท ราคาดีที่สุดในขณะนี้ ขั้นต่ำเพียง 10 บาท พร้อมโปรโมชั่นคืนยอดเสีย 5% ในทุกเดือน เล่นง่าย จ่ายจริง ร่วมเดิมพันกีฬาสุดมันส์กับเราได้ที่ https://ufaball.bet

Categories
ขนมเบเกอรี่ อาหารนานาชาติ

เค้กไข่ไต้หวัน เนื้อเด้ง ๆ เนียนอร่อย

เค้กไข่ไต้หวัน

เค้กไข่ไต้หวัน เนื้อฟู เด้งดึ๋ง อร่อย เค้กไข่ไต้หวันสูตรไหนอร่อย ต้องลอง เพราะสูตรนี้ไม่ใส่สารเสริม ดีต่อร่างกาย

ส่วนผสมในการทำ

เค้กไข่ไต้หวัน

เค้กไข่ไต้หวัน กับกระแสยอดฮิต ทุกคนต่างรู้จักดีและเคยสั่งมากินกันบ้างแล้วต่อให้ราคาแสนแพงก็ตาม วันนี้แอดมินขออาสานำ สูตรเค้กไข่ไต้หวัน แท้

ทำได้จริงมาฝาก

วัตถุดิบในการทำ เค้กไข่ไต้หวัน

เค้กไข่ไต้หวัน

ส่วนผสมไข่แดง

1.ไข่แดงเบอร์ 2 สำหรับทำเค้กไข่ไต้หวัน จำนวน 2 ฟอง

2.แป้งเค้ก 150 กรัม

3.เกลือป่น ¼ ชช.

4.กลิ่นวานิลลา 2 ชช.

5.นมข้นจืด 145 กรัม

6.น้ำมันพืช 100 กรัม

ส่วนผสมไข่ขาว

1.ไข่ขาวเบอร์ 2 จำนวน 7 ฟอง

2.น้ำตาลทราย 120 กรัม

3.ครีมออฟทาร์ทา 1 ชช.

4.แป้งข้าวโพด 1 ชช.

5.น้ำตาลทราย 120 กรัม 

วิธีทำ

1.เกลือป่นกับแป้งเค้กนำมาร่อนรวมกัน 2 รอบ เทคนิคนี้ทำให้แป้งเบาและฟู

2.ตวงนมข้นจืด น้ำมันพืช น้ำตาลทราย และแยกไข่ โดยเริ่มจาก เทน้ำมันพืชลงในหม้อ นำไปตั้งไฟจนร้อนแล้วปิดเตา สักพักเทแป้งเค้กสำหรับทำ เค้กไข่ไต้หวันลงในหม้อที่มีน้ำมัน คนส่วนผสมให้เข้ากัน วิธีนี้ทำให้เนื้อแป้งเบาและขึ้นฟูโดยไม่ต้องพึ่งสารเสริมแต่อย่างใด จากนั้นใช้ไม้พายคนส่วนผสมแป้งและน้ำมันให้ความร้อนคลายลง ตามด้วยนมข้นจืด ซึ่งจะทำให้เค้กไข่หอมนุ่มและกลมกล่อมขึ้นมาได้ ตะล่อมให้เข้ากันอีกครั้ง

3.นำไข่แดงที่แยกไว้ใส่ลงในแป้งผสมน้ำมัน เพิ่มกลิ่นหอมของตัวขนมโดยการใส่กลิ่นวานิลลา ตะล่อมอีกครั้งเพื่อให้ส่วนผสมดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดเข้ากัน

4.มาถึงขั้นตอนของการตีไข่ขาวให้ตั้งยอด เริ่มจากตีไข่ขาวจนเกิดฟองหยาบ ตามด้วยครีมออฟทาร์ทา ตีให้พอเข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพดเพื่อไปเพิ่มความยืดหยุ่นให้เกิดขึ้นในตัวเค้ก

5.การใส่น้ำตาลทราย ทยอยแบ่งใส่เป็นจำนวน 3 ครั้ง ตีกระทั่งไข่ขาวตั้งยอด

6.แบ่งไข่ขาวบางส่วนผสมกับไข่แดงแล้วตะล่อมอย่างเบามือกระทั่งเข้ากันตามด้วยไข่ขาวส่วนที่เหลือทั้งหมด

7.เทส่วนผสมทั้งหมดใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ทว่าก่อนจะเทส่วนผสมดังกล่าว ควรทาไขมันหรือเนยบนแม่พิมพ์ตามด้วยนำกระดาษไข

มารองก้นถาด ซึ่งก่อนจะนำเข้าตู้อบ ควรเคาะแม่พิมพ์ 2 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศออก

8.อุณหภูมิใช้ 150-160 องศาเซลเซียส โดยที่ถาดรองควรรองน้ำไว้แล้วจากนั้นถึงค่อยวางแม่พิมพ์ลงไป ใช้เวลาอบประมาณ 30-40 นาที พออบเสร็จ ควรพักไว้ให้อุ่นประมาณ 10 นาทีก็เอาเค้กออกจากพิมพ์ได้เลย 

9.ลอกกระดาษไข พลิกเค้กอีกฝั่งขึ้นมา จากนั้นใช้มีดตัดแบ่งเป็นชิ้น นำมารับประทานกับชาหรือกาแฟ ความอร่อยนั้นไม่ด้อยไปกว่า เค้กไข่ไต้หวันเชฟนุ่น

เค้กไข่ไต้หวันสุดยอดเบเกอรีที่ใช้วัตถุดิบน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับเบเกอรีอื่น ๆ ส่วนการจะทำให้เนื้อเค้กพองฟูและเด้ง อยู่ที่การตีไข่ขาวให้ตั้งยอดรวมถึงการนำครีมออฟทาร์ทามาใช้ แล้วเราจะได้เค้กไข่แสนอร่อยมากินคู่กับชาร้อนในช่วงเช้าแล้ว

เครดิตภาพประกอบ

https://cooking.kapook.com/view192496.html

อ่านบทความ :

 ขนมจีน แกงเผ็ดไก่ รสชาติเหมือนคุณยายทำ อร่อย ถูกปาก

สนับสนุนโดย :

สล็อตเว็บตรง ฝาก-ถอน TRUE WALLET ไม่มีขั้นต่ำ