ถ้าพูดถึงขนมไทย หรือขนมไทยมงคล บรรดาขนมที่มีคำว่า “ทอง” ต้องขึ้นมาอยู่ในความคิดของทุกท่านเป็นอันดับต้นๆ แน่นอนเลยใช่มั้ยครับ ไม่ว่าจะเป็นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองเอก ดาราทอง เป็นต้น
ขนมไทยส่วนใหญ่ ออกรสชาติหวาน มัน สำหรับผมแล้วไม่ค่อยมีเวลาไปเดินซื้อหาขนมไทยมาทานสักเท่าไหร่ บางครั้งถ้ามีโอกาส ก็อาจจะไปเดินเล่นแถวเกาะเกร็ด จ. นนทบุรี บ้าง ที่นั่นเป็นแหล่งขนมไทยที่ผลิตกันเป็นล่ำเป็นสันเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว แล้วซื้อกลับไปทาน หรือเป็นของฝากกันนั่นเอง แต่จริงๆ แล้วขนมไทยบางอย่าง ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยาก เราก็สามารถทำทานเองได้นะครับ วัตถุดิบไม่ได้หายากเลย ในครัวของเผลอๆ จะมีของครบทุกอย่างไม่ต้องหาซื้อใหม่ เช่น การทำฝอยทองโบราณตามสูตรที่ผมจะแนะนำนี้นะครับ
วัตถุดิบ
- ไข่เป็ด 15 ฟอง
- ไข่ไก่ 5 ฟอง
- น้ำตาลทรายขาว 1,050 กรัม
- น้ำลอยดอกมะลิ 1,500 กรัม
- ใบเตย
ขั้นตอนการทำ
การทำขนมไทยนั้น ข้อสำคัญคือความพิถีพิถัน ทุกขั้นตอนสำคัญมาก ทั้งความร้อน ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ ความสดใหม่และสะอาด ขนมบางอย่างต้องมีการขึ้นรูป ใส่พิมพ์ให้มีความสวยงาม ประณีตขึ้นไปอีก สำหรับฝอยทองนั้น เวลาทำต้องใจเย็นค่อย ๆ วนให้เป็นสาย เกี่ยวขึ้นมาให้เป็นแพ มีขั้นตอนการทำดังนี้ครับ
- นำไข่เป็ดและไข่ไก่ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาด
- ตอกไขทั้งหมดใส่กาละมัง รวมทั้งไข่เป็ดและไข่ไก่
- แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว นำไข่แดงไปกรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้ไข่แดงที่เนียนนุ่ม ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
- นำน้ำลอยดอกมะลิ 500 กรัม ขึ้นตั้งไฟกลาง ใส่ใบเตยลงไปเพื่อเพิ่มความหอม เติมน้ำตาลทรายขาว 250 กรัม เคี่ยวให้เดือด นำลงมากรองด้วยผ้าขาวบาง (เป็นนำเชื่อมเข้มข้นสำหรับวนไข่แดง)
- นำน้ำลอยดอกมะลิ 1,000 กรัม มาตั้งไฟ ใส่ใบเตยลงไปเหมือนการต้มครั้งแรก แต่เพิ่มปริมาณน้ำและน้ำตาลทราย ครั้งนี้ใช้น้ำตาลทราย 800 กรัม เคี่ยวให้เดือด นำลงมากรองด้วยผ้าขาวบาง (เป็นน้ำเชื่อมใสสำหรับแกว่งฝอยทองที่นำขึ้นมาจากกระทะ)
- นำน้ำเชื่อมเข้มข้นที่ทำไว้รอบแรก ขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนเดือด เมื่อเริ่มเดือด ตักไข่แดงที่กรองไว้ใส่ในกรวย
- นำไข่แดงในกรวยไปวนในกระทะ ให้เป็นสาย ต้องการแพใหญ่แค่ไหนก็วนเอาตามใจชอบ
- หลังจากนั้น ใช้ไม้ปลายแหลมสองอัน เกี่ยวฝอยทองขึ้นมากจากกระทะ แล้วนำลงไปแกว่งในน้ำเชื่อมที่ใส่กว่า แล้วนำจัดวางลงในภาชนะ เป็นอันเรียบร้อย
ท่านใดว่าง หรือสนใจอยากลองทำทานดูลองได้นะครับ นอกจากได้ฝึกความใจเย็นแล้ว ยังภูมิใจ ที่ได้ทำขนมไทยทานเองด้วยนะครับ