ต้มแซ่บ เมนูอาหารอีสาน ซดร้อน ๆ แซ่บซี้ดซ้าด ถ้าอยากรู้ว่า ต้มแซ่บใส่อะไรบ้าง ก็มาดูได้ในบทความ ทำไม่ยาก อยากทำเป็น ต้องติดตาม!
ส่วนผสมในการทำ ต้มแซ่บ
ต้มแซ่บเมนูอีสานที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และร้านอาหารอีสานทุกร้าน จะมีเมนูนี้ภายในร้าน เอาไว้ให้ลูกค้าสั่งเสริม กินคู่กับส้มตำและเมนูอีสานอื่น ๆ ในส่วนของการทำนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างจากการทำเมนูต้มยำสักเท่าไหร่ ทั้งที่แท้จริงแล้ว เป็นคนละเมนู และเพื่อน ๆ จะรู้คำตอบในบทสรุปของการทำว่า อะไรคือความแตกต่างระหว่างต้มยำกับเมนูที่กำลังกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้ ?
วัตถุดิบต้มแซ่บ
ส่วนประกอบน้ำซุป
- น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์หรือยี่ห้อใดก็ได้ 5 ถ้วยตวง
- กระดูกหมูอ่อน 300 กรัม
- ข่าแก่ 2 กรัม
- ตะไคร้ 15 กรัม (2 ต้น)
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
ส่วนประกอบเครื่องปรุงรส
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด (ปรับลดได้ตามต้องการ)
- น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น (ปรับลดได้ตามต้องการ)
- ต้นหอมซอย / ผักชีฝรั่งซอย แล้วแต่เรา
หมายเหตุ : ข้าวคั่วซื้อสำเร็จรูปหรือจะทำเอง โดยการนำข้าวสารที่ยังไม่หุง เอามาตำให้เมล็ดข้าวแตก จากนั้นนำไปคั่วในกะทะร้อน ๆ กระทั่งได้กลิ่นหอม ก็นำมาใช้งานได้
วิธีทำ
ขั้นตอนที่ 1 การจะทำต้มแซ่บ ให้อร่อยนั้น เริ่มจากการเตรียมน้ำซุป เอาไว้สำหรับทำ ต้มแซ่บกระดูกอ่อน เพราะถ้าปรุงน้ำซุปให้อร่อยตั้งแต่ต้น เราก็จะได้น้ำซุปสำหรับซดร้อน ๆ คล่องคอ มากินคู่กับคอหมูย่าง หรือ ส้มตำได้ เริ่มจาก เทน้ำสะอาดลงในหม้อที่กำลังตั้งไฟ เติมผงปรุงรส ลงไปในหม้อรวมถึงเกลือป่น เพราะเกลือป่นจะไปเพิ่มความหอมให้กับการเตรียมน้ำซุป
ขั้นตอนที่ 2 รอกระทั่งน้ำเดือด นำกระดูกอ่อน ต้มลงในหม้อ ระหว่างนั้น ก็คอยช้อนฟองสีขาวออกให้หมด
ขั้นตอนที่ 3 กระทั่งช้อนฟองขาวจนหมด ให้ลดความแรงของไฟลงมา ต้มต่อไปจนกระดูกหมูเปื่อย แล้ว ค่อย เติมข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดที่ได้นำมาฉีก จัดการปรุงรสที่ชอบได้เลย
ขั้นตอนที่ 4 มาถึงขั้นตอนสำคัญ ปรุงรสอย่างไรให้อร่อยเหมือน ต้มแซ่บไก่ แต่เปลี่ยนวัตถุดิบมาเป็นกระดูกอ่อน ทำได้โดยการ เหยาะน้ำปลา พริกขี้หนูสวน ข้าวคั่ว ตามด้วยพริกป่น จากนั้น ปิดไฟได้เลย แล้วถึงค่อยเติมน้ำมะนาว โรยผักชีฝรั่งซอยและต้นหอมซอย ตักซุปขึ้นมาจากหม้อ ก็รับประทานได้แล้ว
ต้มแซ่บมีความคล้ายต้มยำ ทว่า ไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นต้มยำ จะไม่มีการใส่ข้าวคั่วเป็นอันขาด เพราะต้มยำนั้น จะเน้นไปที่การใส่น้ำพริกเผาตามด้วยนม ก็จะเป็นต้มยำน้ำข้น แต่ถ้าไม่ใส่น้ำพริกเผา ก็จะเป็นต้มยำน้ำใส แตกต่างจากต้มแซ่บที่ต้องมีส่วนผสมของข้าวคั่ว ทำให้เมนูต้มเมนูนี้ มีกลิ่นหอม ทั้งจากน้ำมะนาวสด รวมถึง กลิ่นข้าวคั่ว เหมาะสำหรับซดร้อน ๆ ในช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาว กินกับอะไรก็อร่อย
อ่านบทความอื่นๆ: