สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารสุขภาพ

ไกด์สำหรับนักวิ่ง อาหารนักวิ่ง ก่อนและหลังวิ่งต้องกินอย่างไร

อาหารนักวิ่ง

ในฐานะนักวิ่งอาหารและโภชนาการของคุณมีความสำคัญไม่เพียง แต่เพื่อการรักษาสุขภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพสูงสุดด้วย โภชนาการและการให้น้ำที่เหมาะสมสามารถทำให้หรือทำลายการออกกำลังกายหรือการแข่งขันได้และยังส่งผลต่อความรู้สึกการทำงานและความคิดของคุณด้วย หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดของนักวิ่งหน้าใหม่คือสิ่งที่ควรกินก่อนวิ่งและหลังวิ่ง เป็นเรื่องปกติที่นักวิ่งจะกังวลว่าการรับประทานอาหารกินก่อนวิ่งจะทำให้เกิดตะคริวหรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร แต่พวกเขายังกังวลว่าการไม่เติมน้ำมันก่อนวิ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกอ่อนแอเซื่องซึมและหิว

สารอาหารที่สำคัญและจำเป็นสำหรับอาหารนักวิ่ง

การรับประทานอาหารนักวิ่งที่ถูกต้องสามารถช่วยให้คุณมีพลังงานที่ต้องการในระหว่างการวิ่ง อาหารที่สมดุลสำหรับนักวิ่งที่มีสุขภาพดีควรรวมถึงสิ่งจำเป็นเหล่านี้: คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันวิตามินและแร่ธาตุ 3 อย่าง 

คาร์โบไฮเดรต

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานที่ดีที่สุดสำหรับนักกีฬา สำหรับอาหารนักวิ่งส่วนใหญ่คาร์โบไฮเดรตควรเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ถึง 65% ของปริมาณแคลอรี่ทั้งหมดของคุณ อย่างไรก็ตามนักวิ่งบางคน (เช่นนักวิ่งระยะสั้น) อาจต้องการมากกว่า 70% และนักวิ่งที่มีความอดทนบางคนอาจต้องการเพียง 50% จากการวิจัยพบว่าทั้งพลังงานที่รวดเร็วและยาวนานร่างกายของเราทำงานกับคาร์โบไฮเดรตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าโปรตีนหรือไขมันทางเลือกที่ดี ได้แก่ :

  • ผลไม้
  • มันฝรั่ง
  • ผักแป้ง
  • ข้าวสวยหรือข้าวต้ม
  • ขนมปังธัญพืช
  • พาสต้าโฮลเกรน

อาหารธัญพืชไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปซึ่งหมายความว่าพวกเขายังคงคุณค่าทางโภชนาการที่เมล็ดพืชให้ตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่นการเลือกพาสต้าโฮลเกรนมากกว่าสีขาวจะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารมากขึ้นรวมทั้งวิตามินบี (ไนอาซินไทอามีนโฟเลต) ไฟเบอร์สังกะสีเหล็กแมกนีเซียมและแมงกานีส เมล็ดธัญพืชยังมีไฟเบอร์ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น

 

โปรตีน

โปรตีนถูกใช้เพื่อเป็นพลังงานและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายระหว่างการฝึก นอกจากจะเป็นสารอาหารที่จำเป็นแล้วโปรตีนยังช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้นซึ่งจะช่วยได้หากคุณกำลังพยายามลดน้ำหนัก ตามหลักเกณฑ์ของ USDA โปรตีนควรมีสัดส่วนประมาณ 10% ถึง 35% ของการบริโภคต่อวันของคุณ 5 แต่นักสรีรวิทยาการออกกำลังกายมักใช้สูตรตามน้ำหนักเพื่อกำหนดปริมาณที่แม่นยำยิ่งขึ้น นักกีฬาที่มีความอดทนต้องการโปรตีนมากกว่าคนที่อยู่ประจำ นักวิ่งโดยเฉพาะผู้ที่วิ่งระยะไกลควรบริโภคโปรตีน 1.2–1.4 กรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมต่อวัน 6 พยายามเน้นแหล่งโปรตีนที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำเช่น:

  • ถั่ว
  • ไข่
  • ปลา
  • สัตว์ปีก
  • เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
  • ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ
  • ธัญพืช

 

อาหารนักวิ่ง
อาหารนักวิ่ง

อาหารกินก่อนวิ่ง อาหารนักวิ่ง ควรกินอะไร อย่างไร 

การเลือกอาหารกินก่อนวิ่งเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวหรือแม้กระทั่งส่งคุณไปหาห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดระหว่างการวิ่ง เลือกสิ่งที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและมีไขมันไฟเบอร์และโปรตีนต่ำ ตัวอย่างบางส่วนของเชื้อเพลิงก่อนออกกำลังกายที่ดี ได้แก่ :

  • เบเกิลกับเนยถั่ว
  • กล้วยและแถบพลังงาน
  • ซีเรียลเย็นหนึ่งชามพร้อมนมหนึ่งถ้วย
  • ข้าวโอ๊ตกับผลเบอร์รี่
  • ไก่งวงและชีสบนขนมปังโฮลวีต

 

หากคุณตัดสินใจที่จะเริ่มโดยเปล่าประโยชน์คุณควรมีแหล่งกักเก็บพลังงานเพียงพอที่จะใช้งานได้สั้นลง แต่ถ้าคุณมีเวลาทานของว่างเบา ๆ ขนมปังปิ้งที่มีแยมหรือแท่งพลังงานครึ่งหนึ่งอาจเป็นทางเลือกที่ดี เน้นคาร์โบไฮเดรตและอาหารย่อยง่าย

 

หากคุณวิ่งในตอนเย็นและเป็นเวลาสองสามชั่วโมงแล้วหลังจากรับประทานอาหารกลางวัน (แต่คุณยังไม่ได้ทานอาหารเย็น) ให้ลองรับประทานอาหารว่างที่มีแคลอรี่ 100 แคลอรี่ที่ดีต่อสุขภาพประมาณ 60–90 นาทีก่อนออกวิ่งเว้นแต่จะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี หากวิ่งภายใน 60 นาทีให้เลือกคาร์โบไฮเดรดง่าย ๆ ที่มีคาร์โบไฮเดรตไม่เกิน 30 กรัมเช่นกล้วย

อาหารกินระหว่างวิ่ง อาหารนักวิ่ง

ในขณะที่ผู้คนมักวางแผนว่าพวกเขากินอะไรก่อนและหลังการวิ่ง แต่ก็อาจมีบางครั้งที่คุณต้องกินกลางคันเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังวิ่งเป็นระยะทางไกล หากคุณวิ่งน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงคุณอาจไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันจนกว่าการออกกำลังกายจะสิ้นสุดลง

 

ในระหว่างการวิ่งระยะสั้นพลังงานส่วนใหญ่ในการขับเคลื่อนความพยายามของคุณมาจากไกลโคเจนที่เก็บไว้ในกล้ามเนื้อของคุณอย่างไรก็ตามเมื่อร้านค้าเหล่านี้หมดลงร่างกายของคุณจะเริ่มดึงน้ำตาลที่เก็บไว้ในเลือดและตับ หากคุณวิ่งเป็นเวลา 90 นาทีหรือนานกว่านั้นคุณจะต้องบริโภคคาร์โบไฮเดรตเพื่อทดแทนกลูโคสที่คุณสูญเสียไป เครื่องดื่มเหล่านี้ให้ความชุ่มชื้นและคาร์โบไฮเดรตเช่นเดียวกับโซเดียมและโพแทสเซียม เจลและเคี้ยวกีฬาก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน พวกเขามักให้คาร์โบไฮเดรตในรูปของน้ำตาลที่ย่อยเร็ว

 

หากคุณต้องการรับประทานอาหารกินระหว่างวิ่งมีทางเลือกมากมายที่จะช่วยเติมพลังให้ร่างกาย ตัวเลือกระดับกลางที่ดี ได้แก่ :

  • กล้วย
  • องุ่น
  • เอเนอร์จี้บาร์
  • ลูกเกด

บางคนถึงกับเลือกของว่างที่มีน้ำตาลสูงเช่นหมีเหนียวหรือขนมชิ้นเล็ก ๆ กุญแจสำคัญคือการเลือกสิ่งที่มีน้ำหนักเบาที่มีดัชนีน้ำตาลในเลือดสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่เคี้ยวและกลืนยากในระหว่างวิ่ง ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดผลิตภัณฑ์จากนมและอาหารที่มีเส้นใยสูงเนื่องจากอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับท้องได้

อาหารนักวิ่ง
อาหารนักวิ่ง

อาหารหลังวิ่ง อาหารนักวิ่ง ควรกินอะไร 

สิ่งที่คุณกินหลังวิ่งมักขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ ตัวอย่างเช่นคุณอาจเลือกตัวเลือกที่มีแคลอรีต่ำหากคุณกำลังพยายามลดน้ำหนักหรือมุ่งเน้นไปที่ตัวเลือกโปรตีนสูงหากคุณกำลังพยายามสร้างกล้ามเนื้อ ไม่ว่าในกรณีใดคุณจะต้องเปลี่ยนของเหลวที่สูญเสียไปฟื้นฟูระดับไกลโคเจนและสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่

 

ตัวเลือกอาหารกินหลังวิ่งที่ดี ได้แก่ ของว่างหรืออาหารเบา ๆ ที่มีของเหลวคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน หากคุณไม่มีเวลาทานอาหารแถบพลังงานสามารถให้คาร์โบไฮเดรตต่อโปรตีนในอัตราส่วนที่ดีได้ (มุ่งเป้าไปที่อัตราส่วน 3: 1 หรือ 4: 1) ตัวอย่างของที่คุณอาจกิน ได้แก่ :

  • เบเกิลกับเนยถั่ว
  • โปรตีนเชค
  • กรีกโยเกิร์ตกับผลไม้

และอย่าลืมแทนที่ของเหลวที่สูญเสียไปด้วยสิ่งต่างๆเช่นน้ำนมช็อกโกแลตหรือเครื่องดื่มฟื้นฟู จากการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Journal of the International Society of Sports Nutrition พบว่านมช็อคโกแลตอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเครื่องดื่มกีฬาเมื่อต้องออกกำลังกาย

 

อาหารนักวิ่ง ข้ามอาหารที่มีไขมันสูงของทอดหรือมันเยิ้มที่มีแคลอรี่สูง แต่คุณค่าทางโภชนาการต่ำ คุณอาจรู้สึกหิว แต่การทานอาหารจานด่วนที่มีแคลอรีสูงสามารถยกเลิกประโยชน์ทั้งหมดจากการวิ่งของคุณได้ โซดาหวานก็เป็นทางเลือกที่ไม่ดีเช่นกัน



Categories
ขนมหวานไทย

เมนูขนมไทยครองแครงอัญชันกะทิสด หอมหวาน เคี้ยวนุ่มหนึบหนับ

ครองแครงอัญชันกะทิสด
ครองแครงอัญชันกะทิสด

เมนูขนมไทย “ครองแครงอัญชันกะทิสด” เป็นขนมไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน เมนูนี้ทำด้วยแป้งกดบนพิมพ์ให้เป็นรูปคล้ายฝาหอยแครง จึงเป็นที่มาของชื่อเมนูครองแครง และยิ่งได้ต้มกับกะทิสดๆ ยิ่งเริ่มความอร่อย หอม หวาน มันครบเครื่อง เนื้อของแป้งครองแครงก็นุ่มหนึบหนับ แถมสีสันยังสดใสชวนน่ารับประทานมากเลยค่ะ สีที่นำมาใช่เป็นสีจากธรรมชาติรับรองว่ามีประโยชน์และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ เป็นอีกเมนูขนมหวานที่เราอยากนำเสนอให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน บอกเลยว่าขั้นตอนการทำไม่ยากอย่างที่ทุกคนคิดแน่นอนค่ะ

ส่วนผสมหลักของเมนูขนมครองแครงอัญชันกะทิสด

วัตถุดิบในการทำเมนูขนมไทยครองแครงอัญชันกะทิสด ก็มีไม่มากและไม่ยุ่งยาก หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป ขนมครองแครง เป็นขนมที่เราสามารถเลือกใส่สีสันได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า สีเขียว หรือสีชมพู เป็นต้น ถ้าจะให้ดีเราขอแนะนำให้ใช้สีจากธรรมชาติ เพราะสีจะได้น่ากิน แถมมีประโยชน์ อย่างดอกอัญชันที่เรานำมาประกอบเป็นส่วนผสมในเมนูนี้ ตัวสีจะไม่โดด และในสีฟ้าธรรมชาติชวนให้หน้าตาของขนมน่ากินยิ่งขึ้น อย่ารอช้าเรามาดูส่วนผสมและวิธีทำครองแครงกันเลยค่ะ

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. แป้งมัน 1 ถ้วย
  2. แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย
  3. น้ำเปล่า 2/3 ถ้วย
  4. ดอกอัญชันนำมาต้มคั้นเอาแต่น้ำ 1/2 ถ้วย (ใช้สีอื่นก็ได้ตามความชอบ)
  5. กะทิสด 3 ถ้วย
  6. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  7. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  8. ใบเตยหอม 5 ใบ
ครองแครงอัญชันกะทิสด
ครองแครงอัญชันกะทิสด

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. เริ่มต้นด้วยการผสมแป้งข้าวเจ้า และแป้งมัน เข้าด้วยกัน จากนั้นนำน้ำอัญชันผสมลงไปทีละน้อย
  2. นวดแป้งให้เข้ากัน จนแป้งขึ้นเงา
  3. โรยแป้งนวลลงไปในแม่พิมพ์ จากนั้นก็จับแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วกดลงบนแม่พิมพ์
  4. ตั้งหม้อนำขนมไปต้มจนขนมกลายเป็นสีใส จนขนมเริ่มลอยตัวขึ้น แล้วตักออกมาแช่น้ำเย็น
  5. ต่อมาทำกะทิสด โดยต้มกะทิกับน้ำตาล ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย และเพิ่มความหอมด้วยใบเตย(มัดใบเตยให้เป็นก้อน) ต้มด้วยไฟอ่อน อย่าให้กะทิเดือดเด็ดขาด!! เพราะจะกลายเป็นแกงกะทิทันที
  6. ตักตัวครองแครงใส่ถ้วย จากนั้นก็ราดน้ำกะทิ ตามด้วยงาคั่วหอมๆ พร้อมเสิร์ฟ

นอกจากนี่ขนมครองแครง ไม่ใช่แค่ครองแครงอัญชันกะทิสดเท่านั้น แต่สามารถทำออกมาได้อีกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ครองแครงกรอบ ครองแครงแห้ง ครองแครงแก้ว บอกเลยว่าเมนูนี้มีความหลากหลาย แถมยังอร่อยถูกปากใครหลายๆคนอีกด้วย ขั้นตอนการทำก็ง่ายแสนง่าย หรือจะทำขายก็ไม่ผิดหวัง เพราะเป็นเมนูขนมหวานที่ยังได้รับความนิยมจากผู้คนตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

Categories
อาหารสุขภาพ

สลัดโรลปูอัด เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ แคลอรีต่ำ กินแล้วไม่อ้วน

สลัดโรลปูอัด
สลัดโรลปูอัด

สลัดโรลปูอัด” เมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมที่สุด เป็นเทรนด์ของคนรักสุขภาพหลายๆ คน ด้วยความที่เป็นเมนูเฮลธ์ตี้ที่มีขั้นตอนการทำที่เรียบง่าย รสชาติอร่อย ถูกใจใครหลายคน แถมมีประโยชน์ดีต่อสุขภาพ จึงไม่แปลกใจเลยที่เมนูนี้ได้รับความสนใจจากหลายๆคน เพราะคนไทยส่วนใหญ่พากันหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ถึงจะอยู่บ้านหรือที่ทำงาน อาหารหลักๆ ที่ถูกเลือกก็คืออาหารเพื่อสุขภาพนี่ล่ะค่ะ และทำให้คนเริ่มหารายได้เสริมจากการทำสลัดโรลขายมากขึ้น

ส่วนผสมหลักของเมนูสลัดโรลปูอัด

วัตถุดิบที่นำมาทำเมนูสลัดโรลปูอัด ที่ต้องสด และดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นเมนูสลัดโรล ที่ทานง่าย พอดีคำแต่ไส้แน่นด้วยผักและเครื่องเคียง ยิ่งกินกับจิ้มน้ำสลัดรสชาติเข้มข้นเต็มคำ ยิ่งเพิ่มความอร่อยมากขึ้น เป็นเมนูเพื่อสุขภาพ แถมเมนูนี้ยังสามารถเลือกใช้ส่วนผสมตามที่เราชื่นชอบได้อีกด้วย เช่น สลัดโรลทูน่า สลัดโรลหมูยอ สลัดโรลไก่ย่าง เป็นต้น ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครหลายๆ คน  วันนี้เราก็มีส่วนผสมหลักและขั้นตอนการทำมาแนะนำทุกคนให้ลองทำตาม มาดูกันเลย!!

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. พริกชี้ฟ้า (เขียว) ตามความชอบของแต่ละคน
  2. กระเทียม 5 กลีบ
  3. รากผักชี (หั่น) 3 ราก
  4. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาล 2 ช้อนชา
  7. ใบเมี่ยงญวน
  8. ผักสลัด
  9. ปูอัด
  10. แครอท
  11. แตกกวาญี่ปุ่น

หมายเหตุ : สามารถเพิ่มผักที่ทุกคนชื่นชอบได้นะคะ

สลัดโรลปูอัด
สลัดโรลปูอัด

ขั้นตอนวิธีการทำ

ขั้นตอนวิธีการทำเมนูสลัดโรลปูอัด มีไม่ยุ่งยากแค่ 3 ขั้นตอน แต่ก็ต้องใช้ทักษะในการห่อไม่ให้ไส้ไหลทะลักออกมา ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

  1. เริ่มด้วยขั้นตอนการทำน้ำจิ้มสลัดด้วยการใส่ พริกชี้ฟ้า กระเทียม รากผักชี น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย ลงปั่นให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. ขั้นตอนการห่อสลัดโรลปูอัด
  • นำใบเมี่ยงญวนไปในน้ำสะอาดให้นิ่มประมาณ 5 วินาทีแล้วยกขึ้น แตะปลายใบเมี่ยงพักบนขอบภาชนะสักครู่เพื่อให้สะเด็ดน้ำแล้วค่อยยกมาวางบนเขียง(พรมน้ำบนเขียงเล็กน้อย)เตรียมที่จะห่อ
  • แล้วนำปูอัดมาวางก่อนในระยะ 1 ส่วน 3 ของใบเมี่ยง ตามด้วยแครอทและแตงกวา เกลี่ยให้เท่าๆ กัน ปิดท้ายด้วยผักสลัดวางในลักษณะคว่ำลง จากนั้นม้วนให้แน่น
  1. ผ่าโรลเป็น 3 ท่อน จัดเรียงบนจานเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ด

เป็นเมนูอาหารคลีน แคลอรีต่ำที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย รสชาติอร่อย ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดก็ยิ่งฟินสุดๆ แถมยังมีประโยชน์ช่วยควบคุมน้ำหนัก สร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี สมองโล่ง สดใสตลอดวัน และเพิ่มระดับพลังงานในตัว เป็นเมนูทางเลือกแห่งปี 2020 ที่ทุกคนไม่ควรพลาด

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร ทาร์ตบราวนี่ เมนูเบเกอรี่หวานๆ อร่อยง่ายๆ ที่บ้าน

ทาร์ตบราวนี่
ทาร์ตบราวนี่

สำหรับวันนี้ใครที่ครัวจะทำขนมเบเกอรี่หวานๆ เรามีสูตรขนมหวานอย่าง “ทาร์ตบราวนี่” มาแนะนำเป็นเบเกอรี่ขนมหวานที่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน แถมยังอร่อยระดับเคาน์เตอร์แบรนด์เลยนะคะ เมนูนี้บอกเลยว่ามีความเข้มข้นและความลงตัวที่คนรักขนมเบเกอรี่หวานๆ ห้ามพลาด!! โดยสูตรนี้เราได้ไปเจอในโลก Facebook จากเพจ ว่างเป็นเข้าครัว By Jum ที่การันตีความอร่อยและความเข้มข้นของช็อกโกแลตจัดเต็มแบบเน้นๆระดับห้าดาว

ส่วนผสมหลักของเบเกอรี่ขนมหวานทาร์ตบราวนี่

วัตถุดิบสำหรับเมนูเบเกอรี่ขนมหวานอย่างทาร์ตบราวนี่ขนมที่หลายๆคนต่างชื่นชอบ สูตรนี้เป็นสูตรที่เราการันตีได้เลยว่าอร่อยจนต้องบอกต่อ และความเข้นข้นของช็อกโกแลตที่ทำให้ไม่สามารถหยุดกินได้เลยค่ะ เป็นเมนูที่มีการผสมผสานระหว่างทาร์ตและบราวนี่ได้อย่างลงตัวมากเลยค่ะ วัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ไม่รอช้าเรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำกันเลย!!!

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. ดาร์คช็อคโกแลต 100 กรัม
  2. ผงโกโก้ 30 กรัม
  3. เนยจืด 85 กรัม
  4. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
  5. ผงฟู 1/4 ช้อนชา
  6. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  7. น้ำตาล 200 กรัม
  8. ไข่ 2 ฟอง
  9. วนิลา 2 ช้อนชา

หมายเหตุ : ใช้ทาร์ตสำเร็จรูปแทนถาด 8*8 ค่ะ

ทาร์ตบราวนี่
ทาร์ตบราวนี่

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ละลายช็อคโกแลต เนยจืด และ ผงโก้โก้ รวมกัน จนเป็นเนื้อเดียวกันได้ดี และมีเงาน้ำมันลอยบนผิวหน้า
  2. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมถาดขนาด 8*8 นิ้ว แล้วทาเนยและปูกระดาษไข จากนั้นผสมแป้งและผงฟู แล้วพักไว้
  3. ตีไข่ไก่ น้ำตาล เกลือ และวนิลาเข้าด้วยกัน จนมีสีที่อ่อนลง (ถ้าอยากให้ขนมฟูหน้า ตี 3 นาที)
  4. เทส่วนผสมของช็อคโกแลต(ในขั้นตอนที่1) ลงในภาชนะไข่ แล้วคนให้เข้ากัน
  5. เติมแป้ง แล้วคนพอแป้งหมด เทลงถาด จากนั้นนำเข้าอบด้วยไฟบน-ล่าง ที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เวลาประมาณ 16-18 นาที (ถ้าใส่ทาร์ตให้อบ 15นาที)

แนะนำเพิ่มเติม

  • ถ้าชอบเนื้อแน่นหนึบๆ ให้คนด้วยตะกร้อมือ ไข่ไม่ต้องฟูมาก คนให้น้ำตาลละลาย และสีซีดๆลงก็พอค่ะ แต่ถ้าตีฟูหน่อย ประมาณ 3- 4 นาที จะได้เนื้อขนมเพิ่มขึ้น
  • ถ้าต้องการรสชาติเข้มข้น แบบฝรั่ง เพิ่มช็อคโกแลตไปอีก 75 กรัม จะเข้มข้นมากค่ะ
  • ในขั้นตอนการละลายเนย โกโก้ และช็อคโกแลต ต้องละลายจน เห็นเป็นเงาๆ น้ำมันบนผิวหน้า ทำออกมารับรองว่าฟินแน่นอนค่ะ
  • ถ้าใช้ดาร์คช็อค 50% ขึ้นไป จะไม่หวานนะคะสูตรนี้ แต่ถ้าใช้คอมพาวด์ หรือเปอร์เซ็นต์น้อยกว่าลดน้ำตาลได้ 10-20 กรัมได้ค่ะ

เมนูเบเกอรี่ขนมหวานทาร์ตบราวนี่ สูตรนี้ไม่ได้ ทำได้แค่รสช็อกโกแลตเท่านั้นนะคะ แต่ยังสามารถนำไปปรุงแต่งทำเป็นทาร์ตบราวนี่ชาเขียวได้อีกด้วย เมนูนี้ทำกินเองก็อร่อยถูกปากคนในครอบครัวแน่นอนค่ะ หรือจะทำขายก็ได้ราคาดีนะคะ

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร สตูว์ไก่ เมนูอาหารฝรั่ง ครบทุกรสทั้งเปรี้ยวหวานมันเค็ม

สตูว์ไก่
สตูว์ไก่

ใครที่เข้าครัวทำอาหารในวันนี้ แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำเมนูอะไร เราขอแนะนำเมนู “สตูว์ไก่” อาหารจากประเทศฝรั่งที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก นิยมเสิร์ฟคู่กับขนมปังเนื้อหนักอย่างบาแก็ต (Baguette) และมีการปรับปรุงให้เข้ากับวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ สำหรับใครที่ชอบทานไก่ เรารับรองได้เลยว่าเมนูนี้ต้องถูกปากใครหลายๆ คน รสชาติกลมกล่อม ยิ่งได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมผักแกล้มต้องบอกเลยว่าฟินได้ใจมาก

ส่วนผสมหลักของเมนูสตูว์ไก่

วัตถุดิบเมนูสตูว์ไก่ ที่เห็นได้ชัดเลยก็เนื้อไก่ เป็นอาหารที่คนอิสลามชื่นชอบ เมนูสตูว์นั้นมีหลากหลายไม่จำเป็นต้องใช้เนื้อไก่เท่านั้น เราสามารถใช้เนื้อสัตว์ที่เราชอบได้ เช่น สตูว์หมู สตูว์เนื้อวัว เป็นต้น เมนูนี้มีรสชาติที่ครบเครื่องทุกรส ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม แถมยังอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เรามาดูส่วนผสมหลักกับขั้นตอนการทำกันเลย

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. น่องไก่ติดสะโพก 5 ชิ้น
  2. น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  3. กระเทียม 3 กลีบ
  4. หัวหอมใหญ่ 1 หัว
  5. แครอท 1 หัว
  6. มันฝรั่ง 2 หัว
  7. มะเขือเทศ 3 ผล
  8. เนย 1 ช้อนโต๊ะ
  9. แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
  10. ซอสมะเขือเทศ 100 กรัม
  11. ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ
  12. ซอสวูสเตอร์ 1 ช้อนโต๊ะ
  13. เกลือสำหรับปรุงรส
  14. พริกไทยสำหรับปรุงรส
  15. น้ำสล็อตไก่ 2-3 ถ้วย
สตูว์ไก่
สตูว์ไก่

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ตั้งหม้อใบใหญ่ด้วยไฟปานกลาง จากนั้นใส่น้ำมันรำข้าวลงไป รอให้น้ำมันร้อนพอดี
  2. ระหว่างรอให้หม้อร้อนในโรยเกลือ และพริกไทยบนเนื้อไก่ทั้งสองด้าน น้ำมันในหม้อเริ่มร้อนให้นำชิ้นไก่ลงไปจี่จนเนื้อด้านนอกมีสีน้ำตาลอ่อนๆ แล้วนำไก่ขึ้นพักไว้
  3. ทำน้ำสต๊อกปรุงรส โดยผสมน้ำสต๊อกไก่ กับซอสมะเขือเทศ ซอสพริก และซอสวูสเตอร์ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ใส่ภาชนะพักไว้
  4. ตั้งเตาโดยใช้หม้อใบเดิม ใส่กระเทียม หัวหอมใหญ่ แครอท แล้วมันฝรั่ง ลงไปผัดประมาณ 3 นาที แล้วจัดเรียงชิ้นไก่ลงไป ตามด้วยน้ำสต๊อกปรุงรส
  5. พอส่วนผสมเริ่มเดือด ให้ลดไฟ แล้วเคี่ยวต่อให้ไก่เนื้อนุ่มดี ประมาณ 30 นาที
  6. ตักชิ้นไก่ออกมา ชิมและปรับรสสตูว์ด้วยเกลือ และพริกไทย ผสมเนยและแป้งสาลี ใส่ลงไปในสตูว์เพื่อให้น้ำซอสข้นขึ้น หั่นครึ่งมะเขือเทศใส่ลงไป ตักใจถ้วยพร้อมเสิร์ฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน อร่อยถูกปากใครหลายๆ คนใช่ไหม? สำหรับสูตรวิธีทำเมนูสตูว์ไก่ บอกเลยว่าสูตรนี้รสชาติอร่อยกลมกล่อม เข้มข้น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือจะทำสตูว์ไก่แบบจีน ก็น่ากินไปอีกแบบ และทำได้ง่ายๆ กินได้ทั้งครอบครัว หรือจะทำขายก็ขายดีแน่นอน ใครที่ทำแล้วก็อย่าลืมแชร์ความอร่อยมาให้เราได้ชื่นชมด้วยนะคะ

Categories
อาหารสุขภาพ

คู่มือโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้เล่นฟุตบอล อาหารนักฟุตบอล

คู่มือโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้เล่นฟุตบอล อาหารนักฟุตบอล
คู่มือโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้เล่นฟุตบอล อาหารนักฟุตบอล

เมื่อพูดถึงการเติมน้ำมันให้กับนักฟุตบอลไม่มีใครเหมาะสมกับแผนโภชนาการทั้งหมดอย่างชัดเจน ความต้องการทางโภชนาการแตกต่างกันไปไม่เพียง แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ยังรวมถึงตำแหน่งที่พวกเขาเล่นด้วย Tara Ostrowe, MS, RD, นักโภชนาการการกีฬาของทีมของ New York Giants กล่าวว่า “แผนโภชนาการต้องเป็นรายบุคคลสำหรับผู้เล่นแต่ละคนโดยพิจารณาจากน้ำหนักส่วนสูงเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายและตำแหน่งในสนาม” สิ่งหนึ่งที่ทุกแผนมีเหมือนกันคือความสม่ำเสมอ การเลือกอาหารที่มีคุณภาพสูงและสอดคล้องกับการรับประทานอาหารตลอดทั้งปีถือเป็นรากฐานที่มั่นคงที่ช่วยให้ผู้เล่นดำเนินการได้อย่างเต็มศักยภาพ

อาหารสำหรับนักบอล

ตารางอาหารนักฟุตบอล อาหารนักฟุตบอล ควรจัดตารางอย่างไร

คาร์โบไฮเดรต: เป็นเชื้อเพลิง

อาหารนักฟุตบอล นักกีฬาต้องการคาร์โบไฮเดรตและมีมากมาย! นักฟุตบอลต้องพึ่งพาแหล่งเก็บไกลโคเจนเป็นพลังงานอย่างมาก คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานไปสู่การเล่นกีฬาที่ไม่ต่อเนื่องเช่นฟุตบอลซึ่งมักจะมีการเก็บไกลโคเจนในระหว่างการออกกำลังกายและการฝึกซ้อม จำนวนและความถี่ที่ต้องการจะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของปี (เช่นนอกฤดูกาลปรีซีซั่น ฯลฯ ) เป้าหมายเฉพาะของผู้เล่นและตำแหน่งของพวกเขา

การเลือกขนมปังโฮลเกรนพาสต้าข้าวมันฝรั่งผักและผลไม้ที่หลากหลายช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้เล่นเหล่านี้ไม่เพียง แต่ได้รับคาร์โบไฮเดรตที่จำเป็นในการดำเนินการเท่านั้น แต่ยังมีวิตามินแร่ธาตุและไฟเบอร์ที่จำเป็นซึ่งมีหน้าที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบและสนับสนุนการฟื้นตัว คาร์โบไฮเดรตในรูปแบบของเครื่องดื่มกีฬาเจลและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันควร จำกัด เฉพาะวันที่เล่นเกมและฝึกฝนการเติมน้ำมันไม่ใช่ในกิจวัตรการกินประจำวันของผู้เล่น

อาหารนักฟุตบอล โภชนาการนักฟุตบอล ที่ผู้เล่นควรเข้าถึง

โฮลเกรน: ข้าวโอ๊ต, ขนมปังโฮลวีต 100%, โฮลวีตหรือตอร์ตีญ่าข้าวโพด, พาสต้าโฮลวีต, ข้าวกล้องและซีเรียลน้ำตาลต่ำที่มีโปรตีนอย่างน้อย 5 กรัมต่อหนึ่งมื้อ

ผลไม้: ผลไม้สดทั้งแอปเปิ้ลลูกแพร์กล้วยแตงโมสับปะรดแคนตาลูป

ผักที่ไม่มีแป้ง: บรอกโคลี, ผักโขม, พริก, บวบ, ผักกาดหอม (ยิ่งเข้มยิ่งดี), สควอช, หัวหอม, กะหล่ำดอก, เห็ด, มะเขือเทศ, แครอท

ผักที่มีแป้ง: มันฝรั่งมันเทศถั่วข้าวโพดสควอชบัตเตอร์เน็ท

ถั่วและพืชตระกูลถั่ว: ถั่วไตถั่วดำถั่วขาวถั่วเลนทิล

นม: กรีกโยเกิร์ตนมไขมันต่ำและนมช็อกโกแลต

ผู้เล่นควรหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการกลั่นเช่นขนมปังขาวเค้กขนมคุกกี้พายซีเรียลที่มีน้ำตาลสูงโซดาและน้ำผลไม้

อาหารเพื่อสุขภาพนักบอล
อาหารเพื่อสุขภาพนักบอล

อาหารนักฟุตบอล ความสำคัญของโปรตีน เพื่อสร้างและซ่อมแซม 

ผู้เล่นต้องการโปรตีนที่เพียงพอเพื่อกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนของกล้ามเนื้อซึ่งเป็นวิธีที่ดีกว่าในการพูดเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและเพื่อซ่อมแซมความเสียหายของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึก การเลือกโปรตีนคุณภาพสูงที่ไม่ติดมันในมื้ออาหาร แต่ก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกครั้งก็มีความจำเป็นเช่นกัน เป็นความเข้าใจผิดทั่วไปที่นักกีฬาต้องบริโภคโปรตีนเสริมผ่านการเขย่าบาร์และผง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการบริโภคโปรตีนในปริมาณที่มากเกินไปไม่มีประโยชน์ต่อการกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนของกล้ามเนื้อและมักจะไปแทนที่สารอาหารสำคัญอื่น ๆ ที่ร่างกายต้องการ ความจริงก็คือเป็นไปได้ที่จะตอบสนองความต้องการโปรตีนของนักฟุตบอลผ่านอาหารที่แท้จริง สิ่งนี้จำเป็นต้องมีการวางแผนการรับประทานอาหารที่มีแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงกระจายอยู่ตลอดทั้งวันผ่านมื้ออาหารและของว่างตามกำหนดเวลาอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงการรับประทานโปรตีนมากเกินไปในมื้อเดียวหรือในช่วงเวลาที่กำหนด

 

ลองนึกถึงไก่หรือไก่งวงที่ไม่มีผิวหนังเนื้อแดงไม่ติดมันถั่วไข่และปลา และกรดอะมิโนโซ่กิ่งที่เป็นที่ต้องการ (BCAA) เหล่านี้สามารถพบได้ง่ายในนมและเนื้อสัตว์ดังนั้นคุณสามารถข้ามอาหารเสริมได้

 

อาหารเสริมจะมีประโยชน์หากยากที่จะได้รับโปรตีนในปริมาณที่ต้องการหรือสำหรับวันเล่นเกมและฝึกฝนการเติมน้ำมัน ฉันแนะนำให้ทำสมูทตี้ของคุณเองเสมอหากคุณมีวิธีการด้วยอาหารจริงๆเช่นโยเกิร์ตกรีกเนยถั่วและผลไม้เช่นเบอร์รี่แอปเปิ้ลหรือกล้วย

 

อาหารนักฟุตบอล ไขมันเป็นสิ่งสำคัญในการดูแล

นักฟุตบอลก็ต้องการไขมันเช่นกัน แต่ชนิดที่ดี ไขมันที่มากเกินไป (โดยปกติจะเป็นชนิดอิ่มตัว) สามารถทำให้ผู้เล่นเสี่ยงต่อการเพิ่มมวลไขมันซึ่งทำหน้าที่เพียงชะลอความเร็วและฆ่าเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ ไขมันที่น้อยเกินไปอาจส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหารและส่งผลต่อประสิทธิภาพในที่สุดเช่นกันดังนั้นการกลั่นกรองจึงเป็นชื่อของเกมที่นี่ แคลอรี่ไขมันไม่เพียง แต่หนาแน่นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้เล่นอิ่มท้องได้อีกด้วย รวมไขมัน 1-2 ส่วนในอาหารในรูปของปลาที่มีไขมันถั่วและเนยถั่วเมล็ดพืชเนื้อสัตว์นมอะโวคาโดและน้ำมันมะกอก

 

ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว: มะกอกและน้ำมันมะกอกน้ำมันคาโนลาอะโวคาโดถั่ว (พิสตาชิโอแมคคาเดเมียอัลมอนด์เม็ดมะม่วงหิมพานต์) และเมล็ดทานตะวัน

กรดไขมันโอเมก้า 3 (ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน): ปลาที่มีไขมัน (ปลาแซลมอนปลาทูน่าปลาชนิดหนึ่งปลาเทราท์) วอลนัทเมล็ดแฟลกซ์และเจีย

และอย่าลืม จำกัด :

 

ผลิตภัณฑ์นมไขมันเต็มเนยน้ำมันปาล์มอาหารทอดเนื้อวัวเนื้อหมูและไก่อาหารทอดมาการีนอาหารที่มีครีมมาก (เช่นน้ำสลัดและมายองเนส) และอะไรก็ตามที่ทำจากน้ำมันที่เติมไฮโดรเจนบางส่วน

 

การรับประทานอาหารนักฟุตบอลที่แท้จริงประมาณ 2-3 ครั้งต่อวันช่วยให้ผู้เล่นพึงพอใจและเติมพลังให้เพียงพอระหว่างมื้ออาหาร การเพิ่มประสิทธิภาพหมายความว่าผู้เล่นต้องการสารอาหารที่สำคัญสำหรับแคลอรี่และอาหารทั้งตัวจะชนะการแข่งขันความหนาแน่นของสารอาหารทุกครั้ง หากคุณต้องการเล่นที่ด้านบนสุดของเกมให้กำจัดอาหารขยะ ร่างกายของคุณจะขอบคุณและประสิทธิภาพของคุณจะดีขึ้นอย่างมาก โปรดจำไว้ว่าอาหารมีประโยชน์และตอบสนองวัตถุประสงค์ เมื่อจุดประสงค์นั้นช่วยให้ผู้เล่นฟื้นตัวหลังจากผ่านไปสองวันอาหารนั้นจะต้องเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีคุณภาพสูงให้มากที่สุด ของว่างและบาร์แบบบรรจุกล่องไม่ว่าพวกเขาจะสัญญาอะไรก็ไม่สามารถอยู่ได้ตามโฆษณา อาหารทั้งหมดให้โปรตีนไฟเบอร์ไขมันและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในปริมาณที่เหมาะสมซึ่งทำให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย

 

ลองนึกถึงผลไม้ทั้งผลเช่นแอปเปิ้ลและกล้วยกับคอทเทจชีสไขมันต่ำหรือโยเกิร์ต¾ถ้วยถั่วหนึ่งกำมือหรือ 2 ช้อนโต๊ะ เนยถั่วบนขนมปังโฮลเกรนม้วนผักกาดหอมกับไก่งวงอะโวคาโดและมัสตาร์ดโปรตีนเชคหรือสมูทตี้ที่ทำด้วยโยเกิร์ตกรีกธรรมดาผลไม้ 1-2 ช้อนโต๊ะ เช่นเนยอัลมอนด์หรือใส่ลูกชิ้นไก่งวงสองสามลูก (ผู้เล่นที่ชื่นชอบในประสบการณ์ของฉัน)

ฟุตบอล

อาหารนักฟุตบอล เป็นกุญแจสำคัญ โภชนาการนักฟุตบอล

การขาดน้ำไม่ใช่เรื่องตลกและเป็นสิ่งที่นักฟุตบอลต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปรีซีซั่นและช่วงต้นฤดูที่อุณหภูมิสูงและพวกเขาสวมใส่ทุกอย่าง ระหว่างฝึกซ้อมหรือเล่นเกมผู้เล่นตั้งเป้าไว้ที่ 16-20 ออนซ์ ของของเหลวต่อชั่วโมงและควรดื่มอะไรทุกๆ 15-20 นาทีหรือมากกว่านั้น ผู้เล่นต้องพิจารณาถึงความจำเป็นในการเพิ่มอิเล็กโทรไลต์ (ในรูปแบบของเครื่องดื่มกีฬาหรืออะไรง่ายๆเช่นกล้วยหรือเพรทเซิลหนึ่งกำมือ) สำหรับสิ่งที่กินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเสื้อกันหนาวที่มีน้ำหนักมาก

Categories
อาหารไทย

ห่อหมกปลากราย เมนูอาหารพื้นบ้านกินกับข้าวสวยร้อนๆ

ห่อหมกปลากราย
ห่อหมกปลากราย

เมนูห่อหมกเป็นอาหารที่อยู่คู่กับคนไทยมากยาวนาน เป็นเมนูที่หาซื้อกินได้ง่ายๆ แต่บางร้านรสชาติก็อาจจะไม่ค่อยถูกปากเรา เมนูนี้จะกินเล่นๆ ก็อร่อย กินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยแซ่บไม่แพ้กัน ซึ่งในวันนี้เราขอนำเสนอสูตรเมนู “ห่อหมกปลากราย” เป็นอาหารไทยพื้นบ้าน รสชาติกลมกล่อม ฟังชื่อแล้วเหมือนจะทำยาก แต่จริงๆ แล้วขั้นตอนวิธีการทำไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะคะ และเราการันตีได้เลยว่าสูตรนี้รสชาติอร่อยกลมกล่อมน่ารับประทาน มีกลิ่นหอมของเครื่องแกง ไม่มีกลิ่นเหม็นคาวแน่นอนค่ะ

ส่วนผสมหลักของเมนูห่อหมกปลากราย

สูตรเมนูอาหารห่อหมกปลากราย ที่เราแนะนำวันนี้เป็นสูตรโบราณ ที่ได้มาจากสมาชิกเว็บไซต์ Pantip ที่สามารถหารับประทานกันได้ง่ายๆ แต่ก็มีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากเช่นกัน ส่วนผสมส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป และที่พิเศษกว่านั้นเราได้มีเพิ่มเนื้อกุ้งเข้าไปในห่อหมกด้วย บอกเลยว่าแปลกใหม่ และรสชาติอร่อยกลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องแกง ไม่เหม็นคาวกลิ่นปลาแน่นอนค่ะ ใครที่อยากลองทำเมนูนี้สามารถทำได้ที่บ้านทานได้ทั้งครอบครัว หรือเป็นเมนูไว้เลี้ยงสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนก็ได้นะคะ อย่ารอช้าเรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำเมนูนี้กันเลยค่ะ!!

อุปกรณ์ สำหรับกระทง

  1. ใบตอง
  2. ไม้กลัด หรือ ที่เย็บกระดาษ

ส่วนผสม ห่อหมกปลากรายสอดไส้กุ้ง

  1. เนื้อปลากราย 300 กรัม
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. พริกแกงเผ็ด 2-3 ช้อนโต๊ะ
  5. กระชาย 20 กรัม
  6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  7. กะทิ 250 มิลลิลิตร
  8. กุ้งหั่นชิ้น 5-10 ตัว (หรือปริมาณแล้วแต่ความชอบ)
  9. ใบโหระพา 20 กรัม
  10. ผักกาดขาวลวก 40 กรัม
  11. พริกแดงซอย (ตามความชอบ)
  12. ใบมะกรูดซอย (ตามความชอบ)

ส่วนผสม กะทิราดหน้าห่อหมก

  1. กะทิ 100 มิลลิลิตร
  2. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  3. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
ห่อหมกปลากราย
ห่อหมกปลากราย

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ทำกระทงสำหรับห่อหมกโดยตัดใบตองเป็นวงกลม 2 แผ่นแล้วนำมาประกบกัน จับจีบแล้วแม็กหรือใช้ไม้กลัดทั้ง 4 มุม ตัดแต่งส่วนเกินของกระทงออกให้สวยงาม
  2. ใส่ปลากราย ไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บ พริกแกงเผ็ด กระชาย น้ำปลา และ กะทิลงในโถปั่นแล้วปั่นให้เป็นเนื้อละเอียดเข้ากัน
  3. นำผักกาดขาวลวกหรือใบโหระพามารองที่ก้นกระทง
  4. ใส่ห่อหมกที่ปั่นไว้ลงไปประมาณ 1/2 ส่วน แล้วใส่กุ้งสด สุดท้ายใส่เนื้อห่อหมกทับอีกที
  5. ตั้งหม้อนึ่งใส่น้ำให้เดือดใช้ไฟปานกลาง นำห่อหมกใส่ลังถึงนึ่งประมาณ 15-20 นาทีหรือจนกว่าจะสุก
  6. ทำหน้ากะทิราดห่อหมกโดยนำกะทิ เกลือ และแป้งข้าวโพดมาผสมรวมกันแล้วคนให้เข้ากัน นำใส่ไมโครเวฟ ประมาณ 1-2 นาที หรือจนกว่าแป้งจะสุกและข้น
  7. นำกะทิมาราดบนห่อหมกที่สุกแล้ว และตกแต่งด้วยพริกแดงซอยกับใบมะกรูดซอย จัดจานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะทุกคน สำหรับเมนูห่อหมกปลากราย เป็นเมนูทานเล่นก็อร่อย ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อย และสามารถนำสูตรนี้ไปทำขายสร้างอาชีพได้ อีกทั้งเมนูห่อหมกนี้ยังสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับวัตถุดิบที่คุณชื่นชอบได้ เช่น ห่อหมกปลากรายมะพร้าวอ่อน ห่อหมกปลานิล เป็นต้น

Categories
ขนมหวานไทย

มะพร้าวแก้ว ขนมไทย หอมกลิ่นใบเตย อร่อยถึงเนื้อมะพร้าว

มะพร้าวแก้ว
มะพร้าวแก้ว

หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวเชียงคาน ก็จะเห็นว่ามีของฝากให้ซื้อหลากหลายและหนึ่งในนั้นก็คือเมนูขนมไทยอย่าง “มะพร้าวแก้ว” เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทขนมหวานทานเล่น และเหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากทุกเทศกาลมากเลยค่ะ ซึ่งวัตถุดิบอย่างมะพร้าว ก็มีส่งให้ผลิตตลอดฤดูกาล โดยส่วนใหญ่จะถูกรับมาจากชาวสวนแถวจังหวัดเพชรบูรณ์ แล้วนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของกลุ่มชาวบ้าน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และปัจจุบันถือว่าเป็นสินค้าเอกลักษณ์ของ อ.เชียงคาน จ.เลย ใครที่เคยไปเยือนเชียงคานต้องซื้อมะพร้าวแก้วติดไม้ติดมือเป็นของฝากให้คนสนิทแน่นอนค่ะ (มาเที่ยว อ.เชียงคาน ต้องนึกถึงมะพร้าวแก้ว) โดยวันนี้เรามีสูตรทำขนมมะพร้าวแก้วมาฝากทุกคนค่ะ ขั้นตอนการทำก็ง่ายนิดเดียว ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงเชียงคานก็สามารถหาทานเมนูนี้ได้ค่ะ

ส่วนผสมหลักของเมนูขนมหวานมะพร้าวแก้ว

วัตถุดิบส่วนผสมหลักๆ ของเมนูขนมหวาน “มะพร้าวแก้ว” ส่วนใหญ่คือมะพร้าว ควรเลือกมะพร้าวที่อ่อนกำลังดี มีเนื้อหนาพอประมาณ ไม่ใช่อ่อนแบบเนื้อใส และไม่หนาจนเหมือนมะพร้าวแก่ ซึ่งหากได้เนื้อมะพร้าวที่กำลังดีจะทำให้รสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น ลักษณะจะเป็นแผ่นบางๆ ขนาดเล็ก เส้นยาว มีรสหวานอ่อนๆ ปัจจุบันมีการเพิ่มสีสันให้มีหลายหลากสีชวนน่ารับประทานยิ่งขึ้น วิธีทำมะพร้าวแก้วก็แสนง่าย ทำได้ที่บ้าน อย่ารอช้าเรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. มะพร้าวอ่อนกำลังดี ขูดเส้น 200 กรัม
  2. น้ำตาลทราย180 กรัม
  3. น้ำลอยดอกมะลิ 80 กรัม
  4. น้ำใบเตยคั้นข้น (ใช้เพิ่มสีสัน สามารถทำสีธรรมชาติสีอื่นมาใช้ได้ตามความชอบ)
  5. น้ำอัญชันเข้มข้น (ใช้เพิ่มสีสัน สามารถทำสีธรรมชาติสีอื่นมาใช้ได้ตามความชอบ)
มะพร้าวแก้ว
มะพร้าวแก้ว

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ตั้งกระทะทองด้วยความร้อนไฟปานกลาง ใส่น้ำลอยดอกมะลิ และน้ำตาลทรายลงในกระทะทอง แล้วเคี่ยวจนน้ำตาลละลายดี
  2. ใส่มะพร้าวอ่อนกำลังดีขูดเส้น เคี่ยวต่อจนแห้งลง จากนั้นใส่น้ำใบเตยหรือน้ำอัญชันลงไป เคี่ยวต่อจนน้ำตาลเริ่มตกผลึกและแห้งลง แล้วยกออกจากความร้อน
  3. ใช้ช้อนตะล่อมใส่ลงในพิมพ์ ผึ่งลมให้แห้งประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรือข้ามคืน จากนั้นแกะออกจากพิมพ์ใส่ขวดโหลปิดฝาให้สนิท หรือจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูขนมหวานมะพร้าวแก้ว เป็นผลิตภัณฑ์ของฝากที่สามารถเก็บไว้รับประทานนานถึงหนึ่งเดือน เป็นมะพร้าวแปรรูปของฝากจากหลายจังหวัด เช่น มะพร้าวแก้วนครปฐม จากอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มะพร้าวแก้วน้ำหอม หรือที่เราคุ้นๆ กันก็มะพร้าวแก้วเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และอีกหลายจังหวัดก็มีขาย แต่แหล่งแปรรูปส่วนใหญ่จะอยู่ที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร ซูเฟล่แพนเค้ก แพนเค้กเนื้อนุ่มฟู ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน

ซูเฟล่แพนเค้ก
ซูเฟล่แพนเค้ก

ถึงเวลาเข้าครัวทำขนมสุดแสนพิเศษ เอาใจเหล่าสาวกเบเกอรี่แล้ว วันนี้เราขอแนะนำเมนูขนมเบเกอรี่ยอดฮิตอย่าง “ซูเฟล่แพนเค้ก” แพนเค้กเนื้อนุ่มฟู สไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่ว่าใครก็ตกหลุมรักเจ้าขนมแพนเค้กนี้ ซูเฟล่ (Souffle) เป็นขนมเค้กชนิดหนึ่งที่ตีกับไข่ขาว และส่วนผสมอื่นๆ ด้วยการอบให้ฟูในถ้วยเซรามิค แต่จะเป็นอย่างไรหากทำซูเฟล่ในรูปแบบขนมแพนเค้ก

ส่วนผสมหลักของขนมเบเกอรี่ซูเฟล่แพนเค้ก

ใครที่เคยได้ลิ้มลองเจ้าเมนูขนมซูเฟล่แพนเค้ก ต่างก็ตกหลุมรักกับแป้งแพนเค้กเด้งดึ๋งนี้มากๆ และเมนูนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นหนุ่มสาว วัตถุดิบที่ใช้ในการทำก็มีไม่มาก แถมยังทำได้ง่าย และที่พิเศษสุดๆ ในวันนี้เราจะทำเมนูนี้โดยไม่ต้องใช้เตาอบ แต่ก็สามารถทำให้เจ้าแพนเค้กนี้นุ่มฟู อร่อยถูกปากใครหลายๆ คนได้แน่นอน ไม่รอช้าเรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนการทำกันเลย

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. ไข่ไก่ 4 ฟอง (แยกไข่แดงกับไข่ขาว)
  2. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  3. แป้งเค้กหรือแป้งอเนกประสงค์ 40 กรัม
  4. เนยเค็มละลาย 20 กรัม
  5. นมสด 25 กรัม
  6. กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา
  7. ครีมออฟทาทาร์หรือน้ำมะนาว 1/8 ช้อนชา
ซูเฟล่แพนเค้ก
ซูเฟล่แพนเค้ก

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. นำไข่ขาวไปแช่เย็นก่อนนำมาตี เพราะจะทำให้แพนเค้กไม่ยุบตัว ระหว่างรอให้ตีไข่แดงผสมกับน้ำตาลทรายครึ่งหนึ่ง จนขึ้นฟูเล็กน้อย และร่องแป้งลงไปผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่นมสด กลิ่นวนิลลา แล้วคนผสมให้เข้ากัน
  2. นำไข่ขาวที่แช่เย็นแล้วมาตีผสมกับครีมออฟทาทาร์และน้ำตาลทรายส่วนที่เหลือ ด้วยเครื่องตีมือสปีทต่ำหรือตะกร้อมือ จนไข่ตั้งยอด แล้วแบ่งผสมกับส่วนผสมไข่แดง โดยใช้ไม้พาย 2-3 ครั้ง จนส่วนผสมเข้ากันดี
  3. ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อนๆ ทาเนยบางๆ บนกระทะ แล้วจุ่มพิมพ์ในน้ำมัน สะเด็ดน้ำมันออกให้เหลือน้อยที่สุดก่อนวางลงบนกระทะ
  4. ตักส่วนผสมใส่ลงในพิมพ์ ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ จากนั้นปิดฝากระทะ ใช้เวลาประมาณ 3- 5 นาที  แล้วกลับด้าน ปิดฝากระทะ ใช้เวลาจนกว่าแพนเค้กจะสุก
  5. นำซูเฟล่แพนเค้กออกจางกระทะ เตรียมจัดจานพร้อมเสิร์ฟร้อนๆ คู่กับ น้ำผึ้ง ไซรัป ไอศกรีม วิปครีมและผลไม้ต่างๆ ได้ตามใจชอบ

สำหรับสูตรการทำซูเฟล่แพนเค้ก ที่เรานำแนะนี้ ยังเหมาะกับคนรักสุขภาพ เพราะเป็นแพนเค้กญี่ปุ่นสูตรไม่ใส่ผงฟู แต่ก็ยังคงเนื้อฟูนุ่ม อร่อยถูกใจใครหลายๆ คนแน่นอน อีกทั้งเรายังสามารถเลือกได้ว่าจะทานคู่กับอะไร และยังทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน แถมยังอร่อยไม่แพ้ร้านคาเฟ่ไหนเลยค่ะ!!!

Categories
อาหารสุขภาพ

ซุปไก่มันฝรั่ง เมนูอาหารเพื่อสุขภาพช่วยต้านหวัด แถมทานแล้วไม่อ้วน

ซุปไก่มันฝรั่ง
ซุปไก่มันฝรั่ง

ในปัจจุบันกระแสอาหารเพื่อสุขภาพได้ติดเทรนด์ทั่วโลก เนื่องจากผู้คนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น สาเหตุอาจเกิดจากปรากฏการณ์โควิด-19 ที่ทำให้คนหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องอาหารการกิน และวันนี้เราขอนำเสนอเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีอย่าง “ซุปไก่มันฝรั่ง” เป็นเมนูที่ทำได้ง่ายๆที่บ้าน มีวัตถุดิบส่วนผสมที่ไม่เยอะและหาซื้อได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เมนูนี้ถูกจัดให้เป็นเมนูต้านหวัด มีรสชาติที่อร่อย แถมสูตรที่เรานำมาแนะนำก็เป็นสูตรที่ทานแล้วไม่อ้วนแน่นอนค่ะ

ส่วนผสมหลักของเมนูซุปไก่มันฝรั่ง

วัตถุดิบในการทำเมนูซุปไก่แบบฝรั่ง ที่เต็มไปด้วยประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ส่วนประกอบหลักๆ ก็คือ เนื้อไก่และผัก ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนทำเมนูซุปไก่ที่พิเศษอย่าง“ซุปไก่มันฝรั่ง” เมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่หลายคนอาจรู้จัก เมนูนี้เป็นเมนูอาหารคลีน เพราะเราเลือกใช้อกไก่ที่อุดมไปด้วยโปรตีนชั้นดี ทานแล้วไม่ทำให้อ้วน แถมยังเป็นเมนูต้านหวัดอีกด้วย อย่ารอช้าตามเรามาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบส่วนผสม

  • อกไก่ 4 ชิ้น
  • แครอท ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 2 หัว
  • มันฝรั่ง ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 2 หัว
  • มะเขือเทศลูกใหญ่ ตัดขั้วทิ้งแล้วหั่นให้เป็นซีกๆ 2-3 ลูก
  • หัวหอมใหญ่ แกะเปลือก แล้วหั่นเป็นซีกๆ 1-2 ลูก
  • ซุปไก่ก้อนคนอร์แบบไม่ใส่ผงชูรส 1-2 ก้อน
  • ขึ้นฉ่ายหั่นแล้ว 2 ต้น (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ความชอบ)
ซุปไก่มันฝรั่ง
ซุปไก่มันฝรั่ง

ขั้นตอนวิธีการทำ

  • ตั้งหม้อน้ำ ใส่คนอร์ซุปไก่ก้อนสูตรไม่ใส่ผงชูรส 2 ก้อน แล้วต้มจะน้ำในหม้อเดือด
  • ใส่ไก่และมันฝรั่งลงไป ต้มทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ไก่เปื่อยและให้มันฝรั่งนิ่ม
  • ใส่แครอทและมะเขือเทศลงไป ต้มทิ้งไว้ราวๆประมาณ 5-10 นาที ตามด้วยใส่หัวหอมใหญ่ลงไป
  • ต้มทิ้งไว้อีกราวๆ 10 นาทีจนทุกอย่างเปื่อย แล้วก็ชิมดู ถ้ารสชาติอ่อนไป ให้ใส่ซุปไก่เพิ่มได้อีกครึ่งก้อนหรือ 1 ก้อน
  • ใส่ขึ้นฉ่าย แล้วปิดไฟ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ

ความพิเศษของเมนูซุปไก่มันฝรั่ง คือความดึงของรสชาติที่ลงตัวของน้ำซุปอกไก่ โดยไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม อีกทั้งความหวานจากผักและไก่ ความเปรี้ยวจากมะเขือเทศ ความหอมจากหัวหอม ที่ใส่ในปริมาณที่พอดี ทำให้เมนูนี้อร่อยมากขึ้นไปอีกค่ะ ยิ่งใส่ขึ้นฉ่ายช่วงท้ายก็ยิ่งทำให้น้ำซุปมีกลิ่นหอมมากขึ้น แถมยังมีประโยชน์ช่วยต้านหวัด และบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ทานแล้วไม่อ้วน แน่นอนค่ะ