สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมหวานไทย

ครองแครงกรอบ ขนมโบราณแต่ไม่โบราณ หอมเนย กรอบฟู

ครองแครงกรอบ

ครองแครงกรอบ แป้งทอดฟูกรอบ หอมกลิ่นเนย ใครที่ได้ลิ้มลองชิมขนม ครองแครงกรอบสูตรโบราณ เป็นติดใจกลับไปทุกคนเลยทีเดียว

ส่วนผสมในการทำ ครองแครงกรอบ

ครองแครงกรอบ

ครองแครงกรอบเป็นเมนูขนมเอาไว้รับประทานเล่น ค่อนข้างเป็นที่นิยม จนสามารถหาซื้อได้ตามตลาดนัด รวมถึง ร้านขายของฝาก มีความคล้ายกรอบเค็ม แต่ไม่ใช่ เพราะกรอบเค็มจะมีรสที่จัดจ้านกว่าอันเกิดจากการผสมพริกขี้หนูลงไปในขนมเมนูนี้ แต่ครองแครงที่มีขนาดเล็กกว่า จะไม่ผสมพร่ิกขี้หนูสวนตำลงไป 

ในส่วนของการทำเมนูนี้ การเตรียมมีความคล้ายกับขนมกรอบเค็ม ทว่า ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะขนมไทย จะมีขั้นตอนในการทำ รวมถึงส่วนผสมที่น้อยกว่าเบเกอรี ทว่าผลลัพธ์ที่ได้มานั้น อร่อยเท่า ๆ กัน 

ครองแครง กรอบ วัตถุดิบมีอะไรบ้าง

ตัวครองแครง

  • แป้งสาลี 350 กรัม
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • กะทิ(แช่เย็น) 100 ml
  • น้ำเปล่า(เย็น) 50 ml
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
ครองแครงกรอบ

น้ำตาลเคลือบ

  • รากผักชี 4 ราก
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • พริกไทย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 150 กรัม
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
  • เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/3 ช้อนชา
  • น้ำปลา 1,1/2 ช้อนชา
  • ผักชีซอย เล็กน้อย

วิธีทำ

ครองแครงกรอบ

ขั้นตอนที่ 1 นำไข่ไก่ เกลือ พริกไทย น้ำตาล น้ำเปล่า กะทิ และน้ำมัน ผสมให้เข้ากัน ตามด้วยแป้ง จากนั้นนวดทุกอย่างให้เข้ากัน พักไว้ในชาม 10 นาที อย่าลืมนำผ้าขาวมาคลุมไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้แป้ง ครองแครงกรอบ แห้งจนไม่สามารถนำมาปั้นเป็นก้อนกลมได้

ขั้นตอนที่ 2 สูตรครองแครงกรอบ แป้งฟู ในขั้นตอนนี้ นำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำส้อมมากดแป้งจนกระทั่งม้วนเข้าหากัน แล้วนำไปทอด

ขั้นตอนที่ 3 ไฟที่ใช้ในการทอดแป้ง จะเป็นอีกหนึ่ง วิธีทำครองแครงกรอบไม่แข็ง โดยให้ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน นำแป้งไปทอดจนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้จนเย็น เตรียมทำน้ำตาลเคลือบ

ขั้นตอนที่ 4 ใช้ไฟอ่อน แล้วใส่เนยลงในกะทะ ใส่กระเทียม รากผักชี พริกไทย ที่ตำละเอียดแล้วลงในกะทะ ผัด 3 เกลอ จนได้กลิ่นหอม ตามด้วยน้ำเปล่า น้ำตาล เกลือ และน้ำปลา เคี่ยวจนกระทั่ง น้ำตาลเคลือบเหนียวและหนืด แล้วถึงค่อยใส่ครองแครงกรอบที่เราเตรียมไว้ ตามด้วยผักชี คลุกและเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปิดไฟ รอให้เย็น ก็สามารถนำมารับประทานได้แล้ว

ครองแครงกรอบ

ครองแครงกรอบสูตรนี้ ถ้าจะให้อร่อยและหอมเพิ่มขึ้นไปอีก ควรใช้เนยตามสัดส่วนที่ให้ไป แต่ถ้าไม่ใช้เนย เปลี่ยนเป็น น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะก็ได้ เพื่อที่ว่า การทำครองแครงจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ถ้าใครที่ชอบกลิ่นเนย เติมลงไปได้เลย เพราะการกินครองแครงที่มีกลิ่นเนยหอม ๆ จะทำให้ การกินมีอรรถรสมากขึ้น จะกินเล่นในช่วงพักเบรตกับกาแฟ ชาร้อน รวมถึงน้ำขิง หรือเก๊กฮวยร้อน เข้ากันดี

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

ข้าวหน้าเนื้อ ละมุนลิ้น อร่อยและอิ่มท้องแบบอาทิตย์อุทัย

ข้าวหน้าเนื้อ

ข้าวหน้าเนื้อ เป็นเมนูอาหารจานด่วนญี่ปุ่นที่มาพร้อมเนื้อสไลด์ฉ่ำ ๆ ละมุนลิ้น อร่อยสู้ วิธีทำข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่น pantip หรือไม่ อย่าพลาด

ส่วนผสมในการทำ ข้าวหน้าเนื้อ

ข้าวหน้าเนื้อ

ใครที่ชอบกินข้าวหน้าเนื้อต้องไม่พลาดเมนูจานด่วนจานนี้ ห้ามพลาด ให้ลองนึกถึงเนื้อสไลด์พอดีคำ นำไปผัดในกะทะจนหอม จากนั้นนำไปโปะลงบนข้าวสวยร้อน ๆ โดยไม่ลืมตอกไข่ดิบคลุก ความอร่อยนั้นเกินคำบรรยาย ได้แต่ร้องออกมาว่า “สุโค่ย” 

ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาสูตรการทำข้าวหน้าเนื้อดังกล่าวให้เป็นที่กล่าวถึง วันนี้แอดมินได้สูตรการทำข้าวมาฝาก 

วัตถุดิบข้าวหน้าเนื้อ

ข้าวหน้าเนื้อ
  • เนื้อวัวแล่บาง 150 กรัม 
  • หอมใหญ่นำมาหั่นเสี้ยวประมาณ 3/4 ถ้วยตวง 
  • ขิงนำมาขูดให้ได้ 1 ช้อนโต๊ะ 
  • ซีอิ๊วญี่ปุ่น 3 ช้อนโต๊ะ 
  • สาเก 2 ช้อนโต๊ะ 
  • มิริน 2 ช้อนโต๊ะ 
  • ดาชิ ¼ ถ้วยตวง 
  • น้ำมันงา 2 ช้อนชา 
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 
  • ไข่ไก่จำนวน 1 ฟอง 
  • ขิงดองเลือกสีแดง 
  • สาหร่าย ใช้โรยหน้าหน้าเนื้อ 
  • ต้นหอมญี่ปุ่น นำมาซอย สำหรับโรยหน้า 
  • พริกป่นญี่ปุ่น 
  • ข้าวสวย (ข้าวญี่ปุ่น)

วิธีทำ

ข้าวหน้าเนื้อ

ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากการทำน้ำซอส นำมิริน สาเก ดาชิ และซีอิ้วญี่ปุ่น นำมาผสมรวมกันในชามผสม จากนั้นพักไว้เพื่อมาเตรียมทำ ข้าวหน้าเนื้อ

ขั้นตอนที่ 2 กะทะตั้งไฟ เซ็ทให้เป็นไฟกลาง แล้วเทน้ำมันงาลงไป รอกระทั่งน้ำมันงาร้อน ให้นำเนื้อสไลด์ผัดลงในกะทะ ปรุงรสด้วยน้ำตาล ผัดเกือบสุกและมีกลิ่นหอม ปิดไฟ ตักขึ้นมาพักไว้

ขั้นตอนที่ 3 นำ วัตถุดิบข้าวหน้าเนื้อ ได้แก่ หอมหัวใหญ่ นำมาผัดในกะทะให้นิ่ม แล้วใส่ขิงขูดลงไป ขั้นตอนนี้ให้เทส่วนผสมน้ำซอสลงไป จากนั้นต้มต่อจนน้ำเดือด

ขั้นตอนที่ 4 ใส่เนื้อลงไป ขั้นตอนนี้ ใช้ไฟกลาง แล้วผัดเนื้ออย่างรวดเร็ว จนเข้ากัน ปิดไฟ เราจะได้เนื้อสไลด์ผัดอร่อย ๆ เหมือน ข้าวหน้าเนื้อย่าง

ขั้นตอนสุดท้าย เตรียมข้าวญี่ปุ่นที่หุงสุกแล้วลงในจาน นำเนื้อสไลด์ผัดโปะข้าว แล้วตอกไข่ลงไป ตกแต่งด้วยต้นหอมซอย ขิงสีแดงดอง สาหร่าย ตามด้วยพริกป่นญี่ปุ่น เพียงเท่านี้ ก็จะได้ข้าวหน้าเนื้ออร่อย ๆ มากินแล้ว 

ข้าวหน้าเนื้อ

ข้าวหน้าเนื้อจะเป็นอีกหนึ่งอาหารในดวงใจของทุก ๆ คน ด้วยรูปลักษณะที่ดูน่ากินของตัวข้าว แล้วไหนจะเนื้อวัวชิ้น โปะอยู่ตรงหน้า อร่อยเหมือนกินเนื้อย่างญี่ปุ่น ใครอยากกิน ต้องลองทำดู ส่วนผสมไม่ได้เยอะ แต่ทำออกมาแล้วอร่อย ก็ต้องลอง แล้วจะร้อง “สุโค่ย!!” ออกมาดัง ๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ข้าวผัดกุ้ง จานใหญ่ เครื่องแน่น ข้าวร่วนอร่อย

ข้าวผัดกุ้ง

ข้าวผัดกุ้ง เมนูจานเดียว กินได้ทุกคน สูตรการทำข้าวผัดกุ้ง สูตรนี้ทำแล้วอร่อย กุ้งแน่น รับรองติดใจ

ข้าวผัดกุ้ง ส่วนผสมในการทำ

ข้าวผัดกุ้งถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่สามารถหาส่วนผสมภายในตู้เย็นทำข้าวผัด ดังนั้น เมนูข้าวผัดถึงเป็นเมนูที่นิยมทำกินในบ้านมากที่สุด คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะทำเมนูไหนดี แต่ข้าวสวยเหลือ ทิ้งก็เสียดาย ถ้าอย่างนั้น เอามาทำข้าวผัดดีกว่าไหม

ข้าวผัดกุ้ง

ข้าวผัดมีหลายสูตร แล้วแต่ว่า วันนั้น เหลืออะไรบ้างในตู้เย็น เช่น เหลือหมู ก็จะเป็นเมนูข้าวผัดหมู เหลือไก่ ก็จะเป็นเมนูข้าวผัดไก่ เป็นต้น แต่ในวันนี้ แอดมินขอนำเสนอ เมนูข้าวผัดที่ทำมาจากกุ้งตัวโต ๆ เนื้อแน่น ๆ ผัดกับข้าวสวย ทำออกมาแล้ว รับรองถูกใจ จนไม่อยากซื้อจากร้านอาหารอีกเลย

ข้าวผัดกุ้ง

วัตถุดิบ

  • ข้าวสวย (หอมมะลิ) 400 กรัม
  • กุ้ง 300 กรัม
  • ไข่ 3 ฟอง
  • กระเทียม 15 กรัม
  • ต้นหอม 20 กรัม
  • ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 2/3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1/2 ช้อนชา
ข้าวผัดกุ้ง

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 กุ้งที่จะนำมาใช้ทำเป็นกุ้งอะไรก็ได้ เช่น กุ้งแชบ๊วย กุ้งขาว หรือแม้กระทั่งกุ้งแม่น้ำ แต่ขอให้เน้นไปที่การเลือกกุ้งที่มีความสด หัวไม่หลุด เราจะได้กุ้งเนื้อแน่น ๆ และอร่อย เมื่อได้กุ้งมาแล้ว ทำความสะอาด จากนั้นผ่าหลัง เอาเส้นหลังสีดำออก

ขั้นตอนที่ 2 เตรียมข้าวสวย ควรเลือกข้าวสวยที่ไม่แฉะจนเกินไป จากนั้นนำกะทะตั้งไฟ ขั้นตอนนี้ใช้ไฟกลาง เทน้ำมันลงไป ตามด้วยกระเทียม ตามสัดส่วนที่เราเตรียมไว้ นำกระเทียมไปเจียวจนกระทั่งได้กลิ่นหอม และมีสีเหลือง ก็เข้าสู่ขั้นตอนการนำ วัตถุดิบข้าวผัดกุ้ง ที่เตรียมไว้ ทำข้าวผัดจานอร่อย

ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนนี้เริ่มใช้ไฟแรงได้เลย จัดการเทกุ้งสดที่ทำความสะอาดแล้วลงในกะทะ ผัดให้เนื้อกุ้งออกเป็นสีส้ม เนื้อกุ้งในขั้นตอนนี้จะยังไม่ต้องสุกมาก จากนั้นตอกไข่ไก่ใส่ลงในกะทะ ผัดและรอจนไข่ไก่เซ็ตตัวดีแล้ว จากนั้นคนให้ส่วนผสม ข้าวผัดกุ้งโบราณ เข้ากันดี

ขั้นตอนที่ 4 ตามด้วยข้าวหอมมะลิที่นำไปแช่ตู้เย็นอันเป็นเทคนิค ข้าวจะเรียงเป็นเม็ดสวย ทว่า เนื้อข้าวยังคงนุ่ม เมื่อนำข้าวใส่ลงในกะทะ ขั้นตอนนี้ใช้ไฟแรง ผัดและคลุกให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ปรุงรสด้วยพริกไทย ซอสปรุงรสฝาเขียว จากนั้นผัดข้าวต่อ โรยต้นหอม จากนั้นปิดเตา เตรียมรับประทานได้เลย

ข้าวผัดกุ้ง

ข้าวผัดกุ้งยังมีเทคนิคเสริมอีกสักเล็กน้อย ช่วงผัดข้าวกับไข่ ต้องผัดให้แห้งเท่านั้น แล้วข้าวผัดจะหอมและอร่อย จนอดใจไม่ไหวอยากตักขึ้นมาจากกะทะ กินตั้งแต่ตอนนั้น ใครอยากทำข้าวผัดให้อร่อย ลองนำสูตรดังกล่าว ประยุกต์ดูนะคะ อาจจะเปลี่ยนจากกุ้ง เป็นข้าวผัดซีฟู้ด หรือ ข้าวผัดไข่ ข้าวผัดเกลือ ได้

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://sa-game.bet/เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเย ครองใจนักพนันมายาวนาน

Categories
ขนมหวานไทย

กรอบเค็ม เคี้ยวกรุ๊บ ๆ หอมกลิ่นพริกไทย

กรอบเค็ม

กรอบเค็ม อร่อยกรุบ ๆ หอมสามเกลอ กรอบเค็มชาววัง ทำไม่ยาก สูตรนี้ ทำเอง กินเอง 

ส่วนผสมในการทำ กรอบเค็ม

กรอบเค็ม

เขื่อว่าหลายคนอาจจะรู้สึกสงสัย ระหว่างครองแครงกรอบและ กรอบเค็ม เหมือนหรือแตกต่างกัน ขนมครองแครงกรอบ ตัวแป้งจะหนากว่ากรอบเค็ม ทว่าตัวเคลือบที่นำมาเคลือบกับกรอบเค็มจะมีรสชาติที่จัดจ้านกว่า ก็อยู่ที่ตัวลูกค้า ชอบแบบไหน

วัตถุดิบในการทำกรอบเค็ม

ส่วนผสมแป้ง

  • แป้งเอนกประสงค์ 250 กรัม
  • หัวกะทิ 75 กรัม
  • ไข่ไก่ฟองเล็ก (เบอร์ 3) 1 ฟอง
  • น้ำปูนใส 2 ช้อนชา
  • น้ำมัน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
กรอบเค็ม

ส่วนผสมน้ำตาลเคลือบ

  • น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
  • รากผักชีโขลก 3-5 ราก
  • พริกไทยเม็ดโขลก 3-4 ช้อนชา
  • น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1+1/2 – 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

กรอบเค็ม

ขั้นตอนที่ 1 นำแป้งสำหรับทำกรอบเค็มผสมเข้าด้วยกัน ได้แก่ แป้งเอนกประสงค์ แป้งสาลี แป้งข้าวโพด คนเข้าด้วยกัน จากนั้นค่อยนำไปร่อน เพื่อเอาสิ่งสกปรก ฝุ่นและผง ออกจากแป้ง

ขั้นตอนที่ 2 ตีไข่ไก่ลงไปในแป้ง จากนั้น นำมานวดและผสมไข่กับแป้งให้เข้ากัน เติมน้ำปูนใส จากนั้นนวดต่อ ตามด้วยหัวกะทิแล้วนวดต่อ ควรจะแบ่งหัวกะทิออกเป็น 3 ครั้ง จากนั้นทยอยใส่แป้ง นวดจนแป้งแห้ง แล้วใส่หัวกะทิ จนครบทั้ง 3 ครั้ง นวดจนรู้สึกว่าแป้งเนียน มีความเข้ากันดี แล้วค่อยพักแป้งประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นนำผ้าขาวมาคลุมไว้

ขั้นตอนที่ 3 นำส่วนผสม ที่ได้จากการนวดแป้ง มาคลึงเป็นก้อนกลม ๆ นำพิมพ์สำหรับทำกรอบเค็มมากด แล้วเตรียมทอด

กรอบเค็ม

ขั้นตอนที่ 4 เทน้ำมันลงในกะทะ จากนั้น นำแป้งไปทอด ทอดจนแป้งเหลืองฟู ตักขึ้นมาจากกะทะแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันเพื่อเตรียมเคลือบ เป็นสูตร กรอบเค็มโบราณ ที่น่ากิน

ขั้นตอนที่ 5 ผัด รากผักชี กระเทียม พริกไทย จนมีกลิ่นหอม ใส่น้ำตามลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำปลา พริกขี้หนูสวนตำ นำมาเคี่ยวจนเหนียวและนำมาเคลือบได้

ขั้นตอนที่ 6 รอกระทั่งน้ำเคลือบเหนียวแล้ว ให้นำตัวแป้งทอดที่เราได้ทอดเตรียมไว้ ผัดในน้ำเคลือบ ขั้นตอนนี้ ต้องทำอย่างเบามือ กระทั่ง เคลือบหมดแล้ว ตักขึ้นมาจากกะทะแล้วพักไว้จนเย็น ตักใส่ถุงหรือภาชนะ ก็รับประทานได้แล้ว

กรอบเค็ม

กรอบเค็มขนมไทยไม่แพ้ขนมเบเกอรี โดยเฉพาะสูตรที่ให้ไป การทำนั้นไม่ยากเลย ตรงกันข้าม เตรียมส่วนผสมไม่เยอะ เรียกได้ว่า ของที่มีในตู้เย็น นำมาทำเมนูขนมไทยเมนูนี้ ได้อย่างอร่อยและลงตัว และเมื่อทำจนคล่อง ใครจะไปรู้ สามารถนำขนมสูตรนี้มาทำขายสร้างอาชีพเสริมได้ อาจจะฝากขายหรือ ทำตามออเดอร์ทำแล้วขายผ่านช่องทางออนไลน์

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://sa-game.bet/เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเย เว็บที่คนเล่นเยอะที่สุด

Categories
อาหารไทย

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ สูตรเด็ด ใครทำก็อร่อย

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ ทำอย่างไรให้เมนูจานด่วนนี้อร่อย บอกเลยไม่ยาก วันนี้มีสูตรก๋วยเตี๋ยวหมูสับ วิธีทำ มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคน

ส่วนผสมในการทำ ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางสารอาหารครบครัน เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี กินที่ไหนก็อร่อย เป็นเมนูที่ควรฝึกไว้ทำกินเองที่บ้านหรือทำให้เพื่อนกิน ซึ่งส่วนผสมที่ต้องเตรียม หาซื้อตามตลาดสดได้ 

วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวหมูสับ

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ
  • เส้นใหญ่ 300 กรัม 
  • ซีอิ๊วดำ ไม่หวาน 2 ช้อนชา
  • หมูสับ 300 กรัม
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1ช้อนชา + 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่นตามชอบ
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำเปล่า ไว้นำมาละลายแป้งมัน
  • หอมหัวใหญ่สับ 1 หัว
  • มะเขือเทศสับ 1 ลูก
  • ผักกาดหอม
  • น้ำมันพืช
  • กระเทียมสับประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
  • แครอท

วิธีทำ

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ

1.นำซีอิ้วดำมาคลุกกับเส้นใหญ่ เคล้าให้เข้ากัน ทำแบบนี้ เส้นใหญ่จะมีสีสวย ในส่วนของหมูสับ ให้นำ ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาล พริกไทย และซอสมะเขือเทศ จากนั้น นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกและหมักกับหมูบด อันถือว่าเป็นขั้นตอนแรกในการเตรียมส่วนผสมก๋วยเตี๋ยวหมูสับ

2.เทน้ำมันลงในกะทะ ขั้นตอนนี้ให้ใช้ไฟกลาง จากนั้น ผัดก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ที่คลุกกับซีอิ้วดำ ผัดประมาณ 5 นาที ตักขึ้นมาพักไว้ อันเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับ ก๋วยเตี๋ยวหมูสับสูตรอร่อย

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ

3.เตรียมกะทะตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงในกะทะ จากนั้น ผัดกระเทียมให้หอมแล้วเทส่วนผสมหมูบดที่หมักเอาไว้แล้วเมื่อสักครู่ ตามด้วย มะเขือเทศ แครอท และหอมหัวใหญ่ ตามด้วยเครื่องปรุงรสที่เหลือมาจากการปรุงหมูบดเมื่อสักครู่นี้ ได้แก่ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ซอสปรุงรส น้ำมันหอยและซอสปรุงรสรวมถึงไม่ลืมนำซอสมะเขือเทศมาเพิ่มสีสันให้กับส่วนผสม ก๋วยเตี๋ยวหมูสับราดหน้า โดยการใช้ซอสมะเขือเทศประมาณ 1-2 ชต.ผัดให้เข้ากัน แล้วลองชิมรส ถ้าพอใจ เติมแป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำอยู่ก่อนแล้ว เทลงในกะทะ เพื่อเพิ่มความข้นให้กับอาหารจานด่วนเมนูนี้

4.ขั้นตอนสุดท้าย นำผักกาดหอมมาจัดใส่จานเพื่อทำให้ดูน่ากินมากขึ้น จากนั้น ตักก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลงบนจาน ตามด้วยซอสหมูสับ เพียงเท่านี้ เราก็จะได้ก๋วยเตี๋ยวหมูสับอร่อย ๆ มารับประทานแล้ว

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับเมนูเส้นๆ ที่แสนจะน่ากิน สั่งมากินแค่จานเดียวเท่านั้น สารอาหารครบครันจนต้องกินซ้ำ ใครที่อยากลิ้มลอง ลองเข้าครัวหัดทำ ไม่ยากเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://sa-game.bet/เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเย เว็บตรงไม่ผ่านเอเยนต์ ปลอดภัย มั่นใจได้ 100%

Categories
อาหารไทย

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ครบเครื่อง ครบรส อร่อยจัง

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เมนูเส้นร้อน ๆ แสนอร่อย ปรุงรสแบบไหนก็ได้ ทั้งธรรมดาและต้มยำ เย็นตาโฟใส่อะไรบ้าง หาคำตอบด้วยกัน

ส่วนผสมในการทำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเป็นการผสมผสานเมนูก๋วยเตี๋ยวธรรมดา กับการนำเครื่องเคียงต่าง ๆ มากินคู่กัน ทำให้เมนูนี้ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ซึ่ง การจะเตรียมทำเมนูนี้ ก็ไม่ได้ยุ่งยากจนเกินไปนัก ทำครั้งหนึ่ง เรียกได้ว่า กินได้ทั้งบ้าน อีกทั้งยังสะอาด ถูกสุขอนามัย เพราะปรุงเมนูนี้ด้วยตัวเอง

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

ก๋วยเตี๋ยวที่เราเห็นนั้น เริ่มมาจาก ก๋วยเตี๋ยวเรือ โดยชาวจีนที่อพยพมาอยู่เมืองไทย เมื่อรสชาติถูกปาก ต่อมาถึงเปิดร้านขาย 

จะทำก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟอย่างไรให้อร่อย วันนี้มีเคล็ดลับดี ๆ มาบอก เชื่อว่า ถ้าทำตาม รับประกัน อร่อย อีกทั้ง ยังนำมาประกอบอาชีพได้อีกด้วย

วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

การเตรียมน้ำซุป

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

น้ำเปล่า 6 ถ้วย

เกลือ 1 ช้อนชา

น้ำตาลกรวด 3 ก้อน

รากผักชี 4 ต้น

พริกไทยเม็ด 10 เม็ด

กระเทียมบุบ 2 กลีบ

หอมใหญ่ 1-2 หัว

ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

หัวไชเท้า 1 หัว

ปลาหมึกแห้งย่างไฟ 2 ตัว

การเตรียมซอสเย็นตาโฟ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

เต้าหู้ยี้ 100 กรัม

น้ำเต้าหู้ยี้ 2 ช้อนโต๊ะ

ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ

ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ

พริกชี้ฟ้าสีแดง(ไม่เอาเม็ด) 100 กรัม

น้ำส้มสายชู 50 มิลลิลิตร

น้ำมันงา 1 ช้อนชา

ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

น้ำเปล่า 50 มิลลิลิต

การเตรียมเครื่องเย็นตาโฟ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

เส้นก๋วยเตี๋ยว 100 กรัม

ผักบุ้งไทย ตามต้องการ

ซอสเย็นตาโฟ 1 ช้อนโต๊ะ

ลูกชิ้นปลา 

เลือดหมู 

ปลาหมึกกรอบ 

เห็ดหูหนูขาว 

วิธีทำ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

1.การเตรียมน้ำซุป เตรียมส่วนผสมทั้งหมดที่เราเตรียมไว้ใส่ลงในหม้อ จากนั้น นำหม้อไปตั้งไฟและปิดฝาหม้อ ประมาณ 45 นาที เพื่อเตรียมทำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

2.การทำซอสเย็นตาโฟ นำส่วนผสมทั้งหมดที่กล่าวถึงเมื่อสักครู่นี้ ปั่นรวมกัน ปั่นให้ละเอียดจนมีลักษณะที่ดูข้น ๆ ถือเป็นอันใช้ได้ แล้วนำไปเคี่ยวต่อในหม้อ ขั้นตอนนี้ใช้ไฟกลาง เคี่ยวต่อจนซอสเดือดให้เปิดไฟ จากนั้นมาเตรียมในส่วนของ เครื่องเคียงเย็นตาโฟ

3.นำผักบุ้งและเส้นก๋วยเตี๋ยวลวกให้เส้นนิ่ม พักไว้ในชาม ตามด้วย ลูกชิ้น ปลาหมึกกรอบ เห็ดหูหนูขาว และเลือดหมู นำไปลวกเช่นเดียวกัน จากนั้นให้ตักซอสเย็นตาโฟ ตามด้วยกระเทียมเจียว ลงในชาม ตักน้ำซุปราดลงไป

4.นำเครื่องเคียงอย่างเกี๊ยวทอดหรือเต้าหู้ทอดลงไป จากนั้น รับประทานได้ เป็น เย็นตาโฟโบราณ ที่ไม่โบราณ เพราะอร่อยจริง ๆ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟถือได้ว่า เป็นเมนูอร่อยที่อิ่มกันถ้วนหน้า อีกทั้งยังได้สารอาหารครบครัน ทั้งไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ และอื่นๆ ดังนั้น เมนูนี้ ถึงควรฝึกทำไว้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://sa-game.bet/เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเย เว็บพนันออนไลน์ที่คนนิยมเล่น

Categories
อาหารนานาชาติ

พามาลองทาน ขนมปานีปูรี ขนมอินเดียทำง่ายมาก

ขนมปานีปูรี

ขนมปานีปูรี” เห็นแค่ชื่อก็น่าจะพอรู้กันแล้วใช่ไหมว่าไม่ใช่ขนมของประเทศไทยเราแน่นอน เพราะขนมนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย ซึ่งชื่อของขนมปานีปูรี ก็มาจากวัตถุดิบที่ใช้นั่นก็คือแป้งปูรีนั่นเอง ลักษณะของปานีปูรีจะมีทรงกลม สีเหลือง คล้ายทาโกยากกิ หรือมองอีกแบบก็แอบคล้ายขนมครกบ้านเราเหมือนกัน แต่จะเจาะรูตรงกลางด้านบนให้สามารถมองเห็นไส้ข้างในได้ด้วย

วิธีทำ ขนมปานีปูรี สไตล์อินเดีย

ด้วยเหตุที่ขนมปานีปูรี เป็นขนมที่มีขั้นตอนในการทำแบบพิถีพิถัน และในไทยของเราก็นิยมทานกันแบบสำเร็จรูปแต่จะทำไส้และน้ำจิ้มของขนมเอง ทำอย่างไรมาดูกันเลย ก่อนอื่นเรามาเตรียมวัตถุดิบกันก่อนดีกว่า

ขนมปานีปูรี
  1. ผักชีไทยหั่นท่อน ขนาด 50 กรัม
  2. ใบสาระแหน่หั่นท่อน ขนาด 50 กรัม
  3. น้ำเปล่า 500 มล.
  4. พริกเขียว 2 เม็ด
  5. มะนาว 1 – 2 ลูก
  6. ขิง ปริมาณ 10 กรัม
  7. เกลือป่น 1 – 2 ช้อนชา
  8. ลูกผักชี่ป่น ปริมาณ 1 ช้อนชา
  9. ยี่หร่าป่น 1 ช้อนชา
  10. พริกป่น ปริมาณ 1 ช้อนชา

เมื่อเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้วก็มาลงมือทำเครื่องไส้ของปานีปูรีกันเลย

ขนมปานีปูรี
  • เริ่มจากใส่ใบสาระแหน่ลงไปในเครื่องปั่น ตามด้วยผักชี ขิงและพริก
  • เมื่อปั่นไปสักพักให้เติมน้ำเปล่าและเกลือป่นลงไป จากนั้นปั่นต่อ
  • เมื่อปั่นไปจนรู้สึกว่าส่วนผสมต่าง ๆ เริ่มละเอียดล้วนำออกมาใส่ภาชนะ
  • บีบน้ำมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวลงไป ตามด้วยยี่หร่าป่น ลูกผักชีป่นและพริกป่น
  • คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็เป็นอันสำเร็จ
  • ต่อด้วยการทำไส้ โดยเราจะนำมันบดมาผสมด้วยหอมแดงหั่นเปป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามด้วยผงมาซาล่าและพริกป่น จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
  • มาถึงคิวพระเอกของเราแล้ว นำแป้งปานีปูรีมาทอด จะได้ปานีปูรีลักษณะทรงกลมออกมา
  • ขั้นตอนการทานก็ง่ายมาก ให้นำมาปานีปูรีทรงกลมมาเจาะตรงกลางแล้วใส่มันบดที่ทำการปรุงไว้ดังกล่าวเข้าไป จากนั้นก็รับประทานพร้อมน้ำจิ้มได้เลย

เป็นอย่างไรบ้างคะกับสูตรขนมสไตล์อินเดียของเรา

ขนมปานีปูรี

ใครที่ต้องการขนมปานีปูรีแบบสำเร็จรูปสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปได้เลยนะคะ และใครที่ลองทำกันแล้วอย่าลืมมาอวดกันดูด้วยนะคะ และเมนูต่อไปเราจะมาแนะนำหรือแจกสูตรอาหาร ขนม อะไรบ้างนั้นโปรดติดตามได้เลย เพื่อที่จะไม่พลาดสูตรอาหารน่าทานกันค่ะ

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://sa-game.bet/ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ เล่นบาคาร่าออนไลน์ที่นี่ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ปลอดภัยแน่นอน