สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารสุขภาพ

ยำเห็ด อร่อย ดีต่อสุขภาพ กินเล่นหรือกับข้าว ได้หมด

ยำเห็ด

ยำเห็ด เมนูสุดง่ายที่อร่อยและสุขภาพดี มาพร้อมกับเคล็ดลับในการทำยำเห็ดอร่อยเสียใจถ้าพลาด! ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน วัตถุดิบเตรียมน้อย ไม่ยุ่งยาก ต้องลองยำเห็ดใส่หมูยอ 

ยำเห็ด ส่วนผสมในการทำ

ยำเห็ด

ยำ เห็ด การกินเมนูเห็ด นอกจากกินแล้วไม่อ้วน เรายังได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่ค่อนข้างครบ จากการนำวัตถุดิบต่าง ๆ มาทำยำ เช่น วิตะมิน จากหัวหอม พริก คึ่นช่าย มะเขือเทศ รวมถึงโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ อีกทั้ง ในเห็ดก็ถือว่า เป็นพืชที่มีโปรตีนจนนำมาใช้กินแทนเนื้อสัตว์ได้ ถึงไม่แปลกใจ ทำไม เห็ดถึงเป็นที่นิยม ในการนำมาทำอาหาร ทั้งนำมายำรวมถึงทอดหรือผัด

สำหรับเมนูยำวันนี้ แอดมินขอนำเสนอ การเอาเห็ดมายำ โดยสูตรดังกล่าว ทำไม่ยากและเห็ดที่นำมายำได้แก่ เห็ดนางฟ้า และเห็ดหูหนูที่จะถูกใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการปรุงเมนูนี้

วัตถุดิบ

ยำเห็ด

ส่วนผสม สำหรับรับประทาน 2 คน

  • หมูสับตามชอบ
  • เห็ดนางฟ้าตามชอบ
  • เห็ดหูหนูตามชอบ
  • แครอทเล็กน้อย
  • กะหล่ำปลีเล็กน้อย
  • น้ำปลา1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่นตามชอบ
  • แฮม1 แผ่น
  • ไส้กรอก1 ชิ้น
  • มะเขือเทศ2 ผล
  • หอมแดง 2 หัว

วิธีทำ

ยำเห็ด

ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากการทำน้ำยำขึ้นมาก่อน โดยการนำน้ำปลา น้ำมะนาวคั้นสด (ไม่ควรใช้น้ำมะนาวสำเร็จรูป )เพราะทำออกมาแล้ว จะไม่ได้รสชาติแบบมะนาว ) และน้ำตาล คนส่วนผสมทั้งหมดจนละลาย ส่วนผสมดังกล่าวเอาไว้ทำเป็นน้ำราด ยำเห็ด

ขั้นตอนที่ 2 หั่นเห็ดนางฟ้ารวมถึงเห็ดหูหนูที่เตรียมไว้ หั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ

ขั้นตอนที่ 3 ในส่วนของการนำผักมาลวก ให้เตรียมน้ำลงในหม้อ แล้วต้มให้เดือด เอาผักไปลวก

ขั้นตอนที่ 4 แฮมและไส้กรอก ควรเอาไปลวก กระทั่งสุก

ขั้นตอนที่ 5 นำหมูสับ แฮม ไส้กรอก ที่เราลวกแล้ว มาใส่ในชามผสม ตามด้วยน้ำยำที่เราเตรียมไว้แล้ว คลุกและเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันทั้งหมด

ขั้นตอนที่ 6 ปิดท้ายด้วยมะเขือเทศ หอมแดง รวมถึงพริกป่น ความเผ็ดระดับไหน เอาตามที่ชอบ

ขั้นตอนสุดท้าย จัดใส่จาน ก็นำไปรับประทานได้แล้ว

ยำเห็ด

การจะกินให้อร่อยนั้น ควรกินคู่กับขนมจีน หรือบางคนกินเป็นออเดริฟท์ก่อนกินอาหารจานหลัก ก็จะช่วยทำให้เกิดความอยากในการรับประทานอาหาร หรือจะรับประทานกับข้าวสวยร้อน เป็นกับข้าวก็ได้ อีกทั้งยำเห็ดยังสามารถพลิกแพลงเปลี่ยนวัตถุดิบมาทำยำได้อย่างค่อนข้างหลากหลายอีกด้วย เช่น ใส่วุ้นเส้น มาม่า ขนมจีน หรือ นำเห็ดไปทอดกรอบ รวมถึง ใส่เนื้อไก่สับ หรือไก่ทอด ทำเป็น ยำเห็ดรวม เส้นแก้ว และอื่น ๆ ที่เราสามารถพลิกแพลงได้ ทำให้การนำเห็ดมาทำยำ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ค่อนข้างได้อรรถรส จะกินเป็นกับข้าว อาหารจานเดียว หรือ ออเดริ์ฟ ได้หมด

เว็บบาคาร่าอันดับ 1: สุดยอดเว็บไซต์เล่นบาคาร่าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด พร้อมกับโปรโมชั่นและการบริการที่ยอดเยี่ยม ลองเล่นตอนนี้และสัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม!

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

หมูทอดเกลือ ทอดก็ง่าย กินกับข่าวเหนียวร้อน ๆ หรือข้าวสวย ฟิน

หมูทอดเกลือ

หมูทอดเกลือ อีก 1 สูตรเมนูอาหารที่น่าสนใจ ขอเพียงทำอย่างตั้งใจ เชื่อเถอะ สูตรที่ให้ อร่อยกว่า หมูทอดเกลือ ครัวคุณต๋อย

ส่วนผสมในการทำ หมูทอดเกลือ

หมู เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี มีหลายส่วนด้วยกันที่นำมาทำกับข้าว เช่น สันคอหมู เนื้อตรงบริเวณสะโพก เนื้อสันใน เนื้อสันนอก ขาหมู หรือแม้แต่หางหมู ยังนำมาทำก๋วยเตี๋ยวหางหมูได้ ดังนั้น เนื้อหมู ถึงเป็นอีกหนึ่งเนื้อสัตว์ที่ควรนำมาทำอาหารมากที่สุดเมนูหนึ่ง

หมูทอดเกลือ

ราคาหมูที่ขยับตัวสูงขึ้น ทำให้เวลาจะสั่ง หมู ทอดเกลือ ราคาก็ขยับตัวขึ้นตามกลไกตลาดทำให้การซื้อเมนูหมู ๆ ดังกล่าว มีราคาที่แพงขึ้น หรือถ้าจะซื้อราคาเท่าเดิม ปริมาณก็จะน้อยลงมา ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหากินไม่พอ มาลองทำเมนูหมูทอดดังกล่าวด้วยตัวเองดีกว่าไหม เพราะแอดมินได้เตรียมเคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ไว้แล้ว เรามาดูกันดีกว่า ส่วนผสมหมูทอดสูตรนี้ มีอะไรต้องเตรียมบ้าง ?

วัตถุดิบหมูทอดเกลือ

หมูทอดเกลือ
  • หมูสันนอกหั่นออกมาเป็นเส้น ๆ ประมาณ ½ กิโลกรัม เลือกหมูสดและใหม่ จะทำให้หมูนุ่ม อร่อยและไม่เหม็น
  • พริกไทยป่นยี่ห้ออะไรก็ได้ ½ ช้อนชา
  • เกลือประมาณ 2 ช้อนชา
  • น้ำมันสำหรับทอด
  • ต้นหอม นำมาซอยใช้สำหรับโรยและตกแต่ง

วิธีทำ

หมูทอดเกลือ

ขั้นตอนที่ 1 ล้างหมูสันนอกให้สะอาด จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้น ๆ ให้มีขนาดใกล้เคียงกัน นำพริกไทยและเกลือ คลุกเคล้า ผสมให้เข้ากัน ขั้นตอนในการทำหมูทอดเกลือ สูตรนี้ ใช้เวลาหมักประมาณ 30 นาที

ขั้นตอนที่ 2 มาถึงขั้นตอนการทอด เทน้ำมันลงในกะทะ ใช้ไฟกลาง จากนั้น นำหมูลงไปทอด พยายามสังเกตดูว่า หมูที่ทอดในกะทะเปลี่ยนสีหรือยัง ถ้าเปลี่ยนสีแล้ว ให้ใช้ตะหลิวเกลี่ยและพลิกหมู เพื่อให้สีที่ทอดมานั้น สวยเท่ากันทั้ง 2 ฝั่ง ทอดจนสีหมูเปลี่ยนเป็นสีเหลือง รอกระทั่งสุก จนเสียงน้ำมันเบาลง นั่นแสดงว่าสุกแล้ว ให้ตักหมูคั่วเกลือ กรอบนอกนุ่มใน มาไว้ในจานพักเพื่อสะเด็ดน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 3 นำหมูมาจัดใส่จาน โรยต้นหอม จะกินกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวย อร่อยไม่แพ้หมูคั่วเกลือภูเก็ต

หมูทอดเกลือ

หมู ทอด เกลือ เมนูหมู ๆ สมชื่อ ขั้นตอนการทำนั้นไม่ยากเลย ขอเพียงเลือกหมูสดเข้าไว้ จากนั้นนำเครื่องปรุงเพียงไม่กี่อย่างมาหมักกับหมู ทิ้งไว้ให้เครื่องปรุงซึมในเนื้อหมูที่หมัก แล้วนำไปทอด บอกเลย ต้องกินตอนร้อน ๆ อร่อยและฟินมาก ๆ รู้แบบนี้ หัดทำตั้งนานแล้ว ดังนั้น เมนูหมู ๆ ที่แอดมินนำเสนอวันนี้ เพื่อน ๆ นำไปทำได้เลย

ค้นหาเว็บบอลที่ดีที่สุดและน่าเล่นกับเรา! สมัครเว็บบอล เพื่อรับโบนัสสูงสุดและร่วมสนุกกับเกมส์ที่คุณชื่นชอบได้แล้ววันนี้ อ่านคู่มือการเล่นและเคล็ดลับในการเลือกเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ!

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

หอยทอด รสเด็ด ทำเองที่บ้านก็อร่อยเหมือนทานที่ร้าน

หอยทอด

หอยทอด เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านอาหาร ชนิดของหอยที่นำมาทอดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหอยนางรม แต่ก็มีหอยชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถนำมาประยุกต์เป็นอาหารและปรับแต่งให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น และในวันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับวิธีการทำอาหารในรูปแบบของหอยทอดด้วยตัวเอง โดยจะให้มีรสชาติอร่อยเหมือนไปทานที่ร้านอาหารเลย เป็นอย่างไรนั้นมาดูกัน

วิธีการทำ หอยทอด เพิ่มความพิเศษแบบใส่ไข่

หอยทอด

มาเปลี่ยนเมนูหอยทอด ธรรมดาให้เป็นเมนูที่น่ารับประทานมากยิ่งขึ้นด้วยการเติมไข่เข้าไป จะสังเกตได้ว่าเมนูพิเศษหลาย ๆ เมนูมันจะเพิ่มความอร่อยด้วย ไข่ดาว ไข่เจียว หรือไข่ข้น แต่สำหรับหอยทอดเราจะมาเพิ่มความพิเศษให้ด้วยวิธีการห่อไข่ หรือ ทอดลงไปด้วยกับไข่เลย ทำอย่างไรนั้นไม่ถูกกัน
ก่อนอื่นให้เราเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่จะใช้กันในเมนูนี้ ซึ่งได้แก่

หอยทอด
  • หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ในปริมาณ 100 กรัม
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งท้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วงอก 200 กรัม
  • น้ำจิ้มไก่ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา
  • ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1/4 ช้อนชา
  • น้ำเย็นจัดนิดหน่อย
  • ต้นหอม1 ต้น
  • กระเทียม2 กลีบ
  • ซอสพริก 3 ช้อนโต๊ะ

เมื่อเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วเราก็มาลงมือทำกันเลย

หอยทอด
  1. ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ เจียวกระเทียมให้เหลืองสุกพอดี และมีกลิ่นหอม
  2. นำถั่วงอกลงไปพร้อมกับปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเขาให้เข้ากันไปเรื่อย ๆ จากนั้นพักไว้
  3. มาถึงพระเอกของเมนูหอยทอดของเรา ต้องนำหอยแมลงภู่มาชุปแป้งก่อน หอยแมลงภู่ที่คลุกเคล้ากับแป้งทั้ง 3 ชนิดอย่างเรียบร้อยแล้ว ตามด้วยผงปรุงรสเกลือและต้นหอมซอยลงไปคลุกเคล้ากับน้ำเย็น 
  4. ตั้งกระทะอีกครั้ง จากนั้นเติมน้ำมันทอดหอยที่เราชุปแป้งไปเมื่อสักครู่นั้นทอดจนกรอบ 
  5. ตอกไข่อีกฟองลงไปยีให้เข้ากัน คลุกเค้าไปเรื่อย ๆ จนไข่เริ่มมีความสุกและพร้อมรับประทานแล้ว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
  6. นำออกมาใส่จานตกแต่งให้สวยงาม
หอยทอด

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสูตรวิธีทำหอยทอดของเราในบทความนี้ เมื่อทุกท่านลองอ่านบทความนี้แล้วอย่าลืมนำไปปรับเปลี่ยนในการทำอาหารกันดูนะ และสำหรับครั้งต่อไปเราจะมาแนะนำสูตรการทำอาหารอะไรนั้นโปรดติดต่อกันต่อไป อาจจะเป็นวิธีทำขนม หรือ อาหารต่างประเทศก็ได้ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะ สำหรับบทความนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส หอมกลิ่นเนย เคี้ยวเพลิน 

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส ใครเบื่อเมนูลาซานญ่าเดิม ๆ ลองหันมาดูสูตรนี้ วิธีทำลาซานญ่า ง่าย ๆ จะทำทั้งที ไม่ยากเลย

ส่วนผสมในการทำ ลาซานญ่าผักโขมอบชีส

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส

ลาซานญ่า ผักโขมอบชีส เมนูอาหารนานาชาติ จะอร่อยเท่า ลาซานญ่า ผักโขมอบชีส 7-11 หรือไม่ วันนี้มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝาก และพิเศษสุด เมนูนี้เพิ่มเติมในส่วนของการนำชีสริคอตต้าแสนอร่อย หอม นุ่มลิ้น อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่เต็มไปด้วยประโยชน์มากมายจากผักโขม รวมถึง แคลเซียมจากชีส เชื่อว่า เมื่อทำเสร็จและกินเอง จะอร่อยจนวางไม่ลง

วัตถุดิบ ลาซานญ่าผักโขมอบชีส

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส
  • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ 
  • กระเทียม 1 กลีบใหญ่ 
  • หอมใหญ่ 2 หัว ซอย ละเอียด
  • เกลือ 
  • พริกไทย 
  • ใบไทม์สับละเอียด 
  •  เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ 
  • ผักโขมสด 500 กรัม 
  • ริคอตต้าชีส 250 กรัม
  • พาร์มีซานชีส ตามชอบ
  • มอสซาเรลล่าชีส ตามชอบ
  • แผ่นพาสต้าลาซานญ่าอบแข็ง

วิธีทำ

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส

1.เทน้ำมันมะกอกลงในกะทะ ตามด้วยกระเทียมสับละเอียด ผัดจนกระเทียมหอม

2.นำหอมใหญ่ลงไปผัด ตามด้วยเกลือและพริกไทย เพื่อเพิ่มรสชาติ จากนั้น ใส่ใบไทม์ลงไปผัด จะทำให้ลาซานญ่าผักโขมอบชีสหอมน่ากินมากยิ่งขึ้น

3.มีความคล้าย วิธีทำลาซานญ่า เนื้อ นั่นก็คือการใส่เนยสดลงไปผัดจนกระทั่งหอมหัวใหญ่เปลี่ยนเป็นสีใส แล้วตามด้วยผักโขม ในส่วนของรสชาติ ปรุงตามชอบ ทั้งนี้เพราะ แต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน

ส่วนผสมที่ 2 ซอสครีมเบซาเมล

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส
  • เนยสด 3 ช้อนโต๊ะ 
  • แป้งอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ 
  •  นมสด 6 เดซิลิตร
  •  เกลือ 
  •  พริกไทย 
  •  เมล็ดจันทน์เทศ ขูดละเอียด 
  •  พาร์มีซานชีส หรือ Le Gruyère ประมาณ 70 กรัม 

ขั้นตอนการทำซอสครีม

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส

1.ใช้ไฟกลาง ใส่เนย ตามด้วยแป้ง แล้วใช้ตะกร้อมือคนจนแป้งสุก จากนั้น ใส่นมลงไปให้หมดในลักษณะค่อย ๆ เติมลงไปเพื่อให้ส่วนผสมแป้งกับนมเป็นเนื้อเดียวกัน คนส่วนผสมดังกล่าวให้เข้ากัน

2.วิธีทำลาซานญ่า ไมโครเวฟ ให้หอมอร่อยเหมือนเพิ่งนำออกมาจากตู้ไมโครเวฟ ต้องใส่ลูกจันทน์เทศที่นำมาขูดฝอยเพียงเล็กน้อยลงไป แล้วค่อยใส่เกลือและพริกไทยเพียงเล็กน้อย คนให้เข้ากัน เตรียมนำเข้าเตาอบ ใช้อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 30-45 นาที การอบ แบ่งการอบออกเป็น 2 ครั้ง 15 นาทีหลัง อบแบบไร้ฟอยล์เพื่อทำให้หน้าลาซานญ่าสวย จากนั้น ค่อยนำส่วนผสมทั้งหมดมาลงฟอร์ม

3.นำเนยสดทาฟอร์มโดยทั่ว ตามด้วยซอสครีม นำแผ่นลาซานญ่ามาปิดทับ ตามด้วยผักโขม มอสซาเรลล่าชีส ริคอตต้าชีส และพาร์มีซานชีส ทำแบบเดิมทุกชั้น แล้วนำฟอยล์ปิดไว้

4.15 นาทีสุดท้าย ให้นำแผ่นฟอยล์ออก อบเสร็จ ยกจากเตา รอกระทั่งเย็น รับประทานได้เลย

ลาซานญ่าผักโขมอบชีส

ลาซานญ่าผักโขม อบชีส อร่อยไม่ง้อร้าน ใครอยากกิน เตรียมวัตถุดิบให้พร้อมแล้วทำได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ลาบทอด เคี้ยวเพลิน กินเป็นกับแกล้มอร่อย

ลาบทอด

ลาบทอด กัดกินแต่ละครั้ง กลิ่นสมุนไพร อยากจะทำลาบแต่ไม่รู้ทำอย่างไร วันนี้เสนอ วิธีทำ ลาบทอดไม่ให้แตก ดังนี้

ส่วนผสมในการทำ ลาบทอด

ลาบ ทอด เป็นเมนูคู่ร้านอาหารอีสาน เพราะทุกครั้งที่สั่งข้าวเหนียวส้มตำ จะต้องมีเมนูลาบมากินร่วมกับส้มตำ เพราะฉะนั้น เชื่อว่า ลาบเป็นเมนูที่ทุกคนชอบสั่งมากิน โดยเนื้อสัตว์ที่นำมาทำลาบ ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อเป็ด รวมถึง เนื้อปลาดุกย่าง ก็นำมาทำลาบได้แล้ว 

ลาบทอด

วันนี้ ลองเปลี่ยนวิธีกินลาบ แต่เดิมอาจกินลาบคู่กับข้าวเหนียว ลองนำลาบมาทอด อรรถรสในการกินจะเปลี่ยนไปในทันทีและแอดมินเชื่อว่า ถ้าได้ลองทำกินแล้ว จะติดใจ เพราะถึงอย่างไร ของทอด เป็นเมนูโปรดของทุกคนอยู่แล้ว

วัตถุดิบลาบทอด

ลาบทอด
  • เนื้อหมูติดมันบด 500 กรัม
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น (ตามชอบ)
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดซอย 6 ใบ
  • ต้นหอมซอย 2 ต้น
  • ผักชีฝรั่งซอย 2 ต้น
  • หอมแดง 5 หัว
  • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
  • ผักสดตามชอบ เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว

วิธีทำ

ลาบทอด

ขั้นตอนที่ 1 หมูบดที่จะนำมาทอด ต้องเลือกหมูที่สดเท่านั้น ถึงจะอร่อย จากนั้นให้เริ่มต้นทำลาบทอด โดยการนำเนื้อหมูบด ผสมกับ น้ำมะนาว น้ำปลา และพริกป่น นวดให้น้ำปลากับน้ำมะนาว พริกป่น เข้ากันกับเนื้อหมู แล้วค่อยเติมข้าวคั่ว ตามด้วยแป้งทอดกรอบ คลุกส่วนผสมทั้งหมด และทำให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 2 ตามด้วยใบมะกรูดซอย ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่งซอย นำมาเคล้าให้เข้ากับหมูที่คลุกส่วนผสมในข้อที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนจะทำ ลาบหมูทอดกรอบ ปั้นหมูบดให้เป็นก้อนกลม ๆ ขนาดพอดีคำ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป

ขั้นตอนที่ 3 ตั้งกะทะ เทน้ำมันลงไป ขั้นตอนนี้ใช้ไฟกลางเท่านั้น รอจนน้ำมันเดือด นำหมูที่ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ลงไปทอดในกะทะได้เลย สูตรนี้ เป็น

สูตรลาบทอดทำขาย ให้ทอดอย่างใจเย็นโดยไม่ต้องกลับด้าน รอจนสุก ตักขึ้นมาจากกะทะ เตรียมจัดใส่จานแล้วนำมารับประทานได้เลย บางคนกินลาบกับพริกแห้ง ก็สามารถนำพริกแห้งไปทอดจนกรอบได้ รวมถึง จะกินคู่กับถั่วลิสง ก็เข้าท่า อยู่ที่ว่า จะกินกับอะไร และแบบไหนถึงจะอร่อย

ลาบทอด

ลาบทอดกินคู่กับอะไรก็อร่อย ถือได้ว่าเป็นเมนูที่นำมาใช้เพิ่มอรรถรสในการกินให้อร่อยมากยิ่งขึ้น จะกินลาบทอดกับส้มตำก็ได้ ถ้ามีฝีมือในการทำส้มตำหรือซื้อส้มตำมากินคู่กันก็อร่อยแล้ว สำหรับใครที่ต้องการทำขาย นำสูตรนี้ไปลองประยุกต์ดู ไม่แน่ อาจได้อาชีพเสริม หรือเบื่อหมู ลองเปลี่ยนมาเป็นไก่ดู ขึ้นชื่อว่าของทอด ความอร่อยนั้นไม่แพ้กัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ยำขนมจีน สูตรน้ำปลาร้า อร่อยเหมือนกินที่ร้าน

ยำขนมจีน

เมนูแซ่บที่เราอยากนำเสนอในวันนี้ คือ เมนู ยำขนมจีน แซ่บนัว กินแล้วติดใจ สูตรยำใส่ปลาร้า จะอร่อยแค่ไหน มาลองเข้าครัวทำกิน

ส่วนผสมในการทำ ยำขนมจีน

ยำขนมจีน

ยำ ขนมจีน เมนูยำที่เรานึกถึงมักได้แก่ ยำวุ้นเส้น ยำเล็บมือนาง ยำรวมมิตร และยำหมูยอ แต่พอพูดถึงขนมจีนที่คนส่วนใหญ่นำมาราดน้ำยาชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำยาแกงไตปลา น้ำยาแกงเขียวหวาน น้ำยาน้ำพริกและขนมจีนซาวน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้เพราะ การรับประทานขนมจีนมีมานานแล้ว 

สำหรับการนำเส้นขนมจีนมายำ เริ่มเป็นกระแสเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้วันนี้ แอดมินมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการกินขนมจีน

วัตถุดิบ

ยำขนมจีน

ยำขนมจีนเมนูเส้นสูตรเด็ด เมื่อวัตถุดิบที่จะต้องเตรียมมาทำ เป็นวัตถุดิบที่พบได้ในครัวเรือนทั่ว ๆ ไป

  • ขนมจีน 1 จับ 
  • หมูยอนำมาหั่นชิ้น½ ถ้วย
  • ปลาทูทอด 1 ตัว เอาแต่เนื้อ
  • ถั่วฝักยาว ½ ถ้วย นำมาหั่นเป็นท่อน ๆ 
  • หัวหอมแดงหั่นซอย 3 หัว
  • ผักชีฝรั่งหั่นซอย ½ ถ้วย
  • ต้นหอม 1 ต้น
  • พริกป่น 1 ชช
  • พริกแดงจินดา 3 เม็ด 
  • น้ำปลา 3 ชต.
  • น้ำปลาร้า 1 ชต.
  • น้ำมะนาว 3 ชต.
  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชช.
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ชช.

วิธีทำ

ยำขนมจีน

ขั้นตอนที่ 1 อันดับแรก ปรุงน้ำยำสำหรับทำยำขนมจีน ใส่ ปลาร้า น้ำตาล น้ำปลา และน้ำมะนาว ใช้ช้อนคนจนน้ำตาลละลาย ใส่พริกป่น หัวหอมแดง และพริกแดงจินดา คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ในส่วนของความเผ็ด ใครต้องการรสจัดจ้าน เพิ่มพริกได้เลย หรือ ใครที่อยากเบารสเผ็ด ให้ลดปริมาณพริกจากสูตรที่ให้ไปเช่นกัน

ขั้นตอนที่ 2 ปลาทูนึ่ง แกะเอาแต่เนื้อ จากนั้นใส่ลงในส่วนผสมน้ำยำ ตามด้วยหมูยอ โดยหมูยอ จะนำไปทอดหรือนึ่ง อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วเทหมูยอลงไป เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง

ยำขนมจีน

ขั้นตอนที่ 3 เส้นขนมจีนที่เราเตรียมไว้ ใส่ลงในส่วนผสมน้ำยำที่เตรียมไว้เป็นลำดับที่ 3 ขั้นตอนนี้ ต้องเบามือตอนคลุกส่วนผสมเส้นขนมจีนกับน้ำยำ เพื่อที่ว่า น้ำยำจะซึมเข้าไปในเส้นขนมจีน

ขั้นตอนที่ 4 ถือว่าเป็นขั้นตอนลำดับสุดท้ายนั่นก็คือ การเติมผักชีฝรั่ง ถั่วฝักยาวและต้นหอม คลุกให้เข้ากัน ตักใส่จาน แล้วเตรียมเสริ์ฟได้เลย

ยำขนมจีน

ยำ ขนมจีน เมนูเด็ดจานนี้ เหมาะสำหรับนำมาใช้ควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี กินเท่าไหร่ ก็ไม่อ้วน ดังนั้น ใครที่อยากกินเมนูเส้นให้อิ่ม แต่ต้องการจะดูแลสุขภาพไปด้วยพร้อมกัน เมนูขนมจีนจานนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว ได้ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตะมินและเกลือแร่ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

อเมริกาโน่ยูซุ เครื่องดื่มมาแรง แปลกตาแต่กลับอร่อยและเข้ากันสุดๆ

อเมริกาโน่ยูซุ

อเมริกาโน่ยูซุ หรือกาแฟส้ม เมนูอร่อย ใครดื่มเป็นต้องฟิน วันนี้มาลองทำสักครั้ง Yuzu orange coffee fresh มีวิธีทำดังนี้

อเมริกาโน่ยูซุ ส่วนผสมในการทำ

อเมริกาโน่ ยูซุ สำหรับคอกาแฟ คงรู้จัก อเมริกาโน่กันพอสมควรว่า เป็นกาแฟประเภทไหน ? แต่สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักกาแฟอเมริกาโน่ ก็จะบอกว่า กาแฟอเมริกาโน่ จะมีความแตกต่างจากลาเต้และคาปูชิโน่ โดย กาแฟลาเต้และคาปูชิโน่ เป็นกาแฟใส่นม แตกต่างจากกาแฟอเมริกาโน่ เป็นกาแฟไม่ใส่นม มีความใกล้เคียงเอสเปรสโซ่ ทว่า เข้มข้นน้อยกว่า ใครที่อยากดูแลสุขภาพ กาแฟอเมริกาโน่ตอบโจทย์มากกว่า กาแฟคาปูชิโน่และกาแฟลาเต้ที่ใส่ทั้งนม ครีมเทียมและน้ำตาล

อเมริกาโน่ยูซุอเมริกาโน่ยูซุ

สำหรับสูตรกาแฟดังกล่าว ที่นำส้มไซรัปมาผสมในเครื่องดื่มประเภทอเมริกาโน่ ก็เพี่อเพิ่มความแตกต่าง ให้กับเมนูกาแฟรวมถึง เพิ่มความหลากหลายของเมนูกาแฟให้มากขึ้น โดยสูตรกาแฟดังกล่าว เป็นการนำกาแฟมามิกซ์แอนด์แมทช์ ระหว่างกาแฟกับน้ำผลไม้ ให้เป็นเมนูเครื่องดื่มเมนูใหม่ ที่จะนำมาเพิ่มรสชาติความอร่อยให้กับการดื่มกาแฟเพิ่มขึ้น

อเมริกาโน่ยูซุ

ดังนั้น วันนี้ แอดมินถึงขอนำเสนอ ความน่าสนใจของเมนูเครื่องดื่มดังกล่าวมาฝากเพื่อน ๆ โดย จะนำน้ำส้มไซรัป มาแทนน้ำส้ม หรือ ใครที่มีฝีมือในการผสมเครื่องดื่ม อาจใช้น้ำส้มแท้ ๆ ก็ได้ ทว่าสูตรนี้ เป็นสูตรที่กำลังฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่มีใครไม่รู้จักเมนูดังกล่าว เลยทำให้แอดมินตัดสินใจนำสูตรการทำกาแฟผสมน้ำผลไม้มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคน

อเมริกาโน่ยูซุ

อเมริกาโน่ยูซุ วัตถุดิบ

  • กาแฟ 2 ช็อต
  • น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
  • ไซรัปส้มยูซุ 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร) 
  • น้ำแข็ง
  • ส้ม

วิธีทำ

อเมริกาโน่ยูซุ

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมก้านชงดับเบิ้ลช็อตไว้ จากนั้นใส่ผงกาแฟลงไป แล้วนำเข้าเครื่องชงกาแฟได้เลย อันเป็นสูตรเริ่มต้นของการทำอเมริกาโน่ยูซุ

ขั้นตอนที่ 2 พยายามกดให้ได้น้ำกาแฟประมาณ 2 ออนซ์แล้วพักไว้

ขั้นตอนที่ 3  เทน้ำไซรัปรสส้มลงไปในแก้วก่อน จากนั้น ให้เติมน้ำแข็งลงไปในแก้วตามด้วยน้ำเปล่า

ขั้นตอนที่ 4 นำกาแฟ 2 ออนซ์ที่เตรียมไว้ ราดด้านบน โดยไม่ลืมนำส้มฝานเป็นแผ่นบาง ๆ มาตกแต่งลงบนแก้วกาแฟ เพียงเท่านี้ เราก็จะได้เครื่องดื่มกาแฟแก้วโปรดมานั่งดื่มแล้ว

เทคนิคในการกินกาแฟให้อร่อย ควรกินคู่กับบราวนี่เค้ก ถึงจะถือได้ว่า เป็นการกินกาแฟที่ลงตัวที่สุด ทั้งนี้เพราะความเปรี้ยวจากส้ม ช่วยมาตัดความเลี่ยนของความเป็นบราวนี่เค้กหรือเค้กอื่น ๆ ลงมาได้ 

จะเห็นได้ว่า เป็นเครื่องดื่มที่ใช้เวลาเตรียมไม่นานเลย ขอเพียง มีกาแฟคั่วที่บดแล้ว กาต้มกาแฟ รวมถึงน้ำส้มไซรัปที่สามารถหาซื้อจากร้านจำหน่ายสินค้าและเบเกอรี่ เราก็จะได้เมนูเครื่องดื่มมากินแก้ง่วง อีกทั้งยังรู้สึกสดชื่นมาดื่มกันแล้ว

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

หมูโสร่ง ของว่างไทยโบราณ ทำเป็น มัดใจคนรัก

หมูโสร่ง

หมูโสร่ง อาหารว่างโบราณ พันเส้นหมี่ยังไงไม่ให้หลุด หมูโสร่งใช้เส้นอะไรได้บ้าง คำตอบอยู่ในบทความ

ส่วนผสมในการทำ หมูโสร่ง

หมู โสร่ง เป็นอาหารว่างโบราณ ที่เดี๋ยวนี้ หากินได้ค่อนข้างยากแล้ว บางครั้งอยากกิน แต่ไม่พบรายชื่อเมนูอาหารดังกล่าวภายในร้านอาหาร ก็ทำให้อดกินไปอย่างน่าเสียดาย

หมูโสร่ง

ความเป็นมาของเมนูดังกล่าว เข้ามาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากการเปิดการค้า ทำให้ชาวโปรตุเกศและชาวญี่ปุ่น เป็นผู้นำเมนูดังกล่าวเข้ามา เริ่มต้น ใช้หมูบดและเส้นหมี่ซัว เป็นส่วนประกอบหลักในการทำเมนูนี้ ต่อมา เปลี่ยนจากหมูบดมาเป็นไก่บด ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม

วัตถุดิบ 

หมูโสร่ง
  • หมูบด300 กรัม
  • รากผักชี10 ราก
  • กระเทียม5 กลีบ
  • เม็ดพริกไทยดำ1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เส้นหมี่ซั่ว1 ถุง
  • น้ำมันปาล์ม1 ขวด
  • ไข่ไก่2 ฟอง
  • ไข่เค็ม (ใช้เฉพาะไข่แดง)4 ฟอง
  • ซอสปรุงรส1 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวโพด2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำจิ้มไก่ ยี่ห้ออะไรก็ได้

วิธีทำ 

หมูโสร่ง

ขั้นตอนที่ 1 นำกระเทียม รากผักชี พริกไทยดำ โขลกรวมกัน ควร โขลก 3 เกลอ แบบหยาบ ๆ เวลาเคี้ยวหมู จะได้กลิ่นหอมและรสสัมผัสของ 3 เกลอ แล้วมาดูขั้นตอนการทำ หมูโสร่ง ขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 2 นำหมูบดมาหมักด้วยซอส รสดีรสหมู รากผักชีกระเทียมพริกไทยโขลกหยาบ แป้งข้าวโพด ไข่แดง ไข่ไก่ คลุกส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

เคล็ดลับความอร่อย:  ถ้าไม่อยากให้หมูบดเหลวจนเกินไป ควรใช้เฉพาะไข่แดง สำหรับการใส่แป้งข้าวโพด ใส่เพื่อทำให้หมูนุ่มและแป้งจับตัวกันมากขึ้น เวลาทอดหมู จะได้ไม่เละอันเป็นอีกหนึ่งวิธีทำ

หมูโสร่ง

ขั้นคอนที่ 3 หมี่ซัวลวกเพียงแค่ 1 นาที ก็พอ กระทั่งเส้นหมี่ซัวนิ่ม นำเส้นหมี่มาแช่ในน้ำเย็นได้เลย ซึ่งควรเป็นเส้นหมี่ซัว สำหรับทำหมูโสร่ง

ขั้นตอนที่ 4 นำหมูที่หมักแล้วมาห่อกับไข่แดงของไข่เค็ม ขนาดของหมูบด ปั่นเป็นก้อนกลมเท่าก้อนมะยม นำเส้นหมี่ซัว 3 เส้นพันกับหมู

ขั้นตอนที่ 5 นำหมูที่พันกับเส้นหมี่ซัวจนครบทุกก้อนแล้ว 

หมูโสร่ง

มาทอดในน้ำมัน เน้นว่า น้ำมันต้องท่วม ใช้อุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส กระทั่งเส้นหมี่ซัวเริ่มเหลืองนิด ๆ ให้ปรับอุณหภูมิไฟขึ้นมาเป็น 240 องศาเซลเซียส เทคนิคนี้ ทำให้หมูไม่อมน้ำมัน เมื่อทอดหมูจนสุกแล้ว ก็ตักขึ้นมาจากกะทะ พักไว้ กระทั่งสะเด็ดน้ำมัน ก็นำมารับประทานกับน้ำจิ้มไก่ยี่ห้ออะไรก็ได้

อ่านบทความอื่นๆ: