สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส

แกงไตปลา เมนูอาหารแกงตำรับปักษ์ใต้ กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์

แกงไตปลา เมนูอาหารแกงตำรับปักษ์ใต้ กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์
แกงไตปลา เมนูอาหารแกงตำรับปักษ์ใต้ กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์

เมื่อพูดถึงอาหารทางใต้คงไม่มีใครที่จะไม่เคยลิ้มรสอาหารจานเด่นอย่างแกงไตปลา อาหารใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีที่มาจากชีวิตของคนภาคใต้ส่วนใหญ่ที่มักเกี่ยวข้องกับท้องทะเล อาหารการกินส่วนใหญ่จึงมาจากทะเล ซึ่งถ้ามีมากเกินรับประทานก็จะนำอาหารที่ได้จากทะเลนั้นมาทำการถนอมอาหาร โดยไตปลาทำมาจากการนำเอาพุงปลา และกระเพาะปลาที่มีอยู่มากในพื้นที่ มาใส่เกลือหมักดองไว้ ซึ่งถือเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมากของภาคใต้ โดยใช้เวลาหมักประมาณ 1 เดือน นำมาทำแกงใส่เนื้อปลา ผัก ที่มีรสชาติเผ็ด เค็ม ร้อนแรง ใครที่ได้ลิ้มลองต้องร้องออกมาว่า หรอยจังฮู้!!!…แน่นอนค่ะ

แกงไตปลาเป็นอาหารรสชาติจัดมีทั้งแห้งและแบบน้ำ แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ และด้วยความที่แกงมีความเผ็ดร้อนของเครื่องแกงที่เป็นเอกลักษณ์ มีรสชาติเข้มข้น จึงนิยมรับประทานร่วมกับผักหลาย ๆ ชนิดควบคู่กันไป เพื่อช่วยลดความเผ็ดร้อนลง โดยผักเหล่านั้นคนภาคใต้เรียกว่า ผักเหนาะ ซึ่งผักเหนาะของภาคใต้มีหลายอย่าง เช่น สะตอ ลูกเนียง ยอดมะม่วงหิมพานต์ และผักบางอย่างก็เป็นผักชนิดเดียวกับภาคกลาง เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ แตงกวา หน่อไม้ นอกจากนี้แกงไตปลายังนิยมทานคู่กับขนมจีน แกล้มด้วยไข่เป็ดต้มยางมะตูม และผักสดนานาชนิด เรียกได้ว่าเมนูนี้เป็นเมนูยอดฮิตที่สามารถหาทานได้ตามร้านทั่วไป ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากแนะนำสูตรการทำแกงไตปลา ให้อร่อยในแบบฉบับอาหารภาคใต้ อีกทั้งสูตรที่เรานำมาฝากนี้เป็นสูตรที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะส่วนประกอบของแกงไตปลามีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพค่ะ ส่วนจะมีส่วนผสมและขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง ตามเรามาดูเลยค่ะ

แกงไตปลา เมนูอาหารแกงตำรับปักษ์ใต้ กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์
แกงไตปลา เมนูอาหารแกงตำรับปักษ์ใต้ กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์

ส่วนผสมหลักของเมนูแกงไตปลา

แกงไตปลา หรือแกงพุงปลา เป็นอาหารภาคใต้ ที่มีสรรพคุณทางยาจึงถือเป็นอีกหนึ่งอาหารเพื่อสุขภาพ โดยมีไตปลาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ มีทั้งแบบที่ใสและไม่ใส่กะทิ โดยแบบใส่กะทิจะเป็นที่นิยมในบางท้องที่เท่านั้น ซึ่งสูตรที่เรานำมาแนะนำนี้เป็นสูตรที่ไม่ใส่กะทิ และใช้น้ำพริกแกงไตปลาสําเร็จรูป เพื่อความรวดเร็วในการทำ ส่วนจะมีวัตถุดิบและส่วนผสมอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสมสำหรับทำแกงไตปลา

  1. มะเขือเปราะ 10 ลูก
  2. หน่อไม้สดต้มแล้ว 5 หัว
  3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  4. มะขามเปียก 1 ช้อนชา
  5. กะปิกุ้งเคย 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำพริกแกงไตปลาสําเร็จรูป 2 ขีด
  8. มะเขือพวง 1 ขีด
  9. ถั่วฝักยาว 1 ขีด
  10. ฟักทองหั่นพอดีคำ 1 ถ้วย
  11. ตะไคร้ 4 ต้น
  12. ใบมะกรูด 20 ใบ
  13. ไตปลา 1 ขวด
  14. ปลาทูนึ่งแกะก้างออก 2 ตัว
แกงไตปลา เมนูอาหารแกงตำรับปักษ์ใต้ กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์
แกงไตปลา เมนูอาหารแกงตำรับปักษ์ใต้ กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์

ขั้นตอนวิธีการทำแกงไตปลา

แกงไตปลา เป็นเครื่องจิ้มนี้เป็นที่มาของอาหารชาววังที่เรียกว่าแสร้งว่าหรือแสร้งว่าไตปลา ซึ่งเป็นการปรุงแบบเดียวกับน้ำพริกไตปลาเพียงแต่ตัดไตปลาที่มีกลิ่นเหม็นคาวออกไป แล้วใส่เครื่องปรุงอื่นลงไปแทน ดังนั้นวิธีทำแกงไตปลาจึงค่อนข้างที่จะละเอียด เพราะหากไม่ทำตามสูตรอาจทำให้แกงมีกลิ่นเหม็นคาวได้ ส่วนจะมีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

  1. เริ่มจากการต้มน้ำไตปลาก่อน โดยใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด ลงไปเพื่อลดกลิ่นคาว ตามด้วยมะขามเปียกเพื่อตัดรสชาติ แล้วรอให้น้ำไตปลาเดือดก่อน จึงเติมน้ำสะอาดตามลงไปประมาณครึ่งแก้ว ห้ามคนเด็ดขาดเพราะจะทำให้ไตปลามีกลิ่นคาวได้
  2. ตั้งน้ำให้เดือด พอน้ำเดือดแล้วใส่น้ำพริกแกงไตปลาสําเร็จรูปลงไป แล้วเพิ่มความหอมด้วยการใส่กะปิกุ้งเคย จากนั้นคนให้น้ำพริกแกงและกะปิละลายเข้ากัน พอน้ำเดือดแล้วให้กรองเอาเฉพาะน้ำไตปลาที่เราต้มไว้ใส่ลงไปในหม้อ ดับกลิ่นด้วยการใส่ใบมะกรูด และใส่น้ำตาลปี๊บลงไปเพื่อตัดรสชาติ 
  3. เริ่มใส่ผัก โดยเริ่มใส่ฟักทองก่อน ระหว่างรอให้ตักฟองที่ลอยขึ้นมาออกได้ แล้วตามต่อด้วยการใส่ปลาทูนึ่งแกะก้างออกที่เตรียมไว้ ตามด้วยมะเขือพวง
  4. ใส่หน่อไม้สดที่ต้มแล้ว เมื่อฟักทองสุกดีแล้ว ให้ใส่มะเขือเปราะลงไป พอมะเขือเปาะสุกดีแล้ว ตามด้วยถั่วฝักยาวหั่น ระหว่างนั้นตั้งไฟเดือดประมาณ 5 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
  5. ลองชิมรสชาติได้ตามความชอบ แกงไตปลาควรมีรสชาติเผ็ดร้อนของเครื่องแกงสมุนไพร มีรสชาติออกเค็มตัดด้วยความหวานของน้ำตาลปี๊บเล็กน้อย เมื่อได้รสชาติที่ถูกใจแล้วให้ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟค่ะ 

คุณค่าทางโภชนาการ

แกงไตปลา เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ และมีคุณค่าทางโภชนาการ เพราะมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อร่างกาย อีกทั้งไตปลาที่เป็นส่วนประกอบสำคัญยังเป็นของหมักดองที่มีโปรตีนสูง ซึ่งพริกแกงที่ใส่มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆ ที่ล้วนมีสรรพคุณช่วยแก้ท้องอืด ความเผ็ดร้อนของพริกช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น มีคุณสมบัติช่วยให้เจริญอาหาร แก้คลื่นไส้อาเจียน แก้โรคบิด อีกทั้งในปลายังมีไขมันดี แถมผักที่เป็นส่วนผสมยังอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น ฟักทองที่มีวิตามินเอ มะเขือพวงช่วยย่อยอาหาร และข้อเด่นของผักทั้งหมดที่ใส่นี้มีกากใยที่ช่วยระบายท้องได้อย่างดีอีกด้วยค่ะ

 เห็นไหมว่าอาหารพื้นบ้านของคนไทยนั้นอุดมไปด้วยสารอาหามากมายและยังเป็นยาไปในตัว ดังนั้นยังลืมนำสูตรอาหารสุขภาพนี้ไปลองทำรับประทานเองที่บ้านนะคะ

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ