สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารนานาชาติ

เปิดเมนูอาหารญี่ปุ่นโดนใจ ราเมง สูตรต้นตำรับ เส้นนุ่ม น้ำซุปเข้มข้น

ราเมง

ราเมง เป็นอาหารญี่ปุ่นประเภทเส้นสีเหลืองที่ทำมาจากแป้งสาลี ที่มีความเหนียวนุ่ม โดยเมนูราเมนมีหลายประเภท และแต่ประเภทจะมีความแตกต่างกันออกไป อาทิ โชยุราเมง มิโซะราเม็ง ชิโอะราเม็ง ทงคตสึราเมง และสึเคเม็ง นอกจากนี้วิธีทำ ราเมงของแต่ละสูตรยังมีความแตกต่างกันอีกด้วย สำหรับใครที่ไม่มีเวลาออกไปทานอาหารนอกบ้าน และชื่นชอบการทานราเมนอย่างมาก วันนี้เราจะมาบอกสูตรทำน้ำซุปราเมนสูตรเข้มข้นให้ได้ลองทำตามกันดู รับรองว่ารสชาติอร่อยเหมือนที่ร้านเลยทีเดียว

วิธีทำเมนู ราเมง เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปเข้มข้น รสชาติกลมกล่อม 

ราเมง

ใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่น และอยากลองทำอาหารทานเอง วันนี้เรามีสูตรราเมงแบบดั้งเดิม น้ำซุปกลมกล่อม รสชาติเข้มข้น และที่สำคัญเส้นราเมนเหนียวนุ่ม กลิ่นหอมสุดๆ นอกจากนี้วิธีทำราเมง หรือ ราเมนก็ง่ายๆ มือใหม่ก็ทำตามได้ด้วย อีกทั้งเรายังมีวิธีการทำน้ำซุปให้รสชาติเข้มข้นตามแบบฉบับญี่ปุ่นอีกด้วยนะ ว่าแต่เมนูราเมงใส่อะไรบ้าง และทำกันอย่างไรไปดูกันเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ราเมง
  1. กระดูกซุปหมู 1 กิโลกรัม
  2. กระเทียม 10 กลีบ
  3. ต้นหอมญี่ปุ่น 2 ต้น
  4. หอมใหญ่ 2 หัว
  5. หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
  6. เส้นราเมน 1 -2 ก้อน
  7. เหล้ามิริน 2 ทัพพี
  8. งาขาวคั่ว ½ ช้อนชา
  9. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  10. ลูกชิ่นปลาชิกุวะรูปดาว 5 ชิ้น
  11. สาหร่าย 1 แผ่น
  12. ไข่ต้มหมักซอสชาชู 1 ลูก

นอกจากส่วนผสมของราเมงที่กล่าวมา อีกทั้งหนึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมคือ หม้อต้มกระดูหมูต้องใช้หม้อขนาดใหญ่ ที่สำคัญต้องมีฝาปิดด้วย นอกจากนี้ต้องเตรียมภาชนะสำหรับใส่ราเมนด้วย สำหรับสูตรที่จะทำในวันนี้เป็นสูตร ราเมงอย่างง่าย เพื่อที่คนมือใหม่สามารถทำตามได้ 

ราเมง
  1. อันดับแรกจะต้องมาเตรียมทำน้ำซุป โดยการนำหม้อตั้งเตาเปิดไฟแรง รอให้น้ำเดือด จากนั้นนำกระดูกหมูมาล้างด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้วนำกระดูกหมูใส่ลงไป ต้มนานประมาณ 5 นาที ให้เทน้ำทิ้ง ทำการล้างหมูให้สะอาดประมาณ 2-3 ครั้ง 
  2. นำหม้อต้มกระดูกไปตั้งเตา ใส่น้ำสะอาดลงไป จากนั้นเปิดไฟแรง รอให้น้ำเดือด ใส่กระดูกที่ล้างไว้ใส่ลงไปในหม้อ ต้มไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำซุปจะมีสีขาว จากนั้นใส่หัวหอมใหญ่ และต้นหอมญี่ปุ่น ลงไปเคี่ยวด้วยไฟแรง เมื่อผักเริ่มเปื่อยเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำซุป เติมเหล้ามิริน และเกลือลงไป หลังจากนั้นกรองเอาแต่น้ำซุป 
  3. ทำการหมักหมูสามชั้นด้วย ซอส และเครื่องปรุงรส เสร็จแล้วนำมาใส่ในกระทะ ใส่หัวหอมใหญ่ ต้นหอม ใส่น้ำเล็กน้อย รอให้กระทะเดือดแล้ว เปลี่ยนใส่ในหม้อต้ม เพิ่มน้ำ 1 ลิตร เคี่ยวไฟปานกลาง รอให้หมูสุก ตักออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ 
  4. ลวกเส้นราเมนใส่ถ้วย แล้วตักน้ำซุปที่เตรียมไว้ลงไปในถ้วย ใส่หมูชาชู ตามด้วยไข่ต้ม ลูกชิ้นปลาชิกูวะรูปดาว และโรยหน้าด้วยต้นหอมญี่ปุ่น งาคั่ว ตบท้ายด้วยสาหร่าย 
ราเมง

หลังจากที่ได้ลองทำเมนูราเมงไปแล้วจะเห็นว่าวิธีทำ และสูตรไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด และที่สำคัญรสชาติอร่อยกลมกล่อมตามสูตรดั้งเดิม สำหรับใครที่ไม่อยากราเมนร้อนๆ ขอแนะนำ ซารุ ราเมน เป็นราเมนเย็นสไตล์ญี่ปุ่น รสชาติเข้มข้น หวาน มัน อร่อยครบรส

รวมเคล็ดลับทานราเมง สูตรดั้งเดิม สไตล์ญี่ปุ่น ให้อร่อย รสชาติเข้มข้น 

ราเมง

การทานราเมงถูกวิธีสไตล์ญี่ปุ่น เริ่มแรกต้องดมกลิ่นความหอมก่อนกิน และต้องใช้ตะเกียบคีบจะทำให้ทานได้ฟินมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องคีบเส้นแต่พอดีคำไม่ทานเลอะเทอะ อีกทั้งต้องสูดเส้นให้เสียงดัง เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่าการสูดเส้นเสียงดังจะช่วยให้ได้กลิ่นหอมมากขึ้น และสุดท้ายต้องยกถ้วยซดน้ำซุปจะช่วยเพิ่มการรับรสชาติต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร บานอฟฟี่ รสชาติหวาน หอมละมุน วิปปิ้งครีมละลายในปาก

บานอฟฟี่

สำหรับใครที่กำลังจะไปร้านเบเกอรี่ หรือร้านคาเฟ่ แต่ไม่รู้ว่าจะสั่งขนมอะไรอร่อยๆ มาทาน ขอแนะนำ บานอฟฟี่ หนึ่งในเมนูเกอรี่ที่ทานแล้วไม่มีเบื่อ ทานได้ทุกวัน แต่ถ้าใครที่ยังไม่รู้ว่าพายบานอฟฟี่ คืออะไรกันแน่ เรามาทำความรู้จักกับขนมพายบานอฟฟี่ทำมาจากบิสกิต เนื้อกรุบกรอบ และเนย วางทับด้วยกล้วยหอม เนื่อนุ่มกรุบๆ ราดด้วยวิปปิ้งครีมนุ่ม โรยด้วยผงโกโก้หอมละมุนจนหยุดทานไม่ได้เลยทีเดียว และถ้าใครอยากจะลองทำทานเอง แต่ไม่รู้ว่าจะทำบานอฟฟี่ สูตรไหนอร่อย หวาน หอม วันนี้เรามีสูตรของขนมบานอฟฟี่โฮมเมครสชาติอร่อยๆ มาให้ลองทำทานที่บ้าน โดยไม่ต้องออกไปทานที่ร้านก็ได้ทานขนมแสนอร่อยได้เช่นกัน 

เปิดขั้นตอนทำ บานอฟฟี่ ขนมแสนหวาน สไตล์โฮมเมคอย่างง่าย มือใหม่ก็ทำได้

บานอฟฟี่

มาเอาใจสายหวาน สายเบเกอรี่กันบ้าง สำหรับคนที่ชอบทานขนมเบเกอรี่เป็นประจำ ต้องไม่พลาดกับ ขนมบานอฟฟี่ หนึ่งในขนมเบเกอรี่ รสชาติ หวานฉ่ำ หอมอร่อยทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ สำหรับคนที่ชอบทำขนมอยู่แล้วอยากให้ลองสูตร บานอฟฟี่แสนอร่อย อย่างบานอฟฟี่ กล้วยหอม เนื้อนุ่มกรุบกรอบ ซึ่งมีขั้นตอนที่ทำง่ายมากๆ แถมไม่ต้องใช้อุปกรณ์ตู้อบอีกด้วย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมของฐานแป้ง

  1. แครกเกอร์ 300 กรัม
  2. เนยจืด 100 กรัม
บานอฟฟี่

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมของซอสคาราเมล

  1. นมข้นหวาน 400 กรัม
  2. เนยจืด 80 กรัม
  3. น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม

วัตถุดิบ และส่วนผสมของท๊อปปิ้ง

  1. กล้วยหอม 2 ลูก
  2. วิปปิ้งครีม 300 กรัม
  3. ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ

ขนมบานอฟฟี่จะมีส่วนผสมที่ต้องเตรียมเพียงเล็กน้อย และสูตรที่ทำในวันนี้เป็นสูตรบานอฟฟี่กล้วยหอมหวานนุ่ม กรุบกรอบ ในส่วนของวิธีทํา บานอฟฟี่ ง่ายๆ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

บานอฟฟี่
  1. เริ่มแรกนำแคร็กเกอร์ไปใส่ในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด จากนั้นเทใส่ชาม นำเนยจืดไปละลายด้วยไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 1 นาที เสร็จแล้วนำมาเทผสมรวมกันกับแคร๊กเกอร์บดละเอียด ทำการคลุกคล้าส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน
  2. จากนั้นนำแคร๊กเกอร์ใส่ในจานพาย แล้วเกลี่ยให่ทั่วๆ ใช้ช้อนกดให้เนียนเท่าๆ กัน นำไปแช่ในช่องแข็งประมาณ 20 นาที
  3. หลังจากนั้นมาเตรียมซอสคาราเมล โดยการตั้งกระทะเปิดไฟกลาง จากนั้นนำเนยใส่ในกระทะคนให้ละลาย ใส่น้ำตาลทรายแดง คนส่วนผสมให้เข้ากันจนกว่าจะเดือด เทนมข้นหวานลงไป คนต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าส่วนทุกอย่างจะเข้ากันดี รอมห้เดือดประมาณ 3 นาที ปิดเตา ยกกระทะออกจากเตารอให้ซอสคาราเมลเย็นลง 
  4. นำแคร๊กเกอร์ออกจากตู้เย็น ราดด้วยซอสคาราเมล หั่นกล้วยเป็นชิ้นวางทับลงไป นำแคร๊กเกอร์เข้าตู้เย็นอีกครั้ง 
  5. นำวิปปิ้งครีมมาตีให้ตั้งยอด และนำแคร็กเกอร์ออกจากตู้เย็นบีบวิปปิ้งครีมลงไป ปาดให้สวยงาม โรยด้วยผงโกโก้ให้สวยงาม พร้อมทาน
บานอฟฟี่

ขนมบานอฟฟี่สูตรกล้วยที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีรสชาติหวาน กรุบกรอบ เนื้อกล้วยนุ่มละมุน พร้อมทานคู่กับวิปปิ้งครีมละลายในปากเข้ากันสุดๆ หากใครอยากลองทำขนมทานเองต้องลองเมนูนี้ดู เพราะขั้นตอนการทำบานอฟฟี่ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญทำออกมาแล้วอร่อยเหมือนซื้อทานที่ร้านเลยทีเดียว

แชร์ขนม บานอฟฟี่ สูตรโอริโอ้ รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นโอริโอ้ ฟินทุกคำ

บานอฟฟี่

หลังจากที่ลองทำขนมบานอฟฟี่ สูตรกล้วยหอมแสนอร่อยไปแล้ว ต่อมาเราจะมาลองทำอีกหนึ่งสูตรที่ทำง่ายมากๆ อย่างบานอฟฟี่สูตรโอริโอ้ ซึ่งวิธี ทํา บาน อ ฟ ฟี่ โอ ริ โอ้ง่ายๆ เพียงเปลี่ยนจากผงแคร๊กเกอร์เป็นโอริโอ้ จากนั้นทำตามสูตรกล้วยหอมได้เลย หลังจากที่ทำขนมเสร็จแล้วก็สามารถเสิร์ฟได้ทันที รสชาติของขนมจะมีความหวาน หอมกลิ่นโอริโอ้อ่อนๆ อร่อยฟินทุกคำ

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://sa-game.bet/ 

Categories
ขนมหวานไทย

สูตร ข้าวเหนียวมะม่วง เนื้อหวานฉ่ำ รสชาติอร่อย อิ่มท้องนาน

ข้าวเหนียวมะม่วง

ขนมหวานถือว่าเป็นเมนูที่ต้องจัดเตรียมคู่กับอาหารคาวในสำรับเสมอ เพราะคนไทยนิยมทานอาหารคาว และตบท้ายด้วยของหวาน ซึ่งขนมหวานจะต้องเป็นขนมที่สามารถหาซื้อง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก สำหรับขนมที่ได้รับความนิยมทุกบ้านเลยก็คือ ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นขนมไทย รสชาติหวาน มัน เค็ม ที่มาพร้อมกับข้าวเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นกะทิสดได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นขนมไทยโบราณที่ทำง่ายๆ เพียงแค่มีมะม่วง และข้าวเหนียวก็สามารถทำทานได้ที่บ้านพร้อมทานได้ทั้งครอบครัว

เผยขั้นตอนการทำ ข้าวเหนียวมะม่วง อย่างง่าย รสชาติอร่อย 

ข้าวเหนียวมะม่วง

สำหรับคนชอบทานข้าวเหนียวมะม่วงเป็นประจำ และอยากลองทำทานเอง วันนี้เรามีสูตร ข้าวเหนียวมะม่วง รสชาติหวานฉ่ำ เนื้อมะม่วงเน้นๆ ที่มาพร้อมกับข้าวนุ่มนิ่มละมุนละไมมาฝากทุกคนได้ลองทำตามกันได้ นอกจากนี้วิธี ทํา ข้าวเหนียว มะม่วงง่ายๆ คนที่ไม่เคยทำขนมก็สามารถทำได้ อีกทั้งส่วนผสมในการทำขนมก็มีน้อยนิดดังนี้

ข้าวเหนียวมะม่วง
  1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 1 กิโลกรัม
  2. หัวกะทิ 5 ถ้วยตวง
  3. เกลือ ½ ช้อนชา
  4. น้ำตาลทรายขาว 3 ถ้วยตวง
  5. มะม่วงสุก 3 ลูก
  6. ถั่วเหลือง ½ ถ้วยตวง
  7. ใบเตย 5 ใบ

เมื่อเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมของข้าวเหนียวมะม่วงเรียบร้อยแล้วจะเห็นว่าใช้วัตถุดิบเพียงนิดเดียว และไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมายก็สามาถทําข้าวเหนียวมะม่วง ง่ายๆ มือใหม่ทำได้สบายมาก โดยมีขั้นตอนดังนี้

ข้าวเหนียวมะม่วง
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลย นำข้าวเหนียวมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นนำไปแช่น้ำทั้งไว้ประมาณ 1 คืน เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วให้นำข้าวเหนียวมานึ่ง โดยการวางผ้าข้าวบางไว้บนหม้อนึ่ง จากนั้นใส่ใบเตย และข้าวเหนี่ยวลงไป นำไปนึ่งให้สุกใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  2. ขั้นตอนต่อมาให้นำหัวกะทิมาผสมกับเกลือ น้ำตาลทรายผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนละลาย เสร็จแล้วให้นำไปผสมกับข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้ว ให้ทิ้งไว้สักประมาณ 30 นาที เพื่อให้น้ำกะทิซึมเข้าไปในข้าวเหนียวมูน
  3. ในลำดับต่อมาจะเป็นการทำน้ำราดกะทิ โดยการนำหัวกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งมัน นำไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนกว่าน้ำกะทิจะเดือด เสร็จแล้วให้ยกหม้อออกจากเตา พักไว้ก่อน
  4. นำมะม่วงมาล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วปอกเปลือกออก นำมาสับในแนวยาว ตักข้าวเหนียวมูนใส่จานที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่มะม่วงสุกลงไป ตามด้วยน้ำราดกะทิสด โรยหน้าด้วยถั่วเหลือง พร้อมเสิร์ฟ
ข้าวเหนียวมะม่วง

สำหรับมะม่วงที่ใช้ในการทำข้าวเหนียวมะม่วงจะใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ เพราะมีรสชาติหวานหอม เมื่อทานคู่กับข้าวเหนียวมูนจะได้รสชาติของขนมที่อร่อย หวานฉ่ำสุดๆ ไปเลย อีกทั้งยังได้กลิ่นหอมของกะทิสดละมุนละไมมากขึ้นเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นเมนูขนมไทยโบราณที่อร่อย และอิ่มท้องนาน แถมยังทำเองได้ ไม่ต้องไปซื้อร้านก็สามารถทำได้ทานข้าว เหนียวมะม่วงแสนอร่อยถูกปาก และสามารถทานได้แบบไม่อั้นอีกด้วย

เปิดเคล็ด (ไม่) ลับ ข้าวเหนียว มะม่วง ข้าวนุ่ม อร่อยโดนใจ

ข้าวเหนียวมะม่วง

วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับการทำข้าวเหนียวมะม่วง หนึ่งในเมนูขนมไทยให้น่าทาน โดยเริ่มจากขั้นตอนการทำข้าวเหนียว เมื่อนึ่งข้าวเหนียวสุกแล้ว พักไว้ 15 นาที หรือให้ข้าวเหนียวอุ่นๆ แล้วค่อยนำมาทำข้าวเหนียวมูน เพราะหากนำมาทำทันทีจะทำให้ข้าวเหนียวมูนนิ่มเกินไป และอีกหนึ่งเทคนิคการทำข้าวเหนียวมูนให้ใช้ไม้พายกวนจะทำให้เมล็ดข้าวไม่หัก จากนั้นตะล่อมอย่างเบามือ และทยอยเทน้ำกะทิมูนทีละน้อย เพื่อให้น้ำกะทิค่อยๆ ซึมเข้าสู่ข้าวเหนียวนั่นเอง 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://sa-game.bet/ 

Categories
อาหารสุขภาพ

แชร์เมนูอาหารจานโปรด สุกี้แห้งทะเล หมึก กุ้งเน้นๆ รสเข้มข้น หอมอร่อย

สุกี้แห้งทะเล

สุกี้แห้งทะเล เป็นอาหารจานเดียวที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย อีกทั้งเป็นอาหารที่สามารถหาทานได้ง่ายตามร้านอาหารตามสั่งทั่วไป ซึ่งสุกี้แห้งทะเล วัตถุดิบหลักๆ จะเป็นอาหารทะเลสด อย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา และมีผักบุ้ง ผักกาดหอม วุ้นเส้น และที่ขาดไม่ได้ คือน้ำซอสสุกี้ขวดเดียวก็สามารถทำให้สุกี้อร่อยได้แล้ว สำหรับรสชาติของสุกี้แห้งจะมีความเผ็ด เปรี้ยว หวาน ครบรส แถมเนื้อกุ้งหวานกรุบๆ ที่มาพร้อมกับวุ้นเส้นเหนียวหนึบหนับอร่อยเข้ากันสุดๆ

วิธีการทำ สุกี้แห้งทะเล สูตรเด็ด รสชาติเข้มข้น อร่อยครบรส 

สุกี้แห้งทะเล

มาเอาใจคนชอบทานสุกี้กันบ้างอย่าง สุกี้แห้ง ทะเล เมนูอาหารจานเดียวที่มีส่วนประกอบมากมาย ไม่ว่าเป็น กุ้ง หมึก ผัก และวุ้นเส้น รวมถึงไข่ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ทานแล้วได้ประโยชน์สุดๆ อีกทั้งสุกี้แห้ง ทะเลรวมยังเป็นเมนูของคนที่ชอบควบคุมน้ำหนักอีกกด้วย เนื่องจากเป็นเมนูที่มีปริมาณแคลลอรี่ต่ำ จึงทำให้ทานแล้วไม่อ้วน นอกจากนี้สุกี้ทะเลแห้งยังสามารถทำเองได้ด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะพาแชร์สูตรสุกี้แห้ง วิธีทำง่ายๆ ไม่ง้อร้าน

วัตถุ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

สุกี้แห้งทะเล
  1. พริกขี้หนู 2 เม็ด
  2. กระเทียม 7 กลีบ
  3. ผักบุ้งจีน 1 ถ้วยตวง
  4. กุ้ง ปลาหมึก หอย 1 ถ้วยตวง
  5. วุ้นเส้น 2 ห่อเล็ก
  6. ผักกาดขาว 1 หัวเล็ก
  7. ขึ้นฉ่าย 2 ต้น
  8. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  9. น้ำจิ้มสุกี้ 1 ถ้วยตวง
  10. น้ำมัน 4 ช้อนโต๊ะ

สำหรับสูตรสุกี้แห้งทะเลที่เราจะทำในวันนี้เป็นสูตรสุกี้แห้งโบราณรสชาติอร่อยเด็ด แถมยังอร่อยกว่าทานที่ร้านอีกด้วย โดยวัตถุดิบหลักจะเป็น กุ้ง ปลาหมึก และหอย เรียกได้ว่าเอาใจคนชอบทานสุกี้แห้งรวมมิตรกันไปเลย 

สุกี้แห้งทะเล
  1. เริ่มแรกให้นำกระเทียม กับพริกขี้หนูมาทำหยาบๆ พักไว้ก่อน จากนั้นนำหม้อใส่น้ำตั้งเตา ใช้ไฟปานกลาง รอให้น้ำเดือด จากนั้นใส่ผักกาดขาวลวกแค่พอสุก ตักใส่น้ำเย็น จากนั้นบีบน้ำออกให้มากที่สุด หลักจากนั้นนำกุ้ง ปลาหมึก และหอย ลงไปลวกให้สุก ตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อน 
  2. ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการทำสุกี้ โดยนำกระทะมาตั้งเตา เปิดไฟปานกลาง จากนั้นใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยกระเทียมกับพริกที่เตรียมโขลกไว้แล้วเรียบร้อบ ผัดให้พอหอมใส่ไข่ที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้ไข่สุก จากนั้นตามด้วยกุ้ง ปลาหมึก และหอยที่เตรียมไว้ ใส่ผักบุ้งลงไปตามด้วยน้ำเล็กน้อย ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน 
  3. จากนั้นใส่ผักกาดหอมลงไป ตามด้วยวุ้นเส้น และซอสสุกกี้ ผัดต่อไปอีก เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ปิดไฟ และตักสุกกี้ใส่พร้อมทาน
สุกี้แห้งทะเล

จบไปแล้วกับวิธีทำสุกี้แห้งทะเลรสชาติเข้มข้นอย่างง่าย ไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญทำทานได้เองทุกวันไม่มีเบื่อ อีกทั้งเมนูสุกี้ทะเลแห้งสูตรทำเองยังสามารถทำขายเป็นอาชีพเสริมในวันว่างได้อีกด้วย อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ใช้งบประมาณในการซื้อวัตถุดิบน้อยมาก ดังนั้นหากใครอยากลองทำสุกี้แห้งทานสักครั้งก็สามารถทำตามสูตรที่เราแนะนำไว้ได้เลย รับรองว่าอร่อยชัวร์แน่นอน 

อาหารจานเดียวสุกี้แห้งทะเล ไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่มีประโยชน์ด้วยนะ

สุกี้แห้งทะเล

สุกี้แห้ง ทะเล ถือว่าเป็นเมนูที่สามารถทำทานได้ที่บ้าน โดยไม่ต้องออกมาซื้อทานนอกบ้าน และยังใช้วัตถุในการทำเพียงน้อยนิด แต่รสชาติอร่อยมากๆ ในส่วนของวิธี ทำ สุ กี้ แห้ง ทะเลก็ง่ายๆ มือใหม่ก็สามารถทานได้ นอกจากนี้สุกี้ทะเลรวมมิตรหนึ่งจานยังอุดมไปด้วย โปรตีน ไอโอดิน วิตามิน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี และแร่ธาตุอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ 

Categories
อาหารไทย

สูตร หลนปลาร้า ทรงเครื่อง รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นปลาร้า อร่อยนัว

หลนปลาร้า

สำหรับใครที่ชอบทานน้ำพริก และอยากลองทำทานเอง ขอแนะนำ หลนปลาร้า เป็นอาหารไทยโบราณที่ชาวบ้านนิยมทำทานคู่กับผักสวนครัวที่ปลูกไว้ทานเอง ซึ่งปลาร้าหลน โบราณจะทำได้ง่ายๆ โดยส่วนผสมหลักจะเป็นปลาร้า และน้ำกะทิเข้มข้น ทำให้รสชาติของอาหารมีความเค็ม มัน และเผ็ดเล็กน้อย หอมกลิ่นปลาร้าอ่อนๆ ในส่วนของวิธีการทำปลาร้าทรงเครื่องก็ทำง่ายมาก ไม่ซับช้อน ไม่ต้องใช้วัถตุดิบเยอะแยะมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่ทานแล้วไม่อ้วน ลดพุงได้เป็นอย่างดี 

วิธีทำ หลนปลาร้า ทรงเครื่อง เนื้อปลาร้าเข้มข้น หอมนัว ไม่เหม็นคาว

หลนปลาร้า

หากพูดถึงปลาร้าหลายคนมักจะนึกถึงเมนูอาหารอีสานบ้านเราอย่างส้มตำปูปลาร้า หรือเมนูแกงอ่อมต่างๆ ที่มักจะใส่ปลาร้าลงไปเพื่อให้น้ำแกงมีความหอม รสชาติอร่อยกลมกล่อม และอีกหนึ่งเมนูที่ขาดไม่ได้เลยอย่างน้ำพริกแจ่วบอง หรือปลาร้าบองที่คนอีสานนิยมทานมากที่สุด นอกจากนี้ปลาร้ายังนิยมนำมาทำเมนูหลนปลาร้า เป็นอาหารพื้นบ้านของคนภาคกลาง ซึ่งจัดเป็นน้ำพริกผสมกะทิ หรือบางคนไม่ชอบกะทิก็จะทำสูตรปลาร้าหลนไม่ใส่กะทิสด จะทำให้กลิ่นปลาร้าเด่นชัดสุดๆ สำหรับวิธีการทำปลาร้าหลนทรงเครื่องจะใช้เนื้อปลาร้าชิ้นใหญ่ๆ และเป็นปลามีก้างน้อยทำให้น้ำพริกเข้มข้นสุดๆ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมน้ำปลาร้า

  1. ปลาร้า 400 กรัม
  2. ตะไคร้หั่นเป็นชิ้นๆ ½ ถ้วย
  3. ข่าแก่หั่นเป็นแว่น 7-8 ชิ้น
  4. หางกะทิ ½ ถ้วย
  5. ใบมะกรูด 10 ใบ
หลนปลาร้า

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมเครื่องหลน

  1. หมูสับ 500 กรัม
  2. ข่าอ่อนหั่น ½ ถ้วยตวง
  3. ตะไค้ซอยละเอียด 1 ถ้วยตวง
  4. ใบมะกรูดซอยละเอียด ½ ถ้วยตวง
  5. หัวกะทิสด 500 กรัม
  6. ผงปรุงรส ½ ช้อยโต๊ะ
  7. น้ำตาลปิ๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  9. พริกชี้ฟ้า 1 ถ้วยตวง
  10. หอมแดงซอย 1 ถ้วยตวง

ก่อนที่จะทำหลนปลาร้าทรงเครื่องสูตรปลาร้าหลนใส่กะทิจะต้องทำการเตรียมทำน้ำปลาร้าเกอะกันก่อน โดยเริ่มจากนำปลาร้าใส่ลงไปในหม้อ นำน้ำกะทิใส่ลงไปให้ท่วม จากนั้นใส่ตะไคร้ และข่า ตามด้วยใบมะกรูดลงไป นำไปตั้งเตาใช้ไฟปานกลาง เคี่ยวให้เดือดประมาณ 5 นาที เพื่อให้ปลาร้าเปื่อยยุ่ย เสร็จแล้วนำมากรองเอาแต่น้ำปลาร้า เสร็จแล้วมาทำเครื่องหลุนปลาร้าอย่างง่ายๆ ดังนี้

หลนปลาร้า
  1. นำตะไคร้ กับข่าอ่อนไปโขลกรวมกันให้ละเอียด เสร็จแล้วตักออกมาพักไว้ นำหัวกะทิใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยเครื่องโขลกคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน หลังจากที่น้ำกะทิเดือด ให้ใส่ใบมะกรูดลงไปให้มีกลิ่นหอม หลังจากนั้นเบาไฟลง ใส่หมูสับที่เตรียมไว้ลงไป คนให้หมูกระจาย 
  2. นำน้ำปลาร้าที่เตรียมไว้แล้ว มาเทลงในหม้อ จากนั้นใส่ผงปรุงรส น้ำตาลปิ๊บ คนส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำมะขามเปียก ใบมะกรูด หอมแดงซอย และพริก คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี ปิดไฟ และยกหม้อออกจากเตา ตักปลาร้าหลุนใส่ถ้วย เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หลนปลาร้า

หลนปลาร้าที่ทำเสร็จแล้วจะมีกลิ่นหอมอบอวล รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นกะทิ และใบมะกรูดทีมีความลงตัวสุดๆ และถ้าทานหลนปลาร้าทรงเครื่องให้อร่อยต้องทานคู่กับผักจำพวก แตงกวา ถั่วฟู มะเขือเปราะ หรือจะเป็นผักชนิดอื่นตามสวนที่ปลูกไว้ก็ได้เช่นกัน และที่สำคัญเมนูหลน ปลาร้าต้องมีข้าวร้อนๆ จะฟินสุดๆ ไปเลย

แนะนำ หลนปลาร้า สูตรโบราณ ทำง่ายๆ อร่อยได้สุขภาพ

หลนปลาร้า

หลน ปลาร้า เป็นอาหารพื้นบ้านที่นิยมทำทานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณที่หาทานยามาก เพราะไม่ค่อยมีคนทำขายมากนัก สำหรับเมนูปลาร้า หลน สูตรโบราณจะนำหอมแดง กระเทียม พริก คั่วให้สุก และตำใส่เนื้อปลาทู ตามด้วยน้ำมะขามเปียก เป็นอันเสร็จ หรือบ้านไหนมีปลาดุกก็สามารถเปลี่ยนจากปลาทูเป็นสูตร ปลาร้าหลน ปลาดุกย่างหอมๆ อร่อยถูกปากฟินทุกคำ 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://sa-game.bet/ 

Categories
อาหารไทย

เปิดอาหารไทยน่าทาน ข้าวคลุกกะปิ เครื่องแน่น อร่อยเด็ดในจานเดียว

ข้าวคลุกกะปิ

ขอต้อนรับเข้าสู่ครัวไทยชวนทำอาหารชาววัง ซึ่งวันนี้จะมาแนะนำเมนูยอดนิยมตลอดกาลที่ไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนของประเทศจะต้องมีเมนู ข้าวคลุกกะปิ รสชาติอร่อยกลมกล่อมขายตามร้านอาหารอย่างแน่นอน สำหรับคนที่อยากทำอาหารทานเอง เราก็มีสูตรข้าวคลุกกะปิ ง่ายๆ ไม่ซับช้อน และวิธีทํา ข้าวคลุกกะปิโบราณมาให้ได้ลองทำตามกัน รับรองไม่ผิดหวัง

เปิดสูตรทำ ข้าวคลุกกะปิ รสชาติอร่อยแบบชาววัง ทำง่าย อร่อยด้วย

ข้าวคลุกกะปิ

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำอาหารไทยๆ ตามฉบับชาววังอย่าง ข้าว คลุกกะปิ หนึ่งในอาหารที่รสชาติอร่อย รสชาติมีความโดดเด่นเป็นเอกษณ์ และยังมีเครื่องเคียงหลากหลายชนิดอร่อยครบในจานเดียว ซึ่งเมนูข้าวคลุก กะปิจะนิยมทำทานเป็นอาหารเย็น เพราะขั้นตอนต่างๆ จะมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก และต้องใช้เวลทำอาหารค่อนข้างนาน ดังนั้นก่อนที่เราจะลงทำอาหารจะต้องจัดเตรียมวัตถุดิบให้เรียบร้อย

  1. ข้าวหุงสุก 2-3 ถ้วย
  2. กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. หอมแดงซอย ½ ถ้วยตวง
  4. กุนเชียงทอด ½ ถ้วยตวง
  5. กุ้งแห้งทอด 1 ถ้วยตวง
  6. พริกทอด 2-3 เม็ด
  7. ไข่เจียวหั่นฝอย ½ ถ้วยตวง
  8. พริกซอย ½ ถ้วยตวง
  9. ถั่วฝักยาวซอย ½ ถ้วยตวง
  10. มะม่วงดิบสับเป็นเส้น ½ ถ้วยตวง
  11. แตงกวา 1 ลูก
  12. มะนาว 1 ลูก
  13. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  14. ผักซี 1 ต้น
ข้าวคลุกกะปิ

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียม

  1. หมูสามชั้น 400 กรัม
  2. หอมแดงซอย ½ ถ้วยตวง
  3. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำสะอาด 1 ถ้วย
  6. น้ำตาลปิ๊บ 70 กรัม
  7. ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ

หลังจากที่เราเตรียมส่วนผสมข้าวคลุกกะปิทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นวิธีทำหมูหวาน ข้าวคลุกกะปิชาววังตามมือใหม่ โดยสูตร ข้าวคลุกกะปิที่นำมาทำเป็นสูตรเด็ด รับรองว่าอร่อยแน่นอน

ข้าวคลุกกะปิ
  1. ก่อนอื่นต้องมาทำหมูหวานกันก่อน เริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำมัน และหอมแดงลงไปผัดให้เข้ากันพอสุก จากนั้นใส่หมูสามชั้นตามลงไป ทำการปรุงรสด้วยน้ำปลา และซีอิ้วดำ ผัดส่วนผสมให้เข้ากัน และใส่น้ำเปล่าลงไป เคี่ยวจนกว่าหมู่จะนุ่ม เสร็จแล้วไว้ก่อน
  2. ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการทำข้าวคลุกกะปิกันเลย นำกระทะมาตั้งเตาเปิดไฟอ่อนๆ ใส่น้ำมันให้ร้อน ตามด้วยกะปิลงไปผัดให้หอม ใส่น้ำสะอาด ผัดให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ข้าวลงไปผัด โดยใช้ไฟแรง ผัดให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นตักใส่จาน ใส่เครื่องเคียง หอมแดงซอย กุ้งแห้งทอด พริกทอด กุนเชียงทอด ไข่เจียวหั่นฝอย พริกสดซอย ถั่วฝักยาวซอย มะม่วงดิบสับเป็นเส้นยาวๆ มะนาว จัดเรียงให้สวยงาม ตามด้วยหมูหวาน 
ข้าวคลุกกะปิ

จบไปแล้วกับการทำเมนูข้าวคลุกกะปิที่จัดเต็มไปด้วยเครื่องเคียงครบเครื่องตามสูตรอาหารชาววังโบราณที่มีรสชาติ หวาน เค็ม เปรี้ยว ที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมๆ ของกะปิอร่อยจนต้องเพิ่มอีกจานเลยทีเดียว แถมวธีทำข้าวคลุกกะปิ แบบ ง่ายๆ ทำเองได้ที่บ้าน และที่สำคัญเป็นเมนูอาหารไทยๆ ที่ทานแล้วอิ่มท้องสุดๆ และสามารถได้ทั้งบ้าน หรือจะทำขายทางออนไลน์รายปังอีกด้วย 

แชร์เมนูข้าวคลุกกะปิ สูตรคลีน อาหารคนรักสุขภาพ ทานได้ทุกวัน

ข้าวคลุกกะปิ

สำหรับสายรักสุขภาพอยากลองทานเมนูข้าวคลุกกะปิดูบ้าง แต่อย่างที่รู้กันว่าเมนูนี้จะมีปริมาณแคลลอรี่ค่อนข้างสูง จึงทำให้คนที่กลัวอ้วนไม่ทาน ดังนั้นเราจะมาเผยสูตร ข้าว คลุก กะปิ ชาววัง แบบคลีนมาให้นำไปทำตามกัน โดยเริ่มจากนำบุกข้าวสุกมาผัดกับกะปิดให้หอม เสร็จแล้วตักใส่จาน ต่อมาเตรียมตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย นำไข่ขาวลงไปทอดแล้วม้วนเข้าหากัน แล้วทำการหั่นเป็นฝอยๆ หลังจากนั้นทำการตั้งกระทะเพื่อใส่อกไก่ น้ำตาล ซอสหอย น้ำปลา และน้ำสะอาดเล็กน้อย ทำการผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วจัดใส่จานพร้อมข้าวคลุกกะปิที่เตรียมไว้ ตามด้วยเครื่องเคียง พร้อมทานได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.net/ 

Categories
อาหารไทย

สุดยอดเมนูเด็ด กุ้งอบวุ้นเส้น รสชาติกลมกล่อม เส้นเหนียวนุ่ม

กุ้งอบวุ้นเส้น

วันนี้ขอเสนอเมนูอาหารไทยๆ ที่ต้องบอกเลยรสาติอร่อยถูกปากสุดๆ และที่สำคัญเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อของร้านอาหารระดับภัตตาคาร อย่าง กุ้งอบวุ้นเส้น ที่มาพร้อมกับกุ้งตัวใหญ่ๆ อบด้วยหม้อ หรือกระทะส่งกับกลิ่นหอมอบอวลสุดๆ เรียกว่าเป็นเมนูเด็ดที่ไม่ว่าใครไปทานร้านอาหารจะต้องสั่งเมนูนี้มาทานเลยทีเดียว แต่สำหรับคนท่าอยากลองทำเอง เราก็มีขั้นการทำเมนูกุ้งอบวุ้นเส้น สูตร ภัตตาคาร รสชาติอร่อยเด็ดมาให้ได้ทำตาม

ขั้นตอนการทำเมนู กุ้งอบวุ้นเส้น น้ำซอสเข้มข้น กลิ่นหอมอบอวล 

กุ้งอบวุ้นเส้น

กลับมาตามคำเรียกร้อง กับการเข้าครัวทำเมนูอาหารไทยๆ ทานได้ทั้งครอบครัว โดยวันนี้ขอเสนอเมนูกุ้งอบ วุ้นเส้น ถือว่าเป็นเมนูที่หลายคนชอบทานเป็นประจำ เพราะเป็นเมนูที่มีความโดดเด่นในเรื่องรสชาติของน้ำซอสเข้มข้นสามารถซึมเข้าสู่เนื้อกุ้งได้เป็นอย่างดี ทำให้รสชาติมีความอร่อยกลมกล่อม และในส่วนของวิธี ทํา กุ้งอบวุ้นเส้น แบบ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพียงแค่ต้องเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ให้พร้อมก่อนลงมือทำ โดยเริ่มจากเตรียมส่วนผสมต่างๆ ของเมนู กุ้ง อบวุ้นเส้นดังนี้

  1. กุ้งแม่น้ำ 6-7 ตัว
  2. หมูสามชั้น 100 กรัม
  3. วุ้นเส้น 150 กรัม

ส่วนผสม และวัตถุดิบชองน้ำซอส

กุ้งอบวุ้นเส้น
  1. รากผักชี 1-2 ราก
  2. กระเทียม 5 กลีบ
  3. พริกไทย ½ ช้อนชา
  4. ขิงหั่นเป็นแว่น 5 แว่น
  5. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  10. เหล้าจีน 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำสต๊อกหมู 1 ถ้วยตวง
  12. ต้นหอม 2 ต้น
  13. ขึ้นฉ่าย 1 ต้น

เมนูกุ้งอบวุ้นเส้นจะมีส่วนผสมหลักเป็นกุ้ง และตามด้วยหมูสามชั้น แต่ถ้าบ้านไหนไม่ชอบทานหมูสามชั้นสามารถใช้เป็นเบคอนแทนได้ และในส่วนของเหล้าจีนหากไม่ชอบก็สามารถตัดออกได้เช่นกัน สำหรับวิธีการทำนั้นจะใช้วิธีทํากุ้งอบวุ้นเส้น ในหม้อขนาดเล็ก โดยมีขั้นตอนดังนี้

กุ้งอบวุ้นเส้น
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก โดยการนำต้นหอม ขึ้นฉ่ายมาล้างทำความสะอาด หั่นเป็นท่อนๆ จากนั้นนำรากผักซี กระเทียม พริกไทยมาโขลกหยาบๆ ตักออกพักไว้
  2. มาเตรียมน้ำซอสกันต่อ เริ่มจากนำน้ำมันหอย น้ำปลา ซีอิ้วขาว เหล้าจีน และน้ำตาล มาเทใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ คนส่วนผสมให้เข้ากันจนกว่าน้ำตาลจะละลาย เสร็จแล้วตามด้วยน้ำสต๊อกหมู 
  3. นำหม้อมาตั้งให้ร้อน จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไปให้ร้อน ตามด้วยกระเทียม รากผีกชี พริกไทย และขิงที่เตรียมไว้ ผัดให้เข้ากันจนหอม ใส่หมูสามชั้น วางทับด้วยกุ้งสด ใส่วุ้นเส้น ทำการราดด้วยน้ำซอสที่เตรียมไว้ ปิดฝารอให้น้ำในหมูงวดลงไปเกือบแห้ง หลังจากนั้นใส่ต้นหอม และขึ้นฉ่ายลงไป อบต่อให้ผักมีกลิ่นหอม ปิดไฟ พร้อมยกออกจากเตา
กุ้งอบวุ้นเส้น

เมื่อทำกุ้งอบวุ้นเส้นเสร็จแล้ว ให้นำมาจัดถ้วย หรือจาน พร้อมเสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดอร่อยอย่างลงตัว สำหรับมือใหม่อยากทำอาหารทานเองที่บ้าน ขอแนะนำ เมนูกุ้งอบวุ้นเส้นในกระทะอย่างง่ายๆ เพียงแค่ใส่ส่วนผสมตามที่สูตรที่กล่าวมา และทำตามวิธีทํา กุ้งอบวุ้นเส้น สูตรในหม้อ แต่ใช้เป็นกระทะแทน เพียงเท่านี้ก็จะได้ทานกุ้งอบวุ้นเส้นแสนอร่อยถูกปากแน่นอน 

เคล็ดลับทำกุ้งอบวุ้นเส้น ทำเองที่บ้าน กุ้งเนื้อแน่น เส้นนุ่มอร่อย 

การทำเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นให้อร่อย ไม่เพียงแค่ปรุงน้ำซอสให้เข้มข้นกลมกล่มเท่านั้น แต่กุ้งที่นำมาทำสูตร กุ้งอบวุ้นเส้นจะต้องสด และมีขนาดปานกลาง และไม่ต้องแกะเปลือกออกจะทำให้เนื้อกุ้งมีรสชาติหวาน สำหรับเทคนิคการทำกุ้งอบวุ้นเส้นโบราณให้อร่อยจะต้องไม่ผัดกุ้งนาน เพราะจะทำให้กุ้งสุกเกินไป แถมเนื้อกุ้งรสชาติจืดอีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/