สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมหวานไทย

ย้อนรอย! ชวนทำขนม เปียกปูนกะทิสด ใบเตย เนื้อเนียน นุ่มเด้ง หวานอร่อย

เปียกปูนกะทิสด

เชื่อว่าหลายคนคงชอบทานขนมหวานไทยๆ เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่มีอีกหนึ่งขนมหวานที่อยากแนะนำคือ ขนม เปียกปูนกะทิสด สีเขียวสดใส หอมกลิ่นใบเตยสด ราดด้วยน้ำกะทิรสชาติหวานมัน อร่อยกลมกล่อมละมุนละไม อีกทั้งเนื้อขนมเนียนนุ่มละลายในปากฟินจนอยากลองทำทานเองเลยทีเดียว สำหรับเปียกปูนใบเตยกะทิสดใครๆ ก็ว่าทำยากมากๆ แต่จริงๆ แล้วขนมเปียกปูนทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด ดังนั้นวันนี้เราจึงมีสูตรเปียกปูนกะทิสดสามารถทำตามง่ายๆ และที่สำคัญทำออกมาแล้วรสชาติอร่อยไม่แพ้ที่ทำขายแน่นอน

แชร์วิธีทำขนม เปียกปูนกะทิสด เนื้อเนียนเด้ง หวานมัน น้ำกะทิเข้มข้น 

เปียกปูนกะทิสด

อีกหนึ่งมีขนมที่รสชาติอร่อยอยากแนะนำให้ลองทานอย่างขนมเปียกปูนกะทิสด เป็นขนมไทยโบราณ เนื้อเนียนเด้ง นุ่มนิ่ม ราดหน้าด้วยกะทิสดหอมชื่นใจ อีกทั้งยังมีเนื้อมะพร้าวอ่อนเนื้อกรุบกรอบ หากใครได้ลองทานรับรองจะต้องติดใจอยากทานเพิ่มอีกแน่นอน นอกจากขนมจะรสชาติหวานอร่อยแล้ววิธีทำขนมก็ง่ายนิดเดียว มือใหม่ก็สามารถทำตามได้ไม่ยาก และแน่นอนว่าวันนี้เรามีสูตรขนมเปียกปูนกะทิสดมะพร้าวอ่อนโบราณมาให้ได้ทำตามได้ที่บ้าน 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งขนมเปียกปูน

เปียกปูนกะทิสด
  1. แป้งท้าวยายม่อม 100 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  4. น้ำตาลโตนด 150 กรัม
  5. เกลือ ½ ช้อนชา
  6. น้ำมะพร้าว 100 กรัม
  7. น้ำปูนใส 300 กรัม
  8. หัวกะทิ 250 กรัม
  9. น้ำใบเตย 500 กรัม

วัตถุดิบ และส่วนผสมของน้ำกะทิ

เปียกปูนกะทิสด
  1. กะทิ 300 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
  3. เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
  4. เนื้อมะพร้าวอ่อน 150 กรัม
  5. งาคั่ว ½ กรัม

ในขั้นตอนการทำขนมเปียกปูนกะทิสดจะต้องเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ต้องทำแป้งขนม และส่วนที่ทำน้ำราดหน้าขนม สำหรับใครที่ชอบทานเนื้อมะพร้าวอ่อนสามารถเพิ่มปริมาณได้ตามใจชอบ และในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีทำขนมไทยแสนอร่อยอย่างขนมเปียกปูนกัน

เปียกปูนกะทิสด
  1. นำแป้งท้าวยายม่อม และแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย น้ำตาลโตนด น้ำกะทิ และน้ำเกลือ ใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นมือนวดส่วนผสมให้เข้ากัน
  2. ใส่น้ำมะพร้าว น้ำปูนใส น้ำใบเตย เสร็จแล้วใช้ตะกร้อคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำมากรองใส่ในกระทะที่จะทำการกวนแป้ง ต่อมาให้นำกระทะไปตั้งเตา ใช้ไฟปานกลาง กวนแป้งให้สุก เมื่อแป้งสุกแล้วให้มาหลอดใส่ถ้วยพิมพ์ 
  3. ต่อมาเตรียมน้ำกะทิ โดยการนำกะทิเทลงในหม้อ ใส่แป้งข้าวเจ้า และเกลือ นำไปตั้งเตาคนให้ส่วนผสมละลายหมด ยกออกจากเตา นำมาราดหน้าขนมเปียกปูน โรยด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน และงาคั่ว
เปียกปูนกะทิสด

จบไปแล้วกับวิธีการทำขนมเปียกปูนกะทิสด เนื้อเนียน เด้งนุ่ม รสชาติหวานละมุนอร่อยสูตรขนมชาววัง นอกจากนี้เนื้อมะพร้าวอ่อนหวานกรุบกรอบอีกด้วย สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูขนมไทยแสนอร่อยอย่างขนมเปียกปูน แนะนำให้ทำตามสูตรที่เรานำมาแชร์ได้เลยรับรองทำแล้วต้องติดอกติดใจแน่นอน

สุดยอดของเคล็ดลับความอร่อย ขนม เปียกปูนกะทิสด ชาววัง ทำง่าย อร่อยไม่มีเบื่อ

เปียกปูนกะทิสด

เปียกปูน กะทิสด เป็นเมนูขนมไทยโบราณที่ทำได้ด้วยตัวเอง ถึงแม้จะไม่เคยทำขนมมาก่อนก็สามารถทำตามได้ สำหรับเคล็ดลับในการทำขนมเปียกปูนให้อร่อยตามสูตรขนมไทยจะต้องนำน้ำปูนใสมาแช่น้ำอย่างน้อย 3 วัน เพราะจะทำให้น้ำปูนใสแจ๋ว และอีกหนึ่งเคล็ดลับคือ ในขั้นตอนกวนแป้งขนมจะต้องกวนไปในทิศทางเดียวกันจะทำให้แป้งเหนียวมากขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

เปิดครัวบ้านๆ ทำ เมนู ต้มข่าไก่ รสชาติเข้มข้นถึงใจ หอมกลิ่นสมุนไพร

ต้มข่าไก่

หากใครชอบทานอาหารไทย และเย็นนี้ไม่รู้จะทานอะไรดี ขอแนะนำ ต้มข่าไก่ เมนูประเภทต้มยำทีมีรสชาติเข้มข้น จัดจ้าน และมีกลิ่นหอมเป็นเอกษณ์ และที่สำคัญเนื้อไก่นุ่มอร่อยสุดๆ สำหรับคนที่ชอบทานอาหารจัดจ้านเมนูนี้ตอบโจทย์แน่นอน และที่สำคัญยังมีสูตรที่ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก และใช้กะทิกล่องก็สามารถทำได้ ซึ่ง วิธีทําต้มข่าไก่ กะทิกล่องจะมีความหอมเหมือนกับกะสด แถมรสชาติยังกลมกล่อมอีกด้วย

ขั้นตอนการทำ ต้มข่าไก่ สูตรโบราณ น้ำแกงเข้มข้น อร่อยครบรส 

ต้มข่าไก่

วันนี้จะชวนมาทำเมนูเด็ด อย่าง ต้ม ข่าไก่ เมนูที่หลายคนชอบทานเป็นพิเศษ เพราะมีรสชาติเปรี้ยว กลมกล่อม ทำให้ซดคล่องคอสุดๆ นอกจากนี้ยังกระตุ้นความอยากทานเยอะมากขึ้นอีกด้วย แถมเนื้อไก่ยังนุ่มนิ่มทานง่าย และหากทานพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งอร่อยจนต้องตักข้าวเพิ่มเลยทีเดียว และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามีเตรียมส่วนผสมต้มข่าไก่กันก่อน ว่าแต่เมนูต้มข่าไก่ใส่ผักอะไรได้บ้างไปดูกันเลย 

ต้มข่าไก่
  1. สะโพกไก่ 500 กรัม
  2. หัวกะทิ 500 กรัม
  3. เห็ดฟาง 300 กรัม
  4. ตะไคร้หั่นแฉลบ 2 ต้น
  5. ข่าอ่อนหั่นแว่น 5 แว่น
  6. พริกแดง 10 กรัม
  7. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  8. มะนาว 1 ลูก
  9. เกลือ ½ ช้อนชา
  10. ใบมะกรูด 5 ใบ
  11. กระเทียม 5 กลีบ
  12. ผักซี 1 ต้น
  13. ต้นหอม 1 ต้น

ในส่วนวัตถุดิบของเมนูต้มข่าไก่ สูตรน้ำซุปเข้มข้นจะใส่กะทิกล่อง แต่ถ้าที่บ้านมีกะทิสดก็สามารถใช้กะทิสดได้เลย และหากชอบเลือดไก่สามารถใช้เป็นส่วนผสมได้เช่นกัน ต่อมาจะเข้าสู่กระบวนการต้มข่าไก่ใส่เห็ดนางฟ้ารสชาติแซ่บถึงใจ ดังนี้

ต้มข่าไก่
  1. นำสะโพกไก่มาหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ จากนั้นเตรียมหม้อตั้งเตา ใส่หัวกะทิลงไป ตามด้วยตะไคร้ ข่าอ่อน กระเทียมทบพอแหลก และใบมะกรูดลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน รอให้น้ำกะทิเดือด ใส่เนื้อไก่ลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
  2. รอให้เนื้อไก่สุกดี ใส่เห็ดฟางที่เตรียมไว้ลงไป รอให้เห็ดสุกดีแล้ว จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล เกลือ มะนาวบีบลงไป เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้ว ปิดไฟแล้วยกออกจากเตาได้เลย จากนั้นตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยผักซี และต้นหอมซอย
ต้มข่าไก่

ต้มข่าไก่ เป็นเมนูประเภทต้มยำที่ทำง่ายมาก และรสชาติกลมกล่อม น้ำแกงเข้มข้นซดคล่องคอสุดๆ แถมยังเป็นเมนูที่สามารถทานคู่กับอาหารชนิดอื่นๆ ได้ด้วย อย่างเช่น เมนูผัด ทอด เป็นต้น ดังนั้นถ้าใครอยากทำลองเมนูง่ายๆ อย่างต้มข่าไก่เองที่บ้านก็สามารถทำตามสูตรที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองอร่อยแซ่บแน่นอน สำหรับคนไหนที่ไม่ชอบต้มข่าไก่น้ำข้น ขอแนะนำ ต้ม ไก่ ใบ มะขาม อ่อน เมนูอาหารบ้านๆ ที่มีรสชาติเปรี้ยวของยอดมะขามอ่อนอร่อยลงตัวที่สุด 

เคล็ดลับ การทำต้มข่าไก่ ให้รสชาติอร่อยกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นคาว 

ต้มข่าไก่

ต้มข่าไก่จะมีความอร่อยได้นั้นอยู่ที่วิธีการเลือกเนื้อไก่ ซึ่งเนื้อไก่ที่นำมาทำเมนูต้ม ข่าไก่จะต้องสด และไม่มีกลิ่นเหม็นคาว นอกจากนี้ควรเลือกใช้สะโพก เพราะบริเวณสะโพกไก่มีเนื้อเยอะที่สุด อีกทั้งก่อนจะนำเนื้อไก่มาทำอาหารจะต้องนำไปล้างน้ำให้สะอาดประมาณ 1-2 ครั้ง เพื่อลดความคาวลงได้ และอีกหนึ่งเคล็ดลับคือ ต้องใส่เกลือลงไปในหม้อต้มด้วยจะทำให้รสชาติของน้ำแกงมีความกลมกล่อม เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูต้มข่าไก่กะทิเข้มข้น เนื้อไก่นุ่มๆ หอมกลิ่นสมุนไพร พร้อมเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยถูกปากสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
ขนมหวานไทย

ขนมมงคลชาววัง หยกมณี สีเขียวก้อนกลม เนื้อเหนียวนุ่มหนึบหนับ

หยกมณี

ขนม หยกมณี มีลักษณะเป็นขนมก้อนกลมสีเขียวสวยงามคล้ายหยก และในสมัยออีตขนมชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมมงคลมักทำทานในงานเทศกาลต่างๆ อย่างเช่น งานบวช งานแต่ง หรืองานขึ้นบ้านใหม่ เพราะว่าขนมหยกมณี ความหมายในเรื่องความเจริญก้าวหน้า มั่งมีศรีสุขนั่นเอง ในสมัยก่อนขนมชนิดนี้นิยมใช้สีเขียวจากใบเตยเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันมีการปรับแต่งขนมให้มีหลากหลายสี อาทิ สีเหลือง ม่วง น้ำเงิน โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น เผือก ฟักทอง ดอกอัญชัญ เป็นต้น 

ขั้นตอนทำขนมมงคล หยกมณี นุ่มนิ่ม กรุบกรอบ หวานละมุนลิ้น 

หยกมณี

หากใครชอบทานขนมมงมล เนื้อแป้งเม็ดสาคูเนื้อนุ่มเหนียวหนึบหนับต้องไม่พลาดกับขนมหยกมณี หนึ่งในขนมไทยโบราณที่มีรสชาติหวาน เนื้อนุ่มนิ่ม หากทานคู่กับมะพร้าวทึนทึกอร่อยย่าบอกใครเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามปัจจุบันขนมหยก มณีสีสวยงามถือว่าเป็นขนมที่หาทานค่อนข้างยาก แต่ก็ใช่ว่าจะทำทานเองไม่ได้ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาลองทำขนมหยกมณีมะพร้าวอ่อนแสนอร่อยกัน ว่าแต่ต้องเตรียมวัตถุดิบอะไรบ้างตามไปดูกันเลย 

  1. แป้งสาคู 1 ½ ถ้วยตวง
  2. น้ำเปล่า 1 ½ ถ้วยตวง
  3. น้ำใบเตย 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
  5. มะพร้าวอ่อนทึนทึกขูดเป็นฝอย 1 ถ้วยตวง
  6. เกลือป่น ½ ช้อนชา

เมื่อได้วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องทำขนมหยกมณีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญในการทำขนม หยกมณีคือ แป้งสาคูจะต้องนำมาต้มให้สุก และเม็ดใสเหนียวหนืดจึงทำให้ขนมนุ่มอร่อยนั่นเอง ว่าแต่จะต้องต้มเม็ดสาคูยังไงถึงจะอร่อยตามสูตรโบราณ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาไปดูกันเลย

หยกมณี
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก โดยการนำแป้งสาคูมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำประมาณ 15 นาที ในระหว่างนี้ให้นำมะพร้าวอ่อนทึนทึกมาขูดเป็นฝอย และนำไปคลุกกับเกลือให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 3 นาที เสร็จแล้วนำมาเทใส่ถาดพักไว้ให้เย็น ต่อมาเตรียมน้ำใบเตยด้วยการนำไปใบเตยมาล้างทำความสะอาด หลังจากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียด ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำใบเตย
  2. นำกระทะใส่น้ำเอาไฟตั้งเตา เปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำเดือด จากนั้นใส่สาคูที่เตรียมไว้ลงไป ซึ่งในขั้นตอนนี่จะต้องรีบคนสาคูให้กระจายตัวไม่จับเป็นก้อน หลังจากคนไปสักพักเม็ดสาคูจะเริ่มจับตัวเป็นก้อน หรือมีลักษณะที่เป็นตากบที่มีลักษณะเป็นจุดสีขาวตรงกลางข้างใน จากนั้นใส่น้ำใบเตยที่เตรียมไว้ลงไป ทำการคนเม็ดสาคูให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลทราย กวนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และคนจนกว่าน้ำตาลจะละลาย เมื่อส่วนผสมทั้งมหดหนืด และเข้มข้นขึ้นแล้ว ให้ปิดไฟ พร้อมยกออกจากเตา เทใส่ถาดให้สาคูเย็นลง
  3. หลังจากที่สาคูเย็นลงแล้วให้นำช้อนมาตักสาคูขนาดพอดีคำ เสร็จแล้วนำมาคลุกเคล้ากับมะพร้าวที่เตรียมไว้ เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หยกมณี

สำหรับคนที่ชอบขนมหยกมณีแบบเม็ดสาคูใสแจ๋วตามสูตรขนมไทย ให้ต้มเม็ดสาคู และกวนจนกระทั่งน้ำแห้งแล้วค่อยใส่น้ำตาลลงไป หรือถ้าชอบเม็ดสาคูแบบตากบสามารถใส่น้ำตาลลงไปได้เลย และหลังจากทำเมนูขนมไทยโบราณหยกมณีเสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้ขนมก้อนกลมสีสวยชวนทานไม่น้อยเลยทีเดียว

แนะนำขนมหยกมณี หลากหลายสีสันสวยงาม รสชาติหวานอร่อย 

หยกมณี

หยก มณี เป็นขนมไทยที่สามารถทำมีหลากหลายสัสันที่น่าทานได้ด้วย โดยสีที่ใช้สามารถหาได้จากธรรมชาติอย่างเช่น ดอกอัญชัญ ฟักทอง แครอท โดยนำวัตถุดิบเหล่านี้ล้างทำความสะอาดแล้วนำไปปั่นกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นสามารถทำตามสูตรขนมหยกมณีเมนูขนมไทยแสนอร่อยได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมชาววัง รสชาติหวาน นุ่มละมุน อร่อยไม่จำเจ

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร ทงคัตสึ หมูทอดนุ่มกรุบกรอบ น้ำซอสเข้มข้น หอมอร่อย ไม่จำเจ

ทงคัตสึ

ทงคัตสึ หนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่หลายคนโปรดปรานมากที่สุด เนื่องด้วยรสชาติของน้ำซอสทงคัตสึมีความกลมกล่อม อร่อยถูกปาก แถมหมูทอดชิ้นใหญ่ๆ หนากรอบ ยิ่งทำให้เพิ่มความอร่อยมากขึ้นหลายเท่า ดังนั้นวันนี้จะพาทุกคนมาทำเมนูโปรดอย่างหมูทอด ทงคัตสึแสนอร่อย โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปทานที่ร้านให้เสียเวลา ว่าแต่จะทำขั้นตอนจะยาก หรือง่ายแค่ตามไปดูกันเลย

รวมขั้นตอนทำ ทงคัตสึ หมูชิ้นหนานุ่ม น้ำซอสกลมกล่อม ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน 

ทงคัตสึ

สำหรับใครที่กำลังสนใจทำอาหารญี่ปุ่นง่ายๆ ด้วยตัวเอง ต้องไม่พลาด เพราะว่าวันนี้เราจะมาแนะนำเมนูสุดคลาสสิกอย่าง ทงคัตสึหมูทอดที่มีรสชาติกลมกล่อม แถมยังกรอบอร่อยอีกด้วย และต้องทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองอร่อยมากขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้วิธีทำข้าวหมูทอด ทงคัตสึง่ายมากๆ อยู่บ้านก็สามารถทำเองได้ไม่ต้องไปเรียนให้เสียเวลา แถมทำออกมาแล้วต้องอร่อยเหมือนซื้อทานแน่นอน

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. เนื้อหมูสันนอก 300 กรัม
  2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วยตวง
  5. กะหล่ำปลีซอย ½ ถ้วยตวง
  6. พริกไทย 1 ช้อนชา
  7. เกลือ 1 ช้อนชา
ทงคัตสึ

วัตถุดิบ และส่วนผสมของน้ำซอสทงคัตสึ

  1. แครอทหั่นลูกเต๋า 60 กรัม
  2. เซเลอรี่หั่นลูกเต๋า 40 กรัม
  3. หอมหัวใหญ่ 30 กรัม
  4. ซอสมะเขือเทศ 60 กรัม
  5. แอปเปิ้ลแดง 70 กรัม
  6. น้ำส้มสายชูข้าว 3 ช้อนโต๊ะ
  7. ซอสเปรี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ
  8. อบเชยป่น ¼ ช้อนชา
  9. ออลสไปซ์ ¼ ช้อนชา
  10. กานพลู ¼ ช้อนชา
  11. น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
  12. กระเทียม 1 กลีบ
  13. มัสตาร์ดญี่ปุ่น ½ ช้อนชา
  14. มิริน 2 ช้อนโต๊ะ
  15. โซยุ 2 ช้อนโต๊ะ
  16. ขิงซอย 1 ช้อนชา

สำหรับส่วนผสม และวัตถุดิบที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสูตรของทงคัตสึหมูทอดสไตล์โฮมเมคที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนั้นใครที่ยังไม่เคยทำอาหารมาก่อนเมนูนี้เหมาะที่ใช้ฝึกทำอาหารมากที่สุด เพราะส่วนน้อย แถมขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ว่าแล้วเราไปลงมือทำข้าว ทงคัตสึกรอบๆ พร้อมกับน้ำซอสทงคัตสึ วิธีทำง่ายๆ กันเลย

ทงคัตสึ
  1. สำหรับขั้นตอนแรกนำเนื้อหมูสันนอกมาทุบให้ได้ความหนาประมาณ 0.5-0.7 เซนติเมตร ทำการปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ขยำให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อ หมักไว้ประมาณ 30 นาที 
  2. เมื่อครบกำหนดเวลาให้นำเนื้อหมักมาคลุกคล้ากับแป้งสาลีอเนกประสงค์ ไข่ และเกร็ดขนมปัง หลังจากนั้นเตรียมกระทะนำไปตั้งเตา ใส่น้ำพืชลงไป เปิดไฟแรง รอให้น้ำมันเดือด ใส่หมูชุบแป้งทอดลงไป ทอดให้หมูสุก และเหลืองกรอบ เสร็จแล้วตักออกมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  3. ต่อมาที่เป็นการทำน้ำซอสทงคัตสึ โดยเริ่มจากนำส่วนผสมทุกอย่าง ยกเว้นส่วนผสมที่เป็นเหล้า มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำเล็กน้อย เปิดไฟปานกลางให้น้ำเดือด จากนั้นลดไฟลงอ่อนๆ เคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดประมาณ 50 นาที หลังจากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียด ใส่ส่วนผสมที่เป็นเหล้าลงไป ปั่นต่อ หลังจากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มากรองเอาแต่น้ำ เพียงแค่ก็จะได้น้ำซอสสดใหม่กลิ่นหอมอร่อย
  4. นำหมูทอดมาหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ หลังจากนั้นจัดเรียงใส่จาน ตกแต่งด้วยกะหล่ำปลีซอยบางๆ ราดด้วยน้ำซอสที่เตรียมไว้ เป็นอันเรียบร้อย 
ทงคัตสึ

หลังจากเตรียมเมนูทงคัตสึเสร็จแล้ว ให้นำไปเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งเพิ่มความอร่อยจนหยุดทานไม่ได้ จนต้องทำเพิ่มอีกจาน สำหรับการทำข้าวหน้าหมูทอด ทงคัตสึสไตล์โฮมเมคด้วยตัวเองนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด และยังสามารถทำได้ในปริมาณที่ต้องการอีกด้วย 

แชร์สูตรทงคัตสึ หมูทอดกรอบ ไข่ข้น หอมอร่อย ละมุนลิ้น

ทงคัตสึ

สำหรับเมนูข้าวหมูทดกรอบทงคัตสึหนึ่งในอาหารทอดที่มีขั้นตอนการทำค่อนข้างง่าย และรสชาติอร่อย เนื้อหมูกรอบนุ่ม และหากทานคู่กับน้ำซอสเข้มข้นยิ่งทำให้หมูทอดอร่อยมากขึ้น อีกทั้งทงคัตสึ คือ อาหารที่สามารถทานคู่กับข้าวไข่ข้นได้ด้วย ซึ่งวิธีการทำไข่ข้นง่ายนิดเดียว โดยเริ่มจากนำไข่ไก่มาผสมกับซอสญี่ปุ่นนำไปทอด เมื่อไข่เริ่มสุกให้ม้วนไข่เข้าหากันนำไปวางบนข้าววสวย พร้อมเสิร์ฟคู่กับหมูกรอบทงคัตสึเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet