สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมเบเกอรี่

ขนมปังลาวาชาเขียว ไส้ทะลัก เหนียวนุ่ม ละมุนลิ้น

ขนมปังลาวาชาเขียว

ขนมปังลาวาชาเขียว อร่อย ๆ เยิ้ม ๆ ห้ามพลาด ขนมปังที่จองกุกทำ หรือจะสู้เราปรุง แต่จะทำอย่างไร ต้องลอง

ส่วนผสมในการทำ ขนมปังลาวาชาเขียว

วันนี้แอดมินขออาสาชวนเพื่อน ๆ เข้าครัวทำ ขนมปังลาวาชาเขียว แสนอร่อย นุ่มละมุนลิ้น สำหรับ ขนมปังมีไส้อะไรบ้าง ในบทความนี้จะเป็นการนำผงชาเขียวมาทำไส้ขนม ซึ่งความหอมของชาชนิดนี้คงถูกอกถูกใจใครหลาย ๆ คน ใครที่ชอบกินขนมปัง ต้องไม่พลาด

วัตถุดิบ ขนมปังลาวาชาเขียว

ลาวาชาเขียว

อีกหนึ่ง ขนมเบเกอรี แสนอร่อยที่ทำได้ไม่ยาก โดยมีวัตถุดิบต้องเตรียมดังต่อไปนี้

ส่วนผสมแป้งโดว์

1.แป้งสาลี 400 กรัม

2.ยีสต์ 1 ½ ชช.

3.น้ำตาลทราย 80 กรัม

4.นมสดรสจืด ½ ถ้วยตวง

5.เกลือป่นเล็กน้อย

6.ไข่ไก่ 1 ฟอง

7.น้ำ ½ ถ้วยตวง

8.เนยสด 60 กรัม

ส่วนผสมไส้

1.ผงชาเขียว 1 ½ ชต.

2.นมข้นจืด 380 MI

3.น้ำอุ่น 200 MI

4.เกลือป่นจำนวนเล็กน้อย

5.นมข้นหวานทีพอท รสมัทฉะชาเขียว 130 กรัม

6.แป้งข้าวโพด 3 ชต.

7.เนยสดเล็กน้อย

8.ไข่ไก่ 1 ฟอง

วิธีทำไส้ลาวาชาเขียว

1.เทผงชาเขียวลงในน้ำอุ่น คนให้ผงชาเขียวละลาย

2.ตามด้วย นมข้นจืดทีพ็อทเอ๊กตร้า นมข้นหวานทีพ็อท เกลือ รสมัทฉะชาเขียว ไข่ไก่ สีผสมอาหาร และแป้งข้าวโพด คนให้ส่วนผสมทั้งหมดที่จะนำมาใช้ทำไส้ ขนมปังลาวาชาเขียวละลาย

3.ใช้ไฟแรงแล้วคนอย่างต่อเนื่อง ระวังอย่าให้ไหม้ แล้วลองสังเกต สีของไส้ขนมจะค่อย ๆ เขียวเข้มขึ้นมาทีละน้อย

4.ส่วนผสมต้องไม่เป็นก้อน จากนั้นใส่เนย คนจนกระทั่งเนยละลายเข้ากันดีแล้วถึงพักให้อุ่น

วิธีทำแป้งโดว์

1.คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ได้แก่ แป้งสาลี ยีสต์ เกลือและน้ำตาลทราย

2.จากนั้นใส่นมสด ไข่ไก่ และน้ำ นำมานวดให้เข้ากัน ตามด้วยเนยแล้วนวดต่อประมาณ 30 นาทีจนเนื้อแป้งเนียนไร้ซึ่งเม็ดแป้ง

3.พักแป้ง 30 นาที รอจนแป้งฟูเป็น 2 เท่า หาผ้ามาคลุมไว้เพื่อไม่ให้แป้งโดว์แห้งแล้วค่อยนำมานวดเพื่อไล่ฟองอากาศ จากนั้น แบ่งก้อนโดว์นำมาชั่งน้ำหนักให้ได้ขนาด 70 กรัม

4.ใช้ปลายนิ้วคลึงแป้งโดว์จนกลมและเนียน 

5.พิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ ทาเนยให้ทั่วเพื่อป้องกันไม่ให้ขนมติดพิมพ์ จากนั้นพักแป้งโดว์อีกครั้งเป็นเวลา 30 นาที

6.นำนมสดมาทาให้ทั่วแป้งโดว์แล้วเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศา เป็นเวลา 20 นาที 

7.นำขนมออกจากเตา ทาเนยเพื่อเพิ่มความสวยงามบนผิวขนม

ขั้นตอนสุดท้าย ใช้หัวบีบวงกลม นำไส้ชาเขียวใส่ลงในถุงบีบแล้วปิดถุงให้สนิท จากนั้น บีบไส้ชาเขียวลงในขนมปัง ก็ถือว่าเสร็จพร้อมเสริ์ฟ

ขนมปัง

เป็นอย่างไรกันบ้าง สูตร ขนมปังลาวาชาเขียวความง่ายนั้นพอ ๆ กับ เมนูจากขนมปังแผ่น ดังนั้น แอดมินเชื่อว่า จะเป็นอีกหนึ่งสูตรขนมในดวงใจที่ใคร ๆ ก็อยากลองทำสักครั้ง

เครดิตภาพประกอบ

จาก Facebook Page : Wongnai Cooking 

เมนูอื่นๆ ไดฟูกุไส้ถั่วแดงสตรอวเบอร์รี่ของหวานยอดฮิต จากแดนซากุระ

สนับสนุนโดย sa game เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุดในขณะนี้ https://sa-game.bet/

Categories
อาหารไทย

กะท้อนทรงเครื่อง ไม่ต้องทุบ แซ่บ ๆ หวาน อร่อย

กะท้อนทรงเครื่อง

กะท้อนทรงเครื่องอร่อยลงตัว หอม ๆ กลิ่น มะพร้าวคั่ว กะท้อนทรงเครื่อง ขั้นตอนการทำนั้นไม่ยาก

ส่วนผสมในการทำกะท้อนทรงเครื่อง

กะท้อนทรงเครื่องเป็นการนำผลไม้สดอย่างผลกะท้อนมาทำเมนูของหวานกินเล่นที่กินอย่างไรก็ไม่มีวันเบื่ออันเป็นผลมาจากความสดของกะท้อน ความหวานแต่แซ่บของน้ำราดกะท้อนจนไม่ต้องมาถาม กะท้อนทรงเครื่องที่ไหนอร่อย ขอเพียงเปิดดูเมนู ทางแอดมินได้รวบรวมแนวทางในการปรุงผลกะท้อนแสนอร่อยมาฝากทุก ๆ คน

วัตถุดิบ กะท้อนทรงเครื่อง

กะท้อนทรงเครื่อง

กะท้อนทรงเครื่องสูตรโบราณ เป็นสูตรง่าย ๆ ขั้นตอนไม่เยอะ อีกทั้งการเตรียมวัตถุดิบนั้นไม่มาก เพียงแค่เข้าครัว ก็สามารถดัดแปลงสิ่งที่มีอยู่มาทำกะท้อนอร่อย ๆ ได้แล้ว

1.กะท้อนสด 3 ผล

2.ถั่วลิสงคั่วนำมาทุบให้พอหยาบ ๆ ประมาณ 50 กรัม

3.กุ้งแห้ง 50 กรัม

4.พริกขี้หนูสด 1 ช้อนชา ( นำมาซอย)

5.หอมแดง 2 หัว (นำมาซอย)

6.พริกป่น 1 ชช.

7.กะปิ 1 ช้อนชา

8.น้ำปลา 1 ชต.

9.น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม

10.น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

11.เกลือป่น 1 ชต.

วิธีทำ

กะท้อน

ขั้นตอนที่ 1 กะท้อนทรงเครื่อง จะอร่อยหรือไม่ ขั้นตอนการปอกนั้นถือว่าสำคัญ โดยมีวิธีการปอกง่าย ๆ นั่นก็คือ ใช้มีดคม ๆ ปอกเปลือกให้หนา ผิวต้องเรียบ

ขั้นตอนที่ 2 เหมือนกับการทำ กะท้อนแช่อิ่ม ผิวของกะท้อนต้องขาวถึงจะดูน่ากิน วิธีการ ให้หาภาชนะที่มีขนาดใหญ่สำหรับแช่กะท้อนที่ปอกเปลือกแล้ว จากนั้นเทน้ำเปล่า โรยเกลือลงไป คนจนเกลือละลายแล้วนำผลกะท้อนแช่ลงไปในน้ำเกลือ

ขั้นตอนที่ 3 ภายหลังแช่น้ำเกลือเสร็จ ให้นำผลกะท้อนสดมาบั้งตามแนวขวาง บั้งเป็นริ้ว ๆ จากนั้นนำมาแช่ในน้ำเกลืออีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผลกะท้อนดำอีกทั้งรสชาติกะท้อนจะดูไม่เปรี้ยวจนเกินไป

ขั้นตอนที่ 4 มาถึงขั้นตอนการทำน้ำราด เริ่มจาก นำหม้อสำหรับเคี่ยวน้ำราดตั้งบนเตา ใช้ไฟกลาง เทน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา กะปิ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำราดเหนียวได้ที่

ขั้นตอนที่ 5 ใส่หอมแดง พริกป่น พริกขี้หนู กุ้งแห้งและถั่วลิสงหยาบ เคี่ยวต่อจนเหนียว สังเกตดูว่า ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วหรือไม่ ให้ปิดไฟ รอน้ำราดเย็นตัวลง

ขั้นตอนสุดท้าย นำผลกะท้อนขึ้นมาจากอ่าง บีบไล่น้ำเกลือในลักษณะให้พอสะเด็ดน้ำ จัดใส่จาน นำน้ำราด ๆ บนผลกะท้อน ตามด้วยการนำใบสะระแหน่มาตกแต่ง ก็พร้อมเสริ์ฟแล้ว ในส่วนของกะท้อนทรงเครื่อง อยู่ได้กี่วัน แนะนำให้เก็บไว้ในตู้เย็น ก็จะอยู่ได้ประมาณ 3 วัน แต่ถ้าอยากกินของสด ควรรับประทานทันที

กะท้อนทรงเครื่องเมนูของกินเล่นง่าย ๆ อร่อยแบบไทย ๆ แซ่บโดนใจ ใครที่ชอบเข้าครัวทำของว่าง ต้องไม่พลาดหัดลองทำเมนูนี้ดู ไม่แน่ว่า ทำจนคล่องและอร่อย สามารถนำมาทำเป็นอาชีพเสริมพารวยได้ เพราะถึงอย่างไร คนไทยกับอาหารรสจัดเป็นของคู่กัน ดังนั้น ต้องไม่พลาด ลองฝึกดู

เครดิตภาพประกอบ

https://cooking.kapook.com/view197472.html

เมนูอื่นๆ ผัดผักรวมมิตร เมนูที่ทั้งอร่อย ทั้งได้สุขภาพ

สนับสนุนโดย sa game เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุดในตอนนี้

Categories
ขนมหวานไทย อาหารไทย

วุ้นปีโป้นมสด เมนูขนมหวานขวัญใจเด็ก ๆ 

วุ้นปีโป้นมสด เมนูขนมหวานเป็นที่นิยมกันมากในช่วงหน้าร้อนนี้โดยเฉพาะเหล่าเด็ก ๆ นั้นชื่นชอบกันเป็นพิเศษ เพรามีรสชาติหวานหอมชื่นใจ เนื้อสัมผัสเด้งดึ่งอร่อยหนึบหนับ เรียกได้ว่าเป็นขนมที่ครองใจเด็ก ๆ ส่วนใหญ่กันเลยทีเดียว อีกทั้งในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมามีอีกเมนูหนึ่งได้แก่เมนูขนมหวาน ปีโป้ลูกแก้ว ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่คนนิยมรับประทานไม่แพ้กัน 

เมนูนี้ถือได้ว่าเป็นเมนูที่รับประทานแล้วชื่นใจเป็นอย่างมาก เพราะความหวานเย็นฉ่ำชื่นใจช่วยให้ดับอุณหภูมิความร้อนได้ไม่ยากเลยทีเดียว และสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองคนไหนที่อยากจะทำเมนูขนมหวานวุ้นปีโป้นมสดนี้ให้กับบุตรหลายก็สามารถทำเองได้ง่าย เตรียมวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง ใช้เวลาทำไม่นาน หากพร้อมแล้ว เราไปลุยกันเลย 

วุ้นปีโป้นมสด เมนูขนมหวาน

ขอบคุณภาพจาก Unsplash 

วุ้นปีโป้นมสด เตรียมวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง 

1.ผงวุ้น 2 1/2 ช้อนโต๊ะ  (สำหรับทำ วุ้นปีโป้นมสด 1 ถาด) 

2.นมสด 2 ถ้วยตวง (สามารถใส่โยเกิร์ตได้หากต้องการทำเป้น สูตรวุ้นโยเกิร์ต )

3.น้ำสะอาด ½ ลิตร (สามารถปรับเป็นกะทิได้ หากต้องการเป็น วุ้นกะทิ )

4.ปีโป้ 2 ถ้วยตวง  

5.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 

วุ้นปีโป้นมสด เมนูขนมหวาน

ขอบคุณภาพจาก Pixably 

ขั้นตอนการทำ วุ้นปีโป้นมสดง่ายสุด ๆ

1.ขั้นตอนแรกของการทำเมนูวุ้นปีโป้นมสด เริ่มจากการละลายผงวุ้น กับน้ำสะอาด จนผงวุ้นละลายทั้งหมดไม่เป็นเกล็ด 

2.นำน้ำผงวุ้นขึ้นตั้งไฟ เปิดไฟระดับอ่อน เคี่ยวจนร้อน ใส่นมสดลงไป หากไม่มีนมสดสามารถใช้ยาคูลท์ใส่แทนได้ จะได้เป็น วุ้นยาคูลท์ ตามด้วยน้ำตาลทราย จากนั้นเคี่ยวเรื่อย ๆ จนน้ำวุ้นมีความเหนียว 

3.เตรียมปีโป้จัดเรียงไว้ในภาชนะ โดยจะจัดแบบหั่นก็ได้ หรือไม่หั่นก็ได้ นำนำวุ้นเทใส่ในปริมาณครึ่งหนึ่งก่อน จากนั้นนำส่วนของน้ำวุ้นที่เหลือแช่ในน้ำร้อนเอาไว้ เพื่อไม่ให้วุ้นเกาะตัวแข็ง 

4.เมื่อวุ้นเซ็ตตัวให้เรียงปีโป้ที่เหลือไว้ต้านบน จากนั้นเทในส่วนของน้ำวุ้นที่เหลือลงไป รอวุ้นเซ็ตตัว ประมาณ 20 นาที เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนเมนูขนมหวานแสนอร่อย หากต้องการความชื่นใจ ฉ่ำใจ ก่อนรับประทานนำวุ้นปีโป้นมสดแช่ตู้เย็นให้แข็งตัวเป็นกล้ดน้ำแข็งเพียงเท่านี้ก็ได้วุ้นปีโป้นมสด หวานเย็นชื่นใจสุด ๆ ไปเลย 

วุ้นปีโป้นมสด เมนูขนมหวาน

ขอบคุณภาพจาก Pixabay 

วิธีเสิร์ฟ และการดัดแปลงเมนูวุ้นปีโป้นมสดหลากหลายสไตล์ 

วิธีการเสิร์ฟวุ้นปีโป้นมสดให้น่ารับประทานนั้นง่ายมาก ๆ โดยสามารถดัดแบ่งเหมือนเค้ก โดยสามารถเพิ่มอรรถรสในการรับประทานโดยการใส่ผงไมโลเป็นภูเขาไฟ กลายเป็นวุ้นไมโล สร้างอรรถรสความสนุกสนานให้เด็ก ๆ อย่างมากเลยทีเดียว 

ไดฟูกุไส้ถั่วแดงสตรอวเบอร์รี่ของหวานยอดฮิต จากแดนซากุระ

เว็บ ตรง ไม่ ผ่าน เอเย่นต์

Categories
ขนมเบเกอรี่ อาหารนานาชาติ

ไดฟูกุไส้ถั่วแดงสตรอวเบอร์รี่ของหวานยอดฮิต จากแดนซากุระ

ไดฟูกุ จัดเป็นขนมจากแดนญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมรับประทานกันอย่างมาก ซึ่งไม่สามารถบอกได้เลยว่ามีไดฟุกุ ร้านไหนอร่อย บ้างเพราะแต่ละร้านก็มีความอร่อยที่ต่างกันไป เพราะด้วยธรรมชาติของขนมไดฟูกุจะมีเนื้อแป้งที่มีความหนึบผสมความนุ่ม เป็นลักษณะเนื้อสัมผัสแป้งที่แตกต่างจากเนื้อแป้งในขนมไทยที่เราคุ้นชิน รวมถึงความเข้ากันของไส้ต่าง ๆ รวมถึงผลไม้สด อาทิ สตรอวเบอร์รี่ที่เข้ากับเนื้อแป้งกันอย่างลงตัว ทำให้ขนมไดฟูกุ นั้นเป็นขนมหวานเนื้อหอมยอดนิยมที่คนไทยชื่นชอบอย่างมากเลยทีเดียว และสำหรับใครที่อยากจะลองลงมือทำขนมแสนอร่อยได้ฟูกุนี้ ทางเว็บไซต์จะพามาทำ ไดฟูกุไส้ถั่วแดงสตรอวเบอร์รี่แบบไม่เหมือนใคร ตามเรามาได้เลยค่ะ 

ไดฟูกุ

ขอบคุณภาพจาก Pixabay 

วิธีทำไส้ไดฟุกุ เตรียมวัตถุดิบ และวิธีการทำง่าย ๆ 

1.น้ำสะอาด 30 มิลลิลิตร (ช่วยไม่ให้ไส้ ไดฟูกุ ร่วนจนเกินไป) 

2.น้ำตาลทราย 250 กรัม 

3.เกลือป่น 1 ช้อนชา

4.ถั่วแดงต้ม 2 ถ้วยตวง (หากอยากทำ ไดฟูกุโอริโอ้ ก็ปรับวัตถุดิบทำไส้เป็นขนมโอรีโอ้ หรือไส้ที่ต้องการได้เลย) 

5.หัวกะทิ 300 ซีซี

1.ขั้นตอนการทำไส้ สำหรับ วิธีทำไดฟูกุไส้ช็อคโกแลต จะมีวิธีการทำไส้แตกต่างกัน สำหรับไส้ถั่วแดงเริ่มจากการกวนถั่วแดง ก่อนนำถั่วแดงมาต้ม ต้องแช่น้ำทิ้งไว้ 10 ชั่วโมงเพื่อให้ถั่วแดงนิ้ม และต้มสุกง่าย เมื่อต้มถั่วแดงเสร็จแล้ว นำมาผสมกับวัตถุดิบ ดังนี้ น้ำสะอาด น้ำตาลทราย เกลือป่น หัวกะทิ ผสมทุกอย่างให้เข้ากั 

2.นำใส่ภาชนะตั้งไฟ ปรับระดับไฟเบาค่อนไปปานกลาง ทำการกวนต่อเนื่อง เมื่อส่วนผสมทุกอย่างเริ่มเหนียวเข้ากัน ตักขึ้นพักบนภาชนะ จากนั้นปั้นไส้ถั่วแดงถั่วเป็นวงกลม ขนาดของไส้นั้นตามความต้องการ

ไดฟูกุ

ขอบคุณภาพจาก Pixabay

วิธีทำแป้งไดฟุกุ และการห่อ เตรียมวัตถุดิบ และวิธีการทำง่าย ๆ  

1.แป้งข้าวโพด 50 กรัม  ( สำหรับทำขนมไดฟูกุ 8 – 10 ชิ้น )

2.แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม 

3.แป้งมัน 150 กรัม 

4.น้ำตาลทราย 85 กรัม 

5.สีผสมอาหาร 2 หยด 

6.นมสด 200 – 300 มิลลิกรัม  (ใส่นมสด แทนการใส่น้ำสะอาด เพราะเป็น สูตรไดฟูกุแป้งนุ่ม

7.สตอรส์เบอร์รี่ 7 – 8 ผล 

ไดฟูกุ

ขอบคุณภาพจาก Pixabay

1.ขั้นตอนแรกนำแป้งมันมาคั่วในกระทะต่อเนื่อง เปิดไฟระดับปานกลาง คั่วจนเป็นสีเหลือง ยกลงพักไว้ การทำแป้ง ไดฟูกุสูตร นี้สามารถดัดแปลงทำได้กับทุกไส้ 

2.ใส่แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย นมสด แป้งข้าวโพด สีผสมอาหาร ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นนำลงไปกวนในกระทะจนเหนียวหนึบ ยกลงมาพัก 

3.เมื่อคลายความร้อนแล้วนำมาคลุกแป้งมันที่คั่วเรียบร้อยแล้ว จากนั้นใช้ไม้รีดจนแบน จากนั้นนำไส้ถั่วแดงที่ปั้นทิ้งไว้มาคลุมสตรอวเบอร์รี่ แล้วจึงใช้แป้งไดฟูกุคลุมไส้อีกครั้งจนมิดชิด หากไส้มีขนาดใหญ่ก็สามารถรีดแป้งไม่บางจนเกินไป จะสามารถหุ้มไส้ ไดฟุกุสตรอวเบอร์รี่ และถั่วแดงได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องแป้งขาด ไส้ถั่วแดงทะลุ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนขนมไดฟูกุแสนอร่อยแล้ว 

สูตรแพนเค้กเนื้อนุ่มฟู สไตล์ญี่ปุ่น แสนอร่อย ใครกินก็ต้องติดใจ

สมัครบาคาร่า

Categories
อาหารไทย

ข้าวขาหมู เมนูอาหารจานเดียวที่คนไทยไม่เคยเบื่อ

ข้าวขาหมู เป็นเมนูหนึ่งที่คนไทยชื่นชอบ และยังสามารถหารับประทานได้ไม่ยาก ราคาไม่แพง เรียกได้ว่าเป็นเมนูหนึ่งที่คนไทยรับประทานกันเท่าไรก็ไม่เบื่อ อีกทั้งยังเป็นเมนูที่สามารถรับประทานกันได้ทั้งครอบครัว ทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก และสำหรับครอบครัวไหนที่มีจำนวนสมาชิกเยอะ อยากที่จะทำขาหมูรับประทานเองในรสชาติที่อยากรับประทานนั้นก็ถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ทำไม่ยากเลย และวันนี้ทางเว็บไซต์จะพาทุกท่านลงมือพาทำเคล็ดลับ วิธีการทำข้าวขาหมูสูตรต้นตำรับ รสชาติเข้มข้นสไตล์คนไทยกันเลย 

ข้าวขาหมูกับวัตถุดิบที่ไม่มากมายอย่างที่คิด พร้อมขั้นตอนการทำขาหมูตุ๋น

1.ขาหมู 1 ขา  (สำหรับข้าวขาหมูที่รับประทานได้ 4 – 5 คน)  

2.น้ำมันพืช 1 ลิตร 

3.ซีอิ้วดำ 2 ช้อนโต๊ะ 

4.พริกเสฉวนชวงเจียว 1 ช้อนโต๊ะ  (ส่วนผสมสำคัญใน ข้าวขาหมูสูตรโบราณ

5.พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ 

6.รากผักชี 3 ราก 

7.กระเทียมไทย 10 กลีบ 

8.ซีอิ้วขาว 3 ช้อนชา

9.น้ำตาลมะพร้าว 400 กรัม 

10.น้ำสะอาด 1.5 ลิตร 

11.เห็ดหอม 10 ชิ้น

12.โป๊ยกั๊ก 10 กลีบ 

13.อบเชย 5 แท่ง

14.ซอสหอย 2 ช้อนโต๊ะ 

15.ผงปรุงรส 3 ช้อนชา 

16.ไข่ต้ม (จำนวนตามต้องการ)

17.คะน้า 2 – 3 ต้น 

ข้าวขาหมู
ขาหมู

ขอบคุณภาพจาก Pixabay 

1.ขั้นตอนแรกทำการล้างทำความสะอาดขาหมูให้สะอาด โดยขูดคราบดำออกให้หมด เมื่อล้างสะอาดแล้วนำมาวางให้สะเด็ดน้ำพักไว้

2.ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่ขาหมูลงไปทอดให้เกรียมทั้ง 2 ด้าน ใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 20 – 30 นาที 

3.มาถึงขั้นตอนการเคี่ยวขาหมู เริ่มจากการตั้งกระทะน้ำน้ำตาลมะพร้าว ลงไปเคี่ยวจนหอม ค่อย ๆ เติมน้ำสะอาดลงไปทีละนิด เพิ่มความหอม เพิ่มรสชาติเข้มข้นด้วยซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ ซอสหอย ผงปรุงรส 

4.เมื่อส่วนผสมทุกอย่างละลาย และเคี่ยวจนได้ที่แล้ว ให้เพิ่มปริมาณน้ำสะอาด ขาหมู เครื่องเทศทั้งหมด เห็ดหอม ไข่ต้ม จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟกลาง 4 – 5 ชั่วโมง ปิดท้ายด้วยใส่ผักคะน้า ( ข้าวขาหมูสูตรต้นตำรับ เมื่อเคี่ยวได้ที่ต้องค้างไว้หนึ่งคืนแล้วรับประทาน) 

วัตถุดิบเครื่องเคียง และวิธีการเตรียมเครื่องเคียง พร้อมวิธีเสิร์ฟ 

1.ผักกาดดองหั่น 2 ถ้วยตวง  (สำหรับตัดเลี่ยนรสชาติของ ข้าวขาหมู )

2.พริกจินดา 20 เม็ด

3.เกลือป่น 2 ช้อน 

4.น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ

5.กระเทียมไทย 10 กลีบ 

6.ผงปรุงรส 

7.น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา 

8.น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ 

วิธีการทำพริกเกลือเริ่มจากการตำกระเทียมไทย พริก เกลือป่น ตำทุกอย่างให้ละเอียด จากนั้นใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย น้ำปลา ผงปรุงรส ชิมรสตามชอบใจ เพียงเท่านี้เสร็จขั้นตอนพริกเกลือเครื่องเคียงข้าวขาหมู

ข้าวขาหมู
ข้าวขาหมู

ขอบคุณภาพจาก Unsplash 

การเสิร์ฟข้าวขาหมู เสิร์ฟข้าวสวย ขาหมูหั่นพอดีคำ ราดน้ำขาหมูเข้มข้น ไข่ต้มหั่น ผักกาดดอง และพริกเกลือปริมาณตามชอบ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูข้าวขาหมูแสนอร่อยไม่แพ้ ข้าวขาหมูร้านดัง ไม่ว่าจะเป็น ข้าวขาหมูนครปฐม หรือร้านดังจากที่ไหน เมื่อเจอสูตรเราทำเองเข้มข้นดั่งใจก็ต้องชิดซ้ายกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าข้าวขาหมู เป็นเมนูหนึ่งที่คนไทยชื่นชอบรับประทานเป็นอย่างมาก เพราะมีพระเอกน่าหม่ำอย่างขาหมู รวมถึงความเข้มข้นของน้ำซุป แกล้มด้วยผักดองรสเด็ด พริกน้ำส้มรสจัดจ้าน อีกทั้งยังมีสารอาหารครบถ้วน และ ข้าวขาหมูกี่แคล ในหนึ่งจานนั้น ก็อาจจะไม่มีใครกังวลหากรับประทานในช่วงเช้าของวัน เพราะรับประทานจานเดียวก็อิ่มท้องไปหลายชั่วโมง 

ข้าวผัดแซลมอน เมนูที่คนชอบสาวกแซลมอนห้ามพลาด 

สมัครบาคาร่า

Categories
อาหารไทย

ข้าวมันไก่สูตรเข้มข้นสไตล์ไทย 

เมนู ข้าวมันไก่ เป็นเมนูโปรด เมนูยอดนิยมของใครหลายคนเลยทีเดียว เพราะเป็นเมนูที่อร่อย ให้สารอาหารครบถ้วน ทั้งโปรตีนจากเนื้อไก่ คาร์โบไฮเดรตจากข้าว ไขมันจากหนังไก่ และวิตามินจากผักในนำซุป เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่รับประทานเท่าไรก็ไม่เบื่อ รับประทานกันได้ทุกเพศทุกวัย 

อีกทั้งอยากกินข้าวมันไก่เมื่อไรก็สามารถออกไปหาซื้อรับประทานได้ไม่ยากเลย แต่สำหรับใครชอบรับประทานข้าวมันไก่รสชาติเข้ามข้นสไตล์ไทยแท้ หนักพริก หนักขิงนั้นก็สามารถที่จะทำรับประทานเองได้ไม่ยาก ทางเว็บไซต์จะพาไปเตรียมทำ ข้าวมันไก่วัตถุดิบ ก็สามารถหาง่าย ๆ  และพาเข้าครัวไปทำกันเลย 

วัตถุดิบ วิธีทำเมนูข้าวมันไก่สูตรเข้มข้น  

1.ขิงแก่หั่น 5 ชิ้นใหญ่  (สำหรับข้าวมันไก่ปริมาณมาก) 

2.เกลือป่น 3 ช้อนชา 

3.น้ำสะอาด 1 ลิตร

4.เนื้อไก่  2 ชิ้น  (สามารถเลือกใช้ไก่บ้านได้ จะกลายเป็น ข้าวมันไก่บ้าน)

5.เลือดไก่ 1 แผ่น 

6.หนังไก่ 1 ถ้วยตวง 

7.แฟงหั่นชิ้น 3 ชิ้น 

8.รากผักชี 3 ราก 

9.น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต๊ะ 

10.ผงปรุงรส 2 ช้อนชา 

11.ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 

12.เห็ดหอม 5 ชิ้น 

13.แครอท 2 ชิ้น

ข้าวมันไก่สูตรเข้มข้น
น้ำจิ้มข้าวมันไก่สูตรเข้มข้น

ขอบคุณภาพจาก Unsplash 

ขั้นตอนแรกในการทำข้าวมันไก่นั้น เริ่มจากใส่น้ำในหม้อ ตั้งไฟปานกลาง ใส่ใบเตย ขิงแก่หั่น น้ำตาลกวด รากผักชี ผงปรุงรส เกลือป่น ซีอิ้วขาว เนื้อไก่ เห็ดหอม แครอท และเลือดไก่ลงไป ต้มจนเดือดเนื้อไก่สุก ตักเนื้อไก่ขึ้นพักไว้ 

จากนั้นยังไม่ปิดไฟหม้อน้ำซุป โดยใส่เลือดไก่ แฟง ลงไปเคี่ยวต่อ ใช้ไฟระดับปานกลาง 

ระหว่างที่ตั้งน้ำซุป ตั้งกระทะเจียวหนังไก่จนแตกยำมัน นำขิงแก่ลงไปผัด ตามด้วยข้าวสารลงไปผัดจนหอม และมีความสุกประมาณ 30  เปอร์เซ็น จากนั้นนำไปหุงในหม้อหุงข้าวต่อจนสุก เรียกขั้นตอนนี้ง่าย ๆ ว่าขั้นตอน ข้าวมันไก่หม้อหุงข้าว (ในขั้นตอนนี้หากจะทำข้าวมันไก่ทอด สามารถนำชิ้นไก่ลงทอดหลังจากเจียวหนังไก่เสร้จแล้ว) 

ข้าวมันไก่สูตรเข้มข้น
ข้าวมันไก่

ขอบคุณภาจาก Pixabay 

วัตถุดิบ วิธีทำส่วนของน้ำจิ้มสูตรเข้มข้น พร้อมวิธีเสิร์ฟข้าวมันไก่ 

1.ขิงแก่ 5 ชิ้น (สำหรับน้ำจิ้ม ข้าวมันไก่ รสเข้มข้นเผ็ดร้อน) 

2.เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ 

3.พริกจินดา 15 เม็ด  (สำหรับ ข้าวมันไก่สูตร เข้มข้นเผ็ดถึงใจ) 

4.กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ

5.น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ

6.ซีอิ้วดำ 2 ช้อนชา 

7.กระเทียมดอง 2 ช้อนโต๊ะ 

8.น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ 

9.น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ

10.แตงกวา (สำหรับรับประทานกับข้าวมันไก่)

11.ผักชีหั่น (ตามชอบ) 

ขั้นตอนแรกของเมนูข้าวมันไก่อร่อย คือหั่นส่วนผสมทุกอย่าง พริกจินดา ขิงแก่ กระเทียมสด กระเทียมดอง หั่นจนละเอียดในระดับหนึ่ง จากนั้นนำมาปั่นรวมกันด้วยเครื่องปั่น 

เติมน้ำตาลมะพร้าว น้ำส้มสายชู ซีอิ้วดำ เต้าเจี้ยว น้ำกระเทียมดอง ปั่นจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นชิมรสตามใจชอบ โรยหน้าเพิ่มความสวยงาม และความหอมด้วยผักชีหั่น

ข้าวมันไก่
ข้าวมันไก่

ขอบคุณภาพจาก Pixabay 

จากนั้นเมื่อส่วนของน้ำซุป ข้าวมันไก่ เนื้อไก่ น้ำจิ้มเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการเสิร์ฟ โดยหั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นพอดีคำ หั่นเลือดไก่เป็นชิ้น ตักน้ำซุป ข้าวมันไก่ พร้อมผักแกล้มแตงกวา หากใครชอบรสเผ็ดร้อนเข้มข้นสามารถเพิ่มขิงแก่ซอย และเพิ่มพริกจินดาซอยได้เต็มที่ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ทั้งอร่อย และมีคุณค่าทางสารอาหารครบครันเลยทีเดียว 

ต้มยำทะเล แซ่บซี๊ดซ้าด โดนใจไม่ง้อร้าน

สมัครบาคาร่า

Categories
อาหารสุขภาพ

ผัดผักรวมมิตร เมนูที่ทั้งอร่อย ทั้งได้สุขภาพ 

เมนู ผัดผักรวมมิตร เป็นเมนูที่คนไทยชื่นชอบรับประทานอีกเมนูหนึ่ง เพราะเป็นเมนูที่สามารถหาวัตถุดิบทำรับประทานได้ง่าย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย สำหรับเมนูผัดผักรวมมิตรนั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ สามารถนำผักชนิดใดก็ได้ที่อยากรับประทานมาผัดรวมกัน และวิธีหนึ่งที่จะทำ ผัดผักรวมมิตรให้อร่อย และมีรสชาติดี คือการใส่เนื้อสัตว์

ส่วนใหญ่นิยมรับประทานคู่กับข้าวสวย และกับข้าวชนิดต่าง ๆ อาทิแกง และรับประทานคู่กับน้ำพริกต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารที่สามารถรับประทานได้หลากหลาย วันนี้ทางเว็บไซต์ของเราจึงจะมาชวนเข้าครัวทำเมนูผัดผักรวมมิตรง่าย ๆ สไตล์คนไทยกันค่ะ 

ผัดผักรวมมิตร
ผัดผักรวมมิตร

ขอบคุณภาพจาก Pixabay

ผัดผัดรวมมิตร เนื้อหมู เตรียมวัตถุดิบง่าย ๆ พร้อมวิธีการทำ 

1.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ (ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเมนูผัดผักรวมมิตรจานใหญ่ 1 จาน) 

2.ข้าวโพดอ่อน 1 ถ้วยตวง (หั่นชิ้น) 

3.เห็ดนางฟ้า 2 ถ้วยตวง 

4.ถั่วลันเตา 1 ถ้วยตวง 

5.แครอท  ½ ถ้วยตวง 

6.พริกหวาน  ½ ถ้วยตวง 

7.เนื้อหมูชิ้น ½ ถ้วยตวง  (สามารถใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทนได้) 

8.กระเทียมไทยสับ 10 กลีบ (เพิ่มความหอมให้เมนู ผัดผักรวมมิตรหมู )

9.ผงปรุงรส 2 ช้อนชา

10.น้ำปลา 2 ช้อนชา 

11.ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา 

12.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 

ผัดผักรวมมิตร
ผัดผักรวมมิตร

ขอบคุณภาพจาก Pixabay

1.ขั้นตอนแรกของเมนู ผัดผักรวมมิตร 5 ชนิด  ได้แก่ ตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟระดับปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป ใส่กระเทียมไทยสับลงไปผัดจนหอม จามด้วยเนื้อหมูชิ้นลงไปผัด (การผัดหมูชิ้น ไม่ผัดนานเพราะจะทำให้หมูแข็ง และกระด้าง ) 

2.จากนั้นใส่ผักเรียงระดับจากที่สุกยากลงไปผัดก่อน เริ่มจากใส่แครอท และข้าวโพดอ่อน ลงไปผัดสักพัก จากนั้นตามด้วยพริกหวาน ถั่วลันเตา และใส่เห็ดนางฟ้าเป็นชนิดสุดท้ายลงไป ผัดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน 

3.ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส ซีอิ้ว น้ำตาลทราย จากนั้นชิมรสชามชอบใจ ผัดผักสุกทุกชนิดแล้วตักขึ้นใส่จาน 

ผัดผักรวมมิตรรับประทานกับอะไรได้บ้าง พร้อมประโยชน์ต่อสุขภาพ

สำหรับเมนูผัดผักรวมมิตรนั้นสามารถรับปประทานได้กับหลากหลายเมนุ สำหรับคนไทยเรานิยมรับประทานเมนูผัดผักเป็นกับข้าว รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ เติมความนัวด้วยน้ำปลาพริก มะนาว เป็นเมนูที่สามารถทำได้หลากหลายสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบผักได้ตามความชอบ ไม่ตายตัวว่าจะต้องเป็นผักอะไร และสำหรับประโยชน์ของ เมนูผัดผักรวมมิตรชนิดต่าง ๆ นั้นก็อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย อาทิวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี อีกทั้งในผักบางชนิดยังมีสารอาหารประเภาโปรตีนอีกด้วย อาทิ ผัดผักรวมมิตรใส่เห็ด บล็อกโคลี่เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพอย่างมากเลยทีเดียว และสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มสารอาหารลงในเมนูนี้อีกก็สามารถเพิ่มวัตถุดิบใข่ลงไปเป็น เมนูผัดผักรวมมิตรใส่ไข่ เรียกได้ว่าทั้งอร่อย ทั้งดีต่อสุขภาพเลยทีเดียวค่ะ 

ผัดผักรวมมิตร
ผัดผักรวมมิตร

ขอบคุณภาพจาก Pixabay 

เว็บ บา คา ร่า อันดับ 1

Categories
อาหารสุขภาพ

สเต็กอกไก่นุ่ม ซอสมะนาว อิ่มอร่อย สไตล์คนรักสุขภาพ 

สเต็กอกไก่  เป็นเมนูที่คนรักสุขภาพนั้นรู้กันดี โดยเฉพาะเมนู สเต็กอกไก่พริกไทยดำ เพราะเป็นเมนูที่นำส่วนของบริเวณอกไก่ปราศจากไขมัน มาทำแล้วเพิ่มอรรถรสความอร่อยได้มากกว่าเมนูอื่น ๆ มากกว่าเมนูต้ม ผัด มากเลยทีเดียว 

และสิ่งที่สำคัญที่สุดของเมนูอกไก่นั่นก็คือการเปลี่ยนความกระด้าง ความแข็ง ความฝืดของส่วนอกไก่ให้นุ่มละมุน ไม่แข็ง ไม่ฝืด ฉ่ำ ๆ ในทุกคำที่รับประทานนั้นคือหัวใจที่สำคัญอย่างมากเลยทีเดียว วันนี้เว็บไซต์ของเราจะพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์ความอร่อย และลบล้างความคิดของอกไก่ ไม่เท่ากับกระด้าง กันค่ะ 

อกไก่

ขอบคุณภาพจาก Pixabay 

สเต็กอกไก่นุ่ม ซอสมะนาว เตรียมวัตถุดิบ และขั้นตอนการย่างอกไก่ ดังนี้ 

1.เนื้ออกไก่ 3 ชิ้น (สำหรับเมนู สเต็กอกไก่ ต้องเลาะหลังไก่ออกให้หมด) 

2.แป้งข้าวโพด 2 ช้อน 

3.เกลือป่น 2 ช้อนชา 

4.น้ำส้มสายชู ½  ช้อนโต๊ะ 

5.น้ำสะอาด 1 ลิตร 

6.เนยสด 100 กรัม 

7.พริกไทยดำป่น 1 ช้อนโต๊ะ 

8.ผักบล็อคโครี่ 1 ถ้วยตวง (สามารถเลือกผักที่ชอบได้ อาทิข้าวโพด ,ถั่ว , มันฝรั่ง ) 

9.กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 

10.มายองเนส 3 ช้อนโต๊ะ 

11.น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 

12.ขนมปัง (จำนวนตามชอบ) 

1.ขั้นตอนแรกของการทำสเต็กอกไก่ให้นุ่มนั้น โดยมีสูตรสเต็กอกไก่นุ่ม ที่ง่ายในการหมักอกไก่ให้นุ่ม โดยทำการล้างส่วนของอกไก่ให้สะอาดที่สุด จากนั้นใส่เกลือป่น น้ำสมสายชู แป้งข้าวโพด น้ำสะอาด ใส่ส่วนผสมดังกล่าวลงในอกไก่จากนั้นทำการผสมให้เข้ากันทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 

2.เมื่อหมักอกไก่ครบตามเวลาแล้ว นำขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำมาคลุกเคล้ากับเกลือป่น พริกไทยดำป่น เนยสด จากนั้นคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้าเนื้ออกไก่ หมักทิ้งไว้ 30 นาทีก็จะได้ สเต็กอกไก่นุ่มกันอย่างไม่น่าเชื่อ

3.ใช้กระทะเทปล่อนตั้งไฟทำการย่างผักบล็อกโคลี่ จากนั้นนำเนื้ออกไก่ลงไปย่าง โดยจับเวลาในการย่างประมาณ 2 นาที จากนั้นนำ สเต็กอกไก่ย่าง ที่ทำเสร็จแล้วนำขึ้นวางพักไว้ในภาชนะ 

สเต็กอกไก่

ขอบคุณภาพจาก Unsplash 

วิธีซอสมะนาวรสเข้มข้น รับประทานกับสเต็กอกไก่เนื้อนุ่ม

ขั้นตอนการทำซอสมะนาวที่รับประทานกับสเต็กอกไก่ นั้นง่ายมาก เริ่มจากการผสมครีมมายองเนส กระเทียมสับละเอียด พริกไทยดำ เกลือป่น น้ำมะนาว ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นชิมรสชาติตามชอบใจ หากชอบความเปรี้ยวมากสามารถเพิ่มน้ำมะนาวได้ และหากชอบความเข้มข้นของครีมมายองเนสมากสามารถเพิ่มได้ตามใจชอบ 

สเต็กอกไก่

ขอบคุณภาพจาก Pixabay 

สำหรับเมนูสเต็กอกไก่นี้ สามารถรับประทานพร้อมผัก ขนมปัง  และ ซอสสเต็กอกไก่ ที่ใส่มะนาวเข้มข้นจี้ดจ้าดได้ตามความชอบ สามารถเพิ่มความสดชื่น ความละมุนโดยรับประทานพร้อมผักที่ย่างพน้อมอกไก่ หรือเพิ่มเป็นผักสด มันบดได้ เรียกได้ว่าเป็นเมนูอีกหนึ่งเมนูที่คนรักสุขภาพห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เรียกได้เมนู สเต็กอกไก่ซอสมะนาว จะเป้นเมนูเด็ดในดวงใจสำหรับคนรักสุขภาพแน่นอน หากทำตามขั้นตอนดังที่กล่าวมาแล้วเนื้ออกไก่จะไมท่แข้งกระด้าง มีความนุ่มชุ่มฉ่ำละมุนอย่างแน่นอน  

สมัครบาคาร่า