สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารสุขภาพ

น้ำเต้าหู้ สูตรเข้มข้น ทำเอง กินได้หลายวัน

น้ำเต้าหู้

น้ำเต้าหู้ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เสริ์ฟความอร่อย จัดต็มเรื่อง วิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรเข้มข้น ทำแบบไหน อย่าพลาด

น้ำเต้าหู้ ส่วนผสมในการทำ

น้ำเต้าหู้

น้ำ เต้าหู้ ที่จำหน่ายอยู่ตามท้องตลาด เป็นเครื่องดื่มที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง นอกจากหาซื้อง่าย ยังมีหลายสูตรเด็ดให้เลือก เช่น น้ำเต้าหู้งาดำ น้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง น้ำเต้าหู้ชาเขียว และ น้ำเต้าหู้ร้อน รวมถึง น้ำเต้าหู้เย็น ซึ่งในแต่ละสูตร เช่น ถ้าเป็นน้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง จะประกอบไปด้วย แมงลัก ถั่วจ๋า ถั่วแดง สาคู รวมถึงวุ้นใส หั่นเป็นท่อน ก็จะทำให้สูตรน้ำเต้าหู้ทรงเครื่องเมนูนี้อิ่มและอร่อย ในราคาที่ไม่แพง เหมาะนำมากินในช่วงเย็นสำหรับผู้ที่ต้องการไดเอท ในส่วนของความหวาน มีทั้งหวานน้อย พอดี ๆ ไปจนถึงหวานมาก อยู่ที่ว่า ลูกค้าชอบแบบไหน แต่ถ้ากินเพื่อสุขภาพควรลดความหวานลงมา

น้ำ เต้าหู้ มีวัตถุดิบอะไรบ้าง

  1. ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
  2. น้ำสะอาด 2 ลิตร
  3. น้ำตาล 35 กรัม หรือจะไม่ใส่ก็ได้
น้ำเต้าหู้

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 ควรซื้อถั่วเหลืองซีกแบบไม่มีเปลือก ทั้งนี้เพราะ ถั่วเหลืองที่มาพร้อมเปลือก เวลานำมาทำน้ำเต้าหู้ จะมีกลิ่น แล้วเวลากิน จะไม่อร่อย และเมื่อได้ถั่วเหลืองซีกมาแล้ว นำมาล้างน้ำเปล่าหลาย ๆ รอบ จนกว่า น้ำที่ล้างถั่วเหลืองซีกดูใส

ขั้นตอนที่ 2 เทถั่วเหลืองซีกลงในอ่าง จากนั้น เทน้ำสะอาดให้ท่วมเมล็ดถั่วเหลือง การแช่ ใช้เวลาแช่ประมาณ 5 ชั่วโมง หรือ จะแช่ข้ามคืน ก็ยังได้ ในกรณี แช่ถั่วเหลืองที่จะนำมาทำ สูตรน้ำเต้าหู้โบราณ ในช่วงหน้าร้อน ให้ระวังถั่วเหลืองซีกบูด เราใช้วิธี แช่ถั่วเหลืองเอาไว้ในตู้เย็น ก็จะช่วยแก้สถานการณ์ดังกล่าวได้

ขั้นตอนที่ 3 เมื่อได้ระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ เทน้ำทิ้ง แล้วนำถั่วเหลืองไปพักเพื่อสะเด็ดน้ำ จากนั้น แบ่งถั่วเหลืองออกเป็นกอง ๆ ตักถั่วเหลืองลงในโถปั่น ตามด้วยน้ำ 3 ลิตร จากนั้น นำมาปั่นให้ถั่วเหลืองละเอียด ค่อย ๆ ตักถั่วเหลืองใส่โถปั่นจนครบ เพื่อเตรียมทำ สูตรน้ำเต้าหู้เงินล้าน ในขั้นตอนต่อไป

น้ำเต้าหู้

ขั้นตอนที่ 4 ต้มทั้งกากและน้ำที่ปั่นประมาณ 10 นาที ขั้นตอนนี้ ต้องใช้ไฟอ่อนเท่านั้น ระหว่างต้ม ต้องคอยคนไปเรื่อย ๆ มิฉะนั้น กากและน้ำที่ปั่นจะไหม้ติดหม้อ

ขั้นตอนที่ 5 นำน้ำถั่วเหลืองที่ต้มมากรองกับผ้าขาวบางหรือตะแกรงที่มีรูถี่มาก ๆ อย่าบีบหรือคั้นถั่วมากจนเกินไป เพราะเศษผงจากถั่วจะเล็ดรอดออกมาจากผ้า เวลาดื่ม จะสากคอ

ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อกรองเสร็จแล้ว พร้อมดื่มรับประทานได้เลย 

น้ำเต้าหู้

น้ำเต้าหู้สูตรนี้เป็นสูตรเข้มข้นที่กินแล้วจะติดใจ สามารถนำมาเก็บไว้ภายในตู้เย็นได้ถึง 5 วัน และถ้าใครที่อยากลดความเข้มข้นของสูตรนี้ สามารถเพิ่มน้ำสะอาดได้อีก 1 ลิตร

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

พิซซ่าเวียดนาม ลองทำกิน เหมือนบินไปกินถึงเวียดนาม

พิซซ่าเวียดนาม

พิซซ่าเวียดนาม ของกินเล่นทำง่ายๆ ใครอยากลองทำวันนี้เรามีสูตรการทำพิซซ่าสไตล์เวียดนามตามต้นฉบับเวียดนามแท้ๆ จะมีวิธีทำอย่างไร มาดูกันเลย

ส่วนผสมในการทำ พิซซ่าเวียดนาม หาไม่ยากเลย

พิซซ่าเวียดนามใส่อะไรบ้าง จะเป็นเรื่องที่เราจะได้เรียนรู้ว่า ถ้าต้องการจะทำพิซซ่าสูตรเวียดนาม มีเรื่องใดต้องเตรียมการบ้าง ทว่าก่อนอื่น มาทำความรู้จักเกี่ยวกับอาหารเวียดนามกันก่อนว่า มีความน่าสนใจอย่างไร 

พิซซ่าเวียดนาม

วัฒนธรรมการกินของประเทศเวียดนามก็ไมไ่ด้แตกต่างไปจากประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชีย ความที่ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพเกษตรกรรมรวมถึงประมง อาหารที่ทำออกมานั้น จะเน้นไปที่อาหารที่ปรุงจากพืชผักรวมถึงเนื้อสัตว์ที่หามาได้ ซึ่งก็จะมีความสดและอร่อย เต็มไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร

พิซซ่าเวียดนาม

ว่ากันว่า อาหารเวียดนาม มักประกอบไปด้วยผักพื้นบ้านที่นำมาใช้เป็นเครื่องเคียงในกรรับประทาน เช่นก๋อยก้วน บั๊ญแส่ว บุ๋นบ่อและบุ๋นแจ่ว เป็นต้น ซึ่งอาหารดังกล่าวต้องกินคู่กับผัก เป็นต้น

พิซซ่า เวียดนาม ซึ่งมีลำดับขั้นตอนการทำไม่ยากเลย

พิซซ่าเวียดนาม

วัตถุดิบพิซซ่าเวียดนาม

พิซซ่า เวียดนาม จะอร่อยเหมือนพิซซ่าเวียดนามชีส หรือไม่ ? วัตถุดิบถือว่ามีความสำคัญโดยเริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบดังนี้

พิซซ่าเวียดนาม

1.แป้งปอเปี๊ยะ 1 ห่อ

2.ปูอัด 20 แท่ง

3.ไส้กรอก 20 แท่ง

4.ไข่ไก่ 10 ฟอง

5.ชีสดิป

6.ซอสพริก

7.มายองเนส

ขั้นตอนการทำ

พิซซ่าเวียดนาม

ขั้นตอนที่ 1 ให้เริ่มจากนำใบเมี่ยงญวณหรือแป้งปอเปี๊ยะมาวางไว้บนเตาอั้งโล่ เทไข่ไก่ลงไปในแป้งปอเปี๊ยะที่เตรียมไว้ แล้วนำไปย่างไฟให้ร้อน รอจนไข่เริ่มแห้ง โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามใช้ไฟแรงเพราะจะทำให้ใบเมี่ยงญวณหรือแป้งปอเปี๊ยะไหม้ได้

ขั้นตอนที่ 2 การทำในขั้นตอนนี้ หลังจากไข่ไก่เริ่มสุก ใส่ปูอัดและไส้กรอก ปริมาณแล้วแต่เรา เอาที่ชอบได้เลย บางคนใส่เยอะ ซึ่งก็เป็นเรื่องดี 

พิซซ่าเวียดนาม

ขั้นตอนที่ 3 รอกระทั่งไส้กรอก ปูอัด เริ่มสุกแล้ว ถึงนำมายองเนสมาราดบนวัตถุดิบที่เตรียมไว้ รอกระทั่งมายองเนสเริ่มพักตัว

ขั้นตอนที่ 4 ใส่ชีสดิปและซอสพริกลงบนแผ่นแป้งซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำพิซซ่าสูตรเวียดนาม รอจนกว่าจะได้กลิ่นหอมจากส่วนผสมดังกล่าวข้างต้น ก็สามารถนำมาเสริ์ฟและรับประทานได้เลย

พิซซ่าเวียดนาม

สำหรับ แป้งพิซซ่าเวียดนามซื้อที่ไหน เพื่อน ๆ คนไหนสนใจ หาซื้อจากห้างสรรพสินค้าได้เลย มักมีจำหน่ายอุปกรณ์และวัสดุที่จะนำมาทำพิซซ่าได้

พิซซ่าเวียดนาม

พิซซ่าเวียดนามสูตรที่ให้ไป ถ้าทำบ่อย ๆ เชื่อเถอะว่า อร่อยจนสามารถนำไปจำหน่ายได้เลย และแน่นอน บ้านไหนมีสมาชิกเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ รับรองเลยว่า เด็ก ๆ จะสนุกกับการกินอาหารเมนูนี้จนอยากร้องขอให้ทำเพิ่มอีกครั้ง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

เอ็นข้อไก่ทอด กรอบอร่อย กินกับซอสพริก อร่อยแล้ว 

เอ็นข้อไก่ทอด

เอ็นข้อไก่ทอด ทำแบบไหนถึงจะกรอบและอร่อย เอ็นข้อไก่ไม่ใส่แป้ง มีจริงหรือ ? มาร่วมหาคำตอบไปด้วยกันในบทความนี้เลย

ส่วนผสมในการทำ เอ็นข้อไก่ทอด

เอ็นข้อไก่ทอด

เอ็นข้อไก่ทอดซื้อจากที่ไหนได้บ้าง ? โดยปกติแล้ว สามารถซื้อเอ็นข้อไก่แช่แข็งจากร้าน CP Fresh Mart โดยมีน้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 1 กิโลกรัม ก็สามารถนำมาทำเอ็นข้อไก่สูตรเด็ดได้แล้ว ถามว่า เอ็นข้อไก่ มีประโยชน์หรือเปล่า ? พบว่า เอ็นข้อไก่ มีคอลลาเจนสูง ดังนั้น จะไปช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ทำให้ดูไม่แก่เร็วจนเกินไปนัก อีกทั้ง ยังมีแคลเซียมสูง บำรุงกระดูก ทำให้เมนูนี้ น่ารับประทานมากยิ่งขึ้นไปอีก

มาถึงแนวทางในการทำเมนูเอ็นข้อไก่ สูตรนี้ใช้แป้งทอดกรอบ เพื่อไปเพิ่มความกรุบกรอบให้เกิดขึ้นระหว่างกำลังเคี้ยว อีกทั้ง ถ้าต้องการเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร เพิ่มงาขาวลงไปด้วย ก็จะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซี่ยมเพิ่มขึ้นไปอีก 

เอ็นข้อไก่ทอด

วัตถุดิบ เอ็นข้อไก่ทอด

  • 1.เอ็นข้อไก่ 300 กรัม
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  • กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 30 กรัม
  • น้ำมันพืช สำหรับทอด 

วิธีทำ

เอ็นข้อไก่ทอด

ขั้นตอนที่ 1 นำเอ็นข้อไก่ไปล้างและทำความสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้น นำเอ็นข้อไก่ไปผสมกับซีอิ้วขาวและพริกไทยป่น นำส่วนผสมทั้ง 2 ชนิด มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้น พักไว้ 30 นาที เพื่อที่ว่าน้ำหมักจะค่อย ๆ ซึมซับเข้าไปในเอ็นข้อไก่ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการทำเอ็นข้อไก่ทอด

ขั้นตอนที่ 2 นำแป้งทอดกรอบที่เตรียมไว้ ตามด้วยกระเทียมสับ งาขาวที่นำไปคั่วเอง ผสมลงใน เอ็นข้อไก่ราคา ซึ่งถ้าทำเอง ราคาก็จะถูก

เอ็นข้อไก่ทอด

ขั้นตอนที่ 3 กะทะตั้งไฟ ในการนำเอ็นไก่ ไปทอด ควรใช้ไฟปานกลางเท่านั้น นำเอ็นข้อไก่ที่เตรียมไว้ในชามผสม ทอดในกะทะ รอจนกระทั่งเอ็นข้อไก่ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ก็ถือว่าเอ็นข้อไก่ สุกแล้ว นำมารับประทานได้

ขั้นตอนที่ 4 ตักเอ็นข้อไก่ ขึ้นมาจากกะทะ นำมาพัก กระทั่งสะเด็ดน้ำมัน ก็สามารถนำเอ็นข้อไก่มากินเล่น โดยน้ำจิ้ม หาซื้อได้ทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำจิ้มไก่ ยี่ห้อไหนก็ได้ เช่น น้ำจิ้มไก่ตราแม่ประนอม หรือ จะเป็นซอสพริก ก็อร่อยไม่แพ้กัน

เอ็นข้อไก่ทอด เป็นเมนูของกินแล่น ควรกินตอนร้อน ๆ ที่เพิ่งตักขึ้นมาจากกะทะ หลายคนนำมากินกับเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ เพราะ เอ็นข้อไก่สามารถนำมากินเป็นกับแกล้มได้ หรือ ถ้าไม่ต้องการกินกับแกล้ม นำเอ็นข้อไก่มากินคู่กับข้าวเหนียว ส้มตำ ก็อร่อย และเป็นการกินที่ค่อนข้างลงตัวและออกรส ทำให้การกินในมื้อดังกล่าว ไม่น่าเบื่อจนเกินไปนัก เพราะฉะนั้น ใครมีเวลา ลองเข้าครัว ฝึกทำเมนูดังกล่าวดู

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมหวานไทย

สังขยาชาไทย หวานอร่อย เนื้อเนียนนุ่ม ใครกิน ติดใจกันทุกคน

สังขยาชาไทย

สังขยาชาไทย เมนูของหวานแสนอร่อย ละมุนลิ้น หอมกลิ่นชาไทย ใครอยากลองทำ สังขยาชาไทยง่าย ๆ วันนี้เรามีวิธีทำมาให้คุณ ทำตามทำไม่ยาก

สังขยาชาไทย ส่วนผสมในการทำ

สังขยาชาไทยเปลี่ยนจากสังขยาใบเตยมาเป็นสังขยาแบบชาไทย เกิดจาก ความต้องการที่จะเปลี่ยนรสชาติสังขยาใบเตยมาเป็นสังขยาแบบชาไทย เพราะการเตรียมใบเตยรวมถึงการคั้นใบเตย พบว่ามีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่าการนำชาไทยมาทำสังขยา อีกทั้งกลิ่นหอมจากชาไทย ช่วยเปลี่ยนรสชาติสังขยาในแบบเดิม ๆ ให้น่าลิ้มลองมากขึ้น

สังขยาชาไทย

ชาไทยที่จะนำมาทำสังขยา ถ้าเป็นสูตรของทางภาคใต้ นิยมนำชาซีลอนมาทำสังขยา ทั้งนี้เพราะ กลิ่นชาซีลอนค่อนข้างหอม อีกทั้ง สียังสวยอีกด้วย ก็ยิ่งทำให้สังขยาน่ารับประทานมากขึ้น 

วัตถุดิบ

  • น้ำชาไทย50ml.
  • กะทิ (ใช้ขวดเล็ก1ชวดพอดี)250ml.
  • น้ำตาลทราย1/3 ถ้วยตวง
  • แป้งข้าวโพด1/3 ถ้วยตวง
  • นมข้นหวาน1/3 ถ้วยตวง
  • ไข่ไก่เบอร์1 (เอาแต่ไข่แดง)4 ฟอง
  • เกลือป่น 

วิธีทำ

สังขยาชาไทย

ขั้นนอนที่ 1 ง่าย ๆ เลย ให้นำชาไทยมาต้ม เพื่อเอากลิ่นหอม ๆ ออกมาจากชาไทยก่อน จากนั้น ทิ้งไว้ให้เย็น เพื่อเตรียมทำสังขยาชาไทย ในขั้นตอนต่อไป

ชั้นตอนที่ 2 น้ำตาลทราย นมข้นหวาน กะทิ ไข่แดง และเกลือป่น นำมาเทรวมกัน คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน กระทั่งน้ำตาลทรายละลายจนหมด พักไว้ จะเห็นได้ว่า สังขยาชาไทย ราคา ไม่ได้สูงนัก อีกทั้งยังอร่อยอีกด้วย

สังขยาชาไทย

ขั้นตอนที่ 3 นำแป้งข้าวโพด ค่อย ๆ เทใส่ลงไป ให้ตีจนแป้งละลาย อย่าให้จับตัวเป็นก้อนเป็นอันขาด นำชาไทยที่เราเตรียมไว้ เทลงไป ตีจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ถ้าจะให้เนื้อเนียนละเอียด ควรนำไปกรอง 2 รอบ แล้วถึงนำขึ้นตั้งเตา

ขั้นตอนที่ 4 เอาผ้าขาวมารองก้นชามไว้ก่อน จากนั้นนำมาวางในหม้อ เราเรียกขั้นตอนนี้ว่า การตุ๋น เคล็ดลับในการทำให้อร่อย เหมือน สังขยาชาไทยครัวคุณต๋อย ต้องหมั่นคนส่วนผสมดังกล่าวตลอดเวลา ทั้งนี้เพราะ การคนส่วนผสมช่วยทำให้ไม่จับตัวเป็นก้อน และอีกหนึ่งเทคนิค ตอนที่เริ่มตุ๋นสังขยา ให้ดำเนินการหรี่ไฟ 

ขั้นตอนที่ 5 คนต่อไปเรื่อย ๆ กระทั่งแป้งข้าวโพดสุก แล้วยกลงจากเตาได้เลย ขั้นตอนนี้ ยังคงต้องคนต่อเพื่อให้สังขยาคลายความร้อน

สังขยาชาไทย

ขั้นตอนสุดท้าย เทสังขยาใส่ชาม กินคู่กับขนมปังนึ่งหรือขนมปังกรอบ

สังขยา ชาไทย ของกินเล่นแบบไทย ๆ อร่อยหอมชาไทย ไม่ต้องง้อขนมเบเกอรีทำให้ของกินเล่นเมนูนี้ ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเตรียมทำกินเองเพียงแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น ก็อร่อยแล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ผัดไทย ทีเด็ดอยู่ตรงซอสผัด อร่อยเด็ด มัดใจลูกค้า

ผัดไทย

ผัดไทย อาหารไทยที่ดังไกลถึงเมืองนอก มีดีที่ซอสผัด ผัดไทยใส่อะไรบ้าง เตรียมไม่ยากเลย อยากรู้ ทำยังไง ต้องลอง แล้วจะรู้ ทำไม่ยาก

ผัดไทย ส่วนผสมในการทำ

ผัดไทย

ผัดไทยเมนูเส้นแสนอร่อย นำมาผัดในกะทะร้อน ๆ เป็นเมนูเส้นที่คิดโดยคนไทยตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม หากินได้ทั่วประเทศ แต่ถ้าจะเอารสชาติแบบต้นตำรับ ต้องเป็นที่ภาคกลางเท่านั้น ในส่วนของที่มา ช่วงเวลานั้น สภาพเศรษฐกิจค่อนข้างตกต่ำ ทำให้มีความจำเป็นต้องงดบริโภคข้าว หันมาบริโภคผัดไทยที่เป็นเมนูเส้นกันมากขึ้น อีกทั้งการรับประทานอาหารเมนูนี้ เชื่อว่า เป็นการรวมพลังสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาข้าวยากหมากแพงก็ยิ่งทำให้ การบริโภคอาหารเมนูนี้ ค่อนข้างเป็นที่นิยมอยู่พอสมควร ด้วยรสชาติที่อร่อยและลงตัว ครบด้วยสารอาหารหลักทั้ง 5 หมู่ ก็ยิ่งทำให้ ความนิยมในเมนูนี้ เป็นที่พูดถึงกันมากขึ้น

วัตถุดิบผัดไทย

ผัดไทย
  • มันกุ้ง 1 ช้อนโต๊ะ 
  • กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ 
  • ไชโป๊ 1 ช้อนโต๊ะ 
  • เต้าหู้แข็งหั่นแท่ง 3 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งสด 8 ตัว 
  • เส้นผัดไทยแช่น้ำ 150 กรัม
  • น้ำผัดไทย 2 ทัพพี
  • ถั่วงอก 100 กรัม
  • ใบกุ้ยช่าย 30 กรัม 
  • ไข่เป็ด 2 ฟอง 
  • ถั่วงอก (สำหรับทานเคียง)
  • กุ้ยช่าย (สำหรับทานเคียง) 
  • ถั่วลิสงป่น (สำหรับทานเคียง) 
  • น้ำตาลทราย (สำหรับทานเคียง)
  • พริกป่น (สำหรับทานเคียง)
  • มะนาว (สำหรับทานเคียง)
  • วัตถุดิบน้ำผัดไทย
  • น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
  • น้ำปลา 200 มิลลิลิตร
  • น้ำมะขามเปียก 200 มิลลิลิตร 

วิธีทำ

ผัดไทย

ขั้นตอนที่ 1 ให้เริ่มจากการทำ ซอสผัดไทย นำน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา และน้ำมะขามเปียกเคี่ยวจนส่วนผสมทั้งหมดละลาย ให้พักไว้

ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการผัดเครื่อง ใส่น้ำมันลงในกะทะ ตามด้วย มันกุ้ง หอมแดง ไชโปว้ และเต้าหู้ ผัดส่วนผสมดังกล่าวทั้งหมดให้มีกลิ่นหอม แล้วค่อยใส่กุ้งสดลงไป ผัดจนกุ้งสดสุก ตามด้วยเส้นผัดไทย และคำถามที่ว่า ผัดไทยใช้เส้นอะไร แล้วแต่สะดวก แต่คนนิยมใช้เส้นจันเพราะอร่อย กำลังดี

ขั้นตอนที่ 3 ผัดเส้นกับน้ำซอสจนกระทั่งรู้สึกว่าเข้ากันดีแล้ว นำถั่วงอก กุ้ยช่าย ใส่ลงในกะทะ ผัดให้เข้ากัน ตอกไข่เป็ด สูตรนี้เป็น ผัดไทยสูตรโบราณ เลยใช้ไข่เป็ด กระทั่งไข่เป็ดเริ่มสุก ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง

ผัดไทย

ขั้นตอนทื่ 4 ตักใส่จาน เสริ์ฟและกินคู่กับต้นกุ้ยช่ายสด หัวปลี แต่สำหรับบ้านไหนที่ไม่สะดวกหาเส้นสำหรับทำผัดไทยโดยเฉพาะ สามารถนำเส้นเล็กมาแทนเส้นผัดไทยได้เช่นเดียวกัน ในส่วนของรสชาติจากสูตรที่ให้ไป จะมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน รสชาติค่อนข้างกลมกล่อมอยู่แล้ว ทำให้เมนูผัดไทย เป็นเมนูที่แม้แต่ชาวต่างชาติ นิยมสั่งมากินเวลาแวะเที่ยวเมืองไทย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

แซนวิชโบราณ ของกินเล่น สูตรเด็ดย้อนวันวาน อร่อย เข้มข้น

แซนวิชโบราณ

แซนวิชโบราณ เมนูนี้ทำง่าย ไส้แน่น ทำกินเองอร่อย หรือจะทำขาย แซนวิชโบราณสูตรที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน

ส่วนผสมในการทำแซนวิชโบราณ

แซนวิชโบราณ

แซนวิชโบราณของกินเล่นในช่วงสายหรือช่วงเวลาใดก็ได้ บางคน นำมากินเป็นอาหารช่วงเช้าก่อนไปทำงานด้วยซ้ำ เพราะกินแล้วก็อิ่มเชนเดียวกัน สำหรับส่วนผสมในการทำแซนวิช ส่วนผสม สามารถหาซื้อ ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง รวมถึงไส้ต่าง ๆ ที่จะนำมาทำแซนวิช เช่น โบโลน่า และตัวหลักในการทำแซนวิชแบบโบราณคือหมูหยอง เมื่อส่วนผสมครบ ก็เริ่มต้นทำแซนวิชสูตรโบราณไส้แน่น ๆ กันได้เลย

วัตถุดิบ แซนวิชโบราณ

  • ขนมปังแซนด์วิช 4 แผ่น
  • หมูหย็อง
  • โบโลน่า หรือแฮม 2 แผ่น
  • น้ำสลัดแซนด์วิช
แซนวิชโบราณ

ส่วนผสม น้ำสลัดแซนด์วิช (สูตรไข่แดงล้วน)

  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • ไข่แดงไข่ไก่ เบอร์ใหญ่ 2 ฟอง
  • นมข้นหวาน 100 กรัม
  • มายองเนส 120 กรัม
  • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • พริกไทยขาว 1 ช้อนชา
  • น้ำมันรำข้าว 180 มิลลิลิตร
  • สีผสมอาหารสีเหลือง ปริมาณตามชอบ

วิธีทำ แซนวิชโบราณ

แซนวิชโบราณ

ขั้นตอนที่ 1 แยกไข่แดงออกมาจากไข่ขาว จากนั้น นำไข่แดงมาตีกับน้ำตาลลงในถ้วย ตีจนส่วนผสม แซนวิชโบราณ เข้ากันดี

ขั้นตอนที่ 2 นำส่วนผสมดังกล่าวไปตุ๋น โดยการวางชามผสมในขั้นตอนที่ 1 ในการทำ 

แซนวิชโบราณขายส่ง มาวางลงในหม้อตุ๋นในขณะที่น้ำกำลังเดือดจัด ๆ จากนั้น ปรับมาเป็นไฟอ่อน ๆ ตุ๋นประมาณ 7 นาที หรือทดสอบโดยการใช้นิ้วจุ่มลงไป ถ้ารู้สึกว่าอุ่น ๆ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

ขั้นตอนที่ 3 ให้ยกชามในส่วนผสมขั้นตอนที่ 1 ลงจากเตา ผสมสีผสมอาหาร พริกไทยป่น รวมถึง น้ำมันลงไป เพื่อเตรียมทำ แซนวิชโบราณไส้ทะลัก

แซนวิชโบราณ

ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนนี้ ให้คนส่วนผสมทุกอย่างกระทั่งรู้สึกเข้ากันดี หรือ ถ้ารู้สึกว่า สีผสมอาหารดูซีดไป ให้เติมลงในชามได้อีก

ขั้นตอนที่ 5 รอจนส่วนปสมในข้อ 4 เย็นตัวลง จากนั้น นำน้ำสลัดที่เตรียมไว้มาปาดลงบนแผ่นขนมปัง ใช้จำนวนขนมปังทั้งหมดประมาณ 4 แผ่น โดยที่ทุกชั้นต้องทาครีม ให้เริ่มจาก ชั้นแรก วางโบโลน่า ชั้นที่ 2 หมูหยอง และชั้น 3 โปะด้วยโบโลน่าแล้วนำแซนวิชแผ่นที่ 4 ปิดทับ ถือว่าเสร็จแล้ว รับประทานได้เลย

แซนวิชโบราณ

แซนวิช โบราณ ของกินเล่นไทย ๆ ไม่ต้องง้อใคร ส่วนผสมไส้ ทำง่ายนิดเดียว แต่อร่อย นำมาทาขนมปังแล้วเลือกไส้ที่จะนำมาทำแซนวิช จะเปลี่ยนจากโบโลน่ามาเป็นแฮมก็อร่อย และลงตัวเช่นเดียวกัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

สลัด โรล อร่อยและได้สุขภาพ วิธีทำไม่ยากเลย

สลัด โรล

สำหรับเมนูเพื่อสุขภาพวันนี้ เราขอเสนอเมนูทำเองได้ง่ายๆนั่นก็คือ สลัด โรล จัดไปเน้น ๆ สลัดโรลปูอัด พร้อมสูตรการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด อร่อยไม่ง้อร้าน

สลัด โรล ส่วนผสมในการทำ

สลัด โรล

สลัดโรลเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานสลัดให้รับประทานง่ายขึ้น โดยที่ยังคงคุณค่าทางสารอาหารเอาไว้อย่างครบครัน ไม่ว่า จะเป็น ผัก เนื้อปูอัด แผ่นแป้งปอเปี้ยะ น้ำสลัด และอื่น ๆ ทำให้การกินสลัดนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่ ใช้ส้อมจิ้มและตักเข้าปากเท่านั้น ก็อร่อยแล้ว ในส่วนของการเลือกน้ำจิ้ม จะเป็นแบบไหนก็ได้ ใครที่ชอบรสชาติจัดจ้าน เป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือวาซาบิก็ได้ หรือ ใครที่ไม่ชอบน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มโยเกิร์ตเบาๆ ก็ถือว่าอร่อยแล้ว

สลัดโรล วัตถุดิบ

สลัด โรล
  • แผ่นแป้ง(หาซื้อที่แม็คโคร,ฟู้ดแลนต์ และห้างสรรพสินค้าทุกที่)
  • ผักสลัดสีเขียว green oak,สีแดง red coral (หาซื้อที่แม็คโคร,ฟู้ดแลนต์ และอื่น ๆ )
  • แครอทหั่นตามยาวแตงกวาหั่นตามยาว(เอาไส้ออก)
  • ปูอัดยี่ห้อเบนโตะ
  • น้ำจิ้มตามชอบ(น้ำจิ้มซีฟู้ด,น้ำสลัดวาซาบิ,น้ำสลัดต้มยำ และอื่น ๆ )

วิธีทำ

สลัด โรล

ขั้นตอนที่ 1 นำแผ่นแป้งที่เตรียมไว้ หลายคนเรียกแผ่นแป้งนี้ว่า แป้งปอเปี้ยะ นำมาจุ่มน้ำสะอาด ในส่วนของผักสลัด นำมาฉีกเป็นชิ้นเล็ก ทั้งนี้เพราะผักสลัดถือว่า ค่อนข้างมีความสำคัญอยู่พอสมควร ในการนำมาใช้ทำสลัดโรล

ขั้นตอนที่ 2 วางแป้งที่จุ่มน้ำแล้ว ตามด้วยการนำผักสลัดที่ฉีกแล้วมาเรียงทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ตามด้วยแครอทและแตงกวาที่นำไส้ออกไปแล้วและตบท้ายด้วยปูอัด

สลัด โรล

ขั้นตอนที่ 3 วิธีม้วนให้สลัดโรลออกมาสวย คือการนำแป้งมาคลุมไส้ กดเบาๆ ม้วนแป้งไปจนสุดทั้งนี้เพื่อให้ไส้สลัดดูแน่น พยายามให้เห็นช่อผัก จัดให้สวยเข้าไว้ จากนั้นนำมีดมาหั่นครึ่งหนึ่ง ทำแบบเดียวกันหลาย ๆ ชิ้น

ขั้นตอนที่ 4 นำมาจัดวางลงในจานจากนั้น เทน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ซื้อสำเร็จรูปหรือจะทำน้ำจิ้มซีฟู้ดเองก็ได้ โดยการ โขลกพริกขี้หนูสวนประมาณ 30 กรัม กระเทียม 30 กรัม รากผักชี 2 ราก นำมาโขลกหรือปั่นให้พอหยาบ ๆ เติมรสด้วยน้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะและน้ำเปล่าประมาณ ¼ ถ้วยตวง คนให้น้ำตาลละลาย ก็สามารถนำมาจิ้มกินกับสลัดโรลที่เราเตรียมไว้ได้แล้ว

สลัด โรล

สลัดโรลเมนูเพื่อสุขภาพง่าย ๆ มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะ ใครที่กำลังจะลดน้ำหนัก สามารถเลือกเมนูนี้มารับประทานได้เลย เพราะกินยังไงก็ไม่อ้วน อีกทั้ง ในผักสลัดและแครอท ยังทำให้ผิวสวย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในผักอยู่แล้ว อยากสวย และก็อร่อยด้วย ลองเข้าครัวทำดูนะคะ ไม่ผิดหวัง

อ่านบทความอื่นๆ: