สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมหวานไทย

เปิดสูตร สาคูข้าวโพด แสนอร่อย เม็ดสาคูหนึบหนับ ข้าวโพดกรุบกรอบ

สาคูข้าวโพด

ขนม สาคูข้าวโพด ถือว่าเป็นขนมที่มีเนื้อสัมผัสที่เปลือกใหม่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งรสชาติหวาน หอม มัน เค็มอร่อยครบรส นอกจากกนี้ยังมีวิธีการทำที่ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แถมยังสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องไปซื้อทานไห้เปลืองเงิน และที่สำคัญสามารถทำขนมสาคูได้ในปริมาณที่ต้องการอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นขนมที่ทำง่าย และอิ่มอร่อยสุดๆ ดังนั้นสำหรับใครอยากทำขนมสาคูทานเองในครอบครัว เรามีสูตรสาคูข้าวโพดมะพร้าวอ่อน รสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นกะทิสดเข้มข้น และเนื้อมะพร้าวอ่อนกรุบกรอบจัดเต็มแบบไม่อั้นมาให้ได้ลองทำตามด้วยตัวเอง รับรองว่าทำได้แน่นอน

สอนทำขนม สาคูข้าวโพด มะพร้าวอ่อน รสชาติหวาน หอมกลิ่นกะทิ ชื่นใจ 

สาคูข้าวโพด

มาต่อกันที่เมนูขนมหวานที่หาทานได้ง่าย และสามารถทำทานได้ง่ายๆ เช่นกัน และนั่นก็คือ ขนมสาคูข้าวโพดกรุบกรอบ เนื้อสาคูเหนียวหนึบหนับ รสชาติหวาน หอมกลิ่นกะทิละมุนละไม่ชื่นใจ โดยในปัจจุบันขนมสาคูมีหลากหลายสูตร ไม่ว่าจะเป็นสาคูใบเตยข้าวโพด สาคูรวมมิตร เป็นต้น แต่วันนี้เรามีหนึ่งเมนูขนมไทยสาคูแสนอร่อยมาให้ได้ลองทำตามอย่าง ขนมสาคูมะพร้าวข้าวโพดกรุบกรอบอร่อย หวาน มัน ซึ่งสาคูเปียกข้าวโพด วิธีทำง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง แต่ก่อนลงมือทำขนมสาคูข้าวโพด วัตถุดิบที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อน

  1. สาคูต้น หรือสาคูแท้ 400 กรัม
  2. ใบเตย 3 ใบ
  3. เนื้อมะพร้าว 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำตาลทราย 400 กรัม
  5. กะทิสด 500 กรัม

สำหรับสูตรสาคูข้าวโพด มะพร้าวอ่อนนั้นจะใช้แป้งสาคูต้น หรือสาคูแท้ เพราะสาคูต้นเมื่อนำมาทำขนมจะมีรสชาติอร่อย หอมละมุน และเนื้อแป้งเหนียวหนึบหนับ แต่สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีสาคูแท้สามารถใช้แป้งสาคูเทียมก็ได้เช่นกัน ต่อมาจะเป็นวิธีทำสาคูข้าวโพด มะพร้าวอ่อนอย่างง่ายๆ ดังนี้

สาคูข้าวโพด
  1. ขั้นตอนแรกให้นำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำที่เตรียมไว้ลงไปเปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำเดือดใส่ข้าวโพดลงไปต้มจนสุก ตักออกมาพักไว้ก่อน 
  2. นำหม้อมาตั้งเตา และใส่น้ำลงไป เสร็จแล้วเปิดไฟแรง รอให้น้ำเดือดใส่ใบเตยลงไป รอให้ใบเตยมีกลิ่นหอม จากนั้นตักใบเตยออก ใส่แป้งสาคูลลงไป ทำการคนสาคูแบบไวๆ และคนไปเรื่อยๆ ตนกว่าสาคูจะข้นหนืด และเหนียว จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไป ทำการคนให้เข้ากัน เมื่อน้ำตาลละลายดีแล้ว ให้ใส่เนื้อข้าวโพดที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนขูด เป็นอันเสร็จเรียบร้อย จากนั้นปิดไฟได้เลย
  3. ขั้นตอนต่อมานำหม้อขนาดเล็กมาตั้งเตา ใส่น้ำกะทิลงไป ตามด้วยใบเตย รอให้น้ำกะทิเดือด ตักใบเตยออก ปิดไฟ และยกหม้อออกจากเตา ตักสาคูต้มใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิเข้มข้น พร้อมทานได้เลย
สาคูข้าวโพด

เป็นอย่างไรบ้างกับวิธีการทำสาคูข้าวโพดมะพร้าวอ่อนหนึ่งในสูตรขนมไทยอย่างง่ายๆ รสชาติหวาน หอมกลิ่นใบเตยละมุนละไม เม็ดสาคูเหนียวหนึบหนับอร่อยเหมือนซื้อทานที่ร้าน และที่สำคัญขนมไทยสาคูทำเองยังสามารถใส่มะพร้าวอ่อนได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว หรือจะทำฝากเพื่อนบ้าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ก็ได้เช่นกัน เพราะสูตรขนมสาคูที่เรานำมาแชร์นั้นเป็นสูตรโบราณอร่อยแน่นอน

สูตร (ไม่) ลับ การทำสาคูข้าวโพด อร่อย เหนียวหนับกำลังดี 

สาคูข้าวโพด

ขนมสาคูข้าวโพด เป็นเมนูขนมไทยโบราณที่ทำง่ายนิดเดียว แต่จะทำให้อร่อยเหมือนขายในร้านขายขนมจะต้องต้มสาคูไม่ให้สุกมากเกินไป โดยจะต้องต้มให้เหลือไตขาวๆ ที่เม็ดสาคู ไม่เช่นนั้นขนมจะเละเหมือนทานแป้งเปียก และในส่วนข้าวโพดอย่าต้มนาน ควรต้มให้เนื้อข้าวโพดพอสุกเนื้อสัมผัสกรุบกรอบอร่อย นอกจากนี้หากใครชอบทานเผือกสามารถนำมาทำขนมสาคูเผือกหนึ่งในขนมไทยโบราณเนื้อหอมหนึบหนับอร่อยจนต้องทานเพิ่มอีกถ้วยเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
ขนมเบเกอรี่

แจกสูตรขนมอร่อยทำง่าย ทาร์ตผลไม้ รสชาติหวานฉ่ำ สีสันสวยงาม

ทาร์ตผลไม้

อีกหนึ่งขนมทาร์ตที่อยากแนะนำอย่าง ทาร์ตผลไม้ ขนมที่มีไส้ผลไม้เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งผลไม้ที่ใช้จะมีรสเปรี้ยวอมหวาน เมื่อทานคู่กับทาร์ตกรุบกรอบจะทำให้รสชาติหวานฉ่ำกรุบกรอบอย่าลงตัว และสูตรทาร์ผลไม้ที่ทานแล้วฟินสุดๆ ต้องยกให้ทาร์ตผลไม้วิปครีมละลายในปากอร่อยจนต้องอยากลองทำทานเองเลยทีเดียว สำหรับคนที่ชอบทานขนมชนิดนี้ เรามีสูตรขนมทาร์ตผลไม้สดมาให้ได้ทำตามอย่างง่ายสไตล์โฮมเมคแสนอร่อยถูกอกถูกใจใครหลายคนแน่นอน

ขั้นตอนการทำ สูตร ทาร์ตผลไม้ หวานฉ่ำ หอมอร่อย ชื่นใจ ทานได้ทั้งวัน

ทาร์ตผลไม้

วันหยุดยาวอยู่บ้านหลายวันไม่รู้จะทำอะไรดี วันนี้เรามีทาร์ตผลไม้ที่มีความรสชาติ และสีสันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถทำทานได้เอง โดยคนที่เป็นมือใหม่สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก โดยสูตรขนมทาร์ตที่จะนำมาแชร์นั้นเป็นสูตรสไตล์โฮมเมคที่สามารถเลือกผลไม้ได้ตามใจชอบ แถมรสชาติยังอร่อยถูกปากตัวเองอีกด้วย แค่นั้นยังไม่พอยังสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัวอีกด้วย โดยก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนทำขนม เราจะต้องมาเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมกันก่อนดังนี้

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งทาร์ต

  1. น้ำตาลทราย 30 กรัม
  2. เนยจืด 120 กรัม
  3. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  4. ไขไก่ 1 ฟอง
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  6. แป้งอเนกประสงค์ 150 กรัม
ทาร์ตผลไม้

ส่วนผสม และวัตถุดิบต้องเตรียม

  1. ไข่แดง 3 ฟอง
  2. นมสด 500 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 140 กรัม
  4. แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  6. เนยจืด 30 กรัม

ส่วนผสม และวัตถุดิบทของไส้ทาร์ต

  1. สตรอ์เบอรฺรี่ ½ ถ้วยตวง
  2. กีวี ½ ถ้วยตวง
  3. บลูเบอร์รี่ ½ ถ้วยตวง
  4. ระฆัง ½ ถ้วยตวง
  5. บลูเบอร์รี่ ½ ถ้วยตวง

สำหรับส่วนผสมของทาร์ตผลไม้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนตามที่กล่าวมา ในส่วนผลไม้จะใช้ผลไม้ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่มีความหลากหลายจะทำให้ขนมมีความอร่อยฉ่ำน้ำมากขึ้น ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการทำทาร์ตผลไม้รวมอย่าง่ายๆ 

ทาร์ตผลไม้
  1. นำแป้งอเนกประสงค์ เกลือผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาร่อนเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำตาล เนยจืด ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลา จากนันนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ทำการห่อด้วยพลาสติกแรปนำไปเข้าตู้เย็นประมาณ 30 นาที
  2. เมื่อครบกำหนด นำแป้งออกจากตู้เย็นมาปั้นเป็นลูกปิงปองให้กลมๆ ทำให้แบนประมาณ 1 มิลลิเมตร ใส่ลงไปในถาดพิมพ์มาร์ต และใช้ส้อมจิ้มแป้งทาร์ต เมื่อนำไปอบแป้งจะพองขึ้น เสร็จแล้วนำไปอบที่อุณภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที เปิดไฟนบ-ล่าง
  3. ต่อมาทำคัสตาร์ต โดยการตีไข่แดง น้ำตาลทราย เข้าด้วยกัน ใส่แป้งข้าวโพด นมสด กลิ่นวลานิลลา ตีเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปตั้งบนหม้อที่มีน้ำเดือด คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนกว่าจะหนืด จากนั้นยกออกจากเตา
  4. บีบคัสตาร์ตลงไปในแป้งที่อบเสร็จแล้ว ตกแต่งด้วยผลไม้ที่เตรียมไว้ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 
ทาร์ตผลไม้

หลังจากที่ทำทาร์ตผลไม้เสร็จแล้วก่อนที่จะรับประทานสามารถนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที จะทำให้ขนมมีรสชาติหวานฉ่ำเย็นชื่นใจ หรือถ้าหากชอบทานวิปครีมสามารถทำสูตรทาร์ตผลไม้ครีมสดได้ง่ายๆ เพียงแค่บีบวิปปิ้งครีมลงไป เพียงแค่ก็นี้ก็ได้ทานขนมแสนอร่อยฟินสุดๆ

เคล็ดลับเพิ่มความอร่อย ขนม ทาร์ตผลไม้ สีสันสดใส ชวนทาน 

ทาร์ตผลไม้

สำหรับเคล็ดลับเพิ่มความอร่อยให้กับทาร์ตผลไม้ได้ด้วยการนำดาร์กช็อคโกแล็ตมาทำให้ละลาย เสร็จแล้วนำมาทาบนถ้วยทาร์ตจะช่วยให้แป้งมีความกรุบกรอบมากยิ่งขึ้น แถมยังได้ความหอมกลิ่นช็อคโกแล็ตอีกด้วย หากใครอยากลองสูตรทาร์ตผลไม้อร่อยๆ แบบนี้ก็สามารถทำตามที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองทำแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
อาหารไทย

ขอแนะนำสูตร น้ำพริกกะปิ ชาววัง แสนอร่อย ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก 

น้ำพริกกะปิ

มาถึงเมนูอาหารเย็นพื้นบ้านที่ทานง่ายๆ อิ่มอร่อย พร้อมทานได้ทั้งครอบ แถมยังมีประโยชน์สุขภาพมากมาย นั่นก็คือ น้ำพริกกะปิ กลิ่นหอมๆ และรสชาติเผ็ดอร่อยกำลังดี อีกทั้งที่ขาดไม่ได้ต้องทานคู่กันกับปลาทูทอดยิ่งทำให้รสชาติน้ำพริกกะปิ อร่อย ที่สุด และที่สำคัญน้ำพริกรสเผ็ดต้องทานกับผักนานาชนิด นอกจากยังมีอีกหนึ่งเมนูทานคู่กับน้ำพริกอย่างไข่เจียวชะอมทอดที่เข้ากันรสชาติของน้ำพริกกะปิดสุดๆ ที่สำหรับเมนูนี้มีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากสามารถทานได้เอง เพียงแค่มีกะปิก็สามารถได้เลย

เปิดครัวอาหารพื้นบ้าน น้ำพริกกะปิ สูตรโบราณ ทำง่ายๆ ขั้นตอนไม่ซับซ้อน 

น้ำพริกกะปิ

สายอาหารไทยพื้นบ้านต้องไม่พลาดกับเมนู น้ำพริก กะปิ หนึ่งในเมนูน้ำพริกพื้นบ้านที่มีรสชาติเค็มอมเปรี้ยว และมีกลิ่นหอมของกะปิเข้มข้นทานแล้วรู้สึกถึงความเป็นกะปิสุดๆ สำหรับสูตรน้ำพริกกะปิ ดั้งเดิมจะมีสวย และเข้มข้น เพราะมีการนำมาห่อด้วยใบตองย่าให้มีกลิ่นหอมนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะมาแชร์วิธีทำน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอดหอมๆ พร้อมผักต้มที่ขาดไม่ได้ แต่ก่อนที่จะไปทำน้ำพริกจะจัดเตรียมวัตถุดิบกันก่อน 

  1. พริกขี้หนู 5 เม็ด
  2. พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
  3. กระเทียม 3 กลีบ
  4. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  7. มะเชือพวง 5 ลูก
  8. มะนาวผ่าครึ่ง 1 ลูก
น้ำพริกกะปิ

วัตถุดิบ และส่วนผสมของไข่เจียวชะอมทอด

  1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  2. น้ำปลา ½ ช้อนชา
  3. ผักชะอม 50 กรัม

เมนูน้ำพริกกะปิสูตรโบราณจะต้องนำกะปิไปย่างให้มีกลิ่นหอมก่อน ดังนั้นจะต้องเตรียมใบตองสำหรับห่อกะปิไปย่างด้วย หรือถ้าไม่มีใบตองสามารถนำกะปิเข้าไมโครเวฟแทนได้เช่นกัน หลังจากที่เตรียมส่วนผสมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขั้นต่อมาจะเป็นวิธีการทำเมนูน้ำพริกกะปิ ผักทอด ปลาทูทอด และไข่เจียวชะอมทอด อย่างง่าย แต่อร่อยกัน

น้ำพริกกะปิ
  1. นำพริกขี้หนูสวน พริกชี้ฟ้า กระเทียม และน้ำตาลทราย มาล้างทำความสะอาด จากนั้นนำไปโขลกให้แหลก และตามด้วยกะปิ และปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว นอกจากนี้วัตถุดิบที่ขาดไม่ได้เลยคือ มะเขือพวง เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้ว ตักน้ำพริกจัดใส่ถ้วย
  2. ต่อมาจะเป็นจะวิธีการทำไข่เจียวชะอมทอด เริ่มจากผักชะอมมาเด็ดยอด ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นตอกไข่ไก่ใส่ชาม ใส่น้ำปลา ตีไข่ในเข้ากัน เสร็จแล้วเทผักชะอมลงไป ตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง 
  3. นำกระทะมาตั้งเตาเปิดไฟอ่อนๆ ใส่น้ำพืชลงไปเล็กน้อย หลังจากน้ำมันร้อนแล้ว ให้ใส่ไข่ชะอมลงไป เกลี่ยหน้าให้เรียบเสมอกัน ทำการลดไฟ ปิดฝาและรอจนไข่สุก และพริกกลับด้าน ปิดฝาไว้อีกครั้ง เมื่อไข่สุกแล้วให้เร่งไฟขึ้นมาเพื่อให้ไข่ด้านนอกกรอบ กลังจากนั้นนำไข่เขียวใส่จานพักไว้
  4. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง จากนั้นนำใส่น้ำมันให้พอดี หลังจากที่น้ำมันเดือดแล้วให้นำปลาทูไปทอดให้เหลืองกรอบดีแล้ว นำมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน 
  5. นำจานขนาดใหญ่พอดีมาเตรียมไว้ จากนั้นนำถ้วยกะปิใส่ไว้ตรงกลางถาด ตามด้วยปลาทูทอด ไข่เจียวชะอมทอด และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผักนานาชนิด อาทิ ถั่วฟู ถั่วผักยาว แตงกวา มะเขือเปราะ เป็นต้น
น้ำพริกกะปิ

สำหรับน้ำพริกกะปิที่ทำเองจะมีรสชาติที่ถูกใจ และได้น้ำพริกที่เข้มข้น หอม กลมกล่อม นอกจากนี้น้ำพริกกะปิ สูตรโบราณสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว และหากทานไม่หมดก็สามารถนำไปเก็บในตู้เย็นได้อีกวัน สำหรับใครที่กำลังอยากทานน้ำพริก ขอแนะนำน้ำพริกกะปิ ผักสด ปลาทู อร่อยเข้ากันสุดๆ

แจกสูตรน้ำพริกกะปิกุ้งสด รสชาติกลมกล่อม อร่อยถูกใจ 

น้ำพริกกะปิ

หลังจากที่ดูวิธีทำน้ำพริกกะปิ สูตรโบราณไปแล้ว ต่อมาเราจะมาแชร์สูตรน้ำพริกกะปิกุ้งสด โดยเรานำ พริก กับกระเทียม ตามด้วยกุ้งสุกโขลกให้แหลก จากนั้นใส่กะปิลงไป ทำการปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำมะนาว คนส่วนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย จัดใส่จาน พร้อมทานคู่กับปลาทู และผักต้มอร่อยจนต้องทำทานอีก เรีกยได้ว่า น้ำพริกกะปิกินกับอะไรก็อร่อย แถมทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
ขนมเบเกอรี่

ชวนทำขนมแสนอร่อย สูตร ชีสเค้ก เนื้อเด้ง หวานฉ่ำ หอมกลิ่นชีสเข้มข้น

ชีสเค้ก

ครีมชีสนอกจากจะนำเป็นทำเป็นเป็นอาหาร และเครื่องดื่มได้อร่อยแล้ว ยังสามารถนำมาทำเป็นขนมหวานได้ด้วย โดยเฉพาะขนม ชีสเค้ก เนื้อนุ่มละลายในปาก หอมกลิ่นชีสเข้มข้น ที่มาพร้อมกับความหวานละมุนละไม สำหรับคนรักชีสต้องบอกเลยว่าขนมเค้กชีสตอบโจทย์แน่นอน ว่าแต่ชีสเค้ก มีกี่แบบกันนะ เรามาดูชนิดของขนมชีสเค้กกัน ซึ่งขนมชนิดนี้แบ่งออกเป็น 5 แบบ คือ เบกชีสเค้ก นิวยอร์กชีสเค้ก ซูเฟลลีสเค้ก แรร์ชีสเค้ก และแรร์ชีสเค้กชนิดเนื้อมูส โดยชีสเค้กแต่ละชนิดจะมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังคงความโดดเด่นของกลิ่นชีสเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 

วิธีทำขนม ชีสเค้ก อย่างง่าย รสชาติหวานหอมกลิ่นชีส อร่อยฟินทุกคำ

ชีสเค้ก

ขนม ชีส เค้ก ถือว่าเป็นขนมที่มีรสชาติแสนอร่อย และมีความหอมกลิ่นชีสเข้มข้นจนต้องทานเพิ่มอีกชิ้น นอกจากนี้ยังเป็นขนมที่ทำง่ายมากๆ โดยที่ไม่ต้องไปเรียนทำขนมให้เสียเวลาอยู่บ้านก็ยังทำทานได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งรสชาติที่ทำออกมาอร่อยสุด และข้อดีของการทำขนมทานเองคือ สามารถทำได้ในปริมาณที่ต้องการ สำหรับขนมเค้กชีสมีหลากหลายสูตร แต่มีหนึ่งสูตรที่ได้รับความนิยมมากๆ อย่างสูตรชีสเค้กบลูเบอร์รี่ รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อสัมผัสอร่อยจนหยุดทานไม่ได้ แต่วันนี้เราจะมาแชร์ชีสเค้ดสูตรหน้าไหม้ โดยเริ่มแรกจะต้องเตรียมส่วนผสมกันก่อน

ชีสเค้ก
  1. ครีมชีส 400 กรัม
  2. แป้งเค้ก 50 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 130 กรัม
  4. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  5. วิปปิ้งครีม 230 กรัม
  6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

ขนมชีสเค้ก สูตรหน้าไหม้ เป็นขนมที่มีวัตถุดิบ และส่วนผสมน้อยมาก ดังนั้นคนที่เป็นมือใหม่ฝึกทำขนมไม่ต้องกังวลว่าจะทำขนมไม่ได้ และที่สำคัญวิธี ทำ ชีสเค้ก หน้า ไหม้ก็ง่ายนิดเดียว 

ชีสเค้ก
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนตีชีสกันก่อนเลย เริ่มจากนำครีมชีส เกลือ และน้ำตาลทรายมาตีด้วยเครื่องตีขนมผสมให้เข้าด้วยกันจนได้เนื้อเนียน จากนั้นใส่ไข่ไก่ และแป้งเค้กผสมเข้าด้วยกัน โดยใช้ความเร็วปานกลาง 
  2. เทส่วนผสมที่ตีเสร็จแล้วใส่ในเครื่องพิมพ์ที่มีกระดาษไขเตรียมไว้ แล้วทำการปาดให้เรียบ นำเข้าตู้อบที่อุฯหภูมิ 230 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25 นาที โดยใช้ไฟปานกลาง 
  3. เมื่ออบขนมเสร็จแล้วให้นำถาดขนมออกมาพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำมาตัดเป็นชิ้นๆ ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ 
ชีสเค้ก

ขนมชีสเค้กที่ทำเสร็จแล้วจะมีสีน้ำตาลด้านหน้า และข้างในจะเป็นสีเหลืองสวยงาม สำหรับขั้นตอนที่เรานำมาทำให้ดูนั้น เป็นสูตรชีสเค้กญี่ปุ่นหน้าไหม้ เนื้อนุ่ม รสชาติหวานฉ่ำ หอมกลิ่นชีสเป็นพิเศษ และหากทานคู่กับกาแฟสักแก้วตามด้วยผลไม้หลากหลายชนิดในสภาพอากาศร้อนๆ แบบนี้รับรองว่าฟินสุดๆ เรียกได้ว่าขนมชีส เค้กสไตล์ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งขนมที่สามารถทำทานได้เอง แถมรสชาติอร่อยมากๆ โดยเฉพาะเนื้อเค้กที่นุ่มอร่อยมากเลยทีเดียว 

บอกเทคนิคทำขนมอร่อย ชีสเค้กหวานฉ่ำ กลิ่นชีสเน้นๆ อิ่มอร่อย หอมชื่นใจ 

ชีสเค้ก

เทคนิคการทำชีสเค้ก สูตรหน้าไหม้ให้อร่อย สีสวย จะต้องอย่าใช้แป้งที่มากเกินไป เพราะจะทำให้ชีสเค้กแข็งตัวเกินไป และการทำเค้กหน้าไหม้จะต้องอบที่อุณภูมิสูงประมาณ 230 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที จะทำให้หน้าขนมไหม้ และเป็นคาราเมล แต่ด้านในเป็นครีม แถมหอมกลิ่นชีสอีกด้วย อีกทั้งก่อนที่จะนำมารับประทานขะต้องปล่อยให้เค้กเย็นสนิทก่อน เพราะรสชาติจะหอมอร่อยมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ขนมหน้าไหม้ ชีสเค้กคือ ขนมที่สามารถทานคู่กับบลูเบอรี่ ชีสเค้ก ได้ด้วย เพราะสูตร ชีสเค้กบลูเบอร์รี่มีส่วนผสมของซอสบลูเบอร์รี่ที่มีความเปรี้ยว เมื่อทานคู่กันแล้วจะทำให้รสชาติขนมมีความอร่อยมากยิ่งขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
อาหารนานาชาติ

แจกอาหารสไตล์ญี่ปุ่นกุ้ง เทมปุระ แป้งทอดกรอบ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด

เทมปุระ

มาต่อกันที่เมนูอาหารสไตล์ทอดกรอบกันบ้างกับ เทมปุระ เป็นเมนูที่หลายคนชอบทานมากๆ โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะรสชาติกลมกล่อม และมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ หากได้ทานคู่กับซอสเข้มข้นยิ่งเพิ่มอร่อยแบบไม่สามารถหยุดทานไม่ได้จนต้องสั่งมาทานเพิ่มเลยทีเดียว แต่ถ้าจะให้สั่งมาทานในปริมาณมากๆ จะต้องเสียเงินมากเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้เรามีสูตรกุ้งเทมปุระ แป้งโกกิกรอบนาน แถมรสชาติอร่อย ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญทำขายได้ด้วยนะ

วิธีทำอาหารโฮมเมคกุ้ง เทมปุระ แป้งฟู กรอบนาน อร่อยไม่ง้อร้าน

เทมปุระ

ได้เวลาเข้าครัวทำอาหารอร่อยๆ ทานกันแล้ว และวันนี้จะมาทำเมนูง่ายๆ อย่างเทมปุระ เมนูขึ้นชื่อของญี่ปุ่นที่มีรสชาติกลมกล่อม กรุบกรอบๆ ทานได้ทั้งครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ จะชอบทานสุดๆ สำหรับแป้งเทมปุระ วิธีทำที่ง่ายๆ ไม่ซับช้อน แถมยังกรอบนาน และไม่ต้องใช้วัตถุดิบเยอะแยะมากมาย อีกทั้งเมนูกุ้งทอดกรอบญี่ปุ่นเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับมือใหม่อีกกด้วย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

เทมปุระ
  1. กุ้งแชบ็วย 500 กรัม
  2. แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง
  3. ไข่แดง 2 ฟอง
  4. เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำมันพืช 1 ขวด
  6. เกลือ ½ ช้อนชา

สำหรับกุ้งที่ใช้ทำเมนูเทมปุระจะเป็นกุ้งแชบ็วยมีรสชาติหวาน เนื้อนุ่ม เมื่อนำมาชุบแป้งทอดจะทำให้รสชาติของกุ้งหวาน กลมกล่อม กรอบอร่อยไม่เหมือนใคร ในส่วนของกุ้งเทมปุระ วิธีทำไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เตรียมวัตถุดิบ กับกระทะให้พร้อมก็สามารถทำได้แล้ว

เทมปุระ
  1. ขั้นตอนแรกให้นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด ตัดหัวกุ้งออก และผ่าหลังเอาเส้นดำๆ ออก จากนั้นหงายท้องกุ้งใช้มีดบั้งให้เป็นแนวขวาง เพื่อต้องให้กุ้งเหยียดตรงไม่โค้งงอ 
  2. ลำดับต่อมาจะเป็นการเตรียมแป้งทอด เริ่มจากนำแป้งมาเทใส่ชาม นำกุ้งมาคลุกให้ทั่วเสร็จแล้วใส่จานพักไว้ก่อน หลังจากนั้นเทน้ำเย็นใส่แป้งที่เหลือ ใส่ไข่ไก่ลงไป ใช้ตะกร้อตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง 
  3. นำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมันให้ท่วม เปิดไฟปานกลางรอจนกว่าน้ำมันจะเดือด เมื่อน้ำมันเดือดแล้วให้นำกุ้งมาชุปแป้งที่เตรียมไว้ นำไปทอดให้เหลืองกรอบ เสร็จแล้วตักพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  4. นำกุ้งมาจัดใส่จานให้สวยงาม จากนั้นนำไปเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มเมนทซึยุสูตรเข้มข้นที่มีรสชาติอร่อยได้เลย
เทมปุระ

สำหรับเทมปุระที่ทอดเสร็จใหม่ๆ จะกรอบ และรสชาติกลมกล่อม พร้อมทานคู่กับน้ำซอสรสเด็ดอร่อยฟินทุกคำ โดยกุ้ง เทมปุระ วิธี ทำไม่ยากอย่างที่คิด ที่สำคัญทำออกมาแล้วเหมือนกับที่ซื้อทานที่ร้านเลยเดียว นอกจากนี้การทำกุ้งเทมปุระด้วยตัวเองสามารถทานได้ในปริมาณที่ต้องการ และทานได้ทั้งครอบครัว แถมเด็กๆ ยังชอบอีกด้วย 

สูตรน้ำซอสรสเด็ด พร้อมทานคู่กับ กุ้งเทมปุระ กรอบๆ รสชาติอร่อยฟินทุกคำ 

เทมปุระ

เทมปุระหนึ่งในอาหารทอดญี่ปุ่นที่ทำง่าย โดยเฉพาะกุ้งชุบแป้งทอด เทมปุระเมนูยอดนิยมตลอดกาล และที่ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำจิ้ม เทมปุระสูตรเข้มข้น อย่างเมนทซึยุ ซึ่งสามารถทำเองได้ เริ่มจากนำซอสโซยุมาผสมกับเหล้ามิริน และซุปดาชิ สำหรับซุปดาซิทำมาจากปลาคัตสึโอะ และสาหร่ายคอมบุแห้ง เมื่อนำน้ำซุปดาชิมาทำน้ำซอสจะช่วยให้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น หลังจากได้น้ำจิ้มรสเด็ดเรียบร้อยแล้วก็นำไปเสิร์ฟกับเทมปุระกรอบๆ หอมอร่อยไม่จำเจ เรียกได้ว่าเทมปุระ คือ อาหาญี่ปุ่นที่ทานแล้วอิ่มอร่อย และเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับทานกันในครอบครัวได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ 

อ่านบทความเพิ่มเติม:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
อาหารไทย

แจกสูตรเมนูเด็ด ผัดพริกแกงปลาดุก เนื้อปลากกรอบนุ่ม รสเผ็ดจัดจ้าน

ผัดพริกแกงปลาดุก

อีกหนึ่งเมนูสุดพิเศษที่สามารถสั่งทานได้ตามร้านข้าวแกง หรือร้านอาหารตามสั่งทั่วไป นั่นก็คือ ผัดพริกแกงปลาดุก ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูของคนชอบทานเผ็ด และชอบทานปลาดุก อีกอย่างยังเป็นเมนูที่สามารถทำทานเองได้ด้วย เพราะวัตถุดิบต่างๆ สามารถหาซื้อได้ตามตลาดนัด และใช้ผักสวนครัวหลังบ้าน เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมากนัก และหากที่บ้านเลี้ยงปลาดุกอยู่ก็สามารถนำทำเป็นเมนูผัดพริกแกงปลาดุกได้สบายเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้เราจะมาแจกสูตรผัดเผ็ดปลาดุก แบบบ้านๆ ไว้ทำทานพร้อมครอบครัว ว่าตามไปดูกันเลย 

ขั้นตอนการทำอาหารไทย ผัดพริกแกงปลาดุก ให้อร่อย รสชาติกลมกล่อม

ผัดพริกแกงปลาดุก

สำหรับคนที่ชอบทานปลาดุกมาทางนี้ เพราะวันนี้เราจะสอนวิธีการทำผัดพริกแกงปลาดุก เนื้อปลากรอบๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องแกงเข้มข้นแบบจัดเต็ม และยังมีเคล็ดลับเด็ดๆ ในการทำให้ปลาดุกไม่เหม็นคาวมาให้ทำตาม สำหรับสูตรที่ใช้ทำนั้นจะเป็นสูตรผัดพริกแกง ปลาดุกปลาดุกผัดพริกขิงที่จะเพิ่มความเผ็ดร้อนได้แบบสะใจจัดเต็ม เรียกว่าเอาใจสายทานเผ็ดกันสุดๆ ไปเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ผัดพริกแกงปลาดุก
  1. ปลาดุก 500 กรัม
  2. ใบมะกรูด 5 ใบ
  3. พริกแกงเผ็ด 130 กรัม
  4. น้ำตาลปิ๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกชี้ฟ้าแดง 20 กรัม
  7. ขิงซอย 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับการทำผัดพริกแกงปลาดุกจะใช้เครื่องแกงที่เผ็ดมาก โดยไม่ต้องไขลกพริกเพิ่ม แต่ถ้าคนไหนที่ชอบทานเผ็ดระดับพริกร้อยเม็ด ขอแนะนำปลาดุกผัดพริกแกงใต้ เพราะเครื่องแกงปักษ์ใต้จะมีความเผ็ดร้อน และที่สำคัญทานแล้วปากชากันเลยทีเดียว ในส่วนวิธีการทำปลาดุกผัดพริกแกงจะเป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ทำทานได้เองที่บ้าน

ผัดพริกแกงปลาดุก
  1. นำปลาดุกมาล้างทำความสะอาดล้างทำความสะอาดเรียบร้อย จากนั้นใช้กระดาษชิชชูอเนกประสงค์ซับน้ำออกจากเนื้อปลา เพื่อให้ปลาไม่ติดกระทะในระหว่างทอด หลังจากนั้นนำกระทะมาตั้งเตาเปิดไฟแรง ใส่น้ำมันในปริมาณพอเหมาะ เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ใส่ปลาดุกลงไปทอด ปล่อยสักพัก แล้วค่อยคน แต่พยายามอย่าคนบ่อย เพราะเนื้อปลาจะร่อนออก หลังจากที่ปลาสีเหลืองแล้วให้ตักออกมาพักไว้
  2. ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นการผัดปลาดุก เริ่มจากนำกระทะมาตั้งเตาเปิดไฟปานกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย ตามด้วยพริกแกง ผัดให้พริกแกงแตกละเอียดดี จากนั้นเติมน้ำเล็กน้อย ทำการปรุงรสด้วยน้ำตาลปิ๊บ น้ำปลา และขิงซอยผัดจนกว่าน้ำตาลจะละลาย 
  3. เมื่อน้ำตาลละลายแล้วให้นำปลาดุกทอดกรอบใส่ลงไป ตามด้วยใบมะกรูดซอย พริกชีฟ้าแดง ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วยกออกจากเตา และตักใส่จาน พร้อมทานได้
ผัดพริกแกงปลาดุก

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสูตร และวิธีการทำเมนูยอดฮิตอย่าง ผัดพริกแกงปลาดุกกรอบ เนื้อนุ่ม ไม่เหม็นคาว แถมรสชาติอร่อยกลมกล่อมถูกปาก เหมือนซื้อทานเลยทีเดียว นอกจากนี้ปลา ดุก ทอด กรอบ ผัด พริก แกงเผ็ดถึงใจ สายทานเผ็ดต้องชอบมากแน่นอน 

เทคนิค ลับเฉพาะ ผัดพริกแกงปลาดุก เนื้อปลากรอบ ไม่เหม็นคาว 

ผัดพริกแกงปลาดุก

ผัดพริกแกงปลาดุกที่เราทำทานเองรสชาติจะอร่อยหรือไม่อร่อยขึ้นอยู่กับตัวปลาดุกที่นำมาทำผัดพริกแกงปลาดุกกรอบ ถ้าไม่อยากให้ปลามีกลิ่นคาว ก่อนนำมาทอดให้ใส่เกลือ และแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า หรือแป้งข้าวโพด จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วในไปล้างออกให้สะอาด เสร็จแล้วนำมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำมาทอดให้ปลากสุกเหลือง เพียงแค่นี้ปลาจะหอมกรอบอร่อย 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
ขนมหวานไทย

แจกสูตรขนม บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน รสชาติหวาน เนื้อมะพร้าวกรุบกรอบ

บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน

เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักขนม บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน แน่นอน เพราะเป็นขนมโบราณที่มีรสชาติหวาน หอม เนื้อมะพร้าวกรุบกรอบหนึบหนับอร่อยกำลังดี แถมยังสามารถหาซื้อทานได้ง่ายตามตลาดนัดหรือตามร้านขนมหวานไทยๆ ที่มีขายอยู่ทั่วไป ที่สำคัญยังเป็นขนมไทยโบราณที่กำลังมาแรงมาก และคนต่อคิวซื้อแน่นร้านจนต้องแจกบัตรคิวกันเลยทีเดียว สำหรับขนมชนิดนี้มีหลากหลายสูตร ไม่ว่าจะเป็นสูตรโบราณ มะพร้าวอ่อน บ้าบินโบราณผงมันม่วง เป็นต้น แต่วันนี้เราจะมาทำสูตรบ้าบิ่น มะพร้าวอ่อนกรุบกรอบ รสชาติหวานละมุน เนื้อขนมหนึบหนับกำลังดี

ขั้นตอนการทำขนม บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน เนื้อนุ่มหนึบหนับ หวานกำลังดี 

บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน

สำหรับใครที่ชอบทานขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน และอยากลองทำทานเองในครอบครัวในช่วงวันหยุดยาว วันนี้เราจะมาแชร์สูตรบ้าบิ่นกรอบนอกนุ่มใน รสชาติหวานหอม อัดแน่นด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน นอกจากนี้เรายังมีวิธีการทำที่ง่ายๆ ไม่ยากอย่างคิดมาให้ได้ลองทำตามได้ เหมาะสำหรับคนที่กำลังเรียนทำขนมครั้งแรกอีกด้วย หรือถ้าใครอยากลองทำขนมบ้าบิ่นขายตามตลาดนัดก็สามารถลองทำสูตร และวิธีทำตามที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน
  1. แป้งข้าวเหนียวดำ 50 กรัม
  2. แป้งข้าวเหนียวขาว 300 กรัม
  3. เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำเปล่า 150 กรัม
  5. หัวกะทิ 200 กรัม
  6. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  7. มะพร้าวขูดขาว 300 กรัม
  8. เนื้อมะพร้าวอ่อน 300 กรัม

ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนจะมีส่วนผสมไม่มากนัก ดังนั้นใครที่ยังกังวลว่าขนมสูตรบ้าบิ่นโบราณมะพร้าวอ่อนทำยาก ขั้นตอนเยอะเกินไป ต้องบอกเลยว่าวิธีทำขนมชนิดนี้ไม่ยากอย่างที่คิด ว่าแล้วเราไปลงมือทำพร้อมๆ กันเลย 

บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน
  1. มาเริ่มแป้งกันเลย โดยนำแป้งข้าวเหนียวดำ และแป้งข้าวเหนียวขาวมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น ไข่ไก่ น้ำเปล่า เสร็จแล้วใช้มือคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด เมื่อน้ำตาลละลายหมดแล้วให้ใส่น้ำกะทิ ผงฟู และเนื้อมะพร้าวขูด ใช้มือขยำแรงๆ ให้น้ำกะทิในเนื้อมะพร้าวออกมา ตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง นำแป้งขนมไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งเชตตัวดี 
  2. ต่อมาให้ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย เปิดไฟอ่อนๆ พอให้กะทิร้อน จากนั้นนำแป้งออกจากตู้เย็น ตักใส่กระทะเกลื่ยให้แป้งมีความหนาที่เสมอกัน ปิดฝารอให้ขนมเริ่มส่งกลิ่นหอมแล้วกลับด้านปิดฝาอีกครั้ง เมื่อขนมสุกเกรียมเรียบร้อยให้ตักพักไว้บนตะแกรง ตัดขนมเป็นชิ้นๆ ขนาดตามใจชอบ พร้อมทานได้
บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน

สำหรับบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนที่ทำเสร็จแล้วจะมีสีม่วงใสของแป้ง เนื้อนุ่มหนึบหนับ และมีกลิ่นหอมกะทิสด พร้อมทั้งรสชาติขนมไทยบ้าบิ่นหวานละมุนอร่อยเพลิดเพลินสุดๆ และหากทานคู่กับเครื่องดื่มจำพวกชาจะยิ่งเพิ่มความอร่อยมากขึ้น หรือจะทานคู่กับกาแฟสักแก้วในวันว่างๆ พร้อมกับเสียงเพลงอันไพเราะละมุนละไมผ่อนคลายมากเลยทีเดียว 

แชร์ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน สูตรใบเตย หอมกลิ่นงา แสนอร่อย

บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน

ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน หนึ่งในเมนูขนมไทยโบราณที่มีรสชาติอร่อย และมีเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีหนึ่งสูตรที่อยากแนะนำนั่นก็คือ ขนมบ้าบิ่นใบเตยมะพร้าวอ่อน รสชาติอร่อย เนื้อมะพร้าวกรุบกรอบ โรยด้วยงาขาวแสนอร่อย สำหรับสูตรขนมไทยบ้าบิ่นใบเตยสามารถใช้สูตรมะพร้าวอ่อนบ้าบิ่นเมนูขนมไทยดั้งเดิมได้เลย แต่ไม่ใส่แป้งข้าวเหนียวดำ เพียงแค่นี้ก็สามารถทำขนมบ้าบิ่นใบเตยใส่มะพร้าวอ่อนได้ง่ายๆ แถมอร่อยด้วยนะ

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net