สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมเบเกอรี่

ทาร์ตนูเทลล่า ทาร์ตแป้งกรอบไส้ดาร์กช็อกโกแลต รสชาติอร่อยถูกปากกลิ่นหอมเตะจมูก

ทาร์ตนูเทลล่า

เชื่อว่าช็อกโกแลตเป็นของหวานที่หลายๆคนหลงรัก และช็อกโกแลตที่หลายคนมักซื้อติดบ้านไว้ คงหนีไม่พ้นช็อกโกแลตกระปุกใสแบรนด์จากอิตาลีที่โด่งดังไปทั่วโลกนามว่า นูเทลล่า (Nutella) ซึ่งตำนานของ Nutella เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1940s โดยนักอบขนมปังชาวอิตาเลียนที่มีชื่อว่า Pietro Ferrero ในช่วงแรกอกโกแลตนูเทลล่าถูกเรียกว่า Gianduja และหลังจากเพิ่มเลซิทินลงไป Ferreros ก็เริ่มออกช็อกโกแลตที่สามารถทาขนมปังได้ตั้งชื่อว่า Supercrema Gianduja และต่อมา Michele ได้เริ่มต้นเรียกว่า Nutella ในปี 1964 เป็นคนแรก ในช่วงแรกนิยมใช้ป้ายลงไปบนขนมปัง จากนั้นไม่นานโลกก็ยอมรับว่า “ช็อกโกแลต” ก็เป็นอาหารเช้าได้เช่นเดียวกับไข่ดาวและเบคอนได้ 

ปัจจุบันนูเทลล่าได้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบอาหารหลายอย่าง ซึ่งวันนี้เราก็อยากแนะนำสูตรขนมหวานที่ใช้ช็อกโกแลตเทลล่า (Nutella)เป็นส่วนประกอบที่สำคัญนั่นคือ ทาร์ตนูเทลล่า ทาร์ตแป้งกรุบกรอบอย่างน่าอัศจรรย์ และร่วนไส้ช็อกโกแลตนูเทลล่าที่เนียนนุ่ม เพิ่มความสวยงามด้วยอัลมอนด์คาราเมลหวานกรอบ รับรองว่านี้เป็นสูตรเด็ดที่มีรสชาติและกลิ่น อร่อยถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่แน่นอนค่ะ ส่วนจะใช้วัตถุดิบและวิธีทำอย่างไร ตามมาดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสมหลักของทาร์ตนูเทลล่า

สำหรับใครที่กำลังมองหาขนมเบเกอรี่ใหม่ ๆ เราขอแนะนำขนมหวานทาร์ตนูเทลล่า ทาร์ตแป้งกรุบกรอบสอดไส้ช็อกโกแลตนูเทลล่า (Nutella) เนื้อนุ่มเนียน เป็นอีกหนึ่งเมนูเบเกอรี่ที่มีความสมบูรณ์แบบโดยเฉพาะสำหรับผู้คลั่งไคล้นูเทลล่าและช็อกโกแลตสามารถทานคู่กับน้ำชาหรือกาแฟได้อีกด้วยค่ะ ส่วนจะใช้วัตถุดิบอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสมสำหรับทำทาร์ตนูเทลล่า

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 190 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 80 กรัม
  3. เกลือ ¼ ช้อนชา
  4. เนย 110 กรัม
  5. ไข่แดง 1 ฟอง
  6. ครีม 1 ช้อนโต๊ะ
  7. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
  8. อัลมอนด์คาราเมล 90 กรัม
  9. อัลมอนด์ก้าน 80 กรัม
  10. น้ำตาลทราย 80 กรัม (ใช้ทำอัลมอนด์คาราเมล)
  11. น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
  12. ไส้นูเทลล่า
  13. ครีม 1½ ถ้วย
  14. ดาร์กช็อกโกแลต 180 กรัม
  15. เนย 90 กรัม
  16. นูเทลล่า 170 กรัม (ใช้ทำไส้)
ทาร์ตนูเทลล่า

ขั้นตอนวิธีการทำทาร์ตนูเทลล่า

หลังจากที่เตรียมส่วนผสมสำหรับทำทาร์ตนูเทลล่าเรียบร้อยแล้ว เรามาดูขั้นตอนการทำสูตรนี้กันต่อเลยค่ะ ซึ่งสูตรนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสูตรวิธีทำเบเกอรี่แบบง่ายๆ เหมาะสำหรับมือใหม่หัดทำครั้งแรก หรือคนที่ชื่นชอบการทำขนมเบเกอรี่ ซึ่งสูตรนี้จะใช้การอบเป็นครั้งที่สองเพื่อแก้ไขปัญหา Nutella ไหม้หรือเหนียวผิดปกติ โดยมีขั้นตอนการทำดังนี้

  1. ก่อนอื่นต้องทำแป้งพายก่อน โดยผสมแป้ง น้ำตาลทราย เกลือ และเนยเย็นหั่นเต๋า แล้วนำลงไปใส่ในเครื่องบดอาหาร จากนั้นกดให้เครื่องทำงานแบบปั่นแล้วหยุด ให้แป้งและเนยจับตัวกันเป็นเม็ดเล็กๆ แล้วใส่ไข่แดง ครีมและกลิ่นวานิลาลงไป จากนั้นปั่นให้ทุกอย่างพอเข้ากัน นำออกมาห่อด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที
  2. เมื่อครบเวลาแล้วให้นำแป้งออกมาคลึง แล้วกรุลงในพิมพ์ทาร์ตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 นิ้ว แล้วนำไปพักในตู้เย็นอีกประมาณ 10 นาที จากนั้นใช้ส้อมเจาะให้ทั่วๆ ฐานพิมพ์ แล้ววางกระดาษไขภายในพิมพ์ ใส่โลหะเพื่อถ่วงน้ำหนักในทาร์ต
  3. นำทาร์ตเข้าอบด้วยอุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที แล้วนำออกมาเอาโลหะถ่วงน้ำหนักออก แล้วอบต่ออีก 5 นาทีจนสุกดี จากนั้นนำออกจากเตาอบพักไว้จนเย็น
  4. จากนั้นเริ่มทำอัลมอนด์คาราเมล โดยนำน้ำตาลและน้ำไปตั้งไฟ พออุณหภูมิ 116 องศาเซลเซียสก็ใส่อัลมอนด์ดิบลงไป ใช้ช้อนไม้คนจนเป็นผลึกน้ำตาลสีขาว คนต่อจนกลายเป็นคาราเมลเคลือบถั่ว นำออกมาพักให้เย็นบนแผ่นทนความร้อนหรือกระดาษไข โดยเกลี่ยเป็นชิ้นเล็กเพื่อเอาไว้แต่งทาร์ต
  5. ลงมือทำไส้ โดยนำครีมใส่หม้อ ตั้งบนความร้อน พอร้อนดีก็ยกออกจากความร้อน จากนั้นสับช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็กๆ ตามด้วยนูเทลล่า และเนย คนให้เข้ากันดี แล้วใส่ลงในแป้งทาร์ตที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปแช่เย็นให้อยู่ตัวดี แล้วแต่งด้วยอัลมอนด์คาราเมลในสวยงาม เพียงแค่นี้ก็จะได้ “ทาร์ตนูเทลล่า” แสนอร่อยแล้วค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเมนูขนมหวานทาร์ตนูเทลล่า นอกจากจะมีขั้นตอนวิธีทำที่ง่ายมากๆ และรสชาติอร่อยถูกปากคนที่ได้ลิ้มลองแล้ว แป้งทาร์ตที่ทำเสร็จแล้วยังสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน เมื่อไหร่ที่คุณอยากกินทาร์ตนูเทลล่าก็สามารถนำออกจากตู้เย็นแล้วทำแค่อัลมอนด์คาราเมล และไส้ช็อกโกแลตด้วยนูเทลล่าตามหลังได้ค่ะ สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูนี้ก็อย่าลืมนำสูตรที่เราแนะนำนี้ไปลองทำกันดูนะคะ

บาคาร่าออนไลน์

Categories
ขนมเบเกอรี่

ช็อกโกแลตมูสเค้ก เนื้อละเอียดละลายในปาก ทำง่ายโดยไม่ต้องใช้เตาอบ

ช็อกโกแลตมูสเค้ก

หากพูดถึงเมนูขนมหวานเนื้อเนียนนุ่มฉ่ำ หลายคนคงนึกถึงช็อกโกแลตมูสเค้ก มูสเค้กรสช็อกโกแลตเข้มข้น พร้อมกับเนื้อสัมผัสนุ่มละมุมลิ้นของหน้ามูสที่ปรุงด้วยมาร์ชเมลโลว เป็นเมนูขนมหวานสุดพรีเมียมที่สามารถรังสรรค์ได้ง่ายๆด้วยมือคุณ ซึ่งช็อกโกแลตมูสเค้ก เป็นเค้กที่ทำจากการตีไข่ขาวหรือวิปปิ้งครีมให้ฟูก่อนจะนำไปผสมกับช็อคโกแลต (อาจจะใช้รสชาติอื่นๆก็ได้) และส่วนผสมอื่นๆ ทำให้เค้กนุ่ม เบา มักใส่เจลาตินเพื่อช่วยให้คงรูป และต้องแช่เย็นไว้จนกว่าจะได้ที่ถึงจะพร้อมรับประทานค่ะ

มูสช็อกโกแลตมีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสในช่วงทศวรรษที่ 1700 โดยสูตรแรกที่เป็นที่รู้จักถูกคิดค้น โดย Menon นักเขียนชาวฝรั่งเศสในปี 1750 ในหนังสือ La science du maîtred’hôtel confiseur ซึ่งคำว่า ‘มูส’ เป็นคำจากภาษาฝรั่งเศสที่มีการแปลตามตัวอักษรว่า ‘โฟม’ ในขณะที่มูสช็อคโกแลตถูกเรียกว่า ‘mousse au chocolat’ ในภาษาฝรั่งเศส มูสช็อกโกแลตมักใช้เป็นของหวานและใช้เป็นไส้ข้างหรือตกแต่งในขนม อย่างไรก็ตามมูสสามารถทำเป็นอาหารคาวได้โดยปกติจะไม่รวมช็อกโกแลตและน้ำตาลและมีรสชาติที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้วมูสช็อกโกแลตมักมีสีน้ำตาลและมีเนื้อฟูเบาบาง ความหนาแน่นอาจแตกต่างกันไปตามส่วนผสมและวิธีการปรุง มูสช็อกโกแลตเป็นเมนูของหวานที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะนอกจากที่มีรสชาติที่อร่อยเข้มข้น เนื้อสัมผัสนุ่มละมุมลิ้นแล้ว ยังเป็นแหล่งแคลเซียมวิตามินเอและวิตามินบี 12 ที่ดีแม้ว่าจะมีไขมันและน้ำตาลในปริมาณมากก็ตาม ซึ่งสูตรสำหรับทำช็อกโกแลตมูสเค้กตั้งแต่แบบเรียบง่ายไปจนถึงแบบซับซ้อนหรือแปลกใหม่ สำหรับใครที่กำลังอยากจะลองทำเมนูของหวานช็อกโกแลตมูสเค้ก วันนี้เราก็มีสูตรวิธีทำที่เรียบง่ายมาแนะนำทุกคน สูตรนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เมนูนี้อร่อยไม่แพ้ร้านขนมเลยค่ะ จะมีส่วนผสมและวิธีทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ

ส่วนผสมหลักของช็อกโกแลตมูสเค้ก

ช็อกโกแลตมูสเค้ก เป็นเมนูของหวานสุดพรีเมียม มูสช็อกโกแลตอร่อยเข้มข้น เข้ากับเนื้อเค้กให้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มฉ่ำ โดยสูตรช็อกโกแลตมูสเค้กที่เรานำมาแนะนำนี้มีความพรีเมียมตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพรวมไปถึงขั้นตอนการทำที่เรียบง่ายไม่ยุ่งยาก แต่รสชาติอร่อยไม่แพ้ร้านขนมทำขายเลยค่ะ แต่ก่อนจะไปดูว่ามีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง เรามาเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมกันก่อนเลยค่ะ

ส่วนผสมสำหรับทำช็อกโกแลตมูสเค้ก

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 245 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 200 กรัม
  3. น้ำตาลทรายแดง 180 กรัม
  4. ผงโกโก้ 70 กรัม
  5. ผงโกโก้ (สำหรับโรยหน้าเค้ก)
  6. เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
  7. ผงฟู 1 ช้อนชา
  8. เกลือ 1 ช้อนชา
  9. โยเกิร์ต 125 มิลลิลิตร
  10. นมสด 125 มิลลิลิตร
  11. น้ำมันรำข้าว 125 มิลลิลิตร
  12. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  13. กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
  14. น้ำร้อน 240 มิลลิลิตร

ส่วนผสมสำหรับทำมูสช็อกโกแลต

  1. มินิมาร์ชเมลโลว 90 กรัม
  2. ช็อกโกแลตชิพ 240 กรัม
  3. นมสด 100 มิลลิลิตร
  4. วิปปิ้งครีม 400 มิลลิลิตร
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  6. เจลาตินผง 8 กรัม
  7. น้ำเย็น 40 กรัม
ช็อกโกแลตมูสเค้ก

ขั้นตอนวิธีการทำช็อกโกแลตมูสเค้ก

หลังจากที่เราเตรียมส่วนผสมของช็อกโกแลตมูสเค้กทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาเริ่มลงมือทำกันแล้วโดยสูตรนี้มีวิธีทำที่ง่ายไม่ยุ่งยากสามารถทำเองได้ที่บ้านค่ะ แถมเป็นสูตรการทำขนมที่ไม่ต้องใช้เตาอบอีกด้วย เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำขนมหวาน หรือคนที่เริ่มต้นทำขนมหวานนี้ครั้งแรก รับรองว่าสูตรนี้ถูกอกถูกใจสายขนมหวานอย่างแน่นอนค่ะ ส่วนจะมีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้างมาลุยกันเลยค่ะ

  1. เตรียมถาดอบขนาด 9×13 นิ้ว ทาเนยรองกระดาษไขไว้ จากนั้นเริ่มทำส่วนผสมแห้ง โดยร่อนแป้งผงโกโก้ เบกกิ้งโซดา ผงฟู และเกลือ ลงในชามผสม แล้วใส่น้ำตาลทราย และน้ำตาลทรายแดงลงไป คนให้กระจายดี
  2. ทำส่วนผสมน้ำ โดยผสมโยเกิร์ต นมสด น้ำมันรำข้าว ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลลา เข้าด้วยกัน
  3. ใส่ส่วนผสมของแห้งลงไปในผสมน้ำ แล้วคนให้เข้า ใส่น้ำร้อนตามลงไป แล้วใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ลงในพิมพ์ แล้วนำไปนึ่งด้วยไฟปานกลางเป็นเวลา 50 นาที หรือจนกว่าแป้งจะสุกดี จากนั้นพักเค้กในพิมพ์ให้เย็นสนิท
  4. โรยเจลาตินผง 8 กรัม ลงในน้ำเย็น 40 กรัม ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน จากนั้นพักไว้ 7-8 นาที
  5. เตรียมทำมูสช็อกโกแลต โดยนำมินิมาร์ชเมลโลวและนมสดใส่หม้อต้มตั้งไฟ จนพอเริ่มละลาย ให้ใส่ช็อกโกแลตชิพตามลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายดี มั่นคนเรื่อยๆ จากนั้นใส่เจลาตินที่เตรียมไว้ลงไป แล้วคนให้ละลายเข้ากัน จากนั้นปิดไฟ
  6. ตีวิปปิ้งครีมกับกลิ่นวานิลลาให้ตั้งยอดดี แล้วตีส่วนผสมช็อกโกแลตให้คลายตัว(ข้อ5) 
  7. นำวิปปิ้งครีมที่ตีไว้(ข้อ6) ไปตะล่อมกับส่วนผสมช็อกโกแลต
  8. นำเค้กออกจากพิมพ์ แล้วนำมูสช็อกโกแลตปาดให้ทั่วตัวเค้ก จากนั้นโรยหน้าเค้กด้วยผงโกโก้ เพียงแค่นี้เราก็จะได้ช็อกโกแลตมูสเค้กแสนอร่อย พร้อมรับประทานแล้วค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเมนูขนมหวานช็อกโกแลตมูสเค้ก นอกจากจะมีความอร่อยและความเข้มข้นของช็อกโกแลตแล้ว ตัวเนื้อเค้กยังเนียนสวยนุ่มละมุนลิ้ม กลิ่นหอม สำหรับใครที่สนใจอยากจะช็อกโกแลตมูสเค้กเราแนะนำให้ใช้ใช้ช็อคโกแลตที่มีโกโก้แข็งไม่เกิน 40-50 เปอร์เซ็นต์ เพราะช็อกโกแลตชนิดที่เข้มข้นอาจทำให้ขนมนี้ขมเกินไปค่ะ แล้วอย่าลืมนำสูตรที่เราแนะนำไปลองทำกันนะคะ

Categories
อาหารสุขภาพ

ผักกาดขาวม้วนยัดไส้ เมนูอาหารคลีนกินแล้วไม่อ้วน พร้อมสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด

ผักกาดขาวม้วนยัดไส้

เอาใจสาวๆที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก วันนี้เรามีเมนูง่ายๆอย่างผักกาดขาวม้วนยัดไส้ เมนูอาหารคลีนที่ทำรับประทานในวันหยุด หรือทำเพื่อพกไปรับประทานที่ออฟฟิศหรือที่ทำงานก็ได้ แถมยังอร่อย กินแล้วไม่อ้วนอีกด้วยมาแนะนำทุกคนค่ะ เมนูผักกาดขาวม้วนยัดไส้ ใช้ผักกาดขาวในการห่อ โดยผักกาดขาวมีก้านใบใหญ่อวบ สีขาว ใบฉ่ำน้ำ เส้นใบนูนชัดเจน เมื่อกินสดให้รสหวานอ่อน ๆ เนื้อกรอบ ช่วยตัดรสที่จัดจ้านของเมนูอาหาร แต่เมื่อผ่านการปรุงสุก จะได้ผักเนื้ออ่อน นุ่ม รสหวาน ส่วนไส้ที่ห่อนิยมใช้กุ้งหรือหมู ใส่เห็ดใส่ผัก ซึ่งเห็ดที่นำมาใช้มักเป็นเห็ดเข็มทองให้รสสัมผัสที่เหนียวนุ่ม ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด รสเผ็ด เปรี้ยว เค็มนำ เพิ่มความอร่อยให้กับเมนูนี้เป็นอย่างมาก รับรองว่าใครที่ได้ลิ้มลองรสชาติจะต้องถูกอกถูกใจกับเมนูผักกาดขาวม้วนยัดไส้นี้แน่นอน และยังได้รับประทานผักอีกด้วย เหมาะสำหรับสาวๆที่ต้องการรักษาหุ่น จะมีส่วนผสมและขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสมหลักของเมนูผักกาดขาวม้วนยัดไส้

เมนูผักกาดขาวม้วนยัดไส้ เป็นอาหารคลีน อีกหนึ่งในเมนูผักกาดขาวเพื่อสุขภาพ ที่ค่อนข้างจะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้สูตรและวิธีการทำของเมนูนี้จริงๆ อีกทั้งเมนูนี้ต้องกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดถึงจะอร่อยถึงใจ ซึ่งน้ำจิ้มซีฟู้ด ควรมีรสเผ็ด เปรี้ยว เค็มนำถึงจะอร่อยเข้ากับเมนูผักกาดขาวม้วนยัดไส้ แต่ก่อนจะไปดูขั้นตอนการทำ เรามาเตรียมวัตถุดิบส่วนผสมกันก่อนเลยค่ะ 

ส่วนผสมสำหรับทำผักกาดขาวม้วนยัดไส้

  1. หมูบด 450 กรัม
  2. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  3. น้ำมันงา ½ ช้อนชา
  4. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  5. แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนชา
  6. พริกไทยขาวป่น ¼ ช้อนชา
  7. ผักกาดขาว 1 หัว
  8. เห็ดเข็มทอง 100 กรัม

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำจิ้มซีฟู้ด

  1. พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด
  2. กระเทียมไทย 10 กลีบ 
  3. ก้านผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมะนาว 3½ ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
ผักกาดขาวม้วนยัดไส้

ขั้นตอนวิธีการทำผักกาดขาวม้วนยัดไส้

หลังจากที่คุณทราบถึงวัตถุดิบที่ต้องเตรียมแล้ว จะเห็นได้ว่าวัตถุดิบไม่ได้เยอะอะไรมากเลย เป็นวัตถุดิบที่เราสามารถหาซื้อได้ปกติทั่วไป ส่วนวิธีทำเมนูผักกาดขาวม้วนยัดไส้และวิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ไม่ได้ยาก เพราะแต่ละขั้นตอนสามารถทำต้องได้ง่ายมากๆเลยค่ะ ขั้นตอนการลงมือทำจะเป็นอย่างไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

ขั้นตอนสำหรับการทำน้ำจิ้มซีฟู้ด

  1. ขั้นตอนแรกทำน้ำจิ้มซีฟู้ด โดยการนำพริกขี้หนูสวน กระเทียมไทย และก้านผักชีสับ มาโขลกให้มันละเอียดเข้ากัน
  2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลมะพร้าว แล้วคนให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นตักใส่ถ้วยพักเอาไว้

ขั้นตอนสำหรับการทำผักกาดขาวม้วนยัดไส้

  1. เริ่มแรกให้นำหมูบด มาปรุงรส โดยนำหมูบดใส่ถ้วยผสมกับซีอิ๊วขาว น้ำมันงา น้ำมันหอย แป้งมันและพริกไทยขาว หลังจากนั้นก็คลุกเคล้าทุกอย่างให้มันเข้ากัน แล้วนำไปแช่ตู้เย็นเอาไว้
  2. หลังจากที่เตรียมหมูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปใช้หม้อต้มน้ำนำผักกาดขาวลงมาลวกให้มันพอสุกๆ นุ่มๆ หลังจากนั้น ตักลงใส่น้ำเย็นทันทีให้ผักกาดยังคงความเขียวสด เพื่อความน่ากินเอาไว้ แล้วนำมาพักบนตะแกรงให้มันสะเด็ดน้ำ
  3. วางผักกาดขาวที่เตรียมไว้ลงบนเขียง จัดท่าให้มันเรียบร้อย นำหมูบดที่เตรียมไว้ในตู้เย็นออกมาวางบนผักกาดขาว แล้วใส่เห็ดเข็มทองลงไปผสมกัน ม้วนใบผักกาดขาว จัดให้มันน่ากิน
  4. นำใบผักกาดขาวที่ยัดไส้แล้วไปจัดวางไว้ในหม้อนึ่ง แล้วนำไปนึ่งด้วยไฟกลางจนกว่าหมูจะสุก จากนั้นก็นำมาจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เตรียมไว้ แนะนำให้กับคนที่อยากจะลดความอ้วนได้ลองทำเมนูนี้นี้ทานดู บอกเลยว่าอร่อยอย่างมาก แถมกินแล้วไม่อ้วนอีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการ

เมนูผักกาดขาวม้วนยัดไส้ เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายอย่างผักกาดขาวที่เป็นส่วนผสมที่สำคัญมีสรรพคุณช่วยบำรุงระบบย่อยอาหารและลำไส้ รักษาสมดุลของน้ำในร่างกายรวมถึงระบบขับถ่าย ลดความเสี่ยงของมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร มีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟัน อีกทั้งยังช่วยให้เจริญอาหารรวมถึงดับกระหายอีกด้วย จึงเป็นผักที่เหมาะกับนำมาทำอาหาร อีกทั้งเห็ดเข็มทองยังมีคุณค่าทางอาหารสูงไม่แพ้เห็ดชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะปริมาณวิตามินบีที่มีมากมายอันเป็นคุณค่าทางโภชนาการพื้นฐานของพืชตระกูลเห็ดเลยก็ว่าได้ แถมมีปริมาณไฟเบอร์ที่สูง แคลอรีต่ำเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดยังให้ประโยชน์ด้วย พริก กระตุ้นน้ำย่อย ช่วยให้เจริญอาหาร ลดระดับไขมันในเลือด กระเทียม ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเส้นเลือดอุดตัน รากผักชี เป็นเครื่องเทศที่ช่วยดับกลิ่นคาวเพิ่มความหอม น้ำตาลมะพร้าว มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้นเร็ว และยังให้พลังงานน้อยกว่าน้ำตาลทรายอีกด้วยค่ะ