ข้าวผัดกิมจิ สายเกานิยม จะอร่อยเทียบเท่า

ข้าวผัดกิมจิบอนซอน หรือไม่ วันนี้มีเคล็ดลับความอร่อยมาฝาก

ส่วนผสมในการทำ ข้าวผัดกิมจิ

ข้าวผัดกิมจิ สายเกาห้ามพลาดเมนูนี้เป็นอันขาด วันนี้มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการรับประทานกิมจิ แต่จะกินทั้งที ต้องนำผักดังกล่าวมามิกซ์แอนด์แมทช์ ทั้งในเรื่องของข้าวผัดกิมจิ วัตุดิบ รวมถึงขั้นตอนในการทำที่น่าสนใจ ซึ่งการเตรียมวัตถุดิบนั้นไม่ยากเลย ขอเพียงทำตามแนวทางที่ให้ไปดังต่อไปนี้

วัตถุดิบในการทำข้าวผัดกิมจิ

1.ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก  ให้นำข้าวไปแช่ภายในตู้เย็นประมาณ 1 ถ้วย

2.กิมจิ ½ ถ้วย

3.เบคอน ½ ถ้วย

4.ซอสโคชูจัง 1 ½ ชต.

5.แครอทนำมาซอยเป็นเส้น ½ ถ้วย

6.หัวหอมใหญ่นำมาซอยเป็นชิ้นบาง ๆ ½ ถ้วย

7.กระเทียมสับ 1 ชต.

8.เกลือป่น ½ ชช.

9.ไข่ไก่ 1 ฟอง สำหรับทำ ข้าวผัดกิมจิใส่ไข่ ทว่าสูตรนี้ ทำเป็นไข่ดาวแล้วรับประทานคู่กัน

10.น้ำตาลทราย 1 ชช.

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 ข้าวผัดกิมจิจุดเริ่มต้นความอร่อยเริ่มจากการนำเบคอน ½ ถ้วยไปผัดบนกะทะเพื่อรีดน้ำมันเบคอนออกมาซึ่งน้ำมันจากเบคอนขึ้นชื่อว่ามีความหอมมากที่สุด ดังนั้นถึงนำมาทำข้าวผัดดังกล่าวได้เทียบเท่า ข้าวผัดกิมจิชีส ทว่าในกรณีที่รีดนำมันจากเบคอนได้ค่อนข้างน้อย ให้เติมน้ำมันพืชลงไปได้เลย

ขั้นตอนที่ 2 ความอร่อยลำดับถัดมานั่นก็คือการนำกระเทียมสับไปเจียว ตามด้วยหัวหอมใหญ่สไลด์เป็นชิ้นบาง ๆ รวมถึงแครอทหั่นฝอยเป็นเส้นเล็กๆ ผัดรวมกันให้ผักแค่พอสุกตามมาด้วยกิมจิแสนอร่อยที่เตรียมไว้ ผัดและคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 3 มาถึงขั้นตอนสำคัญนั่นก็คือ ขั้นตอนการปรุงรส นำซอสโคชูจัง เกลือ น้ำตาลทราย ผัดรวมกันตามด้วยน้ำเปล่าเพียงเล็กน้อยเพื่อประสานให้องค์ประกอบดังกล่าวดูลงตัวมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 นำข้าวหุงสุกที่เตรียมไว้ลงในกะทะแล้วผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นตักขึ้นมาจากกะทะ จัดใส่จาน ตกแต่งหน้าด้วยต้นหอม สาหร่ายอบกรอบนำมาซอยเป็นชิ้น ๆ รับประทานคู่กับไข่ดาว ก็ฟินแล้ว

ข้าวผัดกิมจิเมนูจานเดียวที่นอกจากอร่อยเหมือนข้าวผัดกิมจิ 7-11 แล้ว ยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งในเรื่องของโปรตีนจากเบคอน คาร์โบไฮเดรตจากข้าว และวิตะมินกลือแร่จากผักสดรวมถึงผักดองอย่างกิมจิ เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ไม่ต้องเตรียมวัตถุดิบอะไรมาก เพราะฉะนั้น ใครที่สนใจก็สามารถนำสูตรดังกล่าวที่แอดมินให้ไปลองปรับใช้ดูนะคะ ไม่ยากเลย

เครดิตภาพประกอบ

https://bk-review.com/วิธีทำข้าวผัดกิมจิง่าย

อ่านบทความ : ขนมจีบกุ้งต้ม ทำง่าย ขายก็คล่อง ท้าให้ลอง

สนับสนุนโดย : ดัมมี่ เกมสุดฮิตที่มีมาอย่างยาวนาน สามารถเข้ามาเล่นได้ผ่านเว็บ HILOSPEC อีกทางเลือกที่ให้ผู้เล่นได้เข้ามาสร้างความสนุกสนาน ผ่านเกมในรูปแบบออนไลน์กัน มั่นคง เชื่อถือได้ ที่สุดของเกม 2022

ขนมจีบกุ้งต้ม เนื้อแน่น เต็มคำกับกุ้งตัวโต ๆ เป็น สูตรจีบ กุ้งเซเว่น ที่น่าสนใจมาฝากทุก ๆ คน

ส่วนผสมในการทำ ขนมจีบกุ้งต้ม

ขนมจีบกุ้งต้ม เมนูที่ใคร ๆ ก็รู้จัก เพราะหาซื้อง่าย ตามร้านสะดวกซื้อมีจำหน่ายขนมจีบ รวมถึงช่วงเช้า ๆ ขนมจีบจะเป็นอีกหนึ่งเมนูเร่งด่วนที่ใคร ๆ ชอบรับประทาน ดังนั้น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการกินขนมจีบจนอยากหาคอร์ส เรียนทำขนมจีบต้ม ไว้ทำกินเอง แอดมินถึงไม่รอช้า รีบหาสูตรขนมมาฝาก

วัตถุดิบขนมจีบกุ้งต้ม

ขนมจีบกุ้งต้มเมนูต้มย่อมดีกว่าเมนูปิ้งย่าง จะต้มและทำอย่างไร มาเตรียมวัตถุดิบกัน

1.กุ้งขาวนำมาสับหยาบ 400 กรัม

2.กุ้งสด 100 กรัม

3.หมูสามชั้น 100 กรัม

4.ไข่ไก่ 2 ฟอง

5.กระเทียม 1 ชต.

6.รากผักชี 1 ชต.

7.พริกไทยป่น 2 ชช.

8.เกลือป่น 1 ชช.

9.น้ำตาลทราย 2 ชต.

10.แป้งมัน 3 ชต.

11.หอยนางรม 1 ชต.

12.ซีอิ้วขาว 2 ชต.

13.น้ำมันงา 1 ชต.

14.เกี๊ยวแผ่นสำหรับห่อ 20 แผ่น

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 

ขนมจีบกุ้งต้มเริ่มต้นทำไส้ขนม ให้เริ่มจากนำกุ้งสับหยาบ หมูสามชั้น ตามด้วย 3 เกลออย่าง รากผักชี กระเทียม พริกไทย ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น เกลือป่น ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม และน้ำมันงา ลงในโถปั่น ภายหลังจากนั้น นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นให้เข้ากันดี

ขั้นตอนที่ 2 ห่อขนมจีบ วิธีทำ เหมือนกับการทำ เกี๊ยวจีบต้ม วางแผ่นแป้งเกี๊ยวลงบนโต๊ะ ตักไส้ขนมจีบที่เตรียมไว้เมื่อสักครู่มาวางบนแผ่นแป้งเกี๊ยว พยายามห่อให้แน่น แล้ววางกุ้งบนตัวไส้ขนมที่ห่อแล้ว 

ขั้นตอนที่ 3 เทน้ำลงในหม้อ เหมือนกับการเตรียมทำ เกี๊ยวกุ้ง เมื่อน้ำเดือดแล้ว เทขนมจีบลงไป ต้มสักพัก จะรู้ได้อย่างไรว่า ขนมจีบสุกแล้วหรือไม่ ให้ดูตอนขนมจีบลอยขึ้นมาจากหม้อ นั่นแสดงว่า ขนมจีบสุกแล้ว

ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนสุดท้ายในการทำขนมจีบ ตักขึ้นมาจากหม้อ พักสะเด็ดน้ำ แล้วนำมาใส่จาน นำผักชีสด ๆ ล้างสะอาด มาตกแต่งขนม เมื่อต้องการจะรับประทาน กินคู่กับซอสพริกก็อร่อยแล้ว

ขนมจีบกุ้งต้ม ชื่อเป็น “ขนม” ทว่ารสชาติ กลับไม่ใช่ขนม หากมีรสชาติเหมือนกำลังกินเกี๊ยวกุ้ง ซึ่งสำหรับบางคน การกินขนมจีบทดแทนอาหารเช้าอย่างข้าวต้ม ก็ถือว่าสะดวกและค่อนข้างอิ่มไม่แพ้กันเลยทีเดียว อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพเพราะเมนูต้ม เป็นเมนูที่ไกลห่างจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มากกว่า อาหารปิ้งย่างที่มีความเสี่ยงสูงจะเป็นมะเร็งได้

เครดิตภาพประกอบ

https://www.wongnai.com/recipes/boiled-shrimp-dumpling

อ่านบทความ : ขนมกล้วย อร่อยภายใน 30 นาที

สนับสนุนโดย : สมัครบาคาร่า กับ GCLUB เว็บบาคาร่า อันดับ1 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ มั่นคง ปลอดภัย มาแรงที่สุดในปี 2022

ขนมกล้วย เมนูขนมหวานไทย ทำง่าย กล้วย ๆ เพียง 30 นาที เท่านั้น ทำอย่างไร ห้ามพลาด บอกเลย

ส่วนผสมในการทำ ขนมกล้วย

ขนมกล้วย เมนูขนมไทยง่าย ๆ สมชื่อที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ใครก็ทำได้ เพราะเป็นเรื่องกล้วย ๆ ซึ่งในส่วนของวัตถุดิบนั้น หาได้ไม่ยาก ทั้งนี้เพราะ แทบทุกครัวเรือน ต้องปลูกต้นกล้วยรวมถึงต้นมะพร้าวเอาไว้แล้วอันเป็นอีกหนึ่งวิถีชีวิตของคนไทยที่เน้นอาศัยอยู่กันอย่างประหยัด ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เราถึงเห็นบรรดาขนมไทยต่าง ๆ ใช้วัตถุดิบภายนอกรั้วบ้านมาทำขนม

 ทว่า ใช่ว่า ทุกคนจะสามารถปลูกต้นกล้วย ต้นมะพร้าวได้เองภายนอกบ้าน อันมาจาก พื้นที่น้อยไม่เพียงพอ ก็สามารถหาซื้อกล้วยและมะพร้าวได้ตามตลาดนัดใกล้บ้าน ดังนั้น ขนมชนิดนี้ถึงเป็นอีกหนึ่งขนมยอดนิยม นำมาทำขายสร้างอาชีพ อีกทั้งในช่วงผลผลิตออกเยอะ ก็สามารถนำมาแปรรูปเป็นขนมแสนอร่อยอีกทั้งยังประหยัด หรือทำเป็นอาชีพเสริมก็ยังได้

วัตถุดิบสำหรับทำขนมกล้วย

วัตถุดิบสำหรับทำของกินเล่นชนิดนี้ เตรียมเพียงไม่กี่อย่าง อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ในครัวเรือน ง่าย ๆ  ส่วนจะมีอะไรกันบ้าง? รายละเอียดมีดังนี้

• กล้วยน้ำว้าสุกนำมาบดให้ละเอียดประมาณ ½ กิโลกรัม
• น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• แป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม
• แป้งมันสำปะหลัง 5 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
• มะพร้าวขูดฝอย ให้เลือกเป็นมะพร้าวทึนทึกถึงจะอร่อยและหอม
• ใบตองสำหรับห่อ หรือถ้วยตะไลในกรณีไม่สามารถหาใบตองมาใช้ทำขนมได้

วิธีทำง่าย ๆ กล้วย ๆ สมชื่อ

ขั้นตอนที่ 1 นำส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้แล้วก่อนหน้า อันได้แก่ กล้วยน้ำว้า แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง น้ำตาลทราย หัวกะทิ และมะพร้าวทึนทึกขูด ผสมส่วนผสมดังกล่าวทั้งหมดให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 2 นำใบตองที่จะนำมาใช้ทำ ขนมกล้วย เช็ดทำความสะอาดก่อนในเบื้องต้น ซึ่งก่อนจะหยอดส่วนผสมที่เราเตรียมไว้  ให้นำใบตองมาแผ่ออกบาง ๆ หรือจะทำเป็นรูปทรงกรวยสวย ๆ ก็ได้ รวมถึง บ้านไหนที่ไม่สามารถหาใบตองมาทำขนม ให้นำถ้วยตะไลใช้แทนใบตองก็ยังเป็นสิ่งที่ทดแทนกันได้ จากนั้น ถึงค่อยหยอดขนมลงในใบตองหรือถ้วยตะไลได้เลย 

ขั้นตอนที่ 3 เรียงขนมทั้งหมดลงในลังถึงที่น้ำกำลังเดือดปุดๆ จากนั้น ใช้เวลานึ่งขนมประมาณ 20 นาที ขนมก็สุกแล้ว เตรียมเสริ์ฟรับประทานได้เลย ซึ่งความอร่อยของขนมชนิดนี้ ให้รับประทานตอนร้อน ๆ ถึงจะอร่อยโดนใจ และถ้าสามารถแปรรูปได้ในปริมาณที่มาก ให้นำมาจำหน่ายสร้างรายได้ได้เลย ทั้งนี้เพราะ เป็นอีกหนึ่งขนมไทยที่คนนิยมมาช้านาน

เครดิตภาพประกอบ

https://www.wongnai.com/recipes/ka-nom-kluy

อ่านบทความ >> แกงขี้เหล็กสูตรโบราณ สูตรเด็ด กะทิหอม อร่อยต้องกินซ้ำ

สนับสนุนโดย >> เกมยิงปลา เกมออนไลน์รูปแบบใหม่จากทาง HILOSPEC นำมาเปิดให้บริการ ที่กำลังมาแรง รูปแบบการเล่นที่ไม่เหมือนใคร เล่นง่าย จ่ายจริง ไม่มีขั้นต่ำ > https://hilospec.com/game-yingpla/

แกงขี้เหล็กสูตรโบราณ สูตรนี้ทำไม่ยาก ขอเพียงเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม แอดมินมี วิธีทำแกงขี้เหล็กกะทิ มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ

ส่วนผสมในการทำแกงขี้เหล็กสูตรโบราณ

แกงขี้เหล็กสูตรโบราณวัตถุดิบและวิธีการทำแกงขี้เหล็กมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน บางคน อาจเพิ่มในส่วนของใบย่านาง หรือในบางรายนำใบชะอมผสมลงไปในแกงรวมถึงการนำเนื้อสัตว์อย่างหมูย่าง มาเพิ่มความอร่อย อันเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมในการทำ แกงขี้เหล็กใบย่านาง เป็นต้น ซึ่งการจะทำแกงขี้เหล็กแบบไหนนั้น ? ไม่มีผิดหรือถูก สามารถปรับให้เข้ากับความชอบรวมถึงวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นได้เลย 

วัตถุดิบ แกงขี้เหล็กสูตรโบราณ

แกงขี้เหล็กสูตรโบราณเป็นอาหารไทยโบราณที่มีรสขาติและกลิ่นค่อนข้างเฉพาะตัว โดยมีวัตถุดิบต้องเตรียมดังนี้

1.ใบขี้เหล็ก ½ กิโลกรัม

2.พริกแห้งเม็ดเล็ก 5 กรัม

3.พริกแห้งเม็ดใหญ่ 20 กรัม

4.ตะไคร้ 2 ต้น

5.กระเทียม 15 กรัม

6.หอมแดง 20 กรัม

7.ผิวมะกรูด 2 กรัม

8.รากผักชี 2 ต้น

9.ข่าแก่ 3 แว่น

10.กระชาย 20 กรัม

11.กะปิ 1 ชต.

12.พริกไทย 1 ชช.

13.เกลือ ½ ชต.

14.น้ำปลา 2 ชต.

15.ซีอิ้วขาว 2 ชต.

16.ปลาทู แกะเอาแต่เนื้อ 2 ตัว

17.ปลาอินทรีย์เค็ม 1 ชิ้น

18.สันคอหมู 500 กรัม

19.กะทิ 500 กรัม

20.น้ำตาลมะพร้าว 1 ชต.

วิธีทำ

1.คัดใบเหล็กที่เป็นส่วนก้านแข็งออกแล้วนำไปทิ้ง ล้างน้ำสะอาดประมาณ 1-2 ครั้ง เป็นการทำความสะอาดใบขี้เหล็กก่อนในเบื้องต้นก่อนนำมาทำ  แกงขี้เหล็กสูตรโบราณ จากนั้น นำใบขี้เหล็กมาบีบน้ำออก

2.เป็นขั้นตอนในการเอาความขมบางส่วนออกจากใบขี้เหล็ก โดยการรอน้ำต้มเดือด จากนั้น นำใบขี้เหล็กใส่ลงในหม้อ ต้มนานประมาณ 15 นาที เมื่อครบตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ เทน้ำเดือดทิ้งแล้วนำใบขี้เหล็กมาล้างผ่านน้ำประมาณ 1 ครั้ง โดยไม่ลืมเคล้าใบขี้เหล็กด้วยเกลือป่น จากนั้นล้างน้ำต่ออีก 1 ครั้ง แล้วบีบเอาน้ำออก เตรียมทำแกงขี้เหล็กในขั้นตอนต่อไป หรือใครที่อยากเพิ่มกลิ่นแกงให้มีความหอมเวลาเคี้ยว สามารถทำ

แกงขี้เหล็กใส่ชะอม เพิ่มในส่วนใบชะอมได้เลย

3.การตำพริกแกง ความเผ็ดเลือกตามชอบ ตามมาด้วยกระชาย หอมแดง ข่า กระเทียม ตะไคร้ รากผักชี ผิวมะกรูด พริกไทย เกลือป่น และกะปิ ตามด้วยน้ำสะอาด ลงในโถปั่น จากนั้นปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้แหลกละเอียด และท้ายสุด นำปลาทูและปลาอินทรีย์ที่เตรียมไว้ ปั่นให้เข้ากับเครื่องแกงอีกครั้ง 

4.เทเครื่องแกงออกจากโถปั่น นำกะทิตั้งไฟ  เคี่ยวหัวกะทิ รอจนกระทั่งแตกมัน วิธีสังเกตุ สีกะทิต้องดูสีเหลืองนวล ๆ และลอยขึ้นมาได้ ขั้นตอนถัดมาถึงใส่เครื่องแกงที่เราปั่นเมื่อสักครู่ ผัดส่วนผสมทั้งหมดในกะทะจนส่งกลิ่นหอม จากนั้น ทยอยเทน้ำกะทิส่วนที่เหลือลงไปให้หมด เคี่ยวจนสุก ตักใส่ชาม เตรียมรับประทานกับข้าวสวยร้อนได้เลย

แกงขี้เหล็กสูตรโบราณ เมนูนี้เหมาะสำหรับผู้สูงวัยด้วยรสชาติที่มีเป็นเอกลักษณ์ทำให้ผู้สูงวัย ไม่ว่าจะเป็น คุณปู่ คุณย่า คุณตาและคุณยาย ติดใจได้ไม่ยากอีกทั้งดีต่อสุขภาพของผู้สูงวัย ขอเพียงรสความเผ็ดลงมาสักเล็กน้อย เชื่อได้เลยว่า แกงขี้เหล็กใส่ปลาทู  จานนี้ดีต่อสุขภาพในบุคคลที่เรารักได้ไม่ยาก

เครดิตภาพประกอบ
https://www.suaheew.com/แกงขี้เหล็ก-ใส่หมูย่าง/

อ่านบทความ >> ก๋วยเตี๋ยวเรือ น้ำซุปเข้มข้น เส้นนุ่ม ๆ อร่อยล้ำ

สนับสนุนโดย >> sa-game เว็บบาคาร่า อันดับ1 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ มั่นคง ปลอดภัย บริการอย่างมืออาชีพ มีทีมงานให้คำปรึกษาในการเข้าใช้งาน

ก๋วยเตี๋ยวเรือ เมนูเส้นสูตรเข้มข้น ซดร้อน ๆ อร่อย ใครไม่อยากเดินทางไกลเพื่อมากิน ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ที่อยุธยา มาฝึกเข้าครัวทำกัน

ส่วนผสมเมื่อต้องการจะทำ ก๋วยเตี๋ยวเรือ 

เป็นอีกหนึ่งเมนูเส้นได้รับความนิยมรองลงมาจากก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ และก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารครบ 5 หมู่ อีกทั้งยังรับประทานง่าย คนทุกช่วงวัยสามารถสั่งมากินได้

ในส่วนของรสชาติ ค่อนข้างจัดจ้านอัดแน่นไปด้วยสมุนไพร น้ำของก๋วยเตี๋ยว สีจะค่อนข้างข้นเหมือนก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ มีการนำเครื่องปรุงมาใส่ไม่เหมือนกับเมนูก๋วยเตี๋ยวอื่น ๆ ซึ่งเครื่องปรุงที่ว่าได้แก่ เต้าหู้ยี้ ซีอิ้วดำ รวมถึงเครื่องเทศอื่น ๆ ที่แอดมินจะลงไว้ในส่วนของรายชื่อวัตถุดิบ

ความเป็นมา เป็นก๋วยเตี๋ยวที่อยู่คู่คนไทยมาช้านานซึ่งแต่เดิมจะเป็นการพายเรือเพื่อขายก๋วยเตี๋ยว เลยเป็นที่มาของคำว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือจนมาถึงปัจจุบัน

 ในส่วนของการปรุงก๋วยเตี๋ยว จะมีวิธีการทำอย่างไร ? โปรดติดตาม ที่นี่มีคำตอบ

วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวเรือ

เริ่มจากการเตรียมน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือ วัตถุดิบมีดังนี้

1.เล้ง ½ กก.

2.น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง

3.ซอสปรุงรส 5 ชต.

4.ยี่หร่า 1 ชต.

5.ใบเตย 7 ใบ

6.ลูกผักชี 3 ชต.

7.กะทิ 100 มล.

8.พริกหอม 2 ชต.

9.โป๊ยกั๊ก 10 ดอก

10.อบเชย 4 แท่ง

11.เต้าหู้ยี๊พร้อมน้ำ 7 ก้อน

12.น้ำกระเทียมดอง 1 ถ้วยตวง

13.ซีอิ้วดำ 5 ชต.

วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยว

1.เส้นก๋วยเตี๋ยว

2.เนื้อหมูหั่นชิ้น

3.ตับหั่นชิ้น

4.เลือดหมู

5.ถั่วงอก

6.ผักบุ้ง

7.กระเทียมเจียว

วิธีทำ

1.การเตรียมสมุนไพร ก๋วยเตี๋ยวเรือเริ่มจากนำอบเชย โป๊ยกั๊ก ลูกผักชี ยี่หร่าและพริกหอม นำมาห่อในผ้าขาวบาง ใช้เชือกรัดให้แน่น นำไปต้มในน้ำซุป

2.ทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวให้อร่อยเหมือน ก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิต โดยการนำหม้อมาตั้งบนเตาแก้ส เทน้ำเปล่าลงไป ใช้ไฟแรง รอกระทั่งน้ำเดือด ใส่เล้งลงไปต้ม รอน้ำเดือดอีกครั้ง นำห่อสมุนไพรที่เตรียมไว้ หย่อนลงไปในหม้อต้มเล้ง ปรุงรสด้วยซีอิ้วดำ กะทิ ซอสปรุงรส น้ำกระเทียมดอง เต้าหู้ยี้และใบเตย ต้มให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นหรี่ไฟ มาเป็นไฟอ่อน ตุ๋นต่อ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำซุปข้นและหอม ระหว่างนั้น ให้หมั่นช้อนฟองทิ้ง

ขั้นตอนสุดท้าย ตักเลือดหมูใส่ชาม ตามด้วยน้ำซุปร้อน ๆ จากหม้อเพื่อให้เลือดหมูสุกอีกทั้งยังดูข้นน่ากินเหมือน ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ ตามด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวลวกสุก ผักบุ้งและถั่วงอกลวกสุกต่อด้วยเนื้อหมูหั่นชิ้นและตับหั่นชิ้นขนาดพอดีคำ ราดน้ำซุปและโรยน้ำมันกระเทียมเจียว เพียงเท่านี้ก็อร่อยแล้ว

ก๋วยเตี๋ยวเรือ สูตรนี้ ทำไม่ยากเลย ในส่วนของตัวเส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ หมี่วุ้น หรือจะเป็นวุ้นเส้น ก็อร่อย เข้ากันดี อีกทั้งรับประทานแล้วไม่อ้วนอีกด้วย

เครดิตภาพประกอบ

https://www.sgethai.com/article/ก๋วยเตี๋ยวเรือ-สูตรทำขา/

อ่านบทความ >> ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ผัดในกะทะร้อน หอม ๆ จนอยากสั่งเพิ่ม

สนับสนุนโดย >> sa-game กับเว็บบาคาร่า อันดับ1 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ มั่นคง ปลอดภัย 100% มาแรงที่สุดในปี 2022

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ หอม ๆ จากกะทะ ผัดจนสุก กินกับซอสพริกและผักกาดขาว อร่อยเหมือน ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เจ้าอร่อย ที่รู้จัก

ส่วนผสมในการทำ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เมนูเส้นนำมาผัดในกะทะร้อน ๆ หลายคนนึกสงสัย ระหว่างก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กับผัดซีอิ้วมีความแตกต่างกันอย่างไร  ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ใส่อะไรบ้าง คำตอบคือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ วัตุดิบหลักและต้องมีในการทำก๋วยเตี๋ยวเมนูนี้คือปลาหมึกกรอบกับไข่ไก่ ถึงจะเรียกได้ว่า เป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วจริง ๆ ในส่วนของเนื้อสัตว์ เปลี่ยนเป็นเนื้อหมูก็ยังได้ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการจะควบคุมน้ำหนัก เนื้อไก่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับผัดซีอิ้ว วัตถุดิบในการทำ จะไม่มีปลาหมึกกรอบ นี่คือความแตกต่างของ 2 เมนูนี้

วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่

การเตรียมในส่วนวัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ อยู่ที่การเลือกเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ต้องสด และเป็นเส้นสำหรับผัดเท่านั้น

1.เนื้อไก่ ½ กก.

2.ซอสปรุงรส 1 ชต.

3.ซอสหอยนางรม 2 ชต.

4.ซีอิ้วขาว 1 ชต.

5.กระเทียม 3 กลีบ

6.พริกไทย ½ ชต.

7.น้ำตาล ½ ชต.

8.แป้งข้าวโพด 2 ชต.

9.น้ำมันพืช 2 ชต.

10.ไข่เป็ด 2 ฟอง

11.ปลาหมึกกรอบ

12.เส้นก๋วยเตี๋ยว 300 กรัม

13.ซีอิ้วขาว 2. ชต.

14.ซอสปรุงรส 2 ชต.

15.พริกไทยป่น 1 ชช.

16.น้ำตาลทราย ½ ชต.

17.ต้นหอมซอย

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1. เริ่มจากการนำเนื้อไก่ที่เราเตรียมไว้สำหรับทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ไปหมักกับเครื่องปรุงรส ได้แก่ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย กระเทียมสับและพริกไทยป่น โดยไม่ลืมเติมแป้งข้าวโพดลงไป เพื่อทำให้เนื้อไก่ที่เราหมักเกิดความนุ่ม จากนั้นถึงคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 2 

วิธีทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สูตรโบราณ

หลังจากหมักเนื้อไก่ประมาณ 1 ชม. นำออกมาจากตู้เย็น ตั้งกะทะแล้วใช้ไฟกลาง จากนั้นเทน้ำมันลงในกะทะ ผัดเนื้อไก่หมัก ปลาหมึกกรอบ ผัดกระทั่งเนื้อไก่สุก สูตรนี้เป็นสูตรโบราณ อร่อย

ขั้นตอนที่ 3 ตอกไข่ไก่ลงในเนื้อไก่ที่กำลังผัดเพื่อให้ไข่ไปเคลือบกับเนื้อไก่จนทั่ว จนมาถึงขั้นตอนสำคัญ ผัดก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ แล้วปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ้วขาว พริกไทย น้ำตาลตามด้วยต้นหอมเป็นสิ่งสุดท้าย ผัดทุกอย่างในกะทะให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 4 รองจานด้วยผักกาดหอมเหมือนในร้านอาหาร ตักก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ลงในจาน กินคู่กับซอสพริก

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ อาหารจานด่วนง่าย ๆ อร่อยเหมือนอาหารเหลา การจะกิน ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กินยังไง นอกจากกินคู่กับซอสพริกดังที่กล่าวไปแล้ว ยังสามารถกินกับผักกาดขาว จะเป็นการกินที่ค่อนข้างลงตัวมาก ๆ คุณค่าทางสารอาหารครบครัน อีกทั้งกินแล้วยังไม่อ้วน เป็นอีกหนึ่งอาหารสำหรับนักกีฬาที่สามารถไปสร้างพลังงานให้เกิดขึ้นภายในร่างกายภายหลังผ่านการวิ่งหรือออกกำลังกายมาอย่างหนัก 

https://www.shopback.co.th/blog/สูตรก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่/

อ่านบทความ >> ข้าวกะเพราหมูสับ แห้ง ๆ หอม ๆ ง่ายและอร่อยมาก

สนับสนุนโดย >> sa-game กับเว็บบาคาร่า อันดับ1 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ มั่นคง ปลอดภัย 100% มาแรงที่สุดในปี 2022

ข้าวกะเพราหมูสับ หอม ๆ เผ็ด ๆ ทำเองได้ที่บ้านไม่แพ้ร้านอาหาร เป็นเมนู ผัดกะเพรา อร่อยที่สุดในโลก ข้าวจานด่วน ใครก็ชอบ

ส่วนผสมในการทำข้าวกะเพราหมูสับ

ข้าวกะเพราหมูสับ อาหารจานด่วน นอกจากอร่อยและถูกปากแล้ว ส่วนผสมที่ต้องเตรียม มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น เรียกได้ว่า หาได้จากรอบรั้วบ้านกันเลยทีเดียวเมื่อคิดจะทำ กะเพราหมูสับโบราณ ขึ้นมาเมื่อไหร่ บอกเลย สูตรนี้ เด็ดตรงสีสัน รวมถึงความหอม แห้งและไม่อมน้ำมันซึ่งทางแอดมินได้สรรหาแนวทางในการทำ มาฝากดังนี้

วัตถุดิบ ข้าวกะเพราหมูสับ

ผัดกะเพราสูตรโบราณ ส่วนผสมที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย

1.ใบกระเพรา ประมาณ 1 กำมือ 

2.หมูบด ½ กก.

3.กระเทียม 5 กลีบ นำมาสับพอหยาบ ๆ 

4.พริกชี้ฟ้า 5 เม็ด หั่นจนละเอียด

5.ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา

6.น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ

7.น้ำมันหอย 2 ช้อนชา

8.ซีอิ้วดำ ½ ช้อนโต๊ะ

7.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

8.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ข้าวกะเพราหมูสับความน่าสนใจของเมนูนี้ อยู่ตรง การเตรียมส่วนผสมน้อย ทว่า อร่อย เป็นเมนูด่วนที่ทุกเพศทุกวัยสามารถรับประทานได้ ในส่วนของขั้นตอนการทำนั้น ไม่ยากเลย 

ขั้นตอนที่ 1 ผัดกะเพราใส่อะไรบ้าง ซึ่งในส่วนของวัตถุดิบได้ตระเตรียมไว้แล้ว เริ่มต้น เทน้ำมันลงในกะทะ จากนั้น นำกระเทียมสับและพริกที่โขลกหยาบ ๆ ลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม อีกทั้งสีกระเทียมยังเป็นสีเหลืองทอง ถือว่าเป็นอันใช้ได้

ขั้นตอนที่ 2 ตามด้วยหมูบด ผัดและคลุกเคล้าเนื้อหมูให้เข้ากันดีกับส่วนผสมขั้นตอนที่ 1 กระทั่งหมูบดสุกโดยทั่วถึง ให้นำเครื่องปรุงรสทั้งหมด อันประกอบไปด้วย น้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ้ว ผัดจนเข้ากัน และไม่ลืมเพิ่มสีสันกะเพราให้ดูน่ารับประทานโดยการนำ ซีอิ้วดำ เหยาะลงไปในเนื้อหมูที่กำลังผัด คลุกให้เข้ากัน ให้สีซีอิ้วดำกระจายทั่วถึง ผัดต่อไปจนแห้ง โดยมีวิธีการสังเกตง่าย ๆ นั่นก็คือ น้ำที่อยู่ในหมูบดได้ระเหยออกไปจนหมดอันเกิดจากความร้อนซึ่งในส่วนนี้ ให้ใช้ไฟกลาง ผัดไปเรื่อย ๆ จนไม่เห็นน้ำออกมาจากเนื้อหมูบดอีก เตรียมขั้นตอนต่อไปได้เลย

ขั้นตอนสุดท้าย เติมใบกะเพรา คลุกให้ใบกะเพราสลบ ก็เป็นอันใช้ได้ สำหรับใครที่อยากรับประทานไปพร้อมกับไข่ดาว ให้ทำเพิ่มขึ้นมาได้เลย ก็จะได้ ข้าวกะเพราหมู กินคู่กับไข่ดาวแสนอร่อยแล้ว

ข้าวกะเพราหมูสับ เมนูอาหารจานด่วนที่เรียกได้ว่าอร่อยง่าย ๆ ทว่าครบ จบที่เมนูเดียว ได้ทั้งในเรื่องความอร่อยแบบไทย ๆ ทั้งเผ็ด แซ่บ นัว ไปจนถึง คุณค่าทางสารอาหาร อันได้แก่ โปรตีนจากเนื้อหมูและไข่ดาว วิตะมินและเกลือแร่จากใบกะเพรา คาร์โบไฮเดรตจากข้าว รวมถึง สมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยในเรื่องการเผาผลาญอย่างพริก และแก้ท้องอืดท้องเฟ้อจากใบกะเพรา จะเห็นได้ว่า เป็นทั้งเมนูอาหารและดูแลร่างกายไปด้วยพร้อมกัน

เครดิตภาพประกอบ

https://www.sanook.com/women/180929/

อ่านบทความ >> ข้าวขาหมู เมนูอาหารจานเดียวที่คนไทยไม่เคยเบื่อ

สนับสนุนโดย >> sa-game กับเว็บบาคาร่า อันดับ1 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ มั่นคง ปลอดภัย 100% มาแรงที่สุดในปี 2022

ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม สูตรแป้งนุ่ม ยืด ๆ บาง ๆ จะอร่อยเท่า เปี๊ยะโมจิลาวาไข่เค็ม 7 11 หรือไม่  ติดตามไปพร้อมกัน

ส่วนผสมในการทำ ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม

ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม กระแสกำลังมาแรงแซงโค้งขนมชนิดอื่น ๆ ในขณะนี้ ตรงจุดเด่นความเป็นลาวาไข่เค็มเยิ้ม ๆ ชวนรับประทาน จะหาซื้อกินหรือจะทำเองที่บ้าน แอดมินมีเคล็ดลับดี ๆ ในการทำขนม เปี๊ยะไข่เค็มลาวา รีวิว ดี ๆ มาฝาก

วัตถุดิบสำหรับทำ ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม

ส่วนผสมไส้ไข่เค็ม

• แป้งข้าวโพด 150 กรัม
• ไข่แดงเค็มนึ่งสุก ประมาณ 15 ลูก
• นมข้นจืด 225 มิลลิลิตร
• เนยจืดละลาย 90 กรัม
• เกลือป่น ¼ ชช.
• น้ำตาลทราย 180 กรัม

ส่วนผสมสำหรับแป้งชั้นใน

• แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ½ ถ้วยตวง
• ไข่ไก่ (ไข่แดง) 2 ฟอง
• ไข่แดงทาหน้าขนม
• น้ำมันพืช 5 ชต.
• น้ำเปล่า 2 ชต.
• สีผสมอาหาร สีเหลืองไข่ 1 ชช.
• งาขาว/งาดำ สำหรับแต่งหน้า

ส่วนผสมสำหรับแป้งชั้นนอก

• แป้งสาลีเอนกประสงค์ 3 ถ้วยตวง
• น้ำเปล่า 165 มิลลิลิตร
• น้ำตาลทราย 5 ชต.
• น้ำมันพืช ½ ถ้วยตวง

วิธีทำขนมเปี๊ยะ

จะมีความใกล้เคียงกับ สูตรเปี๊ยะไข่เค็มลาวา แป้งโมจิ ตรงแป้งจะบาง ดูน่ากิน โดยมีขั้นตอนการทำไม่ยากดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ในส่วนของตัวไส้ นำส่วนผสมทั้งหมดลงปั่นในโถ เทลงในพิมพ์ซิลิโคนขนาด 5 ซม.ที่เตรียมไว้ แล้วแช่เย็นประมาณ 8-10 ชม. หรือจนกว่าไส้ขนมจะแข็ง

ขั้นตอนที่ 2 ในส่วนของแป้งชั้นในที่จะทำ ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม ให้เอาแป้งผสมกับน้ำมัน นวดจนเข้ากัน แล้วพักแป้ง 15 นาที รอกระทั่งเวลาครบ ในส่วนของแป้งชั้นนอก ตัดแบ่งออกเป็นก้อน ๆ ละ 25 กรัม ในขณะที่แป้งชั้นใน ตัดแบ่งเป็นก้อน ๆ ละ 10 กรัม

ขั้นตอนที่ 3 นำแป้งชั้นนอกมาคลึงเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วใส่แป้งชั้นใน ห่อจนมิด แล้วพักแป้ง 15 นาที เพื่อให้ได้มาซึ่ง เปี๊ยะไข่เค็มลาวา แป้งเหนียวนุ่ม ชวนรับประทาน

ขั้นตอนที่ 4 ครบกำหนดเวลาเมื่อไหร่ ให้เอาไส้ออกจากพิมพ์ ในส่วนของตัวแป้ง คลึงเป็นแผ่นบางแล้ววางไส้ไว้ตรงกลาง ห่อให้มิดชิด จากนั้น นำเข้าเตาอบ อุณหภูมิประมาณ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบนล่าง ใช้เวลาอบ 10 นาที

ขั้นตอนสุดท้าย ไข่แดง น้ำเปล่า สีผสมอาหาร คนให้เข้ากันเพื่อนำมาแต่งหน้าขนม รอกระทั่งครบเวลา นำขนมออกจากเตาอบ ใช้ไข่แดงทาหน้าขนม 2 รอบ โรยงา แล้วอบต่อ 5 นาที จนเสร็จ นำออกจากเตาอบ พักขนมให้เย็น รอรับประทานได้เลย เป็น เปี๊ยะไข่เค็มลาวา ราคา แสนแพง เพราะทำด้วยใจ

เครดิตภาพประกอบ

https://www.sanook.com/women/180165/

อ่านบทความ >> วุ้นปีโป้นมสด เมนูขนมหวานขวัญใจเด็ก ๆ

สนับสนุนโดย >> sa-game กับเว็บบาคาร่า อันดับ1 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ มั่นคง ปลอดภัย 100% มาแรงที่สุดในปี 2022