สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตรแพนเค้กเนื้อนุ่มฟู สไตล์ญี่ปุ่น แสนอร่อย ใครกินก็ต้องติดใจ

แพนเค้ก

ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ขนมหวานของญี่ปุ่นเชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้เรามีสูตรแพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่นมาแนะนำทุกคนค่ะ ใครที่อยากทำแพนเค้กฟูนุ่มสไตล์ญี่ปุ่นกินเองที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นต้องไม่พลาดกับสูตรแพนเค้กนี้ค่ะ ซึ่งแพนเค้กชิ้นกลม เนื้อนุ่มฟู แสนอร่อยนี้ เป็นขนมหวานยอดฮิตที่มีขายโดยทั่วไปตามร้านคาเฟ่ญี่ปุ่น โดยเทคนิคการทำให้แพนเค้กฟูดูนุ่มนิ่มได้นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ ยิ่งใครที่เคยทำแพนเค้กอยู่แล้ว ถ้าลองนำสูตรนี้ไปใช้บอกเลยว่าทำได้ง่ายสบายมาก ๆ เพราะสูตรนี้ก็เหมือนกับสูตรการทำแพนเค้กทั่วไปนั่นแหละค่ะ แต่สิ่งสำคัญของการทำแพนเค้กให้ขึ้นฟู และมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมนั้นมันขึ้นอยู่กับส่วนผสม และวิธีทำที่ถูกต้อง และเมื่อไม่นานมานี้เราก็ได้ค้นพบสูตรแพนเค้กเนื้อนุ่มฟู สไตล์ญี่ปุ่นจากช่อง YouTube ที่มีชื่อช่องว่า 뚤기ddulgi รับรองเลยว่าสูตรนี้จะทำให้แพนเค้กของคุณมีเนื้อที่นุ่มนิ่มขึ้นฟู อร่อยจนห้ามใจไม่ไหวแน่นอน แต่จะมีส่วนผสมและวิธีทำอย่างไรบ้าง สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

แพนเค้ก

ส่วนผสมของสูตรแพนเค้กเนื้อนุ่มฟู สไตล์ญี่ปุ่น

ใครที่เคยทำแพนเค้กมาแล้วคงทราบกันดีว่าสูตรแพนเค้ก สไตล์ญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่า Souffle Pancake นั้นมีหลากหลายสูตร โดยปกติมักขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีทำของแต่ละคน ซึ่งการทำแพนเค้กญี่ปุ่นให้มีเนื้อนุ่ม ๆ ขึ้นฟูนั้นหัวใจหลักอยู่ที่การแยกไข่ขาวและไข่แดง โดยไข่แดงนำไปผสมกับส่วนผสมต่าง ๆ ส่วนไข่ขาวนำไปตีผสมกับน้ำตาลจนขึ้นฟูกลายเป็นเมอแรงค์สีขาวฟูฟ่อง และนี่คือส่วนผสมทั้งหมดสำหรับทำขนมหวานแพนเค้กเนื้อนุ่มฟู สไตล์ญี่ปุ่น 

ส่วนผสมสำหรับทำแพนเค้กญี่ปุ่น 

  1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  2. นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
  3. กลิ่นวานิลลา (vanilla extract) ½ ช้อนโต๊ะ
  4. แป้งเค้ก (Soft flour) 4 ช้อนโต๊ะ หรือ 33 กรัม
  5. ผงฟู ½ ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ หรือ 23 กรัม
  7. น้ำมันมะกอก
  8. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ 
  9. เนยก้อน
แพนเค้ก

ขั้นตอนและวิธีทำแพนเค้กเนื้อนุ่มฟูสไตล์ญี่ปุ่น

หลังจากที่เตรียมส่วนผสมของสูตรแพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคือวิธีทำแพนเค้ก ขอบอกเลยว่าวิธีทำสูตรนี้จะทำให้แพนเค้กนุ่มละลายในปาก รสชาติอร่อยจนไม่อาจหยุดกินได้เลยค่ะ และนี่คือขั้นตอนการทำแพนเค้กเนื้อนุ่มฟูสไตล์ญี่ปุ่น 

วิธีทำแพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่น

  1. นำไข่ไก่มาแยกไข่ขาวกับไข่แดงออกจากกัน แล้วนำไข่แดงมาตีให้ละลาย จากนั้นใส่นมสด และกลิ่นวานิลลา ลงไปตีให้เข้ากัน พักไว้ 
  2. นำไข่ขาวที่แยกเอาไว้ มาตีระหว่างนั้นก็ใส่น้ำตาลทีละ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปตีเรื่อย ๆ จนกว่าไข่ขาวจะเป็นเมอแรงที่ข้นและขึ้นฟูแน่นเต็มชาม (แนะนำให้ใช้เครื่องตีแป้งค่ะ) 
  3. ตักไข่ขาวที่ตีเป็นเมอแรง ไปผสมในชามไข่แดงที่ตีพักไว้ โดยตักช้อนแรกให้รีบคนให้เข้ากันจนเนื้อเนียนเป็นสีเหลืองอ่อน 
  4. จากนั้นช้อนที่สองและสาม ให้ค่อย ๆ ตะล่อมไข่ขาวให้เข้ากับไข่แดง โดยควักจากด้านล่างขึ้นข้างบน ทำวน ๆ ไปอย่างช้า (อย่าตีแรง เพราะถ้าตีแรง เนื้อจะแยกออกจากกัน) จนได้เนื้อข้นไม่เหลว ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว 
  5. ตั้งกระทะให้ร้อนอ่อน ๆ ใส่น้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำทิชชู่เช็ดออก ให้เหลือน้ำมันพอเคลือบกระทะ
  6. ตักแป้งแพนเค้กที่เตรียมไว้ลงบนกระทะ แล้วจัดให้ได้ทรงกลมเพื่อเป็นฐาน จากนั้นตักแป้งแพนเค้ก ½ ของช้อนแรก ไว้ด้านบนเป็นชั้นที่ 2 จากนั้นปิดฝาให้ด้านในระอุ โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที 
  7. เมื่อเวลาครบแล้ว ให้ใส่แป้งแพนเค้กเพิ่มอีกเป็นชั้นสุดท้ายด้านบน โดยทิ้งไว้อีกประมาณ 1 นาที จากนั้นใส่น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะลงไปในกระทะให้ทั่ว แล้วปิดฝาอีกครั้ง โดยทิ้งไว้อีกประมาณ 1 นาที 
  8. จากนั้นกลับแป้งแพนเค้กอีกข้าง แล้วเติมน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ และปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 3-4 นาที 
  9. ตักแพนเค้กออกจากกระทะ แล้วนำไปจัดวางบนจาน จากนั้นนำเนยก้อนหั่นบาง ๆ วางไว้ด้านบนแพนเค้ก หรือราดน้ำผึ้งและกินคู่กับผลไม้ก็ได้ตามความชอบเลยค่ะ
Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

เว็บพนันบอล ดีที่สุด

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตรบราวนี่ หน้ากรอบ เนื้อหนึบหนับ ทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ง้อร้าน

บราวนี่

สวัสดีค่าาา ถ้าหากพูดถึงขนมยอดฮิตที่ถูกอกถูกใจวัยรุ่น หลายคนคงจะนึกถึงขนมบราวนี่ ขนมเบเกอรี่ที่เรามักจะเห็นตามร้านคาเฟ่ทั่วไป ซึ่งสูตรบราวนี่ของแต่ละร้านก็จะแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เฉพาะตัว บางคนชอบบราวนี่แบบเนื้อฉ่ำ หนึบหนับ หรือเนื้อนุ่มแบบเค้ก แต่ฉ่ำรสชาติเหมือนคาราเมล แล้วคุณล่ะ ชอบบราวนี่แบบไหน? แบบเนื้อเค้กฉ่ำ? หรือแบบหน้ากรอบเนื้อฉ่ำหนึบหนับ? ซึ่งวันนี้เราจะมาเผยความลับในการทำบราวนี่หน้ากรอบ เนื้อหนึบหนับแบบฉบับง่าย ๆ สามารถทำกินเองที่บ้าน หรือทำขายก็ดี มาแนะนำเหล่าสาวกผู้ชื่นชอบการกินบราวนี่ แต่จะมีส่วนผสมและวิธีทำอย่างไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

บราวนี่

ส่วนผสมสำหรับสูตรบราวนี่หน้ากรอบ เนื้อหนึบหนับ 

ขนมบราวนี่เป็นอีกหนึ่งขนมเบเกอรี่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรบราวนี่ที่ใช้ส่วนผสมและวิธีทำที่ถูกต้องยิ่งจะช่วยทำให้ขนมบราวนี่ของคุณมีเนื้อสัมผัสที่ดี โดยเนื้อบราวนี่ที่ดีควรจะหน้ากรอบเล็กน้อย เวลาเคี้ยวเนื้อหนึบหนับนิด ๆ ชุ่มฉ่ำหน่อย ๆ ซึ่งแน่นอนว่าการทำเนื้อบราวนี่ให้ได้รสสัมผัสแบบนี้ นั่นต้องเลือกใช้ส่วนผสมและวิธีทำที่ถูกต้อง ซึ่งหลังจากที่เราได้ค้นหาสูตรบราวนี่มาหลายแหล่ง จนในที่สุดเราก็พบสิ่งที่สำคัญ 2 ประการ สำหรับการทำบราวนี่ให้สมบูรณ์แบบ นั่นคือ

  1. การทำบราวนี่ด้วยผงโกโก้ คุณควรใช้การอบช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตชิปเพื่อให้ได้หน้าบราวนี่ที่กรอบอร่อย
  2. ควรตีครีมเนยและน้ำตาลก่อน จนกว่าส่วนผสมทั้งสองจะซีดและฟู (ใช้เวลาในการตีประมาณ 5-6 นาที) สิ่งสำคัญที่สุดคือ การผสมส่วนผสมของแป้งหลังจากใส่ไข่ลงไป (ประมาณ 5 นาที) เพื่อให้อากาศเข้าไปในส่วนผสมและทำให้เกิดชั้นเมอแรงค์กรอบ ๆ ก่อตัวบนบราวนี่

ส่วนผสมสำหรับทำบราวนี่ หน้ากรอบ

  1. แป้งอเนกประสงค์ 2/3 ถ้วย
  2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยครึ่ง 
  3. เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ (ที่อุณหภูมิห้อง)
  4. ดาร์กช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตละลาย 200 ml
  5. ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ผงเอสเปรสโซ่ ½ ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
  8. กลิ่นวานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
  9. ไข่ไก่เบอร์หนึ่ง 2 ฟอง 

สิ่งที่ต้องรู้

  • อย่าผสมส่วนผสมน้ำมากเกินไปหลังจากเพิ่มส่วนผสมแห้ง มิฉะนั้น เนื้อสัมผัสของบราวนี่จะเปลี่ยนไป!
  • อย่าอบนานเกินไป มิฉะนั้น ด้านในของบราวนี่จะกลายเป็นเหมือนเค้กมากกว่าที่จะหนึบหนับ
  • เนยต้องอยู่ในอุณหภูมิห้องเท่านั้น! 
บราวนี่

วิธีทำบราวนี่หน้ากรอบเนื้อหนึบหนับแบบง่าย

หลังจากที่เตรียมส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นการลงมือทำบราวนี่ โดยสูตรบราวนี่ สูตรนี้เป็นสูตรแบบง่าย อบด้วยไมโครเวฟ ซึ่งเป็นวิธีทำที่สามารถทำกินเองได้ที่บ้าน หรือจะทำขายเป็นอาชีพเสริมก็รุ่ง และนี่คือขั้นตอนการทำขนมบราวนี่หน้ากรอบเนื้อหนึบหนับแบบง่าย

วิธีทำบราวนี่หน้ากรอบเนื้อหนึบหนับ

  1. เตรียมชามผสมก้นลึก ใส่เนยจืดและน้ำตาล แล้วตีส่วนผสมให้เข้ากันใช้เวลาตีประมาณ 5-6 นาที หรือจนกว่าส่วนผสมทั้งหมดฟู
  2. จากนั้นใส่ไข่และกลิ่นวานิลลาสกัดลงไป แล้วตีส่วนผสมให้เข้ากัน โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที
  3. ใช้ชามผสมขนาดเล็ก ผสมผงเอสเปรสโซ่กับน้ำอุ่น 
  4. เตรียมชามผสมแป้ง ใส่แป้งอเนกประสงค์ลงไป แล้วเพิ่มส่วนผสมเอสเปรสโซ่ลงไปผสมกับแป้งจนเข้ากันดี
  5. จากนั้นใส่ดาร์กช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตละลายแล้วลงไปผสมจนเข้ากันดี
  6. ใช้ชามผสมแยกต่างหาก กรองส่วนผสมแป้งและผงโกโก้
  7. นำส่วนผสมแห้งนี้ใส่ลงไปผสมกับทุกอย่างให้เข้ากัน แต่อย่าผสมมากเกินไป!
  8. เทแป้งบราวนี่ลงในถาดสี่เหลี่ยมที่ปูด้วยกระดาษฟอยล์และพ่นด้วยน้ำมัน แล้วใช้ไม้พายเกลี่ยแป้งให้ทั่วถาด
  9. นำไปอบในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิ 350 องศาเป็นเวลาประมาณ 35-40 นาที หรือลองนำไม้จิ้มฟันไปจิ้มที่เนื้อบราวนี่ สังเกตว่าเนื้อเหนียวหนึบใช้ได้แล้วหรือไม่
  10. ปล่อยให้บราวนี่เย็นลง จากนั้นหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัดใส่จานพร้อมรับประทานแล้วค่ะ

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

แทงบอลออนไลน์

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตรขนมปังเนื้อนิ่ม ไขมันต่ำ ปราศจากน้ำตาล กินแล้วไม่อ้วน

ขนมปังเนื้อนิ่ม

ขนมปัง ถูกยกให้เป็นหนึ่งในอาหารเช้ายอดฮิตของประเทศทางฝั่งยุโรป ปัจจุบันขนมปังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นอาหารที่เรียบง่าย มักถูกนำมารับประทานคู่กับกาแฟ เนย เนยถั่ว แยมผลไม้ น้ำผึ้ง หรือทำเป็นแซนด์วิช โดยทั่วไปขนมปัง ทำมาจากแป้งสาลีที่ผสมกับน้ำและยีสต์ หรือผงฟู นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่ช่วยแต่งสี รสชาติและกลิ่น ซึ่งสูตรขนมปังจะแตกต่างกันไปตามประเภทของขนมปัง และสูตรของแต่ละคน ส่วนสำหรับสาว ๆ คนไหนที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องแป้งในขนมปัง วันนี้เราก็มีสูตรขนมปังแบบคีโต มาแนะนำทุกคน ขอบอกเลยว่าสูตรนี้เป็นสูตรขนมปังเนื้อนิ่ม ไขมันต่ำ ปราศจากน้ำตาล กินแล้วไม่อ้วนแน่นอนค่ะ ที่สำคัญมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย 

ขนมปังเนื้อนิ่ม

ส่วนผสมของสูตรขนมปังคีโต ขนมปังไขมันต่ำ ปราศจากน้ำตาล

ขนมปังแบบคีโตคืออะไร? ขนมปังคีโตเป็นอาหารทางเลือกที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เป็นสูตรขนมปังที่ไม่มีส่วนผสมของแป้งขาวหรือแป้งสาลี เพราะขนมปังคีโตทำจากแป้งอัลมอนด์และมักไม่ใส่ยีสต์ ที่สำคัญปราศจากน้ำตาลอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนัก หรือกำลังลดน้ำหนัก โดยปกติขนมปังคีโตจะมีขายทั่วไปตามร้านเบเกอรี่ แต่อย่าลืมว่าถึงแม้ร้านจะบอกว่านี่คือขนมปังที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่เพื่อความมั่นใจของผู้บริโภคขนมปังสูตรโฮมเมดดีกว่าแน่นอนค่ะ และนี่คือส่วนผสมสำหรับทำขนมปังคีโต สูตรโฮมเมด ขนมปังแป้งนุ่ม กินแล้วไม่อ้วน ที่สำคัญมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยวัตถุดิบหลักก็คือแป้งอัลมอนด์ ที่ทำมาจากอัลมอนด์แท้ ๆ ใครที่เป็นสายคีโต ไม่ควรพลาดกับสูตรขนมปังนี้ค่ะ

ส่วนผสมสำหรับทำขนมปังคีโต 

  1. แป้งอัลมอนด์ 1¼ ถ้วยตวง
  2. เมล็ดแฟลกซ์บดละเอียด ¼ ถ้วยตวง
  3. เกลือ ½ ช้อนชา
  4. เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  5. ไข่ไก่เบอร์หนึ่ง 5 ฟอง
  6. น้ำเชื่อมกลิ่นเมเปิ้ลคีโต 1 ช้อนโต๊ะ
  7. แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  9. งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
ขนมปังเนื้อนิ่ม

ขั้นตอนและวิธีทำขนมปังคีโต

หลังจากที่เตรียมส่วนผสมของสูตรขนมปังคีโตเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคือวิธีทำขนมปังแบบคีโต ขนมปังเนื้อนิ่ม ไขมันต่ำ ปราศจากน้ำตาล สามารถทำตามได้ง่าย ๆ โดยมีขั้นตอนการทำดังนี้

วิธีทำขนมปังคีโต

  1. เริ่มต้นด้วยการเตรียมชามผสมขนาดใหญ่ ใส่แป้งอัลมอนด์ เมล็ดแฟลกซ์บดละเอียด เบกกิ้งโซดา และเกลือ แล้วผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 
  2. เตรียมชามผสมอีกชาม ใส่ไข่ไก่ น้ำเชื่อมกลิ่นเมเปิ้ลคีโต แอปเปิ้ลไซเดอร์ และน้ำมันมะกอก แล้วตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  3. นำส่วนผสมแห้ง(ข้อ 1) และส่วนผสมเปียก(ข้อ 2) มาผสมกัน แล้วตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  4. วอร์มเตาอบด้วยไฟ 180 องศาเซลเซียส ระหว่างนั้นก็เตรียมถาดอบขนมปังขนาด 9 x 4 นิ้ว รองด้วยกระดาษ parchment 
  5. ใส่แป้งขนมปัง(ข้อ 3) ลงไปในถาดที่เตรียมไว้ โรยหน้าขนมปังด้วยงาดำ จากนั้นปิดถาดด้วยกระดาษฟอยล์ดีบุก แล้วนำไปเข้าเตาอบใช้เวลาอบประมาณ 40 นาที อย่าลืมเอากระดาษฟอยล์ออก 10 นาทีก่อนขนมปังจะสุก
  6. ปล่อยให้ขนมปังเย็นในถาดประมาณ 10 นาที ก่อนแล้วค่อยเอาขนมปังออกจากถาดมาวางไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ขนมปังคีโตเนื้อนุ่ม แสนอร่อยแล้วค่ะ

สิ่งที่ควรรู้

  • คุณต้องปิดขนมปังด้วยกระดาษฟอยล์ดีบุกก่อนนำเข้าเตาอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ขนมปังเป็นสีน้ำตาลเร็วเกินไป หรือไหม้
  • ควรวางกระดาษ parchment ให้ยื่นออกมาจากถาดประมาณ 1-2 นิ้ว เพราะเมื่อขนมปังสุกจะได้เอาขนมปังออกมาจากถาดได้ง่ายมากขึ้น
  • ยี่ห้อและรุ่นของเตาอบแตกต่างกัน ดังนั้นให้ลองใช้เวลาอบประมาณ 35 นาที หากสังเกตพบว่าขนมปังยังไม่สุกให้อบต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

สูตรขนมปังคีโตนี้ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม และยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินเอ แคลเซียม และธาตุเหล็กที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งขนมปังคีโตยังสามารถนำไปทำเมนูอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เช่น ขนมปังปิ้งทาแยมผลไม้ แซนด์วิช และเครื่องเคียงทานคู่กับสตูว์ แกง หรือซุปก็ได้ นอกจากนี้คุณควรเก็บขนมปังคีโตไว้ในถุงซิปล็อค แล้วนำไปแช่ตู้เย็นในช่องแช่แข็งจะสามารถเก็บขนมปังได้นานถึง 6 เดือน แต่หากเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ขนมปังจะเก็บได้นานถึง 2 สัปดาห์ค่ะ

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

Categories
ขนมหวานไทย

สูตรขนมครกโบราณ แป้งกรอบนอกนุ่มใน อร่อยหวานมัน โรยหน้าด้วยเครื่องแน่น ๆ

ขนมครกโบราณ

ใครที่ชื่นชอบขนมไทยอย่างขนมครกเชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้เรามีสูตรขนมครกโบราณมาแนะนำทุกคน ขอบอกเลยว่าสูตรนี้กรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นกะทิ อร่อยหวานมันแน่นอน ที่สำคัญยังอัดแน่นไปด้วยเครื่องโรยหน้ามากมาย โดยสูตรนี้เราได้มาจากช่อง YouTube ชื่อช่อง แม่ซี น้องมดดี Channel ซึ่งนี่เป็นสูตรขนมครกที่ทำกินเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน หรือจะทำขายสร้างอาชีพก็ดี เพราะด้วยความที่แป้งขนมครกกรอบนอกนุ่มใน และมีรสชาติอร่อยหวานมันไม่เหมือนใคร เราจึงมั่นใจได้เลยว่าขนมครกสูตรนี้จะต้องถูกอกถูกใจลูกค้าอย่างแน่นอนค่ะ 

ขนมครกขึ้นชื่อว่าเป็นขนมโบราณที่ความนิยมอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยเดิมทีจะใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำโม่รวมกับหางกะทิ และมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ผสมเกลือเล็กน้อยใช้เป็นตัวขนม ส่วนหน้าของขนมครกเป็นหัวกะทิ ปัจจุบันได้มีการดัดแปลงใช้แป้งข้าวเจ้าแทน เพื่อความสะดวก และโรยหน้าด้วยเครื่องต่าง ๆ มากมาย เช่น น้าเผือก หน้าข้าวโพด หน้าต้นหอม เป็นต้น 

ความจริงแล้วขนมครกมี 2 ประเภท ได้แก่ ขนมครกมอญ และขนมครกชาววัง โดยขนมครกมอญจะพบตามชุมชนมอญ ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ส่วนขนมครกชาววังจะพบโดยทั่วไปตามร้านขายขนมครกทั่วประเทศ ซึ่งสูตรขนมครกที่เรานำมาแนะนำทุกคนในวันนี้เป็นสูตรขนมครกชาววัง ที่โรยหน้าด้วยเครื่องแน่น ๆ แต่จะมีส่วนผสมและวิธีทำอย่างไรบ้าง ติดตามได้จากบทความนี้เลยค่ะ 

ขนมครกโบราณ

ส่วนผสมของสูตรขนมครกโบราณ พร้อมโรยหน้าด้วยเครื่องแน่น ๆ

หลายคนคงทราบกันดีว่าสูตรขนมครกเป็นสูตรขนมไทยโบราณ ที่ทำมาจากแป้ง น้ำตาล และกะทิ แล้วเทลงบนเตาหลุม เวลารับประทานต้องแคะออกมา ถึงแม้ว่าแป้งขนมครกสมัยโบราณจะใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำโม่รวมกับหางกะทิ แต่เพื่อความสะดวก เราจะเลือกใช้แป้งสำเร็จรูปอย่างแป้งข้าวเจ้าแทน และนี่คือส่วนผสมสำหรับทำขนมครกโบราณ 

อันดับแรกต้องเตรียมน้ำปูนใสก่อน 

  1. น้ำเปล่า 1000 มิลลิลิตร
  2. ปูนแดงกินหมาก 2 ช้อนตวง 

หมายเหตุ: ผสมน้ำกับปูนแดงให้ละลาย แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน 

ส่วนผสมของแป้งขนมครก

  1. แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
  2. ข้าวหอมมะลิหุงสุก 100 กรัม
  3. น้ำปูนใส 120 กรัม (หากไม่มีให้ใช้น้ำเปล่าแทนได้)
  4. หัวกะทิคั้นสดแบบเข้มข้น 500 มิลลิลิตร
  5. หางกะทิ 250 มิลลิลิตร
  6. น้ำตาลทราย 60 กรัม
  7. เกลือสมุทร 2 ช้อนชา 

ส่วนผสมของหน้ากะทิ

  1. หัวกะทิคั้นสดแบบเข้มข้น 500 มิลลิลิตร
  2. น้ำตาลทราย 80 กรัม (ไม่ชอบหวานลดเหลือ70กรัม)
  3. เกลือสมุทร ½ ช้อนชา กับ ¼ ช้อนชา
  4. แป้งข้าวเจ้าตราหมีคู่ดาว 1 ช้อนตวง กับ ½ ช้อนตวง 

ส่วนผสมของเครื่องสำหรับโรยหน้าขนมครก

  1. ข้าวโพดหวานฝานบาง ๆ นึ่งสุก 1-2 ฝัก
  2. เผือกหอมหั่นเต๋านึ่งสุก 1 ถ้วย
  3. ต้นหอมซอย 1 ถ้วย
  4. น้ำมันพืชสำหรับเช็ดเบ้า 
ขนมครกโบราณ

ขั้นตอนและวิธีทำขนมครกโบราณ แป้งกรอบนอกนุ่มใน

หลังจากที่ได้เตรียมส่วนผสมของสูตรขนมครกโบราณเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคือวิธีทำขนมครกแป้งกรอบ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากส่วนผสมจะสำคัญแล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำขนมครก นั่นก็คือ ถาดหลุมขนมครก และนี่คือขั้นตอนการทำขนมครก และเคล็ดลับสำหรับทำขนมครกที่คุณควรรู้

วิธีทำขนมครกโบราณ

  1. ตั้งหม้อนึ่งข้าวโพดหวานมาฝานบาง ๆ และเผือกหั่นเต๋า โดยใช้เวลานึ่งประมาณ 20 นาที แล้วพักไว้ให้เย็น
  2. ระหว่างนั้นเริ่มทำแป้งขนมครก โดยการนำแป้งข้าวเจ้า ข้าวสวย น้ำปูนใส กะทิ และเกลือ ลงไปปั่นให้ส่วนผสมเข้ากันจนละเอียด แล้วนำไปเทใส่ชามผสม พักแป้งไว้ 30 นาที 
  3. จากนั้นทำหน้ากะทิ โดยการเตรียมชามผสมอีกใบ แล้วนำแป้งข้าวเจ้า หัวกะทิแบบคั้นสดเข้มข้น น้ำตาลทรายขาว และเกลือสมุทร ลงไปผสมให้เข้ากัน แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดด้วยตะกร้อมือจนทุกอย่างละลายเข้ากันดี
  4. เตรียมกาน้ำหัวแหลม 2 ใบ ใบหนึ่งเทส่วนแป้งขนมครกลงไป ส่วนอีกใบเทส่วนหน้ากะทิลงไป เพื่อสะดวกในการเทลงถาดหลุม 
  5. เตรียมถาดหลุม โดยการนำถาดหลุมไปล้างด้วยน้ำยาล้างจานให้สะอาดประมาณ 3 รอบเพื่อล้างที่เคลือบกระทะออกจนหมด
  6. นำถาดหลุมไปตั้งไฟให้ร้อน แล้วเทน้ำมันพืชลงไปให้ท่วม ทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นเทน้ำมันออก เพื่อทำให้เวลาใส่แป้งกะทิจะไม่ติด
  7. การเท ให้เทส่วนผสมของแป้งลงไปก่อน โดยการเริ่มจากด้านนอกวนเข้าไปบรรจบที่ด้านใน จากนั้นนำส่วนหน้ากะทิเทลงทันทีจนครบ
  8. จากนั้นนำเครื่องสำหรับโรยหน้าขนมครก ได้แก่ ข้าวโพดหวานฝานบาง ๆ นึ่งสุก เผือกหอมหั่นเต๋านึ่งสุก และต้นหอมซอย ที่เตรียมไว้หยอดลงไป โดยต้นหอมสามารถหยอดได้ทันที ส่วนข้าวโพดกับเผือก ต้องรอให้แป้งเซตตัวก่อนค่อยใส่ลงไป
  9. นำฝาปิดถาดหลุม โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที หรือสังเกตจากขอบด้านนอกออกสีน้ำตาล ถือว่าขนมครกใช้ได้แล้ว จากนั้นนำช้อนมาตักออกทีละหลุม จัดเรียงใส่จานให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟค่ะ


Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

เว็บบอลออนไลน์

Categories
อาหารไทย

สูตรไก่ทอดหาดใหญ่แท้ ๆ เมนูยอดฮิตจากภาคใต้ ที่มีขายอยู่ทุกจังหวัด

สูตรไก่ทอดหาดใหญ่

หากพูดถึงอาหารยอดนิยมของทางภาคใต้หลายคนคงจะนึกถึงไก่ทอดหาดใหญ่ โดยชื่อก็บอกตรงตัวอยู่แล้วว่าเป็นเมนูไก่ทอดของจังหวัดหาดใหญ่ หนึ่งในจังหวัดของภาคใต้ โดยปกติแล้วทางภาคใต้ส่วนใหญ่จะมีคนมุสลิมอาศัยอยู่เยอะ เมนูไก่ทอดจึงถือเป็นอาหารทั่วไปที่คนมุสลิมกินอยู่แล้ว ซึ่งสูตรไก่ทอดหาดใหญ่เนี่ยมีขายมานานกว่า 40 ปีแล้ว สมัยก่อนจะไม่ใส่หอมเจียว เพิ่งจะมาใส่ช่วงหลัง ๆ นี้เอง

ปัจจุบันเมนูไก่ทอดหาดใหญ่ ถือเป็นอกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่พบเห็นโดยทั่วไปในประเทศไทย บางคนอาจจะคิดว่าก็เหมือนเมนูไก่ทอดธรรมดาทั่วไป แต่หากคุณได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องติดใจจนต้องกลับมาซื้ออีกครั้งแน่นอนค่ะ แต่สำหรับใครที่อยากจะลองทำเมนูไก่ทอดหาดใหญ่กินเองที่บ้าน วันนี้เราก็มีสูตรไก่ทอดหาดใหญ่แท้ ๆ ส่งตรงมาจากจังหวัดหาดใหญ่มาแนะนำทุกคน โดยสูตรนี้เราได้มาจากช่อง YouTube ที่มีชื่อช่องว่า EasyCooking ซึ่งเป็นสูตรไก่ทอดหาดใหญ่แบบดั้งเดิม จะมีส่วนผสมและวิธีทำอย่างไรกันบ้าง สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

สูตรไก่ทอดหาดใหญ่

ส่วนผสมของสูตรไก่ทอดหาดใหญ่แท้ ๆ ที่ส่งตรงมาจากจังหวัดหาดใหญ่ 

เมนูไก่ทอดหาดใหญ่ เป็นเมนูอาหารที่โด่งดังมาก ไม่ว่าคุณจะไปจังหวัดไหน ก็จะเห็นเมนูนี้ขายอยู่ทุกจังหวัด ซึ่งสูตรไก่ทอดหาดใหญ่นี้มีสูตรที่ไม่ค่อยตายตัวเสียทีเดียว ส่วนผสมหลัก ๆ ก็จะเป็นเครื่องเทศของทางภาคใต้ (พริกไทยเม็ดขาว, ลูกผักชี, ยี่หร่า, กระเทียม) ร้านที่ทำขายบางร้านจะใส่แป้ง บางร้านไม่ไส่ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคน แต่สมัยก่อนจะไม่ใส่แป้งนะคะ เพิ่งมาใส่แป้งตอนหลัง ๆ เพราะการใส่แป้งจะช่วยเพิ่มความกรุบกรอบได้ดีค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณทำไก่ทอดหาดใหญ่แบบดั้งเดิม โรยหน้าด้วยหอมเจียว เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยคูณสอง และนี่คือส่วนผสมของเมนูไก่ทอดหาดใหญ่แท้ ๆ แบบดั้งเดิม

ส่วนผสมสำหรับทำเมนูไก่ทอดหาดใหญ่

  1. เนื้อไก่ส่วนน่อง/สะโพก 2 กิโลกรัม
  2. พริกไทยเม็ดขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  3. ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  4. ยี่หร่า 2 ช้อนชา
  5. กระเทียม ¼ ถ้วย
  6. รากผักชี 5-6 ราก
  7. ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
  8. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  9. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  10. น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลทรายดแดง 1 ช้อนโต๊ะ
  11. แป้งสาลีหรือแป้งข้าวเจ้า ½ ถ้วย
  12. ปูนแดง ¼ ช้อนชา
  13. น้ำเปล่า 2 ถ้วย
  14. น้ำมันพืช 

ส่วนผสมหอมเจียว

  1. หอมแขกซอยสำหรับทำหอมเจียว 300 กรัม
  2. น้ำตาล ¼ ช้อนชา
  3. เกลือ ¼ ช้อนชา
  4. น้ำมันพืชเหลือจากทอดไก่ 
สูตรไก่ทอดหาดใหญ่

ขั้นตอนและวิธีทำไก่ทอดหาดใหญ่แบบดั้งเดิม 

หลังจากที่เตรียมส่วนผสมของสูตรไก่ทอดหาดใหญ่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปเป็นวิธีทำไก่ทอดหาดใหญ่แบบดั้งเดิม โดยวิธีทำของสูตรที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้เป็นสูตรดั้งเดิมที่มีขั้นตอนการทำที่ง่ายมาก ๆ ซึ่งสูตรนี้จะทำให้ได้ไก่ทอดหาดใหญ่ที่หนังกรอบ รสชาติอร่อย หอมกลิ่นเครื่องเทศ และนี่คือขั้นตอนการทำไก่ทอดหาดใหญ่แบบดั้งเดิม 

วิธีทำไก่ทอดหาดใหญ่แบบดั้งเดิม

  1. นำเนื้อไก่ไปล้างทำความสะอาด และสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อน จากนั้นใช้ส้อมหรือมีดแกะปลายแหลม จิ้มเนื้อไก่ให้ทั่ว เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อไก่ดียิ่งขึ้น 
  2. นำปูนแดงลงไปละลายในน้ำเปล่า แล้วตั้งทิ้งไว้จนกว่าจะได้น้ำปูนใส (แนะนำถ้านำไปแช่เย็นยิ่งดี) 
  3. ระหว่างนั้นนำพริกไทยเม็ดขาว ลูกผักชี ยี่หร่า กระเทียม และรากผักชี ไปโขลกหรือปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปหมักกับเนื้อไก่
  4. ปรุงรสเพิ่มเติมด้วย ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และเกลือป่น แล้วนำไปหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น โดยใช้เวลาหมักประมาณ 3 ชั่วโมง หรือข้ามคืนได้ยิ่งดี 
  5. เมื่อหมักจนครบเวลาแล้ว ให้นำแป้งสาลีเทลงในชามที่หมักไก่ไว้ ตามด้วยน้ำปูนใส จากนั้นเคล้าแป้งให้เคลือบชิ้นไก่จนทั่ว
  6. ตั้งกระทะใส่น้ำมันด้วยไฟกลางถึงแรง เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่ให้นำไก่หมักไว้แล้วไปทอดจนสุก โดยให้สังเกตชิ้นไก่ และปรับความแรงของไฟตามความเหมาะสม เมื่อไก่ทอดสุกแล้ว ให้ตักวางไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมันก่อน จากนั้นจัดใส่จาน โรยหน้าด้วยหอมเจียว เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไก่ทอดหาดใหญ่พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ 

วิธีทำหอมเจียว

  1. นำหอมแขกซอยไปคลุกเคล้ากับเกลือและน้ำตาล
  2. จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันที่เหลือจากทอดไก่ ด้วยไฟกลาง จนหอมเริ่มเหลือง 90% แล้วตักขึ้นทันที รอให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วนำไปโรยบนไก่ทอดหาดใหญ่
Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

รวม 10 สูตร เมนูไก่ ยอดนิยม พร้อมวิธีแสนง่ายที่สามารถทำเองที่บ้านได้

Categories
อาหารสุขภาพ

สลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด เมนูอาหารคลีน เสริมโปรตีนเน้น ๆ รสชาติอร่อย

สลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด

ทุกวันนี้เทรนด์การกินอาหารคลีนกำลังมาแรง เนื่องจากผู้คนเริ่มหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งเทรนด์การกินอาหารคลีนนี้มีมานานแล้วในกลุ่มคนรักสุขภาพ แต่เพิ่งมาได้รับความนิยมเมื่อ 2-3 ปีก่อน โดยการอาหารคลีนก็เหมือนกับการได้ดีท็อกซ์ลำไส้ และมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ซึ่งในบนความนี้เราก็มีสูตรวิธีทำเมนูอาหารคลีนอย่าง สลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด มาฝากทุกคน 

เมนูสลัดอกไก่ย่างอะโวคาโดนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตในหมู่คนดัง นางแบบ และคนที่กำลังลดหนัก เพราะอะโวคาโด ถือเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไขมันที่ดีต่อร่างกาย และมีประโยชน์ช่วยลดระดับไขมันเลวได้เป็นอย่างดี ส่วนอกไก่นี้หลายคนคงทราบกันดีว่ามันเป็นวัตถุดิบที่สำคัญ สำหรับคนที่ชื่นชอบออกกำลังกาย หรือคนที่กำลังลดน้ำหนัก พวกเขานิยมรับประทานอกไก่แทนเนื้อสัตว์ชนิดอื่น เนื่องจากอกไก่อุดมไปด้วยโปรตีนที่สำคัญต่อร่างกายและมีไขมันน้อย ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในโปรตีนไขมันต่ำที่ดีต่อสุขภาพมากเลยทีเดียว 

ส่วนผสมของเมนู สลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด สูตรเสริมโปรตีนเน้น ๆ 

เมนู สลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด เป็นอีกหนึ่งเมนู อาหารสุขภาพ สายกินคลีนที่มีส่วนผสมหลักคือ อกไก่ย่าง และอะโวคาโด เป็นเมนู อาหารคลีน ที่อร่อยและถูกปากคนรักสุขภาพแน่นอน ซึ่งสูตรที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้มีขั้นตอนและวิธีทำที่ง่ายมาก ๆ ที่สำคัญใช้เวลาในการทำไม่นาน ส่วนผสมทั้งหมดหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป แต่ก่อนที่เราจะไปดูขั้นตอนและวิธีทำ เรามาดูรายการของส่วนผสมทั้งหมดกันก่อนเลยค่ะ

ส่วนผสมสำหรับทำเมนูสลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด

  1. อะโวคาโด 1 ผล
  2. มะเขือเทศราชินี 3 ผล
  3. อกไก่ลอกหนัง 300 กรัม
  4. พริกไทย ½ ช้อนชา
  5. เกลือ Low Sodium ½ ช้อนชา
  6. น้ำมะนาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  7. พาร์สลีย์ (สำหรับตกแต่ง)
สลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด

ขั้นตอนและวิธีการทำเมนูสลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด

การกินอาหารคลีนอย่างเมนู สลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด ถือว่าเป็นเมนูทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลัง ลดน้ำหนัก เนื่องจากเมนูนี้ใช้ส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันดี ไม่อ้วน เป็นอาหารที่มีขั้นตอนและ วิธีทำ ที่ไม่ยุ่งยาก เหมาะที่จะเป็นอาหารเช้าสำหรับคนที่ต้องเร่งรีบออกไปทำงานมาก ๆ เลยค่ะ และหลังจากที่เราเตรียมส่วนผสมทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เรามาดูขั้นตอนและวิธีทำเมนูสลัดอกไก่ย่างอะโวคาโดกันต่อเลยค่ะ

ขั้นตอนและวิธีการทำเมนูสลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด

  1. เริ่มต้นด้วยการนำอกไก่ลอกหนังมาทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด จากนั้นนำอกไก่ไปหมักด้วยเกลือ Low Sodium และพริกไทยดำ ทาให้ทั่วทั้ง 2 ด้าน แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน และพักไว้
  2. นำอกไก่ที่หมักไว้แล้ว ไปย่างบนเตา โดยใช้ไฟกลาง เมื่ออกไก่สุกได้ที่แล้วให้กลับด้านย่างให้อีกด้านสุกเหมือน ๆ กัน ระวังอย่าให้ไหม้นะคะ เมื่ออกไก่ทั้ง 2 ด้านสุกได้ที่แล้ว ให้นำขึ้นใส่จาน แล้วทำการฉีกเนื้ออกไก่เป็นเส้น ๆ และพักไว้
  3. จากนั้นให้หั่นอะโวคาโดที่เตรียมไว้ โดยนำอะโวคาโดไปปอกเปลือกออกแล้วผ่าครึ่ง จากนั้นหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพอดีคำ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป
  4. นำมะเขือเทศราชินีไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด จากนั้นผ่าครึ่ง มะเขือเทศ ราชินี
  5. ต่อมานำอกไก่ย่างที่ฉีกเรียบร้อยแล้วมาจัดใส่จาน ตามด้วยอะโวคาโดที่หั่นไว้วางลงบนเนื้ออกไก่ย่าง และตามด้วยมะเขือเทศราชินีผ่าครึ่งแล้ว ให้จัดเรียงตามความสวยงามเลยค่ะ
  6. ทำน้ำสลัดโดยการนำมะนาวที่เตรียมไว้ราดลงไปให้ทั่ว และโรยเกลือ Low Sodium และพริกไทยดำ จากนั้นคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  7. ตกแต่งด้วยพาสเลย์ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เมนูสลัดอกไก่ย่างอะโวคาโดที่สวยงามและน่าทานพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับเมนูสลัดอกไก่ย่างอะโวคาโด ซึ่งเมนูนี้นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว มันยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายโดย อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ดีต่อร่างกาย มีกากใยอาหารสูง และมีโฟเลตสูง ส่วนอกไก่ย่างเป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูง ทั้งยังเป็นโปรตีนที่มีไขมันน้อย ช่วยในการลดน้ำหนัก และมะเขือเทศราชินี มีโปรโยชน์เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณและสายตา รักษาสิว ควบคุมความดัน ป้องกันโรคหัวใจและอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

เว็บตรง สล็อต ฝากถอน ไม่มี ขั้นต่ำ

Categories
อาหารนานาชาติ อาหารสุขภาพ

สลัดนิซัวส์แซลมอน อาหารเพื่อสุขภาพ สไตล์ฝรั่งเศส 

สลัดนิซัวส์แซลมอน

ตอนนี้เราจะเห็นว่าเทรนด์การกินอาหารคลีนกำลังมาแรงในกลุ่มคนวัยทำงาน และผู้สูงอายุ เนื่องจากอาหารคลีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนั้นวันนี้เราเอาใจคนรักสุขภาพด้วยเมนู สลัดนิซัวส์แซลมอน เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ สุดหรูหรา สไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งสลัดนิซัวส์ เป็นอาหารจานเดียวประจำท้องถิ่นเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองเล็ก ๆ แถบชายหาดเมดิเตอร์เรเนียน เมนูอาหารส่วนใหญ่ก็จะมีคุณค่าทางคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน เพราะพื้นที่แถบนั้นอุดมไปด้วยผักสด ผลไม้สด น้ำมันมะกอก และอาหารทะเลอีกมากมาย นี่จึงเป็นที่มาของสลัดนิซัวส์ หรือสลัดของชาวนีซ ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำเมนูสลัดนิซัวส์ พร้อมกับเพิ่มคุณค่าให้กับสลัดจานนี้ด้วยการนำเอาเนื้อแซลมอนชิ้นหนา ๆ มาจี่ในกระทะพอเหลืองทองทั้ง 2 ด้าน เพื่อเพิ่มรสชาติและรสสัมผัสที่อร่อยไม่แพ้สลัดจานอื่นเลยค่ะ

ส่วนผสมของเมนู สลัดนิซัวส์แซลมอน สไตล์ฝรั่งเศส

เมนู สลัดนิซัวส์แซลมอน เป็นอีกหนึ่งเมนู อาหารสุขภาพ สไตล์ฝรั่งเศส ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายทั้งจาก ส่วนผสม หลักอย่าง ผัก ผลไม้ ไข่ไก่ และแซลมอน ซึ่งความจริงแล้วต้นตำรับเมนูสลัดนิซัวส์ของชาวนีซจะใช้เนื้อปลากะตักหรือปลาทูน่า แต่วันนี้เราจะเลือกใช้เนื้อปลาแซลมอน เพราะเราอยากให้เมนูนี้สามารถรับประทานได้ทุกวัย หากคุณไม่ชอบเนื้อปลาแซลมอนสามารถใช้เนื้อปลากะตักหรือปลาทูน่าแทนได้ แต่ก่อนที่คุณจะไปดูขั้นตอนและวิธีทำสลัดนิซัวส์แซลมอน เรามาเตรียมส่วนผสมทั้งหมดกันก่อนดีกว่าค่ะ

ส่วนผสมสำหรับเมนูสลัดนิซัวส์แซลมอน

  1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  2. มันฝรั่งเปลือกแดง 6 หัว
  3. ถั่วแขก 150 กรัม
  4. เนื้อปลาแซลมอนชิ้นใหญ่ 2 ชิ้น
  5. น้ำส้มสายชูหมักไวน์แดง 3 ช้อนโต๊ะ
  6. ดิจองมัสตาร์ด 1 ช้อนชา
  7. มะเขือเทศสีดา 150 กรัม
  8. มะกอกสีดำไร้เมล็ด ¼ ถ้วยตวง
  9. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  10. เกลือป่น เล็กน้อย
  11. พริกไทยดำบด เล็กน้อย
  12. น้ำเปล่า
สลัดนิซัวส์แซลมอน

ขั้นตอนและวิธีทำเมนูสลัดนิซัวส์แซลมอน

หลังจากที่เราได้เตรียมส่วนผสมทั้งหมดของเมนู สลัดนิซัวส์แซลมอน เรียบร้อยแล้ว ต่อมาจะเป็นขั้นตอนและ วิธีทำ เมนูสลัดนิซัวส์ แซลมอน ซึ่งขั้นตอนการทำก็ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ แถวยังใช้เวลาในการทำไม่นาน เพียงแต่เราต้องใส่ใจกับทุกขั้นตอนที่สำคัญต้องรักษาความสะอาดด้วย โดยมีขั้นตอนและวิธีทำ ดังนี้

ขั้นตอนและวิธีทำเมนูสลัดนิซัวส์แซลมอน

  1. ตั้งหม้อต้มไข่ไก่ในน้ำเปล่าจนเดือด จากนั้นปิดไฟและปิดฝาพักไว้ 15 นาที เทน้ำร้อนทิ้งแล้วเติมน้ำเย็นแช่ไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่จานพักไว้
  2. ตั้งหม้อต้มมันฝรั่งเปลือกแดง และถั่วแขก จนสุก หรือจนเนื้อเริ่มนิ่ม จากนั้นนำมันฝรั่งเปลือกแดงมาหั่นผ่าครึ่ง ใส่จานพักไว้
  3. ตั้งกระทะไฟร้อนปานกลาง แล้วใส่น้ำมันมะกอกพอเคลือบกระทะ จากนั้นโรยเกลือป่น และพริกไทยดำบดบนเนื้อปลาแซลมอน จี่ปลาในกระทะด้านละ 1 นาที หรือให้สุกตามที่ต้องการ
  4. นำเนื้อปลาแซลมอนสุกแล้ว ออกมาหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ ตามขวาง 
  5. เริ่มเตรียมน้ำสลัด โดยการใส่เกลือป่น พริกไทยดำบด น้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชูหมักไวน์แดง และดิจองมัสตาร์ดในชามผสม จากนั้นตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  6. ใส่มะเขือเทศและมะกอกสีดำลงไปเคล้าให้เคลือบน้ำสลัด จากนั้นตักลาดบนเนื้อปลาแซลมอนที่หั่นแล้ว พร้อมเสิร์ฟคู่กับไข่ต้ม มันฝรั่งเปลือกแดงต้มสุก และถั่วแขกลวกสุก

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเมนูสลัดนิซัวส์แซลมอน หรือ Nicoise Salad เมนูนี้ครบถ้วนไปด้วยรสชาติและรสสัมผัสของดินแดนชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินที่หลากหลาย มีประโยชน์แก่ร่างกายไม่ว่าจะเป็น เนื้อปลาแซลมอนที่ย่อยง่าย ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง หรือ หัวใจ เหมาะกับสำหรับผู้สูงอายุ หรือคุณที่มีโรคประจำตัวเยอะ ๆ เช่น เบาหวาน ความดัน และไขมัน ไข่ต้ม เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมอง มีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเลือดได้เป็นอย่างดี และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณ เส้นผม และเล็บมีสุขภาพดี ยิ่งได้ทานคู่กับน้ำสลัดนิซัวส์ก็จะได้รสชาติที่อร่อยอมเปรี้ยวจากน้ำส้มสายชูหมักไวน์แดง นอกจากนี้สลัดยังปรุงด้วยน้ำมันมะกอก ช่วยลดคอเลสเทอรอลได้อีกด้วย เมนูสลัดนิซัวส์แซลมอนจึงเหมาะสำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพ

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

pg slot ฝากถอน ไม่มี ขั้นต่ำ เว็บตรง