อาหารไทยมีหลายประเภทมาก แต่ละประเภทมีส่วนผสมที่ต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นที่ความเข้มข้น กลมกล่อมทั้งนั้น และมักเป็นเมนูที่ทำได้ง่าย อย่าง ทอดมันปลากราย ที่คุณสามารถเรียนรู้สูตรในการทำได้ สำหรับใครที่ชื่นชอบทอดมัน และ กำลังหาสูตรในการทำอยู่ วันนี้เรามีสูตรในการทำมาฝากกัน

ทอดมันปลากราย เมนูอร่อยที่ใครก็ทำได้

 คุณอาจมองว่า ทอดมัน เป็นเมนูที่ทำยาก แต่ความจริงแล้ว มันมีสูตรการทำที่ช่วยให้การทำ ทอดมันปลากราย ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของสูตรการทำก็มีหลายสูตรให้คุณเลือกด้วย ซึ่งคุณสามารถประยุกต์ใช้สูตรได้ตามความต้องการเลย แต่คุณจะต้องทำบ่อย ๆ หน่อยจะได้รู้ว่าสูตรไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด 

ส่วนผสมในการทำ ทอดมันปลากราย และ วิธีทำมีอะไรบ้าง

สำหรับส่วนผสมของเมนู ทอดมัน มี เนื้อปลากราย 500 กรัม – ไข่ไก่ 1 ฟอง – ถั่วฝักยาว200 กรัม -พริกแกง1 1/2 ช้อนโต๊ะ -ใบมะกรูดซอย4 ใบ -น้ำตาล2 ช้อนโต๊ะ -เกลือ1 1/2 ช้อนชา -น้ำปลา2 ช้อนชา -น้ำมัน (สำหรับทอด)ครึ่งกระทะ ซึ่งส่วนผสมนี้เป็นส่วนผสมสำหรับ ทอดมันปลากราย 1 จาน เวลาในการเตรียมส่วนผสมใช้เวลา 15 นาที และ ปรุงอาหารอีกครึ่งชั่วโมง สำหรับวิธีการทำ คือ ใส่พริกแกงและเครื่องปรุงลงไปในเนื้อปลา และใช้พายกวนให้ได้เนื้อเหนียว หรือนำไปตำในครกก็ได้ หลังจากนั้นให้ใส่ไข่ไก่ตามลงไป และ กวนส่วนผสมอีกครั้ง หลังจากนั้นให้ใส่ถั่วฝักยาวและใบมะกรูดลงไป หลังจากนั้นให้ใส่น้ำมันครึ่งกระทะ นำเนื้อปลากรายลงไปทอดทั้ง 2 ด้านให้เหลือง เมื่อสุกแล้ว ให้คุณนำใส่จาน จัดแจงให้ดูน่ากินที่สุด แค่นี้ก็กินได้แล้ว

ทอดมันปลากราย น่ากิน อร่อย ใครก็ทำได้

เมนู ทอดมัน ความจริงแล้ว คุณสามารถปรับเปลี่ยนส่วนผสมได้ตามที่ต้องการ ถ้าทำขายอาจจะต้องเพิ่มส่วนผสมเข้าไปสักหน่อย แต่ต้องลองทำบ่อย ๆ นะ เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่ลงตัวที่สุด และ ต้องลองให้คนอื่นทานดู เพื่อขอความเห็นว่าอร่อยหรือไม่ ต้องเพิ่มต้องลดอะไร เป็นต้น  รับรองเลยว่า ไม่ว่าจะทำกินหรือทำขายก็ทำได้ตามต้องการ

นี่คือ สูตร ทอดมันปลากราย ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง และ ยังสามารถปรับเปลี่ยนสูตรให้เหมาะสมได้ด้วย ใครชอบเมนูอาหารที่ทำง่าย อร่อย ทำชายได้ ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ อยากให้คุณได้ลองทำ ทอดมันปลากราย ทอดมันที่ได้รับความนิยมสูง ใครกินก็ติดใจ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

ถ้าพูดถึงขนมทานเล่นที่ทำให้อิ่มท้อง คงหนีไม่พ้น  ขนมจีบ ความจริงแล้ว ติ่มซำ มันก็มีหลายสูตรมาก แล้วแต่ว่า คุณต้องการแบบไหน  และ ยังใช้เป็นอาหารออเดิร์ฟด้วย ก่อนเสิร์ฟอาหารจริง ๆ จะเห็นอาหารประเภทนี้ได้บนโต๊ะจีน สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารประเภทนี้ และ อยากลองทำดู วันนี้เรามีสูตรมาให้ได้ลองทำกันด้วย 

ขนมจีบ อาหารที่ทุกคนคุ้นเคย ทำง่าย อิ่มท้อง

สำหรับใครที่เป็นสาวก ขนมจีบ ไม่ว่าไปที่ไหนก็ชอบซื้อกินบ่อย ๆ มันอาจจะดีกว่า ถ้าคุณทำได้ด้วยตัวเอง เพราะคุณสามารถทำขายได้ด้วย และเป็น ติ่มซำ ที่ขายง่ายมาก เพราะส่วนใหญ่จะตั้งราคาที่ถูกอยู่แล้ว และ กินไม่กี่คำก็อิ่มด้วย หลายคนจึงอยากที่จะเรียนรู้สูตรในการทำ เพื่อทำไว้ทานเอง หรือ ไว้ขายก็ได้ 

ส่วนผสม ขนมจีบ และ วิธีการทำ

ส่วนผสมของ ขนมจีบ จะมี รากผักชี –หมูสับ – ไข่ไก่ –น้ำมันงา -พริกไทยป่น –น้ำปลา –น้ำตาลทราย -แครอท (หั่นเต๋าเล็ก) –ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม – แผ่นเกี๊ยว และ กระเทียมสับ สำหรับวิธีการทำ เริ่มจาก คุณจะต้องโขลกรากผักชีให้ละเอียด  หลังจากนั้นให้คุณนำรากผักชีที่โขลกไว้มานวดผสมกับหมู และใส่ ไก่ น้ำมันงา พริกไทยป่น น้ำปลา น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาวเห็ดหอมเตรียมเอาไว้ หลังจากนั้นให้ตัดแผ่นเกี๊ยวเป็นวงกลม โดยใช้แก้วครอบเป็นตัวช่วย หลังจากนั้นให้เตรียมส่วนผสมเพื่อห่อ และ เตรียมน้ำเปล่าใส่ถ้วนไว้เล็กน้อย นำแผ่นเกี๊ยวใส่มือ ตักหมูประมาณ 2 ช้อนชาใส่ในแผ่นเกี๊ยว และ รวบทำเป็นจีบให้สวยงาม หลังจากนั้นให้วางขนมจีบในหม้อนึ่ง พรมน้ำให้ทั่ว นำไปนึ่ง ใช้ไฟปานกลางจนสุก นึ่งให้สุก นำใส่จาน โรยกระเทียมเจียว และ ผักชี แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว คุณจะเห็นได้ว่า สูตรการทำนี้ ทำง่ายมาก ๆ ถ้าคุณต้องการประยุกต์สูตร คุณก็ต้องฝึกทำให้ชำนาญที่สุด เพื่อจะได้ประยุกต์ใช้สูตรได้อย่างถูกต้อง

ขนมจีบ สูตรทำง่าย ใคร ๆ ก็ทำได้

ใครที่คิดว่า ขนมจีบ ทำยาก ต้องบอกเลยว่า คุณคิดผิด เพราะว่าสูตรการทำที่นำมาในวันนี้ทำได้ง่ายมาก และ ยังประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสูตรการทำได้ด้วย รับรองเลยว่า คุณจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน 

นี่คือ สูตรการทำ ขนมจีน ติ่มซำ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปไหน คุณจะเห็นขนมนี้วางขายอยู่ทั่วไป เพราะฉะนั้น การเรียนรู้สูตรการทำ น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งให้สำหรับคนที่ชอบกินขนมจีบได้ และ ถ้าทำได้อร่อยก็ลองทำขายไปเลย รับรองปัง

หากคุณคิดถึงเมนูของว่างที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ คุณจะต้องคิดถึงเมนู เปาะเปี๊ยะ อย่างแน่นอน เพราะเป็นของทอดที่ยัดไส้ผัก หมู หรืออื่น ๆ ได้ตามความเหมาะสม และ ยังทำให้คุณอิ่มท้องด้วย เพราะฉะนั้นหลายคนจึงอยากทำเมนูนี้กัน ทำกินเองก็ได้ ขายก็ดี รับรองว่า คุณจะมีความสุขในการกินมากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถทำเงินให้กับคุณได้ด้วย 

เปาะเปี๊ยะ ของอร่อยที่ทุกคนเลือกทาน

เปาะเปี๊ยะ ถือเป็น ของว่าง ที่ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้จริง หลายคนเลือกเสิร์ฟเป็นออเดิร์ฟก่อนที่จะเสิร์ฟอาหารในมื้อนั้น โดยเฉพาะเวลาที่คุณไปทานโต๊ะจีน คุณจะเห็นเมนูนี้อยู่เสมอ สำหรับใครที่อยากลองทำดู แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามีส่วนผสม และ วิธีทำมาฝากกัน

ส่วนผสมและวิธีทำ เปาะเปี๊ยะ

สำหรับส่วนผสมของ เปาะเปี๊ยะ จะมีแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะประมาณ 1/2 ห่อ -แครอทหั่นฝอย 1/2 ถ้วย -กะหล่ำปลีหั่นฝอย 1 ถ้วย – วุ้นเส้นแช่น้ำแล้วตัดเป็นเส้นยาวพอดีกับแผ่นแป้ง 1/2 ถ้วย -หมูสับ 200 กรัม -ไข่ 1 ฟอง –น้ำมันสำหรับทอด -รากผักชี 3 ราก – พริกไทย 1/2 ช้อนชา – กระเทียม 5-10 กลีบ -น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ -.ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ และ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ นี่คือ ส่วนของ เปาะเปี๊ยะ และ ยังมีส่วนของน้ำจิ้มด้วย นั่นคือ พริกชี้ฟ้า 3-5 เม็ด -น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ -เกลือป่น 1/4 ช้อนชา และ น้ำส้มสายชู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ ส่วนวิธีทำ คือ โขลกรากผักชี กระเทียมพริกไทยก่อน หลังจากนั้นให้นำเนื้อหมู ไข่ แครอท กะหล่ำปลี และ วุ้นเส้นมาคลุกให้เข้ากัน และ ตั้งกระทะใส่น้ำลงไป และนำส่วนผสมที่โขลกไว้ใส่ลงไป เติมเครื่องปรุงต่าง ๆ และ ผัดจนสุก หลังจากนั้นให้เริ่มหอแผ่นเปาะเปี๊ยะ คุณจะวางแผ่นแป้งซ้อนกัน 2 แผ่น ต้องใส่ไส้ให้พอดี ม้วนเป็นแท่ง พับปิดหัวท้าย เวลาติดขอบแป้งให้เข้ากันให้ใช้น้ำแตะแค่เล็กน้อยเท่านั้น ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน และ นำไปทอดจนเหลือง ส่วนการทำน้ำจิ้ม คุณจะต้องผสมส่วนผสมให้เข้ากัน เคี่ยวไฟจนอ่อน และ ปิดไฟแล้วยกลง

เปาะเปี๊ยะ ของทอดแสนอร่อย  ที่คุณไม่ควรพลาด

เปาะเปี๊ยะ ของว่าง แสนน่ากินที่ทุกคนชื่นชอบ และ คุณยังสามารถเพิ่ม หรือ ลดส่วนผสมลงให้เหมาะสมกับจำนวนคนที่ทาน จะไว้กินเอง หรือ ขาย แบบนี้คุณก็ต้องเปลี่ยนส่วนผสมให้เหมาะสม

นี่คือ สูตรการทำ เปาะเปี๊ยะ ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ด้วยตนเอง รับรองเลยว่า คุณจะชื่นชอบอย่างแน่นอน

กระแสของหนังบุพเพสันนิวาส ทำให้เรามีเมนูอาหารทำกินเพิ่มอีกหลายเมนู ถ้าพูดถึงเมนูกินเล่นยอดนิยม คงหนีไม่พ้น หมูสร่ง แน่นอน เมนูนี้ทำง่าย อร่อย ได้กำไรดี สำหรับใครที่อยากทำเมนูนี้ วันนี้เราก็มีสูตรในการทำมาฝาก รับรองว่า คุณจะทำได้แน่นอน

หมูสร่ง ทำง่าย อร่อยแน่นอน

หากคุณต้องการทำเมนูนี้ คุณก็สามารถทำได้ตามความต้องการ เพราะว่า สูตรการทำ หมูสร่ง มีหลายสูตรมาก แต่ละสูตรอาจมีส่วนผสมที่ต่างกันไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะคล้ายกันหมด และ เมนูนี้จะทานเล่น หรือว่า จะทำขายก็ได้ทั้งนั้น รับรองว่าใครได้ชิมก็ติดใจแน่นอน

ส่วนผสมของ หมูสร่ง และ วิธีทำมีอะไรบ้าง

ส่วนผสมของ หมูสร่ง -เนื้อหมูบดละเอียด 200 กรัม –รากผักชี 2 ช้อนชา –กระเทียม 2 ช้อนชา -พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

-เกลือ 1/4 ช้อนชา -น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ -เส้นหมี่ซั่วขาว(รสจืด) 100 กรัม -ไข่ไก่ 1 ฟอง -น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วย ส่วนวิธีทำ หมูสร่ง นั้น ขั้นตอนแรก ให้คุณโขลกรากผักชีและกระเทียมให้ละเอียด หลังจากนั้นให้คลุกกับหมูบด ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น เกลือ น้ำปลา หลังจากนั้นให้ตอกไข่ลงไป  1 ฟอง นวดให้เหนียว หลังจากนั้นให้นำเส้นหมี่ซั่วไปจุ่มน้ำแล้วผึงไว้ หลังจากนั้นให้เอาผ้าขาวบางคลุม ให้คุณปั้นหมูเป็นก้อนกลม ๆ เท่า ๆ กัน และให้นำเส้นหมี่ซั่วประมาณ 3-4 เส้นมาพันกับหมู ให้มีลักษณะเหมือนลูกตะกร้อ หลังจากนั้นให้เทน้ำมันให้ท่วมกระทะ  เปิดไฟอ่อน ป้องกันเส้นไหม้ก่อนที่หมูจะสุก หลังจากนั้นให้นำหมูสร่งวางบนตะแกรง และเมื่อน้ำมันร้อนแล้วก็นำหมูลงไปทอดพร้อมทั้งตะแกรง ตรงส่วนด้านบนที่ไม่โดนน้ำมัน ให้ตักน้ำมันราดให้ทั่วๆ เมื่อหมูสุกได้ที่และมั่นใจว่าเส้นหมี่ไม่หลุดออกจากกันแล้วก็ค่อยๆ เกลี่ยหมูให้ออกจากตะแกรง แล้วทอดต่อ เปิดไฟกลางให้เส้นหมี่กรอบและสุกเหลือง แค่นี้ก็สามารถทำ หมูสร่ง ขนมกินเล่นได้ตามต้องการแล้ว 

หมูสร่ง ขนมทานเล่นที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ 

ขนมกินเล่น หมูสร่ง อร่อย อิ่มท้อง ใคร ๆ ก็ทำได้ แค่ทำตามสูตรที่มีให้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถปรับเปลี่ยนสูตรได้ตามต้องการ หากคุณลองแล้วอร่อย คนรอบข้างโอเค จะลองทำขายก็ได้ หารายได้เสริมไปในตัว

และ นี่คือ สูตร หมูสร่ง สูตร ขนมกินเล่น ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ รับรองเลยว่า คุณจะทำเป็นแน่นอน

ผลไม้ในเมืองไทยมีให้กินกันทุกฤดูกาล เพราะฉะนั้น จึงมีเมนูที่ใช้กินคู่กับผลไม้อยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ เมนู มะม่วงน้ำปลาหวาน ที่เราจะนำมะม่วงรสเปรี้ยวมาจิ้มกับน้ำจิ้ม ถ้าใครได้กินจะติดใจแน่นอน สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูนี้ดู วันนี้เรามีสูตรมานำเสนอกัน รับรองว่า คุณจะต้องชื่นชอบและทำกินบ่อย ๆ แน่นอน

มะม่วงน้ำปลาหวาน ทำไมจึงได้รับความนิยมอย่างมาก

สำหรับเมนู มะม่วงน้ำปลาหวาน นี้มีมานานมากแล้ว แต่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นเป็นเพราะกระแสของละครบุพพันนิวาสที่ การะเกด นางเอกของเรื่องนำเมนูนี้มาทำ ทำให้หลายคนอยากที่จะเรียนรู้สูตร และ นำไปลองทำกัน และ ในวันนี้เรามีสูตรการทำ น้ำปลาหวาน มาฝากกัน รับรองว่า คุณจะทำเป็นแน่นอน

ส่วนผสมของ มะม่วงน้ำปลาหวาน และ วิธีการทำ

สำหรับใครที่อยากตามรอยการะเกด ทำเมนู มะม่วงน้ำปลาหวาน วันนี้เรามีวิธีการทำมาฝากกัน รับรองว่า คุณทำเป็นแน่นอน สำหรับส่วนผสมของน้ำปลาหวาน คือ -น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม -กะปิ 2 ช้อนชา -น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ -น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง – เกลือป่นหยาบ -หอมแดงซอยผึ่งพอหมาด 1/2 ถ้วยตวง -พริกขี้หนูซอย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ -แบะแซ 1 ช้อนโต๊ะ -กุ้งแห้งอย่างดีป่น 1/2 ถ้วยตวง -กุ้งแห้งอย่างดี 1/4 ถ้วยตวง –มะม่วงเปรี้ยวหั่นชิ้นบางๆ ส่วนวิธีทำ คือ คุณจะต้องผสมน้ำตาลปี๊ปเข้ากับน้ำเปล่า และ ยกขึ้นตั้งไฟคนให้ละลาย เคี่ยวไปเรื่อย ๆ พอเริ่มข้นก็ยกลง และ กรองด้วยผ้าขาวบาง นำไปตั้งไฟอีกครั้ง ต่อมาให้คุณผสมกะปิกับน้ำปลา คนให้ละลาย หลังจากนั้นเทใส่ลงในส่วนผสมที่ผสมไว้แล้ว หลังจากนั้นเติมเกลือป่น แบะแซะ และเคี่ยวต่อพอข้น หลังจากนั้นใส่กุ้งแห้งทั้ง 2 ชนิดลงไป ตามด้วยหอมแดง พริกขี้หนู หลังจากนั้นเคี่ยวต่อสักพักให้ลงพักให้เย็น และ ทานกับมะม่วงเปรี้ยว

มะม่วงน้ำปลาหวาน ความอร่อยที่ใคร ๆ ก็ทำได้

หากคุณต้องการกินมะม่วงเปรี้ยวแบบฟิน ๆ อยากให้คุณได้ลองทำเมนู มะม่วงน้ำปลาหวาน ดู ทำง่าย มีหลายสูตรให้เลือกทำ จะทำรสเปรี้ยวหรือรสหวานก็ได้ไม่มีปัญหา เพียงแค่เปลี่ยนสูตรนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ตาม อย่ากินมากเกินไป เพราะอาจจะปวดท้องได้ กินแต่พอดีจะได้ไม่ลำบากท้อง

นี่คือ สูตร มะม่วงน้ำปลาหวาน ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเองได้ และประยุกต์ใช้สูตรได้ตามที่ต้องการได้ รับรองเลยว่า คุณจะได้กิน น้ำปลาหวาน ในแบบที่คุณต้องการด้วย

น้ำพริกเมนูเด็ดที่หลายคนชื่นชอบ  เพราะว่า ทำง่าย รสชาติอร่อย หาวัตถุดิบในการทำง่าย และ มีหลายสูตรในการทำด้วย และในวันนี้เราขอเสนอสูตรเด็ด นั่นคือ การทำ น้ำพริกปลาทู งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณทำได้อย่างถูกต้อง

น้ำพริกปลาทู สูตรเด็ด เน้นโปรตีน

สำหรับใครที่ชอบการทานน้ำพริก  และ อยากให้ได้คุณค่าทางโภชนาการด้วย เราขอนำเสนอ น้ำพริกปลาทู ให้คุณได้ทานกัน รับรองเลยว่า คุณจะต้องชื่นชอบแน่นอน 

ส่วนผสมของ น้ำพริกปลาทู มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง

สำหรับ เมนู น้ำพริกปลาทู เราจะใส่ปลาร้าลงไปด้วย รับรองว่า หอมกรุ่นชวนรับประทานอย่างแน่นอน เริ่มจากเราจะต้องเอาปลาทูไปต้มจนสุก และ แกะเอาแต่เนื้อออก หลังจากนั้นเราจะต้องคั่วเครื่องต่าง ๆ จนหอมกรุ่น และเอาไปโขลกกับเนื้อปลาทูที่แกะแล้ว และ ปรุงรสให้เรียบร้อย สำหรับ ส่วนผสมของ น้ำพริก ตัวนี้ มีดังนี้

-น้ำเปล่า 2 ถ้วย  –หอมแดง  – กระเทียม   –พริก  –กระเทียม  –น้ำปลาร้า 2-3 ทัพพี –น้ำมะนาว –น้ำปลา และ ต้นหอมผักชี สำหรับวิธีทำนั้น ขั้นแรก คุณจะต้องทำความสะอาดปลาทูด้วยการควักไส้ และ พุงออกมา หลังจากนั้นตั้งน้ำเปล่า2 ถ้วย เมื่อเดือดแล้วใส่ปลาทูลงไป พอสุกแล้วให้ตักขึ้นมาแล้วเอาแต่เนื้อของปลาเท่านั้น หลังจากนั้นใส่พริก หอมแดง กระเทียมใสในกระทะคั่วด้วยไฟอ่อน แล้วตำใส่ครกให้แหลก แล้วใส่เนื้อปลาที่แกะไว้ลงไป หลังจากนั้นให้ตำจนแหลก หลังจากนั้นให้เอาน้ำปลาร้าผสมกับน้ำเปล่า เคี่ยวจนน้ำเริ่มงวด หลังจากนั้นใส่ลงไปในปลาทู ใส่เครื่องปรุงรส เช่น น้ำมะนาว น้ำปลา โรยด้วยต้นหอม และ ผักชี แต่ว่าถ้าชอบแบบมีน้ำก็ให้เติมน้ำปลาร้า หรือ เติมน้ำต้มปลาเพิ่มเติมลงไป และ เสิร์ฟเครื่องเคียงกับผักสด และ ผักลวก แค่นี้ก็ทานได้แล้ว

น้ำพริกปลาทู สุดอร่อย ใคร ๆ ก็ทำได้

หากคุณนั้นชื่นชอบน้ำพริก อยากให้คุณได้ลองทำ น้ำพริกปลาทู เพราะเป็น น้ำพริกที่หาวัตถุดิบได้ง่าย และ มีโภชนาการแน่นมาก ๆ โดยเฉพาะโปรตีน และ ใครที่อยากลดความอ้วน เมนูนี้คือ สุดยอดเมนูที่ช่วยให้หุ่นของคุณดูดีขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม น้ำพริกปลาทูก็มีหลายสูตรอยู่เหมือนกัน ถ้าคุณคือสาวกของ น้ำพริก ชนิดนี้ คุณก็ควรศึกษาไว้หลาย  ๆ สูตรด้วย 

นี่คือ สูตร น้ำพริกปลาทู ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง อาหารสุขภาพรสชาติอร่อย ทำง่าย อาหารลดน้ำหนักที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ อยากหุ่นสวย สุขภาพดี ต้องลองทำดู รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

ไข่ยัดไส้ เมนูเด็ดที่สาวกไข่ไม่ควรพลาด เพราะคุณสามารถใส่วัตถุดิบในการทำได้อย่างหลากหลาย ทำให้คุณได้รับโภชนาการอย่างเต็มที่ และ วันนี้เราจะมาพูดถึงเมนูนี้กัน

ไข่ยัดไส้ เมนูประจำบ้านที่ทุกคนทำได้

ความจริงแล้ว เมนูไข่ เป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะวัตถุดิบก็หาได้ง่าย ใช้เวลาทำแปปเดียวก็เสร็จแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า ส่วนผสมของเมนู ไข่ยัดไส้ มีอะไรบ้าง เราอยากให้คุณได้ดูไปพร้อมกัน 

ส่วนผสม และ วิธีทำ ไข่ยัดไส้

ส่วนผสมของไข่ยัดไส้ มีดังนี้ – ไข่ไก่ 3 ฟอง – หมูสับ 100 กรัม – มะเขือเทศหั่นเต๋า 1/2 ถ้วย – แครอทหั่นเต๋า 1/2 ถ้วย- หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า 1/2 ถ้วย – กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา – เครื่องปรุงต่าง ๆ เช่น – พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา – น้ำปลา 1 ช้อนชา — ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา -น้ำมันหอย 1 ช้อนชา – น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา- ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ- น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ – น้ำมันพืชสำหรับทอดไข่ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ ไข่ยัดไส้  ให้คุณตอกไข่แล้วเติมน้ำปลา 1/2 ช้อนชาลงไป และตีไข่ให้แตก เมื่อกระทะร้อนให้คุณเตืมน้ำมันลงในกระทะ เพื่อทอดไข่ กลิ้งไข่ให้ทั่วกระทะ เพื่อทำเป็นแผ่นบาง และควรใช้ไฟอ่อนในการทำเท่านั้น เมื่อไข่เจียวเหลืองดีแล้ว ให้ใส่น้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย และ ตามด้วยกระเทียม แครอท หมูสับ ผัดทุกอย่างให้เกือบสุก และ ใส่หอมหัวใหญ่และมะเขือเทศแล้วผัดให้เข้า หลังจากนั้นปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ เช่น ซอสมะเขือเทศ น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำตาลทรายและพริกไทย ขั้นตอนสุดท้าย คือ ผัดให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟทันที 

วิธีการห่อ ไข่ยัดไส้ มีกี่แบบ

เมนูไข่ ทั้งไข่เจียว ไข่ดาวก็มีวิธีทำของมัน แต่ถ้าเป็นเมนู ไข่ยัดไส้ คุณจะต้องเข้าใจวิธีห่อทั้ง 2 แบบ แบบที่ 1 คุณจะต้องตักส่วนผสมที่ผัดไว้มาใส่ตรงกลางไข่ และ ห่อเก็บริมทั้ง 4 ด้านเข้าหากัน แล้วกลับด้านไข่ และ นำมีดมาผ่าให้เป็นกากบาท และ เปิดปากไข่ที่กรีดไว้คลี่ออกมาทั้ง 4 ด้าน  ส่วนแบบที่ 2 คือ การตัดส่วนผสมไว้ที่ด้านในด้านหนึ่งของไข่ และ ทำการม้วนไข่จนกระทั่งสุดด้านแล้วตัดริมไข่ทั้ง 2 ด้านออก หั่นเป็นชิ้นให้พอดีคำ

นี่คือ การทำ เมนูไข่ ที่เรียกกันว่า ไข่ยัดไส้ ใครที่ชอบกินไข่ น่าจะลองนำไปทำกันดู รับรองไม่ผิดหวัง เพราะมันอร่อยจริง ๆ

ทองม้วน ขนมไทย น่าทานที่หลายคนรู้จักกันดี และ ยังหาทานได้ง่าย ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้ แม้ว่า ขนมไทย ชนิดนี้จะมีหลายสูตรมาก แต่ต้องบอกเลยว่า สูตรการทำโดยทั่วไปจะมีความคล้ายคลึงกัน เพียงแต่อาจเพิ่มลดส่วนผสมลงบ้างตามที่ต้องการ เพราะฉะนั้นใครที่อยากทำขนมนี้ ก็สามารถทำได้เลยตามสูตรที่จะนำมาเสนอกันในวันนี้

ทองม้วน ขนมกรอบ กินง่าย รสชาติดี

ใครที่ชื่นชอบ ขนมไทย คุณจะต้องเคยกิน ทองม้วน แน่นอน ขนมชนิดนี้ คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของฝากทั่วไป และ บางจังหวัดก็มีสูตรเฉพาะด้วย อย่างเช่น ทองม้วนสด ราชบุรี แบบนี้ก็จะไว้ได้ไม่นาน เพราะไม่ใช่ทองม้วนแบบทั่วไปนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามีสูตร ทองม้วน มาฝากกัน เพื่อให้คุณได้ลองทำกันดู

ส่วนผสม และ วิธีทำ ทองม้วน

สำหรับ ส่วนผสมของ ทองม้วน อันนี้จะเป็นส่วนผสมสำหรับผู้ทาน 10-12 คน โดยจะมี แป้งสาลี (แป้งเค้ก) 1 ถ้วยตวง -นํ้าตาลทรายเม็ดละเอียด ๆ 1/2 ถ้วยตวง – , น้ำกะทิข้น  1/2 ถ้วยตวง -น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ -ไข่ไก่ 1 ฟอง -นํ้าเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ -เกลือป่น 1/8 ช้อนชา -งาดำคั่วหรืองาขาว (ตามชอบ) 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันพืชสำหรับทาพิมพ์ สำหรับวิธีทำ จะเริ่มจากการร่อนแป้งสาลีใส่ชาม และ ใส่น้ำตาลลงไป พยายามน้ำตาลกระจายให้เข้ากับแป้ง ทำหลุมตรงกลางแป้งเอาไว้ หลังจากนั้นให้ตีไข่ไก่ให้แตกเข้ากัน หลังจากนั้นผสมกับหัวกะทิ น้ำปูนใส และเกลือคนให้เข้ากัน และ เทลงในหลุมแป้ง ใช้ที่ตีไข่คนให้แป้งค่อย ๆ ตกลงในหลุมนั้น จนแป้งกับเครื่องปรุงเข้ากันดี หลังจากนั้นใส่งา แต่อย่าคนมาก จะทำให้แป้งแข็ง หลังจากนั้น ให้นำพิมพ์ ทองม้วน มาอังไฟโดยใช้ไฟอ่อนจนร้อน และ ใช้ลูกประคบแตะน้ำมันพืชทาพิมพ์ให้ทั่วทั้ง 2 ด้าน อังให้ร้อนและตักแป้งหยอดบนพิมพ์ด้านหนึ่ง และ ปิดพิมพ์บีบให้สนิท แป้งส่วนเกินจะไหลออกมาเอง หลังจากนั้นให้คุณนำพิมพ์ที่หยอดแป้งแล้วอังไฟ พลิกกลับข้างพอเหลือง ก็ยกจากเตาปิ้ง ใช้มีดกรีดส่วนที่อยู่นอกพิมพ์ทิ้งไปเปิดพิมพ์ ใช้ปลายมีดแซะขึ้น และใช้นิ้วชี้มือที่จับมีดกดแผ่นทองม้วนกับมีด ลอกออกจากพิมพ์ วางบนเขียงและม้วนหรือพับทันทีขณะที่ยังร้อนจัด ควรใช้พิมพ์ปิ้งสัก 2 พิมพ์สลับกัน ขณะตักแป้งหยอด คนแป้งบ้าง ถ้าข้นไปต้องเติมน้ำลงทีละน้อย หากแป้งข้นมาก จะหนา

ทองม้วน ขนมไทย แสนอร่อยที่คุณทำเองได้

แม้ว่าวิธีทำจะมาก และต้องอาศัยความชำนาญในการทำด้วย แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณทำได้แล้ว คุณจะชื่นชอบแน่นอน เพราะถ้าคุณทำอร่อยก็สามารถทำเป็นอาชีพเสริม หารายได้เพิ่มด้วย

นี่คือ การทำ ทองม้วน ขนมไทย ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง รับรองว่า เด็ดแน่นอน

ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดน่ากินที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ เมนูทำง่าย ใครทำก็อร่อย สำหรับใครที่อยากลองทำดู วันนี้เรามีสูตรการทำมาฝากกัน รับรองว่า คุณจะชื่นชอบมากยิ่งขึ้น

ทำไม ข้าวผัดกุ้ง จึงได้รับความนิยม

สำหรับคนที่ชอบกินอาหารทะเล และ ข้าวผัด อย่างแรกที่คุณจะนึกถึง คือ ข้าวผัดกุ้ง  เพราะเป็นเมนูที่เป็นข้าวผัด และ มีอาหารทะเลอย่างกุ้ง เป็นส่วนประกอบ เคล็ดลับการทำให้อร่อย เป็นสิ่งที่จะต้องเรียนรู้  แม้ว่าเป็นเมนูที่ง่ายก็จริง แต่ถ้าจะทำให้อร่อยต้องมีเคล็ดลับในการทำด้วย เรามาดูเรื่องส่วนผสม และ วิธีการทำดีกว้า

ส่วนผสมของ ข้าวผัดกุ้ง และ วิธีทำ

 ส่วนผสมของ ข้าวผัดกุ้ง คือ ข้าวสวย (ไม่แฉะ) ¾ ถ้วยตวง – หมูแฮมหั่นฝอย 1 แผ่น -มะเขือเทศผ่าตามยาว 1 ลูก -กระเทียมสับ 8 กลีบ -หมูยอหั่นเป็นลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ -แครอทหั่นเป็นเส้นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ -กุ้ง 6 ตัว -ไข่ไก่ 1 ฟอง -น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ -ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา -มะนาว 1 ซีก -ซอสปรุงรสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา -แตงกวา ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น

วิธีทำ ข้าวผัดกุ้ง  เริ่มจาก ตั้งกระทะและใส่น้ำมัน พอน้ำมันเริ่มร้อน ให้คุณใส่กระเทียมที่สับไว้ลงไปเจียวให้เหลือง และ ใส่กุ้งลงไปผัดพอสุก หลังจากนั้นใส่กุ้งลงไปผัดพอสุก ใส่หมูแฮมและหมูยอลงไปด้วย หลังจากนั้นให้ใส่ข้าวสวยลงไปผัดให้เข้ากัน และจึงใส่แครอทและมะเขือเทศลงไป ใส่ซอส ซีอิ๊วขาว ดันข้าวที่ผัดไปอยู่ข้างกระทะ และ ตอกไข่ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวตำไข่ให้แตก และ ตักข้าวที่ดันไว้ข้างกระทะมากลบไข่ รอให้ไข่สุกแล้วจึงช้อนกลับให้ไข้มาอยู่ด้านบน ใส่น้ำมันหอยลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน แค่นี้ก็ตักใส่จาน และ จัดเรียงให้สวยงามได้แล้ว

ทำ ข้าวผัดกุ้ง อย่างไรให้อร่อย 

ถ้าอยากทำ ข้าวผัดกุ้ง หรือ ข้าวผัด อื่น ๆ ให้อร่อย ข้าวสวยที่คุณใช้ผัดต้องไม่แฉะ หากข้าวสุกใหม่จะต้องเกลี่ยใส่ถาดก่อน รอให้ข้าวเย็นจึงนำมาผัด ข้าวจะไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่ควรใส่น้ำมันมากเกินไป เพราะทำให้ข้าวแฉะเลี่ยนไม่น่ากิน และ ในการเจียวกระเทียมควรใช้ไฟกลาง ๆ ในการเจียว ถ้าเป็นเนื้อสัตว์จะต้องผัดจนสุกก่อน ถ้ามีส่วนผสมของไข่ต้องใส่ทีหลัง เป็นต้น

และนี่คือ การทำ ข้าวผัดกุ้ง ให้อร่อย รับรองว่า ถูกใจทุกคนแน่นอน ไม่เชื่อเราลองมาทำตามสูตรกัน

เมนูอาหารเช้ายอดนิยมของคนไทยมีอยู่ไม่กี่เมนู เช่น ข้าวต้ม หมูปิ้ง ข้าวเหนียวหน้าต่าง ๆ ขนมปังกับกาแฟ เป็นต้น และ วันนี้ เราจะมาพูดถึง ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง เมนูเด็ดยามเช้าที่ใคร ๆ ก็ทำได้ เรามาดูวิธีการทำไปพร้อมกันดีกว่า 

ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง เมนูง่าย ถูกใจทุกคน

ยามเช้า ทุกคนต่างเร่งรีบที่จะไปทำงานกัน แต่สิ่งหนึ่งที่คุณควรให้ความสำคัญ นั่นคือ อาหารเช้า เพราะมันทำให้คุณอิ่มท้อง และ ส่งผลต่อการทำงานของคุณด้วย เมนูที่หาทานง่ายตามตลาดทั่วไป นั่นคือ ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง แต่ถาคุณต้องการทำทานเองก็สามารถทำได้ วันนี้เราจะมาพูดในเรื่องของส่วนผสม และ วิธีการทำกัน

ส่วนผสมของ ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง และ วิธีการทำมีอย่างไรบ้าง

ส่วนผสมของ ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง คือ  ข้าวหอมมะลิต้มสุก –ขิงอ่อนหั่นเส้น – รากผักชีซอย –ลูกผักชีบด -กระเทียมซอย – หมูสับ – เครื่องปรุงรสต่าง ๆ เช่น ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย – ผงปรุงรส –ขึ้นฉ่าย –ผักชี –ต้นหอมซอย และ พริกไทยขาวป่น  ส่วนวิธีทำ ข้าวต้ม มีดังนี้ เริ่มจากเจียวกระเทียมให้เหลืองหอม และ นำไปพักไว้ หลังจานั้นให้นำ ขิงอ่อน รากผักชี และ กระเทียมนำไปผัดกับน้ำมันให้มีกลิ่นหอม หลังจากนั้นใส่หมูสับและผัดให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันแล้ว ให้ใส่ลูกผักชีบด ปรุงด้วยผงปรุงรส รวมถึงเครื่องปรุงรสต่าง ๆ เมื่อเครื่องข้าวต้มสุกทั่วแล้ว ให้ใส่ขึ้นฉ่าย และ ผัดต่ออีกหน่อย และ นำเครื่องข้าวต้มที่เตรียมไว้ไปคลุกกับข้าวต้ม ใส่พริกไทยขาว โรยหน้าด้วยหอม ผักชี และ กระเทียมเจียว แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว รับรองเลยว่า คุณจะติดใจแน่นอน 

เคล็ดลับความอร่อยของ ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง คืออะไร

เคล็ดลับความอร่อยของ ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง คุณสามารถใช้สูตรนี้กับเนื้อสัตว์ประเภทอื่นได้ และ เครื่อง ข้าวต้ม ควรทำให้มีรสเข้มข้น เพราะว่าเมื่อนำไปใส่รวมกับข้าวต้มจะทำให้เจือจางลง และยังสามารถใส่ผักอื่น ๆ หรือ เนื้อสัตว์แห้ง ๆ ลงไปได้ด้วย ทำให้คุณได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น 

คุณจะเห็นได้ว่า เมนู ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง นี้ ทำไม่ยากเลย แค่คุณมีความเข้าใจในเรื่องของการปรุงรสเท่านั้นเอง และ คุณยังสามารถนำสูตรนี้ไปประยุกต์ใช้กับการใส่เนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่ อย่าลืมใส่สารอาหารให้ครบ 5 หมู่ลงใน ข้าวต้ม ด้วย เพื่อให้ได้รับโภชนาการอย่างเต็มที่ด้วย และ อย่าลืมลองสูตรหลาย ๆ สูตรด้วย ยิ่งทำบ่อยจะได้สูตรที่ถูกใจคุณแน่นอน