สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมหวานไทย

ลอดช่องน้ำกะทิ อร่อย หวานมัน ต้องลองทำ

ลอดช่องน้ำกะทิ อร่อย หวานมัน ต้องลองทำ
ลอดช่องน้ำกะทิ อร่อย หวานมัน ต้องลองทำ

ลอดช่องน้ำกะทิ เมนูขนมหวานที่หลายคนชื่นชอบ เพราะกินแล้วชื่นใจ ยิ่งในช่วงหน้าร้อนยิ่งได้รับความนิยมอย่างมาก หลายคนจึงอยากลองทำเมนูนี้ดู  บางคนอาจมองว่าทำได้ยาก แต่ความจริงแล้ว ถ้าคุณทำตามสูตรก็สามารถทำได้ และ ในวันนี้เราจะมาพูดถึงสูตรการทำ ลอดช่อง กัน รับรองว่าถ้าดูสูตรแล้ว คุณทำเป็นแน่นอน

ลอดช่องน้ำกะทิ ขนมไทยหวานชื่นใจ ใครกินก็ติดใจ

เมนูง่าย ๆ ต้อนรับหน้าร้อนที่ทุกคนชื่นชอบ อย่าง ลอดช่องน้ำกะทิ เมนูยืนหนึ่งที่ทุกคนคิดถึง สำหรับใครที่กลัวว่าจะทำไม่ได้ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องส่วนผสมไปพร้อมกัน ความจริงแล้วเรื่องส่วนผสมนั้นคุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยดูที่จำนวนคนทาน หรือว่า รสชาติที่ต้องการหวานมากน้อย เป็นต้น 

ส่วนผสมของ ลอดช่องน้ำกะทิ และ วิธีทำมีอะไรบ้าง

ส่วนผสมของตัว ลอดช่อง จะมี แป้งมัน 30 กรัม -แป้งข้าวเจ้า 125 กรัม – น้ำใบเตย 125 กรัม -น้ำปูนใส 650 กรัมน้ำเย็นจัด สำหรับการพักเส้น ในส่วนของน้ำกะทิ จะมีน้ำตาลปี๊ป 320 กรัม -เกลือ 5 กรัม -หัวกะทิ 400 กรัม และ น้ำแข็งป่น สำหรับวิธีทำ คือ คุณจะต้องผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันก่อน หลังจากนั้นให้คุณเทน้ำใบเตย คนจนน้ำใบเตยเข้ากับแป้ง และตั้งไฟอ่อน หลังจากนั้นให้คุณเทน้ำปูนใสลงไป กวนจนน้ำใบเตยเหนียวข้น และ มีสีเขียวใส หลังจากนั้นให้คุณเทแป้งใส่ที่กดเส้น หลังจากนั้นให้เตรียมน้ำเย็น กดเส้นลอดช่องใส่น้ำ เพื่อให้แป้งจับตัวเป็นเส้น  หลังจากนั้นให้คุณเคี่ยวน้ำตาลปี๊ป และ ใส่หัวกะทิลงไป เปิดไฟอ่อนคนจนกว่าน้ำตาลจะละลาย และ ใส่เกลือเล็กน้อยเพิ่มความมัน หลังจากนั้นให้คุณยกลงจากเตา หลังจากนั้นให้คุณเตรียมแก้วใส่ลอดช่อง ตักน้ำแข็งให้เต็ม และ เทน้ำกะทิลงไป นี่คือ ส่วนผสมและวิธีทำ ลอดช่องน้ำกะทิ ที่คุณสามารถทำเองได้เลย

ลอดช่องน้ำกะทิ อร่อย ใครก็ทำได้

คุณจะเห็นได้ว่า ส่วนผสมของ ลอดช่องกะทิ นั้นทำได้ง่ายมาก เพียงแต่ว่าต้องมีเทคนิคในการคนส่วนผสมอยู่บ้าง เพราะว่ามันต้องใช้ไฟอ่อนในการทำ คุณจึงต้องทำความเข้าใจในส่วนนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณอยากทำให้อร่อย คุณจะต้องทำบ่อย ๆ และ ลองให้คนอื่นชิมดู ถ้าใช้ได้ให้คุณทำขายเลย เป็นการเพิ่มรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งหมดนี้ คือ วิธีทำ ลอดช่องน้ำกะทิ หอม หวาน อร่อย รับรองเลยว่า คุณจะได้กิน ลอดช่อง แสนอร่อย และ สร้างรายได้อย่างที่คุณต้องการด้วย

Categories
อาหารไทย

พล่ากุ้ง แซ่บถูกใจ คนไทยชื่นชอบ

พล่ากุ้ง แซ่บถูกใจ คนไทยชื่นชอบ
พล่ากุ้ง แซ่บถูกใจ คนไทยชื่นชอบ

พล่า คือ เมนูยำที่มี้ เป็นต้น และ ในวันนี้เราจะมาพูดถึง พล่ากุ้ง อาหารรสจัดที่คุณนั้นสามารถทำเองได้ รับรองเลยว่า อร่อยถูกปากแน่นอน 

พล่ากุ้ง อาหารรสแซ่บที่คนไทยทุกคนเคยทาน

การทำ พล่ากุ้ง นั้นทำได้ไม่ยาก และ หลายคนชื่นชอบที่จะทำด้วย เพราะมีวิธีการทำที่ไม่ยาก ส่วนผสมก็มีไม่มากด้วย เพราะฉะนั้น ในการทำครั้งนี้ คุณจึงไม่ต้องใช้เครื่องปรุงในการทำมากเกินไป และที่สำคัญ วิธีทำก็ไม่ยากมากด้วย งั้นเรามาดูกันดีกว่า ว่าถ้าเราต้องการทำ อาหารรสจัด อย่าง พล่ากุ้ง เราต้องมีส่วนผสมอะไรบ้าง และ มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง

ส่วนผสม และ วิธีทำของ พล่ากุ้ง

ส่วนผสมของ พล่ากุ้ง มีดังนี้ กุ้งสด -ตะไคร้ซอย 1 ต้น -พริกขี้หนูซอยบาง 4 เม็ด -หอมแดงซอย 4 หัว -พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด -กุ้งสด (ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก) 10 ตัว -ใบมะกรูดซอย 3 ใบ -น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำปลา 1 ½ ช้อนชา -น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา และ ใบสะระแหน่ สำหรับวิธีทำ ให้คุณนำกุ้งสดไปลวกในน้ำเดือดให้สุก เมื่อสุกแล้วนำมาพักไว้ แต่ว่าอย่าลวกนาน เพราะจะทำให้เนื้อกุ้งแข็งได้ หลังจากนั้นให้คุณผสมน้ำยำ ที่มีทั้งน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และ น้ำพริกเผา หลังจากนั้นเทลงในชามผสมกัน และ คนให้เข้ากันด้วย หลังจากนั้นให้คุณใส่กุ้งลวกสุก ตะไคร้ซอย หอมแดง ใบมะกรูด รวมถึงพริกขี้หนูซอยลงไปในชา และ ต้องคลุกให้เข้ากัน หลังจากนั้นให้คุณตักใส่จาน โรยด้วยใบสระแหน่ พริกชี้ฟ้าแดงซอยตกแต่งให้ดูน่ารับประทาน แค่นี้ก็สามารถทำเมนูได้ตามที่ต้องการแล้ว 

พล่ากุ้ง เมนูแซ่บถึงใจ ใครกินก็ชื่นใจ

พล่ากุ้ง อาหารรสจัด ที่ใครกินก็ติดใจทั้งนั้น เพราะถือเป็นอาหารที่ทำง่าย ทำกินเองก็ได้ ทำขายก็โอเค เพราะคนไทยชอบอาหารรสจัดอยู่แล้ว หากคุณทำได้รสกลมกล่อม จัดจ้าน ยังไงก็ขายได้อยู่แล้ว แต่อย่าลืมเพิ่มลดให้เหมาะสมด้วย เพราะถ้าคุณทำจนชำนาญแล้ว คุณก็สามารถประยุกต์สูตรในการทำได้

นี่คือ สูตรการทำ พล่ากุ้ง อาหารรสจัด ที่คุณสามารถทำเองได้ ถ้าอยากทำขายก็สามารถทำได้ ไม่ยากเกินไป รับรองว่า อร่อยถูกใจคุณแน่นอน แต่อย่ากินมากเกินไปล่ะ บางคนธาตุเบา อาจทำให้ปวดท้องได้ แบบนี้จะแย่เอาได้ กินแต่พอดี มีแต่แซ่บ

Categories
อาหารไทย

ส้มตำไทย สูตรอร่อยที่คุณต้องลอง

ส้มตำไทย สูตรอร่อยที่คุณต้องลอง
ส้มตำไทย สูตรอร่อยที่คุณต้องลอง

หากพูดถึง อาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างสูง คงหนีไม่พ้นส้มตำแน่นอน เพราะเป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย รสชาติอร่อย ปรุงรสได้หลายแบบ เปรี้ยว หวาน เผ็ดแค่ไหนก็ได้ สำหรับใครที่เป็นสาวก ส้มตำ วันนี้เราก็มีสูตร ส้มตำไทย มาฝากกัน รับรองว่า คุณจะชื่นชอบแน่นอน

ทำไมคนจึงนิยมทาน ส้มตำไทย

ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน ในประเทศไทย คุณก็สามารถหาซื้อ ส้มตำไทย กินได้ เพียงแต่ว่าอาจมีส่วนผสมที่ต่างกันไปในแต่ละสูตรและท้องถิ่น สำหรับใครที่ต้องการสูตรในการทำที่สามารถทำได้จริง วันนี้เราก็มีสูตรดี ๆ มาแนะนำกัน

ส่วนผสมของ ส้มตำไทย และวิธีทำ มีอะไรบ้าง

มะละกอดิบขูดเส้น 200 กรัม – กระเทียมกลับเล็ก 3-4 กลีบ –แครอทขูดเส้น 100 กรัม -พริกขี้หนู 4-5 เม็ด – มะเขือเทศสีดาผ่าสี่ 2 ลูก – ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1.5 นิ้ว ¼ ถ้วยตวง  -ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ – น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ -มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ   -น้ำตาลปีบ 1 ½ ช้อนโต๊ะ -กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ ผงชูรส 1 ช้อนชา

วิธีทำ ส้มตำไทย มีดังนี้  ให้คุณใส่กระเทียม และ พริกขี้หนูลงในครก ตำให้ละเอียด แล้วก็ใส่ถั่วฝักยาว มะเขือเทศสีดา ตำเบาๆ จนถั่วและมะเขือเทศบุบ หลังจากนั้นให้คุณปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสต่าง ๆ อีกครั้ง เช่น น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว น้ำตาลปีป ผงชูรส หลังจากนั้นคนให้น้ำตาลปีปละลาย หลังจากนั้นให้ใส่กุ้งแห้ง ถั่วลิสง มะละกอ และ แครอทขูดเส้นเข้าไป หลังจากนั้นใช้ทัพพีคนให้เข้ากัน เสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ ยิ่งอร่อย

และไม่ว่า คุณต้องการทาน ส้มตำ อะไร ก็สามารถทำตามสูตรนี้ได้ แต่อาจจะเปลี่ยนเครื่องปรุงไปบ้าง และ ถ้าต้องการรสชาติแบบไหนก็สามารถปรุงได้เลย อาจมีการลดหรือเพิ่มสูตรได้บ้าง แต่อย่าเปลี่ยนทั้งหมด เพราะอาจทำให้รสชาติผิดเพี้ยนได้

ความอร่อยของ ส้มตำไทย สูตรเด็ดของคนไทยที่ทั่วโลกยอมรับ

ไม่ว่าคุณจะมีสูตร ส้มตำไทย แบบไหนก็ตาม ส้มตำคืออาหารที่ทั้งไทย และ ต่างประเทชอบทาน โดยเฉพาะชาวต่างชาติ พวกเขาคิดว่าเป็นอาหารแปลกใหม่ มีรสเปรี้ยว หวาน ปรุงรสได้ตามใจ แถมวิธีการทำก็ง่ายมาก ๆ แค่ปรุงรสให้ดี โขลกให้เข้ากัน แค่นี้ก็ทานได้แล้ว

ส้มตำไทย เมนูคู่ไทย  ไม่ว่าใครกินก็ติดใจทั้งนั้น วิธีการทำก็ง่าย แถมปรุงได้หลายรสชาติ รับรองว่า คุณจะติดใจแน่นอน แค่ลองคำแรก ก็รู้ได้เลยว่า อาหารไทยมีดีกว่าที่คิด

Categories
ขนมเบเกอรี่

แซนวิชแฮมหมูหยอง อาหารเช้าง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

แซนวิชแฮมหมูหยอง อาหารเช้าง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้
แซนวิชแฮมหมูหยอง อาหารเช้าง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

อาหารเช้าที่ทานง่าย อร่อย อิ่มท้อง มีหลายประเภทมาก และสิ่งหนึ่งที่หลายคนรู้จักกันดี นั่นคือ แซนวิช ขนมชนิดนี้มีหลายไส้มาก โดยไส้ที่ได้รับความนิยมสูง คือ แซนวิชแฮมหมูหยอง เพราะว่ากินแล้วอิ่มท้อง และ ทำได้ง่ายด้วย สำหรับใครที่อยากทำดู วันนี้เราก็มีสูตรการทำมาฝาก

แซนวิชแฮมหมูหยอง ความอร่อยที่คุณทำได้ด้วยตนเอง

ใครที่ต้องการทำ แซนวิชแฮมหมูหยอง คุณสามารถทำได้อย่างที่ต้องการเลย แค่คุณศึกษาสูตรการทำให้ดี และ พยายามทำให้บ่อย ๆ คุณจะเข้าใจในเรื่องของส่วนผสม และ วิธีทำได้เอง รวมถึงประยุกต์ใช้การทำสูตรต่าง ๆ ได้ด้วย งั้นเรามาดูในเรื่องของส่วนผสม และ วิธีการทำกัน

ส่วนผสมของ แซนวิชแฮมหมูหยอง และ วิธีทำ

ส่วนผสมของ ซนวิช ชนิดนี้ คือ -น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม -ไข่แดง 2 ฟอง –ขนมปังแซนวิช –หมูหยอง –แฮม  – เกลือ 1/4 ช้อนชา -นมข้นหวาน 100 มิลลิลิตร -มายองเนส 120 กรัม -น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ -พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา -น้ำมันรำข้าว 180 มิลลิลิตร -สีผสมอาหาร (สีเหลืองไข่ไก่) 2 -3 หยด

วิธีทำ คือ คุณจะต้องตีไข่แดงกับน้ำตาลไอซิ่ง เกลือ นมข้น มายองเนส และ น้ำสัมสายชูเข้าด้วยกัน เมื่อเข้ากันแล้ว ให้นำชามที่ผสมตุ๋นบนน้ำเดือด คนไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้นให้คุณเติมน้ำมันรำข้าว พริกไทยขาวป่น และ สีผสมอาหารลงไป หลังจากนั้นให้ทาซอสลงบนขนมปัง และ ให้คุณวางแฮมสลับกับหมูหยอง คุณจะได้ขนมปังทั้งหมด 4 ชั้น เมื่อทำตามขั้นตอนนี้แล้ว ให้คุณผ่าขนมปังให้เป็นสามเหลี่ยม แค่นี้ก็เป็น                        แซนวิช อย่างที่คุณต้องการแล้ว หากคุณทำบ่อย ๆ คุณจะเข้าใจส่วนผสมทุกอย่าง ถ้าคุณคิดว่าทำได้อร่อย และ หลายคนที่ได้ชิมก็ชื่นชอบในฝีมือคุณ คุณก็สามารถทำขายได้เลย เพียงแต่ว่า จะต้องเพิ่มส่วนผสมให้มากกว่าเดิม เพื่อให้เพียงพอกับการที่คุณจะทำขาย

แซนวิชแฮมหมูหยอง ทำทานก็ได้ ขายก็ได้กำไร

ถ้าหากคุณชอบทาน แซนวิช คุณอาจจะต้องมีหลายสูตรในการทำหน่อย อย่างน้อยก็สูตร แซนวิชแฮมหมูหยอง เพราะเป็นสูตรเบื้องต้นในการทำอยู่แล้ว ถ้าคุณทำอร่อย คุณก็สามารถทำขายได้เลย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณชอบทำอาหารอยู่แล้ว ควรเรียนรู้สูตรนี้ไว้บ้าง รับรองไม่ผิดหวัง

นี่คือ สูตรการทำ แซนวิชแฮมหมูหยอง ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง และ ประยุกต์ใช้ได้ตามที่ต้องการ

Categories
อาหารสุขภาพ

สลัดผลไม้ เมนูเพื่อสุขภาพ อร่อย แถม สุขภาพดี

สลัดผลไม้ เมนูเพื่อสุขภาพ อร่อย แถม สุขภาพดี
สลัดผลไม้ เมนูเพื่อสุขภาพ อร่อย แถม สุขภาพดี

สลัดผลไม้ เมนูทำง่ายที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ รับรองงเลยว่า คุณจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน

สลัดผลไม้ เมนูที่หากินได้ทุกฤดูกาล

ในประเทศของเรา มีผลไม้ตามฤดูกาลมากมายให้เราได้เลือกทานกัน และ ผลไม้ที่มีเยอะมากนี่แหละ ทำให้เกิดเมนูมากมาย อย่างเช่น เมนูเพื่อสุขภาพ สลัดผลไม้ ที่ทำง่าย เลือก ผลไม้ ที่ทำได้หลากหลาย เรามาดูกันว่า มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง 

สลัดผลไม้ มีส่วนผสมอะไรบ้าง และ มีวิธีการทำอย่างไร

ความจริงแล้ว เราสามารถเลือก ผลไม้ แบบไหนก็ได้ มาทำ สลัดผลไม้ แต่ในที่นี้ เราจะเน้นในเรื่องของวิตามินซี เพื่อเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว และ เลือกที่มีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย งั้นเรามาดูกันว่า มีผลไม้อะไรบ้างที่ใช้ทำสลัด

  1. ส่วนผสม  -แอปเปิ้ลแดง และ แอปเปิ้ลเขียว หั่นเป็นสีเหลี่ยมลูกเต๋า อย่างละ 1 ผล – องุ่นดำ 1 ช่อ –สตรอเบอร์รี่ผ่าซีก 4-5 ผล –กีวีหั่นขวาง 2 ผล –ส้มซันควิกแกะออกเป็นกลีบ  1 ผล ถั่วลิสงครึ่งถ้วย และ สุดท้าย คือ ใบสะระแหน่ 
  2. ส่วนผสมของน้ำสลัด จะมีอยู่ 2 แบบ คือ โยเกิร์ต และ แบบ ส้ม สำหรับสูตรโยเกิร์ต คุณสามารถใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติไขมันต่ำครึ่งถ้วย น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา และ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ  แต่ถ้าต้องสูตรส้ม ก็ใช้สูตรเหมือนกับโยเกิร์ต เพียงแต่เปลี่ยนจาก โยเกิร์ตรสธรรมชาติ เป็น  น้ำส้มคั้น 1/4  ถ้วย  เท่านั้นเอง
  3. ส่วนวิธีทำนั้นก็ง่ายมาก คุณจะต้องล้างผลไม้ที่หั่นแล้วในน้ำเกลือ และ นำไปแช่เย็น และให้เลือกน้ำสลัดที่คุณชอบ ผสมทุกอย่างลงไปคนให้เข้ากัน แล้วไปแช่เย็น หลังจากนั้นจัดใส่จาน ราดน้ำสลัด ใส่ถั่วลิสงและใบสะระแหน่แค่นี้ก็กินได้แล้ว รับรองเลยว่า อร่อยแน่นอน

สลัดผลไม้ ทำอย่างไรให้อร่อย 

ความจริงแล้ว การทำ สลัดผลไม้ ให้อร่อยนั้น คุณจะต้องรู้เคล็ดลับในการทำด้วย เช่น ผลไม้ ที่นำมาทำสลัดจะต้องออกรสเปรี้ยวหน่อย จะทำให้สลัดอร่อยมากขึ้น การแช่เย็นผลไม้ และ การใช้น้ำสลัดจะทำให้สลัดอร่อยมากขึ้น ถ้าต้องการแช่แอปเปิ้ลและไม่อยากให้ดำ คุณอาจใส่เกลือ หรือ มะนาวลงในน้ำแล้วแช่แอปเปิล แอปเปิ้ลของคุณจะไม่ดำ ส่วนวิธีผ่าส้ม ให้ผ่าลงตามรอยแบ่งกลีบของส้ม แล้วดึงเยื่อกั้นระหว่างกลีบส้มออก เริ่มลอกจากด้านในที่ติดกับแกนก่อน เพื่อไม่ให้ส้มเหลวเละ   

นี่คือ วิธีการทำ สลัดผลไม้ พร้อมเคล็ดลับความอร่อยที่คุณเลือกเองได้ตามที่ต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และ ออกกำลังกายด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน สร้างสุขภาพให้แข็งแรง และ มีความสุขในการใช้ชีวิตที่ไม่มีโรคภัยมากยิ่งขึ้น

Categories
อาหารไทย

แกงเขียวหวานไก่ สูตรอร่อย ที่ทำเองได้ทุกบ้าน

แกงเขียวหวานไก่ สูตรอร่อย ที่ทำเองได้ทุกบ้าน
แกงเขียวหวานไก่ สูตรอร่อย ที่ทำเองได้ทุกบ้าน

หากพูดถึงเมนูแกงบ้านเราที่คนนิยมทานกัน หนึ่งในนั้นจะต้องมี แกงเขียวหวานไก่ เพราะเป็นเมนูที่สามารถทำได้ง่าย สะดวก และ อร่อยด้วย สำหรับใครที่อยากลองทำดู วันนี้เราจะมาลองทำเมนูนี้กันดู

แกงเขียวหวานไก่ เมนูยอดฮิตที่ต้องลองทานสักครั้ง

แกงเขียวหวานไก่ เป็นอีกหนึ่งเมนูแกงที่ทุกบ้านมักทำทานกัน บางคนอาจมองว่ายาก เพราะว่าไม่รู้สูตรในการทำ ความจริงแล้ว ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย แค่คุณทำตามสูตรที่มีเท่านั้นเอง เพราะสูตรส่วนใหญ่จะมีการกำหนดค่าสัดส่วนไว้อยู่แล้ว แค่คุณเตรียมวัตถุดิบให้ครบก็สามารถทำตามได้แล้ว

แกงเขียวหวานไก่ มีส่วนผสมอะไร มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง

เขียวหวานไก่ เมนูแกงแสนอร่อยที่ทุกคนนิยมกัน หลายคนอยากลองทำ แกงเขียวหวานไก่ ดู แต่ไม่รู้ต้องเริ่มจากอะไร วันนี้เรามีสูตรมาฝากกัน รับรองว่า ใครทำก็อร่อยแน่นอน

  1. ก่อนอื่น เราต้องมาทำพริกแกงเขียวหวานก่อน เริ่มจาก –พริกชี้ฟ้าเขียว 50 กรัม – พริกไทยขาว 8 เม็ด – พริกขี้หนูสวนเขียว 10 กรัม  –เกลือครึ่งช้อนชา  -ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ  -กระเทียมไทย 40 กรัม -หอมแดง 75 กรัม -รากผักชี 8 กรัม -ข่า 15 กรัม -ตะไคร้ 30 กรัม -ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา  -ขมิ้นสด 1/4 ช้อนชา –ลูกผักชีคั่วป่น 0.4 ออนซ์ หรือ ½ ช้อนโต๊ะ สุดท้ายคือ กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
  2. ส่วนผสม แกงเขียวหวานไก่ จะมี เนื้อไก่ 500 กรัม – หัวกะทิ 250 กรัม – หางกะทิ 500 กรัม – ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ -พริกชี้ฟ้าแดงหั่น 10 กรัม -มะเขือเปราะ 200 กรัม -น้ำตาลทรายแดง 10 กรัม -มะเขือพวง 50 กรัม -ใบโหระพา 25 กรัม และ สุดท้าย คือ น้ำปลา 25 กรัม

เมื่อเราเข้าใจส่วนผสมแล้ว เรามาดู วิธีทำ แกงเขียวหวานไก่ กันว่าทำอย่างไรบ้าง 

  1. อย่างแรก คุณจะต้องโขลกส่วนผสมพริกแกงเขียวหวานให้เข้ากันก่อน คุณจะต้องตำพริกให้เข้ากันก่อน หลังจากนั้นให้ใช้แรงปานกลาง เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน หลังจากนั้นใส่พริกแกงเขียวหวานตามลงไป แล้วผัดให้สุก ใส่เนื้อไก่ และ ใบมะกรูด ผัดไปครู่หนึ่ง แล้วใส่หางกะทิลงไป หลังจากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง น้ำปลา และ มะเขือพวง มะเขือเปราะ ใบโหระพา และ พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ เมื่อสุกแล้วก็ตักเสิร์ฟได้เลย 

นี่คือ ส่วนผสมและวิธีทำ แกงเขียวหวานไก่  ที่คุณนั้นสามารถทำได้ด้วยตนเอง และ ประยุกต์สูตรได้

แกงเขียวหวานไก่ ทำง่าย แค่ทำตามสูตร

เพราะฉะนั้น สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูแกงแบบง่าย ๆ อยากให้คุณได้ลองทำดู รับรองเลยว่า คุณจะทำได้แน่นอน เขียวหวานไก่ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

ทั้งหมดนี้ คือ ส่วนผสม และ วิธีทำ แกงเขียวหวานไก่ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ รับรองว่า อร่อย ถูกใจแน่นอน

Categories
ขนมหวานไทย

ทองหยิบ ขนมไทยแสนอร่อย ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก

ทองหยิบ ขนมไทยแสนอร่อย ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก
ทองหยิบ ขนมไทยแสนอร่อย ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก

สำหรับใครที่ชื่นชอบ ขนมไทย คุณจะต้องรู้จักขนม ทองหยิบ แน่นอน ขนมสีเหลืองสวยเนียน กินแล้วรู้สึกหวานสดชื่น ใครทียังไม่เคยลองทาน ลองหาโอกาสไปชิมกันดูนะ ส่วนใหญ่ตามร้านขายขนมหวานจะมีขายกันอยู่แล้ว เพราะเป็นขนมยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า มีสูตรการทำอย่างไรบ้าง

ทำ ทองหยิบ ยากไหม

สำหรับคนที่เป็นมือใหม่หัดทำ ขนมไทย ความจริงแล้ว มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะส่วนใหญ่แล้วสูตรจะมีการวัดสัดส่วนของเครื่องปรุงต่าง ๆ มาเรียบร้อยแล้ว คุณก็แค่ทำตามเท่านั้นเอง เรามาดูกันดีกว่าว่า ทองหยิบ มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง 

ส่วนผสมในการทำ ทองหยิบ มีอะไรบ้าง มีวิธีการทำอย่างไร

ส่วนผสมของ ทองหยิบ จะมีอยู่ไม่กี่อย่าง เริ่มจาก -ไข่เป็ด 10 ฟอง –น้ำตาลทราย 5 ถ้วย – น้ำลอยดอกมะลิ 5 ถ้วย  คุจะเห็นได้ว่า วัตถุดิบเหล่านี้ สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากทำเมนูนี้จริง ๆ มันก็ไม่ยากเลย เรามาดูวิธีทำกันดีกว่า

สำหรับ ขนมไทย ชนิดนี้ ก่อนอื่น คุณจะต้องตอกไข่ ระวังไม่ให้ไข่แดงแตก แล้วแยกไข่แดงออกมาจากไข่ขาว หลังจากนั้นให้นำไข่แดงที่แยกมาวางไว้ตรงผ้าขาวบาง ให้บีบให้ผ่านผ้าขาวบาง เมื่อไข่แดงเนียนละเอียดแล้ว คราวนี้ก็ตีไข่ให้เข้ากัน โดยต้องตีให้เนียนฟูเลย แต่ถ้าคุณมีเครื่องตีก็จะช่วยให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เมื่อเนื้อเนียนละเอียดฟูอย่างที่ต้องการแล้ว ต่อมาให้คุณใส่น้ำลอยดอกมะลิลงไป และ ใส่น้ำตาลลงไปด้วย เคี่ยวให้งวด หลังจากนั้นให้ใช้ช้อนตักไข่ และ ไปหยอดในน้ำเชื่อม พยายามหยอดให้แผ่เป็นแผ่นบาง ๆ แล้วพลิกกลับไปกลับมาเพื่อให้สุกทั้ง 2 ด้าน หลังจากนั้น นำขนมมาแช่น้ำให้สะอาด จีบจีบให้ได้ 5 แฉก และ จัดใส่ถ้วยเล็ก ๆ แค่นี้ก็กินได้แล้ว

นี่คือ ส่วนผสม และ  วิธีทำของ ทองหยิบ ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการทำขนมของคุณ รับรองว่า ขนมของคุณจะออกมาอร่อยแน่นอน

ทองหยิบ ขนมไทยน่ากินที่คุณต้องกินให้ได้สักครั้ง

ความจริงแล้ว กระแสความดังของ ขนมไทย ตัวนี้มาจาก ละครเรื่อง บุเพสันนิวาส ที่มีฉากทำขนมที่เรียกกันว่า ทองหยิบ ในปัจจุบันด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมขนมนี้จึงได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน 

นี่คือ สูตร ขนมไทย ทองหยิบ ที่คุณสามารถทำได้ตัวเอง ในตอนแรกอาจจะต้องลองผิดลองถูกอยู่บ้าง แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณเป็นสาวกขนมหวาน จะต้องทำได้แน่นอน

Categories
อาหารสุขภาพ

ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ อร่อย สายสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด

ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ อร่อย สายสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด
ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ อร่อย สายสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด

ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ ทำยากไหม มีวิธีการอย่างไร

สำหรับใครที่ชอบทานเห็ด คุณคงรู้แล้วว่า มีเมนูที่ทำจากเห็ดมากมายที่น่าลองทำดู และวันนี้เราอยากให้คุณได้ลอง ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ สูตรอาหารทำง่ายที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ และ ไม่ได้ยากเกินไปที่จะลองทำด้วย แถมยังหาซื้อวัตถุดิบได้ง่าย เพราะที่ตลาดไหนก็มี เรามาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย เพื่อให้คุณทำเมนูเห็ดนี้ได้อย่างถูกต้องที่สุด 

ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ มีส่วนผสมอะไรบ้าง และ มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง

ส่วนผสมของ ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ นั้น คุณสามารถปรับเปลี่ยนส่วนผสมให้เหมาะสมได้ตามความต้องการ ทานคนเดียวก็ต้องปรับลดส่วนผสมลง ทานหลายคนก็อาจจะต้องเพิ่มมากหน่อย โดยในวันนี้เราจะมาพูดถึงส่วนผสมในการทำกัน

-สำหรับการทานทั้งครอบครัว – แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ –น้ำมันสำหรับทอด 1 ขวด –น้ำสะอาดครึ่งแก้ว –น้ำแข็ง 2-3 ก้อน –เห็ดนางฟ้า1 กิโลกรัม – น้ำตาลเคี่ยวเพื่อยำครึ่งกระบวย่ – พริกขี้หนูตำ 2 ช้อนโต๊ะ – น้ำปลา2 ช้อนโต๊ะ -ผงปรุงรส คนอร์ ครึ่งช้อนชา – ตั้งโอ๋ 1 ตัน – หอมแขก 1 หัว – มะนาว 2-3 ลูก และ หมูสับคั่วสุก3 ช้อนโต๊ะ

ให้คุณตั้งกระทะใส่น้ำมันให้เดือด หลังจากนั้นให้นำแป้งทอดกรอบ น้ำสะอาด น้ำแข็งมาผสมให้เข้ากัน และ นำเห็ดนางฟ้าลงไปคลุกเคล้าทอดให้เหลือง แล้วนำขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ หลังจากนั้นผสมน้ำยำ โดยใช้น้ำตาลเคี่ยว น้ำปลา พริกขี้หนูตำละเอียด ผลปรุงรสและน้ำมะนาว ปรุงรสตามใจชอบ หลังจากนั้นให้ใส่หมูสับที่คั่วสุก และ หอมแขกลงไป คนให้เข้ากัน 

หลังจากนั้น จัดเห็ดนางฟ้าทอดกรอบลงจาน ราดน้ำยำที่เตรียมไว้และโรยหน้าด้วยตั้งโอ๋ แค่นี้ก็สามารถทานได้แล้ว 

ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ ดีต่อสุขภาพอย่างไร

ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย และ เห็ดนางฟ้า ยังมีใยอาหารสูง ไขมันต่ำ เวลาทานทำให้คุณรู้สึกอิ่มไว ลดความอยากอาหาร จึงใช้เป็นเมนูลดน้ำหนักได้ และ ยังช่วยควบคุมความดันโลหิตได้ ช่วยป้องกัน               โรคอัลไซเมอร์ เพราะว่าช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ระบบประสาท ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง บรรเทาอาการอักเสบตามร่างกาย และยังมีธาตุเหล็กสูง จึงช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ในเห็ดนางฟ้ามีสารต้านอนุมูลจึงช่วยยับยั้งมะเร็งลำไส้ และ ช่วยป้องกันโรคไข้หวัดได้ นี่คือ ประโยชน์ของ ยำเห็ดนางฟ้ากรอบ รับรองเลยว่า ถ้าทานเป็นประจำ จะสร้างประโยชน์ให้กับร่างกายได้แน่นอน 

อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเราก็ต้องการอาหารครบ 5 หมู่ คุณจะต้องทานให้ครบถ้วนที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และ อย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และ จิตใจที่ดี

Categories
อาหารไทย

ข้าวหมูแดง เมนูยอดฮิตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

ข้าวหมูแดง เมนูยอดฮิตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
ข้าวหมูแดง เมนูยอดฮิตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

ข้าวหมูแดง เมนูยอดฮิตที่ทำให้คุณอิ่มท้อง รสชาติหวาน ๆ กับ หมูแดง ก็ทำให้คุณฟินได้ แต่ถ้ามันเป็นเมนูโปรดของคุณ วันนี้เรามีวิธีทำมาฝาก รับรองเลยว่า คุณจะทำเป็นอย่างแน่นอน 

ข้าวหมูแดง เมนูยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็กินกัน

เวลาที่คุณไปนั่งที่ร้านข้าวมันไก่ คงไม่มีใครสั่งแต่ข้าวมันไก่กินหรอก แม้ว่าจะมีน้ำจิ้มช่วยลดความเลี่ยนลงก็จริง แต่บางครั้งถ้ากินบ่อย ๆ ก็เบื่อ จึงมีหลายคนที่เลือกจะสั่ง ข้าวหมูแดง กินกัน งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า วิธีทำข้าวหมูแดง ทำได้อย่างไรบ้าง

วิธีทำ ข้าวหมูแดง และ ส่วนผสมของเมนูนี้ ว่ามีอะไรบ้าง

  1. เริ่มจากวิธีทำ หมูแดง กันก่อน โดยส่วนผสมของการทำ คือ หมูสันใน 500 กรัม – น้ำตาลทราย 1 ถ้วย –สีผสมอาหารสีแดง 1 ช้อนชา – พริกไทยป่น 1 ช้อนชา – น้ำปลาครึ่งถ้วย – กระเทียมใหญ่ 7 กลีบ – ผักชี 2 ต้น และ ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
  2. สำหรับวิธีทำหมูแดงนั้น เริ่มจาก คุณจะต้องทุบรากผักชี และ ทุบกระเทียมทั้งเปลือก หลังจากนั้นนำหมูสันในมาคลุกให้ส่วนผสมเข้าไปในเนื้อหมู หลังจากนั้นให้คุณใส่น้ำตาลทราย น้ำปลา พริกไทยป่น และ ลงพะโล้ลงไป หลังจากนั้นให้ใส่สีผสมอาหาร หลังจากนั้นคลุกเคล้าและใส่ผักชี และ กระเทียม ใส่หมูสันใน เพื่อคลุกเคล้าให้เข้ากัน และ นำฟิล์มถนอมอาหารแรปไว้ แช่ทิ้งไว้ 1 คืน แต่ถ้าไม่มีเวลามาก ควรแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  3. ส่วนการทำ ข้าวหมูแดง เราจะมาบอกส่วนผสมน้ำราดข้าวหมูแดงกัน เริ่มจาก -น้ำต้มกระดูกหมู -น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ -ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ –น้ำที่เหลือจากหมักหมูแดง – แป้งมันละลายน้ำ 1/4 ถ้วย และสุดท้ายคือ งาขาวคั่วครึ่งถ้วย ส่วนการทำน้ำราดนั้น จะต้องนำงาขาว และ ถั่วลิสงมาปั่นในโถปั่น และ ตั้งน้ำซุปให้เดือด หลังจากนั้นเติมน้ำหมักหมูแดงที่เหลือ ต้มให้เดือด หลังจากนั้นตักเครื่องหมักทิ้งไป และ เติมซีอิ๊ว กับ งาและถั่วลิสงลงไป และให้นำแป้งที่ละลายกับน้ำแล้วใส่ลงไปในหม้อ แล้วคนให้สม่ำเสมอไม่ให้แป้งเป็นก้อน แค่นี้ก็ทำน้ำราดหมูแดงได้แล้ว

ข้าวหมูแดง เมนูแสนอร่อยที่ใครก็ชอบกิน

คุณอาจมองว่า วิธีทำ ข้าวหมูแดง อาจยุ่งยากไปหน่อย แต่ถ้าคุณเป็นสาวกล่ะก็ มันจะไม่ยากสำหรับคุณอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม อย่ามัวกิน หมูแดงเยอะเกินไป จนลืมออกกำลังกายล่ะ 

นี่คือ การทำ ข้าวหมูแดง ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง รับรองว่า ทำตามสูตรนี้อร่อยแน่นอน