สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมเบเกอรี่

เมนู ไวท์ช็อคสตรอว์เบอร์รี่ลาวา เมนูเบเกอรี่น่าทานและทำได้ไม่ยาก

ไวท์ช็อคสตรอว์เบอร์รี่ลาวา
ไวท์ช็อคสตรอว์เบอร์รี่ลาวา

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้โชมมมมมมม การได้ลงมือทำเบเกอรี่เองที่บ้านในช่วงวันหยุดนับว่าเป็นกิจกรรมยามว่างที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ถึงเเม้ว่าจะได้ออกมาดีบ้างเสียบ้างก็นับว่าเป็นเรื่องที่สนุกสนานและนับเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ให้แก่ตนเอง ใครที่ชอบในการทำเบเกอรี่แล้วที่บ้านมีอุปกรณ์ครบเพียงพอสามารถเตรียมวัตถุดิบมาทำได้เลย วันนี้เราก็เตรียมสูตรเบเกอรี่มาฝากทุกท่านอีกเช่นเคยกับเมนู ไวท์ช็อคสตรอว์เบอร์รี่ลาวา นั่นเองจ้าาาา

ส่วนผสมขนม ไวท์ช็อคสตรอว์เบอร์รี่ลาวา

1. แป้งเค้ก 50 กรัม

2. ไวทช็อคโกแลต 80 กรัม

3. แยมสตรอว์เบอร์รี่ 5 ช้อนโต๊ะ

4. ไข่ไก่ 6 ฟอง

5. น้ำตาลทราบ 60 กรัม

6. เนยเค็ม 70 กรัม

7. น้ำตาลไอซิ่ง ตามชอบ

8. สตรอว์เบอรี่สด ตามชอบ

วิธีทำ

1. นำ แป้งเค้ก ที่เตรียมไว้มาร่อนเพื่อให้ได้เนื้อแป้งละเอียด จากนั้นพักเอาไว้

2. ตั้งน้ำร้อนในหม้อแล้วนำชามผสมวางไว้ด้านบน ใส่ไวท์ช็อคโกแลและเนยสดลงไป คนจนส่วนผสมละลายเข้ากันดี

3. นำไข่ไก่ที่อุณหภูมิห้องมาตีให้เข้ากันกับน้ำตาลทราย เมื่อเข้ากันดีแล้วให้ใส่ไวท์ช็อคตามลงไป คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี

4. นำแป้งเค้กที่ร่อนไว้แล้วมาใส่ลงในชามผสม คนให้เข้ากัน กรองจนเนื้อละเอียดไม่มีเม็ด ๆ 

5. ทาเนยที่พิมพ์ขนม จากนั้นนำส่วนผสมมาเทใส่พิมพ์ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ จากนั้นนำแยมสตรอว์เบอร์รี่ใส่ลงไปตรงกลาง กดให้จม

6. นำพิมพ์ขนมเข้าเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียส 10 นาทีขึ้นไปหรือจนกว่าจนมจะสุก

7. เมื่อขนมสุกได้ที่แล้วให้นำออกมาจากเตาอบ คว่ำพิมพ์เพื่อนำขนมมาจัดจาน โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งและตกแต่งด่วยสตรอว์เบอร์รี่สด พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ไวท์ช็อคสตรอว์เบอร์รี่ลาวา

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่น่าทานอย่าง ไวท์ช็อคสตรอว์เบอร์รี่ลาวา สูตรนี้ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ เพื่อน ๆ ที่สนใจจะลองทำเมนูนี้สามารถลดหรือเพิ่มส่วนผสมได้ตามใจชอบเลยน้า สามารถเตรียมหาวัตถุดิบและส่วนผสมได้ตาม ซุปเปอร์มาเก็ต ทั่วไปเลยนะจ๊ะ

https://www.youtube.com/watch?v=ZmAG28_zTWw

Categories
ขนมเบเกอรี่

เมนู แพนเค้กราดน้ำผึ้ง เมนูเบอเกอรี่ธรรมดา ที่รสชาติแสนพิเศษ ทำทานง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

แพนเค้กราดน้ำผึ้ง
แพนเค้กราดน้ำผึ้ง

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนน เบเกอรี่ประเภทเค้กจัดว่าเป็นขนมประจำชาติของทางทวีปยุโรปที่กลับกลายมามีอิทธิพลอย่างมากถึงมากที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเค้กประเภทนึ่ง อบ หรือดาดกระทะ ก็ยอดฮิตด้วยกันทั้งสิ้น วันนี้เราก็เตรียมสูตรเด็ดของเบเกอรี่มาฝากอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ   แพนเค้กราดน้ำผึ้ง นั่นเองจ้า อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำจะง่ายขนาดไหน ไปติดตามกันได้เลย

ส่วนผสมขนม แพนเค้กราดน้ำผึ้ง

1. แป้งเค้ก 240 กรัม

2. นมสด 400 กรัม

3. ไข่แดง 2 ฟอง

4. ไข่ขาว 2 ฟอง

5. น้ำมันพืช 50 กรัม

6. ผงฟู 2 ช้อนชา

7. เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา

8. น้ำตาลทราย 8 ช้อนโต๊ะ

9. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

10. กลิ่นวนิลลา ตามชอบ

11. น้ำตาลไอซิ่ง ตามชอบ

12. น้ำผึ้ง ตามชอบ

วิธีทำ 

1. นำนมสดที่เตรียมไว้เทใส่ชามผสม ตามด้วย ไข่แดง น้ำตาลทราย เกลือป่น และกลิ่นวนิลลา ตีให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 

2. นำแป้งเค้ก ผงฟู เบกกิ้งโซดา ไปร่อน นำมาใส่ลงในชามผสม ตะล่อมจนส่วนผสมให้เข้ากันดี

3. นำชามผสมมาอีก 1 ใบ ใส่ไข่ขาวค่อย ๆ ตีจนขึ้นฟู ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายทีละนิดตลอดของการตี ตีจนไข่ขาวตั้งยอดสวย

4. นำไข่ขาวส่วนแรกใส่ในแป้งที่ผสมแล้ว คนให้เข้ากัน ตามด้วยการใส่ไข่ขาวทีเหลือตามลงไปทั้งหมดคนให้เข้ากันอีกครั้ง

5. ตั้งกระทะเทฟร่อนให้ร้อนดี ใช้ไฟอ่อน ตักแป้งลงไปให้เป็นวงกลม คอยกลับด้านให้สีสวย ทำไปเรื่อย ๆ จนหมด

6. เตรียมเสิร์ฟโดยการนำแพนเค้กมาวางในจานซ้อนกันหลาย ๆ ชั้น โรยน้ำตาลไอซิ่ง ตามด้วยการราดน้ำผึ้งตามลงไป เสร็จแล้วจ้าเมนู แพนเค้กราดน้ำผึ้ง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่ที่ยอดฮิตอย่าง แพนเค้กราดน้ำผึ้ง ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ คุณพ่อบ้าน คุณแม่บ้านที่มีลูกหลานสามารถทำให้น้องทานตอนเช้าหรือจะทานเป็นของว่างก็ดีมาก ๆ เลยน้า เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการที่เราจะสังเกตว่าแพนเค้กสุกหรือไม่นั้นต้องคอยดูว่ามีฟองขึ้นทางด้านบนหรือยัง หากมีฟองปุด ๆ ขึ้นมาแล้วก็ถือว่าสุกนะจ๊ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

เมนู แพนเค้กซูเฟล่สไตล์ญี่ปุ่น เมนูเบเกอรี่ยอดฮิต ที่ทำทานได้ที่บ้าน

แพนเค้กซูเฟล่
แพนเค้กซูเฟล่

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนน หลายคนคงจะชอบทานเบเกอรี่เป็นชีวิตจิตใจ เราก็เช่นเดียวกัน แต่กว่าจะหาทานได้ทีนึงก็ต้องไปร้านกาเเฟ ไม่ก็ไปร้านสะดวกซื้อ บางครั้งในวันหยุดก็คงอยากจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านสบาย ๆ ใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยเตรียมสูตรเมนู แพนเค้กซูเฟล่สไตล์ญี่ปุ่น มาฝากทุกคนกันจ้า รับรองว่าแค่หาวัตถุดิบเตรียมไว้ก็ทำอยู่ที่บ้านได้แบบสบาย ๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำเมนูนี้จะง่ายมากแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยยย

ส่วนผสมขนม แพนเค้กซูเฟล่สไตล์ญี่ปุ่น

1. แป้งเค้ก 6 ช้อนโต๊ะ

2. ไข่ไก่ 4 ฟอง แยกไข่แดงและไข่ขาว

3. เนยละลาย 4 ช้อนโต๊ะ

4. ผงฟู 1 ช้อนชา

5. นม 4 ช้อนโต๊ะ

6. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ

7. เกลือ 1/4 ช้อนชา

8. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

9. กลิ่นวนิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำเนยละลายที่เตรียมไว้มาผสมกับนมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพักไว้

2. นำไข่ขาวที่แยกออกจากไข่แดงแล้วไปแช่ตู้เย็นประมาณ 10 – 15 นาที 

3. นำไข่แดงที่แยกออกมาไว้ไปใส่ในชามที่มีเนยและนม ร่อนแป้งและผงฟูตามลงไป คนจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นใส่กลิ่นวนิลลา

4. นำไข่ขาวที่แช่ตู้เย็นไว้ออกมา ใส่น้ำมะนาว ค่อย ๆ ตีวนเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทีละน้อยตีจนตั้งยอดเป็น เมอแรงค์

5. ใส่ไข่ขาวที่ตีไว้จนตั้งยอดลงไปในชามไข่แดง 1 ส่วน คนจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นนำส่วนที่คนไว้แล้วเทกลับไปยังไข่ขาวที่เหลือ ผสมอีกครั้งจนเข้ากันดี

6. นำกระทะเทฟมาตั้งไฟอ่อนทาด้วยเนยให้ทั่วทั้งกระทะ หยอดแพนเค้กลงด้านบนให้เป็นวงกลมจากนั้นปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นกลับด้านเพื่อให้สีสวยเท่า ๆ กัน

7. นำแพนเค้กที่สุกแล้วมาใส่จาน ตกแต่งด้วยผลไม้สด ไอศกรีม น้ำผึ้ง และน้ำตาลไอซิ่งได้ตามชอบ เสร็จแล้วจ้ากับเมนู แพนเค้กซูเฟล่สไตล์ญี่ปุ่น

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตอย่าง แพนเค้กซูเฟล่สไตล์ญี่ปุ่น วิธีทำของเราง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ แถมส่วนผสมยังมีไม่เยอะอีกต่างหาก หากใครที่อยากลองทำให้คนที่บ้านทานสามารถเตรียมหาวัตถุดิบตามร้านสะดวกซื้อชั้นนำได้เลยน้า เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือหากนำไข่ขาวไปแช่ตู้เย็นจะทำให้ตั้งยอดยากมากขึ้นแต่จะทำให้ยอดนั้นคงอยู่ได้นานนะจ๊ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

เมนู ทาร์ตไข่ เมนูเบเกอรี่ยอดนิยมที่ทำเองก็อร่อยไม่แพ้กัน

ทาร์ตไข่
ทาร์ตไข่

สวัสดีค่ะคุณผู้โชมมมมมม ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยต่างได้รับวิวัฒนาการทางอาหารมาจากชาติอื่นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรืออาหารหวาน ร้านอาหารของชาติต่าง ๆ ก็เต็มเกลื่อนทั่วทุกพื้นที่ทั้ง พิซซ่า โดนัท ปิ้งย่าง รวมไปถึงร้านไก่ทอดอย่าง kfc ร้านนี้มักมีเมนูใหม่ ๆ มามอบความอร่อยให้แก่ลูกค้าเสมอและไม่ได้มีเพียงไก่ทอดเฟรนส์ฟรายเท่านั้นยังมีของหวานให้ได้ลิ้มลองกันด้วย เมนูที่ยอดนิยมมากที่สุดทางด้านอาหารหวานได้แก่ ทาร์ตไข่ นั่นเองจ้า

       ทาร์ตไข่ เป็นเมนูขนมหวานสไตล์โบราณของประเทศโปรตุเกส โดยถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกของครูในคอนแวนต์ โดยขนมชนิดนี้มีวัตถุดิบหลักคือไข่และแป้งทาร์ต ลักษณะพิเศษของเมนูนี้คือหน้าขนมต้องออกไหม้นิด ๆ มีความกรุบ ๆ เกิดจากการอบจนน้ำตาลทางด้านบนมีสีเปลี่ยนไป

ส่วนผสมขนม ทาร์ตไข่

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง

2. น้ำมันพืช 1/3 ถ้วยตวง

3. ไข่แดง 2 ฟอง

4. น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ

5. น้ำตาลไอซิ่ง 3 ช้อนโต๊ะ

6. เกลือ 1 ช้อนชา

7. เนยสด 1/3 ถ้วยตวง

8. ไข่ไก่ 4 ฟอง

9. น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง

10. นมสด 2 ถ้วยตวง

11. นมข้นจืด 2 ถ้วยตวง

12. กลิ่นวนิลลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำแป้งที่เตรียมไว้มาใส่ชามผสม ตามด้วยเกลือ และน้ำตาลไอซิ่ง ผสมจนเข้ากันดี จากนั้นให้เว้นช่องไว้ตรงกลางเพื่อใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยเนยสด คนจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน

2. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้วให้ใส่ไข่แดงลงไป ค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากันผสมด้วยน้ำเย็นจัด เมื่อเข้ากันดีแล้วให้พักแป้งไว้ในตู้เย็น

3. ตั้งน้ำในก้นซึ้ง จากนั้นนำชามผสมมาวางใส่ไข่และน้ำตาลทรายลงไปคนจนน้ำตาลละลายดี ตามด้วยการใส่นมสด นมข้นจืด เกลือ และกลิ่นวนิลลา ผสมจนเข้ากัน จากนั้นกรองด้วนตะแกรงเพื่อให้เนื้อเนียนละเอียด

4. นำแป้งที่พักไว้มาบรรจุลงในพิมพ์ กรุให้ขอบแป้งสูงกว่าพิมพ์ จากนั้นนำไส้ครีมมาเติมจนเกือบถึงขอบพิมพ์ 

5. อุ่นเตาในอุณหภูม 220 องศาสเซลเซียส ใช้ไฟบน – ล่าง

6. นำ ทาร์ต เข้าเตาอบประมาณ 20 นาที จากนั้นให้นำออกมาเช็คดูว่าทาร์ตสุขแล้วหรือยัง

7. นำน้ำตาลทรายมาผสมกับน้ำเปล่าเคี่ยวจนมีสีน้ำตาลอ่อน ๆ พักไว้ให้เย็น

8. นำทาร์ตออกมาเพื่อทาน้ำเชื่อมจากนั้นนำเข้าไปอบอีกครั้งเพื่อให้หน้าทาร์ตมีสีไหม้ พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้ากับเมนู ทาร์ตไข่

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตตามร้านอาหารอย่าง ทาร์ตไข่ เมนูนี้วิธีทำไม่ยากมากใช่ไหมคะทุกคน ใครที่กำลังอยากลองทำเมนูนี้หรือกำลังหิว ๆ อยากหาอะไรอร่อย ๆ มากระแทกปาก เมนูนี้ถือว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือในขณะที่ทำคัสตาร์ดขั้นตอนการผสมไข่กับน้ำตาลทราย ต้องผสมให้เข้ากันก่อนที่จะนำไปวางบนน้ำร้อนจัดนะจ๊ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

บลูเบอรี่ชีสพาย เมนูเบเกอรี่ ที่สามารถทำทานเองได้แบบง่าย ๆ

บลูเบอรี่ชีสพาย

สวัสดีค่ะทุก ๆ ท่านนนน อากาศร้อนขนาดนี้ไม่รู้จะหาขนมอะไรมาทานให้คลายร้อนดีใช่ไหมคะ แถมยังต้องอยู่บ้านไม่ได้ออกไปช็อปปิ้ง หาคาเฟ่นั่งแบบเมื่อก่อน ไม่เป็นไรนะคะ วันนี้เราเตรียมเบเกอรี่ชนิดหนึ่งที่ยอดนิยมเอามาก ๆ ได้แก่เมนู บลูเบอรี่ชีสพาย เป็นเมนูจัดว่าในคาเฟ่หรือร้านกาแฟแทบทุกร้านต้องมี เราเลยเตรียมส่วนผสมและวิธีทำมาฝากกัน ไปติดตามชมกันได้เลยจ้า

ส่วนผสมขนม บลูเบอรรี่ชีสพาย

1. บลูเบอรี่กระป๋อง 1 กระป๋อง

2. แครกเกอร์กรอบ 1 ห่อ

3. คุกกี้เนย 1 ห่อเล็ก

4. เนยจืด 1 ก้อน

5. ครีมชีส 1 ห่อ

6. โยเกิร์ตรสธรรมชา 1 ถ้วย

7. นมข้นหวาน 1 ถ้วยตวง

8. มะนาว 1 ลูก

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 นำแครกเกอร์และคุกกี้ที่เตรียมไว้มาทุบให้ละเอียด ไม่เป็นชิ้น จากนั้นนำไปเทใส่ชามผสม

ขั้นตอนที่ 2 นำเนยจืดไปละลายในไมโครเวฟให้เป็นน้ำ แล้วนำมาใส่ชามผสมที่บนแครกเกอร์กับคุกกี้ไว้ คนให้เข้ากันดี

ขั้นตอนที่ 3 นำแครกเกอร์ที่ผสมรวมกับเนยแล้วกรุลงในถาด นำเข้าเตาอบ 15 นาที หรือจนกว่าเเครกเกอร์จะสุกดี

ขั้นตอนที่ 4 นำครีมชีสที่เตรียมไว้มาหั่นเป็นชิ้น ๆ เพื่อง่ายต่อการตี จากนั้นเทนมข้นหว่าลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ตีครีมชีสให้เข้ากับนมข้น ใส่มะนาวลงไป 1 ซีก ตีครีมชีสต่อพร้อมกับใส่นมข้นหวานอีก 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนที่ 5 ใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติลงไปในชามผสม ตีให้เข้ากันอีกครั้งจนเนื้อเนียนได้ที่

ขั้นตอนที่ 6 นำครีมชีสมาตักใส่ฐานแครกเกอร์ที่อบแล้ว ปริมาณตามชอบ นำเข้าตูเย็นเพื่อให้ครีมชีสเซ็ทตัว

ขั้นตอนที่ 7 ผ่านไป 15 นาที นำตัวขนมออกมา จากนั้นตักบลูเบอี่ใส่บนครีมชีส ตามชอบอีกเช่นเคย พร้อมเสิร์ฟกับเมนู บลูเบอรี่ชีสพาย

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่อบกรุบกรอบที่ขึ้นชื่ออย่างมากตามร้านกาแฟอย่าง บลูเบอรรี่ชีสพาย ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ วันไหนไปเดินเล่นที่ Tops ก็สามารถหาซื้อวัตถุดิบได้ครบทุกชิดเลย เพื่อน ๆ ลองลงมือทำดูนะคะอล้วจะรู้ว่าง่ายมาก เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือ การตีครีมชีสกับส่วนผสมอื่น ๆ ให้เข้ากันเป็นอย่างดี ไม่ให้มีส่วนใดเป็นก้อนนะจ๊ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

เมนู เครปเค้กสายรุ้ง เบเกอรี่ที่ทำทานเองได้ที่บ้าน ไม่ง้อเตาอบ

เครปเค้กสายรุ้ง
เครปเค้กสายรุ้ง

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนนน ใครที่กำลังเริ่มอยากลองทำเบเกอรี่แต่ยังไม่มีเตาอบก็สามารถที่จะลองฝีมือในครัวได้ด้วยนะ ด้วยการลงมือทำขนมตระกูลเค้กที่เรานำมาฝากในวันนี้ ได้แก่เมนู เครปเค้กสายรุ้ง เเค่ทุกคนมีกระทะ เทฟล่อนใบเดียวก็ได้ทานเค้กอร่อย ๆ แล้วจ้า อยากรู้วัตถุดิบและขั้นตอนการทำแล้วใช่ไหมคะ ไปติดตามกันได้เลยยย

ส่วนผสมขนม เครปเค้กสายรุ้ง

1. แป้งเค้ก 330 กรัม

2. นมสด 800 กรัม

3. เนยสด 200 กรัม

4. ไข่ไก่ 10 ฟอง

5. น้ำตาลทราย 300 กรัม

6. วิปปิ้งครีม 500 กรัม

7. สีผสมอาหาร 6 สี

8. สตอเบอร์รี่สดหรือแช่เเข็ง 200 กรัม

9. แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ 

1. นำนมสดที่เตรียมไว้ไปตั้งไฟอ่อน เมื่อเดือดแล้วให้นำลงมาพักไว้

2. นำเนยสดอุณหภูมิห้องไปละลาย เมื่อละลายแล้วให้พักไว้

3. ตอกไข่ใส่ชามผสม คนแค่พอเข้ากัน ไม่ให้ขึ้นฟูเหมือนไข่เจียวน้า จากนั้นใส่น้ำตาลทราย ตีวนจนน้ำตาลละลายดีแล้ว ค่อย ๆ ทยอยใส่แป้งเค้กให้ได้ 3 – 4 รอบ คนจนเข้ากันดี

4. ใส่นมสดที่พักจนเย็นแล้ว ทยอยใส่นะคะ 3 – 4 รอบเช่นเดียวกัน

5. นำเนยละลายที่พักไว้จนเย็นแล้วมาใส่ตามลงไป คนต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

6. นำส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วไปกรองจนเนื้อแป้งละเอียดทั้งหมด ไม่มีส่วนใดติดกับตะแกรง นำไปแช่ตู้เย็น 30 นาที

7. เมื่อครบเวลาตามกำหนด นำแป้งออกมาจากตู้เย็นแล้วตักแบ่งให้ได้ 6 ส่วน ใส่สีผสมอาหารส่วนละ 1 สี คนจนสีละลายดีแล้ว

8. นำกระทะมาตั้งไฟอ่อน ทาเนยสดที่กระทะจนทั่ว นำแป้งสีแรกมาตักใส่กระทะจากนั้นวนเป็นวงกลมจนได้แป้งแผ่นบาง ๆ ทำจนหมด แล้วเริ่มสีใหม่จนครบทุกสี เมื่อทำครบแล้วให้พักแป้งไว้ให้เย็น

9. นำวิปปิ้งครีมมาใส่ชามผสม ตีจนวิปปิ้งครีมตั้งยอดแบบอ่อน ๆ น่าทาน พักไว้ก่อน

10. นำ สตอเบอร์รี่ สดมาปั่นจนละเอียด เทใส่ชามผสม ตามด้วยน้ำตาล คนจนน้ำตาลละลายหมดให้ใส่แป้งข้าวโพดตามลงไป ตั้งไฟอ่อน ๆ คนจนแป้งละลาย

11. เมื่อแป้งเย็นแล้วให้นำแผ่นแรกมาวางปาดด้วยวิปปิ้งครีมตามด้วยแป้งแผ่นที่ 2 ทำแบบนี้ไปจนครบทุกที

12. เตรียมเสิร์ฟโดยการตัดแบ่งเป็น 6 – 8 ชิ้น นำมาวางใส่จาน โรยน้ำตาลไอซิ่ง ราดทับด้วยซอสสตอเบอร์รี่ เสร็จแล้วจ้ากับเมนู เครปเค้กสายรุ้ง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูยอดฮิตอย่าง เครปเค้กสายรุ้ง อย่างที่เราเคยบอกไปด้านบนว่าเมนูนี้ใครที่ไม่มีเตาอบก็สามารถที่จะทำเบเกอรี่ได้ หากใครอยากลองทำทานหรืออยากทำให้คนที่บ้านทานเป็น ของว่าง ก็สามารถเตรียมหาวัตถุดิบได้ตามห้างสรรพสินค้าเลยน้า

Categories
ขนมเบเกอรี่

ช็อคโกแลตลาวา เมนูน่าอัศจรรย์ที่มีให้ทานทุก ๆ ร้านกาแฟ

ช็อคโกแลตลาวา

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ ท่านนนน หลายท่านก็คงชอบทานเมนูช็อคโกแลตไม่น้อยไปกว่าเรา ขนมอะไร ประเภทไหนก็ได้ขอแค่เป็นช็อคโกแลต วันนี้เราเลยเตรียมเมนูเบเกอรี่ที่ทำได้ไม่ยากแล้วก็อร่อยมากเช่นเดียวกัน เมนูนี้ก็คือ ช็อคโกแลตลาวา อยากรู้วิธีทำกันแล้วใช่ไหมคะ ไปติดตามกันได้เลยจ้า

ส่วนผสมขนม ช็อคโกแลตลาวา

1. ดาร์กช็อคโกแลต 200 กรัม

2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย

3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

4. เนยเค็ม 200 กรัม

5. ไข่ไก่ 5 ฟอง

6. เนยขาว 3 ช้อนโต๊ะ

7. น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 3 ช้อนโต๊ะ

8. ไอศกรีมสตอเบอร์รี่ 1 สคูป

วิธีทำ

1. ตั้งน้ำในหม้อจากนั้นนำช็อคโกแลตเทลงบนอ่างผสม คนบนไอร้อนจนละลาย เติมเนยเค็มลงไป คนต่ออีกครั้งจนเนื้อเข้ากันดี พักไว้สักครู่

2. นำไข่ไก่และน้ำตาลทรายเทลงไปในชามผสมอีกใบจากนั้นตีให้ขึ้นฟูด้วยตะกร้อมือ

3. จากนั้นทำการเติมแป้งลงไปทีละนิดจนหมด แล้วจึงเตรียมช็อคโกแลตที่ละลายไว้ลงไป คนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

4. นำถ้วยเซรามิคมาทาเนยขาวและโรยน้ำตาลทรายเล็กน้อย หยอดส่วนผสมที่เนื้อเข้ากันดีแล้วลงไป ประมาณ 3/4 ของถ้วย เคาะจนไม่มีฟองอากาศเหลือ

5. นำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาด้วยเวลาประมาณ 10 นาที

6. เมื่อสุกดีแล้วให้นำพิมพ์ออกมาใส่จาน จากนั้นให้คว่ำพิมพ์ลง ตกแต่งด้วยน้ำตาลไอซ์ซิ่งและไอศกรีม พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ช็อคโกแลตลาวา

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่สุดแสนพิเศษที่มีให้เลือกทานตามร้านกาแฟต่าง ๆ อย่าง ช็อคโกแลตลาวา ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ใครที่ชื่นชอบเมนูนี้หรืออยากลองทำให้คนที่บ้านทานก็สามารถหาวัตถุดิบมาเตรียมไว้ได้เลย ง่ายมาก ๆ เลยน้า เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการโรยน้ำตาลหลังจากทาเลยลงไปบนพิมพ์แล้วจะทำให้เนื้อขนมไม่ติดพิมพ์และเทออกมาอย่างง่ายดายนะจ๊ะ

       

Categories
ขนมเบเกอรี่

คุกกี้คอร์นเฟล็ก เมนูเบเกอรี่อบกรุบกรอบ ทำทานก็ได้ ทำขายก็ดี

คุกกี้คอร์นเฟล็ก
คุกกี้คอร์นเฟล็ก

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนน ช่วงนี้ติดโรคทำให้หลายคนไม่สามารถออกไปทำงานประจำได้ เป็นเหตุให้รายได้ลดลงอย่างมาก แต่ในปัจจุบันสังคมออนไลน์ได้เปิดออกอย่างกว้างขวาง ใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริม วันนี้เรามีวิธีทำขนมตัวหนึ่งมาฝากกัน จะทำให้คนที่บ้านทานก็อร่อย หรือจะทำขายก็ได้กำไรงาม ขนมชนิดนี้ก็คือ คุกกี้คอร์นเฟล็ก เบเกอรี่อบแสนอร่อย ไปติดตามสูตรกันได้เลยจ้า

ส่วนผสมขนม คุกกี้คอร์นเฟล็ก

1. คอร์นเฟล็ก ( ตามชอบ )

2. แป้งข้าวโพด 20 กรัม

3. แป้งข้าวจ้าว 20 กรัม

4. น้ำตาลไอซิ่ง 70 กรัม

5. เนยจืดอุณภูมิห้อง 135 กรัม

6. ลูกเกดหรือผลไม้แห้ง 60 กรัม

7. แป้งอเนกประสงค์ 130 กรัม

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 

       นำเนยที่เตรียมไว้มาใส่ชามผสมขนาดพอเหมาะ ตามด้วยการร่อนน้ำตาลไอซิ่งลงไป คนให้เข้ากัน

ข้นตอนที่ 2 

       นำแป้งที่เตรียมไว้ทั้งแป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวจ้าว แป้งข้าวโพด มาร่อนลงในชมผสมที่มีเนยและน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 3 

       เมื่อแป้งเข้ากันดีแล้ว ให้นำลูกเกดหรือผลไม้อบแห้งมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน จากนั้นให้ปั้นแป้งเป็นวงกลมขนาดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ โปะทับด้วยคอร์นเฟล็กตามปริมาณที่ชอบ

ขั้นตอนที่ 4

       นำคุกกี้ที่ปั้นแล้วมาวางในถาดเตรียมเข้าอบ วอร์มเตาอบที่ประมาณ 150 องศา 5 นาที จากนั้นนำคุกกี้เข้าเตาอบระยะเวลาประมาณ 20 นาทีหรือจนกว่าคุกกี้จะสุกดี เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟกับขนม คุกกี้คอร์นเฟล็ก

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่อบกรุบกรอบอย่าง คุกกี้คอร์นเฟล็ก ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ใครที่กำลังว่างอยู่หรือใครอยากลองทำไว้เป็นของว่างให้คนที่บ้านก็สามารถทำได้เลยนะคะง่ายมาก ๆ เลย เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือปั้นคุกกี้ให้ขนาดพอเหมาะพอดี ไม่เล็กหรือใช้จนเกินไป เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมแล้วขนาดจะอยู่ประมาณช้อนทานข้าว เมื่ออบแล้วจะเป็นชิ้นพอดีน่าทานนะจ๊ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

คุกกี้สูตรไมโคเวฟ เมนูที่ไม่ต้องใช้เตาอบราคาแพงก็อร่อยได้

คุกกี้สูตรไมโครเวฟ
คุกกี้สูตรไมโครเวฟ

สวัสดีท่านพ่อบ้าน แม่บ้านทั้งหลายจ้า วันนี้เราพกเมนูแสนอร่อยที่มีแค่ไมโครเวฟเครื่องเดียวก็สามารถทานของอร่อยได้ เมนูนี้ก็คือ คุกกี้สูตรไมโครเวฟ หลาย ๆ ท่านคงจะชอบทานคุกกี้กันเป็นชีวยิตจิตใจอยู่แล้ว จะซื้อบ่อย ๆ ก็คงจะเปลืองไม่น้อง งั้นวันนี้ลองไปทำตามกันนะคะ

ส่วนผสมขนม คุกกี้สูตรไมโครเวฟ

1. แป้งอเนกประสงค์

2. ช็อคโกแลตชิพ

3. เนยเค็ม

4. ไข่ไก่

5. กลิ่นวนิลา

6. น้ำตาลไอซิ่ง

7. ผงฟู

วิธีทำ

1. ตีเนยเค็มที่เตรียมไว้จนกลายเป็นเนื้อครีม 

2. เมื่อเนยที่ตีไว้กลายเป็นเนื้อครีมแล้วให้ใส่น้ำตาลไอซิ่งตีต่อจนฟู

3. นำไข่ไก่ และกลิ่นวนิลลามาคนจนเข้ากันกับส่วนผสมในข้อ 2 

4. ร่อนแป้งและผงฟูใส่ในส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้ว คนอีกครั้งหนึ่ง

5. เมื่อผสมจนเข้ากันดีแล้ว ให้นำช็ออคโกแลตชิพมาใส่ คนให้เข้ากันอีกครั้ง

6. วางกระดาษไขที่จะนำเข้าไมโครเวฟ ตักคุกกี้ที่เสร็จแล้วลงบนถาด

7. นำเข้าอบประมาณ 3 – 5 นาที แล้วแต่ไมโครเวฟของแต่ละบ้านนะคะ

8. เมื่อเสร็จแล้วให้แกออกจากกระดาษไข วางบนตะแกรงจนเย็น เป็นอันเสร็จกับเมนู คุกกี้สูตรไมโครเวฟ

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู คุกกี้สูตรไมโครเวฟ ที่เราเตรียมสูตรมาให้เป็นอย่างดี ไม่ยากอย่างที่ทุกคนคิดเลยใช่ไหมคะ ลองทำดูปรับสูตรได้ตามใจชอบเลยนะคะ เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือเมื่อคุกกี้อบเสร็จแล้วให้เตรียมนมจืดมา 1 แก้ว ทานพร้อมกันอร่อยสุด ๆ ไปเลยจ้า

Categories
ขนมเบเกอรี่

เมนู คัพเค้กกล้วยหอม เมนูเบเกอรี่ยอดฮิต ที่ทำทานง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

คัพเค้กกล้วยหอม
คัพเค้กกล้วยหอม

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนนน ใครที่กำลังเข้าครัวเริ่มหัดทำเบเกอรี่แรก ๆ ก็คงยังไม่กล้าที่จะลงมือทำเมนูที่ยากเกินความสามารถหรือเข้าขั้นแอดวานซ์เกินไปใช่ไหมคะ วันนี้เราก็ยังคงเตรียมเมนูสุดพิเศษมาฝากอีกเช่นเคย เมนูนี้เป็นเบเกอรี่สำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นจะลงมือทำตระกูลเค้กทั้งหลาย นับว่าเป็นเมนูที่วัตถุดิบน้อยและง่ายมากกว่าเมนูอื่น ๆ เมนูที่เรานำมาฝากก็คือ คัพเค้กกลัวยหอม นั่นเองจ้า อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำจะง่ายแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยย

ส่วนผสมขนม คัพเค้กกล้วยหอม

1. กล้วยหอม 4 ลูกใหญ่

2. แป้งอเนกประสงค์ 400 กรัม

3. นมสด 250 มิลลิลิตร

4. ไข่ไก่ 4 ฟอง

5. เนยละลาย 160 กรัม

6. น้ำตาลทราย 300 กรัม

7. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา

8. ผงฟู 1 ช้อนชา

9. เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำกล้วยหอมที่เตรียมไว้มาปลอกเปลือกแล้วบดจนละเอียดเหมือนอาหารเด็ก พักไว้ก่อน

2. นำส่วนผสมที่เป็นผงมาร่อนรวมกันได้แก่ แป้งอเนกประสงค์ เกลือ ผงฟู เบกกิ้งโซดา พักไว้ก่อน

3. นำไข่ไก่และน้ำตาลทรายมาตีเข้าด้วยกันจนขึ้นฟู จากนั้นเติมนมสด เนยละลาย และกล้วยหอมบดตามลงไป คนจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

4. นำส่วนผสมที่ร่อนไว้แล้วมาเทใส่รวมกับข้อ 3 คนให้เป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง

5. เตรียมพิมพ์มาวางในถาด จากนั้นนำส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วใส่ถุงบีบหรือตักเอาก็ได้เช่นเดียวกัน ใส่ประมาณ 3/4 ของพิมพ์

6. เคาะถาดเพื่อไล่ฟองอากาศออกเล็กน้อย จากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วจ้ากับเมนู คัพเค้กกล้วยหอม

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตที่ใครก็ชอบทานอย่าง คัพเค้กกล้วยหอม วิธีทำง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาอาหารว่างทานหรือกำลังมองหาอะไรทำแก้เบื่อหรือจะนำไปเป็นอาชีพก็สามารถเตรียมหาวัตถุดิบได้ตามท้องตลาดทั่วไปเลยน้า เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือเมื่อใส่แป้งลงไปในส่วนผสมที่เป็นน้ำแล้วห้ามตีเยอะเด็ดขาดนะเพราะจะทำให้อากาศเข้ามากเกินไป นำไปอบแล้วเค้กจะยุบนะจ๊ะ