กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ ท่านนนน ขนมไทยในบ้านเรามีหลากหลายชนิดให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง ทุกชนิดล้วนมีการผสมก้วยกะทิไม่มากก็น้อย เช่นขนมหม้อแกง ขนมวุ้น ขนมบัวลอย วันนี้เรามีเมนูหนึ่งมานำเสนอเป็นเมนูที่มีส่วนผสมหลักเป็นกะทิได้แก่เมนู ขนมซ่าหริ่ม อยากรู้ส่วนผสมกับวิธีทำแล้วใช่ไหมคะ ไปติดตามกันได้เลยจ้าา

ส่วนผสม ขนมซ่าหริ่ม

1. แป้งถั่วเขียว 1/3 ถ้วยตวง

2. สีผสมอาหาร สีเขียว ชมพู 1 หยด

3. มะพร้าวพร้อมขูด 4 ถ้วยตวง

4. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง

5. น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. เตรียมชามผสมใส่แป้งถั่วเขียวลงไป ตามด้วยน้ำ และสีผสมอาหารทีละ 1 สี คนให้เข้ากัน จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อรองสิ่งสกปรก 

2. ตั้งกระทะทอง เทส่วนผสมใส่ลงไปกวนไปทางเดียวกันจนแป้งกลายเป็นสีใส

3. ตักแป้งที่ใสแล้วใส่ที่กดซ่าหริ่ม บีบใส่ในน้ำเย็น จากนั้นเทใส่กระชอนเพื่อให้สะเด็ดน้ำแล้วพักเอาไว้

4. นำมะพร้าวมาคั้นโดยใส่น้ำอุ่นลงไปในมะพร้าว บีบให้ได้น้ำกะทิออกมา 

5. นำกะทิที่คั้นแล้วมาตั้งไฟ ตามด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น ใส่ดอกมะลิตามลงไป คนให้เข้ากัน

6. นำตัวซ่าหริ่มมาม้วนเป็นสี ๆ ตามด้วยราดน้ำกะทิ พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ขนมซ่าหริ่ม

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูขนมไทยยอดฮิตและแสนพิเศษอย่าง ขนมซ่าหริ่ม ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ใครที่ชอบทานเมนูนี้หรืออยากทำไว้ให้คนที่บ้านทาน เตรียมหาวัตถุดิบไว้ได้เลย เมนูนี้ง่ายมาก ๆ เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือ การกดตัวแป้งลงไปในน้ำเย็นต้องกดแรงมือที่พอดีให้เป็นเส้นยาวตลอดเพื่อความน่ารับประทานนะจ๊ะ

กราบสวัสดีพ่อ แม่ พี่ น้อง ทุกท่านที่รู้สึกรักการทานอาหารแบบคลีน ๆ คิดออกหรือยังคะว่าเย็นนี้จะทำเมนูอะไรทานดี วันนี้เลยเตรียมเมนูแซ่บ ๆ แต่ไม่อ้วนมาฝากทุกคน เมนูนี้ก็คือ ไก่นึ่งมะนาว นั่นเอง อยากรู้แล้วใช่ไหมละว่าจะแซ่บขนาดไหน ไปติดตามกันได้เลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู ไก่นึ่งมะนาว

1. สะโพกไก่ติดน่อง

2. กระเทียมสับ

3. พริกขี้หนูสับ

4. รากผักชีสับ

5. น้ำตาลทราย

6. มะนาว

7. น้ำปลา

วิธีทำ

1. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ชิมรสให้เข้าที่

2. ใส่กระเทียมสับ พริกขี้หนูสับ และรากผักชีสับลงไป ราดลงบนชิ้นไก่ที่เตรียมไว้

3. นำไก่ที่ราดน้ำมะนาวที่ปรุงรสแล้วไปนึงในซึ้ง ประมาณ 20 นาทีหรือจนกว่าจะสุก เมื่อสุกแล้วให้ยกออกมาพักไว้จนหายร้อน

4. พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ไก่นึ่งมะนาว

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู ไก่นึ่งมะนาว ไม่ยากอย่างที่เพื่อน ๆ คิดเลยใช่ไหมคะ งั้นต้องลองทำดูนะคะทุกคนแล้วจะรู้ว่าเมนูนี้ง่ายสุด ๆ ไปเลย เคล็ดลับ คือการนึ่งไก่ จะรู้ได้ว่าชิ้นไก่สุกพอดีต้องสังเกตที่หนังตรงปลายข้อ ถ้าหนังไก่ถลกขึ้นมาแล้ว แปลว่าไก่สุกแล้วนะจ๊ะ

หากพูดถึงอาหารชาววังรสเด็ดที่ไม่ควรพลาดอย่าง แกง มัสมั่นไก่ จัดอยู่ในอาหารประเภทแกงที่มีความอร่อยสุดๆ โดยเนื้อไก่ถูกตุ๋นให้ได้เนื้อที่นุ่มละมุนละลายในปาก พร้อมทั้งอบอวลด้วยกลิ่นเครื่องเทศที่สามารถดับความคาวของเนื้อไก่ได้อย่างลงตัว แถมแกงมัสมั่นไก่ยังมีรสชาติหวานมันของกะทิสดอีกด้วย ดังนั้นใครที่ชอบเมนูอาหารไทยต้องลองทานแกงมัสมั่นไก่นุ่มๆ รับรองจะต้องติดใจอย่างแน่นอน

ชวนมาทำแกง มัสมั่นไก่ เนื้อนุ่ม อาหารไทยรสอร่อยจัดจ้าน ชวนชิม 

อาหารของชาวไทยที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณจะต้องยกให้ เมนูแกงมัสมั่นไก่ หนึ่งในอาหารไทยที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนใจชวนหิว และไม่ว่าจะทานตอนไหนก็อร่อยไม่มีเบื่อ อีกทั้งหากได้กับข้าวสวยเหนียวนุ่มยิ่งเพิ่มความอร่อยมากขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากลองทำแกงมัสมั่นไว้ทานเอง เรามีสูตรแกง มัสมั่น ไก่ สูตร โบราณที่สามารถทำได้เองง่ายๆ ดังนี้

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำพริกแกง

1. พริกขี้หนูแดงแห้ง 7-8 เม็ด
2. พริกชี้ฟ้าแดงแห้ง 5-6 เม็ด
3. หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ
4. ตะไคร้ 3 ช้อนโต๊ะ
5. ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
6. กะปิ ¼ ช้อนโต๊ะ
7. ผิวมะกรูด 1 ½ ช้อนโต๊ะ
8. ใบยี่หร่า ½ ช้อนโต๊ะ
9. ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
10. ลูกจันทร์ 1 ลูก
11. ดอกจันทร์ 1-2 ดอก
12. ลูกกระวาน 3-4 ลูก
13. กานพลู 2-3 ดอก
14. เกลือ 1 ช้อนชา
15. อบเชย 2 ท่อน

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำอาหาร

1. เนื้อไก่ส่วนสะโพก 700 กรัม
2. หอมใหญ่ 100 กรัม
3. มันฝรั่ง 400 กรัม
4. หัวกะทิ 400 กรัม
5. หางกะทิ 400 กรัม
6. ใบกระวาน 1 กรัม
7. ลูกกระวาน 5 กรัม
8. น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำตาลปิ๊ป 4 ช้อนโต๊ะ
10. ถั่วลิสงคั่ว 30 กรัม
11. น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
12. พริกแกง 130 กรัม

สำหรับสูตรมัสมั่นไก่ของเราจะทำเครื่องเทศเอง เพราะจะทำให้น้ำแกงมัสมั่นมีความหอมเข้มข้นตามสูตรอาหาร ไทย โบราณ แต่หากใครไม่สามารถทำเครื่องเทศเองได้ก็สามารถใช้เครื่องเทศแกงมัสมั่นสำเร็จรูปแทนได้เลย หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้ว ต่อมาจะเป็นวิธี ทำ แกง มัสมั่นไก่เมนูอาหารไทยง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

1. เริ่มแรกตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟปานกลาง รอให้น้ำมันร้อน ใส่ตะไคร้ หอมแดง ข่า กระเทียม ลงไปทอดให้เหลืองหอมสีสวยงาม ตักออกพักไว้ก่อน
2. นำพริกชี้ฟ้าแดงแห้ง และพริกขี้หนูแห้งให้เป็นชิ้นเล็กๆ พร้อมทั้งเอาเม็ดพริกออก ใส่ลงไปในกระทะทอดจนกรอบ หลังจากนั้นตักพริกออกมาพักไว้ให้เย็น
3. ต่อมาให้นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ทั้งหมดมาตำให้ละเอียด พักไว้ก่อน จากนั้นมาตั้งหม้อ เปิดไฟอ่อนๆ ใส่หัวกะทิลงไปเล็กน้อย เคี่ยวให้หัวกะทิแตกมัน ใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอม ใส่น้ำตาลปิ๊ป น้ำมะขามเปียก น้ำปลา คนส่วนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยหัวกะทิที่เหลือลงไป ปรับไฟแรงเล็กน้อย เมื่อส่วนผสมเดือดให้ใส่สะโพกไก่ ลูกกระวาน ใบกระวาน และหางกะทิ ลงไปเคี่ยวน้ำแกงไปเรื่อยๆ จนกว่าไก่จะสุก และเนื้อนุ่ม 
4. หลังจากที่ไก่สุกแล้วใส่มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ ต้มต่อไปอีกประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นใส่ถั่วลิสงคั่ว เพื่อความอร่อย เป็นอันเสร็จ พร้อมตักใส่ถ้วยทานได้เลย

สำหรับมัสมั่นไก่สูตรโบราณ เป็นอาหารไทยติดอันดับต้นๆ ที่มีรสชาติอร่อยครบรส และมีความเผ็ดเล็กน้อยทำให้สามารถตัดกับความมันของกะทิได้เป็นอย่างดี เมื่อนำมารับประทานกับข้าวสวยจึงเกิดความอร่อยลงตัวพอดีสุดๆ อีกทั้งแกงมัสมั่นยังเป็นอาหารภาคใต้ที่ชาวบ้านนิยมทำทานกันเป็นประจำอีกด้วย 

เคล็บลับทำแกงมัสมั่นไก่ รสชาติอร่อยพอดี ทานแล้วได้ประโยชน์มากมาย 

เมนูแกงมัสมั่นไก่ หนึ่งในอาหาร ไทย ยอด นิยมตลอดกาลไม่ว่าจะไปเที่ยวภาคไหนก็สามารถหาทานได้ตลอด อีกทั้งรสชาติยังอร่อยเข้มข้นทานแล้วฟินสุดๆ สำหรับการทำแกงมัสมั่นสูตรอาหารไทยด้วยตัวเองเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การนำพริกแกงมาคั่วกับกะทิจะช่วยให้แกงมีกลิ่นหอมอบอวลน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เครื่องเทศของแกงมัสมั่นอย่างอบเชยยังมีประโยชน์ช่วยแก้ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียนได้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอยังมียี่หร่า กานฟลูสามารถช่วยขับลม ขับเสมหะได้เป็นอย่างดี

อ่านบทความอื่นๆ:

• สูตรหมักหมูย่าง เสียบไม้ รสชาติอร่อย มาพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด
• ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) สูตรต้นตำหรับแท้

สวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนน อาหารไทยของเรายังคงเป็นอาหารยอดฮิตของคนในทุกชาติ ต่างประเทศก็ยังคงมีการจัดตั้งร้านอาหารไทยขึ้นมา เมนูส่วนมากที่คนนิยมทานกันก็คือจำพวกแกง ไม่ว่าจะเป็นแกงมัสมั่น แกงเหลือง แกงกะทิต่าง ๆ วันนี้เราเลยนำเมนูขึ้นชื่อมากฝากกันเมนูนี้ก็คือ แกงเทโพหมูสามชั้น ปัจจุบันไม่ต้องทำเครื่องแกงกันให้วุ่นวายเลย เพียงแค่เดินทางไปซุปเปอร์มาเก็ตก็มีให้เลือกครบทุกอย่างเลยจ้า อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าเมนูนี้มีวิธีทำอย่างไร ไปติดตามกันได้เลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู แกงเทโพหมูสามชั้น

1. หมูสามชั้น 3 ขีด

2. พริกแกงเผ็ด 1/4 ถ้วยตวง

3. กะทิ 1 ถ้วยตวง

4. ผักบุ้งไทย 1 กำ ( เอาส่วนยอดถึงกลางลำต้น )

5. มะกรูดผ่าครึ่ง 1 ลูก

6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

7. น้ำตาลมะพร้าว 3 ช้อนโต๊ะ

8. น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ

9. ใบมะกรูดฉีก 4 – 5 ใบ

วิธีทำ

1. ตั้งกะทิที่เตรียมไว้จนเดือด ใสพริกแกงเผ็ดลงไปเคี่ยวจนแตกมัน แต่ต้องไม่มากจนเกินไป

2. นำหมูสามชั้นลงไปผัดจนเข้ากันดีแล้วใส่กะทิที่เหลือลงไปอีกครั้ง ทิ้งไว้จนหมูสามชั้นนิ่ม

3. ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา และมะขามเปียก จนรสชาติเข้าที่ดี

4. ใส่ลูกมะกรูด ใบมะกรูด และผักบุ้งลงไป ทิ้งไว้จนผักบุ้งเปื่อย พร้อมเสิร์ฟกับเมนู แกงเทโพหมูสามชั้น 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารไทยโบราณ แกงเทโพหมูสามชั้น วิธีทำไม่ยากอย่างที่คิดไว้เลยใช่ไหมคะ เอาเป็นว่าอยากให้ทุกคนได้ลองทำดูน้า ง่ายมาก ๆ เลย เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือรสชาติของแกงต้องพอเหมาะ ไม่เปรี้ยว เค็ม หรือหวานจนเกินพอดีนะจ๊ะ

 

อังยองงงงง กราบสวัสดีพ่อ แม่ พี่ น้องสายอาหารคลีนทุกท่าน กำลังมองหาเมนูอาหารเย็นแบบเบา ๆ กันอยู่ใช่ไหมคะ วันนี้เราคัดสรรมาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วกับเมนู เกี๊ยวน้ำ หลายคนคงจะปลื้มปริ่มกับเมนูนี้อยู่แล้ว เราเลยอยากหาวิธีให้ทุกคนทานได้บ่อย ๆ โดยที่ไม่อ้วน ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะอร่อยแค่ไหน ไปติดตามกันเลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู เกี๊ยวน้ำ

1. เนื้อหมูสันใน

2. แผ่นแป้งเกี๊ยวซ่า

3. พริกไทย

4. ซีอิ๊วขาว

5. น้ำตาลทราย 

6. ผักชีซอย

7. คนอร์หมูก้อน

วิธีทำ

1. สับเนื้อหมูสันในให้ละเอียด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทย น้ำตาลเล็กน้อย ผสมให้เข้ากัน

2. นำแผ่นแป้งเกี๊ยวมาห่อหมู จากนั้นจับจีบให้สวยงาม

3. ตั้งน้ำลวก เกี๊ยวหมู จนสุก

4. ตั้งน้ำอีก 1 หม้อ ใส่คนอร์ก้อน ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายเล็กน้อยลงไป เมื่อรสชาติเข้าที่แล้วใส่เกี๊ยวลงไป ตักใส่ชามโรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟกับเมนู เกี๊ยวน้ำ

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู เกี๊ยวน้ำ ง่ายสุดแสนจะง่ายเลยใช่ไหมคะ อยากให้ทุกคนลองลงมือทำดูน้า เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับอาหารให้ตัวเองนิดนึง เมนูนี้ทานยังไง เวลาไหน กับใครก็อร่อยแถมไม่อ้วนด้วย เคล็ดลับ การลวกเกี๊ยวซ่าต้องลวกให้พอดี ไม่ให้ดิบหรือเละจนเกินไปนะจ๊ะ

กราบสวัสดีคุณพ่อบ้าน คุณแม่บ้านทั้งหลายจ้าาา กลับมาพบกับเราอีกเช่นเคยกับการแนะนำเมนูอาหารสูตรเด็ด วันนี้เราเตรียมสูตรอาหารที่น้อยคนจะเคยทำทาน แต่รสชาติอร่อยมาก ๆ ได้แก่เมนู       ไก่กรอบซอสมะนาว จะเด็ดดวง จะอร่อยแค่ไหน ไปติดตามกันเลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู ไก่กรอบซอสมะนาว

1. อกไก่

2. มายองเนส

3. มะนาว

4. นมข้น

5. เกลือ

6. ใบคะน้า

7. เกล็ดขนมปัง

8. ไข่ไก่

9. แป้งทอดกรอบ

10. น้ำมัน

11. พริกไทย

วิธีทำ

1. นำอกไก่ที่เตรียมไว้มาล้าง ใชส้อมจิ้ม จากนั้นโรยเกลือ และพริกไทยเล็กน้อย ชุบแป้งทอดกรอบ 1 รอบ นำไปชุบไข่ไก่ 1 รอบ ชุบแป้งอีก 1 รอบ ชุบไข่ไก่อีก 1 รอบ แล้วนำไปคลุกเกล็ดขนมปัง

2. เตรียมซอสมะนาว นำมายองเนสมาผสมนมข้นแล้วใส่น้ำมะนาวและเกลือตามลงไป คนให้เข้ากัน

3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันรอจนเดือด นำไก่ลงไปทอดจนเหลืองกรอบ

4. ซอยใบคะน้าแล้วนำลงไปทอดจนกรอบอร่อย

5. จัดจานโดยการวางคะน้าทอดกรอบลงไปก่อน แล้วตามด้วยอกไก่หั่นชิ้น ราดซอสลงบนไก่ พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ไก่กรอบซอสมะนาว

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู ไก่กรอบซอสมะนาว ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ อยากให้ทุกท่านได้ลองลงมือทำแล้วจะรู้ว่าเมนูนี้ไม่ยากอย่างที่คิดเลยนะ เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการทอดอกไก่ให้มีสีเหลืองทองกรอบอร่อย และต้องรอให้น้ำมันร้อนจริง ๆ จึงจะนำไก่ใส่ลงไป ส่วนซอสมะนาวอย่าให้เปรี้ยวจนเกินไปนะจ๊ะ

กราบสวัสดีพ่อบ้าน แม่บ้านทั้งหลายจ้าาา กลับมาพบกับเราอีกเช่นเคย และเราก็ยังคงมาพร้อมกับเมนูอาหารสุดพิเศษ วันนี้เราเตรียมเมนู ไก่ต้มโค๊ก เพื่อน ๆ อาจไม่เคยได้ยินชื่ออาหารเมนูนี้มาก่อน เเต่เชื่อได้เลยว่ารสชาติอาหารไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน ถ้าอยากรู้แล้วว่าเมนูนี้เป็นยังไงไปติดตามกันได้เลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู ไก่ต้มโค๊ก

1. ไก่เลี้ยง/ไก่บ้าน

2. กระเทียม

3. พริกไทยเม็ด

4. รากผักชี

5. ซีอิ๊วขาว

6. น้ำมันหอย

7. โค๊ก

8. เกลือ

วิธีทำ

1. นำไก่ไปล้าง ใช้ทั้งตัว ล้างให้ท้องสะอาด แล้วเก็บเครื่องในไก่ไว้ที่เดิม

2. เหยาะซีอิ๊วขาว น้ำมันหอยให้ทั่วตัวไก่

3. โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด รากผักชีเข้าด้วยกัน นำมาทาให้ทั่วตัวไก่ จากนั้นหมักไก่ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง

4. เตรียมหม้อที่ขนาดใหญ่กว่าตัวไก่ ใส่โค๊กลงไปในหม้อแล้วนำไก่ลงมาใส่ คอยสังเกตไม่ให้น้ำลดลง โรยเกลือลงไปเล็กน้อย 

5. ใช้เวลาต้มนาน 1 ชั่วโมงจนน้ำซึมเข้าไปในตัวไก่ เป็นอันเสร็จกับเมนู ไก่ต้มโค๊ก

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู ไก่ต้มโค๊ก สูตรของเราเอง ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ แต่ละเมนูที่เราเตรียมมาไม่เคยมีเมนูไหนยากเลย เพื่อน ๆ ลองทำดูนะคะว่าจะอร่อยน่าทานมากแค่ไหน เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือเราอยากให้ใช้ไก่เนื้อมากกว่าไก่บ้านนะ เนื้อไก่จะเต็มคำและไม่เหนียวนะจ๊ะ

กราบสวัสดีพ่อบ้าน แม่บ้านทั้งหลายจ้า อยากจะเตรียมขนมไว้ให้คนที่บ้านทานเล่นแต่ก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดีใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยเตรียมขนมไทยง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่างมาฝากกันค่ะ เมนูนี้ก็คือ ขนมอาลัว อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าจะอร่อยแค่ไหน ไปติดตามชมกันได้เลยจ้า

ส่วนผสม ขนมอาลัว

1. แป้งสาลีหรือแป้งเค้ก

2. สีผสมอาหาร ( ตามใจชอบ )

3. น้ำตาลทราย

4. กะทิ

วิธีทำ

1. ใช้กะทะสีทอง ร่อนแป้งที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยใส่น้ำตาล ค่อย ๆ กวน ใส่กะทิทีละนิดจนหมด

2. นำกะทะขึ้นตั้งไฟอ่อน กวนเร็ว ๆ จนแป้งสุกกลายเป็นสีใส 

3. เมื่อแป้งค่อย ๆ ร่อนจากกระทะ ให้ค่อย ๆ หยดสีลงไป ถ้าอยากได้หลายสีให้แยกใส่ถ้วยไว้

4. เตรียมถาดสำหรับใส่ขนม 1 ใบ รองด้วยกระดาษไข นำขนมใส่ถุงบีบ บีบตามขนาดที่ต้องการ

5. นำขนมที่บีบเสร็จเรียบร้อยแล้วไปตากแดดจนผิวด้านนอกแห้ง พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ขนมอาลัว

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ กับเมนูที่เราเตรียมไว้

       ขนมอาลัว ไม่ยากอย่างที่ทุกคนคิดเลยใช่ไหมคะ ทุกวันนี้ตามท้องตลาดหาทานยากมาก ๆ เลยนะ ได้โชว์ฝีมือทำเองคนที่บ้านคงประทับใจไม่น้อยเลย สูตรอาหาร เด็ด ๆ แบบนี้สามารถเข้ามาติดตามได้ทางเว็บไซต์ของเราเลยนะคะ ไว้พบกันใหม่กับเมนูหน้าจ้า

สวัสดีท่านพ่อบ้าน แม่บ้านทั้งหลายจ้า วันนี้เราพกเมนูแสนอร่อยที่มีแค่ไมโครเวฟเครื่องเดียวก็สามารถทานของอร่อยได้ เมนูนี้ก็คือ คุกกี้สูตรไมโครเวฟ หลาย ๆ ท่านคงจะชอบทานคุกกี้กันเป็นชีวยิตจิตใจอยู่แล้ว จะซื้อบ่อย ๆ ก็คงจะเปลืองไม่น้อง งั้นวันนี้ลองไปทำตามกันนะคะ

ส่วนผสมขนม คุกกี้สูตรไมโครเวฟ

1. แป้งอเนกประสงค์

2. ช็อคโกแลตชิพ

3. เนยเค็ม

4. ไข่ไก่

5. กลิ่นวนิลา

6. น้ำตาลไอซิ่ง

7. ผงฟู

วิธีทำ

1. ตีเนยเค็มที่เตรียมไว้จนกลายเป็นเนื้อครีม 

2. เมื่อเนยที่ตีไว้กลายเป็นเนื้อครีมแล้วให้ใส่น้ำตาลไอซิ่งตีต่อจนฟู

3. นำไข่ไก่ และกลิ่นวนิลลามาคนจนเข้ากันกับส่วนผสมในข้อ 2 

4. ร่อนแป้งและผงฟูใส่ในส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้ว คนอีกครั้งหนึ่ง

5. เมื่อผสมจนเข้ากันดีแล้ว ให้นำช็ออคโกแลตชิพมาใส่ คนให้เข้ากันอีกครั้ง

6. วางกระดาษไขที่จะนำเข้าไมโครเวฟ ตักคุกกี้ที่เสร็จแล้วลงบนถาด

7. นำเข้าอบประมาณ 3 – 5 นาที แล้วแต่ไมโครเวฟของแต่ละบ้านนะคะ

8. เมื่อเสร็จแล้วให้แกออกจากกระดาษไข วางบนตะแกรงจนเย็น เป็นอันเสร็จกับเมนู คุกกี้สูตรไมโครเวฟ

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู คุกกี้สูตรไมโครเวฟ ที่เราเตรียมสูตรมาให้เป็นอย่างดี ไม่ยากอย่างที่ทุกคนคิดเลยใช่ไหมคะ ลองทำดูปรับสูตรได้ตามใจชอบเลยนะคะ เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือเมื่อคุกกี้อบเสร็จแล้วให้เตรียมนมจืดมา 1 แก้ว ทานพร้อมกันอร่อยสุด ๆ ไปเลยจ้า

สวัสดีจ้าาา ในช่วงเวลาแบบนี้พ่อบ้าน แม่บ้านก็คงอยากทำอาหารง่าย ๆ แต่อร่อยให้คนที่บ้านทานใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยเตรียมอาหารประเภทต้มมาฝาก เมนูนี้ก็คือต้มจืดมะระซี่โครงหมูกระดูกอ่อนนั่นเอง หลายคนอาจไม่ชอบเมนูนี้เพราะมันขมเราเลยเตรียมวิธีการเลือกและจำกัดความขมของมะระมาฝากด้วยจ้า

ส่วนผสม/เครื่องปรุงต้มจืดมะระซี่โครงหมูกระดูกอ่อน

1. มะระ 1 ลูก

2. ซี่โครงหมูกระดูกอ่อน 1 เส้น

3. รากผักชี 3 ราก

4. กระเที่ยม 3 กลีบ

5. พริกไทยเม็ด 5 กรัม

6. ซอสปรุงรสฝาเขียว 

7. น้ำมันหอย

8. น้ำตาล

9. พริกไทยป่น

11. เกลือ

12. ผงปรุงรส

10. น้ำสะอาด

วิธีปรุงอาหาร

1. เตรียมมะระโดยการหั่นเป็นชิ้น จากนั้นนำไส้ออก แล้วนำไปล้างกับน้ำเกลือ 

2. ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เกลือลงไปพอประมาณ เมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำมะระลงไปต้มจนสีของมะระเปลี่ยน

3. เตรียมสามเกลอโดยการโขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ดเข้าด้วยกันจนละเอียดดี 

4. ตั้งน้ำอีกหม้อ ใส่น้ำตามปริมาณที่พอเหมาะ เมื่อน้ำเดือดให้ใส่สามเกลอลงไปในหม้อ จากนั้นใส่ผงปรุงรส 1 ช้อนชา ซอสปรุงรสฝาเขียว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/2 ช้อนชา เมื่อรสชาติเข้าที่แล้วให้นำกระดูกอ่อนหมูที่หั่นแล้วใส่ลงไป

5. นำมะระที่ต้มจนเปลี่ยนสีแล้วแช่ในน้ำเย็นจัด จากนั้นนำมาใส่รวมกันในหม้อต้มที่ปรุงรสแล้ว ตุ่นต่อไปอีก 1 ชั่วโมง เพื่อให้กระดูกอ่อนเปื่อย เป็นอันเสร็จสำหรับเมนูอาหารไทยง่าย ๆ ต้มจืดมะระซี่โครงหมูกระดูกอ่อน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะพ่อบ้าน แม่บ้านทั้งหลายสำหรับเมนูง่าย ๆ ที่เรานำมาฝาก

       ต้มจืดมะระซี่โครงหมูกระดูกอ่อน ไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนี้ใช่ไหมคะ เมนูนี้เป็นเมนูที่สามารถทำให้คนในครอบครัวทานได้บ่อย ๆ โดยไม่เบื่อเลยจ้า เคล็ดลับในการเลือกซื้อมะระไม่ให้ขมคือต้องเลือกลูกที่มีสีออกขาวจะดีกว่าลูกที่เป็นสีเขียวจัด และเวลานำมาประกอบอาหาร ต้องนำมะระไปต้มในน้ำเดือดเพื่อไล่ความขมกันก่อนนะจ๊ะ