สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารไทย

เมนู แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน เมนูอาหารไทยที่ทำทานง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าว
แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าว

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนน ใครที่กำลังมองหาอาหารที่ธรรมดาแต่อร่อยเป็นพิเศษอยู่บ้างไหมคะ การที่เราได้เข้าครัวทำอาหารในช่วงวันหยุดนับว่าเป็นลาภทางใจอย่างหนึ่งและถือว่าเป็นการพักผ่อนทางกายและใจเช่นกัน วันนี้เราก็เตรียมเมนูสุดพิเศษที่ธรรมดาแต่อร่อยมาก ๆ มาฝากอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน นั่นเองงง

       แกงเขียวหวาน เป็นอาหารไทยโบราณที่ได้รับการวิวัฒนาการมาจากแกงเลียง มาเป็นแกงป่า แกงเผ็ดตามลำดับ อาหารประเภทนี้จัดอยู่ในตระกูลแกงแต่พิเศษกว่าในสมัยก่อนตรงที่เปลี่ยนจากการใช้พริกแดงมาเป็นพริกสีเขียว ซึ่งส่วนมากเมนูนี้จะนิยอมใช้ไก่ ไม่ว่าจะเป็นไก่บ้าน ไก่เลี้ยง ไก่ไข่ ไก่เนื้อก็ได้ด้วยกันทั้งนั้น รสชาติของอาหารจะมีรสเค็มออกหวานนิด ๆ เผ็ดปลายลิ้นหน่อย ๆ มีกลิ่นหอมของเครื่องแกงที่เตะจมูกมาก ๆ มักนิยมทานคู่กับขนมจีนหรือข้าวสวยร้อน ๆ 

ส่วนผสม/เครื่องปรุงเมนู แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน

1. เนื้อไก่ 1/2 กิโลกรัม

2. ยอดมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วยตวง

3. พริกแกงเขียวหวาน 5 ช้อนโต๊ะ

4. หางกะทิ 2 ถ้วยตวง

5. หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง

6. พริกชี้ฟ้าแดง 1/3 ถ้วยตวง

7. ใบโหระพา 15 กรัม

8. ใบมะกรูด 4 ใบ

9. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

10. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 

11. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำ เนื้อไก่ ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นพักเอาไว้

2. ตั้งกระทะด้วยไปกลางค่อนอ่อนใส่น้ำมัน จากนั้นนำพริกแกงมาผัดจนมีกลิ่นหอมน่าทาน

3. เมื่อพริกแกงเริ่มมีกลิ่นหอมแล้วให้เริ่มใส่หัวกะทิลงไปทีละน้อยจนเริ่มแตกมัน 

4. เมื่อกะทิแตกมันดีแล้วให้ใส่ไก่ลงไปผัด จากนั้นนำหางกะทิทั้งหมดมาใส่ตามลงไป ตามด้วยการใส่ยอดมะพร้าวอ่อน

5. เมื่อส่วนผสมเดือดแล้วให้ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสชาติให้พอดีออกเค็มติดหวาน เผ็ดปลายลิ้นเล็กน้อย

6. เมื่อส่วนผสมเดือดดีแล้วให้ใส่ใบโหระพาตามลงไป เตรียมเสิร์ฟโดยการตักแกงใส่ถ้วย วางพริกชี้ฟ้าแดงและใบมะกรูดลงไป เสร็จแล้วจ้ากับเมนู แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารไทยโบราณแนวประยุกต์อย่าง แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ใครที่กำลังอยากฝึกฝีมือในด้านการทำอาหาร อยากหาของอร่อยแปลกใหม่ให้คนในครอบครัวได้ทาน เมนูนี้น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือเหตุผลที่ใส่ใบโหระพาลงไปในแกงประเภทนี้ก็เพื่อเพิ่มความหอมนะจ๊ะ

Categories
อาหารไทย

เมนู แกงส้มปลาช่อนยอดมะพร้าวอ่อน เมนูอาหารไทยแนวประยุกต์ ที่ทำทานง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

แกงส้มปลาข่อนยอดมะพร้าว
แกงส้มปลาข่อนยอดมะพร้าว

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนน การได้ทำอาหารทานในช่วงวันหยุดถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐที่ได้ใช้เวลาว่างกันครอบครัว ไม่ว่าจะทำอาหารคาวหรืออาหารหวานก็นับว่าเป็นความสุขของตัวเราด้วยกันทั้งนั้น ใครที่กำลังมองหาอาหารที่ทำทานได้บ่อย ๆ และสามารถทานได้แบบทุกวัย วันนี้เราก็เตรียมเมนูสุดพิเศษอย่าง แกงส้มปลาช่อนยอดมะพร้าวอ่อน นั่นเอง

       แกงส้ม เป็นอาหารไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณจัดว่าเป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนเฒ่าคนแก่ อาหารชนิดนี้เป็นอาหารที่มีรสชาติออกเปรี้ยวเป็นหลัก ใช้วัตถุดิบหลักเป็นผักบุ้ง ดอกแคร์ หัวไชเท้า ไข่ทอดชะอม ดอกกะหล่ำ หรืออื่น ๆ ส่วนทางด้านโปรตีนก็อาจจะเน้นไปทางเนื้อปลา หรือกุ้ง เน้นรสชาติให้เกิดความเปรี้ยวด้วยมะขามเปียกนั่นเอง

ส่วนผสม/เครื่องปรุงเมนู แกงส้มปลาช่อนยอดมะพร้าวอ่อน

1. ปลาช่อน 1 ตัว

2. ยอดมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วยตวง

3. เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา

4. มะขามเปียก 1 กำมือ

5. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

6. น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา

7. น้ำสะอาด 5 ถ้วยตวง

8. พริกแกงส้ม 5 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำปลาช่อนที่เตรียมไว้ไปล้างน้ำให้สะอาด ไม่ให้มีเลือดติดอยู่ที่ตัว จากนั้นนำปลาช่อนที่สะเด็ดน้ำแล้วไปหั่นเป็นท่อนประมาณ 1 นิ้ว

2. นำน้ำสะอาดใส่หม้อแล้วขึ้นตั้งด้วยไฟกลาง ตามด้วยพริกแกงส้ม จากนั้นใส่เนื้อปลาช่อนลงไปต้ม ห้ามคนเด็ดขาด

3. เมื่อปลาช่อนสุกดีแล้วให้ใส่ ยอดมะพร้าวอ่อน ตามลงไป รอให้น้ำเดือดอีกครั้ง

4. เมื่อน้ำเดือดเรียบร้อยแล้วให้ปรุงรสชาติด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ จนรสชาติเข้าที่ดี เมื่อน้ำเดือดให้ปิดไฟ เสร็จแล้วจ้ากับเมนู แกงส้มปลาช่อนยอดมะพร้าวอ่อน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารไทยแนวประยุกต์อย่าง แกงส้มปลาช่อนยอดมะพร้าวอ่อน ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะกับเมนูนี้ ใครที่กำลังว่าง ๆ อยู่แล้วอยากลองฝีมือการทำครัวของตนเอง เมนูนี้นับเป็นเมนูที่น่าลองมาก ๆ เลยนะ เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือวิธีทำให้กลิ่นปลาไม่คาวในขณะที่ใส่ปลาลงในน้ำต้องรอให้น้ำเดือดดีเสียก่อน และห้ามคนปลาโดยเด็ดขาดนะจ๊ะ

Categories
ขนมหวานไทย

เมนู ขนมชั้นอัญชัน ขนมไทยโบราณยอดฮิตที่ทำทานง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

ขนมชั้นอัญชัน
ขนมชั้นอัญชัน

สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน ใครที่กำลังมองหากิจกรรมยามว่างเพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำงานบ้าน หรือรวมไปถึงการเข้าครัวเพื่อฝึกฝีมือในการทำงานไม่ว่างจะเป็นอาหารคาวหรืออาหารหวาน วันนี้ก็เตรียมเมนูขนมไทยโบราณอย่าง ขนมชั้นอัญชัน มาฝากทุกคน

       ขนมชั้น เป็นขนมไทยโบราณที่ส่วนมากนิยมนำมาประกอบพิธีงานมงคล ขนมชนิดนี้จัดอยู่ในขนมประเภทแข้นหรือกึ่งแห้งกึ่งเปียก ตามเดิมตั้งแต่โบราณนิยมให้ขนมประเภทนี้มีจำนวน 9 ชั้น จึงจะนับว่าเป็นความเจริญก้าวหน้าแก่ตัวเจ้าของงาน ส่วนผสมโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกะทิและน้ำตาลทราย และมักใช้แป้ง 3-4 ชนิดเลยทีเดียว

ส่วนผสม ขนมชั้นอัญชัน

1. แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง

2. แป้งข้าวจ้าว 1/3 ถ้วยตวง

3. แป้งท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วยตวง

4. น้ำมันพืช เล็กน้อย

5. กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา

6. น้ำดอกอัญชัน 3 ช้อนโต๊ะ

7. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

8. หัวกะทิ 1 กิโลกรัม

วิธีทำ

1. นำ แป้งทั้ง 3 ชนิด ทั้งแป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าว แป้งข้าวจ้าว มาร่อนเข้าด้วยกัน

2. ตั้งน้ำกะทิด้วยไฟกลางจากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปคนจนน้ำตาลละลายหมดแล้วยกลง

3. เทน้ำกะทิลงไปในแป้งที่ร่อนไว้แล้วโดยค่อย ๆ เทใส่ทีละนิดพร้อมกับการนวดแป้งจนเข้ากันดี

4. เมื่อแป้งเข้ากันดีแล้วให้ใส่กลิ่นดอกมะลิลงไปนวดจนเข้ากันอีกครั้ง

5. นำส่วนผสมที่เข้ากันแล้วมาเทใส่ภาชนะ 3 ใบ ๆ ละเท่า ๆ กัน ถ้วยที่ 1 ไม่ต้องใส่น้ำอัญชัน ถ้วยที่ 2 ใส่น้ำอัญชันเล็กน้อย ถ้วยที่ 3 ใส่น้ำอัญชันเข้มข้น

6. ตั้งซึ้งนึ่ง นำน้ำมันมาทาที่ถาดแล้วเทส่วนผสมที่เข้มที่สุดลงไป จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟอ่อนจนสุกดี ให้เทสลับสีไปเรื่อย ๆ จนครบ 9 ชั้น

7. เมื่อแป้งทั้งหมดสุกดีแล้วให้ตัดแบ่งเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะ เสร็จแล้วจ้ากับเมนู ขนมชั้นอัญชัน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ

       กับเมนูขนมไทยโบราณอย่าง ขนมชั้นอัญชัน เป็นเมนูที่ทำได้ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะทุกคน ใครที่กำลังอยากทานหรือกำลังมองหาอาหารว่างให้คนที่บ้านนับว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือ ในขณะที่นึ่งขนมต้องคอยเช็ดฝาหม้อนึ่งอยู่บ่อย ๆ เพื่อไม่ให้น้ำหยดลงไปในตัวขนมจะทำให้ขนมแฉะนะจ๊ะ

 

Categories
ขนมหวานไทย

เมนู ขนมต้ม ขนมไทยยอดฮิตตามงานบุญที่ทำทานได้ง่าย ๆ

ขนมต้ม
ขนมต้ม

สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน ขนมไทยนับว่าเป็นขนมยอดฮิตที่ผู้คนสมัยก่อนนิยมทำเพื่อรับประทานในมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นขนมที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำหรือขนมที่มีส่วนผสมหลักเป็นแป้ง คนไทยก็นิยมปฏิบัติด้วยกันทั้งนั้น แต่ในปัจจุบันนี้ขนมของบ้านเราเริ่มลดเลือนหายไปตามกาลเวลาจึงทำให้วัยรุ่นในสมัยนี้หันมาสนใจเบเกอรี่มากกว่าขนมไทย วันนี้เราเลยเตรียมสูตรขนมไทยชนิดหนึ่งมาให้ทุกคนศึกษา ขนมชนิดนี้ก็คือ ขนมต้ม นั่นเอง

       ขนมชนิดนี้จัดเป็นขนมไทยโบราณที่ด้านในมีรสชาติหวานกลมกล่อม รับประทานเพลิดเพลิน นุ่มลิ้น และขนมชนิดนี้มีหลากหลายสีและมีกลิ่นหอมของมะพร้าว ซึ่งคนไทยนิยมนำมาประกอบงานบุญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานแต่ง รวมถึงงานมงคลทุกประเภท ขนมต้มประกอบไปด้วย 2 แบบคือ ขนมต้มขาว และขนมต้มแดง

ส่วนผสม ขนมต้ม

1. แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม

2. น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม

3. มะพร้าวขูด 500 กรัม

4. เกลือป่น 2 ช้อนชา

5. น้ำอัญชัน 1 ถ้วยตวง

6. น้ำใบเตย 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. นำ แป้งข้าวเหนียว ที่เตรียมไว้มาแบ่งเป็นถ้วย ๆ ละ 250 กรัม เทน้ำอัญชันใส่ 1 ถ้วย และน้ำใบเตยลงอีก 1 ถ้วย นวดจนกว่าแป้งจะไม่ติดมือแล้วใช้พลาสติกพักไว้ก่อน

2. นำกระทะทองเหลืองตั้งด้วยไฟกลางใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนจนน้ำตาลปี๊บละลาย จากนั้นให้นำมะพร้าว 300 กรัม และเกลือใส่ลงไปคนจนส่วนผสมแห้ง แล้วยกออกมาพักไว้

3. นำแป้งที่เข้ากันดีแล้วมาปั่นเป็นลูกกลม ๆ จากนั้นให้กดลงจนแป้งแบนแล้วนำไส้มาวางตรงกลาง ปิดแป้งให้มิดปั้นให้กลมจนไม่เห็นรอยต่อ

4. นำขนมไปต้มในน้ำเดือดจนสุกมีสีใส นำขนมออกมาคลุกกับมะพร้าวขูด พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้ากับเมนู ขนมต้ม

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ

       กับเมนูขนมไทยโบราณที่มีให้เห็นตามงานบุญต่าง ๆ อย่าง ขนมต้ม เมนูนี้ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะทุกคน ใครที่กำลังอยากทานเมนูนี้แต่ไม่อยากไปหาซื้อตามท้องตลาดก็สามารถลงมือทำได้ นับว่าเมนูนี้น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือ ในขั้นตอนการทำขนมถ้าอยากรู้ว่าขนมนั้นสุกแล้วก็คือ ขนมลอยขึ้นมาเหนือน้ำนะจ๊ะ

 

Categories
อาหารนานาชาติ

เมนู ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทงคัตสึ อาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่ยอดฮิตมาก ๆ ในเมืองไทย

ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด
ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนน ใครที่กำลังวางแผนไว้ว่าช่วงวันหยุดยาวแบบนี้จะลองฝึกทำอาหารเพื่อพัฒนาฝีมือของตัวเองอยู่นั้น การได้เริ่มทำอาหารง่าย ๆ แถมอร่อยก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ เลยนะคะ อย่างเช่นเมนูวันนี้ที่เราเตรียมมาฝากทุกคน ได้แก่เมนู ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทงคัตสึ นั่นเองจ้าาา 

       ข้าวแกงกะหรี่ จัดเป็นอาหารทางประเทศญี่ปุ่นที่มีอิทธิพลโด่งดังไปไกลถึงทั่วโลก มีประวัติมายาว   นานมากกว่า 150 ปีเลยทีเดียว โดยที่มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นอาหารประจำชาติของญี่ปุ่นไปแล้วในปัจจุบัน แต่แท้จริงแล้วผงกะหรี่มีถิ่นกำเนิดมาจากทางด้านประเทศอินเดียแต่ญี่ปุ่นก็ได้รับส่วนนี้เข้ามาแต่ก็ราคาสูงมากกเนื่องจากเป็นอาหารชั้นสูง เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้มีคนคิดค้นที่จะทำสูตรผงกะหรี่ขึ้นมาให้เป็นเอกลักษณ์ของประเทศตนเองจึงราคาถูกลงมาก ๆ เเละมีให้เห็นอยู่ทั่วทุกร้านอาหารในประเทศญี่ปุ่น

ส่วนผสม/เครื่องปรุงเมนู ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทงคัตสึ

1. แกงกะหรี่ก้อน 5 ก้อน

2. สันในหมู 1/2 กิโลกรัม

3. ดาร์คช็อคโกแลต 2 แท่ง

4. แอปเปิ้ล 1 ลูก

5. มันฝรั่ง 3 หัว

6. แครอท 1 หัว

7. หอมใหญ่ 1/2 หัว

8. เนยเย็น 1 ก้อน

9. แป้งสาลี

10. เกล็ดขนมปัง

11. ไข่ไก่ 2 ฟอง

12. ข้าวญี่ปุ่น

13. น้ำมัน 3 ถ้วยตวง

14. น้ำเปล่า

15. พริกไทย

16. เกลือ

วิธีทำ

1. เตรียมอุปกรณ์วัตถุดิบทุกอย่างให้ครบถ้วน

2. นำแครอท หอมใหญ่ และมันฝรั่งไปล้างแล้วนำมาหั่นเต๋า พักเอาไว้ก่อน

3. นำหมูที่เตรียมไว้มาหั่นเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 นำมาหั่นเป็นเต๋า ส่วนที่ 2 ใช้เต็มชิ้นแบบแผ่น หมักด้วยเกลือและพริกไทย

4. ตั้งกระทะด้วยไฟกลางใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนโต๊ะ นำหมูลงไปผัด ตามด้วยหอมใหญ่ แครอท และมันฝรั่งให้สีสวยและเข้ากันดี

5. เติมน้ำลงไปจนท่วมผักและหมู ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที

6. เมื่อผักเริ่มนิ่มแล้วให้หั่นก้อนกะหรี่ใส่ลงไปในกระทะ เมื่อสีเริ่มเปลี่ยนสวยขึ้นแล้ว ให้ใส่ดาร์คช็อคโกแลตตามลงไปนิดหน่อย ตามด้วยแอปเปิ้ลปั่น และเนยเย็นเพื่อให้มีความข้นมากขึ้น

7. คอยคนแกงในกระทะไปเรื่อย ๆ จนข้นได้ที่แล้วพักไว้ก่อน

8. นำหมูที่หมักเกลือและพริกไทยไว้แล้วมาทุบให้นุ่มนำไปชุบแป้งสาลี ตามด้วยชุบไข่ แล้วนำมาชุบเกล็ดขนมปัง

9. ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันเดือดแล้วให้นำหมูลงไปทอดจนเหลืองกรอบ

10. วิธีเสิร์ฟคือตัก ข้าวญี่ปุ่น ใส่จาน 1 ฝั่งโปะด้วยหมูทอดหั่นชิ้น อีกฝั่งให้ราดแกงกะหรี่ พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้ากับเมนู ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทงคัตสึ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ อย่าง ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทงคัตสึ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะทุกคน หากใครที่อยากประลองฝีมือในการทำอาหาร หรืออยากลองหาอะไรทำไปพร้อมกับคนในครอบครัว สามารถนำเมนูนี้มาลองทำได้เลยนะ เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือขั้นตอนการใส่แอปเปิ้ลต้องใช้แอปเปิ้ลที่มีรสชาติหวานเท่านั้นนะ ไม่งั้นแกงของเราจะเปรี้ยวนะจ๊ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

คุกกี้คอร์นเฟล็ก เมนูเบเกอรี่อบกรุบกรอบ ทำทานก็ได้ ทำขายก็ดี

คุกกี้คอร์นเฟล็ก
คุกกี้คอร์นเฟล็ก

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนน ช่วงนี้ติดโรคทำให้หลายคนไม่สามารถออกไปทำงานประจำได้ เป็นเหตุให้รายได้ลดลงอย่างมาก แต่ในปัจจุบันสังคมออนไลน์ได้เปิดออกอย่างกว้างขวาง ใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริม วันนี้เรามีวิธีทำขนมตัวหนึ่งมาฝากกัน จะทำให้คนที่บ้านทานก็อร่อย หรือจะทำขายก็ได้กำไรงาม ขนมชนิดนี้ก็คือ คุกกี้คอร์นเฟล็ก เบเกอรี่อบแสนอร่อย ไปติดตามสูตรกันได้เลยจ้า

ส่วนผสมขนม คุกกี้คอร์นเฟล็ก

1. คอร์นเฟล็ก ( ตามชอบ )

2. แป้งข้าวโพด 20 กรัม

3. แป้งข้าวจ้าว 20 กรัม

4. น้ำตาลไอซิ่ง 70 กรัม

5. เนยจืดอุณภูมิห้อง 135 กรัม

6. ลูกเกดหรือผลไม้แห้ง 60 กรัม

7. แป้งอเนกประสงค์ 130 กรัม

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 

       นำเนยที่เตรียมไว้มาใส่ชามผสมขนาดพอเหมาะ ตามด้วยการร่อนน้ำตาลไอซิ่งลงไป คนให้เข้ากัน

ข้นตอนที่ 2 

       นำแป้งที่เตรียมไว้ทั้งแป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวจ้าว แป้งข้าวโพด มาร่อนลงในชมผสมที่มีเนยและน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 3 

       เมื่อแป้งเข้ากันดีแล้ว ให้นำลูกเกดหรือผลไม้อบแห้งมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน จากนั้นให้ปั้นแป้งเป็นวงกลมขนาดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ โปะทับด้วยคอร์นเฟล็กตามปริมาณที่ชอบ

ขั้นตอนที่ 4

       นำคุกกี้ที่ปั้นแล้วมาวางในถาดเตรียมเข้าอบ วอร์มเตาอบที่ประมาณ 150 องศา 5 นาที จากนั้นนำคุกกี้เข้าเตาอบระยะเวลาประมาณ 20 นาทีหรือจนกว่าคุกกี้จะสุกดี เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟกับขนม คุกกี้คอร์นเฟล็ก

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูเบเกอรี่อบกรุบกรอบอย่าง คุกกี้คอร์นเฟล็ก ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ใครที่กำลังว่างอยู่หรือใครอยากลองทำไว้เป็นของว่างให้คนที่บ้านก็สามารถทำได้เลยนะคะง่ายมาก ๆ เลย เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือปั้นคุกกี้ให้ขนาดพอเหมาะพอดี ไม่เล็กหรือใช้จนเกินไป เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมแล้วขนาดจะอยู่ประมาณช้อนทานข้าว เมื่ออบแล้วจะเป็นชิ้นพอดีน่าทานนะจ๊ะ

Categories
ขนมหวานไทย

เมนู ข้าวเหนียวเปียกลำไย เมนูขนมไทยที่ไม่ต้องง้อตลาดก็อร่อยได้

ข้าวเหนียวเปียกลำไย
ข้าวเหนียวเปียกลำไย

สวัสดีเจ้าาาา ขนมไทย จัดเป็นส่วนหนึ่งที่ในทุก ๆ มื้ออาหารจำเป็นต้องมี ไม่ว่าจะมื้อเช้า กลางวัน เย็น หรือเมนูอาหารว่าง ก็สามารถนำขนมไทยไปเป็นส่วนหนึ่งของมื้อนั้น ๆ ได้ ใคร ๆ ก็ว่าขนมไทยทำยาก ขั้นตอนเยอะ วันนี้เราเลยเตรียมสูตรขนมไทยชนิดหนึ่งมาฝาก ได้แก่เมนู ข้าวเหนียวเปียกลำไย นั่นเองจ้า อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำเมนูนี้จะง่ายขนาดไหน ไปติดตามกันได้เลยจ้า

ส่วนผสมขนม ข้าวเหนียวเปียกลำไย

1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเก่า 3 ถ้วยตวง

2. ลำไย 1 กิโลกรัม

3. น้ำตาลทราย 400 กรัม

4. ใบเตย 10 ใบ

5. น้ำมะพร้าว 7 ถ้วยตวง

6. หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง

7. เกลือป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำข้าวเหนียวเขี้ยวงูที่เตรียมไว้มาซาวน้ำ ซาวหลาย ๆ ครั้งจนไม่มีสีขาว จากนั้นให้ซาวขึ้นมาสะเด็ดน้ำ 

2. นำหม้อไปตั้งไฟตามด้วยใส่น้ำมะพร้าว 4 ถ้วยตวง ตามด้วยใบเตยมัด ใส่เกลือป่นตามลงไป รอจนเดือด นำข้าวเหนียวที่สะเด็ดน้ำแล้วใส่ตามไปในหม้อ หมั่นคนข้าวเหนียวอยู่เสมอ คอยสังเกตเมื่อข้าวเหนียวใสให้ปิดไฟแล้วพักไว้

3. นำหม้ออีกหนึ่งใบมาตั้งไฟใส่น้ำมะพร้าวที่เหลือ ตามด้วยน้ำตาลทราย ใส่ใบเตยมัด เมื่อเดือดแล้วให้ใส่เนื้อ ลำไย ที่คว้านเมล็ดออกเรียบร้อยแล้วลงไป จากนั้นปิดไฟแล้วพักไว้

4. นำหัวกะทิขึ้นตั้งไฟใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ตั้งจนแตกมันแล้วยกลง

5. วิธีเสิร์ฟ เริ่มจากการตักข้าวเหนียวเปียกใส่ถ้วยตามด้วยลำไย ราดตามด้วยกะทิ เสร็จแล้วจ้ากับเมนู ข้าวเหนียวเปียกลำไย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูขนมไทยยอดฮิตอย่าง ข้าวเหนียวเปียกลำไย ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะทุกคน เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาของหวานแสนอร่อยสามารถนำเมนูนี้ไปขึ้นโต๊ะได้นะ เตรียมหาวัตถุดิบไว้ได้เลย เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือการต้มข้าวเหนียวหากใช้เวลาน้อยไปข้าวเหนียวน้อยไปข้าวเหนียวจะดิบแต่หากใช้เวลามากไปข้าวเหนียวจะเเข็ง เวลาที่เหมาะสมคือประมาณ 10 – 15 นาทีนะจ๊ะ

Categories
ขนมหวานไทย

ข้าวเหนียวมูนกะทิ เมนูยอดฮิตในฤดูมะม่วง ที่ทำง่ายจนไม่ต้องพึ่งพาท้องตลาด

ข้าวเหนี่ยวมูนกระทิ
ข้าวเหนี่ยวมูนกระทิ

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ ท่านนน อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าในช่วงเดือนมีนา เมษา จะมีผลไม้อย่างมะม่วงที่ออกผลผลิตเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นมะม่วงเขียวเสวย มะม่วงแก้ว มะม่วงฟ้าลั่น หรือแม้กระทั่งมะม่วงน้ำดอกไม้ สิ่งสำคัญที่ทำมาทานกับมะม่วงสุกได้นั้นก็คือ ข้าวเหนียวมูนกะทิ อยากทานก็อยาก ที่ตลาดก็ขายแพง วันนี้เราเตรียมสูตรมาฝากแล้ว ไปชมกันเลยจ้า

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมูนกะทิ

1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 1 กิโลกรัม

2. เกลือป่น 4 ช้อนชา

3. น้ำตาลทราย 400 กรัม

4. กะทิ 600 กรัม

5. ใบเตยหั่นชิ้น

วิธีทำ

1. นำข้าวเหนียวที่เตรียมไว้มาล้างในน้ำสะอาดจนน้ำสีไม่ขุ่น แช่ทิ้งไว้ 1 คืนจ้า

2. นำข้าวเหนียวที่แช่น้ำทิ้งไว้มาสะเด็ดน้ำออดจนหมด นำใส่หวดนึ่งเตาถ่านประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าข้าวเหนียวจะสุกได้ที่

3. นำกะทิที่เตรียมไว้แล้วมาใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น และใบเตย จากนั้นนำไปตั้งไฟ คนเรื่อย คึบลงๆ จนน้ำตาลละลายหมด

4. นำน้ำกะทิที่ปรุงรสแล้วมาเทผสมกับข้าวเหนียวในขณะที่ข้าวเหนียวยังร้อน คนให้เข้ากันดี ทิ้งไวสักพักเพื่อให้ข้าวเหนียวซึม

5. เมื่อเสร็จแล้วให้จัดจานทานพร้อมกับมะม่วงสุก ราดกะทิบนหน้านิดหน่อย พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ข้าวเหนียวมูนกะทิ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูขนมไทยรสชาติสุดพิเศษ เค็ม หวาน มันแบบลงตัวอย่าง ข้าวเหนียวมูนกะทิ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ใครที่ยากลองทำทานหรืออยากลงทำให้คนที่บ้านทานสามารถลงมือทำได้เลยน้า วัตถุดิบและวิธีทำง่ายมาก ๆ เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือการใสกะทิลงไปในขณะที่ข้าวเหนียวยังร้อนอยู่จะทำให้ข้าวเหนียวดูดซึมน้ำกะทิได้ดียิ่งขึ้นนะจ๊ะ

Categories
อาหารนานาชาติ

ข้าวหน้าหมูชาชูสไตล์ญี่ปุ่น เอาใจคนรักชุดกิโมโน ด้วยเมนูแสนอร่อยที่ทำได้ไม่ยาก

ข้าวหน้าหมูชาชู
ข้าวหน้าหมูชาชู

กราบสวัสดีค่ะทุก ๆ คนนนนน คนที่ติดตามเราไม่น้อยเลยใช่ไหมคะที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และประเทศญี่ปุ่นก็จัดเป็นประเทศที่คนนิยมไปมาก ๆ ไม่ว่าจะเมืองโตเกียว โอกินาวา ฟุกุโอกะ โอซาก้า หรือจะเมืองไหน ๆ ก็จะมีอาหารอยู่หลายเมนูที่ยอดฮิตไม่แพ้กัน วันนี้เราเลยจัดมาฝากหนึ่งเมนู ได้แก่ ข้าวหน้าหมูชาชูสไตล์ญี่ปุ่น อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าต้นตำรับทำยังไงหมูถึงนู๊มมมม นุ่มมม ไปติดตามกันได้เลยจ้าาา

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู ข้าวหน้าหมูชาชูสไตล์ญี่ปุ่น

1. หมูสามชั้นชิ้นใหญ่เป็นแพ 1 แพ

2. ต้นหอมญี่ปุ่น 3 ต้น

3. ขิง 1 หัว

4. กระเทียม 5 กลีบ

5. ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น 1/2 ถ้วยตวง

6. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง

7. งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ 

1. ตั้งน้ำเปล่าในหม้อ ใส่ ต้นหอมญี่ปุ่น ขิง กระเทียม ลงไปตั้งทิ้งไว้สักพัก

2. นำหมูสามชั้นมาม้วรเป็นโรล พันด้วยเชือกให้หมูอยู่ทรง แล้วนำหมูไปจี่ไฟให้เหลือง

3. นำหมูสามชั้นที่จี่ไว้จนเปลี่ยนสีแล้วไปใส่หม้อต้มที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง

4. เตรียมถ้วยมาใส่น้ำปรุงรส ใส่ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่นและน้ำตาล คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปเทลงในหม้อที่ต้มหมูไว้

5. ทำน้ำราดหมูโดยการนำซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่นตั้งไฟผสมกับน้ำตาลทรายผสมให้เข้ากันจนข้นขึ้นแล้วยกลง

6. สไลด์หมูที่ต้มเสร็จแล้วให้เป็นแผ่นบาง ๆ นำไปวางบนข้าว ราดด้วยซอส ตามด้วยต้นหอมญี่ปุ่นซอยและงาขาว เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟกับเมนู ข้าวหน้าหมูชาชูสไตล์ญี่ปุ่น

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูสุดแสนพิเศษอย่าง ข้าวหน้าหมูชาชูสไตล์ญี่ปุ่น ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ใครที่ชอบทานมาจากญี่ปุ่นตอนนี้ลองทำทานเองได้แล้วน้าไม่ยากเลย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือตลอดเวลาที่ต้มหมูในหม้อ ให้ใช้ส้อมจิ้มทุก ๆ 20 นาที เพื่อให้น้ำซึมเข้าไปในเนื้อหมู จะได้รสชาติที่เข้มข้นขึ้นมาก ๆ เลยนะจ๊ะ 

 

Categories
อาหารสุขภาพ

เมนู ข้าวคลุกปลาทูทอด เมนูอาหารคลีนที่ทำทานได้ง่าย ๆ ในวันสบาย ๆ

ข้าวคลุกปลาทูทอด
ข้าวคลุกปลาทูทอด

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน ในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้จะออกไปหาอะไรที่รุนแรงต่อน้ำหนักก็ใช่เรื่องใช่ไหมคะ การได้ทานอาหารที่อร่อย ๆ แต่เบาสบายท้องก็คงจะดีไม่น้อยเลยน้า ในปัจจุบันนี้มีคนที่หันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นจำนวนมากเราเลยเตรียมสูตรเมนูเด็ดมาฝาก เมนูนี้ก็คือ ข้าวคลุกปลาทูทอด นั่นเองจ้า อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำจะง่ายมากแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยยย

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู ข้าวคลุกปลาทูทอด

  1. ปลาทู 1 ตัว
  2. ข้าวกล้อง 2 ถ้วย
  3. ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกป่น 1 ช้อนชา
  6. หอมแดง 1 หัว
  7. ผักชี 1ต้น ( เอาแต่ใบ )
  8. มะนาว 1 ลูก

วิธีทำ

  1. ตั้งน้ำมันในกระทะ ใช่ไฟกลาง รอจนน้ำมันเดือดแล้วใส่ปลาทูลงไป ทอดจนกรอบเหลือง นำออกมาพักไว้ให้เย็น
  2. นำ ข้าวกล้อง ที่เตรียมไว้มาใส่ชามผสม จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว น้ำปลา มะนาว พริกป่น และหอมแดง คนให้เข้ากันดีชิมรสชาติ หากไม่คงที่ให้ปรุงแต่งเพิ่มเติมได้ตามใจชอบ
  3. นำปลาทูที่พักไว้จนเย็นแล้วมาแกะเนื้อให้ละเอียด ผสมใส่ข้าวที่คลุกไว้ จากนั้นคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ชามพร้อมโรยผักชี เสร็จแล้วจ้ากับเมนู ข้าวคลุกปลาทูทอด

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู อาหารเพื่อสุขภาพ อย่าง ข้าวคลุกปลาทูทอด ที่วิธีทำง่ายแสนจะง่าย ใครที่คิดถึงกับข้าวที่เคยทานในสมัยก่อนหรืออยากทำให้ลูกให้หลานทานหรือใครที่ควบคุมน้ำหนักอยู่ก็สามารถเตรียมหาวัตถุดิบได้ตามท้องตลาดทั่วไปเลยนะจ๊ะ