ฮัลโหลลล กลับมาพบกับเราอีกเช่นเคยกับการแนะนำเมนูอาหารสุดแสนพิเศษ และไม่เหมือนใคร และวันนี้เราก็ยังคงมีเมนูอาหารสูตรเด็ดมาฝาก แต่ออกแนวตะวันตกนิดนึงกับเมนู สปาเก็ตตี้ซอสแกงเขียวหวานไก่ ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเด็ดขนาดไหน ไปติดตามกันเลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู สปาเก็ตตี้ซอสแกงเขียวหวานไก่

1. เส้นสปาเก็ตตี้

2. เนื้อไก่หั่นชิ้น

3. น้ำพริกแกงเขียวหวาน

4. น้ำปลา

5. พริกชี้ฟ้าแดงซอย

6. ใบมะกรูดซอย

7. กะทิอร่อยดี

8. ใบโหระพา

9. มะเขือพวง

วิธีทำ

1. ต้มเส้นสปาเก็ตตี้ใส่เกลือและน้ำมันลงไปเล็กน้อย ประมาณ 10 นาที

2. นำน้ำพริกแกงเขียวหวานและหางกะทิใส่ลงไปผัดในกระทะจนแตกมัน

3. ใส่เครื่องในไก่ที่เตรียมไว้ลงไปรอจนสุกใส่เนื้อไก่ตามลงไป เมื่อสุกดีแล้วให้ปรุงรสตามชอบ

4. หลังจากปรุงรสชาติเสร็จแล้วให้ใส่มะเขือพวง พริกชี้ฟ้าแดงซอบ ใบมะกรูดซอย เคี่ยวทิ้งไว้จนมีกลิ่นหอม

5. ปิดไฟแล้วใส่ใบโหระพา พร้อมเสิร์ฟกับเมนู สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานไก่

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนู สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานไก่ สุดแสนอร่อยที่เราคัดสรรสูตรแบบพิเศษมาฝากทุกคนกัน อยากให้ทุกคนลองทำดูนะคะ แล้วจะรู้ว่าไม่ยากอย่างที่คิดเลย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือการต้มเส้นสปาเก็ตตี้ต้องอยู่ในระดับที่ข้างนอกนุ่มแต่ข้างในยังมีความกรุบอยู่ ต้องลองดีด หรือชิมดูนะคะ กะเวลาประมาณ 7 – 10 นาที 

กราบสวัสดีคุณพ่อบ้าน แม่บ้านทุกท่านนนน ใครชอบทาอาหารหรู ๆ แต่ช่วงนี้ดันออกจากบ้านไปทานที่ร้านไม่ได้ ก็คงต้องลงมือทำเองแล้วสินะกับเมนู สเต็กเนื้อซอสพะแนง เมนูหรูหราระดับภัตตาคาร อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าเมนูนี้จะอร่อยเด็ดขนาดไหน ไปติดตามกันเลยจ้า

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู สเต็กเนื้อซอสพะแนง

1. เนื้อสันนอก

2. พริกแกงพะแนง

3. มันฝรั่ง

4. กะทิอร่อยดี

5. ใบมะกรูดซอย

6. พริกชี้ฟ้าแดงซอย

7. น้ำปลา

8. น้ำตาลมะพร้าว

9. พริกไทย

10. เกลือ

วิธีทำ

1. นำเนื้อสันนอกที่เตรียมไว้ หมักกับพริกไทยและเกลือเล็กน้อย

2. ทำซอสพะแนง ใส่น้ำพริกแกงพะแนงลงในกระทะพร้อมกับกะทิ เคี่ยวจนแตกมันเป็นเนื้อเดียวกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าว ทิ้งไว้จนซอสข้น

3. นำเนื้อลงไปจี่ในกระทะด้วยไฟกลางจนด้านนอกกลายเป็นสีน้ำตาล

4. นำมันฝรั่งลงไปจี่ในกระทะจนสุก จัดจานโดยการราดซอสด้านล่างสุดแล้ววางเนื้อทับลงไป พร้อมเสิร์ฟกับเมนู สเต็กเนื้อซอสพะแนง

เป็นยังไงกันบ้างคะคุณพ่อบ้าน แม่บ้าน

       กับเมนู สเต็กเนื้อซอสพะแนง ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมคะ อยากให้ทุกคนได้ลองลงมือทำดูนะ แล้วจะรู้ว่าง่ายสุด ๆ ต่อไปนี้ไม่ต้องไปพึ่งร้านอาหารราคาแพงแล้วจ้า เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือระยะเวลาในการจี่เนื้อ ต้องจี่ไฟกลางกระทะร้อนด้วยเวลาด้านละ 2-3 นาทีนะจ๊ะ

โคนิจิวะะะะ กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนน ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความดีเลิศไปเสียทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี การเดินทาง รวมไปถึงทางด้านอาหารก็ดีไม่แพ้กัน ประเทศนี้กลายเป็นประเทศที่มีอิทธิพลอย่างมากทางด้านการท่องเที่ยว ใคร ๆ ก็หลงรักที่จะเดินทางไปหาอะไรทานที่ประเทศนี้ มีเมนูยอดฮิตให้เลือกหลากหลายและมากมาย วันนี้เราก็เตรียมเมนูเด็ดมาฝากอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ   โอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าสไตล์ญี่ปุ่นนั่นเองจ้า อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำจะง่ายแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยย

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู โอโคโนมิยากิ

1. แป้งเค้ก 2 ถ้วยตวง

2. ไข่ไก่ 4 ฟอง

3. กะหล่ำปี 1 หัว

4. แครอท 1 ลูก

5. น้ำเปล่า 2 ถ้วย

6. ซอสโอโคโนมิยากิสำเร็จรูป

7. เบคอน 

8. ปลาแห้ง

9. สาหร่ายแห้ง

10. น้ำมันพืช

11. มายองเนส

วิธีทำ

1. เตรียมซอยกะหล่ำปลีให้หยาบ แครอทหั่นเต๋าไม่ให้มาก หั่นสาหร่ายแห้งไว้เป็นเส้น ๆ 

2. เตรียมแป้งพิซซ่าโดยการใส่แป้งเค้กลงไปในชามผสม ตามด้วยไข่ไก่ และน้ำเปล่า คนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

3. ใส่กะหล่ำปลีซอยปละแครอทหั่นเต๋าลงไปในชามผสม คนให้เข้ากันอีกครั้ง

4. ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ทาน้ำมันให้ทั่วกระทะ จากนั้นตักแป้งใส่ลงไปตรงกลางกระทะ ทอดด้วยไฟอ่อน ๆ จนแป้งเริ่มสุก ให้ตัดเบคอนเป็นชิ้น ๆ ลงบนด้านหน้า จากนั้นกลับด้านแป้ง

5. เมื่อแป้งสุกดีแล้วให้ตักใส่จาน ทาด้วยซอสสำเร็จรูปวางด้วยเบคอน ราดด้วยซอสมายองเนส วางทับด้วยปลาแห้งและสาหร่ายหั่นชิ้น พร้อมเสิร์ฟกับเมนู โอโคโนมิยากิ 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูสุดพิเศษของ ประเทศญี่ปุ่น อย่าง โอโคโนมิยากิ พิซซ่าสไตล์ญี่ปุ่นที่ใคร ๆ ก็ชอบทาน วิธีทำง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ หากใครอยากลองฝีมือทางด้านการทำอาหารเย็นนี้ไปซื้อวัตถุดิบมาเตรียมไว้ได้เลยเมนูนี้ไม่ยากเลยนะจ๊ะ

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน ใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลียนสไตล์ยุโรปคงเบื่อที่จะไปต่อแถวซื้อตามร้านอาหารหรือเบื่ออาหารสไตล์เดิม ๆ การที่เราได้เข้าครัวลองฝีมือเมนูใหม่ ๆ นับว่าเป็นการผ่อนคลายร่างกายอย่างหนึ่งวันนี้เราก็คงมีสูตรอาหารเด็ด ๆ และน่าสนใจมาฝากอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ สปาเก็ตตี้ครีมไข่กุ้ง นั่นเอง

       สปาเก็ตตี้เป็นอาหารที่ได้รับวิวัฒนาการมาจากเส้นก๋วยเตี๋ยวประเทศจีนโดยที่พ่อค้านักเดินทางชาวอิตาเลียนได้นำเข้ามาในปี 1295 นับว่าเส้นสปาเก็ตตี้เป็นอาหารตระกูลเส้นชนิดหนึ่งที่เรียกว่าพาสต้าส่วนผสมหลักของเส้นสปาเก็ตตี้ก็คือแป้งสาลี ไข่ และน้ำ บางชนิดอาจมีการผสมน้ำมันมีการปรับแต่งรูปร่างมีการเติมสีสันให้สวยงามเช่น สีดำจากปลาหมึก สีส้มจากแครอท เป็นต้น

ส่วนผสม/เครื่องปรุง เมนู สปาเก็ตตี้ครีมไข่กุ้ง

1. เส้นสปาเก็ตตี้ 1 กำมือ

2. กุ้งขาว ตามชอบ

3. ไข่กุ้ง 1/2 ถ้วยตวง

4. มายองเนส 3 ช้อนโต๊ะ

5. นมสด 3 ถ้วยตวง

6. เกลือ 2 ช้อนชา

7. พริกไทย 2 ช้อนชา

8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำ กุ้งขาว ที่เตรียมไว้แล้วไปล้างน้ำให้สะอาดจากนั้นให้นำหัวกุ้งออกแกะเปลือกกุ้งจนเหลือแค่หางผ่าหลังนำเส้นกลางหลังออกรอยด้วยเกลือและพริกไทยนำไปจี่บนกระทะด้วยไฟอ่อนจนเกิดสีนำออกมาพักไว้

2. ตั้งหม้อน้ำด้วยไฟกลางใส่น้ำมันและเกลือลงไปตามด้วยเส้นสปาเก็ตตี้ประมาณ 7-10 นาที แล้วนำเส้นสปาเก็ตตี้ออกมาพักไว้

3. นำกุ้งที่เตรียมไว้แล้วมาใส่กระทะตามด้วยเส้นสปาเก็ตตี้ที่สุกแล้วจากนั้นใส่นมลงไป 1 ถ้วยตวง ตามด้วยมายองเนส พริกไทย และเกลือ

4. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนเริ่มกลายเป็นเนื้อครีมให้ใส่ไข่กุ้งลงไป 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นเติมนมสดที่เหลือลงไปผัดจนเข้ากันเมื่อเข้ากันดีแล้วให้ปิดไฟ

5. วิธีการเสิร์ฟให้ตักเส้นสปาเก็ตตี้ที่ผัดแล้วใส่จานโรยหน้าด้วยไข่กุ้งที่เหลือและโรยด้วยผักชีสับ เสร็จแล้วจ้ากับเมนู สปาเก็ตตี้ครีมไข่กุ้ง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ

       กับเมนูอาหารอิตาเลียนสไตล์ยุโรปอย่าง สปาเก็ตตี้ครีมไข่กุ้ง ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ใครที่กำลังอยากฝึกทำอาหารสไตล์อื่นนอกจากอาหารไทยสามารถลองทำเมนูนี้ได้ไม่ยากเลยนะคะ เคล็ดลับสำคัญ การต้มเส้นสปาเก็ตตี้ต้องใช้ระยะเวลาต้มประมาณ 7-10 นาที เพื่อให้เส้นยังมีความกรอบด้านในอยู่นะจ๊ะ

 

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนนน อาหารในประเทศไทยปัจจุบันล้วมเต็มไปด้วยอาหารต่างชาติมากมายหลากหลายประเทศให้ได้เลือกหารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่าเอย ซูชิเอย ก๋วยเตี๋ยวเอย หรือรวไปถึงสปาเก็ตตี้ที่ไม่ได้มีแค่สไตล์ต่างชาติเท่านั้น ยังมีแนวฟิวชั่นผสมผสานความเป็นไทยลงไปอีกด้วย อย่างวันนี้เราก็เตรียมเมนู สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล มาฝากทุดคนกัน อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำจะง่ายแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยจ้าา

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล

1. เส้นสปาเก็ตตี้ 300 กรัม

2. กุ้งแกะเปลือก 5 ตัว

3. ปลาหมึกหั่น 50 กรัม

4. หอยเชลล์ 50 กรัม

5. ใบกะเพรา 1/3 ถ้วยตวง

6. พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด

7. พริกไทยอ่อน 2 ฝัก

8. ใบมะกรูตามชอบ

9. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา

10. น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ

11. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

12. พริกขี้หนูเขียวและแดง

13. กระเทียม 5 กลีบ

14. น้ำมันพืช 25 กรัม

15. น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อน้ำใส่เกลือและน้ำมันนิดหน่อย ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไปต้ม

2. ตั้งน้ำมันลงในกระทะ ใช้ไฟกลางรอจนน้ำมันเดือด จากนั้นใส่พริกขี้หนูโขลกลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม

3. นำกุ้ง ปลาหมึกหั่น หอยเชลล์ ลงไปผัดในกระทะผัดจนใกล้สุก แล้วเติมน้ำตามลงไป

4. ปรุงรสชาติด้วยน้ำมันหอย น้ำตาลทราย ผงปรุงรส ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดสุกหอม

5. ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ที่สุกแล้วลงไปผัดจนเข้ากัน ตามด้วยใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าแดง ใบกะเพรา และพริกไทยอ่อน ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วจ้ากับเมนู สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารต่างชาติแนวผสมผสานอย่าง สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล วิธีทำของเราไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หากใครอยากลงทำทานเองหรือลองทำให้คนที่บ้านทานสามารถไปตามล่าหาวัตถุดิบได้เลย ถึงแม้จะเยอะไปหน่อยแต่อร่อยแน่นอน เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือการต้มเส้นต้องต้มในระยะเวลาประมาณ 7 – 10 นาที เพื่อให้เส้นยังมีความกรุบทางด้านในอยู่นะจ๊ะ

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน ใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลียนสไตล์ยุโรปคงเบื่อที่จะไปต่อแถวซื้อตามร้านอาหารหรือเบื่ออาหารสไตล์เดิม ๆ การที่เราได้เข้าครัวลองฝีมือเมนูใหม่ ๆ นับว่าเป็นการผ่อนคลายร่างกายอย่างหนึ่งวันนี้เราก็คงมีสูตรอาหารเด็ด ๆ และน่าสนใจมาฝากอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า นั่นเอง

       สปาเก็ตตี้เป็นอาหารที่ได้รับวิวัฒนาการมาจากเส้นก๋วยเตี๋ยวประเทศจีนโดยที่พ่อค้านักเดินทางชาวอิตาเลียนได้นำเข้ามาในปี 1295 นับว่าเส้นสปาเก็ตตี้เป็นอาหารตระกูลเส้นชนิดหนึ่งที่เรียกว่าพาสต้าส่วนผสมหลักของเส้นสปาเก็ตตี้ก็คือแป้งสาลี ไข่ และน้ำ บางชนิดอาจมีการผสมน้ำมันมีการปรับแต่งรูปร่างมีการเติมสีสันให้สวยงามเช่น สีดำจากปลาหมึก สีส้มจากแครอท เป็นต้น

ส่วนผสม/เครื่องปรุงเมนู สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

1. เส้นสปาเก็ตตี้ 1 กำมือ 

2. ชีส 1 ถ้วยตวง

3. นม 1 กล่อง

4. แฮม 3 แผ่น

5. หอมใหญ่ 1/2 หัว

6. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา

7. เกลือ 1 หยิบมือ

8. พริกไทย 1 หยิบมือ

9. เนยเค็ม 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ตั้งน้ำในหม้อเปิดไฟกลางใส่น้ำมันและเกลือลงไปเล็กน้อยจากนั้นนำเส้นสปาเก็ตตี้ใส่ลงไปตั้งทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที

2. หั่น แฮม ที่เตรียมไว้ให้เป็นลูกเต่า หอมใหญ่ก็เช่นเดียวกัน

3. นำเนยลงไปผัดกับหอมใหญ่ที่หั่นแล้ว เมื่อหอมใหญ่เริ่มเปลี่ยนสีให้นำแฮมลงไปผัดตามจนสุกหอม

4. นำนมมาใส่ตามลงไปในกระทะปรุงรสชาติด้วยเกลือและพริกไทยจากนั้นให้ใส่แป้งข้าวโพดลงไปทีละน้อย พอส่วนผสมเริ่มข้นขึ้นให้ใส่ชีสตามลงไป

5. นำเส้นสปาเก็ตตี้ที่สุกแล้วลงมาผัดรวมกันในกระทะจนซอสเข้าถึงเส้นทั้งหมด พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้ากับเมนู สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ

       กับเมนูอาหารอิตาเลียนสไตล์ยุโรปอย่าง สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะทุกคน ใครที่กำลังมองหาอาหารสูตรใหม่ ๆ แล้วอยากลองทำให้คนที่บ้านทานสามารถนำเมนูนี้ไปลองทำได้เลยนะคะ เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือ ขั้นตอนการต้มเส้นสปาเก็ตตี้ต้องใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพื่อให้เส้นด้านนอกนุ่มส่วนด้านในยังกรุบอยู่นะจ๊ะ

 

สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน อาหารที่มีชื่อเสียงอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบันนี้มีอยู่หลากหลายสัญชาติ หลากหลายประเภท และหลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็นประเภทต้ม ประเภทผัด ประเภทแกง หรือประเภททอด ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้อาหารไทยต้นฉบับ วันนี้เราก็เตรียมเมนูอาหารนานาชาติมาฝากทุกคนอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ สเต็กปลาทอดซอสทาร์ทาร์ นั่นเองจ้าาาาา

       สเต็ก เป็นอาหารทางชาติฝรั่งเศส ด้วยความที่ประเทศนี้เป็นที่แรกที่นำสูตรสเต็กมาเปิดเผยให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัส โดยผู้เปิดเผยคนแรกเป็นพ่อค้าและเชฟ จนได้ขึ้นชื่อว่าบิดาแห่งการครัวหรือคิงออฟเชฟ โดยที่อาหารประเภทนี้มีระดับความสุกมากถึง 6 ระดับเลยทีเดียว สูตรประกอบหลักมักจะเป็นเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ ปลา หรือเนื้อวัว

ส่วนผสม/เครื่องปรุงเมนู สเต็กปลาทอดซอสทาร์ทาร์

       สเต็กปลาทอด

1. ปลากะพงแร่ 1 ตัว

2. เกลือป่น 2 หยิบมือ

3. พริกไทยป่น 2 หยิบมือ

4. ไข่ไก่ 1 ฟอง

5. เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วยตวง

6. แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วยตวง

       ซอสทาร์ทาร์

1. หอมใหญ่ซอยละเอียด 1/3 ถ้วยตวง

2. ครีมสลัด 1 ถ้วยตวง

3. เกลือป่น 1 หยิบมือ

4. พาสเลย์สับ 

5. ไข่แดงต้มสุก 2 ฟอง

6. น้ำมะนาว 

วิธีทำ

1. นำ ปลากะพง ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปแร่ไม่ให้มีหนังและก้าง นำไปซับน้ำและทิ้งไว้ให้แห้ง

2. นำปลาที่แห้งแล้วมาโรยด้วยเกลือและพริกไทยเพื่อให้มีรสชาติ พักทิ้งเอาไว้ก่อน

3. นำไข่ไก่ตอกใส่ชามตีให้เข้ากัน จากนั้นนำเนื้อปลามาชุบไข่ไก่ตามด้วยชุบแป้งและชุบเกล็ดขนมปัง วนแบบนี้อยู่ 2 รอบ

4. ตั้งน้ำมันในกระทะพอให้ท่วมเนื้อปลาใช้ไฟอ่อนจากนั้นนำชิ้นปลาลงไปทอดจนเหลืองกรอบ

5. ขยำหอมซอยและเกลือเข้าด้วยกันพอให้มีน้ำหอมใหญ่ออกแล้วบีบให้แห้งนำมาผสมกับครีมสลัด

6. คนหอมใหญ่และครีมสลัดเข้าด้วยกันจากนั้นใส่ใบพาสเลย์สับ ไข่แดงต้มสุก บีบมะนาวลงไปเล็กน้อยคนให้เข้ากัน

7. เตรียมเสิร์ฟโดยการนำชิ้นปลามาวางในจานจากนั้นราดด้วยซอสทาร์ทาร์ลงไป หรือจะหามันบดมาเป็นเครื่องเคียงก็ได้ พร้อมเสิร์ฟกับเมนู สเต็กปลาทอดซอสทาร์ทาร์

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

      กับเมนูอาหารนานาชาติที่หาได้ตามร้านทั่วไปอย่าง สเต็กปลาทอดซอสทาร์ทาร์ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะเพื่อน ๆ ใครที่กำลังมองหาเมนูใหม่ ๆ ที่จะทำให้บุคคลในบ้านทานสามารถหาซื้อวัตถุดิบได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือ ขั้นตอนในการทำไข่แดงมาผสมในซอสทาร์ทาร์ต้องทำไข่แดงให้สุกเพื่่อไม่ให้ซอสมีกลิ่นคาวนะจ้ะ

https://www.youtube.com/watch?v=0FukTtuPp20

 

ฮัลโหลลลลลลล กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน ในปัจจุบันนี้อาหารต่างชาติจัดว่าเป็นอาหารที่ทรงอิทธิพลมากในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด พิซซ่า ซูชิ รวมถึงเบอร์เกอร์ที่สามารถหาทานได้ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไป วันนี้เราก็เตรียมเมนูเด็ดมาฝากทุกคนอีกเช่นเคย และเมนูในวันนี้ก็คือ เบอร์เกอร์ชีสหมู นั่นเองจ้า หลายคนคงจะชอบทานเมนูนี้ อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำจะง่ายแสนง่ายขนาดไหน ไปติดตามกันได้เลยจ้าาา

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู เบอร์เกอร์ชีสหมู

1. เนื้อหมู 500 กรัม

2. ไข่แดง 2 ฟอง

3. หอมใหญ่สับหยาบ 2 หัว

4. เนยเค็ม 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

5. น้ำมันหอย 4 ช้อนโต๊ะ

6. เกลือ 1/2 ช้อนชา

7. พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ

8. ออริกาโน 2 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา

10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

11. ซอสมะเขือเทศ 1/4 ถ้วยตวง

12. น้ำสต๊อก 1/2 ถ้วยตวง

13. เชดดาชีส 2 แผ่น

14. แป้งเบอร์เกอร์สำเร็จรูป

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่เนยลงไป ตามด้วยหอมใหญ่สับหยาบ ผัดจนสีเปลี่ยนเกือบเป็นสีน้ำตาล ผัดจนแห้งเลยนะคะ

2. เมื่อกระทะเริ่มแห้งแล้วให้ใส่ออริกาโน พริกไทยป่น ซอสมะเขือเทศตามลงไป คนจนเข้ากัน ยกไปพักทิ้งไว้ให้เย็น

3. เตรียมหมูโดยการนำหมูที่ยังเป็นชิ้นอยู่มาสับให้ละเอียด ใส่ไข่แดง หอมใหญ่ผัดเนย น้ำตาล น้ำมันหอย คลุกเคล้าให้เข้ากันดี

4. พักหมูโดยการนำใส่พลาสติกแร็พ ม้วนเป็นวงกลม จากนั้นกดให้แบนแล้วน้ำเข้าช่องฟรีซ เวลาจะใช้ให้นำออกมาวางให้น้ำแข็งละลายแล้วนำไปจี่ในกระทะ โปะชีสทางด้านบนจี่จนชีสเริ่มเยิ้ม

5. นำ แป้งเบอร์เกอร์ มาทาเนยทิ้งไว้ จากนั้นนำไปจี่ในกระทะให้สีเปลี่ยนน่ารับประทาน 

6. วางขนมปังด้านล่าง ตามด้วยผักตามชอบ ตามด้วยหมูที่จี่มีชีสโปะ ทบด้วยผักและแป้งอีกหนึ่งชั้น เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะกับเมนู เบอร์เกอร์ชีสหมู

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารฝรั่งยอดฮิตอย่าง เบอร์เกอร์ชีสหมู ที่เราเตรียมมาฝาก ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ถึงแม้วัตถุดิบจะเยอะไปหน่อย แต่ก็สามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไปเลยนะ ใครที่อยากลองทำทานสามารถเตรียมหาซื้อวัตถุดิบได้เลยน้า เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือหมูที่นำออกมาจากช่องฟรีซต้องรอให้น้ำแข็งละลายหมดก่อนหมูจะได้ไม่ด้านตอนจี่กระทะนะจ๊ะ 

กราบสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุก ๆ ท่านนนนน การได้ทำอาหารอยู่ที่บ้านนับว่าเป็นการผ่อนคลายร่างกายอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารหรือการทำขนมก็สามารถนับว่าเป็นการพักผ่อนได้เช่นเดียวกัน วันนี้เราก็คงมีอาหารน่าสนใจวิธีทำง่าย ๆ มาฝากทุกคนอีกเช่นเคย เมนูนี้ก็คือ มักกะโรนีอบชีส นั่นเอง

       มักกะโรนี ได้รับการพัฒนามาจากเส้นก๋วยเตี๋ยวของประเทศจีน ซึ่งมักกะโรนีนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชนิดพาสต้า เมื่อทางยุโรปได้ชิมเส้นก๋วยเตี๋ยวของจีนจึงนำมาพัฒนาเป็นเส้นพาสต้าหลากหลายชนิดซึ่งชนิดที่ยอดนิยมมากที่สุดได้แก่ เส้นสปาเก็ตตี้ โดยยส่วนประกอบหลักของเส้นแต่ละชนิดประกอบไปด้วยแป้งสาลี น้ำ และไข่ ซึ่งส่วนมากเส้นจำพวกนี้ต้องมาประกอบอาหารทานคู่กับซอสอย่างใดอย่างหนึ่ง

ส่วนผสม/เครื่องปรุง เมนู มักกะโรนีอบชีส

1. มักกะโรนี 300 กรัม

2. สะโพกไก่ 1/2 กิโลกรัม

3. พาสต้าซอส 1 กระป๋อง

4. ผักสามสี 200 กรัม

5. โรสแมรี 3 ก้าน

6. ชีส 100 กรัม

7. เกลือ 1 ช้อนชา

8. พริกไทย 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำ สะโพกไก่ ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาดจากนั้นนำไปโรยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย

2. ตั้งกระทะด้วยไฟกลางนำสะโพกไก่ลงไปจี่พอให้เปลี่ยนสีเล็กน้อย

3. นำพาสต้าซอสเทลงไปในกระทะที่มีน้ำมันจี่สะโพกไก่แล้วตามด้วยผักสามสีผัดจนเข้ากัน

4. นำมักกะโรนีไปต้มน้ำประมาณ 10 นาที ใส่น้ำมันพืชและเกลือเล็กน้อย

5. นำเส้นที่สุกแล้วมาวางใส่จานราดด้วยซอสพาสต้าที่มีผักสามสีลงไปบนเส้นมักกะโรนีวางทับด้วยไก่จากนั้นให้โปะชีสที่ด้านบนแล้วนำเข้าไปอบจนชีสละลายนำออกมาตกแต่งด้วยโรสแมรี เสร็จแล้วจ้ากับ เมนูมักกะโรนีอบชีส

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ

       กับเมนูสไตล์ยุโรปยอดฮิตอย่าง มักกะโรนีอบชีส ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลียนสามารถลองเข้าครัวฝึกฝีมือทำเมนูนี้ได้ไม่ยากเลย เคล็ดลับสำคัญ ของเมนูนี้ก็คือ การลวกเส้นมักกะโรนีที่ต้องใส่น้ำมันลงไปก็เพื่อให้เส้นที่ลวกแล้วไม่ติดกันเป็นก้อนนะจ๊ะ 

อันยองฮาเซโยยยยยย กราบสวัสดีคุณผู้ชมทุกท่านจ้าา ประเทศเกาหลีใต้นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอาหารเลิศรสอยู่ทั่วทุกมุม และทุกวันนี้ก็ได้มีอิทธิพลเข้ามาอยู่ทั่วทุกมุมของบ้านเราอีกเช่นกัน ใครที่ชอบทานอาหารเกาหลีก็คงจะปลื้มใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะที่หาซื้อทานได้ง่ายมัก ๆ แต่จะไปหาซื้อทานบ่อยกระเป๋าสตางค์ก็คงจะฉีกไม่เบา วันนี้เราเลยเตรียมสูตรหนึ่งในเมนูพิเศษที่หลายคนคงชอบทาน เมนูนี้ก็คือ ต๊อกโบกี นั่นเองจ้า อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีทำจะดุเด็ดเผ็ดมันแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลยยย

ส่วนผสม / เครื่องปรุงเมนู ต๊อกโบกี

1. แป้งข้าวเหนียว 400 กรัม

2. แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม 

3. น้ำเปล่า 1 ขวดใหญ่

4. ปลาแห้ง 1/2 ถ้วยตวง

5. สาหร่ายแห้ง 1/2 ถ้วยตวง

6. ซอสถั่วเหลือง 1/4 ถ้วยตวง

7. โคชูจัง 1/3 ถ้วยตวง

8. พริกป่นละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

10. หอมใหญ่ 1 หัว

11. กะหล่ำปลี 1/2 หัว

12. ต้นหอม ตามชอบ

13. มอสซาเรลาชีส ตามชอบ

วิธีทำ

1. เตรียมต๊อกโบกีด้วยการผสมแป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวเจ้าเข้าด้วยกัน ตามด้วยน้ำเปล่า ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปนึ่ง เมื่อนึ่งเสร็จแล้วให้นำไปนวดจนเข้ากัน เอาออกมาตัดให้เป็นแป้งต๊อกในขนาดที่พอคำ

2. ตั้งหม้อน้ำหนึ่งใบ จากนั้นใส่ปลาแห้งและสาหร่ายลงไปต้ม ตามด้วยซอสถั่วเหลือง ตามด้วยแป้งต๊อก และใส่โคชูจัง น้ำตาลทราย พริกป่นตามลงไป

3. เมื่อปรุงรสชาติเรียบร้อยแล้วให้ใส่หอมใหญ่หั่นแว่น กะหล่ำปลีซอยลงไปในหม้อ ตั้งทิ้งไว้จนต๊อกข้นขึ้น

4. ตักใส่ชามวางมอสซาเรลาชีสลงไปเบิร์นด้วยไฟให้ชีสละลาย โรยด้วยต้นหอมซอย เป็นอันเสร็จแล้วจ้า พร้อมเสิร์ฟกับเมนู ต๊อกโบกี 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ 

       กับเมนูอาหารสไตล์เกาหลีที่ไม่ธรรมดาอย่าง ต๊อกโบกี ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ใครที่อยากลองทำให้คนที่บ้านทานหรือชอบมาก ๆ อยากทำทานเองสามารถหาซื้อวัตถุดิบไว้ได้เลยเด้อ เคล็ดลับ ของเมนูนี้ก็คือ หากใส่แป้งข้าวเจ้ามากเกินไปจะทำให้แป้งนึ่งออกมาแล้วเเข็งนะจ๊ะ