สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
ขนมเบเกอรี่

วิธีทำ ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด เมนูเอาใจวัยรุ่นสายหวาน สอดไส้นมฉ่ำๆ

ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด
ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด

ถ้าพูดถึงเมนูเบเกอรี่ยอดฮิต ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นตอนนี้ หลายคนคงจะนึกถึงเมนูขนมปังเนยสด ที่สอดไส้นมทะลักฉ่ำๆ แล้วทาด้วยเนยบางๆ แค่นึกถึงก็น้ำลายไหลแล้วค่ะ แต่ในวันนี้พิเศษหน่อยเราขอนำเสนอสูตรขนมปังเนยสดสุดพิเศษอย่าง“ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด” เมนูขนมหวาน ที่อัดแน่นไปด้วยความเข้มข้นของช็อกโกแลตอัดแน่น และความหวานมัน ใครได้ลิ้มลองจะต้องติดใจอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งสูตรนี้เราได้มาจาก

ส่วนผสมหลักของขนมปังช็อกโกแลตเนยสด

โดยทั่วไปวัตถุดิบที่สำคัญในใช้ทำขนมปังเนยสดก็คือ แป้งขนมปังและไส้เนยสด แต่ความพิเศษของ “ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด” คือการผงโกโก้ลงไปในตัวแป้งขนมปัง เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและความแปลกใหม่จากเดิม แถมความอร่อยเพิ่มขึ้น รอช้าอยู่ใย เรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำกันเลย!!

ส่วนผสมตัวแป้งขนมปัง

  1. แป้งขนมปัง 220 กรัม
  2. แป้งเค้ก 80 กรัม
  3. ผงโกโก้ 35 กรัม
  4. ยีสต์แห้ง 6 กรัม
  5. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  6. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  7. ข้นจืด 60 กรัม
  8. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  9. น้ำอุ่น 120 มิลลิลิตร
  10. เนยจืด 20 กรัม

ส่วนผสมตัวไส้

  1. นมสด 230 มิลลิลิตร
  2. นมข้นหวาน 70 กรัม
  3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  4. กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  5. แป้งข้าวโพด 15 กรัม
  6. เนยจืด 10 กรัม

ส่วนผสมเนยสด

  1. เนยจืด 200 กรัม
  2. นมข้นหวาน 50 กรัม

ขั้นตอนวิธีการทำ

วิธีการผสมแป้งขนมปัง

  1. ร่อนแป้ง ผงโกโก้ และเกลือ ผสมกับน้ำตาลทรายและยีสต์ แล้วคนให้เข้ากัน
  2. ผสมข้นจืด ไข่ไก่ และน้ำอุ่น แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ เทส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมของแห้งสลับกับนวดให้เข้ากันทีละนิด จนเข้ากันดี
  3. ใส่เนยจืดลงในแป้ง นวดจนเข้ากัน พักไว้ 40 – 60 นาที จนแป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า
ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด
ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด

วิธีการผสมไส้ และแบ่งแป้งขนมปัง

  1. ตั้งไฟอ่อนใส่นมสด นมข้นหวาน ตรามะลิ ตามด้วยแป้งข้าวโพดละลายน้ำเล็กน้อย คนจนกว่าส่วนผสมจะมีความข้นได้ที่ จากนั้นใส่เนยจืดลงไป ตั้งพักไว้จนส่วนผสมเริ่มอุ่น
  2. ใส่ไข่ไก่ (ไข่แดง 2 ส่วน และไข่ขาว 1 ส่วน) และกลิ่นวานิลลาลงไปในส่วนผสมข้างต้น(ข้อ1) คนให้เข้ากันแล้วเปิดไฟอ่อนๆ จากนั้นคนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นหนืด แล้วนำไปใส่ถุงบีบและแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น
  3. นำแป้งที่ขึ้นฟูแล้วมาแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ ใส่ในภาชนะที่ทาเนยเอาไว้ แล้วนำแป้งไปพักอีกครั้งประมาณ 40 – 60 นาที จนขนาดแป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า

วิธีการอบและใส่ไส้เนยสด

  1. ผสมเนยจืด กับนมข้นหวาน แล้วตีด้วยความเร็วสูงจนเนยมีสีอ่อนลง
  2. ทานมผสมเนยบนแป้ง ก่อนนำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที
  3. เมื่อแป้งสุกพอดีแล้ว ให้นำมาเจาะรูข้างบน แล้วบีบไส้จากถุงบีบที่แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นลงไป จากนั้นทาด้วยเนยสดที่ตีไว้ด้านบนขนมปัง
  4. โรยผงโกโก้บนขนมปังอีกที แล้วจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

และแล้วเราก็ได้ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด ขนมปังไส้ทะลักที่แสนอร่อย หวานมันและเข้มข้น หากใครเบื่อไม่อยากกินไส้เนยสดก็สามารถซื้อไส้ช็อกโกแลตสำเร็จรูป มาใส่แทนได้นะคะ มันก็จะเพิ่มความเข้มข้นไปอีกแบบหรือจะเป็นไส้อื่นๆ ก็ได้ ตามความชอบเลยค่ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

แจกสูตร เค้กมันม่วง เค้กเนื้อนุ่ม สีสวยจากธรรมชาติ ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

เค้กมันม่วง
เค้กมันม่วง

เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเกิดกระแสใหม่ๆ ในวงการอาหารมากมาย ซึ่งเราคาดว่าเกิดจากค่านิยมในสังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้เกิดเมนูใหม่ๆ ขึ้นค่ะ อย่างตอนนี้เทรนผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติกำลังมาแรงเลยค่ะ เราจึงได้หยิบยกสูตรเมนูขนมหวานอย่าง “เค้กมันม่วง” ซึ่งเป็นเค้กที่มีส่วนประกอบของมันม่วงจากธรรมชาติเป็นหลัก  แถมยังมีประโยชน์ดีต่อสุขภาพ มาให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน เรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำกันเลยค่ะ!!

ส่วนผสมหลักของเค้กมันม่วง

วัตถุดิบในการทำเมนูเค้กมันม่วงหลักก็มีไม่มากและไม่ยุ่งยากค่ะ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คงจะเป็นมันม่วงที่เป็นผลไม้จากธรรมชาติถือได้ว่าเป็นตัวเด่นของเมนูนี้เลย จะใช้มันม่วงไทยหรือมันม่วงญี่ปุ่นก็ได้ แต่อ่านจากความคิดเห็นของชาวเน็ตใน pantip ต่างบอกว่ามันม่วงญี่ปุ่นจะอร่อยและหวานกว่า ดังนั้นเราจึงขอเลือกมันม่วงจากญี่ปุ่นมาทำ อย่ารอช้า เรามาดูส่วนผสมกันเลย!!

ส่วนผสม เค้กมันม่วง

  1. มันม่วงญี่ปุ่นนึ่งปอกเปลือก 80 กรัม
  2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  3. น้ำมันรำข้าว 25 มิลลิลิตร
  4. กะทิ 60 มิลลิลิตร
  5. น้ำตาลทราย 80 กรัม หรือจะลด-เพิ่ม ได้ตามความชอบเลยค่ะ
  6. กลิ่นวานิลลา 1/4 ช้อนชา
  7. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  8. แป้งสาลีหรือแป้งอเนกประสงค์ 120 กรัม
  9. ผงฟู 1 ช้อนชา

ส่วนผสม ไส้เค้กมันม่วง

  1. มันม่วงญี่ปุ่นนึ่งปอกเปลือก 160 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 100 กรัม หรือจะลด-เพิ่ม ได้ตามความชอบเลยค่ะ
  3. กะทิ 200 มิลลิลิตร
  4. แป้งกวนไส้หรือแป้งข้าวโพดก็ได้ค่ะ 40 กรัม
เค้กมันม่วง
เค้กมันม่วง

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. เริ่มต้นทำไส้ขนม โดยนำมันม่วงญี่ปุ่นนึ่งใส่เครื่องปั่น เติมน้ำตาลทรายและกะทิ ปั่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นเทใส่กระทะก้นลึก
  2. เติมแป้งสาลี แล้วคนจนแป้งละลาย จากนั้นก็นำขึ้นตั้งไฟใช้ไฟอ่อน แล้วคนตลอดเวลาจนแน่ใจว่าข้นพอดี และตั้งทิ้งไว้ให้เย็นหรือนำเข้าตู้เย็นพักไว้
  3. ทำเค้กมันม่วง โดยปั่นมันม่วงญี่ปุ่นนึ่งสุก ไข่ไก่ น้ำมันรำข้าว กะทิ น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา และเกลือป่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่ภาชนะผสมพักไว้
  4. ร่อนแป้งและผงฟูใส่ภาชนะผสมอีกใบ จากนั้นใส่ลงไปผสมกับส่วนผสมมันม่วงประมาณ 3 รอบ ระหว่างนั้นก็คนจนแป้งละลาย แล้วพักไว้ 30 นาที
  5. เมื่อพักแป้งครบ 30 นาที ก็คนไล่ฟองอากาศ แล้วตักแป้งมันม่วงใส่พิมพ์คัพเค้กที่รองด้วยถ้วยกระดาษไข แล้วใส่ไส้ขนมตามลงไป และโปะด้วยแป้งมันม่วงด้านบน นำไปนึ่งหลังน้ำเดือด ประมาณ 20 นาทีหรือจนแป้งสุก โดยใช้ไฟแรงช่วงแรกประมาณ 7 นาที จากนั้นปรับเป็นไฟปานกลางถึงอ่อนนึ่งต่ออีก 13 นาทีหรือจนแป้งสุก
  6. เตรียมจัดจานพร้อมรับประทานเค้กมันม่วงสอดใส้ร้อนไป

เพียงเท่านี้เราก็จะได้เค้กมันม่วง แสนอร่อยที่มาพร้อมกับสอดไส้มันม่วง กลายเป็นเค้กสีม่วงสวยๆ ที่น่ากินเป็นอย่างมาก และนี่เป็นสูตรทำเค้กมันม่วงนึ่ง ที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แถมตัวเค้กยังนุ่มอร่อยจนลืมไม่ลงเลยค่ะ

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร ชูครีม เมนูเบเกอรี่แสนอร่อย ทานง่าย ไม่แคร์น้ำหนัก

ชูครีม
ชูครีม

ชูครีม หรือที่เราชอบเรียกกันว่าเอแคล์ เดี๋ยวนี้มีหลายรูปแบบเลยนะครับ ทั้งแบบลูกเล็ก ลูกใหญ่ มีบางที่ทำแบบหยอดไส้เข้าไป มีบางที่ตกแต่งโดยปาดครึ่งใส่ครีมแล้วทำฝาปิดไว้เก๋ๆ ก็มีนะครับ แต่เชื่อเถอะใครที่ได้ทานคำแรกปุ๊บ ไม่เคยจะพอ ต้องมีคำต่อๆ ไป ผมก็เช่นกัน

ด้วยความที่ชูครีม แป้งข้างนอกกรอบนอกนุ่มใน มาเจอกับไส้ที่นุ่มลิ้น หอม หวานละมุน ยิ่งถ้าแช่เย็นมานะครับ สำหรับผม เท่าไหร่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็น S&P ยามาซากิ หรือตามสตรีทฟู้ด ถ้าได้เจอ ผมอดซื้อทานไม่ได้จริงๆ พูดมาขนาดนี้แล้ว รออะไรล่ะครับ อยากชวนมาทำชูครีมไว้ทานเองดีกว่า อร่อยประหยัดครับ

วัตถุดิบ 

  • ไข่ไก่ 7 ฟอง แยกเฉพาะไข่แดง 5 ฟอง
  • เนยเค็ม 50 กรัม
  • น้ำเปล่า
  • เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  • แป้งสาลี 60 กรัม
  • นมผง 2 ช้อนชา
  • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม

ขั้นตอนการทำ

ในส่วนของขั้นตอนการทำนั้น เราจะมี 2 ส่วนนะครับ คือส่วนของตัวแป้ง และตัวไส้ 

  1. นำแป้งสาลีมาผสมกับไข่แดง แล้วค่อยๆ คน เติมน้ำเปล่าทีละน้อยๆ ดูให้เนื้อแป้งมีความหนืดแต่ยังพอให้ไหลลงจากไม้พายได้นะครับ เวลาเติมน้ำให้เติมทีละน้อยๆ คนไปเรื่อยๆ ถ้าเหลวเกินจะทำให้ทำตัวชูครีมไม่ได้ทรงที่สวยงาม
  2. หลังจากได้แป้งแล้ว ให้นำมาใส่ถุงพลาสติก แล้วเจาะมุม เพื่อบีบตัวชูครีม ใส่หัวสำหรับบีบเค้กด้วยนะครับ เพื่อความสวยงาม สเปรย์น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย หลังจากอบแล้ว ตัวชูครีมจะได้ไม่แห้งครับ
  3. หลังจากนั้นนำเข้าตู้อบ ไฟบน-ล่าง 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที ก็จะได้ตัวชูครีมแล้วครับ ต่อไปก็ทำไส้กันครับ
  4. นำไข่แดง 1 ฟอง น้ำตาลทราย 40 กรัม เติมนมผงเล็กน้อย แป้งสาลี นมสดและวิปปิ้งครีม คนทุกส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งบนเตา ใช่ไฟอ่อนนะครับ คนไปเรื่อยๆ ให้เนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. นำวิปปิ้งครีม 200  กรัม ใส่กลิ่นวนิลาเล็กน้อย ตีให้ครีมขึ้นฟู นำไส้ที่ทำไว้ลงไปผสมให้เข้ากัน
  6. นำไปใส่ถุงแล้วใส่หัวบีบเพื่อเจาะใส่ไส้เข้าไปนะครับ บีบเข้าไปให้เต็มลูก แค่นี้ ก็ฟินน์กับชูครีมกันได้ละครับ

เป็นยังไงกันบ้าง ชูครีม ขนมหน้าตาดีๆ รสชาติอร่อย ทำไม่ยากใช่มั้ยครับ จากสูตรนี้รับรองว่าคำเดียวไม่เคยพอจริงๆ ครับ แป้งด้านนอกให้ออกกรอบนิด ด้านในนุ่มๆ เจอไส้แบบหอมหวานมันเข้าไป นุ่มลิ้นมากครับ ว่าแล้วผมคงต้องขอตัวไปทำทานบ้างละครับ

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร สโคน เมนูเบเกอรี่แสนอร่อย ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน

สโคน
สโคน

ในบรรดาขนมที่ทานกับชาหรือกาแฟ ที่ถูกใจใครหลายคน ผมก็คิดว่าน่าจะเป็น

สโคนนี่แหละครับ ชอบกลิ่นเนยเวลาอบหอมๆ ผมชอบทานเปล่าๆ แต่จริงๆ แล้ว สโคนทานกับแยมจะไม่ฝืดคอ และมีรสชาติมากกว่าครับ จะทานกับแยมสตรอเบอรี่ แยมบลูเบอรี่ ก็เข้ากันดีเลยครับ

สโคนจัดเป็นคุ้กกี้ชนิดหนึ่งเหมือนกัน สโคนมีหลายสูตรครับ บางสูตรก็ใช้แป้งสาลี แต่สูตรที่ผมจะแนะนำนี้ใช้แป้งเค้กนะครับ เพื่อที่แป้งจะไม่แข็งมาก เวลาอบเสร็จเนื้อของสโคนจะหอมนุ่ม ไม่แข็ง ทำไว้ทีละเยอะๆ ได้ครับ ใส่โหลไว้ทานนานๆ จะทานเมื่อไหร่ก็หยิบทานได้เลย

วัตถุดิบ 

  • แป้งเค้ก 150 กรัม
  • น้ำตาลทราย 30 กรัม
  • ผงฟู 5 กรัม
  • เกลือป่น 0.5 ช้อนชา
  • เนยสดเค็มหั่นเต๋า 50 กรัม แช่เย็นจัด
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • วิปปิ้งครีม 25 กรัม

ขั้นตอนการทำ

สำหรับการเลือกเนยมาทำสโคน จะใช้เนยสดจืด หรือเค็มก็ได้นะครับ แต่ที่สำคัญเนยต้องแช่ให้เย็น เพราะเราการให้เนยกับแป้งจับตัวกันเป็นเนื้อทรายครับ

  1. นำแป้งเค้กมาผสมกับน้ำตาลทราย เกลือป่น และผงฟู ใช้แส้ตีไข่ค่อยๆ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  2. หลังจากนั้นนำเนยสดหั่นเต๋า (เนยแช่เย็นให้แข็งนะครับ) ใส่ลงไปผสมกับแป้งที่เตรียมไว้ ใช้ส้อมจิ้มให้เนยค่อยๆ แตกตัว หลังจากเนยเริ่มละเอียดแล้ว ก็ใช้ปลายนิ้วบี้ให้เนยเล็กลงอีก แป้งที่ได้ตอนนี้จะมีลักษณะร่วนเหมือนทราย
  3. ใส่ไข่ไก่ลงไป 1 ฟอง ไม่ต้องแยกไข่ขาวไข่แดงนะครับ ใส่ทั้งฟองเลย 
  4. เติมวิปปิ้งครีม คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  5. พอแป้งเริ่มจับตัวกันเป็นก้อน นำออกมานวดต่อนิดหน่อยแล้วทำแป้งให้เป็นแผ่น
  6. ตัดแบ่งแป้งออกเป็นสองส่วน แล้วนำมาประกบซ้อนกัน แล้วก็ทำให้เป็นแผ่นอีก และตัดแบ่งนำมาทบอีก เหมือนเดิม ทำแบบนี้ประมาณ 3-5 รอบ
  7. ห่อกระดาษ นำเข้าตู้เย็นไว้ประมาณ 30 นาที
  8. นำแป้งออกมา ใช้พิมพ์วงกลมกดแป้งออกมา เราจะได้ตัวสโคนแล้วครับ
  9. ก่อนอบ ทาวิปปิ้งครีมบนหน้าขนม และโรยน้ำตาลทรายเล็กน้อย
  10. อบด้วยความร้อน 200 องศาเซลเซียส 10 นาที แล้วอบเพิ่มความร้อน 180 องศาเซลเซียส อีก 5 นาทีครับ

เห็นมั้ยครับ ง่ายๆ แค่นี้เราก็มีสโคนทานแล้วครับ เดี๋ยวนี้หลายสูตรเขาก็เติม

ส่วนผสมอย่างอื่นลงไปด้วยครับ อย่างลูกเกด อัลมอนด์ ช็อคโกแลตชิป เป็นต้น ก็เป็นการเพิ่มรสชาติ และทำให้ดูน่าทานมากขึ้นด้วยครับ แต่สเน่ห์ของสโคนจะอยู่ที่กลิ่นหอมเนยและไม่เน้นรสหวานนะครับ

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร เค้กไข่ไต้หวัน ขนมเบเกอรี่ ที่หลายๆคนชอบกิน

เค้กไข่ไต้หวัน
เค้กไข่ไต้หวัน

วันหนึ่งสักเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ไปเดินเล่นในศูนย์การค้าแถวๆ ชานเมือง ผมก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นคนต่อคิวเพื่อซื้อขนมที่ร้านๆ หนึ่ง แถวยาวมาก ผมจึงลองเดินโฉบเข้าไปดู ปรากฏว่าขนมนั้นคือ “เค้กไข่ไต้หวัน” ผมแอบถามคนมาเข้าคิวซื้อ ว่าทำไมถึงมีความพยายามขนาดนี้ต้องรอนานมาก ก็ยังรอ เขาบอกผมว่ามันอร่อย หอม นุ่มมาก ผมถึงกับอยากลอง จนต้องเข้าคิวตามเขาเลยทีเดียว

แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ เค้กไข่ไต้หวัน  เนื้อฟูเด้งได้ นุ่ม หอม ทานแล้วเหมือนละลายในปาก ไม่แปลกใจเลยที่เป็นที่นิยมสำหรับคนชอบทานเบเกอรี่อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มนำเข้ามาขาย จนถึงปัจจุบันก็ยังนิยมกันอยู่ แต่จะให้ไปต่อคิวยาวๆ บ่อยๆ คงไม่ไหวใช่มั้ยครับ ถ้างั้นเรามาลองทำเค้กไข่ไต้หวันทานเองกันดีกว่าครับ

 

วัตถุดิบ 

– แป้งเค้ก 100   กรัม

– ผงฟู 1.5 ช้อนชา

– ไข่ไก่ 6 ฟอง

– น้ำมันพืช 50 กรัม

– เกลือ ¼ ช้อนชา

– นมข้นจืด 100 กรัม

– น้ำตาลทราย 60 กรัม

 

ขั้นตอนการทำ

สำหรับเค้กไข่ไต้หวันนี้เป็นสปันจ์เค้กครับ เพราะฉะนั้นจะมีความนุ่มและเด้ง ไม่ยุบตัวนะครับ สูตรนี้ รับรองว่าอร่อย นุ่ม และหน้าเค้กเรียบกริบแน่นอน แต่ต้องทำตามขั้นตอนที่แนะนำนะครับ โดยเฉพาะในช่วงของการผสมส่วนผสมต่างๆ ต้องค่อยๆ ทำ เพื่อไม่ให้โครงสร้างเค้กยุบตัว ไปครับไปทำเค้กกัน

  1. นำไข่ไก่ มาแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว
  2. เทน้ำมันพืชใส่กะละมัง ตามด้วยแป้งเค้ก ผงฟูและเกลือป่น ที่เตรียมไว้ โดยใช้ตะแกรงร่อนแป้ง เพื่อให้เนื้อแป้งรวมไปถึงส่วนผสมอื่นๆ เนียนละเอียด
  3. ผสมแป้งกับน้ำมันพืชให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
  4. เติมนมข้นจืดลงไป คนให้เข้ากันโดยใช้ไม้พาย แล้วใส่ไข่แดงลงไปพร้อมกันเลยทั้ง 6 ฟอง ตีให้เข้ากันจะเป็นเนื้อเดียวกัน เติมกลิ่นวนิลาเล็กน้อย เพื่อดับกลิ่นคาวของไข่
  5. ตีไข่ขาว บีบน้ำมะนาวลงไปนิดหน่อย เพื่อให้ฟู ค่อยๆ เติมน้ำตาลทรายเป็นระยะ
  6. นำไข่ขาวที่ตีแล้ว มาผสมกับแป้งที่เตรียมไว้ ขั้นตอนนี้สำคัญ เราต้องค่อยๆ ผสมให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน ให้เนียน
  7. พอได้เรียบร้อยเทใส่พิมพ์ กระแทกพิมพ์เล็กน้อยเพื่อไล่ฟองอากาศ แล้ววางบนถาดอบ อบด้วยไฟ 150 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 70 นาที 
  8. พักให้เย็นก่อน ถอดพิมพ์เค้กออก

ได้แล้วครับเค้กไข่ไต้หวัน นุ่มๆ เด้งๆ รสชาติไม่หวานมากครับ แต่หากท่านใดที่

ชอบทานหวาน จะเพิ่มสัดส่วนของน้ำตาลทรายก็ไม่ติดครับ สามารถทำ เค้กไข่ไต้หวัน

ได้ ขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้ เราก็สามารถทำทานเองได้แล้วนะครับ ไม่ต้องฝ่ารถติดไปต่อแถวซื้อให้เมื่อยด้วยครับ

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร แซนวิชแฮมชีส เบเกอรี่แสนอร่อยที่นิยมทำกินตอนเช้า

แซนวิชแฮมชีส
แซนวิชแฮมชีส

ชีวิตปัจจุบันนี้ เร่งรีบกันพอสมควรนะครับ บางวันยังทานอาหารได้ไม่ครบ 3 มื้อเลย แล้วทำไมเราต้องปล่อยให้ท้องหิวด้วยว่ามั้ย อาหารว่างง่ายๆ ที่ทำไว้แล้วเก็บไว้ทานได้สักวันสองวันก็น่าจะดีไม่น้อย ตัวผมเอง เวลาว่างๆ ก็ทำอะไรง่ายๆ ทานครับ

แซนวิชแฮมชีส ก็เป็นอีกเมนู ที่ผมทำบ่อยๆ ทานในรถระหว่างไปทำงานก็ได้ สะดวกดี เคยแวะร้านกาแฟ เจอราคาแล้วต้องมีอึ้งกันบ้างอาจเพราะต้นทุนของเชดด้าชีสค่อนข้างสูง ถ้างั้นทำเองกินเองน่าจะคุ้มกว่า นอกจากเราจะทานระหว่างขับรถ หรือยามเร่งรีบ เมนูนี้ยังทำให้ลูกหลานทานได้ด้วยนะครับ เพราะแซนวิชสูตรนี้ทำง่าย เก็บง่ายและทานง่ายมากๆ ขอแอบบอกว่าไม่มีผักเลย เด็กๆ น่าจะชอบ

วัตถุดิบ 

  • ขนมปังขาวสไลด์
  • แฮม
  • เชดด้าชีส (แนะนำยี่ห้ออลาวรี่ครับ)
  • มายองเนส

ขั้นตอนการทำ

ขั้นตอนการทำไม่มีอะไรมาก แต่ทริคอยู่ที่ ถ้าเรานำขนมปังขาวสไลด์มา 1 แถว เวลาเราทำ ให้เราดูแนวของขนมปังด้วยครับ ควรวางตามแนวที่ขนมปังอบมาเลย เพราะบางครั้งขนมปังแต่ละแถว จะมีส่วนที่เว้าเข้ามา ถ้าเราวางแนวเดียวกันเสมอ เวลาตัดขอบ จะได้ไม่ต้องตัดเนื้อขนมปังทิ้งเยอะครับ

  1. นำขนมปังขาวสไลด์มาทามายองเนส ทั้ง 4 แผ่น ทาเฉพาะด้านใน เราจะทำเป็นคู่นะครับ
  2. ทามายองเนสแผ่นที่ 1 วางแฮมลงไป 1 ชิ้น ทามายองเนสแผ่นที่ 2 นำมาประกบกัน
  3. เอาขนมปังแผ่นที่ 2 มาทามายองเนส ครั้งนี้วางชีสลงไป 1 แผ่นครับ ทามายองเนส บนขนมปังอีกอัน เอามาประกบกัน 
  4. ใช้มีดเลื่อยตัดแทยงมุม (ถ้าไม่มีใช้มีดบางได้) เวลาเลื่อยอย่ากดขนมปังนะครับ เพราะจะทำให้แซนวิชยุบตัว ไม่น่าทาน
  5. ใช้มีดเลื่อย ตัดขอบขนมปังทั้ง 4 ด้าน

1 สูตรนี้ ได้แซนวิชแฮมชีส 2 ชิ้นแล้วครับ แต่แอบบอกไว้นิดหนึ่งครับ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นแซนวิชตัวอื่นก็ทำได้นะครับ อย่างแซนวิชทูน่า ก็ไม่ยากเลย แค่นำทูน่าในน้ำมันพืชมา บีบน้ำมันออกให้หมด แล้วนำทูน่ามาคลุกกับมายองเนส ทำวิธีเดียวกับแซนวิชแฮมชีสเลยครับ ต่างกันแค่ ตรงขนมปัง ไม่ต้องทามายองเนสแล้ว เพราะเรามีมายองเนสที่ผสมกับทูน่าแล้ว

เห็นมั้ยครับ ไม่ต้องเสียเงินเยอะๆ เราก็ทำทานเองได้ สะดวกด้วย ถ้าใครอยากทานผักก็แค่เพิ่มเข้าไป เอาตามสะดวก ตามที่ชอบเลยครับ

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร ครีมฮอร์น เมนูเบเกอรี่แสนอร่อย ทำง่ายๆได้ที่บ้าน

ครีมฮอร์น
ครีมฮอร์น

สายเบเกอรี่ที่ชอบนม เนย ครีม ชีส และไม่กลัวอ้วนทั้งหลาย ถ้าถามเมนูในใจ “ครีมฮอร์น” คงจะเป็นเมนูโปรดของใครหลายคนนะครับ แล้วโดยเฉพาะปัจจุบันนี้ มีการพัฒนาสูตร ปรับรสชาติกันเยอะมาก สับเปลี่ยนเวียนทานกันไม่รู้เบื่อกันเลย

แต่วันนี้ สูตร ครีมฮอร์น ที่ผมจะมาแนะนำให้ลองทำกันเป็นสูตรออริจินอลนะครับ แล้วถ้าหากท่านใด อยากได้รสชาติอื่น อย่างรสชาติที่เป็นที่นิยมตอนนี้ได้แก่ ชาไทย ชาเขียว และกาแฟ เป็นต้น เมื่อได้พื้นฐานไปแล้ว ก็ลองไปปรับเปลี่ยนสูตรดูนะครับ

วัตถุดิบ 

  • แป้งพายชั้น นำมารีดให้บาง ขนาด 3 มม. กว้างประมาณ 1 นิ้ว
  • ไข่ไก่ 6 ฟอง
  • น้ำตาลทราย
  • เนยสดเค็ม 200 กรัม
  • เนยขาว 100 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 150 กรัม (ความหวานปรับได้ตามความชอบเลยครับ)

ขั้นตอนการทำ

สำหรับตัวแป้งที่จะขึ้นรูปนั้น จริงๆ แล้วก็มีสูตรที่สามารถนวดเองได้ แต่สำหรับสูตรนี้ ผมอยากให้มีความง่ายสำหรับทุกท่านมากขึ้น จึงได้ใช้ตัวแป้งพายชั้นสำเร็จรูปมาทำเลย ซึ่งจะง่ายกว่า ไม่ต้องมานวดแป้ง เพียงแต่นำมา Thaw แล้วก็ตัดตามที่บอกได้เลยนะครับ

  1. นำไข่แดง 5 ฟอง และไข่ไก่ทั้งฟอง 1 ฟอง มาตีให้เข้ากัน สำหรับทาตัวแป้งพายก่อนนำไปอบ
  2. นำแป้งที่พันรอบกรวยมาทาไข่ให้ทั่ว
  3. นำแป้งที่พันกรวยทาไข่แล้ว ไปคลุกกับน้ำตาลทรายขาวให้ทั่วทั้งอัน
  4. หลังจากนั้นนำไปอบ รอบที่ 1 ใช้ไฟ 200 บน-ล่าง ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นอบต่ออีก 15-20 นาที ลดไฟเหลือ 170
  5. หลังจากอบเสร็จ พักไว้ให้อุ่นลงแล้วถอดกรวยออก
  6. บีบครีมใส่ลงไป

ขั้นตอนการทำครีม

  1. นำน้ำตาลไอซิ่งมาละลาย 
  2. นำเนยทั้งสองชนิดใส่ลงไป แล้วตีให้เป็นครีมฟูขึ้นมา 
  3. เวลาหยอดครีม ให้ใช้ถุงพลาสติกทำเป็นกรวยแล้วหยอดให้ถึงก้นเลยนะครับ

การอบขนมครีมฮอร์นนั้น เรื่องอุณหภูมิหรือเวลาที่แนะนำ เป็นเวลาประมาณนะครับ 

ต้องขึ้นอยู่กับสภาพเตาอบของแต่ละเตาด้วยครับ หลังจากเสร็จแล้วก็จะได้ครีมฮอร์นที่ด้านนอกมีความกรอบ หอมมัน หวานน้ำตาลทรายที่เกาะอยู่ และความนุ่มของตัวครีมที่ออกรสหวานนิดๆ จากน้ำตาลไอซิ่ง

อย่างที่บอกไว้ตอนแรกครับ ถ้าหากอยากจะลองเปลี่ยนรสชาติดู ตอนตีครีมก็สามารถใส่รสชาติเพิ่มเติมได้ เช่น ใช้น้ำชาไทยตีกับเนยแทนน้ำตาลไอซิ่ง หรือใส่ผงโกโก้ เราก็จะได้รสชาติของครีมฮอร์นรสชาติต่างๆ ที่ไม่จำเจแล้วนะครับ หวังว่าสูตรนี้จะทำให้ทุกท่านได้ทำขนมอร่อยๆ ทานกันนะครับ

Categories
ขนมเบเกอรี่

สูตร ทีรามิสุ เบเกอรี่สำหรับคนชอบกาแฟ

ทีรามิสุ
ทีรามิสุ

วันนี้ ถ้าเราเดินเข้าร้านเบเกอรี่กัน เมนูต่างๆ ที่เราจะได้พบเจอส่วนใหญ่ก็เช่น บลูเบอรี่เค้ก พายบลูเบอรี่ เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม เค้กส้มหน้านิ่ม เป็นหลักเลยนะครับ แต่เบเกอรี่อีกตัวหนึ่งที่หรูหราและเป็นนิยมของคอเบเกอรี่มาก นั่นก็คือ “ทีรามิสุ” นั่นเองครับ ทีรามิสุเป็นขนมสไตล์อิตาเลียนครับ มีส่วนผสมของเหล้ารัมด้วย แต่ถ้าใครที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ก็สามารถใช้กลิ่นรัมอย่างเดียวได้ครับ   

วัตถุดิบ

  • ไข่ไก่ 3 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
  • เหล้ารัม 1 ช้อนชา
  • ชีสมาสคาร์โปเน่ 250 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
  • ผงโกโก้ 50 กรัม สำหรับผสมน้ำกาแฟและโรยหน้าขนม
  • เลดี้ฟิงเกอร์ 1 แพค

ขั้นตอนการทำ

            การทำทีรามิสุ จะมี 2 ส่วนนะครับ คือส่วนของตัวชีสหน้าขนม และในส่วนของฐานขนม เดี๋ยวเราลองมาทำกันครับ

  1. นำไข่แดง 3 ฟองเทใส่กะละมัง ใช้ตะกร้อมือตีให้ไข่แตกเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. เติมน้ำตาลทาย 50 กรัม ลงไป แล้วตีให้ส่วนผสมขึ้นฟู
  3. ตั้งน้ำร้อน พอน้ำเดือด นำกะละมังขึ้นไปวางบนน้ำเดือด เพื่อให้ไข่แดงสุกครับ รวมทั้งให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากับไข่แดง ใช้ไฟอ่อนนะครับ เพื่อไม่ให้ไข่แดงสุกแข็ง ให้ค่อยๆ สุกแบบเนื้อเนียนๆ
  4. นำลงมาคนเพื่อคลายความร้อน แล้วเติมกลิ่นวนิลาลงไป เพื่อให้มีกลิ่นหอมและดับกลิ่นคาวของไข่ครับ
  5. เติมเหล้ารัม เพื่อช่วยเสริมรสทีรามิสุเราครับ
  6. หลังจากคนส่วนผสมเข้ากันแล้ว ให้เติมชีสมาสคาโปเน่ลงไปครับ แล้วใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  7. นำวิปปิ้งครีมมาตีให้ขึ้นฟู เนื้อเนียน แล้วนำไปผสมกับชีสที่ทำไว้ แล้วตะล่อมให้เข้ากัน เราก็ได้ในส่วนของชีสที่ใส่ด้านหน้าแล้วครับ
  8. นำน้ากาแฟมา เติมผงโกโก้เล็กน้อยให้มีกลิ่นไอของมอคค่าหน่อยๆ ครับ
  9. นำเลดี้ฟิงเกอร์จุ่มลงในน้ำกาแฟ แล้วใส่ในกล่องหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ครับ ให้เป็นฐาน
  10. ตักครีมชีสโปะด้านหน้าได้เลยครับ แล้วเอาเลดี้ฟิงเกอร์ที่ชุบน้ำกาแฟวางอีกชั้นและเหมือนเดิมครับ นำชีสโปะลงไปอีกครั้ง เท่ากับเราทำ 2 ชั้น นะครับ แล้วนำเข้าตู้เย็นไว้ก่อนครับ หลังจากเซ็ทตัวแล้ว นำออกมาแล้วโรยหน้าด้วยผงโกโก้ให้เต็มทั้งหน้า พร้อมเสริฟครับ

ใครที่เข้าใจว่าทีรามิสุเป็นขนมของชาวญี่ปุ่น ไม่ใช่นะครับ วิธีทำไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่ก็คุ้มนะครับถ้าทำเอง เพราะราคาต่อชิ้นในร้านเบเกอรี่ถือว่าสูงพอสมควรครับ

Categories
ขนมเบเกอรี่

เค้กมะพร้าวอ่อน สูตรนุ่มหอม

เค้กมะพร้าวอ่อน
เค้กมะพร้าวอ่อน

เมนูยอดฮิตคงหนีไม่พ้นเค้กมะพร้าวอ่อน เป็นแน่ค่ะ วันนี้เรามีแจกสูตรเค้ก และขั้นตอนการทำเค้กมะพร้าวอ่อนมาฝากกันค่ะ รับรองว่าอร่อยและฟินสุดๆไปเลยค่ะ

ส่วนผสมสำหรับการทำเค้กมะพร้าวอ่อน

  • แป้งเค้ก 45 กรัม
  • ผงฟู 1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายป่น 27 กรัม
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา
  • ไข่แดงเบอร์สอง 2 ฟอง
  • กะทิ 5 กรัม
  • น้ำมันพืช 5 กรัม
  • น้ำมะพร้าว 12 กรัม
  • ไข่ขาวเบอร์สอง 2 ฟอง
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/8 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายป่น 27 กรัม
  • เนื้อมะพร้าวสำหรับตกแต่งตามใจชอบ

วิธีทำเค้กมะพร้าวอ่อน

  1. เริ่มที่ขั้นตอนแรกร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ น้ำตาลป่นเข้าด้วยกัน พักไว้ในชามอีกใบผสมไข่แดง น้ำมันพืช กะทิ น้ำมะพร้าว ตีให้พอเข้ากัน
  2. คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี พักไว้ใน ชามที่สะอาดตีไข่ขาวกะครีมออฟทาร์ทาร์ให้เป็นฟอง จากนั้นค่อยๆทยอยใส่น้ำตาลป่นลงไป ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน
  1. แบ่งส่วนผสมไข่ขาวออกเป็น 3 ส่วน นำไข่ขาวลงไปตะล่อมกะส่วนผสม 1+2 อย่างเบามือทีละส่วน ทำแบบนี้จนหมดไข่ขาว
  2. เท ส่วนผสมที่ได้ลงในพิมพ์ขนาด 1 ปอนด์ กระแทกพิมพ์ 1 ครั้ง นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C อบด้วยไฟล่าง นาน 15-20 นาที
  3. พอสุกแล้วนำออกจากเตา กระแทกพิมพ์แรงๆ 1 ครั้งๆ นำเค้กออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็นโรยด้วยเนื้อมะพร้าวตามใจชอบเป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับเมนูเค้กมะพร้าวอ่อน อร่อยไปต็มคำเลยค่ะ
Categories
ขนมเบเกอรี่

เค้กสตรอเบอร์รีครีมสด เอาใจสายหวาน

เค้กสตรอเบอร์รีครีมสด
เค้กสตรอเบอร์รีครีมสด

เอาใจสาวหวานซ่อนเปรี้ยวสำหรับเมนูหน้าร้อนนี้ เค้กสตอเบอรี่ครีมสด ตัวครีมหอมหวานทานคู่ตัดกับสตรอเบอร์รีรับรองฟินสุดๆไปเลยค่ะ วันนี้เราแอบมาแจกสูตรเค้ก บอกเพื่อนๆกันด้วยค่ะ

 ส่วนผสมสำหรับการทำเค้กสตรอเบอร์รีครีมสด

  • สตรอเบอร์รีสด 400 กรัม ใช้สตรอเบอร์รีเกาหลีจะได้รสชาติที่หวานฉ่ำค่ะ
  • ขนมปังแซนด์วิช 6-8 แผ่น
  • วิปปิ้งครีม 400 มิลลิลิตร ใช้ของอะไรก็ได้แต่ต้องเป็นวิปครีมแท้นะคะ
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง

ขั้นตอนและวิธีการทำเค้กสตรอเบอร์รีครีมสด

  1. แบ่งสตรอเบอร์รีเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกหั่นเป็นชิ้นเล็ก อีกส่วนลูกใหญ่เก็บไว้ตกแต่งหน้าเค้ก ตัดขนมปังเป็นสามเหลี่ยม วางเรียงบนจานและตัดแต่งให้เป็นทรงกลม จำนวน 2 อัน
  2. ทำตัวครีมเค้กโดยใส่น้ำตาลทรายและเทวิปปิ้งครีม ตีให้ขึ้นฟูตั้งยอด ในการตีให้ตั้งฟูนั้นควรแท้วิปปิ้งครีมให้เย็นจัดค่ะจะได้ตั้งฟูสวยงาม แบ่งครีมที่ตีแล้วครึ่งหนึ่งมาผสมกับสตรอว์เบอร์รีชิ้นเล็กที่หั่นเตรียมไว้ ปาดชั้นแรก (ส่วนกลาง) ด้วยครีมกับสตรอเบอร์รี
  3. ปาดชั้นบนสุดด้วยครีมที่แยกไว้ ตกแต่งหน้าตาด้วยสตรอเบอร์รีและโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งพร้อมเสิร์ฟ เค้กสตอเบอรี่ครีมสด ค่ะเป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับเมนูนี้เรียกได้ว่าทำง่ายและอร่อยมากๆด้วยค่ะ เพื่อนๆอย่าลืมนำไปทำทานกันนะคะรับรองว่าฟินสุดๆค่ะ