สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารไทย

หมี่กะทิ น้ำราดกลมกล่อม เคี่ยวข้น อร่อยเกินห้ามใจ

หมี่กะทิ

หมี่กะทิ อาหารเมนูเส้น พร้อมกะทิมัน ๆ ที่มาพร้อมส่วนผสมพริกแกงแสนอร่อย เป็นสูตร หมี่กะทิโบราณ ที่น่าสนใจ อยากให้ลองฝึกทำ

ส่วนผสมในการทำ หมี่กะทิ

หมี่กะทิ

หมี่ กะทิ มีหลายสูตรด้วยกัน โดยความอร่อยของกับข้าวจานนี้ อยู่ตรงเส้นที่ลวก ต้องนุ่มไม่เละหรือแข็ง อีกทั้งน้ำราดต้องหอม กลมกล่อมและมัน ความอร่อยนั้นไม่แพ้ หมี่กะทิใต้

วัตถุดิบ

หมี่กะทิสูตรเด็ดแสนอร่อยที่แอดมินกำลังจะนำมาเสนอให้กับผู้สนใจ เป็นสูตรที่มั่นใจแล้วว่า ทำออกมาแล้วอร่อยเหมือนกับ หมี่กะทิภาคใต้ หรือปรับให้เข้ากับนิสัยการกินของคนในแต่ละภาคได้ เพราะฉะนั้น มาดูลิสต์รายชื่อส่วนผสมดังต่อไปนี้

หมี่กะทิ
  • เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 แพ็ค
  • พริกแกง 1 ชต.
  • เต้าเจี้ยว 2 ชช.
  • หมูสับ 4 ชต.
  • กะทิ 2 ถ้วยตวง
  • ถั่วงอก 10 ชต.
  • หัวปลีหั่นพอดีคำ
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาล 2 ชต.
  • น้ำปลา 2 ชต.
  • มะนาวฝานบาง ๆ
  • น้ำมันพืช 2 ชต.
  • ถั่วลิสงทอด 2 ชต.

วิธีทำ

หมี่กะทิ

ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมหมี่กะทิ เริ่มจากน้ำเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เราซื้อมาไปลวกให้สุกและนิ่ม จากนั้นพักเพื่อสะเด็ดน้ำโดยไม่ลืมผสมน้ำมันพืชลงไปด้วยเพื่อช่วยทำให้เส้นก๋วยเตี๋ยวไม่ติดกัน

ขั้นตอนที่ 2 เทน้ำมันลงในกะทะ ใช้ไฟกลางตามด้วยหมูสับ รวนให้เนื้อหมูสุก จากนั้น ใส่พริกแกงลงไป ขั้นตอนนี้ต้องคลุกให้เครื่องแกงและหมูสับเข้ากันดี ถึงจะตามด้วยกะทิ เทลงในส่วนผสมดังกล่าวได้เลย

ขั้นตอนที่ 3 หมี่กะทิโบราณ วิธีทำ ขั้นตอนนี้ขอเพียงรอกะทิแตกมันเท่านั้น แล้วถึงค่อยปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล เต้าเจี้ยว ถั่วลิสง และไข่ไก่ ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 4 นำหมี่กะทิจัดใส่จาน กินคู่กับหัวปลีและถั่วงอก เวลารับประทาน ให้นำน้ำราดหมี่กะทิที่เตรียมไว้ราดลงบนเส้นหมี่ได้เลย หากอยากต้องการเพิ่มเติมในส่วนของรสเปรี้ยว เติมมะนาวที่เราฝานเตรียมไว้หรือจะบีบน้ำมะนาวตามชอบ ใครที่อยากกินเผ็ดให้มากยิ่งขึ้นไปอีก โรยพริกป่นได้เลย

สูตรเด็ดความอร่อยในการทาน หมี่กะทิ

หมี่กะทิ

ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมเส้นหมี่ถือว่าสำคัญ ขั้นตอนแรกให้นำเส้นก๋วยเตี๋ยวแช่น้ำเย็น 15 นาที แล้วค่อยลวกในน้ำเดือดจัด ไม่ต้องนาน ลวกให้เส้นก๋วยเตี๋ยวสุกเท่านั้น จากนั้นนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาแข่น้ำเย็นทันที เพื่อให้เส้นก๋วยเตี๋ยวหดตัวแล้วค่อยคลุกกับน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 2 พริกแกงต้องผัดอย่างใจเย็น ใช้ไฟอ่อน ค่อย ๆ ผัด เมื่อได้กลิ่นหอม ใส่หมูสับและกะทิ ขั้นตอนนี้ ต้องรอกะทิแตกมัน ถึงค่อยทำขั้นตอนถัดไป

หมี่กะทิ

หมี่กะทิอาหารไทยที่มีสารอาหารครบใน 1 จาน ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตจากเส้นก๋วยเตี๋ยว โปรตีนจากเนื้อหมูและถั่วงอก รวมถึงวิตะมินจากเกลือแร่ ซึ่งสารอาหารทั้งหมดนั้น สำคัญต่อร่างกาย ถือว่าเป็นเมนูจานด่วนที่อร่อยและคุ้มค่าที่จะฝึกทำเพื่อรับประทานเอง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

หมูทอดเกลือ ทอดก็ง่าย กินกับข่าวเหนียวร้อน ๆ หรือข้าวสวย ฟิน

หมูทอดเกลือ

หมูทอดเกลือ อีก 1 สูตรเมนูอาหารที่น่าสนใจ ขอเพียงทำอย่างตั้งใจ เชื่อเถอะ สูตรที่ให้ อร่อยกว่า หมูทอดเกลือ ครัวคุณต๋อย

ส่วนผสมในการทำ หมูทอดเกลือ

หมู เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี มีหลายส่วนด้วยกันที่นำมาทำกับข้าว เช่น สันคอหมู เนื้อตรงบริเวณสะโพก เนื้อสันใน เนื้อสันนอก ขาหมู หรือแม้แต่หางหมู ยังนำมาทำก๋วยเตี๋ยวหางหมูได้ ดังนั้น เนื้อหมู ถึงเป็นอีกหนึ่งเนื้อสัตว์ที่ควรนำมาทำอาหารมากที่สุดเมนูหนึ่ง

หมูทอดเกลือ

ราคาหมูที่ขยับตัวสูงขึ้น ทำให้เวลาจะสั่ง หมู ทอดเกลือ ราคาก็ขยับตัวขึ้นตามกลไกตลาดทำให้การซื้อเมนูหมู ๆ ดังกล่าว มีราคาที่แพงขึ้น หรือถ้าจะซื้อราคาเท่าเดิม ปริมาณก็จะน้อยลงมา ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหากินไม่พอ มาลองทำเมนูหมูทอดดังกล่าวด้วยตัวเองดีกว่าไหม เพราะแอดมินได้เตรียมเคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ไว้แล้ว เรามาดูกันดีกว่า ส่วนผสมหมูทอดสูตรนี้ มีอะไรต้องเตรียมบ้าง ?

วัตถุดิบหมูทอดเกลือ

หมูทอดเกลือ
  • หมูสันนอกหั่นออกมาเป็นเส้น ๆ ประมาณ ½ กิโลกรัม เลือกหมูสดและใหม่ จะทำให้หมูนุ่ม อร่อยและไม่เหม็น
  • พริกไทยป่นยี่ห้ออะไรก็ได้ ½ ช้อนชา
  • เกลือประมาณ 2 ช้อนชา
  • น้ำมันสำหรับทอด
  • ต้นหอม นำมาซอยใช้สำหรับโรยและตกแต่ง

วิธีทำ

หมูทอดเกลือ

ขั้นตอนที่ 1 ล้างหมูสันนอกให้สะอาด จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้น ๆ ให้มีขนาดใกล้เคียงกัน นำพริกไทยและเกลือ คลุกเคล้า ผสมให้เข้ากัน ขั้นตอนในการทำหมูทอดเกลือ สูตรนี้ ใช้เวลาหมักประมาณ 30 นาที

ขั้นตอนที่ 2 มาถึงขั้นตอนการทอด เทน้ำมันลงในกะทะ ใช้ไฟกลาง จากนั้น นำหมูลงไปทอด พยายามสังเกตดูว่า หมูที่ทอดในกะทะเปลี่ยนสีหรือยัง ถ้าเปลี่ยนสีแล้ว ให้ใช้ตะหลิวเกลี่ยและพลิกหมู เพื่อให้สีที่ทอดมานั้น สวยเท่ากันทั้ง 2 ฝั่ง ทอดจนสีหมูเปลี่ยนเป็นสีเหลือง รอกระทั่งสุก จนเสียงน้ำมันเบาลง นั่นแสดงว่าสุกแล้ว ให้ตักหมูคั่วเกลือ กรอบนอกนุ่มใน มาไว้ในจานพักเพื่อสะเด็ดน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 3 นำหมูมาจัดใส่จาน โรยต้นหอม จะกินกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวย อร่อยไม่แพ้หมูคั่วเกลือภูเก็ต

หมูทอดเกลือ

หมู ทอด เกลือ เมนูหมู ๆ สมชื่อ ขั้นตอนการทำนั้นไม่ยากเลย ขอเพียงเลือกหมูสดเข้าไว้ จากนั้นนำเครื่องปรุงเพียงไม่กี่อย่างมาหมักกับหมู ทิ้งไว้ให้เครื่องปรุงซึมในเนื้อหมูที่หมัก แล้วนำไปทอด บอกเลย ต้องกินตอนร้อน ๆ อร่อยและฟินมาก ๆ รู้แบบนี้ หัดทำตั้งนานแล้ว ดังนั้น เมนูหมู ๆ ที่แอดมินนำเสนอวันนี้ เพื่อน ๆ นำไปทำได้เลย

ค้นหาเว็บบอลที่ดีที่สุดและน่าเล่นกับเรา! สมัครเว็บบอล เพื่อรับโบนัสสูงสุดและร่วมสนุกกับเกมส์ที่คุณชื่นชอบได้แล้ววันนี้ อ่านคู่มือการเล่นและเคล็ดลับในการเลือกเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ!

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

หอยทอด รสเด็ด ทำเองที่บ้านก็อร่อยเหมือนทานที่ร้าน

หอยทอด

หอยทอด เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านอาหาร ชนิดของหอยที่นำมาทอดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหอยนางรม แต่ก็มีหอยชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถนำมาประยุกต์เป็นอาหารและปรับแต่งให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น และในวันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับวิธีการทำอาหารในรูปแบบของหอยทอดด้วยตัวเอง โดยจะให้มีรสชาติอร่อยเหมือนไปทานที่ร้านอาหารเลย เป็นอย่างไรนั้นมาดูกัน

วิธีการทำ หอยทอด เพิ่มความพิเศษแบบใส่ไข่

หอยทอด

มาเปลี่ยนเมนูหอยทอด ธรรมดาให้เป็นเมนูที่น่ารับประทานมากยิ่งขึ้นด้วยการเติมไข่เข้าไป จะสังเกตได้ว่าเมนูพิเศษหลาย ๆ เมนูมันจะเพิ่มความอร่อยด้วย ไข่ดาว ไข่เจียว หรือไข่ข้น แต่สำหรับหอยทอดเราจะมาเพิ่มความพิเศษให้ด้วยวิธีการห่อไข่ หรือ ทอดลงไปด้วยกับไข่เลย ทำอย่างไรนั้นไม่ถูกกัน
ก่อนอื่นให้เราเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่จะใช้กันในเมนูนี้ ซึ่งได้แก่

หอยทอด
  • หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ในปริมาณ 100 กรัม
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งท้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วงอก 200 กรัม
  • น้ำจิ้มไก่ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา
  • ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1/4 ช้อนชา
  • น้ำเย็นจัดนิดหน่อย
  • ต้นหอม1 ต้น
  • กระเทียม2 กลีบ
  • ซอสพริก 3 ช้อนโต๊ะ

เมื่อเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วเราก็มาลงมือทำกันเลย

หอยทอด
  1. ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ เจียวกระเทียมให้เหลืองสุกพอดี และมีกลิ่นหอม
  2. นำถั่วงอกลงไปพร้อมกับปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเขาให้เข้ากันไปเรื่อย ๆ จากนั้นพักไว้
  3. มาถึงพระเอกของเมนูหอยทอดของเรา ต้องนำหอยแมลงภู่มาชุปแป้งก่อน หอยแมลงภู่ที่คลุกเคล้ากับแป้งทั้ง 3 ชนิดอย่างเรียบร้อยแล้ว ตามด้วยผงปรุงรสเกลือและต้นหอมซอยลงไปคลุกเคล้ากับน้ำเย็น 
  4. ตั้งกระทะอีกครั้ง จากนั้นเติมน้ำมันทอดหอยที่เราชุปแป้งไปเมื่อสักครู่นั้นทอดจนกรอบ 
  5. ตอกไข่อีกฟองลงไปยีให้เข้ากัน คลุกเค้าไปเรื่อย ๆ จนไข่เริ่มมีความสุกและพร้อมรับประทานแล้ว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
  6. นำออกมาใส่จานตกแต่งให้สวยงาม
หอยทอด

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสูตรวิธีทำหอยทอดของเราในบทความนี้ เมื่อทุกท่านลองอ่านบทความนี้แล้วอย่าลืมนำไปปรับเปลี่ยนในการทำอาหารกันดูนะ และสำหรับครั้งต่อไปเราจะมาแนะนำสูตรการทำอาหารอะไรนั้นโปรดติดต่อกันต่อไป อาจจะเป็นวิธีทำขนม หรือ อาหารต่างประเทศก็ได้ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะ สำหรับบทความนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ลาบทอด เคี้ยวเพลิน กินเป็นกับแกล้มอร่อย

ลาบทอด

ลาบทอด กัดกินแต่ละครั้ง กลิ่นสมุนไพร อยากจะทำลาบแต่ไม่รู้ทำอย่างไร วันนี้เสนอ วิธีทำ ลาบทอดไม่ให้แตก ดังนี้

ส่วนผสมในการทำ ลาบทอด

ลาบ ทอด เป็นเมนูคู่ร้านอาหารอีสาน เพราะทุกครั้งที่สั่งข้าวเหนียวส้มตำ จะต้องมีเมนูลาบมากินร่วมกับส้มตำ เพราะฉะนั้น เชื่อว่า ลาบเป็นเมนูที่ทุกคนชอบสั่งมากิน โดยเนื้อสัตว์ที่นำมาทำลาบ ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อเป็ด รวมถึง เนื้อปลาดุกย่าง ก็นำมาทำลาบได้แล้ว 

ลาบทอด

วันนี้ ลองเปลี่ยนวิธีกินลาบ แต่เดิมอาจกินลาบคู่กับข้าวเหนียว ลองนำลาบมาทอด อรรถรสในการกินจะเปลี่ยนไปในทันทีและแอดมินเชื่อว่า ถ้าได้ลองทำกินแล้ว จะติดใจ เพราะถึงอย่างไร ของทอด เป็นเมนูโปรดของทุกคนอยู่แล้ว

วัตถุดิบลาบทอด

ลาบทอด
  • เนื้อหมูติดมันบด 500 กรัม
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น (ตามชอบ)
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดซอย 6 ใบ
  • ต้นหอมซอย 2 ต้น
  • ผักชีฝรั่งซอย 2 ต้น
  • หอมแดง 5 หัว
  • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
  • ผักสดตามชอบ เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว

วิธีทำ

ลาบทอด

ขั้นตอนที่ 1 หมูบดที่จะนำมาทอด ต้องเลือกหมูที่สดเท่านั้น ถึงจะอร่อย จากนั้นให้เริ่มต้นทำลาบทอด โดยการนำเนื้อหมูบด ผสมกับ น้ำมะนาว น้ำปลา และพริกป่น นวดให้น้ำปลากับน้ำมะนาว พริกป่น เข้ากันกับเนื้อหมู แล้วค่อยเติมข้าวคั่ว ตามด้วยแป้งทอดกรอบ คลุกส่วนผสมทั้งหมด และทำให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 2 ตามด้วยใบมะกรูดซอย ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่งซอย นำมาเคล้าให้เข้ากับหมูที่คลุกส่วนผสมในข้อที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนจะทำ ลาบหมูทอดกรอบ ปั้นหมูบดให้เป็นก้อนกลม ๆ ขนาดพอดีคำ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป

ขั้นตอนที่ 3 ตั้งกะทะ เทน้ำมันลงไป ขั้นตอนนี้ใช้ไฟกลางเท่านั้น รอจนน้ำมันเดือด นำหมูที่ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ลงไปทอดในกะทะได้เลย สูตรนี้ เป็น

สูตรลาบทอดทำขาย ให้ทอดอย่างใจเย็นโดยไม่ต้องกลับด้าน รอจนสุก ตักขึ้นมาจากกะทะ เตรียมจัดใส่จานแล้วนำมารับประทานได้เลย บางคนกินลาบกับพริกแห้ง ก็สามารถนำพริกแห้งไปทอดจนกรอบได้ รวมถึง จะกินคู่กับถั่วลิสง ก็เข้าท่า อยู่ที่ว่า จะกินกับอะไร และแบบไหนถึงจะอร่อย

ลาบทอด

ลาบทอดกินคู่กับอะไรก็อร่อย ถือได้ว่าเป็นเมนูที่นำมาใช้เพิ่มอรรถรสในการกินให้อร่อยมากยิ่งขึ้น จะกินลาบทอดกับส้มตำก็ได้ ถ้ามีฝีมือในการทำส้มตำหรือซื้อส้มตำมากินคู่กันก็อร่อยแล้ว สำหรับใครที่ต้องการทำขาย นำสูตรนี้ไปลองประยุกต์ดู ไม่แน่ อาจได้อาชีพเสริม หรือเบื่อหมู ลองเปลี่ยนมาเป็นไก่ดู ขึ้นชื่อว่าของทอด ความอร่อยนั้นไม่แพ้กัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ยำขนมจีน สูตรน้ำปลาร้า อร่อยเหมือนกินที่ร้าน

ยำขนมจีน

เมนูแซ่บที่เราอยากนำเสนอในวันนี้ คือ เมนู ยำขนมจีน แซ่บนัว กินแล้วติดใจ สูตรยำใส่ปลาร้า จะอร่อยแค่ไหน มาลองเข้าครัวทำกิน

ส่วนผสมในการทำ ยำขนมจีน

ยำขนมจีน

ยำ ขนมจีน เมนูยำที่เรานึกถึงมักได้แก่ ยำวุ้นเส้น ยำเล็บมือนาง ยำรวมมิตร และยำหมูยอ แต่พอพูดถึงขนมจีนที่คนส่วนใหญ่นำมาราดน้ำยาชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำยาแกงไตปลา น้ำยาแกงเขียวหวาน น้ำยาน้ำพริกและขนมจีนซาวน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้เพราะ การรับประทานขนมจีนมีมานานแล้ว 

สำหรับการนำเส้นขนมจีนมายำ เริ่มเป็นกระแสเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้วันนี้ แอดมินมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการกินขนมจีน

วัตถุดิบ

ยำขนมจีน

ยำขนมจีนเมนูเส้นสูตรเด็ด เมื่อวัตถุดิบที่จะต้องเตรียมมาทำ เป็นวัตถุดิบที่พบได้ในครัวเรือนทั่ว ๆ ไป

  • ขนมจีน 1 จับ 
  • หมูยอนำมาหั่นชิ้น½ ถ้วย
  • ปลาทูทอด 1 ตัว เอาแต่เนื้อ
  • ถั่วฝักยาว ½ ถ้วย นำมาหั่นเป็นท่อน ๆ 
  • หัวหอมแดงหั่นซอย 3 หัว
  • ผักชีฝรั่งหั่นซอย ½ ถ้วย
  • ต้นหอม 1 ต้น
  • พริกป่น 1 ชช
  • พริกแดงจินดา 3 เม็ด 
  • น้ำปลา 3 ชต.
  • น้ำปลาร้า 1 ชต.
  • น้ำมะนาว 3 ชต.
  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชช.
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ชช.

วิธีทำ

ยำขนมจีน

ขั้นตอนที่ 1 อันดับแรก ปรุงน้ำยำสำหรับทำยำขนมจีน ใส่ ปลาร้า น้ำตาล น้ำปลา และน้ำมะนาว ใช้ช้อนคนจนน้ำตาลละลาย ใส่พริกป่น หัวหอมแดง และพริกแดงจินดา คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ในส่วนของความเผ็ด ใครต้องการรสจัดจ้าน เพิ่มพริกได้เลย หรือ ใครที่อยากเบารสเผ็ด ให้ลดปริมาณพริกจากสูตรที่ให้ไปเช่นกัน

ขั้นตอนที่ 2 ปลาทูนึ่ง แกะเอาแต่เนื้อ จากนั้นใส่ลงในส่วนผสมน้ำยำ ตามด้วยหมูยอ โดยหมูยอ จะนำไปทอดหรือนึ่ง อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วเทหมูยอลงไป เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง

ยำขนมจีน

ขั้นตอนที่ 3 เส้นขนมจีนที่เราเตรียมไว้ ใส่ลงในส่วนผสมน้ำยำที่เตรียมไว้เป็นลำดับที่ 3 ขั้นตอนนี้ ต้องเบามือตอนคลุกส่วนผสมเส้นขนมจีนกับน้ำยำ เพื่อที่ว่า น้ำยำจะซึมเข้าไปในเส้นขนมจีน

ขั้นตอนที่ 4 ถือว่าเป็นขั้นตอนลำดับสุดท้ายนั่นก็คือ การเติมผักชีฝรั่ง ถั่วฝักยาวและต้นหอม คลุกให้เข้ากัน ตักใส่จาน แล้วเตรียมเสริ์ฟได้เลย

ยำขนมจีน

ยำ ขนมจีน เมนูเด็ดจานนี้ เหมาะสำหรับนำมาใช้ควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี กินเท่าไหร่ ก็ไม่อ้วน ดังนั้น ใครที่อยากกินเมนูเส้นให้อิ่ม แต่ต้องการจะดูแลสุขภาพไปด้วยพร้อมกัน เมนูขนมจีนจานนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว ได้ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตะมินและเกลือแร่ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

หมูโสร่ง ของว่างไทยโบราณ ทำเป็น มัดใจคนรัก

หมูโสร่ง

หมูโสร่ง อาหารว่างโบราณ พันเส้นหมี่ยังไงไม่ให้หลุด หมูโสร่งใช้เส้นอะไรได้บ้าง คำตอบอยู่ในบทความ

ส่วนผสมในการทำ หมูโสร่ง

หมู โสร่ง เป็นอาหารว่างโบราณ ที่เดี๋ยวนี้ หากินได้ค่อนข้างยากแล้ว บางครั้งอยากกิน แต่ไม่พบรายชื่อเมนูอาหารดังกล่าวภายในร้านอาหาร ก็ทำให้อดกินไปอย่างน่าเสียดาย

หมูโสร่ง

ความเป็นมาของเมนูดังกล่าว เข้ามาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากการเปิดการค้า ทำให้ชาวโปรตุเกศและชาวญี่ปุ่น เป็นผู้นำเมนูดังกล่าวเข้ามา เริ่มต้น ใช้หมูบดและเส้นหมี่ซัว เป็นส่วนประกอบหลักในการทำเมนูนี้ ต่อมา เปลี่ยนจากหมูบดมาเป็นไก่บด ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม

วัตถุดิบ 

หมูโสร่ง
  • หมูบด300 กรัม
  • รากผักชี10 ราก
  • กระเทียม5 กลีบ
  • เม็ดพริกไทยดำ1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เส้นหมี่ซั่ว1 ถุง
  • น้ำมันปาล์ม1 ขวด
  • ไข่ไก่2 ฟอง
  • ไข่เค็ม (ใช้เฉพาะไข่แดง)4 ฟอง
  • ซอสปรุงรส1 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวโพด2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำจิ้มไก่ ยี่ห้ออะไรก็ได้

วิธีทำ 

หมูโสร่ง

ขั้นตอนที่ 1 นำกระเทียม รากผักชี พริกไทยดำ โขลกรวมกัน ควร โขลก 3 เกลอ แบบหยาบ ๆ เวลาเคี้ยวหมู จะได้กลิ่นหอมและรสสัมผัสของ 3 เกลอ แล้วมาดูขั้นตอนการทำ หมูโสร่ง ขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 2 นำหมูบดมาหมักด้วยซอส รสดีรสหมู รากผักชีกระเทียมพริกไทยโขลกหยาบ แป้งข้าวโพด ไข่แดง ไข่ไก่ คลุกส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

เคล็ดลับความอร่อย:  ถ้าไม่อยากให้หมูบดเหลวจนเกินไป ควรใช้เฉพาะไข่แดง สำหรับการใส่แป้งข้าวโพด ใส่เพื่อทำให้หมูนุ่มและแป้งจับตัวกันมากขึ้น เวลาทอดหมู จะได้ไม่เละอันเป็นอีกหนึ่งวิธีทำ

หมูโสร่ง

ขั้นคอนที่ 3 หมี่ซัวลวกเพียงแค่ 1 นาที ก็พอ กระทั่งเส้นหมี่ซัวนิ่ม นำเส้นหมี่มาแช่ในน้ำเย็นได้เลย ซึ่งควรเป็นเส้นหมี่ซัว สำหรับทำหมูโสร่ง

ขั้นตอนที่ 4 นำหมูที่หมักแล้วมาห่อกับไข่แดงของไข่เค็ม ขนาดของหมูบด ปั่นเป็นก้อนกลมเท่าก้อนมะยม นำเส้นหมี่ซัว 3 เส้นพันกับหมู

ขั้นตอนที่ 5 นำหมูที่พันกับเส้นหมี่ซัวจนครบทุกก้อนแล้ว 

หมูโสร่ง

มาทอดในน้ำมัน เน้นว่า น้ำมันต้องท่วม ใช้อุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส กระทั่งเส้นหมี่ซัวเริ่มเหลืองนิด ๆ ให้ปรับอุณหภูมิไฟขึ้นมาเป็น 240 องศาเซลเซียส เทคนิคนี้ ทำให้หมูไม่อมน้ำมัน เมื่อทอดหมูจนสุกแล้ว ก็ตักขึ้นมาจากกะทะ พักไว้ กระทั่งสะเด็ดน้ำมัน ก็นำมารับประทานกับน้ำจิ้มไก่ยี่ห้ออะไรก็ได้

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ยำไข่แดงเค็มหมูยอ รสชาติจัดจ้าน ยำอร่อย กินไม่เบื่อ

ยำไข่แดงเค็มหมูยอ

เมนูที่เราจะมาแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองทำตามคือ ยำไข่แดงเค็มหมูยอ ไข่แดงเยิ้ม ๆ อร่อย เอามายำ อยากรู้เหลือเกิน ยำไข่แดงเค็มต้องลวกไหม มาดูกัน

ส่วนผสมของ ยำไข่แดงเค็มหมูยอ

ยำไข่แดงเค็ม หมูยอ เมนูยำแซ่บ ๆ อร่อยเน้น ๆ ทั้งไข่แดงนำไปนึ่ง รวมถึงหมูยออร่อย ๆ ที่นึ่งสุกแล้ว จะเป็นรสชาติออริจินอล หรือรสชาติพริกไทยดำ ต่างนำมายำเมนูอาหารดังกล่าวได้ไม่ยาก

ยำไข่แดงเค็มหมูยอ

หมูยอ ถือได้ว่า เป็นการนำเนื้อหมูมาแปรรูป ทำให้เนื้อหมูมีรสชาติที่แปลกใหม่ขึ้น อีกทั้งยังอร่อยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เพราะหมูยอสามารถนำมาดัดแปลงทำได้หลายเมนูเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำมาทำแหนมเนือง ยำหมูยอ หรือนำมาใช้กินคู่กับข้าวเหนียวส้มตำ ก็ถือได้ว่า เมนูดังกล่าว อร่อยแล้ว

มาถึงเมนูที่แอดมินกำลังจะเสนอในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งเมนูแซ่บ ๆ ที่ควรลองหัดทำดู โดยเฉพาะ การเตรียมน้ำยำนั้น เป็นเรื่องที่เตรียมไม่ยากเลย เพราะน้ำยำนั้น สามารถปรุงรสได้ตามชอบ ขอเพียงใช้น้ำมะนาวจริงเท่านั้น ก็สามารถทำน้ำยำหอมกลิ่นมะนาวได้แล้ว

วัตถุดิบยำไข่แดงเค็มหมูยอ

ยำไข่แดงเค็มหมูยอ
  • หมูยอ1 แท่ง
  • ไข่แดงเค็มตามชอบ
  • พริกแดงบดละเอียด2 ช้อนโต๊ะ(หรือตามชอบ)
  • หอมแขก2 หัว
  • ขึ้นช่ายตามชอบ
  • ผักชีฝรั่งตามชอบ
  • น้ำตาลปีบละลาย2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว3 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
  • น้ำปลา1/2ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาร้า 

วิธีทำ

ยำไข่แดงเค็มหมูยอ

ขั้นตอนที่ 1เตรียมปรุงน้ำยำที่จะนำมาทำ ยำไข่แดงเค็ม หมูยอ นั่นก็คือ พริก น้ำปลา น้ำตาล มะนาว ปลาร้า ลงในชามผสม

ขั้นตอนที่ 2 อยากกินให้อร่อย อย่าตั้งคำถาม ยำหมูยอไข่แดงเค็มกี่แคล ให้ใส่หมูยอ ไข่แดงเค็มลงไป จากนั้นชิมรสตามชอบ 

ขั้นตอนที่ 3 นำผักที่เตรียมไว้ใส่ในชามผสม คลุกให้เข้ากัน เทใส่จาน แล้วจัดเสริ์ฟ เป็น ยำหมูยอไข่แดงเค็มราคา ไม่แพง เพราะทำเอง

เทคนิคพิเศษ 

ยำไข่แดงเค็มหมูยอ

1.อย่าลืมหั่นมะนาวฝานลงไป เพราะมะนาวฝานจะไปช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับเมนูดังกล่าวนี้

2.นำหมูยอกับไข่แดงเค็มไปนึ่งในลังถึงประมาณ 5 นาที กระทั่งสุก ยกลงจากเตา รอจนเย็น ก็นำมาใช้งานได้แล้ว

ยำไข่แดงเค็มหมูยอเมนูแซ่บ กินกับอะไรก็อร่อย เป็นเมนูเด็ด ใช้เวลาปรุงเพียงไม่นาน ก็สามารถนำเมนูนี้มารับประทานได้แล้ว อีกทั้งในเรื่องของการเตรียมส่วนผสม เป็นของที่มีในครัวเรือนอยู่แล้ว และการซื้อหมูยอ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเข้าร้านสะดวกซื้อ ก็หามาทำได้

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

มาเปลี่ยนเมนู ข้าวผัดปลาเค็ม ที่แสนธรรมดาให้กลายเป็นเมนูพิเศษกัน

ข้าวผัดปลาเค็ม

ข้าวผัดปลาเค็ม เชื่อว่าเมนูหลาย ๆ คนคงรู้จักกันดีซึ่งก็เป็นเพียงเมนูอาหารจานหนึ่งที่ธรรมดา ๆ ทั่วไปไม่ได้มมีอะไรพิเศษ แต่มาพบกับพวกเรา chefoldschool.com กันทั้งที เมนูนี้ต้องไม่ธรรมดา โดยเราจะรังสรรค์ให้มีสีสันและเพิ่มความน่าสนใจ น่าทาน เข้าไปอีก ทำอย่างไรนั้น มาดูกันเลย 

ข้าวผัดปลาเค็ม นิยมทานมากในมาเก๊า

ข้าวผัดปลาเค็ม

เชื่อหรือไม่ว่าเมนูที่แสนจะธรรมดาอย่างข้าวผัดปลาเค็ม ที่คนไทยอย่างเราเห็นได้กันโดยทั่วไป กลับเป็นที่นิยมอย่างมากในมาเก๊า ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำเมนูข้าวผัดปลาเค็มที่ไม่ธรรมดากัน ทำอย่างไรนั้นมาดูกันเลย ขั้นตอนการเตรียมเครื่องปรุงและวัตถุดิบในการทำ มีดังนี้

ข้าวผัดปลาเค็ม
  1. วัตถุดิบแรกของเราที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของเมนูนี้ คือลาที่เราจะเอามาทำเป็นปลาเค็ม เราจะเลือกเป็นปลาอินทรีย์เค็มนะคะ
  2. เตรียมข้าวสวยแค่ 1 ถ้วยพอ
  3. กระเทียม ทำการสับให้ละเอียด โดยจะใช้แค่ 2 กลีบ
  4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  5. พริกจินดาแดงซอย 2 เม็ด
  6. ซอสปรุงรสตามใจชอบ 2 ช้อนชา
  7. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนชา
  8. น้ำมันพืช 
  9. หอมแดงซอย 
  10. พริกขี้หนูซอย
  11. มะนาว 

เมื่อเตรียมวัตถุดิบเรามาเริ่มรังสรรค์เมนูธรรมดา ให้กลายเป็นเมนูที่แสนพิเศษกันเถอะ

ข้าวผัดปลาเค็ม
  • ก่อนอยื่นเราต้องทำการล้างปลาอินทรีย์เค็มด้วยน้ำเกลือกันก่อนนะคะ จากนั้นให้ล้างตามมาด้วยน้ำสะอาด
  • จากนั้นนำปลาที่ผ่านการทำความสะอาดมาซับน้ำให้แห้ง
  • ตั้งกระทะโดยในการทำช่วงแรก ๆ นั้นเราจะใช้ไฟอ่อน
  • เติมน้ำมันพืชลงไปในกระทะ รอให้เกิดความร้อนนิด ๆ แล้วให้นำปลาอินทรีย์เค็มลงทอดได้เลย
  • เมื่อทอดไปเรื่อย ๆ พอรู้สึกว่าสีของเนื้อปลาเริ่มเหลือง ให้ตัดขึ้นพักไว้
  • เมื่อปลาดค็มที่ทอดเสร็จแล้วเริ่มเย็น ให้ตัดแบ่งปลาเค็มออกมาเป็น 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งสับให้ละเอียด และอีกส่วนนั้นเราจะสับเป็นชิ้น ๆ เพื่อใช้ในการตกแต่งหน้าตาอาหาร
ข้าวผัดปลาเค็ม
  • มาถึงขั้นตอนการผัดข้าว ให้เราตั้งกระทะโดยใช้ไฟแรง
  • จากนั้นก็ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมและพริกลงเจียว
  • แล้วใส่ไข่ลงผัดให้ไข่หอมตาด้วยข้าวสวยลงผัด คลุกเคล้าให้แห้ง
  • เติมปลาเค็มที่สับละเอียดลงไป
  • จากนั้นสามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ ด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • เมื่อสุกเรียบร้อยแล้วให้ตักมาใส่จาด จัดความสวยงามด้วยชิ้นปลาที่ตัดไว้ เพิ่มสีสันด้วยพริกสดทั้งแบบดิบที่เป็นสีเขียวและแบบสุกที่เป็นสีแดง หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วนำมาเรียงใส่จานให้สวยงาม

เป็นอย่างไรบ้างกับเมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของเรา 

ข้าวผัดปลาเค็ม

หากใครอยากลองทำข้าวผัดปลาเค็มแบบพิเศษ ๆ แบบนี้ ลองทำตามสูตรข้างต้นกันดูนะคะ แล้วจะติดใจยกให้เป็นอาหารจานโปรดกันเลยทีเดียว และสำหรับครั้งต่อไป chefoldschool.com จะมาแนะนำเมนะไรนั้นโปรดติดตามกันด้วยนะคะ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ปลา ราดพริก ฟูกรอบ น้ำราดแซ่บ ๆ กินกับเมนูไหนก็ได้

ปลาราดพริก

ปลา ราดพริก 3 รส อาหารไทยที่รสชาติครบเครื่อง ทั้ง เปรี้ยว เผ็ด หวาน วันนี้เรามีสูตรทอดอย่างไรให้ฟูกรอบ เนื้อปลาแน่น ๆ ไม่อยากพลาดก็มาดูกันเลย

ปลา ราดพริก ส่วนผสมในการทำ

ปลาราดพริก

ปลา ราด พริก ใครที่เบื่อเมนูทอดเดิม ๆ เช่น ปลาทอด ปลานึ่ง ลองเปลี่ยนมาเป็น การทำน้ำราดแซ่บ ๆ ราดลงบนตัวปลา เราก็จะได้เมนูอาหารเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเมนู โดยวันนี้ ปลาที่จะนำมาทำเมนูดังกล่าว จะเป็นปลานิลที่เรารู้จักอีกทั้งยังเป็นปลาที่หาซื้อง่ายมาก ไม่มีตลาดไหน ไม่ขายปลานิล อีกทั้ง ปลานิลยังมีหลายขนาดอีกด้วย ใครต้องการกินเนื้อปลาเยอะ ๆ ให้เลือกตัวใหญ่เข้าไว้ แต่ต้องเพิ่มในส่วนของวัตถุดิบที่จะนำมาทำเมนูดังกล่าว ซึ่งการเลือกปลานิล ต้องเลือกปลาสด โดยดูว่า ตายังใสหรือเปล่า ? รวมถึงเหงือกต้องแดง กดไปที่พุงปลา แล้วไม่ยุบ ก็ถือได้ว่า นำมาทำปลานิลสำหรับราดซอสได้แล้ว

ปลาราดพริก

ปลาราดพริก วัตถุดิบ

  • ปลา 1 ตัว
  • กระเทียม 40 กรัม
  • พริกแดงจินดา 50 กรัม
  • พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
  • ผักชี 2 ต้น
  • น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ปลาราดพริก

ขั้นตอนที่ 1 พริกแดงจินดานำมาหั่นเป็นเส้นยาวเอาไว้บางส่วน ที่เหลือ เตรียมนำไปปั่นร่วมกับวัตถุดิบอื่น ๆ ที่จะนำมาทำปลาราดพริก

ขั้นตอนที่ 2 ผักชี หั่นเอาเฉพาะก้านและใบสวย ๆ สำหรับแต่งหน้า ในส่วนของราก ใส่ลงไปในโถปั่น ให้ปั่นรวมกับพริกแดงจินดา และกระเทียม จากนั้นปั่นจนละเอียดเพื่อเอาไว้ราด เนื้อปลาราดพริก

ชั้นตอนที่ 3 ปลา ต้องล้างให้สะอาด ผึ่งลม สะเด็ดน้ำให้แห้ง จากนั้นนำตัวปลามาบั้ง

ขั้นตอนที่ 4 เกลือมาทาทั่วตัวปลาเพียงเล็กน้อย จากนั้น ตั้งกะทะ รอกระทั่งน้ำมันร้อนจัด นำปลานิลที่ทาเกลือแล้วไปทอดประมาณ 6 นาที โดยไม่ลืมกลับตัวปลา เพื่อมาทอดอีกด้านในเวลา 6 นาทีเท่าเดิม เมื่อพบว่า ปลาเหลืองทั้ง 2 ฝั่งแล้ว ก็ให้ตักขึ้นมาจากกะทะ

ขั้นตอนที่ 5 นำ 3 เกลอที่เราเตรียมไว้ ไปผัดในกะทะ ผัดจนกระทั่งได้กลิ่นหอม ในส่วนของการปรุงรส นำเครื่องปรุงที่เราได้เตรียมไว้ เช่น น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาล น้ำเปล่า ผัดส่วนผสมทั้งหมดจนละลายเข้ากันดี 

ขั้นตอนสุดท้าย ตักน้ำราดขึ้นมาจากกะทะ ราดลงบนตัวปลา แล้วตกแต่งด้วยผักชีกับพริกจินดาที่เราหั่นเป็นริ้วยาวมาจัดวาง เพื่อทำให้ปลาราดพริกดูน่ารับประทานมากขึ้น

ปลาราดพริก

การเลือกปลาที่จะนำมาทำเมนูนี้ สามารถเปลี่ยนเป็นปลาอื่น ๆ ได้ เช่น ปลาทับทิม รวมถึง ปลากะพง ก็เป็นปลาที่นำมาทำเมนูราดพริกได้ ซึ่ง การรับประทานปลา ถือได้ว่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นโปรตีนอย่างดีที่กินแล้วไม่อ้วน สายไดเอทควรรับประทานเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งกินคู่กับเมนูไหนก็ได้ เพราะเมนูนี้ มีความเปรี้ยว หวาน เผ็ด รวมอยู่ในจานนี้อยู่แล้ว จะกินกับต้มจืดและข้าวสวยร้อน ๆ เป็นอะไรที่เข้ากันเหลือเกิน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

เอ็นข้อไก่ทอด กรอบอร่อย กินกับซอสพริก อร่อยแล้ว 

เอ็นข้อไก่ทอด

เอ็นข้อไก่ทอด ทำแบบไหนถึงจะกรอบและอร่อย เอ็นข้อไก่ไม่ใส่แป้ง มีจริงหรือ ? มาร่วมหาคำตอบไปด้วยกันในบทความนี้เลย

ส่วนผสมในการทำ เอ็นข้อไก่ทอด

เอ็นข้อไก่ทอด

เอ็นข้อไก่ทอดซื้อจากที่ไหนได้บ้าง ? โดยปกติแล้ว สามารถซื้อเอ็นข้อไก่แช่แข็งจากร้าน CP Fresh Mart โดยมีน้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 1 กิโลกรัม ก็สามารถนำมาทำเอ็นข้อไก่สูตรเด็ดได้แล้ว ถามว่า เอ็นข้อไก่ มีประโยชน์หรือเปล่า ? พบว่า เอ็นข้อไก่ มีคอลลาเจนสูง ดังนั้น จะไปช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ทำให้ดูไม่แก่เร็วจนเกินไปนัก อีกทั้ง ยังมีแคลเซียมสูง บำรุงกระดูก ทำให้เมนูนี้ น่ารับประทานมากยิ่งขึ้นไปอีก

มาถึงแนวทางในการทำเมนูเอ็นข้อไก่ สูตรนี้ใช้แป้งทอดกรอบ เพื่อไปเพิ่มความกรุบกรอบให้เกิดขึ้นระหว่างกำลังเคี้ยว อีกทั้ง ถ้าต้องการเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร เพิ่มงาขาวลงไปด้วย ก็จะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซี่ยมเพิ่มขึ้นไปอีก 

เอ็นข้อไก่ทอด

วัตถุดิบ เอ็นข้อไก่ทอด

  • 1.เอ็นข้อไก่ 300 กรัม
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  • กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 30 กรัม
  • น้ำมันพืช สำหรับทอด 

วิธีทำ

เอ็นข้อไก่ทอด

ขั้นตอนที่ 1 นำเอ็นข้อไก่ไปล้างและทำความสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้น นำเอ็นข้อไก่ไปผสมกับซีอิ้วขาวและพริกไทยป่น นำส่วนผสมทั้ง 2 ชนิด มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้น พักไว้ 30 นาที เพื่อที่ว่าน้ำหมักจะค่อย ๆ ซึมซับเข้าไปในเอ็นข้อไก่ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการทำเอ็นข้อไก่ทอด

ขั้นตอนที่ 2 นำแป้งทอดกรอบที่เตรียมไว้ ตามด้วยกระเทียมสับ งาขาวที่นำไปคั่วเอง ผสมลงใน เอ็นข้อไก่ราคา ซึ่งถ้าทำเอง ราคาก็จะถูก

เอ็นข้อไก่ทอด

ขั้นตอนที่ 3 กะทะตั้งไฟ ในการนำเอ็นไก่ ไปทอด ควรใช้ไฟปานกลางเท่านั้น นำเอ็นข้อไก่ที่เตรียมไว้ในชามผสม ทอดในกะทะ รอจนกระทั่งเอ็นข้อไก่ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ก็ถือว่าเอ็นข้อไก่ สุกแล้ว นำมารับประทานได้

ขั้นตอนที่ 4 ตักเอ็นข้อไก่ ขึ้นมาจากกะทะ นำมาพัก กระทั่งสะเด็ดน้ำมัน ก็สามารถนำเอ็นข้อไก่มากินเล่น โดยน้ำจิ้ม หาซื้อได้ทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำจิ้มไก่ ยี่ห้อไหนก็ได้ เช่น น้ำจิ้มไก่ตราแม่ประนอม หรือ จะเป็นซอสพริก ก็อร่อยไม่แพ้กัน

เอ็นข้อไก่ทอด เป็นเมนูของกินแล่น ควรกินตอนร้อน ๆ ที่เพิ่งตักขึ้นมาจากกะทะ หลายคนนำมากินกับเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ เพราะ เอ็นข้อไก่สามารถนำมากินเป็นกับแกล้มได้ หรือ ถ้าไม่ต้องการกินกับแกล้ม นำเอ็นข้อไก่มากินคู่กับข้าวเหนียว ส้มตำ ก็อร่อย และเป็นการกินที่ค่อนข้างลงตัวและออกรส ทำให้การกินในมื้อดังกล่าว ไม่น่าเบื่อจนเกินไปนัก เพราะฉะนั้น ใครมีเวลา ลองเข้าครัว ฝึกทำเมนูดังกล่าวดู

อ่านบทความอื่นๆ: