สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารไทย

เมนู ผัดฉ่าทะเล รสเด็ด เผ็ดร้อนเดือดถึงใจ หอมยั่วยวน อร่อยครบเครื่อง

ผัดฉ่าทะเล

มาถึงเมนูอาหารทะเลที่หลายคนยกให้เป็นเมนูสุดคลาสสิก เมื่อไปร้านอาหารทะเลต้องสั่ง ผัดฉ่าทะเล เดือด ร้อนแรง รสชาติกลมกล่อมลงตัว และต้องทานคู่กับข้าวสวยจะช่วยให้รสชาติของอาหารอร่อยกำลังพอดีอิ่มท้องอีกด้วย และเนื่องจากเมนูผัดฉ่าทะเลมีหลายคนติดใจอยากลองทำทานเอง แต่กลัวจะทำไม่อร่อยเหมือนทานที่ร้าน ดังนั้น เราจะมาเอาใจคนชอบเมนูผัดฉ่าทะเลด้วยการแจกสูตรเด็ดผัดฉ่าทะเลรวมมิตร รสชาติอร่อย เผ็ดร้อนแรงแน่นอน 

ขั้นตอนอย่างง่าย ทำ ผัดฉ่าทะเล รวมมิตร อร่อยกลมกล่อม หอมละมุน 

ผัดฉ่า ทะเล เป็นอาหารจานโปรดที่สามารถทำทานได้เอง ซึ่งขั้นตอนการทำไม่ยากคนที่กำลังฝึกทำอาหารครั้งแรกก็สามารถทำได้ อีกทั้งส่วนผสมต่างๆ สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายอาหารสดทั่วไปในราคาไม่แพง และก่อนที่จะเข้าสู่วิธีทำเมนูผัดฉ่าทะเลแสนอร่อย เรามาดูเครื่องผัดฉ่ามีอะไรบ้างกันก่อนดังนี้

ผัดฉ่าทะเล

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. เนื้อปลากะพง 200 กรัม
  2. ปลาหมึก 150 กรัม
  3. กุ้ง 100 กรัม
  4. กระชายซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกชี้ฟ้า 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  6. พริกแดงจินดา 5 เม็ด
  7. พริกไทยอ่อน 1 ช้อนโต๊ะ
  8. กระเทียม 7 กลีบ
  9. ใบมะกรูด 3-4 ใบ
  10. ใบกะเพรา ½ ถ้วยตวง
  11. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  13. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  14. น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
  15. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบต่างๆ ครบเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นวิธีการทำผัดฉ่าทะเลรวมมิตรหนึ่งในเมนูอาหารง่ายๆ ทําเองฉบับมือใหม่หัดทำอาหารจานโปรด โดยสามารถทำตามได้ดังต่อไปนี้ 

ผัดฉ่าทะเล
  1. นำปลากะพงมาล้างทำความสะอาดหั่นเป็นชิ้นๆ จัดใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นนำกุ้งมาแกะเปลือกและเอาเส้นดำหลังกุ้งออก ล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นล้างปลาหมึกประมาณ 2-3 น้ำ หั่นเป็นชิ้นๆ เตรียมพักไว้ก่อน 
  2. นำกระเทียมและพริกแดงจินดาโขลกให้เข้ากัน พอหยาบๆ จากนั้นนำกระทะมาตั้งเตา ใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป เมื่อน้ำมันพืชร้อนให้ใส่พริกที่โขลกไว้ลงไป ผัดให้หอม ตามด้วยเนื้อปลากะพง ผัดให้เนื้อปลาพอสุก ใส่ปลาหมึกและกุ้งลงไปผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำเปล่าเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่พริกไทยอ่อน กระชายซอย ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้า ผัดให้เข้ากัน ตามด้วยรสซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย และน้ำตาลทราย โรยใบกะเพรา ผัดต่อให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จาน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ผัดฉ่าทะเล

หลังจากที่ได้ดูวิธีการทำสูตรผัดฉ่าทะเลรวมมิตรอย่างง่ายๆ ไปแล้ว จะเห็นได้ว่าแต่ละขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากอย่างที่หลายๆ คนคิด แถมรสชาติของผัดฉ่าทะเลมีความอร่อย รสเข้มข้น เผ็ดจัดจ้านถึงเครื่อง สายทานเผ็ดต้องลองทำทานสักครั้ง รับรองว่าต้องถูกใจอย่างแน่นอน 

เคล็ดลับ! การทำผัดฉ่าทะเลรวมมิตร กลิ่นหอม ไม่คาว 

ผัดฉ่าทะเล

ผัดฉ่าทะเลเป็นเมนูอาหารไทยยอดนิยมที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นสมุนไพรละมุนละไมเย้ายวนใจซึ่งการทำผัดฉ่าให้มีกลิ่นหอม ไม่เหม็นคาวสามารถทำได้ง่ายๆ ในขั้นตอนการเลือกอาหารทะเลจะต้องเลือกชิ้นที่สดใหม่ โดยเฉพาะกุ้งต้องแช่ด้วยน้ำมะนาวประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ตามด้วยน้ำโซดาประมาณ 10-15 นาที ต่อมาล้างปลาหมึกด้วยแป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จะช่วยให้เมือกหลุดออกได้ง่าย เพียงแค่นี้กุ้งและปลาหมึกก็จะไม่เหม็นคาวอีกต่อไป หลังจากนั้นนำวัตถุดิบทั้งหมดมาทำเมนูอาหารไทยอย่าง ผัดฉ่าทะเลได้อร่อย กลิ่นหอม ไม่คาว และที่สำคัญเนื้อกุ้ง เนื้อปลาหมึกแน่นหนึบหนับอีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

สูตร กะเพราไก่ เมนูเด็ด สุดคลาสสิก พิเศษไข่ดาว กรอบนอกนุ่มใน

กะเพราไก่

ร้านอาหารตามสั่ง ถือว่าเป็นร้านที่ทุกคนต้องเคยไปทานอาหารจานด่วนอย่างแน่นอน และซิกเนเจอร์ของร้านต้องยกให้ กะเพราไก่ เมนูสุดโปรดปรานของหลายๆ คน และที่สำคัญยังเป็นเมนูยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามบางคนอาจจะไม่รู้ว่า เมนูผัดกระเพรามีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยสันนิฐานว่ามีการดัดแปลงผัดกระเพรามาจากอาหารจีนโบราณ จนได้รสชาติเข้มข้น เผ็ดจัดจ้านถูกปากคนไทย และสูตรที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นสูตรผัดกระเพราไก่พริกแห้งที่มีความเผ็ดร้อนสุดๆ แถมยังเป็นสูตรที่สามารถทำทานได้เองด้วยนะ 

วิธีทำผัด กะเพราไก่ รสชาติเผ็ดจัดจาน ครบเครื่อง ตามสูตรต้นตำรับโบราณ 

ในปัจจุบันร้านอาหารตามสั่งมักจะทำเมนูผัดกะเพราไก่ที่แปลกไปจากต้นตำรับเป็นอย่างมาก โดยมีการใส่วัตถุดิบอย่าง ถั่วฝักยาว เห็ดออริจิน จึงทำให้รสชาติของอาหารผิดเพี้ยนไปจากเดิม ดังนั้น วันนี้เราจะมาแจกสูตรเด็ดเมนูอาหารไทยอย่าง กระเพราไก่ไข่ดาวตามฉบับโบราณ โดยสามารถเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ดังนี้

กะเพราไก่
  1. เนื้อไก่ 300 กรัม
  2. พริกชี้ฟ้า 7 เม็ด
  3. พริกขี้หนู 20 กรัม
  4. ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  6. ซอสหอยนางรม 1 ½ ช้อนชา
  7. กระเทียมจีน 5-6 กลีบ
  8. ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
  9. น้ำซุปเล็กน้อย
  10. ใบกระเพรา 1 ถ้วยตวง
  11. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

สำหรับคนที่ชอบทานอาหารไทยรสชาติเผ็ดจัดจ้าน แนะนำให้เพิ่มพริกแห้งในวัตถุดิบทำผัดกระเพราด้วยประมาณ 6-7 เม็ด รับรองว่าเผ็ดโดนใจอย่างแน่นอน หลังจากเตรียมส่วนผสมเสร็จแล้ว ในขั้นตอนต่อจากนี้จะเป็นวิธีทำผัดกระเพราไก่สับให้อร่อยตามสูตรต้นตำรับดังนี้ 

กะเพราไก่
  1. นำใบกระเพรามาล้างน้ำให้สะอาดพักไว้ก่อน จากนั้น นำพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู กระเทียม มาโขลกให้ละเอียด เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้
  2. นำไก่มาล้างทำความสะอาด นำไก่สับให้ละเอียด เสร็จแล้วให้นำกระทะมาตั้งเตา ใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยเครื่องพริกที่โขลกไว้ลงผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้นใส่ไก่สับลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำตาลทรายน้ำปลา ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำซุปเล็กน้อย จากนั้นผัดต่อไปจนกว่าเนื้อไก่จะสุกดีแล้วให้โรยด้วยใบกระเพรา ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จาน 
  3. ในขั้นตอนต่อมาให้ตั้งกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นตอกไข่ไก่ลงไป ทอดให้ไข่ขาวกรอบ ส่วนไข่แดงให้สุกเล็กน้อย เสร์จแล้วตักใส่จานที่เตรียมไว้
กะเพราไก่

สำหรับวิธีทำผัดกะเพราไก่ไข่ดาวหนึ่งในเมนูอาหารง่ายๆ ทําเองก็เสร็จลงไปเรียบร้อยแล้ว ในลำดับต่อมาให้นำผัดกระเพรา ไข่ดาว จัดวางบนโต๊ะอาหารตามด้วยข้าวสวยร้อนๆ พร้อมรับประทานกันได้เลย สำหรับคุณค่าทางโภชนาการเมนูผัดกะเพราไก่กี่แคล พลังงานทั้งหมด 573 แคล คนที่กำลังลดน้ำหนักสามารถทานได้สบายมาก 

เปิดเมนูกะเพราไก่เครื่องในพริกแห้ง รสแซ่บ ไม่คาว อร่อยทุกคำ 

กะเพราไก่

ในส่วนของเมนูผัดกะเพราไก่จะมีทั้งกระเพราไก่สับ ไก่ชิ้น และมีอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนชอบทานนั่นก็คือ กระเพราเครื่องในไก่ เป็นเมนูอาหารไทยยอดนิยมที่สามารถทำได้เอง ซึ่งวิธีทำก็จะเหมือนกับสูตรกระเพราไก่สับ แต่เราจะใช้เครื่องในไก่แทนไก่สับ จากนั้นนำเครื่องในมาล้างทำความสะอาด นำไปหั่นไปชิ้นๆ หลังจากนั้น นำพริกแห้ง กระเทียม มาโขลกให้ละเอียด นำไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่เครื่องในไก่ ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันจนเครื่องในไก่สุก ใส่ใบกระเพรา ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้ว ตักราดข้าว เป็นอาหารจานเดียวแสนอร่อย กลิ่นหอมชวนรับประทาน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

สูตรลับเมนูสร้างอาชีพ หมูทอดน้ำปลา กรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมชวนทาน

หมูทอดน้ำปลา

สำหรับใครกำลังหาเมนูอาหารที่สามารถทำขายในตอนเช้าได้ง่ายๆ ขอแนะนำ หมูทอดน้ำปลา กรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมน้ำปลาอ่อนๆ กำลังดี และรสชาติเค็มเล็กน้อย เหมาะสำหรับทานคู่กับข้าวเหนียวได้อย่างลงตัว โดยเมนูสูตรหมูทอดน้ำปลาไม่ใส่แป้ง และสูตรใส่แป้งจะมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ส่วนรสชาติอร่อยเหมือนกัน แต่สูตรที่ได้รับความนิยม และขายดิบขายดีต้องยกให้หมูทอดน้ำปลาสูตรโบราณที่มีความหอมละมุน กลิ่นน้ำปลาหอมชวนทาน เนื้อสัมผัสนุ่มกรอบอร่อย แถมสูตรนี้ถือว่าเป็นสูตรหมูทอดที่สามารถทำขายได้กำไรอย่างงาม และขายหมดทุกวัน 

วิธีทำเมนูยอดนิยม หมูทอดน้ำปลา กลิ่นหอมละมุน เนื้อกรอบนุ่มกำลังดี 

หมูทอดน้ำปลา

ถ้าพูดถึงเมนูประเภททอดที่หลายๆ คนนิยมรับประทานได้ทุกวัน และทานตอนไหนก็อร่อยต้องยกให้ หมูทอด น้ำปลา เป็นอาหารไทยที่มีความอร่อยละมุนละไม และเป็นอาหารที่ทานง่ายอิ่มอร่อย ที่สำคัญเมนูนี้ยังสามารถทำได้ง่ายมาก ถ้าอยากทำขายเป็นอาชีพเสริมก็สามารถทำได้ โดยเรามีสูตรหมูทอดน้ำปลา และวิธีทำรวมถึงสูตรหมักหมูทอดกรอบให้นุ่มอร่อยมาให้ทำตามได้ง่ายๆ

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. หมูสามชั้น 700 กรัม
  2. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  3. แป้งทอดกรอบ ½ ถ้วยตวง
  4. น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำเย็น ½ ถ้วยตวง
  6. ไข่ไก่ 1 ฟอง 

สำหรับสูตรหมูทอดที่เลือกทำในวันนี้จะเป็นสูตรหมูสามชั้นทอดกรอบนอกนุ่มใน โดยจะใช้เนื้อหมูสามชั้นที่ซื้อมาจากตลาดสดครึ่งกิโลเหมาะสำหรับทำทานได้สองคน แต่ถ้าบ้านไหนมีจำนวนสมาชิกในบ้านเยอะเกินไปสามารถทำการหมัก หมูทอดสามชั้นเพิ่มตามปริมาณคนได้ตามใจชอบ ซึ่งวิธีหมักหมูทอดง่าย ๆ ดังนี้

หมูทอดน้ำปลา
  1. ขั้นตอนแรกนำเนื้อหมูสามชั้นที่ซื้อมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นๆ ให้ขาดออกจากกัน เมื่อนำไปทอดเนื้อหมูจะได้กรอบทุกชิ้น 
  2. จากนั้นนำเนื้อหมูมาหมักด้วยน้ำปลา พริกไทยป่น ไข่ไก่ และแป้งทอดกรอบ ตามด้วยน้ำเย็น คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที 
  3. เมื่อหมูหมักครบกำหนดเวลาแล้วให้นำออกมาจากตู้เย็น จากนั้นนำกระทะมาตั้งเตาใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟปานกลาง นำหมักใส่ลงไปทอดจนกว่าเนื้อหมูจะเหลืองกรอบ จากนั้นตักขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำมัน นำมาหั่นให้เป็นชิ้นอีกครั้ง จัดใส่จานได้เลย
หมูทอดน้ำปลา

เมนูหมูทอดน้ำปลาสูตรเด็ดสไตล์ทำเองจะมีรสชาติเค็มกลมกล่อม มีกลิ่นน้ำปลา และเนื้อหมูกรอบนอกนุ่มในทานคู่กับน้ำพริกปลาร้า หรือน้ำจิ้มแจ่วเผ็ดๆ และผักสดกรอบๆ ได้อร่อยเข้ากันเป็นอย่างดี สำหรับใครที่เป็นสาวกข้าวเหนียว หมูทอดกรอบอยากให้ลองทำตามสูตรของเรา เพราะรสชาติอร่อยเด็ด ไม่แพ้ที่ขายตามข้างทางในตอนเช้า แถมเนื้อหมูทอดกรอบนานอีกด้วย 

ตามมาแชร์เมนูหมูทอดน้ำปลา แบบไม่ใส่แป้งทอด เนื้อนุ่มเด้ง อร่อยฟิน 

หมูทอดน้ำปลา

อีกหนึ่งสูตรหมูทอดน้ำปลาที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานแป้ง นั่นก็คือ สูตรหมูสามชั้นทอดน้ำปลา ไม่ใส่แป้ง แต่เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน รสชาติเข้มข้น มีกลิ่นน้ำปลาหอมนุ่มละมุน ซึ่งเมนูสูตรหมูทอดไม่ใส่แป้งเป็นเมนูอาหารง่ายๆ ทําเองได้ที่บ้าน โดยเริ่มจากนำเนื้อหมูสามชั้นมาหั่นเป็นชิ้นๆ หมักด้วย น้ำปลา พริกไทยป่น คลุกคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที นำมาทอดให้เหลืองกรอบ ตักพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ตักใส่จาน จัดตกแต่งด้วยน้ำจิ้มแจ่ว รสเด็ด เผ็ดจัดจ้านจะช่วยให้รสชาติของหมูทอดอร่อยยกกำลังสอง 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

เปิดครัวไทยชวนทำ ผัดพริกแกงไก่ เมนูเด็ด เผ็ดอร่อย หอมกลิ่นพริกแกง

ผัดพริกแกงไก่

ใครที่ชอบเมนูอาหารรสชาติเผ็ดของพริกแกงเข้มข้น ขอแนะนำ ผัดพริกแกงไก่ รสจัดจ้านสะใจ ราดบนข้าวสวยร้อนๆ อร่อยครบเครื่อง และยิ่งใช้พริกแกงสดตำเองจะช่วยให้ผัดพริกแกงไก่ใส่ใบกระเพราหรือใบโหระพามีกลิ่นหอมละมุนสุดๆ ไปเลย สำหรับคนที่กำลังมองหาสูตรเมนูไก่ผัดพริกแกงทำง่ายๆ แต่รสชาติอร่อยตามสูตรอาหารสไตล์ไทย ต้องไม่พลาด เพราะเรามีสูตรผัดพริกแกงใส่ไก่ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ว่าแต่จะเป็นสูตรไหนนั้นตามไปรับชมกัน 

วิธีทำ ผัดพริกแกงไก่ แสนอร่อย รสชาติเข้มข้น ทำง่าย อร่อยชัวร์ 

ผัดพริกแกงไก่

สายชอบทานอาหารตามสั่งห้ามพลาดเด็ดขาด โดยเฉพาะคนที่ชอบทานอาหารรสจัดจ้าน เพราะวันนี้เราจะมาทำเมนูสุดโปรดของหลายๆ คน นั่นก็คือ ผัดพริกแกงไก่เนื้อนุ่มละมุนผสมผสานกับพริกแกงเผ็ดจัดจ้านถึงเครื่องแบบสะใจ เหมาะกับคนทานเผ็ดอย่างแน่นอน ดั้งนั้น หากใครที่อยากลองทำเมนูนี้เองที่บ้านสามารถติดตามวิธีการทำผัดพริกแกงใส่ไก่ของเราได้เลย ซึ่งสูตรที่จะทำในวันนี้เป็นสูตรง่ายๆ อย่าง ผัดพริกแกงไก่ใส่หน่อไม้ดอง รสชาติ เปรี้ยว เค็ม เผ็ดกำลังดี 

วัตถุดิบ และส่วนผสมทำพริกแกงเผ็ด

  1. พริกแห้ง 50 กรัม
  2. รากผักชี 3 ช้อนโต๊ะ
  3. ตะไคร้สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ข่าสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  5. หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ผิวมะกรูดสับละเอียด 2 ช้อนชา
  7. กะปิ 2 ช้อนชา
  8. กระเทียมสับ ½ ช้อนชา
  9. เกลือทะเล 2 ช้อนชา
ผัดพริกแกงไก่

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมผัดพริกแกงใส่ไก่

  1. หน่อไม้ดอง 500 กรัม
  2. เนื้ออกไก่ 200 กรัม
  3. กระเทียม 15 กลีบ
  4. พริกชี้ฟ้าแดง 3-4 เม็ด
  5. ใบโหระพา 2 ก้าน
  6. น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
  8. พริกแกง 2 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
  10. ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ 

สำหรับวัตถุดิบพริกแกงสามารถใช้พริกแห้งได้หลากหลายชนิดมารวมกัน อาทิ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า และพริกหยวก จะทำให้พริกแกงมีความเผ็ดพอดี และเมื่อนำมาทำเมนูผัดพริกแกงไก่หน่อไม้ดองสีอาหารจะยิ่งน่ารับประทานยิ่งขึ้น

ผัดพริกแกงไก่
  1. อันดับแรกมาทำพริกแกงเผ็ดกันก่อน โดยนำพริกแห้งมากรีดฝัก นำเม็ดออกให้หมด จากนั้นนำพริกมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปแช่น้ำให่นุ่มประมาณ 10 นาที ในระหว่างรอพริกนุ่ม ให้นำลูกผักชี เม็ดพริกไทยขาวลงไปโขลกให้ละเอียด ตามด้วยรากผักชี ตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด หอมแดง กระเทียม กะปิ เกลือทะเล และพริกแช่น้ำ โขลกให้ละเอียดทั้งหมด 
  2. นำหน่อไม้ดองมาล้างทำความสะอาดประมาณ 3 รอบ ใช้มีดหั่นเป็นเส้นเล็กๆ ใส่ถ้วยพักไว้ก่อน เสร็จแล้วนำเนื้ออกไก่มาหั่นเป็นเล็กๆ ใส่ถ้วยให้เรียบร้อย 
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟปานกลาง ใส่พริกแกง ผัดให้เข้ากันจนกว่าพริกแกงจะหอมละมุน จากนั้นใส่ไก่ลงไป ตามด้วยน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดให้สุก ใส่เครื่องปรุงที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน ตามด้วยหน่อไม้ดอง ฉีกใบมะกรูด โรยลงไป ทำการผัดต่อให้เข้ากัน ชิมรสชาติตามใจชอบ ปิดไฟ ตักใส่จาน โรยด้วยพริกชี้ฟ้าให้สวยงาม 
ผัดพริกแกงไก่

เมนูผัดพริกแกงไก่ใส่หน่อไม้สามารถใช้หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดองก็ได้ตามใจชอบ แต่หากใช้หน่อไม้ดองจะต้องล้างน้ำประมาณ 2-3 น้ำ เพื่อล้างกลิ่นฉุนออกไป ในส่วนของพริกแกงสดที่เหลือสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานเป็นสัปดาห์ และสามารถนำมาทำอาหารไทยได้หลากหลายเมนูอีกด้วย 

เทคนิคทำ ผัดพริกแกงไก่ ใส่ใบโหระพาราดข้าว หอมยั่วยวนใจ 

ผัดพริกแกงไก่

หากพูดถึงเมนูอาหารจานด่วนต้องนึกถึงเมนูผัดพริกแกงไก่ใส่ใบโหระพา หนึ่งในเมนูอาหารไทยรสเด็ด เนื้อไก่นุ่มนิ่ม หอมละมุน ทานคู่กับข้าวสวยที่หุงเสร็จใหม่ๆ อร่อยทุกคำฟินกำลังดี โดยวิธีทำผัดพริกแกงไก่ใส่โหระพาไม่ยาก เพียงใช้วัตถุดิบและส่วนผสมตามสูตรผัดพริกแกงไก่หน่อไม้ดอง แต่ตัดวัตถุดิบหน่อไม้ออกใส่ใบโหระพาแทน ทำให้ผัดพริกแกงมีกลิ่นหอมใบโหระพาชวนทานได้ไม่มีเบื่อ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

แชร์สูตร แกงฟักทองใส่หมู นุ่มๆ น้ำแกงเข้มข้น เผ็ดอร่อย ได้ประโยชน์

แกงฟักทองใส่หมู

คนไหนที่ชอบทานฟักทองเป็นประจำ อยากให้ลองทำเมนู แกงฟักทองใส่หมู สามชั้น หนึ่งในเมนูอาหารไทยที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม หอมกลิ่นพริกแกงละมุนละไมของสมุนไพรอย่าง ข่า ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม ใบมะกรูด เป็นต้น นอกจากนี้วิธีทำแกงฟักทองไม่ใส่กะทิสามารถทำได้อย่างง่าย เพียงแค่ทำตามสูตรที่จะมาแชร์ได้เลย รับรองเมนูอาหารเย็นอย่างแกงหมูสามชั้นใส่ฟักทองต้องอร่อยไม่แพ้ที่ซื้อตามร้านอาหารอย่างแน่นอน 

ขั้นตอนการทำ แกงฟักทองใส่หมู สามชั้น น้ำแกงเข้มข้น จัดจ้าน กลมกล่อม 

แกงฟักทองใส่หมู

หลังจากที่ห่างหายจากการทำอาหารสไตล์ไทยไปนาน ได้เวลาที่จะเข้าครัวไทยทำเมนูยอดฮิตตลอดกาลอย่าง แกงฟักทองใส่หมูสามชั้น เนื้อฟักทองนุ่มอร่อย ผสมผสานกับน้ำแกงเข้มข้นได้อย่างลงตัว แถมอาหารที่ทำทานเองยังอร่อยถูกปากอีกด้วย สำหรับสูตรแกงฟักทองใส่หมูสามชั้นจะใช้พริกแกงสดทำเอง เพื่อให้อาหารรสชาติอร่อย หอมละมุนมากขึ้น 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. ฟักทอง 400 กรัม
  2. หมูสามชั้น 300 กรัม
  3. ใบโหระพา 1 ถ้วยตวง
  4. ใบมะกรูด 5 ใบ
  5. น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลปิ๊บ ½ ช้อนโต๊ะ
  7. พริกแกง 50 กรัม
แกงฟักทองใส่หมู

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำพริกแกง

  1. พริกจินดาแห้ง 100 กรัม
  2. ลูกผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
  3. ตะไคร้ซอย ½ ถ้วยตวง
  4. ผิวมะกรูดสับละเอียด 2 ช้อนชา
  5. กระเทียม 50 กรัม
  6. ข่าสับละเอียด 5 ชิ้น
  7. รากผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
  8. กะปิ 1 ช้อนชา
  9. เกลือ 1 ช้อนชา

สำหรับสูตรที่เราจะพาทุกคนทำนั้นเป็นสูตรแกงฟักทองใส่หมูสามชั้นไม่ใส่กะทิ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกะทิเป็นอย่างมาก ที่สำคัญไม่ทำให้น้ำแกงมีความมันเกินไปอีกด้วย ในส่วนของวิธีทำเริ่มแรกเราจะมาเตรียมพริกแกงเผ็ดกันก่อนเลย

แกงฟักทองใส่หมู
  1. เริ่มแรกนำพริกแห้งมาตัดขั่วออก กรีดฝักนำเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นนำลูกผักชีและเม็ดพริกไทยมาโขลกให้ละเอียด ใส่รากผักชี ตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด หอมแดง กระเทียม กะปิ เกลือ และพริกที่แช่น้ำไว้ โขลกให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อน 
  2. นำฟักทองมาปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ล้างน้ำให้สะอาด เสร็จแล้วนำหมูสามชั้นมาหั่นเป็นชิ้นๆ ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมัน ตามด้วยพริกแกง ผัดให้มีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูลงไป ผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำเปล่า ใส่ฟักทอง ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล เคี่ยวจนฟักทองสุก โรยด้วยใบโหระพา เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
แกงฟักทองใส่หมู

หลังจากที่ทำเมนูแกงฟักทองใส่หมูสามชั้นเสร็จแล้วให้ตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง และใบโหระพา ตกแต่งเพื่อความสวยงาม นำไปเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยทานได้อิ่มอร่อย รสชาติกลมกล่อม หอมใบโหระพาอ่อนๆ เข้ากันสุดๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบเมนูแกงฟักทองใส่ใบโหระพาใส่หมูสามชั้นสามารถทำตามสูตรของเราได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอีกด้วย 

แนะนำเมนูทำง่าย แกงฟักทองใส่หมู สามชั้น สไตล์อีสาน รสแช่บ 

แกงฟักทองใส่หมู

แกงฟักทองใส่หมูสามชั้น สไตล์อีสานจะมีรสชาติกลมกล่อม อร่อยนัวร์ เค็มปลาร้าเล็กน้อย ตัดกับความหวานของฟักทองได้อร่อยเข้ากันเป็นอย่างดี เรียกได้ว่า อาหารไทยเมนูหมูสามชั้นใส่ฟักทองอร่อยแซ่บสุดๆ ว่าแต่แกงฟักทองใส่หมูใส่อะไรบ้างที่เป็นวัตถุดิบหลัก ได้แก่ หัวหอม กระเทียม พริกแดงจินดา ตะไคร้ เกลือ โขลกให้ละเอียด นำใส่หม้อใส่น้ำเล็กน้อย ตั้งไฟให้พอเดือด ใส่หมูสามชั้น ใส่ปลาร้า น้ำปลา คนให้เข้ากัน ตามด้วยฟักทอง รอให้สุก โรยด้วยใบโหระพา ต้นหอม คนให้เข้ากันอีกครั้ง พร้อมตักใส่ถ้วยทานได้เลย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ขอแนะนำเมนูอาหารอีสานสุดแซ่บ หมกหน่อไม้ หมูสามชั้น รสชาติอร่อยนัวร์

หมกหน่อไม้

สำหรับใครที่ชอบทานอาหารสไตล์อีสานบ้านเรา ขอแนะนำเมนู หมกหน่อไม้ หมูนุ่มๆ รสเด็ด กลิ่นปลาร้าหอมถึงเครื่อง อิ่มอร่อยฟินกำลังดี พร้อมทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่สำคัญเมนูหมกหน่อไม้หมูสามชั้นยังสามารถทำทานเองได้ด้วย โดยสูตร และวิธีทำสามารถทำตามได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใครๆ ก็ทำได้ 

วิธีทำอาหารรสเด็ด หมกหน่อไม้ หมูสามชั้น อร่อยครบเครื่องสไตล์อีสาน

หมกหน่อไม้

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำอาหารอีสานง่ายๆ ด้วยตัวเอง ทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ นั่นก็คือ ห่อหมกหน่อไม้ใส่หมูสามชั้น รสชาติเข้มข้นตามสูตรออริจินอลสไตล์อีสานบ้านนา ที่มาพร้อมกับความหอมกลิ่นใบแมงลักผสมผสานกับกลิ่นใบตองชวนทาน แต่ก่อนที่จะลงมือทำอาหารไทยสไตล์อีสานจะต้องมาเตรียมวัตถุดิบหมกหน่อไม้อีสานใส่อะไรบ้างไปดูกันเลย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

หมกหน่อไม้
  1. หน่อไม้ 500 กรัม
  2. ข้าวเบือ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. หมูสามชั้น 2 ขีด
  4. ตะไคร้ซอย 5 ต้น
  5. พริกกะเหรี่ยง 10 กรัม
  6. ข่าหั่นแว่น 5 แว่น
  7. ใบมะกรูดฉีก 7-8 ใบ
  8. น้ำใบย่านาง 1 ½ ทัพพี
  9. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
  10. ใบแมงลัก 1 มัด 
  11. น้ำปลาร้า ½ ทัพพี

เมนูอาหารไทยอย่างห่อหมกหน่อไม้จะใช้หน่อไม้สดนำมาต้มให้สุกทำให้ห่อหมกมีความอร่อยมากกว่าหน่อไม้ปิ๊บ แต่หากใครที่หาหน่อไม้สดไม่ได้สามารถใช้หน่อไม้ปิ๊บแทนกันได้ ในส่วนวัตถุดิบข้าวเบือหากหาไม่ได้จะทำหมกหน่อไม้ใส่แป้งอะไรดี แนะนำแป้งข้าวโพดก็ได้ตามใจชอบ และอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ต้องเตรียมไว้นั่นก็คือ ใบตอง นำมาทำความสะอาดไว้ก่อน ต่อมาเราจะมาดูวิธีทำห่อหมกหน่อไม้หมูสามชั้นมีอะไรบ้างตามไปดูพร้อมๆ กัน 

หมกหน่อไม้
  1. นำขนมสดมาปลอกเปลือกออก นำมาต้มในน้ำเดือดประมาณ 30 นาที จากนั้นนำหน่อไม้มาขูดให้เป็นเส้นๆ นำใส่ถ้วยพักไว้ก่อน จากนั้นนำข่า ตะไคร้ซอย พริกกะเหรี่ยง ใบมะกรูดฉีก โขลกส่วนให้เข้ากัน พักไว้ก่อน
  2. ต่อมาให้นำหมูสามชั้นมาหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ถ้วยในภาชนะที่เตรียมไว้ ใส่ห่อไม้ น้ำใบย่านาง น้ำปลาร้า น้ำปลา ข้าวเบือ พริกแกง ใบแมงลัก คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 
  3. ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่ใบตองห่อให้เรียบร้อย นำหม้อนึ่งมาตั้งไฟแรง ใส่ห่อหมกลงไป ปิดฝา ใช้เวลานึ่งประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นนำออกมาจัดใส่จาน พร้อมทาน
หมกหน่อไม้

สำหรับเมนูห่อหมกหน่อไม้ใส่หมูสามชั้น ถือว่าเป็นเมนูอาหารง่ายๆ ทําเองได้ แค่ทำตามขั้นตอน และสูตรที่เราแนะนำ เพียงแค่นี้ก็จะได้ห่อหมกหน่อไม้รสเด็ดตามสไตล์อาหารอีสานแสนอร่อย แต่หากบ้านไหนไม่มีใบตองสามารถทำหมกหน่อไม้ใส่หม้อทานง่ายๆ แถมหอมกลิ่นปลาร้าอ่อนๆ บ่งบอกถึงเสน่ห์ของอาหารอีสานที่มีรสอร่อยแซ่บนัวร์อย่างมีเอกลักษณ์ 

เทคนิคทำห่อหมกหน่อไม้ รสชาติอีสานดั้งเดิม กลิ่นหอมละมุน 

หมกหน่อไม้

ห่อหมกหน่อไม้ เป็นเมนูอาหารไทยยอดนิยมที่สามารถทำทานได้ทุกเวลา และทานได้ไม่มีเบื่อ ซึ่งเทคนิคการทำห่อหมกหน่อไม้ทานเองจะต้องต้มหน่อไม้หลายๆ น้ำ เพื่อให้กลิ่นไม่แรงเกินไป และการเตรียมข้าวเบือจะใช้ข้าวสารข้าวเหนียวมาแช่น้ำก่อนให้ข้าวนุ่มขึ้น ที่สำคัญการใช้ข้าวเบือทำอาหารจะทำให้ห่อหมกเหนียวข้น นอกจากนี้การทำห่อหมกหมูสามชั้นจะต้องใช้เนื้อหมูสดทำให้รสชาติห่อหมกอร่อยกลมกล่อมากขึ้น สำหรับหมกหน่อไม้กับซุปหน่อไม้ต่างกันยังไง หลายคนอาจจะมองอาหารทั้งสองชนิดนี้มีหน้าตาคล้ายกันจนแยกไม่ออก ซึ่งห่อหมกหน่อไม้จะใส่เครื่องอย่าง ตะไคร้ หอมแดง ใบมะกรูด และใบแมงลัก ข้าวเบือ ห่อด้วยใบตอง นึ่งให้สุก ส่วนซุบหน่อไม้ใส่หอมแดง ข้าวคั่ว รสชาติหอมอร่อย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

แนะนำ 10 เมนูอาหารไทย ยอดนิยม ทำง่าย รสชาติกลมกล่อม ดีต่อสุขภาพ

เมนูอาหารไทย

เมนูอาหารไทย แต่ละเมนูจะมีความโดดเด่นของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ แต่ละภาค และมีขั้นตอนการทำรวมถึงการใช้วัตถุดิบในการทำอาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ปรุงอาหารนั้นสามารถหาได้ตามตลาดนัดท้องถิ่น จึงทำให้รสชาติอาหารไทยมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน นอกจากนี้อาหารไทยพื้นบ้านมีหลากหลายเมนูให้เลือกทานไม่จำเจ และดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญอาหารยังบ่งบอกถึงวัฒนธรรมไทยในแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยเราได้รวบรวมเมนู อาหารไทย รสชาติอร่อย และได้รับความนิยมมาให้ติดตามอีกด้วย 

รวม 10 เมนูอาหารไทย รสชาติเข้มข้น อร่อยครบเครื่อง ทำง่าย ชวนทาน 

หากใครเบื่ออาหารไม่รู้จะทานอะไร หรืออยากจะหาเมนูง่ายๆ ทำทานเอง ขอแนะนำเมนูอาหารไทยหลากหลายเมนูที่สามารถหาทาน และทำทานได้ชัวร์ โดยเมนูอาหารไทยยอดฮิต มีทั้ง ต้ม ผัด แกง ทอด รสชาติอร่อยกลมกล่อม ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ฟินทุกคำ ว่าแต่มีเมนูอาหารอะไรบ้างตามไปดูเลย 

เมนูอาหารไทย
  • แกงเขียวหวาน

เมนูแกงเขียวหวาน เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยง่ายๆ ที่สามารถทำทานได้เอง โดยส่วนประกอบของแกงเขียวหวานที่ขาดไม่ได้อย่าง พริกแกง กะทิ มะกรูด ใบโหระพา มะเขือพวง เนื้อหมู เนื้อไก่ ปรุงรสชาติด้วย น้ำปลา น้ำตาลปิ๊บ ต้มให้สุกจะได้แกงเขียวที่มีกลิ่นหอมของสมุนไพรหลากหลายชนิด รสชาติอร่อยถึงใจ 

เมนูอาหารไทย
  • น้ำพริกกะปิปลาทู

สายสุขภาพไม่ควรพลาดกับ เมนูน้ำพริกกะปิปลาทูทอด ที่มาพร้อมกับนานาชนิดสด กรอบ ทานคู่กับน้ำพริกกะปิรสชาติเข้มข้น ราดบนข้าวสวยร้อนๆ รสชาติกลมกล่อมทานได้ทุกวัน และหากจากเพิ่มอร่อยได้มากขึ้นสามารถเสิร์ฟคู่กับไข่เจียวชะอมทอดเข้ากันสุดๆ 

เมนูอาหารไทย
  • ต้มยำกุ้ง

เป็นเมนูอาหารง่ายๆ ทําเองได้ที่บ้าน ซึ่งส่วนประกอบที่สำคัญอย่าง กุ้งสด หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด มะนาว พริกเผา นำส่วนผสมทั้งหมดต้มให้สุกจะได้ ต้มยำกุ้งที่มีรสชาติเข้มข้น เปรี้ยว เผ็ด กลมกล่อม อร่อยได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน

เมนูอาหารไทย
  • ข้าวยำปักษ์ใต้

เมนูเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วย สมุนไพรท้องถิ่นนานาชนิด อย่าง มะกรูด มะม่วงดิบ พริกขี้หนู ข่า เนื้อปลาป่น เนื้อกุ้งป่น นำมาคลุดเคล้ายำให้เข้ากัน จะได้ข้าวยำปักได้ที่มีกลิ่นหอมสมุนไพรพื้นบ้านโดดเด่นชวนทาน 

เมนูอาหารไทย
  • ข้าวซอยไก่

มาถึงอาหารเหนือกันบ้างกับ เมนูสุดฮิตอย่าง ข้าวซอยไก่ มีการนำหมี่ที่มีลักษณะคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยวไปทอดให้กรอบ และเตรียมน้ำแกงด้วยการนำเนื้อสัตว์ผัดกับพริกแกงกะทิ ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา น้ำตาล ตักใส่ถ้วยใส่หมี่กรอบ ทานคู่กับผักกาดดอง หอมแดงซอย และพริกสด 

เมนูอาหารไทย
  • ยำวุ้นเส้น

มาต่อที่เมนูลดน้ำหนักอย่าง ยำวุ้นเส้น รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม อร่อยครบรส ที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องเน้นๆ ไม่ว่าจะเป็น วุ้นเส้น หมู กุ้ง ปลาหมึก เห็ด ผักต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยำวุ้นเส้นยังเป็นเมนูที่มีปริมาณแคลน้อยสามารถทานได้ทุกวัน 

เมนูอาหารไทย
  • ข้าวผัดไข่

เมนูอาหารจานเดียว อาหารจานด่วนที่สามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว และที่สำคัญยังเป็นอาหารที่เด็กชอบทานกันเป็นประจำ นอกจากนี้เมนูข้าวผัดยังอุดมไปด้วยคุณค่าโภชนาการที่มีประโยชน์ แถมรสชาติอร่อยกลมกล่อม 

เมนูอาหารไทย
  • ส้มตำ

แนะนำเมนูอาหารไทยแซ่บ ๆ ทานได้ทุกวันไม่มีเบื่ออย่าง ส้มตำ เป็นอาหารอีสานยอดนิยมตลอดกาลทั้งคนไทย และคนต่างชาติ โดยเฉพาะส้มตำปูปลาร้า ตำซั่ว ตำข้าวโพดไข่เค็ม รสชาติเผ็ดจัดจ้าน เสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียว ไก่ย่างเข้ากันได้ดีที่สุด 

เมนูอาหารไทย
  • ผัดไทย

จัดได้ว่าเป็นอาหารจานโปรดของนักท่องเที่ยว และคนไทยจะนิยมซื้อมาทานเป็นประจำ สำหรับวัตถุดิบที่สำคัญ อาทิ เส้นก๋วยเตี๋ยว ไข่ไก่ กุ้งแห้ง เต้าหู้ เนื้อหมู กุ้งสด ผัดให้เข้ากันกับน้ำซอสรสเปรี้ยวหวาน ทำให้รสชาติกลมกล่อม เส้นผัดไทยเหนียวนุ่ม

เมนูอาหารไทย
  • แกงส้มปลากระบอก

เมนูแกงเผ็ดใต้ที่ได้รับความนิยมต้องยกให้ แกงส้มปลากระบอก น้ำแกงเข้มข้น รสชาติเผ็ดจัดจ้าน เนื้อปลากระบอกหอมกลมกล่อม โดยวิธีทำง่ายๆ เพียงนำ ปลากระบอก หน่อไม้ พริกแกงส้ม น้ำสะอาด ใบโหระพา น้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าว มะนาว เกลือ ใส่หม้อต้มให้สุก ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟคู่กับข้าวสวย 

สำหรับเมนูอาหารไทยยอดนิยมที่กล่าวมาเป็นเมนูที่สามารถทำทานได้ง่ายๆ โดยวัตถุดิบสามารถหาซื้อได้ตามตลาดสดทั่วไป และวัตถุดิบบางชนิดหาได้ตามสวนผักหลังบ้านอีกด้วย ดังนั้นใครคิดไม่ออกว่าจะทานอะไรดีเย็นนี้สามารถเลือกเมนูอาหารไทยที่เรานำมาแนะนำได้เลยถูกใจอิ่มอร่อยแน่นอน 

แชร์ เมนูอาหารไทย แคลน้อย ทานแล้วไม่อ้วน ได้สุขภาพบอกต่อ

เมนูอาหารไทย

ใครที่กำลังลดความอ้วนต้องการเมนูอาหารไทยแคลน้อย รสชาติอร่อย แนะนำอาหารไทยเมนูหมูนุ่มๆ อย่าง ต้มจืดหมูสับ เมนูทำง่ายมากๆ โดยส่วนประกอบจะมี ผักกาดขาว เต้าหู้ น้ำเปล่า กระเทียม แครอท ขึ้นฉ่าย พริกไทย ซีอิ้ว หมูสับ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อต้มให้สุกตักใส่ถ้วยได้เลย และอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยโบราณที่สามารถลดความอ้วนได้คือ หลนเต้าเจี้ยว เนื้อหมู เนื้อกุ้งแน่นๆ ทานคู่กับผักหลากหลายชนิดได้สุขภาพ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

เมนูอาหารทานเล่น ทอดมันกุ้ง เนื้อกุ้งแน่นจัดเต็ม กรอบนอก นุ่มใน 

ทอดมันกุ้ง

อีกหนึ่งเมนูอาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อยที่ไม่พูดถึงไม่ได้อย่าง ทอดมันกุ้ง ถือว่าเป็นเมนู อาหาร ไทยที่กำลังมาแรง แถมยังถูกอกถูกใจเหล่านักชิมที่ชอบไปตะเวนชิมตามร้านอาหารเจ้าดัง พร้อมทำคอนเทนต์ตามกระแสนิยมให้เห็นทางโซเซียลอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้มันกุ้งทอดกรอบๆ ยังถือว่าเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบทานมากๆ เพราะทานง่าย และรสชาติไม่เผ็ดอีกด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปทานอาหารนอกบ้าน เราก็มีสูตร ทอดมัน กุ้งกรอบนอก นุ่มใน มาให้ได้ทำทานเล่นๆ ในวันว่างๆ แถมยังสามารถทำได้หลายชิ้นทานได้อย่างจุใจ เต็มอิ่มกันไปเลย 

กระบวนการทำ ทอดมันกุ้ง กรอบอร่อย ไม่อมน้ำมัน เนื้อกุ้งเน้นๆ อร่อยเต็มคำ

ทอดมันกุ้ง

ทอดมัน กุ้ง เมนูของทอดที่มีจุดเด่นคือ เนื้อสัมผัสกรอบนุ่มเคี้ยวเพลิน และทานได้เรื่อยๆ หรือจะทานทั้งวันก็ยังได้ สำหรับมันกุ้งทอดที่ขายตามร้านอาหารจะมีสูตรมันทอดกุ้งเสียบไม้ แฮมห่อทอดมันกุ้ง และสูตรที่นิยมมากที่สุดจะเป็นทอดมันกุ้งโดนัทเนื้อกุ้งอัดแน่นแป้งกรุบกรอบสีเหลืองสวยงาม ในส่วนวิธี ทำ ทอดมัน กุ้งก็ง่ายมาก แต่สิ่งสำคัญของการทอดมันกุ้งจะต้องไม่อมน้ำมัน และต้องกรอบนาน ซึ่งวันนี้เรามีทริปเล็กๆ น้อยๆ การทำมันกุ้งทอดให้อร่อยและไม่อมน้ำมันมาฝากด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. กุ้งสับ 350 กรัม
  2. หมูเด้ง 200 กรัม
  3. แป้งมัน 4 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  5. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  7. เกล็ดขนมปัง 3 ถ้วยตวง
  8. รากผักซี 1 ต้น
  9. กระเทียม 5 กลีบ
  10. พริกไทย ½ ช้อนชา
ทอดมันกุ้ง

ส่วนผสม และวัตถุดิบของน้ำจิ้ม

  1. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  2. น้ำสะอาด 1 ช้อนชา
  3. เกลือ 1 ช้อนชา
  4. พริกชี้ฟ้าซอย ½ ช้อนชา
  5. แตงกวาซอย ½ ช้อนชา
  6. หอมแดงซอย ½ ช้อนชา
  7. ผักชี ½ ช้อนชา

ในการเตรียมกุ้งสดที่ใช้ทำทอดมันกุ้งจะต้องนำกุ้งมาล้างทำความสะอาด แกะเปลือกกุ้ง และเส้นดำหลังกุ้งออกล้างให้สะอาดด้วยน้ำโซดา และน้ำสะอาดอีกครั้ง เสร็จแล้วนำมาสับให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย เพื่อให้สะดวกต่อการทำมันกุ้งทอด ในส่วนของวิธี ทํา ทอดมัน กุ้ง ง่ายๆ ดังต่อไปนี้ 

ทอดมันกุ้ง
  1. นำกุ้งสับ หมูเด้ง ไข่ไก่เอาแต่ไข่แดง ซีอิ้วขาว น้ำเปล่า น้ำตาลทรายใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นเทแป้งมันนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และทำการตีแรงๆ เพื่อให้เนื้อเด้งนุ่ม จากนั้นพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วนำออกจากตู้เย็นปั้นเป็นก้อนขนาดพอดีคำ ซุปด้วยเกร็ดขนมปัง และทำเป็นหลุมตรงกลางคล้ายโดนัท 
  2. เสร็จแล้วทำการนำกระทะมาตั้งเตา เทน้ำสำหรับทอดลงไป ใช้ไฟปานกลาง จนถึงไฟอ่อนเล็กน้อย จากนั้นรอให้น้ำมันเดือดใส่มันกุ้งลงไปทอดให้สุก และแป้งจะต้องเหลืองกรอบ จากนั้นตักออกมาพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน 
  3. ต่อมาให้มาทำน้ำจิ้ม โดยเตรียมหม้อใส่น้ำสะอาด น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ นำไปเคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อนๆ ให้พอหนืด ปิดไฟ ใส่ผักชี แตงกวา หอมแดงซอย และพริกชี้ฟ้าซอย คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยเล็กๆ พร้อมเสริฟคู่กับกุ้งมันทอด
ทอดมันกุ้ง

เมนูทอดมันกุ้ง ถือว่าเป็นเมนู อาหาร ไทยที่ทำง่าย และไม่ต้องใช้วัตถุดิบเยอะเหมือนกับเมนูอื่น ที่สำคัญสามารถทำขายตามตลาดนัดขายดีคืนทุนได้เร็วสุดๆ แถมลูกค้าติดหนึบจนทอดขายแทบไม่ทันเลยทีเดียว หรือจะทำฝากเพื่อนๆ ได้ลองชิมก็ได้เช่นกัน เพราะมันกุ้งทอดที่ทำเองรสชาติอร่อยตามสูตรทอดมัน กุ้ง สูตร โบราณไม่มีผิดเพี้ยน 

แนะนำเมนูทอดมันกุ้ง สูตรมันกุ้งเต็มคำ สไตล์โฮมเมด ทำง่าย อร่อยด้วย

ทอดมันกุ้ง

สำหรับการทำทอดมันกุ้ง สไตล์โฮมเมดตามฉบับอาหาร ไทย ยอด นิยม ส่วนใหญ่จะไม่ใส่มันกุ้งลงไปในส่วนผสม เพราะบางคนไม่ชอบกลิ่นของมันกุ้งนั่นเอง แต่สำหรับสาวกมันกุ้งเรามีสูตรมันกุ้งทอดใส่มันกุ้งเน้นๆ โดยส่วนผสม และวิธีการทำจะคล้ายๆ กับสูตรดั้งเดิมที่เรานำมาแชร์ แต่จะเพิ่มมันกุ้งให้มีกลิ่นที่หอมเหมือนทานกุ้งเต็มคำ เมื่อทำเสร็จแล้วก็เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดอร่อยจนต้องบอกต่อ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

สูตรเก่าเล่าใหม่ แกงส้มชะอมกุ้ง รสจัดจ้าน อาหารยอดนิยมตลอดกาล

แกงส้มชะอมกุ้ง

หากพูดถึงเมนูที่ทำยาก และเป็นเมนูปราบเซียนต้องยกให้ แกงส้มชะอมกุ้ง เพราะการทำแกงส้มจะต้องมีเคล็ดลับ และสูตรเด็ด โดยวัตถุดิบที่จะช่วยให้แกงส้มชะอมกุ้งอร่อยได้นั้นขึ้นอยู่กับพริกแกง โดยเฉพาะพริกแกงส้มที่ทำเองจะมีรสเผ็ดจัดจ้าน และหอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ อย่างกระชาย และหอมแดง เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็สามารถทำแกงส้ม ชะอมกุ้งเองได้แล้ว นอกจากนี้ในปัจจุบันมีการทำน้ำพริกแกงส้มสำเร็จรูปที่ได้คุณภาพ ทำให้ลดเวลาในการเตรียมพริกแกงได้สะดวกมากขึ้น แถมยังสามารถทำเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมอย่างแกงส้มได้หลายหม้ออีกด้วย

ขั้นตอนการทำ แกงส้มชะอมกุ้ง สูตรทำเอง ทำง่าย อร่อยเด็ดเผ็ดจัดจ้าน 

แกงส้มชะอมกุ้ง

ใครที่กำลังหาเมนูอาหารอร่อยรสชาติจัดจ้านทำทานเองในครอบครัว ขอแนะนำแกงส้มชะอมกุ้ง หนึ่งในเมนูอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบทาน และยังเป็นเมนูสุดโปรดปรานของคนไทยอีกด้วย ซึ่งรสชาติมีความอร่อยนัวร์ น้ำแกงเข้มข้นสีสันน่าทานสุดๆ อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ทำง่ายๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากคนที่ไม่เคยทำอาหารมาก่อนก็ทำได้ เพราะเรามีเทคนิคการทำแกงส้ม ชะอม ไข่ใส่กุ้งให้ได้รสชาติตามแบบดั้งเดิมมาให้ได้ทำตาม ส่วนจะทำอย่างไรนั้นต้องมาดูกัน

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำพริกแกงส้ม

แกงส้มชะอมกุ้ง
  1. พริกแห้ง 10 เม็ด
  2. หอมแดง 5-7 หัว
  3. กระชาย 5 ราก
  4. กะปิ 1 ช้อนชา
  5. กระเทียม 6 กลีบ
  6. เนื้อปลาต้มสุก 1 ถ้วย
  7. เกลือป่น 1 ช้อนชา

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำแกงส้ม

แกงส้มชะอมกุ้ง
  1. กุ้งสดขนาดกลาง 10 ตัว
  2. ชะอม 1 ถ้วยตวง
  3. ไข่ไก่ 4-5 ฟอง
  4. พริกแกงส้ม 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนชา
  6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลปิ๊ป 1 ½ ช้อนโต๊ะ

การทำแกงส้มชะอมกุ้งให้ได้น้ำแกงที่อร่อยนัวร์ตามสูตรเมนู อาหาร ไทยดั้งเดิม เราจะต้องใส่ปลาต้มสุกโขลกในพริกแกงด้วย หรือถ้าใครไม่ชอบปลาต้มสุกสามารถตัดออกจากส่วนผสมของพริกแกงได้เลย และในส่วนของพริกแกงส้มที่เหลือจากการทำอาหารสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 5-6 วัน 

แกงส้มชะอมกุ้ง
  1. อันดับแรกเราจะมาทำพริกแกงส้ม ด้วยการนำพริก หอมแดง กระเทียม กระชายหั่นเป็นชิ้นๆ โขลกให้เข้ากัน ตามด้วยเนื้อปลาต้มสุกแกะเอาแต่เนื้อ ใส่กะปิ เกลือป่น โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อน
  2. ลำดับดับต่อมาจะเป็นการทำไข่เจียว เริ่มจากล้างผักชะอม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตอกไข่ใส่ในชามตีส่วนผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา เกลือป่น ตีให้เข้ากัน จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟปานกลาง รอให้น้ำมันร้อนแล้วใส่ไข่ที่เตรียมไว้ลงไปทอดให้สุก ตักใส่จาน และหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 
  3. นำหม้อใส่น้ำ นำมาตั้งเตา รอให้น้ำเดือด จากนั้นใส่น้ำพริกแกงส้มลงไป คนให้ทั่ว รอให้น้ำเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขาม และน้ำตาลปิ๊ป จากนั้นใส่กุ้งสดลงไป ตามด้วยไข่ชะอมทอด รอให้กุ้งสุกดีแล้วติดไฟ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟบนโต๊ะทานข้าวได้เลย
แกงส้มชะอมกุ้ง

การทานแกงส้มชะอมกุ้งได้อรรถรสจะต้องทานตอนที่น้ำแกงกำลังร้อนจะทำให้ซดได้คล่องคอ ในส่วนเนื้อกุ้งแน่นกรุบๆ ผสมสานกับไข่ชะอมทอดที่หอมสุดๆ หากได้ลองทานกับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งทำให้ทานอร่อยฟินมากขึ้นเป็นสองเท่าเลยทีเดียว สำหรับการทำอาหาร ไทยอย่างแกงส้มทำเองจะเห็นได้ว่าไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตามสูตรที่เราแนะนำก็สามารถทำแกงส้มอร่อยๆ กำลังดีได้แล้ว

เทคนิคลับ แกงส้มชะอมกุ้ง รสเด็ด ทำอร่อยง่ายๆ ทานฟินทั้งบ้าน 

แกงส้มชะอมกุ้ง

แกงส้ม ชะอมกุ้ง เป็นอาหาร ไทย ยอด นิยมที่สามารถทำเก็บไว้ทานในวันถัดไปได้โดยที่รสชาติยังอร่อยกลมกล่อมเหมือนเดิม เพียงแค่ในการทำแกงส้มชะอมทอดใส่กุ้งในขั้นตอนการทำพริกแกงจะต้องใส่เนื้อกุ้ง หรือเนื้อปลาลงไปโขลกจะทำให้น้ำแกงเข้มข้นมากขึ้น และก่อนนำพริกแกงลงในหม้อต้มจะต้องรอให้น้ำเดือดก่อน เพื่อไม่ให้น้ำแกงคาว อีกทั้งต้องปรุงด้วยน้ำมะขามตามสูตรจะทำให้รสน้ำแกงเปรี้ยวกลมกล่อมไม่เหมือนใคร 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

แจกสูตรเด็ดแสนอร่อย ฉู่ฉี่ปลาทู น้ำแกงเข้มข้น กลิ่นหอมอบอวลเกินห้ามใจ

ฉู่ฉี่ปลาทู

ปลาทู เป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาทำอาหารทะเลได้หลากหลายเมนูอาทิ ฉู่ฉี่ปลาทู ที่มีส่วนประกอบของพริกแกง และกะทิทำให้น้ำแกงมีความหอมเป็นพิเศษ แถมรสชาติยังมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สำหรับฉู่ฉี่ ปลา ทูมีทั้งสูตรแกงฉู่ฉี่ปลาทูนึ่ง และปลาทูสดที่ให้รสชาติของเนื้อปลาที่มีความแตกต่างกัน แต่รสชาติอร่อยเหมือนกัน นอกจากนี้เมนูฉู่ฉี่สูตรปลาทูยังเป็นเมนูอาหารที่ขายดิบขายดีราคาไม่แพงเกินไป และที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำเองได้ง่ายๆ เพียงแค่มีปลาทูก็สามารถทำได้แล้ว

เผยวิธีทำ ฉู่ฉี่ปลาทู สูตรเด็ด เมนูประจำบ้าน ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก 

ฉู่ฉี่ปลาทู

ฉู่ฉี่ ปลาทู เป็นอาหาร ไทยที่ได้รับความนิยมมากตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย โดยวัตถุดิบหลักจะเป็นปลาทูนึ่ง หรือปลาทูสดที่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดสดทั่วไป และอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้เลยก็คือพริกแกงเผ็ดที่มีการนำสมุนไพรพื้นบ้านหลากหลายชนิดมาตำรวมกันทำให้ได้พริกแกงที่หอมสุดๆ สำหรับคนที่ชอบทานฉู่ฉี่ปลาทูรสชาติเข้มข้นอร่อยๆ แต่อยากลองทำทานเองในวันว่างๆ เรามีสูตรฉู่ฉี่ปลาทูโบราณที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองมาให้ได้ติดตาม ว่าแต่จะทำง่าย หรือยากแค่ไหนตามไปดูกันได้เลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำพริกแกงเผ็ด

  1. พริกจิดาแห้ง 120 กรัม
  2. ลูกผักซี 2 ช้อนโต๊ะ
  3. รากผักซีสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ข่าสับละเอียด 5 ช้อนโต๊ะ
  5. ตะไคร้สับละเอียด 4 ช้อนโต๊ะ
  6. ผิวมะกรูดสับละเอียด 4 ช้อนโต๊ะ
  7. หอมแดง 80 กรัม
  8. กะปิ 1 ช้อนชา
  9. พริกไทยขาวเม็ด 10 เม็ด
  10. เกลือ 1 ช้อนชา
ฉู่ฉี่ปลาทู

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมทำฉู่ฉี่สูตรปลาทู

  1. ปลาทูสด 800 กรัม
  2. พริกแกงเผ็ด 4 ช้อนโต๊ะ
  3. หัวกะทิ ¾ ถ้วยตวง
  4. น้ำตาลปิ๊ป 70 กรัม
  5. หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
  6. ใบมะกรูดซอย 5 ใบ
  7. พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด
  8. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

สำหรับพริกแกงเผ็ดที่ใช้ทำฉู่ฉี่ปลาทูจะใช้พริกแกงที่ตำเองจะมีความหอมมากกว่าพริกแกงสำเร็จรูป และในสูตรฉู่ฉีในวันนี้จะเป็นสูตรฉู่ฉี่ ปลา ทู สด หรือบ้านไหนมีปลาทูนึ่งก็ใช้ปลาทูนึ่งแทนได้เลย ส่วนวิธีทำก็สามารถทำตามได้ดังนี้

ฉู่ฉี่ปลาทู
  1. ในขั้นตอนแรกจะมาทำเครื่องแกงกันก่อน โดยเริ่มจากนำพริกแห้งมาตัดเป็นชิ้นๆ นำเม็ดออก นำไปแช่น้ำทั้งไว้ประมาณ 10 นาที โขลกลูกผักซี และเม็ดพริกไทยให้ละเอียด ตามด้วยตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด หอมแดง กระเทียม กะปิ เกลือ และพริกที่แช่น้ำไว้ตำให้ส่วนผสมทั้งหมดละเอียด ตักใส่ภาชนะ
  2. นำปลาทูมาล้างทำความสะอาด ดึงเอาเหงือก และไส้ทิ้งล้างให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ต่อมาให้นำกระทะมาตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช รอให้น้ำมันร้อนใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ลงไป ผัดให้หอม ใส่หัวกะทิครึ่งหนึ่งลงไปผัดให้กะทิแตกมัน และใส่หัวกะทิ หางกะทิครึ่งหนึ่ง ใส่ใบมะกรูดฉีก ตามด้วยน้ำตาล และน้ำปลา ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่ปลาทูสดลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ใส่หางกะทิที่เหลือลงไป ปิดฝารอประมาณ 5 นาที ให้น้ำแกงงวด ตักน้ำแกงราดตัวปลา และนำใบมะกรูดซอยมาโรย ตามด้วยพริกชี้ฟ้าซอย ตักใส่จานราดด้วยหัวกะทิในขั้นตอนสุดท้าย
ฉู่ฉี่ปลาทู

ในการทำฉู่ฉี่ปลาทูตามสูตรฉู่ฉี่ปลาทูใส่กะทิจะต้องทำให้กะทิแตกมัน เพื่อทำให้น้ำแกงมีกลิ่นหอม และช่วยให้น้ำแกงซึมเข้าเนื้อปลามากยิ่งขึ้น เมื่อนำมารับประทานจะได้เนื้อสัมผัสของฉู่ฉี่ที่ลงตัวสุดๆ เหมือนรสชาติตามสูตรเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมดั้งเดิมเลยทีเดียว 

การเลือกปลาทูทำ เมนูฉู่ฉี่ปลาทู ไม่คาว รสชาติอร่อยตามสูตรดั้งเดิม 

ฉู่ฉี่ปลาทู

ฉู่ฉี่ปลาทูเป็นเมนูอาหาร ไทย ยอด นิยมที่มีรสชาติอร่อย กลิ่นหอมชวนหิวเป็นอย่างมาก และเมนูนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูประจำบ้าน และเมนูประจำร้านข้าวแกงที่ขายดีสุดๆ เท่านั้นยังไม่พอเมนูฉู่ฉี่สูตรปลาทูยังเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบลองชิมตามร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวเป็นประจำ แต่การทำฉู่ฉี่ปลาทูให้อร่อยจะต้องเลือกปลาทูสด โดยสังเกตจากตาปลาจะนูน ตาดำสีสดใส ส่วนท้องมีสีขาว เหงือกแดง ไม่มีกลิ่น เนื้อแน่น เพียงแค่นี้ก็จะได้ปลาทูที่สดใหม่นำมาทำฉู่ฉี่ปลาทูสดอร่อยกว่าเดิมหลายเท่า 

อ่านบทความอื่นๆ: