สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารไทย

ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ เมนูจานเด็ดหอมกลิ่นพริกแกงกับกุ้งตัวโตๆ

ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ
ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ

วันนี้ใครที่เข้าครัวทำอาหาร เราขอแนะนำอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยสูตรดั้งเดิม ที่ได้รับความนิยมให้ปัจจุบัน นั่นก็คือ “ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ” เป็นเมนูประเภทน้ำแกงข้นขลุกขลิกและหาทานได้ไม่บ่อยนัก มีรสชาติที่อร่อย หวานช่ำของเนื้อกุ้ง บวกกับรสชาติน้ำแกงเผ็ด เค็ม หวาน ครบเครื่องมากๆ หากกินกับข้าวสวยร้อนๆบอกเลยว่าฟินสุดๆ โดยปกติแล้วเมนูนี้นิยมนำ ปลาเนื้ออ่อน หรือปลาแม่น้ำมาทำฉู่ฉี่ แต่วันนี้เราจะทำฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ ที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนรสชาติจากฉู่ฉี่แบบธรรมดา

ส่วนผสมหลักของเมนูฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ

วัตถุดิบส่วนผสมเมนู ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ สามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งเมนูฉู่ฉี่ เราสามารนำเนื้อสัตว์ที่เราชื่นชอบมาประกอบอาหารได้ เช่น ไก่ หมู ปลา และกุ้งหมึก จะทำให้เมนูนี้แปลกใหม่ไปอีกแบบ และการที่เราทำพริกแกงเอง ก็จะยิ่งทำให้เมนูจานนี้อร่อยและพิเศษมากขึ้นไปอีก อย่ารอช้าตามเรามาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ

ส่วนผสมพริกแกงเผ็ด

  1. พริกชี้ฟ้าแห้งเอาเม็ดออกตามใจชอบ
  2. พริกขี้หนูแห้งเอาเม็ดออกตามใจชอบ
  3. กระเทียม 10 กลีบ
  4. หอมแดงซอย 7 หัว
  5. ข่าซอย 1 ช้อนชา
  6. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  7. รากผักชีสับ 1 ช้อนชา
  8. เกลือทะเล 1 ช้อนชา
  9. กะปิ 1 ช้อนชา

ส่วนผสมและเครื่องปรุงรส

  1. กุ้งแม่น้ำ 6 ตัว
  2. กะทิ 3 ถ้วย
  3. พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบตามใจชอบ
  4. ใบมะกรูดหั่นฝอย 4 ใบ
  5. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ผงปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ
ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. นำพริกชี้ฟ้าแห้ง พริกขี้หนูแห้งพร้อมเกลือทะเลลงไปในครกแล้วโขลกจนพริกแหลก ใส่ข่าและตะไคร้หั่น ตามลงไปแล้วโขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียว ตามด้วยตามด้วยหอมแดง กระเทียม รากผักชี กะปิ โขลกต่อจนพริกแกงเนียนเป็นเนื้อเดียวกันหรือจะนำไปปั่นก็ได้ จากนั้นพักไว้
  2. นำกุ้งแม่น้ำตัดหนวด ผ่าหลัง เอาเส้นดำออก จากนั้นนำกระทะขึ้นตั้งไฟใส่นำมัน รอจนน้ำมันเริ่มเดือด แล้วใส่กุ้งแม่น้ำลงไปทอดพอแค่ให้เนื้อกุ้งสุดกำลังดี แล้วตักออกมาพักไว้
  3. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ แล้วนำกะทิครึ่งหนึ่งไปลงไปผัดให้แตกมันตามด้วยน้ำพริกแกงที่ทำไว้ ลงไปผัดจนเครื่องแกงหอม จากนั้นเติมกะทิส่วนที่เหลือลง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลเคี่ยวต่อให้งวดพอได้ที่แล้วปิดไฟ
  4. จัดจานเรียงกุ้งที่ทอดไว้ให้สวยงาม จากนั้นตักน้ำแกงราดไปที่ตัวกุ้งที่เราจัดจานไว้ แล้วตกแต่งหน้าตาด้วยใบมะกรูดซอยและพริกชี้ฟ้า

เอาล่ะค่ะ เสร็จกันไปแล้วกับเมนูฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สูตรนี้บอกเลยว่าทำกินเองกับครอบครัวยิ่งอร่อย หรือทำขายก็ขายดิบขายดีเลยค่ะ และเราก็ดีสูตรเคล็ดที่ไม่ลับมาแนะนำทุกคนด้วย คือ การเลือกซื้อกุ้งที่ดี หัวกุ้งและลำตัวต้องไม่หลุดออกจากกันเนื้อต้องแน่นไม่เหลว เละ ถ้าจับส่วนหนวดกุ้งแล้วยกขึ้นหัวต้องไม่หลุดออกจากกัน ส่วนเราแนะนำกะปิแกงจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพราะจะได้รสชาติที่ดีกว่ากะปิตามตลาดทั่วไป

Categories
อาหารไทย

คั่วกลิ้งซี่โครงหมู เมนูอาหารใต้ เผ็ดร้อนแซ่บถึงใจ

คั่วกลิ้งซี่โครงหมู
คั่วกลิ้งซี่โครงหมู

หากถามถึงอาหารใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสเผ็ด แซ่บถึงเครื่องพริกแกง หลายๆ คนคงจะนึกถึง คั่วกลิ้ง ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านของคนใต้ ที่นำเนื้อสัตว์ที่เราชื่นชอบไม่ว่าจะเป็น หมู ไก่ เนื้อวัว มาคั่วกับพริกแกงจนแห้ง ให้เข้าเนื้อ มีรสจัดและเข้มข้น นิยมรับประทานคู่กับผัก และในวันนี้เราก็มีเมนูคั่วกลิ้งมาแนะนำนั่นก็คือ “คั่วกลิ้งซี่โครงหมู” เสริมทัพด้วยการกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ บอกเลยว่าฟินสุดๆ พิเศษสุดๆ กับเมนูจานนี้ด้วยการทำพริกแกงแบบสดๆ ด้วยมือเราเอง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปติดตามขั้นตอนการทำกันเลย

ส่วนผสมหลักของเมนูคั่วกลิ้งซี่โครงหมู

เมนูคั่วกลิ้งซี่โครงหมู เป็นอาหารภาคใต้ ส่วนผสมหลักก็คือพริกแกง และเนื้อสัตว์หรือ ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป แต่ที่พิเศษสุดๆ ของเมนูนี้คือเรามีขั้นตอนการทำพริกแกงสดๆมาให้ทุกคนได้ทำตาม ซึ่งเป็นวิธีการทำพริกแกงเองที่ทำได้ง่ายมากๆ ไม่ยุ่งยากแถมยังอร่อย เข้มข้นและเผ็ดแซ่บแน่นอน โดยส่วนผสมหลักมีดังนี้

  1. ซี่โครงหมู 1 กิโลกรัม
  2. พริกชี้ฟ้าแดงแห้งตามความชอบ ใส่มากเผ็ดมากใส่น้อยเผ็ดน้อย
  3. ใบมะกรูดซอย 10 ใบ
  4. กระเทียม 1 หัว
  5. พริกไทยสด 30 กรัม หรือจะใส่ตามใจชอบก็ได้
  6. ขมิ้นหั่นแว่น 30 กรัม
  7. พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ข่าหั่นแว่น 30 กรัม
  9. ตะไคร้ซอย 3 หัว
  10. เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  13. กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  14. ผิวมะกรูด1/2 ช้อนโต๊ะ
  15. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
คั่วกลิ้งซี่โครงหมู
คั่วกลิ้งซี่โครงหมู

ขั้นตอนวิธีการทำ

ขั้นตอนแรกคือการทำพริกแกง สูตรโบราณได้ง่ายๆ คือ ใส่พริกชี้ฟ้าแดงแห้งลงไปในครก ตามด้วยกระเทียม ขมิ้นหั่นแว่น พริกไทยเม็ด ข่าหั่นแว่น ตะไคร้ซอย เกลือสมุทร กะปิ และผิวมะกรูด แล้วโขลกให้ละเอียด หรือปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน

  1. นำกระทะขึ้นตั้งไฟระดับปานกลาง แล้วเทน้ำมันลงไป รอจนน้ำเริ่มร้อน แล้วใส่ซี่โครงหมูลงไปผัดจนแห้ง
  2. ใส่พริกแกงที่ทำไว้ลงไปในกระทะ แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน
  3. ใส่ใบมะกรูดซอย และพริกไทยเม็ดลงไป ผัดให้เข้ากัน และยกออกจากเตา
  4. ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทำคน สำหรับเมนูอาหารใต้รสเด็ดเผ็ดร้อน อย่าง “คั่วกลิ้งซี่โครงหมู” รสชาติอร่อยถูกใจระดับภัตตาคาร! อีกทั้งเรายังสามารถใส่เนื้อสัตว์ได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว และกระดูกหมู ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

Categories
อาหารไทย

แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน อาหารพื้นบ้านชาวล้านนา

แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน
แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน

หากพูดถึงแกงอ่อม หลายๆ คนอาจจะนึกถึงอาหารอีสาน แต่อาหารในชื่อเดียวกันนี้ก็ยังไปตรงกับชื่ออาหารประจำท้องถิ่นของชาวล้านนาอย่าง “แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน” ถึงทั้งสองอย่างจะมีชื่อคล้ายกัน แต่วิธีการทำก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะเมนูนี้ถือว่าเป็นอาหารชั้นดีอย่างหนึ่งของชาวล้านนา โดยใช้เนื้อหมูและเครื่องใน เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งชาวล้านนานิยมใช้เลี้ยงแขกในเทศกาลงานเลี้ยงต่างๆ เล่ามาถึงตรงนี้แล้วหลายๆ คนคงอยากที่จะลิ้มรสเมนูนี้แล้ว และวันนี้เราก็มีขั้นตอนการทำมาให้ทุกคนได้ทำตามกันแล้ว ไปติดตามกันเลย

ส่วนผสมหลักของเมนูแกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน

วัตถุดิบการทำ แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน หลักๆ ก็มีไม่มาก และไม่ยุ่งยาก สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป เป็นเมนูที่คนภาคเหนือชื่นชอบ และสิ่งที่ทำให้แกงอ่อมนี้แตกต่างจากแกงอ่อนอีสานก็คงจะเป็นแกงอ่อมไม่ใส่ปลาร้า เหมาะกับคนเหนือที่อยู่ต่างจังหวัดแล้วคิดถึงบ้าน ขั้นตอนการทำก็ง่ายๆ ทำได้ไม่ยุ่งยาก อย่ารอช้าเรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีทำกันเลยค่ะ

แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน
แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. กระดูกหมูอ่อน หรือ เนื้อสัตว์อื่นๆ ตามใจชอบ 300 กรัม
  2. พริกลาบเหนือ ใส่ตามความชอบ
  3. หัวหอมแดง 5 หัว
  4. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  5. รากผักชี 4 ต้น
  6. ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง ใส่ตามความชอบ
  7. ใบมะกรูดฉีก 10 ใบ หรือใส่ตามความชอบ
  8. น้ำเปล่า 1 และอีกครึ่ง ถ้วยตวง
  9. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  11. เกลือ 1 ช้อนชา
  12. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  13. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. นำ พริกลาบ, รากผักชี, หัวหอมแดง และกะปิ มาตำให้ละเอียด หรือ ปั่นให้เข้ากัน
  2. จากนั้นตั้งกระทะให้ร้อน แล้วใส่น้ำมันลงไป พอเริ่มน้ำมันร้อน ให้ใส่เครื่องที่ตำไว้ลงไปผัดให้ได้กลิ่นหอม แล้วใส่กระดูกหมูอ่อน ลงไปผัดให้สุก
  3. หลังจากนั้น ก็เติมน้ำลงไปตามด้วยใบมะกรูดที่ฉีกไว้ รอจนกว่าน้ำเดือด แล้วปิดฝา ตุ๋นไฟอ่อนไปประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าหมูจะนุ่ม
  4. พอครบเวลาก็เปิดฝา ปรุงรสด้วย น้ำปลา เกลือ น้ำตาล ผงปรุงรส ชิมและปรุงรสได้ตามที่ชอบ จากนั้นก็ปิดไฟ แล้วใส่ ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง ที่หั่นแล้วลงในกระทะ แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักใส่ถ้วย พร้อมเสริฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับขั้นตอนการทำ แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน ถือได้ว่าเป็นอาหารพื้นบ้านชาวล้านนาที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน เป็นเมนูง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน แถมอร่อยถูกปาก ทำกินได้ทั้งครอบครัว หรือจะทำขายก็ได้กำไรงาม แนะนำเพิ่มเติมคุณไม่จำเป็นต้องใส่แค่กระดูกหมู แต่คุณสามารถเลือกใส่เครื่องใน หรือเนื้อสัตว์เพิ่มได้ตามความชอบ

Categories
อาหารไทย

เมนู แกงส้ม อาหารไทยที่แสนคุ้นเคย อร่อยต้องบอกต่อ

แกงส้ม
แกงส้ม

แกงส้ม เป็นอาหารพื้นบ้าน มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน นิดหน่อย เนื้อสัตว์ที่นำมาแกงส้ม มีปลาช่อน ปลาดุก ปลากุเลา ปลาเก๋า ปลาหมอไทย ปลาหมอเทศ กุ้งชีแฮ้ กุ้งนาง กุ้งก้ามกราม หอยแมลงภู่ หอยแครง หอยลาย ถ้าไม่มีเนื้อสัตว์อะไรก็ใช้เนื้อหมูแทนก็ได้

สำหรับผักที่เก็บมาแกงส้มได้ มีผักกาดขาว หัวแครอท เห็ด ลูกมะตาด ลูกแตงโมอ่อน เปลือกแตงโม หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ต้ม หน่อไม้ดอง มะละกอดิบ (แกงส้มมะละกอกับกุ้ง) ดอกหอม กะหล่ำปลีดอก กะหล่ำปลีใบ กะหล่ำปลีปม ยอดมะพร้าวอ่อน ไส้อ่อนกล้วย หัวปลี ฟักเขียว ถั่วฝักยาวถั่วแขก ถั่วลันเตา ถั่วพู ผักบุ้งไทย ผักบุ้งจีน ผักกระเฉด สายบัว ลูกฟักข้าว ดอกขจร ดอกแค ดอกโสน ฟักทอง มะรุม ใบกระเจี๊ยบ ฝักข้าวโพดอ่อน ฝักกระเจี๊ยบอ่อน แตงกวา แตงร้าน บร็อคโคลี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ผักหนามดอง ผักกาดเขียวดอง ยอดฟักทอง

การปรุงแกงส้มยากกว่าแกงเผ็ด เพราะมีสามรส จะต้องปรุงให้มีรสออกเปรี้ยวเค็มหวาน กลมกล่อมไม่เปรี้ยวจนเกินไป หรือเค็มขึ้นหน้า จะต้องมีเปรี้ยวขึ้นหน้า นำเค็มกับหวานตาม ผักบางอย่างไม่ต้องการเคี่ยวให้สุกมาก เช่น ผักกระเฉด ลวกด้วยน้ำแกงส้มร้อน ๆ ผักจะกรอบดี ไม่เหนียว ปรุงน้ำแกงให้ได้รสอร่อยเวลารับประทานตั้งน้ำแกงให้เดือด จึงใส่ผักกระเฉด กะพอสุกทยอย รับประทานเป็นถ้วย ถ้าผักกระเฉดสุกมากเกินไป จะเหนียวไม่น่ารับประทาน

สำหรับผักบางอย่างเคี่ยวให้สุก หรือเป็นแกงส้มค้างคืน จะอร่อยกว่าแกงเสร็จก็ รับประทานเลย เช่น พวกแกงส้มมะละกอ แกงส้มหัวผักกาด แกงส้มหน่อไม้ แกงส้มฟักแฟง การทิ้งไว้ค้างคืนจะทำให้มีรสอร่อย ถ้าเป็นแกงส้มพวกใบไม้ ควรแกงรับประทานทันที ไม่ควรค้างคืน

แกงส้ม
แกงส้ม

เครื่องปรุงน้ำพริกแกงส้ม

1. แกงส้มธรรมดา พริกแห้ง 5 เม็ด หัวหอม 5 หัว กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
2. แกงส้มใส่เนื้อสัตว์ที่มีคาว พริกแห้ง 7 เม็ด หัวหอม 7 หัว กระเทียม 5 กลีบ ข่า 3 แว่น กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
3. แกงส้มแบบแกงเหลือง พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด หัวหอม 7 หัว หัวกระเทียม 15 กลีบ ขมิ้นสด 1 ท่อน ยาว 3 ซม. ถ้าเป็นขมิ้นผง 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา กะปิ ½ ช้อนชา ข้าวสาร 1 ช้อนชา
4. แกงส้มพริกขี้หนูสด พริกขี้หนูสด 20 เม็ด หัวหอม 5 หัว กระเทียม 5 กลีบ กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ 

เนื้อสัตว์ที่ใช้กุ้งชีแฮ้ กุ้งนาง หรือกุ้งก้ามกราม ปลาช่อนสด รสเปรี้ยวที่ใส่ในแกงส้ม มีน้ำส้มมะขาม ใช้ได้ทั้งน้ำส้มมะขามเปียก น้ำส้มมะขามสด มะดัน น้ำมะกรูด น้ำมะนาว

แกงส้มบางอย่างใช้ทั้งน้ำส้มมะขาม และน้ำมะนาว เพื่อให้มีรสเปรี้ยวนำ มีรสเหมือนต้มยำเพื่อให้แซบ

แกงส้มที่อร่อย นอกจากรสกลมกล่อม เปรี้ยวนำเค็มหวานตามแล้ว เนื้อปลากุ้งหรือหอย จะต้องสดไม่เหม็นคาว ต้องใส่เนื้อปลา กุ้งหรือหอยในขณะที่น้ำแกงเดือด ปรุงรสน้ำส้มมะขาม น้ำปลา น้ำตาลเล็กน้อย ชิมให้ได้รสตามต้องการจึงใส่ผักแล้วยกขึ้น

สำหรับแกงส้ม ฟัก แฟง มะละกอ ยอดอ่อนฟักทอง จะต้องใส่ผักให้สุกก่อน จึงใส่น้ำส้มมะขาม น้ำปลา น้ำตาลปรุงรส เคี่ยวให้ผักสุกจึงยกขึ้น

เวลาแกงส้มไม่ควรใส่น้ำมาก ต้องกะเผื่อสำหรับน้ำส้มมะขามด้วย ถ้ามีน้ำมากเกินไปจะทำให้รสแกงไม่เข้ม อ่อนเปรี้ยว อ่อนเค็ม ทำให้ไม่น่ารับประทาน แต่ไม่ควรรสจัดมาก จะหมดความอร่อยควรกะพอน้ำแกงท่วมผัก กุ้งและปลา ถ้าแกงส้มผักกาดดอง ผักหนามดอง หน่อไม้ดอง จะต้องลดความเปรี้ยวลง เช่น ใส่น้ำส้มมะขามเพียง 1 ช้อนโต๊ะ หรือ 2 ช้อนโต๊ะก็พอ

พวกผักในแกงส้ม เมื่อสุกแล้วจะเก็บรสความเปรี้ยว ความเค็ม หวาน ไว้ในเนื้อผัก ด้วยเหตุนี้เมื่อทิ้งแกงส้มสักระยะหนึ่ง น้ำแกงส้มจะมีรสอ่อนทันที เพราะฉะนั้นเวลาปรุงน้ำแกงส้มจะต้องมีรสจัดเพิ่มเล็กน้อย เพื่อให้รสแกงที่กำลังอร่อย

แกงส้มเป็นอาหารพื้นบ้านที่ทำได้ง่ายกว่าแกงอย่างอื่น มีราคาถูก ใช้ผักได้ทุกชนิด ถ้ามีเนื้อเค็มแดดเดียว ปลาเค็มแดดเดียว หมูทอด ไก่ทอด ปลาทอด ไข่เค็ม ไข่ฟูหมูสับ ไข่ทอด หอยทอด แกล้มกับแกงส้ม จะรู้สึกว่าเป็นอาหารที่อร่อยวิเศษสุด และเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะกับประเทศไทยและคนไทย

 

Categories
อาหารไทย

สูตรทำก๋วยเตี๋ยวเป็ด เมนูเส้นแสนอร่อย อาหารไทยยอดนิยม

ก๋วยเตี๋ยวเป็ด
ก๋วยเตี๋ยวเป็ด

วันนี้เราจะมาสอนทำ ก๋วยเตี๋ยวเป็ด สูตรเด็ดที่หลายๆร้านได้นำไปใช้กัน และสามารถนำมาทำเองได้ที่บ้าน ก๋วยเตี๋ยวเป็ด เป็นเมนูที่หลายๆท่านชอบทาน แต่บางครั้งเมนูนี้ก็มีราคาที่สูง แต่ถ้าเราทำทานเองที่บ้านเราก็จะรู้ว่ามันทำง่ายและวัตถุดิบก็ไม่แพงอย่างที่ท่านคิด อาจจะใช้เวลาสักหน่อยแต่ออกมาอร่อยแม่นอน 


เครื่องปรุงน้ำซุป


– น้ำ 1.5 ลิตร
– โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
– อบเชย 1 ก้าน
– รากผักชี 1 ราก
– พริกไทย 10 เม็ด
– กระเทียม 3 กลีบกลางๆบุบพอแหลก
– ซีอิ๊วดำหวาน 2.5 ช้อนโต๊ะ
– ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลปี้ป 1.5 ช้อนโต๊ะ
– ซุปไก่ก้อนคนอร์ 1 ก้อน


          เริ่ม จากตั้งน้ำให้เดือดจัดๆแบบนี้ครับ แล้วก็เอาเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ใส่ลงไปทั้งหมด ยกเว้นน้ำตาลครับ ชิมนิดนึงครับ ถ้าหวานไม่พอแล้วค่อยใส่น้ำตาลปี๊บลงไปครับ เพราะซีอิ๊วดำหวานเนี่ยมันจะหวานปะแล่ม ๆ อยู่แล้ว เดี๋ยวหวานไปจะแก้ยาก พอใส่เครื่องปรุงหมดแล้วก็เคี่ยวให้เดือดจัด 3 นาที แล้วหรี่เป็นไฟอ่อน ประมาณ 18 นาที เท่านี้เราก็ได้น้ำซุปแล้ว
-น้ำซุปเสร็จแล้วเราก็เตรียมเครื่อง ก๋วยเตี๋ยวกัน ก็มีเส้นก๋วยเตี๋ยว กับผักต่าง ๆ เช่น ถั่วงอก ผักคะน้า ผักบุ้ง ตามที่มี วันนี้แนนใช้เส้นหมี่ขาว
-เครื่องปรุงอื่นๆ ก็เป็นเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวทั่วไป อาทิเช่น ตั้งฉ่าย ผักชี ผงชูรส กระเทียมเจียว พริกไทย น้ำตาลทราย น้ำปลา พริกป่น น้ำส้มพริกดอง พอเตรียมครบแล้วทีนี้ก็ได้เวลาหม่ำแล้ว เราก็อุ่นน้ำซุปให้เดือดรุมๆไว้เลยนะ อีกเตาก็ตั้งหม้อใส่น้ำพอประมาณ พอเดือดแล้วเราก็เอาผักไปแกว่งซัก 2-3 ที
-แล้วเอาผักที่ได้ใส่ชาม ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นสุกก็ใส่ชาม เป็ดที่เราเคี่ยวไว้เอามาทุบ ๆ ให้แบนหน่อย แล้วใส่ชามไปเลย ตามด้วยกระเทียมเจียว ตั้งฉ่าย ตั้งโอ๋ พริกไทย ถ้ากินชูรสก็เหยาะไปหน่อย แล้วก็เอาน้ำซุปใส่ลงไป เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ

ก๋วยเตี๋ยวเป็ด
ก๋วยเตี๋ยวเป็ด

สูตรที่2 เครื่องปรุง


– เป็ด 1/2 ตัว
– บะหมี่ 4-5 ก้อน
– ซีอิ๊วขาว 3 ช้อน
– น้ำปลา 2 ช้อน
– เกลือป่น 1/2 ช้อน
– น้ำมันหอย 1  ช้อน
– น้ำตาลทราย 2 ช้อน
– กระเทียมเจียว 2 ช้อน
– ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนชา
– ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
– กระเทียม
– ผักกาดขาวหั่น
– คื่นช่ายหั่นฝอย
– พริกไทยป่น
– น้ำส้มพริกดอง


        เริ่มกันที่เอาเป็ดสดของเราที่หั่นแล้วไปทอดให้เหลืองก่อนเลยพอ เป็ดสุกแล้วเราก็มาต้มน้ำอีกหม้อให้เดือดเลย พอน้ำเดือดแล้วก็เอายี่หร่า ลูกผักชีคั่ว โครงเป็ดที่เหลือห่อผ้าขาวบางแล้วใส่ลงหม้อเลย รอจนน้ำเดือดกับเครื่องปรุงของเราซัก 5-10 นาที จากนั้นก็ใส่เป็ดที่เราทอดแล้วลงไปอย่างนี้เลย
          ช่วง นี้ทิ้งหม้อเป็ดด้วยไฟอ่อนไป ออฟทำประมาณ 2-3 ชั่วโมง กะให้เป็ดนิ่มเปื่อยเต็มที่เลย เราก็นำเป็ดหั่นผักกันต่อ วันนี้ใช้ผักกาดขาวกับคื่นช่าย หั่นผักแล้วก็มาทำกระเทียมเจียวกันต่อ อันนี้เสร็จแล้ว พอตุ๋นจนเปื่อยได้ทีแล้วก็พร้อมเสริฟแล้ว มาทานด้วยกันมั้ยครับ

สูตรที่3 เครื่องปรุง


– น่องเป็ด
– กระเทียม
– พริกไทย
– รากผักชี (แต่วันนี้ต่ายมีแต่เม็ดผักชี ก็ใช้แทนกันได้ หอมเหมือนกัน)
– โป๊ยกั๊ก
– อบเชย
– ผงพะโล้
– ผงโกโก้
– นํ้าตาลปึก
– เกลือ
– ซีอิ๊วขาว
– ซีอิ๊วดํา
– ข่า
– ไข่ไก่
– เซเลอรี่


          เริ่ม ตั้งหม้อ ใส่นํ้ามันพืช แล้วผัดรากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่เราตําไว้ ผัดให้หอม แล้วใส่ผงพะโล้ 1 ช้อนชา ใส่โป๊ยกั๊ก อบเชย แล้วผัดต่อให้หอม แล้วเติมนํ้าเปล่าลงไป เติมนํ้าเปล่าแล้วปรุงรส ใส่ข่า นํ้าตาลปึก ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดํา เกลือ ต้มนํ้าให้เดือด แล้วใส่ผงโกโก้ 1 ช้อนชา
นํ้าเดือดดีแล้วใส่เซเลอรี่ และเป็ด ชิมรสตามต้องการ พอเป็ดสุกก็เป็นอันเสร็จ ผักที่เราใช้วันนี้ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดต้องเส้นหมี่ครับถึงจะอร่อย

Categories
อาหารไทย

สูตร ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ เมนูอาหารไทยที่คนไทยนิยมกิน ทำง่ายๆได้ที่บ้าน

ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ
ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ

วันนี้พบกับเมนูเส้นแสนอร่อยที่ถูกใจหลายๆคน นั่นคือ ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ นั่นเองคับ หลายๆร้านต่างมีสูตรที่แตกต่างกันไปแต่ที่เรานำมาเสนอเป็นสูตรที่ผู้คนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าอร่อย และมีความกลมกล่อม น้ำซุปหอมกำลังดี ลองไปดูกันเลย

ส่วนประกอบในการทำก๋วยเตี๋ยว


-ไก่ตัวใหญ่ (แล้วแต่ว่าจะเอากี่ตัว)
-เครื่องในไก่
-ตีนไก่
-ผักบุ้ง
-กระหล่ำปลี
-ถั่วงอก
-มะระ (ไม่อยากให้มะระขมให้เลือกมะระที่มีผิวออกขาวๆ สีใสๆ )
-ผักตำลึง (ไม่ใส่ก็ได้เพื่อประหยัดงบประมาณ)
-ต้นหอม
-ผักชี
-กระเทียมเจียว (เจียวเองใส่มันไก่ลงไป และก็หนังไก่ลงไปเจียวด้วย)

เครื่องปรุงน้ำซุป


-ข่าแก่
-ขิง (แบบเป็นหัว)
-กาบไม้ ดอกไม้(เครื่องที่ใส่พะโล้)
-กระเทียมดอง
-มะนาวดอง
-น้ำตาลกรวด
-น้ำตาลไหม้ (เอาน้ำตาลปี๊บไปเคี่ยวผสมกับน้ำจนเป็นสีน้ำตาลไหม้รอให้เย็นแล้วกรอกใส่ขวดไว้ใช้)
-น้ำมันหอย
-ซอสภูเขาทอง
-คนอร์
-รสดี
-ผงชูรส พลัส,ผงชูรสธรรมดา
-ใบเตย
-กระเทียมสด
-รากผีกชี
-พริกไทยแบบเม็ด

วิธีปรุงน้ำซุป


(หม้อที่ใช้เบอร์ 28)
1. เอาน้ำใส่ลงไปในหม้อ ไม่ต้องเต็มเพราะถ้าเอาไก่ลงไปเวลาน้ำเดือดน้ำจะล้นออกมาจากหม้อ แล้วตั้งไฟ
2. เอาข่าและขิงหั่นเป็นแว่นๆประมาณอย่างละ4 แว่น ใส่ลงไปในหม้อ (อย่าใส่มากเดี๋ยวรสจะจืด)
3. เอามะนาวดองลงไปในหม้อ 1 ลูก กระเทียมดองประมาณ 3 อันใส่ลงไป
4. น้ำตาลกรวดที่ซื้อมา 1 กิโล ให้ใส่ลงไปแค่ ¼ เท่านั้น อย่าใส่มาก
5. ใส่น้ำตาลไหม้ลงไป 1 กระบวย (ที่ใช้ตักน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว)
6. ใส่น้ำมันหอยลงไป 1 กระบวย (เท่ากับน้ำตาลไหม้)
7. ใส่ซอสตราภูเขาทองลงไป 1 ทัพพี
8. ใส่เกลือ 1 ½ ห่อ
9. คนอร์ใส่ลงไป 3 ก้อน
10. ชูรสตราพลัส 1 ทัพพีใหญ่ ชูรสธรรมดา 1 ทัพพีใหญ่ รสดี 1ทัพพีใหญ่ ใส่ลงไปในหม้อ
11. เอากระเทียม รากผักชี พริกไทย โขลกให้เข้ากันแล้วใส่ลงไปในหม้อ
12. เอามะระผ่าครึ่งด้านยาว แล้วเอาเม็ดออก ใส่ลงไปต้มในหม้อสุกแล้วเอาขึ้นและหั่นเป็นชิ้นๆประมาณ 1 นิ้ว
13. รอให้น้ำเดือด
14. ล้างไก่และเครื่องในให้สะอาดแล้วใส่ลงไปตอนน้ำเดือดๆ ต้มไก่ประมาณ 30 นาทีก็เอาตัวไก่ขึ้นจากหม้อเอามาล้างน้ำเย็นก่อน แล้วค่อยเอาขึ้นมาพักไว้ รอให้เย็นแล้วสับเป็นชิ้นเล็กหรือจะฉีกก็ได้ ส่วนเครื่องในเอาขึ้นจากหม้อได้เลยไม่ต้องเอาลงน้ำเย็น แล้วก็หั่นไว้เช่นกัน
15. ตีนไก่ล้างให้สะอาด แล้วเอารสดี ซีอิ๊วดำ ชูรส ใส่ลงไป เกลือนิดหน่อยคลุกให้เข้ากัน ใส่ถุง แล้วเอาลงไปต้มในหม้อ ประมาณ 30นาที แล้วเอาขึ้นจากหม้อ
16. ขั้นตอนการปรุงเสร็จแล้วจ้า ที่เหลือก็เอาเส้นผักแล้วแต่ชอบลวกให้สุกใส่ชามแล้วเอากระเทียมเจียวใส่ลงไป เนื้อไก่ใส่ลงไปแล้วก็ตักน้ำซุปใส่ ปรุงตามใจชอบ แค่นี้ก็อร่อยแล้ว

เคร็ดลับพิเศษ
พริกป่น
ซื้อ พริกแห้งที่มีรสเผ็ดๆแล้วนำมาทอด พักไว้ให้เย็นแล้วโขลกให้ละเอียด แคนี้ก็ได้พริกป่นที่น่ารับประทานแล้ว เวลาใส่ลงไปในก๋วยเตี๋ยวจะทำให้มีสีสันน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

น้ำส้ม
เอา พริกสีส้มที่เขาใช้ทำน้ำส้มใส่ลงไปในเครื่องปั่นใส่กระเทียมประมาณ 1กำใหญ่ กระเทียมดอง 3 -4 หัว น้ำส้มสายชู 1 ขวดใส่ลงไป แล้วปั่นจนพริกและกระเทียมละเอียดแล้วใส่ลงไปในกระปุก แล้วเทน้ำส้มสายชูลงไปอีก 2 ขวด แล้วก็ใส่เกลือลงไปครึ่งห่อ ชูรส 6 ช้อนชา แล้วก็คนให้เข้ากัน เราก็จะได้น้ำส้มที่ปรุงก๋วยเตี๋ยวไก่ได้อร่อย

ถั่วป่น
ซื้อถั่วลิสงที่แกะเปลือกแล้ว มาคั่วไฟอ่อนๆจนเหลือง แล้วเอามาตำไม่ต้องละเอียดมาก
อย่าซื้อที่สำเร็จแล้วเพราะว่าจะมีราขึ้นกลิ่นอับ ไม่อร่อย

Categories
อาหารไทย

ต้มจับฉ่าย เมนูอาหารไทยแสนอร่อย ทำเองง่ายๆได้ที่บ้าน

ต้มจับฉ่าย
ต้มจับฉ่าย

ต้มจับฉ่ายเมนูสุดฮิต สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือต้องการดูแลสุขภาพ และผมเชื่อว่าหลาย ๆ บ้านคุณแม่หรือแม่บ้านมักจะชอบทำให้กินกันอยู่บ่อย ๆ ขั้นตอนและการทำหลายคนว่ามองว่าใส่ผักเยอะแยะ ขั้นตอนและวิธีการทำอาจยุ่งยาก แต่จริง ๆ แล้วทำไม่ยากเลยครับ แต่วัตถุดิบอาจจะเยอะไปสักหน่อย 

วัตถุดิบ

  • กระดูกหมู 1.5 กก.
  • ผักโขม 500 กรัม
  • กะหล่ำปลี ½ หัวเล็ก
  • ขึ้นฉ่าย 300 กรัม
  • หัวไชเท้า 1 หัวใหญ่
  • เห็ดหอม 150 กรัม
  • รากผักชี 10 ราก
  • พริกไทย 40 เม็ด
  • กระเทียมไทย 2 หัว
  • ซอสปรุงรส 4 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วขาว 6-8 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำต้มจับฉ่าย

ขั้นตอนที่ 1 ต้มน้ำ+โขลกสามเกลอ

  • เทน้ำเปล่าใส่ในหม้อ จากนั้นนำกระดูกหมูลงไปต้ม ตามด้วยการใส่หัวไชเท้าลงไป ตามด้วยเกลือ ต้มทิ้งไว้ 
  • นำ รากผักชี กระเทียม และพริกไทยลงไปโขลกให้ละเอียด

ขั้นตอนที่ 2 ผัดเครื่อง + ต้ม

  • ตั้งกระทะนำสามเกลือที่โขลกละเอียดลงไปผัดในน้ำมันให้หอม นำเห็ดหอมใส่ตามลงไป และตักน้ำซุปใส่ลงไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ติดกระทะ  จากนั้นเร่งไฟให้แรงขึ้น ใส่ผักที่เตรียมไว้ลงไปผัด 
  • ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำมันหอย ผัดให้ผักสลบ จากนั้นเอาผักลงไปเทใส่ในหม้อน้ำซุปที่ตั้งทิ้งไว้ ใช้ไฟกลาง ๆ แล้วเคี่ยวไปเรื่อย ๆ สัก 20-30 นาที จนผักเปื่อยและนิ่ม

ขั้นตอนที่ 3 จัดเสิร์ฟ

  • ตัก ต้มจับฉ่าย ใส่ชาม ตกแต่งให้สวยงาม ตักข้าวสวยร้อน ๆ นั่งกินพร้อมกันทั้งครอบครัว 

วิธีการทำต้มจับฉ่าย

  1. ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า กระดูกหมู หัวไชเท้า และเกลือลงไป ต้มจนเดือด
  2. โขลกรากผักชีกระเทียมพริกไทยเข้าด้วยกัน แล้วนำไปผัดในกระทะกับน้ำมันให้หอม
  3. ใส่เห็ดหอมและน้ำซุปตามลงไปเล็กน้อย แล้วใส่ผักโขม ผักกะหล่ำปลี ขึ้นฉ่ายลงไปผัด
  4. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำมันหอย ผัดจนผักสลด แล้วตักใส่หม้อน้ำซุป ต้มต่ออีก 20-30 นาที
  5. พอต้มจับฉ่ายได้ที่แล้ว ตักใส่จานจัดเสิร์ฟ 

             เป็นไงบ้างครับ สำหรับสูตรและขั้นตอนหรือวิธีในการต้มจับฉ่าย ไม่ยากเลยนะครับ เหมาะสำหรับลดน้ำหนัก หรือรักษาสุขภาพ กินได้ทั้งครอบครัว แนะนำว่าให้ต้มหม้อใหญ่ ๆ นะครับ จะกินได้เป็นอาทิตย์ ถ้าไม่เบื่อซะก่อน หรือกินตอนเช้าและตอนเย็น สัก 1 อาทิตย์ กินต้มจับฉ่ายเยอะ ๆ กินข้าวน้อย ๆ น้ำหนักลดแน่นอนครับ ไม่เชื่อลองไปทำดูครับ 

Categories
อาหารไทย

ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น เมนูแสนอร่อยสำหรับคนชอบเส้น

ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น
ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น

สาวกก๋วยเตี๋ยวไม่ควรพลาดกับเมนู ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น เป็นเมนูที่น่ากินและมีกลิ่นที่หอมชวนน้ำลายสอ จุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นอยู่ที่น้ำซุปที่หอมเตะจมูกกับหมูที่ตุ๋นจนเปื่อยกำลังพอดี ไปดูส่วนผสมและวิธีการทำกับเลยครับ

ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น
1. เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 กิโลกรัม
2. ซี่โครงหมู 1/2 กิโลกรัม
3. ขึ้นฉ่าย 5 ต้น
4. เครื่องเทศยาจีน 1/4 ถ้วย
5. ซอสภูเขา 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
8. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา

   นำยาจีน ขึ้นฉ่าย น้ำมันหอย น้ำตาลทรายแดง และซีอิ๊วขาว ใส่หม้อต้มรวมกันตั้งไฟจนส่วนผสมเดือด สักพักจึงใส่ซี่โครงหมูที่ตัดพอคำลงไป ในขณะที่ส่วนผสมเดือดให้ช้อนฟองทิ้ง แล้วค่อย ๆ หรี่เป็นไฟอ่อน ตุ๋นไปเรื่อย ๆ จนซี่โครงเปื่อย ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว จากนั้นตักน้ำซุปหมูตุ๋นราดให้ท่วม

ส่วนผสมซี่โครงหมูตุ๋น
1.ซี่โครงหมู 500 กรัม
2.น้ำ 6 ถ้วย
3.อบเชยท่อนขนาด 1/2 นิ้ว 1 ท่อน
4.โป๊ยกั๊ก 1 ดอก
5.รากผักชี 3 – 4 ราก
6.กระเทียมทุบ 10 กลีบ
7.ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย
8.เกลือป่น 1 ช้อนชา
9.น้ำตาลกรวด 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมหมูบะช่อ
1.หมูสับ 200 กรัม
2.น้ำ 1/3 ถ้วย

ส่วนผสมเครื่องปรุงรสต้มยำ
1.น้ำพริกเผา 6 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำปลา 1/3 – 1/2 ถ้วย
3.น้ำมะนาว 1/3 ถ้วย
4.น้ำตาลทราย 1/3 – 1/2 ถ้วย
5.พริกป่น 3 – 4 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยว
1.ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก 300 กรัม
2.ถั่วงอก 300 กรัม
3.ตำลึงเด็ดเป็นใบตามชอบ
4.ซี่โครงตุ๋น
5.หมูบะช่อ
6.ไข่เป็ดต้มยางมะตูม 3 – 4 ฟอง
7.เกี๊ยวทอดกรอบ
8.กระเทียมเจียว
9.ต้นหอม ผักชีซอย
10.มะนาว
11.ถั่วลิสงคั่วบดละเอียด

ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น
ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น
วิธีทำซี่โครงหมูตุ๋น
  ใส่ น้ำ อบเชย โป๊ยกั๊ก รากผักชี กระเทียม ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่ซี่โครงหมู พอเดือดหมั่นช้อนฟองทิ้ง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลกรวด เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ จนซี่โครงหมูสุกนุ่ม ปิดไฟ

วิธีทำหมูบะช่อ
  ใส่น้ำลงในหม้อ นำไปต้มพอเริ่มเดือด ใส่หมูสับ คนให้หมูสุก และกระจายไม่รวมกันเป็นก้อน ยกลง

วิธีทำเครื่องปรุงรส
  ผสมน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล พริกป่น คนให้เข้ากันและน้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ

วิธีปรุงก๋วยเตี๋ยว
1.ลวกเส้นเล็ก ถั่วงอก ตำลึง ใส่ลงในชาม
2.ผสม น้ำต้มยำ โดยตักน้ำซุปหมูตุ๋นประมาณ 1/4 ถ้วย ใส่ลงในชามอีกใบ ใส่น้ำพริกเผาที่ปรุงไว้ คนให้เข้ากันเทใส่ลงในชามเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ลวกไว้ ให้มีน้ำขลุกขลิก กระเทียมเจียว ตกแต่งด้วยมะนาว หั่นเสี้ยว

ข้อแนะนำ
1.การ ต้มไข่ใส่น้ำพร้อมกับไข่ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ไข่จะนุ่ม ใส่เกลือเล็กน้อย ถ้าต้องการให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางลูก ให้คนเรื่อย ๆ เพื่อให้ไข่กลับตัวอยู่เสมอไข่แดงจะไม่ติดอยู่ตรงเปลือก เมื่อสุกแล้วจึงแช่น้ำเย็น
-การต้มไข่ไก่ ถ้าต้องการไข่แดงเป็นยางมะตูม ต้ม 5 นาที ถ้าต้องการไข่แดงแข็งต้ม 10 นาที
-การต้มไข่เป็ดถ้าต้องการไข่แดงเป็นยางมะตูม ต้ม 10 นาที ถ้าต้องการไข่แดงแข็งต้ม 15 นาที
2.ถ้าไม่ใช้ซี่โครงหมูตุ๋น จะใช้เนื้อส่วนติดหัวใจ ปอด เนื้อขั้วปอด ขั้วหัวใจ เนื้อติดเอ็น เอ็นแก้ว
3.ใส่เส้นหมี่ เส้นใหญ่ วุ้นเส้น ได้ตามชอบ
4.ใส่ลูกชิ้นหมู หมูต้ม เพิ่มได้

Categories
อาหารไทย

กระเพราไข่เยี่ยวม้า เมนูแสนอร่อยที่หลายคนชอบกิน

กระเพราไข่เยี่ยวม้า
กระเพราไข่เยี่ยวม้า

รู้จักกับผัดกระเพราไข่เจียวมาแล้ว วันนี้เรามีสูตรผัดกระเพราอีกอย่างหนึ่งมาฝากกันครับ นั่นก็คือผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้าครับ เป็นเมนูยอดฮิตของใครหลายๆคน และยังเป็นเมนูที่ทานง่าย รสชาติอร่อย บางคนอาจจะเห็นหน้าตาของมันไม่น่ากินเท่าไหร่ แต่รสชาติของมันดีกว่าหน้าตาของมันมากๆ ลองไปดูวัตถุดิบและขั้นตอนในการทำกันเลยดีกว่าครับ

สูตรกระเพราไข่เยี่ยวม้า

เครื่องปรุง

  1. ไข่เยี่ยวม้า 3 ฟอง
  2. หมูสับ 100 กรัม
  3. พริกชี้ฟ้าเหลืองและแดงสับหยาบอย่างละ 1 เม็ด
  4. กระเทียมสับละเอียด 1-4 ชั้นโต๊ะ
  5. ใบกระเพราตามใจชอบ
  6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมันหอย 1-2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา
  9. น้ำมันพืชสำหรับผัด 1-2 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำมันพืชสำหรับทอดไข่
  11. ใบกระเพราทอดกรอบสำหรับโรยหน้าตามใจชอบ

วิธีการทำ

  1. ปอกเปลือกไข่เยี่ยวม้าและผ่าให้ได้ฟองละ 4 ชิ้น จากนั้นนำไปทอดน้ำมันให้เหลืองกรอบ จากนั้นตักขึ้นมาเพื่อพักน้ำมัน
  2. ผัดพริกชี้ฟ้าบดกับกระเทียมสับกับน้ำมันด้วยไฟกลางจนมีกลิ่นหอม
  3. ใส่หมูสับลงผัดจนสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย
  4. ใส่ไข่เยี่ยวมาที่ทอดไว้ พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ และใบกระเพราลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน 
  5. ตักใส่จาน โรยใบกระเพราทอดกรอบ พร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ

นี่ใครที่ไม่เคยลองทาน ลองเปิดใจกับกระเพราไข่เยี่ยวม้าดูกันนะคับ รับรองว่าท่านอาจจะติดใจไปอีกนานเลยก็ได้คับ

Categories
อาหารไทย

กระเพราไข่เจียว เมนูทานง่ายที่คนไทยหลายๆคนชอบทาน

กระเพราไข่เจียว
กระเพราไข่เจียว

ผัดกระเพรานับเป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศไทยนะครับ เวลาเข้าร้านอาหารตามสั่ง คิดอะไรไม่ออกก็สั่งผัดกระเพรา หรือผัดกระเพรา+ไข่ดาวเป็นต้น และเมนูผัดกระเพราก็เป็นเมนูประจำบ้านที่ทำง่ายที่สุด ตอนผมเริ่มทำอาหารใหม่ ๆ ก็ทำผัดกระเพราเป็นนี่แหละครับ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลยครับ อย่าง ผัดกระเพราหมู , ผัดกระเพราปลาหมึก , หรือไข่เจียวผัดกระเพราก็ทำง่ายแสนง่ายครับ 

สูตรกระเพราไข่เจียว

เครื่องปรุง

  1. น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  2. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  3. กระเทียบสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. พริกแห้งตำ ตามชอบ
  5. ซอยหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
  7. น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  9. ใบกระเพราตามชอบ

วิธีการทำ

1.ใส่น้ำมนรำข้าวลงไปในกระทะ  เจียวไข่เหมือนปกติ เทไข่ลงไปในกระทะทอดให้สุกทั้ง 2 ด้าน 

2.เมื่อไข่เจียวสุกดีแล้ว ไม่ต้องนำขึ้นมา ให้ใช้ตะหลิวหั่นแบ่งเป็นชิ้น

3.ใส่กระเทียมและพริกตำ พร้อมปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำปลา และน้ำตาล ใส่ใบกระเพราลงไปตามใจชอบ ผัดให้เข้ากันเสร็จแล้วตัดใส่จานเสริ์ฟ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ 


            เป็นไงครับ 2 เมนูผัดกระเพราไข่เจียว ทำไม่ยากใช่ไหมครับ ลองเอาไปทำทานกินที่บ้านดูนะครับ