สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารไทย

ไข่เจียวโหระพากรอบ เมนูไทย ใคร ๆ ก็ทำได้

ไข่เจียวโหระพากรอบ เมนูไทย ใคร ๆ ก็ทำได้
ไข่เจียวโหระพากรอบ เมนูไทย ใคร ๆ ก็ทำได้

หากพูดถึง เมนูไข่ สิ่งแรกที่คุณจะนึกถึง คืออะไร แน่นอนหลายคนคงคิดถึง ไข่เจียว เพราะมันทำง่าย มีคุณค่าทางอาหารและ ทำให้อิ่มท้องด้วย และ ในวันนี้เราจะมาเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยการใส่ใบโหระพา พืชสวนครัวที่เป็นทั้งสมุนไพร และ ใช้ประกอบอาหาร เรามาดูกันดีกว่าว่าเมนู ไข่เจียวโหระพากรอบ มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง

ไข่เจียวโหระพากรอบ เมนูเพื่อสุขภาพ ใครทำก็อร่อย

หากพูดถึง เมนูไข่ เราสามารถประยุกต์ทำได้หลายอย่าง ทั้งไข่ดาว ไข่เจียว หรือว่า ไข่ตุ๋นก็ได้ ทำให้คนสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา อย่างในวันนี้เราจะมาพูดถึงเมนู ไข่เจียวโหระพากรอบ ซึ่งเราจะมาดูในเรื่องของส่วนผสมและวิธีทำกัน ให้ลองไปทำกัน 

ส่วนผสมและวิธีทำ ไข่เจียวโหระพากรอบ

ส่วนผสมของ ไข่เจียวโหระพากรอบ ส่วนผสมคือ ไข่ไก่ 3 ฟอง  -เครื่องปรุงต่าง ๆ (  ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต้ะ / ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ / พริกขี้หนูสวนซอยเฉียงๆ 3-4 เมล็ด / ใบโหระพา 1 กำมือ ประมาณ 15-30 ใบ /ใบหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ /น้ำมันพืช สำหรับทอด ประมาณ 10 ช้อนโต๊ะ ส่วนวิธีทำ ขั้นแรก คุณจะต้องนำใบโหระพามาล่างให้สะอาด และ ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ หลังจากนั้น ให้คุณเทน้ำมันใส่กระทะและตั้งให้ร้อน นำใบโหระพาลงไปทอด เมื่อกรอบแล้วให้นำขึ้นมาพักไว้ หลังจากนั้นตอกไข่ใส่ถ้วย ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส น้ำมันหอย หอมซอย รวมถึงพริกขี้หนู หลังจากนั้นตีไข่ให้เข้ากันจนเป็นฟอง นำใบโหระพาส่วนหนึ่งใส่เข้าไป หลังจากนั้นตั้งกระทะน้ำมัน ให้น้ำมันร้อนจัด และ ลดความร้อนให้อ่อนลง และค่อย ๆ เทไข่ลงไปตรงน้ำมันให้ไข่ฟูขึ้น ทอดด้วยไฟอ่อนให้เหลืองกรอบ และ พลิกกลับด้าน ให้สุกกรอบ เมื่อสุกกรอบทั้ง 2 ด้านแล้ว ให้นำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน เมื่อไข่สุกแล้วให้โรยด้วยใบโหระพากรอบ พร้อมด้วยซอสพริก หรือ พริกน้ำปลา 

เมนูไข่เจียวโหระพากรอบ เมนูน่าทาน ใคร ๆ ก็ทำได้ 

ถ้าหากคุณชื่นชอบ เมนูไข่ ที่น่ากิน เราอยากให้คุณได้ลองทำเมนู ไข่เจียวโหระพากรอบ ดูบ้าง รับรองว่าคุณจะชื่นชอบอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม นอกจากจะทำกินแล้ว เมนูนี้ยังทำขายได้ด้วย และ ยังเป็นเมนูยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็กินได้ แล้วยังอิ่มท้องอีกด้วย 

ใครอยากลองทำเมนูนี้ดู ก็ลองทำตามสูตรได้เลย ทำง่ายไม่ซับซ้อน ทำกินเองก็ได้ ทำขายก็อร่อย ไม่เชื่อลองดูสิ 

Categories
อาหารสุขภาพ

ผัดวุ้นเส้นเกาหลี เมนูเส้น น่ากิน สุขภาพดี

ผัดวุ้นเส้นเกาหลี เมนูเส้น น่ากิน สุขภาพดี
ผัดวุ้นเส้นเกาหลี เมนูเส้น น่ากิน สุขภาพดี

สำหรับคนที่อยากทาน ผัดวุ้นเส้น ความจริงแล้วมันมีผัดชนิดนี้อยู่หลายแบบมาก แต่ถ้าใครอยากกินแบบเกาหลี เราก็สามารถประยุกต์เมนูเหล่านี้ได้เช่นกัน อย่างเช่น วันนี้เราขอนำเสนอ ผัดวุ้นเส้นเกาหลี เมนูน่ากิน อร่อย เพื่อสุขภาพ รับรองว่าไม่จำเจแน่นอน งั้นเรามาทำความรู้จักเมนูนี้กันดีกว่า

ผัดวุ้นเส้นเกาหลี อร่อย ต้องลองให้ได้สักครั้ง

ใครที่เป็นสาวกเกาหลี เราก็ไมอยากให้คุณพลาดความอร่อยกับเมนู ผัดวุ้นเส้นเกาหลี เมนูดี ๆ ที่จะทำให้คุณมีความสุขได้ในทุกวัน เรามาดูกันว่า มีส่วนผสมและวิธีทำอะไรบ้าง 

ส่วนผสมและวิธีทำ ผัดวุ้นเส้นเกาหลี

ส่วนผสมของ ผัดวุ้นเส้นเกาหลี มีดังนี้ – สันในหมู 100 กรัม – ห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 4 ดอก  -ผักปวยเล้ง 3 ต้น -ผักกวางตุ้ง 3 ต้น -แครอท ½ หัว -หัวหอมใหญ่ ½ หัว -วุ้นเส้น ตราต้นสน 1 ห่อ -กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ -ซอสถั่วเหลืองเกาหลี 4 ช้อนโต๊ะ –น้ำมันงา 5 ช้อนชา -พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา -งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ -งาดำคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ -เกลือ ¼ ช้อนชา- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ สำหรับวิธีทำ ให้คุณลวกผักปวยเล้ง และ ผักกวางตุ้งในน้ำเดือด แล้ว นำไปแช่เย็นเพื่อไม่ให้สุกเกินไป และ ก็ยกขึ้นให้สะเด็ดน้ำ ตัดเป็นท่อน ๆ ปรังรสด้วยน้ำมันงา  น้ำตาล และ เกลือ หลังจากนั้นให้หั่นสันหมูเป็นชิ้นพอดีคำ หมักด้วยซอสถั่วเหลืองเกาหลี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายครึ่งช้อนโต๊ะ และกระเทียมสับ 1 ช้อนชา คลุกให้เข้ากัน แล้วหมักไว้ 10 นาที หั่นเห็ดหอมแห้งแช่น้ำ แล้วคลุกกับซอสถั่วเหลืองเกาหลีครึ่งช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายครึ่งช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 1 ช้อนชาคลุกให้เข้ากัน ให้คุณหั่นแครอท และ หัวหอม เป็นท่อน ๆ หลังจากนั้นนำวุ้นเส้นไปแช่ ลวกผักปวยเล้ง และ ผักกวางตุ้งแช่ในน้ำเย็น และ หมักสันในหมู ต่อมาเป็นการผัดเครื่อง คุณจะต้องตั้งกระทะและใส่น้ำมันเล็กน้อย ผัดแครอท และ นำขึ้นมาพักไว้ ตั้งกระทะอีกรอบ และ ให้ใส่หัวหอมลงไปผัดจนสุก หลังจากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ให้ผัดเนื้อหมูที่หมักไว้ ใส่เห็ดที่ปรุงรสและผัดให้สุก นำวุ้นเส้นที่แช่น้ำไว้มาผัด ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองเกาหลี 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนชา และ น้ำตาลทราย 1ช้อนโต๊ะ ผัดจนสุกนิ่ม และ ผัดหมูที่เตรียมไว้ให้สุก และ นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ทั้งหมด คลุกผสมให้เข้ากัน และ ตักใส่จาน นี่คือ เมนู ผัดวุ้นเส้น ที่คุณต้องลอง

ผัดวุ้นเส้นเกาหลี เมนูเด็ดที่รอให้คุณมาชิม

เพราะฉะนั้น ใครที่ชื่นชอบความอร่อยของ ผัดวุ้นเส้น ก็อยากให้คุณได้มาลองชิม ผัดวุ้นเส้นเกาหลี กัน รับรองว่า คุณจะชื่นชอบแน่นอน 

งั้นวันหยุดนี้ เราลองมาทำ ผัดวุ้นเส้นเกาหลี กันดีกว่า รับรองว่า ใครกินก็ติดใจแน่นอน แถมยังสามารถทำขายได้ด้วย

Categories
อาหารนานาชาติ

สปาเก็ตตี้มีทบอล อาหารฝรั่ง อร่อย โปรตีนสูง

สปาเก็ตตี้มีทบอล  อาหารฝรั่ง อร่อย โปรตีนสูง
สปาเก็ตตี้มีทบอล อาหารฝรั่ง อร่อย โปรตีนสูง

หากคุณชื่นชอบการกินเนื้อ อยากให้คุณได้ลองเมนู อาหารฝรั่ง ชนิดนี้ดู นั่นคือ สปาเก็ตตี้มีทบอล  บางคนอาจเคยได้ยินชื่อมาแล้ว บางคนก็ไม่เคยได้ยิน แต่รับรองว่า ใครได้กินเมนูนี้ คุณจะต้องชอบแน่นอน และที่สำคัญเมนูนี้ยังทำให้คุณอิ่มท้องอีกด้วย แถมโปรตีนสูงอีกด้วย 

สปาเก็ตตี้มีทบอล เมนูยอดนิยม สาวกเนื้อไม่ควรพลาด

สำหรับคนที่ชื่นชอบ อาหารฝรั่ง เราอยากให้คุณได้ลองทานเมนู สปาเก็ตตี้มีทบอล กัน ถามว่าแคลอรีสูงไหม ต้องบอกเลยว่าเมนูนี้ไม่ถึง 100 แคลอรี่ด้วยซ้ำ หลายคนที่กำลังลดน้ำหนัก แต่ขาดเนื้อไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะทานเมนูนี้กัน สำหรับวันนี้เราจะมาพูดเรื่องส่วนผสมและวิธีทำกัน เพื่อให้คุณได้ลองทำกันดู

ส่วนผสมและวิธีทำ สปาเก็ตตี้มีทบอล มีอะไรบ้าง

ส่วนผสมและวิธีทำ สปาเกตตีมีทบอล สำหรับส่วนผสม คือ -เนื้อบด 500 กรัม -ไข่ 1 ฟอง -แป้งมันหรือแป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ -แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ -ใบออริกาโนแห้ง  -พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา – น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ -เนย 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ และ เกลือ 1 ช้อนชา ต่อมาเป็นส่วนผสมของซอสสปาเกตตี มี -มะเขือเทศ 4 ลูก – ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ -กระเทียม 3 กลีบ -หอมใหญ่ 1 ลูก –เกลือป่นเล็กน้อย –พริกไทยป่นเล็กน้อย และ สุดท้าย คือ ส่วนผสมของเส้นสปาเกตตี จะมี –เส้นสปาเกตตี -น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ และ เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ

 วิธีทำ สปาเกตตีมีทบอล ให้คุณใส่เนื้อบด เกลือป่น ไข่ พริกไทย ใบออริกา แป้ง 2 ชนิด และ น้ำเปล่าในอ่างผสม และ นวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นเป็นก้อนกลม หลังจากนั้นให้ตั้งกระทะ ใส่เนย น้ำมันมะกอกลงไป และใส่เนื้อบดทอดให้สุก หลังจากนั้นตักใส่จานพักไว้ และให้คุณทำซอสสปาเกตตี โดยเริ่มจากการหั่นมะเขือเทศ หัวหอม และ กระเทียม เป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ หลังจากนั้นให้ตั้งกระทะ และ ใส่น้ำมันมะกอกลงไป พอร้อนแล้วใส่หัวหอมใหญ่ลงไปผัด ใส่กระเทียม มะเขือเทศ ผัดส่วนผสมไปเรื่อย ๆ เมื่อมะเขือเทศนิ่มและเริ่มมีน้ำข้น ให้ใส่ซอสมะเขือเทศลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย หลังจากนั้นให้โรยออริกาโน คนผสมให้เข้ากัน และใส่มีทบอลลงไป เคี่ยวสักครู่ หลังจากนั้นให้คุณต้มเส้นสปาเกตตี ใส่น้ำเปล่า น้ำมะนมะกอก และ เกลือลงไป และตั้งไฟต้มให้เดือด แล้วใส่เส้นลงไป คนไว้ตลอด เพื่อไม่ให้เส้นติด ต้มจนสุกแล้วใส่กระชอนทำให้สะเด็ดน้ำและใส่น้ำมันมะกอกไปคลุกเส้นเพื่อไม่ให้ติดกัน และใส่ซอสและมีทบอลลงไป

สปาเกตตีมีทบอล ของอร่อยที่คุณไม่ควรพลาด 

นี่คือ สูตร สปาเก็ตตี้มีทบอล ที่น่ากินมาก และ ทำให้คุณทำ อาหารฝรั่ง เป็นเพิ่มอีก 1 เมนู เพราะฉะนั้นจะรอช้าอยู่ทำไม ลองมาทำกันดูเลย

Categories
อาหารไทย

กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู๊ด อร่อยเด็ด แซ่บถึงใจ ใครกินก็ติดใจ

กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู๊ด อร่อยเด็ด แซ่บถึงใจ ใครกินก็ติดใจ
กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู๊ด อร่อยเด็ด แซ่บถึงใจ ใครกินก็ติดใจ

หากพูดถึงเมนูอาหารยอดนิยมสำหรับคนไทยนั้น ทุกคนคงจะคิดถึงเมนูแซ่บ ๆ ไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง ยำต่าง ๆ และในวันนี้เราจะมาพูดถึง กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู้ด เมนูฮิตของทุกครอบครัวที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ จะเป็นเมนูกินเล่น เมนูหลัก หรือ เมนูในงานเลี้ยงก็เหมาะสมทั้งนั้น ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเมนูนี้กัน

กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู้ด เมนูอร่อย ของครอบครัว

สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูเกี่ยวกับ กุ้ง วันนี้เรามีเมนูน่าทำมาฝาก นั่นคือ กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู้ด เพื่อให้คุณได้ลองทำกินกัน รับรองเลยว่า ถ้าคุณได้ทำแล้ว คุณจะชื่นชอบเมนูนี้กันแน่นอน เพราะทั้งแซ่บ อร่อย เป็นเมนูสุขภาพที่ทุกคนสามารถทานได้ และ ยังประยุกต์ให้มีรสชาติอย่างที่ต้องการได้

ส่วนผสม และ วิธีทำกุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู้ด

ส่วนผสมของ กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู้ด –กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังเอาเส้นดำออก 8-10 ตัว – น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ – มะระหั่นแว่น 8-10 ชิ้น –  โซดาแช่เย็นจัดๆ2 ช้อนโต๊ะ -พริกขี้หนู3 ช้อนโต๊ะ -กระเทียมสดซอยแว่น2 กลีบ – เครื่องปรุงรสต่าง ๆ เช่น น้ำสะอาด4 ช้อนโต๊ะ / น้ำตาลปี๊ป1 ช้อนโต๊ะ / น้ำปลา4 ช้อนโต๊ะ / น้ำมะนาว3-4 ช้อนโต๊ะ / กระเทียมกลีบ2 ช้อนโต๊ะ /น้ำตาลทราย1 ช้อนโต๊ะ / ใบสะระแหน่5-6 ใบ / ใบสะระแหน่ , โหระพา

 วิธีทำ เริ่มแรกให้เอา กุ้ง มาแช่กับน้ำปลาและโซดา และ นำไปแช่ชองฟรีชให้เย็นจัด หลังจากนั้นให้นำเครื่องปรุงต่าง ๆ มาปั่นรวมกันจนละเอียด หลังจากนั้นชิมให้ได้รสชาติ ทั้งเปรี้ยว เค็ม เผ็ด และ หวานนิด ๆ หลังจากนั้นให้ใส่น้ำส้มสายชูลงไป ช่วยให้สีน้ำจิ้มสวยงามมากยิ่งขึ้น

นี่คือ ส่วนผสมและวิธีทำ กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู้ด ที่คุณสามารถทำเองได้ และ ถ้าอยากทำขายก็ได้เช่นกัน เพราะว่า เมนูนี้ใครชิมก็ติดใจ และ ที่สำคัญมีรสแซ่บถูกใจคนไทยด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากทำขาย คุณจะต้องทำให้บ่อย จนเกิดความชำนาญก่อน เพื่อให้คุณสามารถทำขายได้จริง 

กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู้ด เมนูเด็ด ถูกใจทุกคน

ใครที่ชอบความแซ่บ รสชาติลงตัว จะกินในงานไหนก็ได้ ทั้งปาร์ตี้ กินเล่น จานหลัก ก็อยากให้คุณคิดถึงเมนู กุ้ง แสนอร่อย อย่าง กุ้งแช่น้ำปลาน้ำจิ้มซีฟู้ด อยากให้คุณได้ลองทำดู เพราะมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่ปรุงส่วนผสมให้ลงตัว หัดทำบ่อย ๆ ก็สามารถทำได้แล้ว รับรองอร่อยแน่นอน  ไม่เชื่อก็ต้องลองทำดูหน่อย

Categories
อาหารไทย

ข้าวเหนียวถั่วดำ ของหวานแสนอร่อย ใครกินก็ชอบใจ

ข้าวเหนียวถั่วดำ ของหวานแสนอร่อย ใครกินก็ชอบใจ
ข้าวเหนียวถั่วดำ ของหวานแสนอร่อย ใครกินก็ชอบใจ

หากพูดถึงของหวานแบบไทย ๆ ความจริงแล้วมีหลายเมนูบ้าง แต่ละเมนูนั้นมีส่วนประกอบที่ต่างกันไป แต่จะเน้นที่ความหอมกลมกล่อมน่าทานเป็นหลัก โดยวันนี้เราจะมาเสนอเมนู ข้าวเหนียวถั่วดำ ให้ได้ลองทานกัน รับรองเลยว่า คุณจะชื่นชอบแน่นอน 

ข้าวเหนียวถั่วดำ เมนูขนมหวาน ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

ข้าวเหนียวถั่วดำ ถือเป็นเมนู ข้าวเหนียว คู่ครัวไทยที่หลายคนนิยมทำ ใช้กินก็ได้ ขายก็ดี หรือ บางคนอาจทำถวายพระก็ได้ แล้ว แต่จุดประสงค์ในการทำ เพราะว่าวัตถุดิบในการทำหาง่ายมาก ๆ และ ยังมีหลายสูตรให้คุณได้ลองทำกันด้วย รับรองเลยว่า คุณจะทำได้แน่นอน

ส่วนผสมและวิธีทำ ข้าวเหนียวถั่วดำ

สำหรับส่วนผสมของ ข้าวเหนียวถั่วดำ มีไม่กี่อย่าง และ สามารถหาซื้อได้ง่ายด้วย  เรามาดูกันว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง

ส่วนผสม – ข้าวเหนียว 250 กรัม -ถั่วดำ 250 กรัม – กะทิ 1 ถ้วย -เกลือ 1/2 ช้อนชา – น้ำตาลทราย 100 กรัม -น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย -กะทิ 3+1/2 ถ้วย -น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

วิธีทำ สำหรับส่วนผสมของ ข้าวเหนียว นั้น จะต้องเทกะทิลงในกระทะ น้ำตาลทราย เกลือ คนให้น้ำตาลทรายละลาย หลังจากนั้นให้ตักข้าวเหนียวลงไป คนให้ทั่ว ปิดฝา จนกะทิซึมเข้าไปในข้าวเหนียว หลังจากนั้นให้คุณตักน้ำกะทิ น้ำตาลทราย และ น้ำตาลปี๊ปเทลงในกระทะ ตั้งไฟให้อ่อนถึงปานกลาง คนจนน้ำตาลละลายใส่ถั่วดำลงไป หลังจากนั้นรอให้ถั่วสุกและปิดไฟ และ เทลงบนข้าวเหนียว

นี่คือส่วนผสมและวิธีทำ ข้าวเหนียวถั่วดำ ที่คุณสามารถประยุกต์สูตรให้เข้ากับความต้องการของคุณได้ แต่ถ้าคุณอยากเก่ง หรือ ทำได้อร่อย คุณจะต้องฝึกทำบ่อย ๆ และลองให้คนอื่นชิมดู เพื่อจะได้รู้ว่า คุณทำอร่อยจริงหรือเปล่า ยิ่งถ้าอยากทำขาย คุณต้องยิ่งทำให้ชำนาญ

ข้าวเหนียวถั่วดำ สูตรเด็ด อร่อย อิ่มท้อง

หากคุณคิดถึงขนมหวานที่ใช้ ข้าวเหนียว ในการทำ คุณจะต้องคิดถึง ข้าวเหนียวถั่วดำ แน่นอน นอกจากจะอร่อยอิ่มท้องแล้ว ยังได้คุณค่าทางโภชนาการด้วย รับรองเลยว่า ถ้าตามสูตรนี้ คุณจะทำออกมาได้ลงตัวและอร่อยอย่างที่ต้องการ

ข้าวเหนียวถั่วดำ สูตรขนมหวาน ข้าวเหนียว ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แค่ลองทำตามสูตรเท่านั้น อย่ากลัวที่จะเริ่มต้นในการทำ เพราะมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด ทำบ่อย ทำอร่อยก็ทำขายได้ หรือ อาจเป็นเมนูโปรดของครอบครัวไปเลยก็ได้

Categories
อาหารไทย

น้ำพริกลงเรือ สูตรอร่อยที่ใครกินก็ติดใจ

น้ำพริกลงเรือ สูตรอร่อยที่ใครกินก็ติดใจ
น้ำพริกลงเรือ สูตรอร่อยที่ใครกินก็ติดใจ

ประเทศไทย มี น้ำพริก หลายแบบมาก แต่ละประเภทมีความเป็นมาที่ต่างกัน เช่น น้ำพริกลงเรือ ที่เกิดมาจากเจ้าจอมสดับ ในรัชกาลที่ 5 ได้ทำถวายให้เจ้านายองค์เล็กที่ไม่ยอมเสด็จขึ้นจากเรือ และได้นำของที่มีอยู่ในเรือมาปรุงถวาย จนเกิดเป็นความอร่อยที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

น้ำพริกลงเรือ ใครกินก็ติดใจ

น้ำพริกลงเรือ เป็นอาหารภาคกลางจึงมีรสชาติกลมกล่อม และ ถูกปากคนไทยเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่อยากลองทำดู ในวันนี้เราก็มีสูตรมาฝาก รับรองว่า คุณจะทำได้อย่างแน่นอน งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า น้ำพริก ชนิดนี้มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง 

ส่วนผสมและวิธีทำ น้ำพริกลงเรือ

ส่วนผสม น้ำพริกลงเรือ –กระเทียม 40 กรัม  – กะปี 50 กรัม  – หอมแดง 40 กรัม -น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ – น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ -มะเขือพวง 20 เม็ด -พริกขี้หนู 10 เม็ด -กุ้งแห้ง 20 กรัม – มะดันฝานบาง 4 ช้อนโต๊ะ -ไข่เค็ม 1/4 ลูก และ หมูหวาน 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนวิธีทำ ให้นำกะปิ กระเทียม และ หอมแดงมาห่อด้วยฟอยล์หรือใบตอง และ ย่างบนกระทะโดยใช้ไฟอ่อน พอมีกลิ่นหอม หลังจากนั้นให้นำที่เผาและกุ้งแห้ง มาโขลกให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่มะดัน มะเขือพวง พริกขี้หนู โขลกให้แหลกลพักไว้ก่อน หลังจากนั้นให้ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย หลังจากนั้นนำหมูหวานลงไปผัด แล้วก็นำพริกแกงที่ตำไว้ใส่ลงไป ผัดให้ทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ป น้ำมะขามเปียก ผัดให้เข้ากัน แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว ตักใส่จานใส่ผักเคียงได้ตามชอบใจ

น้ำพริกลงเรือ เมนูลดน้ำหนัก ที่น่าสนใจ

หากคุณต้องการเมนูลดน้ำหนัก หรือ เมนูสุขภาพ เมนู น้ำพริก เป็นอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะว่าแทบไม่ได้ใช้วัตถุดิบที่มีไขมันเลย และ ยังเป็นเมนูที่ทานง่ายด้วย ทำให้หลายคนเลือกที่จะทานเมนูนี้ในตอนเย็น หรือ เป็นอาหารระหว่างมื้อก็ได้ เพราะบางคนเวลาลดน้ำหนักก็มีการแบ่งมื้อย่อยของอาหารด้วย การกินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำแต่อิ่มท้อง อย่าง น้ำพริกลงเรือ ทำให้คุณอิ่มท้องและยังทำให้ขับถ่ายได้ดี เนื่องจากมีไฟเบอร์สูงนั่นเอง

และนี่คือ สูตร น้ำพริกลงเรือ สูตรความอร่อยที่คุณสามารถประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการของคุณได้เอง เพราะคุณสามารถเพิ่มลดส่วนผสมได้ตามที่ต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องหัดทำบ่อย ๆ เพื่อให้คุณเกิดความชำนาญ และ ทำออกมาได้อร่อย คราวนี้จะทำกินเอง หรือว่า ทำขายก็ไม่มีปัญหา

Categories
อาหารนานาชาติ

ซุปกูลาช ซุปสตูว์สไตล์โฮมเมด อาหารขึ้นชื่อฮังการี

ซุปกูลาช ซุปสตูว์สไตล์โฮมเมด อาหารขึ้นชื่อฮังการี
ซุปกูลาช ซุปสตูว์สไตล์โฮมเมด อาหารขึ้นชื่อฮังการี

หลายคนที่เคยไปเที่ยวฮังการี อาจจะเคยเห็นหรือเคยได้ยินและมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารยอดนิยมของชาวสาธารณรัฐเชคและสโลวาเกียที่เสิร์ฟตามภัตตาคารอย่างเมนูซุปกูลาช ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวฮังกาเรียนที่เสิร์ฟตอนร้อนๆ กับขนมปังปิ้งกรอบนอกนุ่มใน โดยทั่วไปเมนูนี้นิยมปรุงในรูปแบบซุปหรือสตูว์ที่ทำจากเนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อแกะ ซึ่งวันนี้เราก็มีสูตรการทำเมนูซุปกูลาชมาฝากทำทุกคน รับรองได้ว่าสูตรที่เรานำมาแนะนำนี้อร่อยเสมือนได้เดินทางไปลิ้มรสที่ฮังการีเลยค่ะ

สำหรับต้นกำเนิดของซุปกูลาชเกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 9 เมื่อคนเลี้ยงแกะชาวฮังการี นำเนื้อสัตว์ที่ปรุงและแต่งกลิ่นรสแล้ว จากนั้นก็แปรรูปทำให้แห้งโดยใช้ความร้อนจากแสงอาทิตย์เข้าช่วย แล้วนำไปบรรจุลงในถุงที่ทำจากกระเพาะอาหารของแกะ โดยต้องเติมน้ำเพียงอย่างเดียวเพื่อให้รับประทานได้ ซึ่งในยุคแรกกูยาชจะไม่มีการใส่ปาปริกา เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีการนำเข้าเครื่องเทศชนิดนี้ จนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 16 ได้เริ่มมีการนำเครื่องเทศปาปริกาเข้ามาในประเทศฮังการีมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน

ส่วนผสมหลักของเมนูซุปกูลาช

เมนูซุปกูลาช หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Goulash soup เป็นซุปสตูว์สไตล์โฮมเมดที่มักใช้เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อแกะ มาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก แล้วไปเคี่ยวไฟอ่อนๆ ในน้ำซุป แล้วปรุงรสด้วยพริกป่นปาปริกา (Paprika) และเครื่องเทศอื่น ๆ ซึ่งสูตรที่เรานำมาฝากนี้เป็นซุปเนื้อวัวแบบฮังการี ที่มีความคล้ายคลึงกับกูลาชทั่วๆไป เป็นสตูเนื้อที่เข้ามะเขือเทศ แต่เน้นความสำคัญไปที่พริกแห้งปาปริก้า (Paprika) และเครื่องเทศหลายอย่าง ซึ่งสูตรนี้มีส่วนผสมหลักที่ขาดไม่ได้เลยดังนี้

วัตถุดิบและส่วนผสมซุปกูลาช

  1. เนื้อวัวส่วนน่องลาย 350 กรัม (หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมหนาประมาณ 2 ซ.ม.)
  2. เกลือ 1 ช้อนชา
  3. พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนชา
  4. กระเทียมสับให้หยาบ 1 กลีบใหญ่ (หรือ 3 กลีบเล็ก) 
  5. หอมหัวใหญ่ขนาดกลาง 2 หัว (หั่นหรือสับเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ)
  6. แอปเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล (หั่นหรือสับเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ)
  7. มะเขือเทศพันธุ์เนื้อ 2 ผล (หั่นหรือสับเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ)
  8. ส่วนที่ 1 มันฝรั่งขนาดกลาง 1 หัว (หั่นหรือสับเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ)
  9. ส่วนที่ 2 มันฝรั่งขนาดกลาง 4 หัว (หั่นเป็นชิ้นพอคำ)
  10. แครอท ½ หัว (หั่นเป็นชิ้นพอคำ)
  11. เนื้อมะเขือเทศบด (Tomato puree) 4 ช้อนโต๊ะ หรือ ½ กระป๋อง
  12. ปาปริกา 2 ช้อนชา
  13. น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  14. ใบกระวาน 2 ใบ
  15. น้ำซุปกระดูกหมู 4 ถ้วย
  16. โยเกิร์ต 4 ช้อนโต๊ะ
  17. เหล้าเชอรี่สำหรับทำอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ
ซุปกูลาช ซุปสตูว์สไตล์โฮมเมด อาหารขึ้นชื่อฮังการี
ซุปกูลาช ซุปสตูว์สไตล์โฮมเมด อาหารขึ้นชื่อฮังการี

ขั้นตอนวิธีการทำซุปกูลาช

เมนูซุปกูลาชก็เหมือนอาหารส่วนใหญ่ในโลกสมัยใหม่ ถึงจะมีประวัติที่ยาวนาน แต่ก็ย่อมถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยและพื้นที่นั้นๆ  แน่นอนว่าวิธีทำและส่วนผสมก็มีการปรับด้วยเช่นกัน ซึ่งขั้นตอนการทำที่เรานำมาแนะนำมีดังนี้

  1. เริ่มต้นหมักเนื้อวัวกับเกลือ และพริกไทยดำ แล้วทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันรำข้าว นำเนื้อวัวที่หมักแล้วไปทอดโดยใช้ไฟค่อนข้างแรงจนผิวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล (ทอดในหม้อสตูว์เลยก็ได้ค่ะ)
  3. จากนั้นเติมกระเทียมสับ หอมหัวใหญ่ แอปเปิ้ล มะเขือเทศ มันฝรั่ง(ส่วนที่ 1) ปาปริกา เนื้อมะเขือเทศบด ใบกระวาน ลงในกระทะแล้วผัดสักครู่
  4. เติมน้ำซุป (จะใช้น้ำเปล่าหรือน้ำซุปที่ปรุงรสก็ได้ค่ะ) ปิดฝาหม้อ แล้วหรี่ให้ไฟอ่อนลง แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนเนื้อวัวเกือบนุ่ม จากนั้นเติมมันฝรั่ง(ส่วนที่ 2) และแครอท เคี่ยวต่อจนเนื้อวัวเริ่มนุ่ม แต่ไม่เปื่อยจนเกินไป ในการทำครั้งนี้ใช้เวลาเคี่ยวนานเกือบ3 ชั่วโมง และต้องคอยระวังน้ำซุปแห้งด้วยค่ะ โดยหมั่นเติมน้ำทดแทนที่ระเหยไป 
  5. เมื่อทุกอย่างเริ่มได้ที่ดีแล้ว คุณก็จะได้สตูเนื้อสีแดงเข้ม มีมันลอย เนื้อวัวนุ่มนวล หอมกลิ่นเครื่องเทศแห้งหลายอย่างที่ใส่ไป น้ำสตูจะงวดข้นพอดี จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ เติมเหล้าเชอรี่ และ โยเกิร์ต คนให้เข้ากัน และเตรียมเสิร์ฟร้อนๆ สามารถทานคู่กับเส้นพาสต้า หรือขนมปังเนื้อแน่นๆ ก็ได้เลยค่ะ

สำหรับอาหารฮังการีเมนูนี้ปรุงรสโดยใช้ปาปริกาเป็นหลัก คุณสามารถทำให้เป็นสตูข้นๆ ได้ง่าย โดยปรับปรุงรสชาติในหม้อได้ตลอดระยะเวลาหลายชั่วโมงที่เคี่ยว และคุณสามารถดัดแปลงเมนูนี้ได้ โดยลดมะเขือเทศบดลงครึ่งส่วน และเพิ่มความหวานอมเปรี้ยวด้วยรสของแอปเปิ้ล และมันฝรั่งสับที่เคี่ยวไปกับเนื้อวัวตั้งแต่แรก จะช่วยทำให้สตูมีลักษณะข้นขึ้น ส่วนโยเกิร์ตที่ใส่ลงไปด้วยนั้น ช่วยให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น

Categories
อาหารไทย

หมูปิ้งกะทิ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมอร่อย ทำขายได้กำไรปังๆ

หมูปิ้งกะทิ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมอร่อย ทำขายได้กำไรปังๆ
หมูปิ้งกะทิ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมอร่อย ทำขายได้กำไรปังๆ

เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่สร้างผลกระทบให้กับเศรษฐกิจทั่วโลก เมืองไทยเราก็เช่นกัน อะไรที่ขายได้ก็ขายไปก่อน หลายๆคนอาจกำลังมองหาช่องทางทำอาชีพเสริม หรือรายได้เสริม ที่นอกเหนือจากงานประจำ ซึ่งวันนี้เวลาก็มีอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่อาจสร้างรายได้ให้คุณอย่างท่วมท้น นั่นก็คือการขายหมูปิ้งกะทิ โดยเราได้สืบค้นหาสูตรหมูปิ้งกะทิเสียบไม้สำหรับทำขายที่อร่อย เนื้อหมูนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมอร่อย มาฝากทุกคน แถมเรายังมีเคล็ดลับนึ่งข้าวเหนียวดำให้นุ่มอร่อยไว้ทานคู่กับหมูปิ้งอีกด้วย รับรองว่าเมนูนี้ขายได้กำไรดีแน่นอนค่ะ เพราะเป็นเมนูอาหารเช้าที่ใครหลายๆ คนรับประทานเป็นประจำ เนื่องจากมันทั้งอร่อย อิ่มง่ายและราคาไม่แพง แถมใช้ต้นทุนไม่สูงและใช้เวลาไม่นานก็สามารถคืนทุนได้ จะมีส่วนผสมและขั้นตอนการทำอย่งไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสมหลักของเมนูหมูปิ้งกะทิ ทานคู่กับข้าวเหนียวดำนุ่มๆ

เมนูหมูปิ้งกะทิเป็นอาหารที่สามารถทำขายได้ทั้งแบบขายปลีกและขายส่ง เพราะบางคนอาจสั่งขายไปขายต่อได้ สำหรับส่วนผสมก็การซื้อได้ง่าย และหัวใจหลักของเมนูนี้นอกจากเนื้อหมูแล้วก็ยังมีกะลิสดที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งเมนูนี้มีวัตถุดิบและส่วนผสมดังต่อไปนี้

วัตถุดิบและส่วนผสมเมนูหมูปิ้งกะทิเสียบไม้ (สำหรับไม้เสียบหมูมีขนาด 6 นิ้ว)

  1. สันคอหมู 1 กิโลกรัม
  2. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ 1 ช้อนชา
  5. กะทิสด 8 ช้อนโต๊ะ
  6. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
  8. ซีอิ้วดำหวาน 1  ช้อนโต๊ะ
  9. พริกไทย 2 ช้อนชา
  10. กระเทียม 2 หัว
  11. รากผักชี 6 ราก
  12. ลูกผักชี 1  ช้อนชา
  13. ใบมะกรูด 10  ใบ
หมูปิ้งกะทิ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมอร่อย ทำขายได้กำไรปังๆ
หมูปิ้งกะทิ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมอร่อย ทำขายได้กำไรปังๆ

ขั้นตอนวิธีการทำหมูปิ้งกะทิ และเคล็ดลับนึ่งข้าวเหนียวดำให้นุ่ม

สำหรับวิธีทำเมนูหมูปิ้งกะทิก็ไม่ได้ยุ่งอย่างที่คิดเลยค่ะ เพียงแค่คุณต้องใส่ใจกับทุกขั้นตอนเท่านี้หมูปิ้งกะทิเสียบไม้ของคุณก็ออกมาอร่อยขายได้กำไรดีแน่นอนค่ะ ซึ่งสูตรที่เรานำมานี้เป็นสูตรโบราณที่อร่อยไม่แพ้หมูปิ้งเจ้าอื่นๆชัวร์!!! โดยมีขั้นตอนการทำดังนี้

  1. ก่อนอื่นต้องนำไม้ที่จะนำมาเสียบหมูไปแช่น้ำ เพื่อให้ไม้อิ่มน้ำและไม่ดูดน้ำจากเนื้อหมู ช่วยทำให้เนื้อหมูยังมีความนุ่มชุ่มฉ่ำอยู่ และในระหว่างปิ้ง ไม้จะไม่ไหม้ง่าย
  2. นำเนื้อหมูไปล้างทำความสะอาดก่อน จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นตามความต้องการ โดยให้มีความหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
  3. เตรียมเครื่องปรุงหมักหมู โดยเริ่มจากการนำลูกผักชีมาคั่วจนหอม จากนั้นนำพริกไทยเม็ด ลูกผักชีที่คั่วไว้ ใบมะกรูดซอย มาโขลกรวมกันให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ตามด้วยรากผักชี แล้วโขลกต่อให้รากผักชีละเอียด แล้วพักไว้ก่อน
  4. เตรียมชามผสมใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊วดำหวาน น้ำมันพืช และกะทิสด ลงไปแล้วคนผสมให้เข้ากัน
  5. เมื่อน้ำตาลเริ่มละลาย ให้ใส่เครื่องปรุงที่โขลกไว้ลงไปผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนื้อหมูตามลงไปคลุกให้เข้ากัน
  6. ตามด้วยการใส่แป้งมันตามลงไปเป็นอันดับสุดท้าย แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วรอประมาณ 8-10 นาที
  7. จากนั้นนำพลาสติกแรปมาปิดไว้ แล้วนำเนื้อหมูที่หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น ประมาณ 2 ชั่วโมง
  8. เมื่อเวลาครบแล้วให้นำเนื้อหมูมาเสียบไม้ย่าง ให้ได้ขนาดและปริมาณตามต้องการ 
  9. เตรียมใบเตยมาทำเป็นแปรงสำหรับทากะทิสด ตอนย่างหมูเสียบไม้
  10. ตั้งเตาถ่านให้ร้อน แล้วเอาขี้เถ้ามาคลุมถ่านเพื่อคุมความร้อน หรือใช้เตาไฟฟ้าก็ได้ค่ะ โดยนำหมูลงย่าง คอยกลับด้านเรื่อยๆ
  11. พอหมูปิ้งเริ่มสุกประมาณ 80% ให้ทากะทิสดลงไป แล้วรอให้กะทิซึมเข้าเนื้อหมู พลิกด้านแล้วทำเหมือนเดิม
  12. เมื่อเนื้อหมูได้สุกตามความต้องการ ให้นำหมูปิ้งกะทิออกจากเตา เพียงแค่นี้คุณก็จะได้หมูปิ้งกะทิที่อร่อยพร้อมรับประทาน

เคล็ดลับนึ่งข้าวเหนียวดำ

ด้วยความที่ข้าวเหนียวดำมีลักษณะเม็ดแข็งและมีเปลือกที่หนา หากนำมาหุงหรือนึ่งเพียวๆ อาจจะทำให้ข้าวเหนียวมีความแห้งแข็ง เคี้ยวแล้วกรุบๆ กินยาก กินแล้วไม่อร่อย ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับความอร่อยของการนึ่งข้าวเหนียวดำ ที่จะช่วยทำให้ข้าวเหนียวดำนุ่มขึ้นนั่นคือการนำข้าวเหนียวขาวใหม่ มาผสมไปกับข้าวเหนียวดำแล้วนำไปนึ่ง โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เตรียมชามผสมแล้วนำข้าวเหนียวดำ มาผสมกับข้าวเหนียวขาว และใส่น้ำเปล่าตามลงไป
  2. ซาวน้ำทิ้งประมาณ 3 รอบ จากนั้นแช่ข้าวเหนียวทั้ง 2 ชนิดในน้ำเปล่า แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 – 6 ชั่้วโมง
  3. เมื่อครบเวลาให้เทน้ำออก แล้วเอาน้ำร้อนต้มเดือดใส่ให้ท่วมข้าวเหนียว แล้วคนเล็กน้อยจากนั้นแช่ข้าวเหนียวทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เมื่อครบเวลาคนเล็กน้อยแล้วเทน้ำออก เขย่าให้ข้าวเหนียวสะเด็ดน้ำ ส่วนน้ำร้อนให้เก็บไว้ก่อนอย่าเพิ่งทิ้ง เพื่อเก็บไว้พรมข้าวเหนียว
  4. เตรียมซึ้งนึ่งและผ้าขาวบาง นำผ้าขาวบางชุบน้ำแล้ววางลงบนซึ้ง จากนั้นใส่ข้าวเหนียว เกลี่ยให้ทั่ว แต่ให้เว้นช่วงรูตรงกลางไว้ ให้ไอน้ำระเหยขึ้นมา ข้าวเหนียวจะได้สุกทั่วถึง และสม่ำเสมอกันดี
  5. ต้มน้ำเตรียมนึ่ง และใส่ใบเตยลงไป เพื่อให้ข้าวเหนียวมีกลิ่นหอม รอจนน้ำเดือด จากนั้นนำข้าวเหนียวไปนึ่งได้เลย
  6. ใช้เวลานึ่งประมาณ 20 นาทีขึ้นไป เพราะข้าวเหนียวดำจะมีความแข็งกว่าข้าวเหนียวขาว
  7. เมื่อนึ่งไปแล้วประมาณ 15 นาที ให้กลับด้านข้าวเหนียว เพื่อให้ข้าวเหนียวสุกทั่วถึงกันดี แล้วนำน้ำแช่ข้าวเหนียวที่เก็บไว้มาพรมด้านบน
  8. นึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที จนข้าวเหนียวสุกพร้อมรับประทานได้ค่ะ
Categories
อาหารสุขภาพ

วิธีดูแลอาหารนักมวย วิธีเพิ่มน้ำหนักนักมวย ดูแลสุขภาพนักมวยอย่างไร

วิธีดูแลอาหารนักมวย วิธีเพิ่มน้ำหนักนักมวย ดูแลสุขภาพนักมวยอย่างไร
วิธีดูแลอาหารนักมวย วิธีเพิ่มน้ำหนักนักมวย ดูแลสุขภาพนักมวยอย่างไร

ชกมวยเป็นกีฬาต่อสู้ที่มีการเคลื่อนไหวสูงและมีความเข้มข้นสูงซึ่งต้องใช้ทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรบิคและแบบไม่ใช้ออกซิเจนรวมถึงทักษะที่สำคัญ การชกมวยมีการแข่งขันทั้งในระดับสมัครเล่นและระดับมืออาชีพโดยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นจุดสูงสุดของมวยสากลสมัครเล่น

อาหารนักมวยสำหรับการฝึก

เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝึกซ้อมนักมวยจำเป็นต้องแน่ใจว่าพวกเขาได้รับการเติมเชื้อเพลิงและให้น้ำอย่างเหมาะสม การรับประทานผักและผลไม้ที่หลากหลายจะทำให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุจำนวนมากเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยและส่งเสริมสุขภาพและการฟื้นตัวที่ดี การบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตอย่างเพียงพอ (ขนมปังธัญพืชซีเรียล ฯลฯ ) โดยเฉพาะก่อนและหลังการฝึกจะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการฟื้นตัว การบริโภคโปรตีน (เนื้อสัตว์ทางเลือกของเนื้อสัตว์นม ฯลฯ ) ควรกระจายไปทั้งวันในระดับปานกลางหลาย ๆ มื้อเช่นเดียวกับหลังการฝึกเพื่ออำนวยความสะดวกในการฟื้นตัวและการเจริญเติบโตที่ดีที่สุด (แทนที่จะให้อาหารมื้อใหญ่ในมื้อหลักหนึ่งหรือสองมื้อ)

ความต้องการสำหรับอาหารนักมวย

นักกีฬาหลายคนที่ตระหนักถึงน้ำหนักของตนจะไม่สามารถทดแทนการสูญเสียเหงื่อได้อย่างเพียงพอหลังการฝึกเนื่องจากจะแสดงเป็นน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นบนตาชั่ง อย่างไรก็ตามการคายน้ำอาจทำให้กำลังขับลดลงความสามารถในการใช้ออกซิเจน / ไม่ใช้ออกซิเจนลดลงเวลาในการตอบสนองลดลงและส่งผลต่อประสิทธิภาพการรับรู้ นอกจากนี้อาจทำให้ผลกระทบของการถูกกระทบกระแทกหรือการบาดเจ็บที่ศีรษะแย่ลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการชกมวย

การดูแลให้นักกีฬาได้รับความชุ่มชื้นอย่างเหมาะสมในแต่ละวันในการฝึกซ้อมเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมประสิทธิภาพและสุขภาพที่ดี นักกีฬาควรดื่มของเหลวพร้อมอาหารและของว่างทุกมื้อและดื่มระหว่างการฝึก โดยทั่วไปแล้วเครื่องดื่มกีฬาไม่จำเป็นต้องใช้ในการฝึกซ้อม แต่อาจมีประโยชน์ในการแข่งขัน

เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาและโค้ชที่จะต้องเข้าใจการลดน้ำหนักในระยะสั้นและระยะยาว การลดน้ำหนักในระยะยาวจำเป็นต้องลดไขมันในร่างกายและสามารถทำได้โดยการลดปริมาณพลังงานทั้งหมด ในช่วงเวลานี้สิ่งสำคัญคือต้องบริโภคอาหารที่ตอบสนองความหิวลดพลังงานอย่างเหมาะสมเพื่อลดไขมันในร่างกาย แต่ยังช่วยฝึกอบรมและส่งเสริมการฟื้นตัว ดังนั้นนักกีฬาจึงต้องมีกลยุทธ์ในการบริโภคอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนและหลังการฝึกอบรมเพื่อช่วยกระตุ้นและฟื้นตัวจากช่วงสำคัญ การลดการบริโภคพลังงานควรมาจากการ จำกัด “อาหารเสริม” (ช็อคโกแลตเค้กมันฝรั่งทอดอาหารขยะ ฯลฯ ) และลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตในวันพักผ่อนและอยู่ห่างจากช่วงสำคัญ ๆ

นักกีฬาบางคนอาจอดอาหารข้ามมื้ออาหารหรือลดปริมาณ / น้ำหนักของอาหารที่บริโภคในวันก่อนชั่งน้ำหนักเพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก แม้ว่าจะได้ผล แต่กลยุทธ์นี้จะช่วยลดการบริโภคพลังงานและสารอาหารที่จำเป็น แต่กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่นการลดการบริโภคเกลือการลดปริมาณของเหลวลงเล็กน้อยและการรับประทานอาหารที่มีกากน้อยจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและการทำงานร่วมกับนักกำหนดอาหารด้านกีฬาที่ได้รับการรับรองเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มน้ำหนักอย่างปลอดภัย

อาหารนักมวย หลังจากชั่งน้ำหนัก

ในการแข่งขันชกมวยสมัครเล่นนักกีฬาจะมีเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงหลังการชั่งน้ำหนักก่อนแข่งขัน เวลานี้ควรใช้เพื่อเติมเชื้อเพลิงใหม่สำหรับการแข่งขันและฟื้นตัวจากการสูญเสียของเหลวที่ใช้ในการทำน้ำหนัก การบริโภคของเหลว 150% ที่สูญเสียของเหลวด้วยโซเดียมที่มีของเหลวในการจิบบ่อยๆเล็กน้อยจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อาหารที่อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตจะเป็นเชื้อเพลิงสำหรับนักกีฬาสำหรับการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง

วิธีดูแลอาหารนักมวย วิธีเพิ่มน้ำหนักนักมวย ดูแลสุขภาพนักมวยอย่างไร
วิธีดูแลอาหารนักมวย วิธีเพิ่มน้ำหนักนักมวย ดูแลสุขภาพนักมวยอย่างไร

อาหารนักมวย การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มระหว่างการแข่งขัน

เป็นเรื่องปกติที่นักกีฬาอาจรู้สึกกังวลหรือรู้สึกว่ากินยากก่อนการแข่งขัน การเลือกอาหารที่เบาย่อยง่ายไขมันต่ำไฟเบอร์ต่ำหรืออาหารเหลว (เช่นเครื่องดื่มทดแทนมื้ออาหารสปอร์ตบาร์แซนวิชง่ายๆบิสกิตแห้ง ฯลฯ ) ที่ใกล้เคียงกับการแข่งขันอาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการให้พลังงานในขณะที่ลดความไม่สบายในลำไส้ หลังจากการแข่งขันของพวกเขาหากนักมวยต้องการเพิ่มน้ำหนักอีกครั้งในวันรุ่งขึ้นควรตรวจสอบน้ำหนักของตนเองและหากจำเป็นต้องลดน้ำหนักต่อไปก็ควรปรับปริมาณ / น้ำหนักทั้งหมดของอาหารและของเหลวที่บริโภคในช่วงที่เหลือของวัน ควรให้ความสำคัญกับอาหารที่มีเส้นใยน้อย / น้ำหนักน้อยที่ให้คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเพื่อเป็นพลังงานและการฟื้นตัวในขณะที่หลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่ / หนักเกินไปและการกินของเหลวปริมาณมากเพื่อที่จะทำให้น้ำหนักกลับมาอีกครั้ง

อาหารนักมวยการกู้คืนน้ำหนักหลังการแข่งขัน

การฟื้นตัวหลังการฝึกซ้อมและการแข่งขันสามารถเพิ่มขึ้นได้โดยการรับประทานอาหารหรือของว่างที่มีคาร์โบไฮเดรตเพื่อทดแทนการเก็บไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ โปรตีนเพื่อเร่งการซ่อมแซมกล้ามเนื้อและของเหลวเพื่อทดแทนการสูญเสียเหงื่อ ควรรับประทานอาหารหรืออาหารว่างเพื่อการฟื้นฟูภายใน 30-60 นาทีหลังจากจบการฝึกซ้อมหรือการแข่งขัน บางครั้งไม่สามารถรับประทานอาหารหลักได้ทันทีหลังการฝึกซ้อม / การแข่งขัน ในสถานการณ์เหล่านี้แนะนำให้รับประทานของว่างทันทีหลังจากการฝึกเพื่อเตะเริ่มฟื้นตัวจากนั้นจึงจบขั้นตอนการพักฟื้นในมื้อหลักถัดไป อาหารว่างเพื่อการฟื้นฟูที่เหมาะสมซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและของเหลว ได้แก่ :

  • สมูทตี้ผลไม้ไขมันต่ำ
  • ซีเรียลบาร์ + เตตราแพ็คนมปรุงแต่งไขมันต่ำ
  • โยเกิร์ต + ผลไม้สับ + ขวดน้ำ
  • แซนวิชแฮมและชีส + เครื่องดื่มกีฬา 1 ขวด

อาหารนักมวย เคล็ดลับทางโภชนาการอื่น ๆ

นักกีฬาที่อายุน้อยควรได้รับอนุญาตให้เลื่อนระดับน้ำหนักเมื่ออายุมากขึ้น / เติบโตขึ้นและควรมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนการพัฒนาทักษะและการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ใช่การลดน้ำหนัก

นักกีฬาที่มีประสบการณ์และอาวุโสมากขึ้นควรพัฒนาแผนการลดน้ำหนักและการพักฟื้นส่วนบุคคลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเลือกแผนกน้ำหนักที่แข่งขันได้ร่วมกับนักกำหนดอาหารด้านกีฬาที่ได้รับการรับรอง

กลยุทธ์การสร้างน้ำหนักและการกู้คืนควรได้รับการทดลองและปรับแต่งก่อนการแข่งขันที่สำคัญ

อาหารนักมวย จำเป็นต้องใช้อาหารเสริมร่วมกับคำแนะนำจากนักกำหนดอาหารด้านกีฬาที่ได้รับการรับรอง อาหารเสริมบางชนิดได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเช่น ผงโปรตีนครีเอทีนและเครื่องดื่มเพื่อการกีฬาในขณะที่นักกีฬาคนอื่น ๆ อาจใช้เนื่องจากรับรู้ถึงประโยชน์ (รู้สึกดีขึ้น) เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่พิสูจน์แล้ว