สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล
ปลาทับทิมสามรส
ปลาทับทิมสามรส
Categories
อาหารนานาชาติ

สูตรไก่เทอริยากิ เมนูสุดปัง หอมกลิ่มซอสสไตล์ญี่ปุ่น

ไก่เทอริยากิ
ไก่เทอริยากิ

เหล่าสาวกคนที่รักอาหารญี่ปุ่นฟังทางนี้! วันนี้เรามีสูตรเมนูอาหารญี่ปุ่นอย่าง “ไก่เทอริยากิ” มาแนะนำ บอกเลยสูตรนี้ทุกคนไม่ควรพลาด ซึ่งสามารถทำเองได้ง่าย เราได้สูตรนี้มาจากแชลแนลยูทูปช่อง Devilishly Delicious Food เป็นเมนูที่ทำได้ง่ายๆ ไม่เหมือนใคร แถมอร่อยถูกปากคนไทยอีกด้วย

ส่วนผสมหลักของเมนูไก่เทอริยากิ

วัตถุดิบของการทำเมนูไก่เทอริยากิ มีไม่มากนัก หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป แถมยังประหยัดอีกด้วย เป็นอาหารญี่ปุ่นที่สามารถหาซื้อได้ง่ายๆตามเซเว่น แต่ถ้าเราได้มีโอกาสทำกินเองมันยิ่งจะทำให้การกินอร่อยเพิ่มขึ้นไปอีกแบบ แล้วยิ่งได้กินกับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ บอกเลยว่ามันฟินสุดๆ ไปเลย เรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนการทำกันเลยดีกว่าค่ะ

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. อกไก่ (ที่เอากระดูกออกแล้ว) 350 กรัม
  2. ซอสถั่วเหลือง 4 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำส้มสดแก้ว 1 แก้ว
  5. น้ำมันงา 2 ช้อนชา
  6. ขิง ใส่ได้ตามใจชอบ
  7. เนย ใช้ทากระทะเพิ่มกลิ่นหอม
  8. เมล็ดงา ใส่ได้ตามใจชอบ
  9. ต้นหอม ใส่ได้ตามใจชอบ
ไก่เทอริยากิ
ไก่เทอริยากิ

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. นำอกไก่ (อาจจะเป็นส่วนสะโพกไก่หรือปีกไก่ ก็ได้) หั่นให้มีขนาดปานกลางเท่าๆ กันและวางลงบนชามที่เตรียมไว้หมักไก่
  2. เริ่มหมักไก่ในชาม ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง น้ำผึ้งหวานหอม น้ำส้มคั้นสดๆ สุดท้ายก็ขูดขิงและเติมน้ำมันงาลงไป ทิ้งหมักไว้ประมาณ 30 นาที
  3. ตั้งกระทะย่างใช้ไฟปานกลาง หยอดน้ำมันพืชลงไปบนกระทะเล็กน้อย และนำไก่ที่หมักไว้ลงย่างให้สุกสีสักสวยงามและให้ได้กลิ่นหอมของน้ำหมัก จากนั้นนำขึ้นมาพักไว้
  4. ตั้งกระทะคั่วงาให้เกิดกลิ่มหอม แล้วพักไว้ เพื่อเตรียมโรยตอนปิดท้าย
  5. ตั้งกระทะทำน้ำซอสให้ไก่ที่เราย่างมีกลิ่มหอม เริ่มจากนำเนยมาละลายบนกระทะ จากนั้นเทน้ำหมักไก่ลงไปประมาณ 1 ถ้วยตวง
  6. นำไก่ที่ย่างไว้ลงไปใส่ในกระทะน้ำซอสทีละชิ้น จากนั้นผัดคลุกเคล้าไปมาจนน้ำซอสงวดลงไป แล้วนำออกจากกระทะ
  7. ขั้นตอนสุดท้ายจัดใส่จานแล้วโรยงาคั่วและต้นหอมซอยด้านบนเป็นอันเสร็จ

เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน สำหรับวิธีทำเมนูไก่เทอริยากิ เมนูง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้  เป็นเมนูยอดฮิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่หลายๆ คนต่างชื่นชอบ หรือใครเคยทัวร์ญี่ปุ่นก็อาจจะเคย ลิ้มรสเมนูนี้แล้ว สำหรับใครอยากดูวิธีทำแบบละเอียดๆ ก็สามารถตามไปชมที่คลิปของช่อง Devilishly Delicious Food ได้เลย ใครที่นำสูตรนี้ไปทำกินแล้วอย่าลืมแชร์ความอร่อยมาใครเราชื่นชมด้วยนะคะ

Categories
อาหารนานาชาติ

สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เมนูอาหารจานเดียวรสเด็ด ของสาวกคนรักเส้น

สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

เรียกได้ว่าเป็นเมนูยอดฮิตไม่ตกเทรนจริง ๆ กับเมนูปลาหมึกผัดไข่เค็ม วันนี้เราจึงได้หยิบยกเมนูนี้มาแนะนำทุกคนได้รู้จัก แต่เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ ในการทำอาหาร เราจึงได้นำสปาเก็ตตี้กับปลาหมึกผัดไข่เค็มรวมกัน เป็นอาหารจานเด็ดสุดพิเศษ และกลายมาเป็นเมนู “สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม”  เมนูทางเลือกสำหรับสาวกคนรักเส้น ที่เสิร์ฟพร้อมกับปลาหมึกเนื้อนุ่มๆ คลุกเคล้าไปด้วยไข่แดงเค็มมันๆ หอมๆ กับเส้นเหนียวนุ่ม แถมรสชาติปังสุดๆ เรามาดูส่วนผสมหลักกับขั้นตอนการทำกันเลย

ส่วนผสมหลักของเมนูสปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

จะเป็นอย่างไร? หากเมนูสปาเก็ตตี้มารวมอยู่ในจานเดียวกันกับเมนูไข่เค็ม พร้อมทั้งเสริมทัพด้วยปลาหมึกเนื้อนุ่มๆอย่าง สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เมนูที่ทำง่ายๆได้ที่บ้าน วัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป เรามาดูส่วนผสมหลักกับขั้นตอนการทำกันเลย

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. เส้นสปาเก็ตตี้ 100 กรัม
  2. เกลือ 1 ช้อนชา
  3. ไข่แดงเค็ม 3 ลูก
  4. ไข่เค็มหั่นชิ้น 1 ลูก
  5. น้ำเปล่า ⅓ ถ้วย
  6. พริกเผา 2 ช้อนชา
  7. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  10. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ปลาหมึกหั่นแว่น 350 กรัม
  12. ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1 ต้น
  13. ต้นหอมหั่นท่อน 1 ต้น
  14. พริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้น ไว้สำหรับตกแต่ง
  15. น้ำมันพืช ไว้สำหรับผัดเล็กน้อย
สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
สปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ตั้งหม้อใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำประมาณครึ่งหม้อ ใส่เกลือ รอจนน้ำเดือด จากนั้นใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไปต้มประมาณ 5 นาที เมื่อเส้นสุก ให้นำขึ้น แล้วนำไปล้างผ่านน้ำไหล แล้วพักไว้
  2. นำไข่แดงเค็มมาบดในถ้วย ผสมกับพริกเผา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  3. ให้คลุกเส้นสปาเก็ตตี้้พักไว้กับน้ำมันมะกอก เพื่อไม่ให้ตัวเส้นติดกันเป็นก้อน
  4. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง พอกระทะร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ ผัดจนพอเหลืองหอม
  5. ใส่ซอสไข่เค็มที่เตรียมไว้ลงไปผัด ตามด้วยปลาหมึกหั่นแว่น ไข่เค็มหั่นชิ้น ผัดจนปลาหมึกสุก และไข่แดงเค็มเคลือบปลาหมึกจนทั่ว
  6. ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ที่คลุกน้ำมันมะกอกลงไปในกระทะ แล้วผัดให้เข้ากันทั้งหมด
  7. ใส่ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ผัดให้เข้ากัน แล้วตักขึ้นจัดใส่จาน โรยด้วยพริกชี้ฟ้าแดงซอย พร้อมเสิร์ฟ

น่ากินมากๆ เลยใช่ไหมทุกคน สำหรับวิธีทำเมนูสปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เป็นเมนูประเภทผัดที่ถูกใจใครหลายๆ คนไม่ใช่น้อย และเรายังมี Tip แนะนำเพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังจะทำกิน นั่นก็คือ การผัดให้พอเข้ากัน อย่าผัดนาน เพราะอาจจะทำให้เส้นเละไดค่ะ ใครที่ทำเสร็จแล้วอย่าลืมส่งมาแชร์ความอร่อยกับเรากันนะคะ

Categories
อาหารนานาชาติ

บิบิมบับ เมนูนานาชาติสุดฮิตจากประเทศเกาหลี

บิบิมบับ
บิบิมบับ

วันนี้เราขอเอาใจเหล่าสาวกอาหารเกาหลีกันหน่อย ด้วยเมนูยอดฮิตอย่าง “บิบิมบับ” หรือข้าวยำเกาหลี เราอาจเคยเห็นผ่านซีรี่ย์เกาหลีหลายๆ เรื่อง หรือใครที่เคยทัวร์เกาหลี จะต้องได้ลิ้มลองเมนูนี้แน่นอน เพราะเป็นเมนูง่ายๆ และหาซื้อกินได้ง่ายตามร้านอาหารเกาหลี แถมยังอร่อยและได้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน จุดเด่นเมนูนี้ก็คือการนำข้าวสวย ผักปรุงรส ไข่ และซอสเผ็ดของเกาหลี มาคลุกผสมกัน เกิดเป็นเมนูที่แสนอร่อยแบบนี้ 

ส่วนผสมหลักของเมนูบิบิมบับ

ข้าวยำเกาหลีหรือภาษาเกาหลีเรียกว่า บิบิมบับ เป็นเมนูที่อยู่คู่กับคนเกาหลีมาอย่างยาวนาน โดยส่วนประกอบในบิบิมบับจะถูกแบ่งออกเป็น 5 สี ซึ่งมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เกี่ยวกับทิศและสุขภาพตามตำราการแพทย์แบบโบราณ ทุกคนคงพอจะรู้จักเมนูนี้แล้ว เรามาดูส่วนผสมหลักๆ และขั้นตอนการทำกันเลย

วัตถุดิบส่วนผสม

  1. ข้าวสวย 1 ถ้วย
  2. เนื้อสัตว์บด ที่รวนสุก (เลือกได้ตามใจชอบ เช่น เนื้อหมู ไก่ หรือวัว)
  3. แครอท ใส่ตามใจชอบ
  4. ผักโขมสด ใส่ตามใจชอบ
  5. เห็ดหอม ใส่ตามใจชอบ
  6. ถั่วงอก ใส่ตามใจชอบ
  7. ซอสโคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำส้มสายชู ¼ ถ้วย
  10. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  11. เกลือ 1 ช้อนชา
  12. น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ สำหรับผัด
  13. งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ แบ่งเป็น 2 ส่วน
  14. ไข่ไก่สด (ใช้เฉพาะไข่แดง) หรือ ไข่ดาว 1 ฟอง
  15. น้ำเปล่า

 

บิบิมบับ
บิบิมบับ

ขั้นตอนวิธีการทำ

ขั้นตอนการเตรียมผักเครื่องเคียง

  1. หั่นผักชิ้นให้เป็นเส้นๆ (แครอท ผักโขม เห็ดหอม) จากนั้นนำไปลวกทีละอย่างจนสุก เพื่อเตรียมนำไปปรุงรส
  2. ปรุงรสผัก (แครอท เห็ดหอม ถั่วงอก) ด้วยเกลือ น้ำมันงา และงาขาว คลุกให้เข้ากัน
  3. ปรุงรสผักโขมด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันงา และงาขาว
  4. ผักแต่ละอย่างปรุงรสแยกไว้ตามชนิด เพื่อเตรียมนำจัดใส่จาน

ขั้นตอนการทำซอสข้าวยำเกาหลี

  1. เริ่มจาก โคชูจัง หรือซอสเผ็ดของเกาหลี ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำส้มสายชู และน้ำมันงา แล้วเติมงาขาวคั่ว คนจนซอสแดงเริ่มเข้มข้นเข้ากัน
  2. พักไว้ก่อน เตรียมจัดจาน

ขั้นตอนการจัดจานเมนูบิบิมบัม

  1. นำข้าวใส่ในชาม หรือหากใครใช้หม้อหินร้อน ก่อนตักข้าวลงไปให้ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย
  2. เรียงส่วนผสมเครื่องเคียงที่เตรียมไว้ลงไปทีละส่วนตามต้องการ
  3. ใส่ไข่ไก่สด ใช้เฉพาะไข่แดง หรือ ไข่ดาวแบบไข่แดงไม่สุก แนะนำให้ใช้ไข่ถูกหลักอนามัย ลงไปด้านบน
  4. ใส่ซอสข้าวยำที่เตรียมไว้ หรือจะโรยสาหร่ายเพิ่มความอร่อยด้วยก็ได้
  5. เวลาทานให้คลุกข้าว ซอส และส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน ส่วนใครที่ใช้หม้อหินร้อนก็คลุกจนไข่แดงสุก

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับวิธีทำบิบิมบับ เป็นเมนูง่ายๆ ที่ไม่ต้องบินไกลไปถึงเกาหลีเราก็ทำกินเองได้ รสชาติก็อร่อยฟินสุดๆ ไม่แพ้สูตรต้นตำรับเลย แถมยังได้สารอาหารครบถ้วน 5 หมู่  อีกทั้งเรายังสามารถเพิ่ม หรือลดผัก และเนื้อสัตว์ได้ตามใจชอบเลยนะ ใครที่นำสูตรนี้ไปทำตามก็อย่าลืมแชร์มาให้เราได้ชื่นชมด้วยนะคะ

Categories
อาหารนานาชาติ

ไก่ตุ๋นไวน์แดง เมนูหรูหรา สุดคลาสสิกจากฝรั่งเศส

ไก่ตุ๋นไวน์แดง
ไก่ตุ๋นไวน์แดง

ใครที่เข้าครัวทำอาหารในวันนี้เรามีเมนูสุดพิเศษ จากดินแดนเมืองน้ำหอมประเทศฝรั่งเศส มาแนะนำอย่างเมนู “ไก่ตุ๋นไวน์แดง” เป็นเมนูสุดคลาสสิคที่หรูหรา แต่สามารถทำกินเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน อาหารจานนี้เหมาะมากๆ กับมื้อพิเศษกับคนพิเศษ หรือในงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองกับแก๊งเพื่อนก็เก๋ไก๋ไม่ตกเทรนแน่นอน เมนูนี้เป็นของดีมีระดับ หากไปกินตามร้านอาหารหรูหรา เมนูจานนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ไม่ได้เป็นเพราะไก่หรอกนะคะ ที่ทำให้ราคาแพงหูฉี่แบบนี้ มันเกิดจากราคาของไวน์ที่เอามาตุ๋นนั้นต่างหาก ราคาของอาหารเมนูนี้จึงแพงตามราคาของไวน์ที่เอามาทำนั่นเอง เรามาดูส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำกันเลยดีกว่า

ส่วนผสมหลักของเมนูไก่ตุ๋นไวน์แดง

เมนูไก่ตุ๋นไวน์แดง หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่ากอโกแว็ง (coq au vin) เป็นอาหารฝรั่งเศส ประเภทต้มชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยถือกำเนิดจากแคว้นเบอร์กันดี วัตถุดิบส่วนผสมก็มีไม่มาก ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ซึ่งส่วนผสมหลักๆ ก็มีดังนี้

  1. น่องไก่ติดสะโพกหรืออกไก่ 4 ชิ้น
  2. เบค่อน 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
  4. เห็ดแชมปิญอง 3 ช้อนโต๊ะ
  5. มันฝรั่งปอกเปลือก 5 ลูก
  6. แครอท 1 หัว หั่นเต๋า
  7. หอมหัวใหญ่ 1 หัว หั่นเต๋า
  8. เซเลอรี่ 1 ถ้วย
  9. พาสลี่ย์สับ 1/2 ถ้วย
  10. มะเขือเทศ 2-3 ลูก
  11. โรสแมรี่ ไธม์ พาสลีย์
  12. เห็ดแบบที่ชอบ 2 ถ้วย ผ่า4ส่วน
  13. ไวน์แดง 750-1,000 มิลลิลิตร
  14. เกลือ 1 ช้อนชา
  15. พริกไทย ตามใจชอบ
ไก่ตุ๋นไวน์แดง
ไก่ตุ๋นไวน์แดง

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. เริ่มปรุงไก่ด้วยเกลือ พริกไทย ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก นำไก่ไปจี่ให้ขึ้นสีสวยทั้งสองด้าน แล้วนำขึ้นมาพักไว้
  2. ใช้กระทะใบเดิม ใส่เบค่อนผัดลงไปให้คายน้ำมันออกมา จากนั้นต่อด้วยหอมใหญ่ เซเลอรี่ แครอท เห็ด มะเขือเทศ โรสแมรี่ ไธม์ และพาสลีย์ แล้วผัดให้นิ่มงวดเข้ากัน จากนั้นนำชิ้นไก่ลงในกระทะ
  3. ใส่ไวน์แดงแล้วตั้งให้เดือด จากนั้นหรี่ไฟลงอ่อนๆ ตั้งเคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย พอเปื่อยดี ก็เตรียมใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับวิธีทำเมนูจานอร่อยหรูสไตล์ฝรั่งเศสอย่างไก่ตุ๋นไวน์แดง เมนูนี้ไม่ได้มี แค่ไก่ตุ๋นนะ แต่ยังมีเป็นแบบเนื้อตุ๋นไวน์แดงอีกด้วย หากใครที่อยากจะลองทำเมนูนี้เราของแนะนำเพิ่มเติมว่าอย่าเคี่ยวเนื้อด้วยไฟแรง เพราะจะทำให้เนื้อกระด้าง และรสชาติไม่เข้าเนื้อ ควรเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ รับรองความอร่อยเข้าถึงเนื้อแน่นอน สำหรับใครที่ทำแล้วก็อย่าลืมแชร์ความอร่อยมาให้เราได้ชื่นชมด้วยนะคะ

อ่านเพิ่มเติม > รวม 10 สูตร เมนูไก่ ยอดนิยม พร้อมวิธีแสนง่ายที่สามารถทำเองที่บ้านได้

Categories
อาหารนานาชาติ

นาซิ เลอมัก อาหารนานาชาติของมาเลเซียยอดนิยมที่น้อยคนรู้จัก

นาซิ เลอมัก
นาซิ เลอมัก

สวัสดีจ้า วันนี้เรามีอาหารนานาชาติ อย่างประเทศมาเลเซีย นั่นก็คือ นาซิ เลอมัก (Nasi Lemak) เรียกได้ว่าเป็นอาหารมาเลเซีย มีลักษณะเป็นข้าวหุงนำมากับกะทิ และใบเตย พร้อมด้วยเครื่องเคียง 4 อย่าง ประกอบด้วย แตงกวาหั่น ปลากะตักทอดกรอบไข่ต้มสุก และถั่วอบ ที่สำคัญเมนูนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในภาคใต้ของไทยอีกด้วย เมนูนั้นคืออะไรตามมาดูเลย

วิธีการทำนาซิ เลอมัก อาหารมาเลเซียสุดฮิต

เมนูของอาหารมาเลเซียในวันนี้ที่เราจะมาแจกสูตรกันก็คือ …. นาซิ เลอมัก (Nasi Lemak) มีส่วนผสมดังนี้

  • ข้าวสาร จำนวน 2 ถ้วย
  • ใบเตย จำนวน 3 ใบ
  • น้ำกะทิ จำนวน 2 ถ้วย
  • เกลือ ปริมาณ 1/8 ช้อนชา
  • หอมแดงหัวเล็ก 4 หัว ซอยบาง ๆ
  • น้ำเปล่า จำนวน 2 ถ้วย
  • ปลาทอด
  • กระเทียม ใช้แค่ 1 หัว ก็พอจ้า จากนั้นนำมาซอยบาง ๆ
  • หอมหัวใหญ่สีม่วง จำนวน 1/2 หัว ซอยบาง ๆ
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • เกลือ ¼ ช้อนชา
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • พริกแห้ง จำนวน 10 เม็ด
  • น้ำมะขามเปียกจำนวน ¼ ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ต้ม 1 ลูก ผ่าครึ่ง
  • ถั่วลิสงคั่ว
  • แตงกวา

ขั้นตอนการทำนาซิ เลอมัก มีดังนี้จ้า       

  • ก่อนอื่นเรามาเริ่มต้นด้วยการนำข้าวสารไปซาวน้ำ และมาใส่หม้อ
  • ตามด้วยน้ำกะทิ, น้ำเปล่า, เกลือ และใบเตยลงไป
  • ทำการหุงข้าวจนสุก
  • แล้วพักไว้

มาดูขั้นตอนการทำเครื่องเคียงกันบ้างค่ะ

  • อันดับแรกเรามาเริ่มจากการโขลกพริกแห้ง โดยนำพริกแห้งที่เตรียมไว้มาใส่ลงไปในครกค่ะ จากนั้นโขลกห้ละเอียด
  • ตั้งกระทะโดใช้ไฟกำลังพอดี เทน้ำมันพืชลงในกระทะ
  • ใส่หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง และหอมใหญ่ซอย ผัดไปเรื่ออย ๆ จนเริ่มมีกลิ่นหอมและสีเหลืองกำลังพอดี
  • เติมความเปรี้ยวด้วยน้ำมะขามเปียก และเพิ่มความกลมกล่อมด้วเครื่องปรุงอื่น ๆ (เกลือ และน้ำตาลทราย) ผัดให้เข้ากัน
  • ใช้ไฟอ่อนทำการเคี้ยวไปเรื่อย ๆ พอเริ่มเข้ากันแล้วทำการยกลงออกจากเตา

นาซิ เลอมัก กับความนิยมในแต่ละท้องถิ่น หรือ ตามความเชื่อ

นาซิ เลอมัก หรือ อาหารมาเลเซียยอดนิยม ในแต่ละท้องถิ่น แต่ละความเชื่อก็มีความนิยมในการรับประทานที่แตกต่างกัน โดยเราจะยกตัวอย่างให้ไดทราบกันคร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ

  • การทำนาซิ เลอมักตามความเชื่อของชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดีย คล้ายคลึงกับรูปแบบดั้งเดิมของชาวมลายู ต่างกันที่ชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดียส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดูและไม่รับประทานเนื้อวัว
  • ความนิยมในการรับประทานแบบชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน จะมีแบบที่ใช้เนื้อหมูในการปรุง และนั่นก็หมายความว่าการรับประทานแบบนี้ไม่ใช่อาหารฮาลาล
  • ความนิยมในการรับประทานแบบของหมู่เกาะรีเยา นิยมใส่ปลาชิ้นเล็กที่เรียกอีกันตัมบัน
  • ความนิยมในการรับประทานแบบของชาวสิงคโปร์เชื้อสายมลายู นิยมใช้ปลาร้า ที่เรียกอีกันบีลิซ ถั่ว ปลาทอด แตงกวา บางครั้งใส่ไข่
  • ความนิยมในการรับประทานแบบของชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน นิยมใส่มะรุมทอด ลูกชิ้นปลา และแกงผัก
  • ความนิยมในการรับประทานแบบมังสวิรัติ มักพบในกัวลาลัมเปอร์ โดยแทนที่ปลาหมักด้วยปลาร้าเจ

 

 

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร ข้าวผัดซอส XO เมนูอาหารนานาชาติสุดสร้างสรรค์

ข้าวผัดซอส XO
ข้าวผัดซอส XO

ถ้าพูดถึงอาหารจีน เมนูที่ใช้ซอส XO เป็นส่วนประกอบ จะต้องถูกนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน พอๆ กับซอสซัมบัล ซึ่งซอส XO นั้น เป็นซอสที่พิถีพิถันในการทำมาก สมกับชื่อ XO ที่น้ำพริกเผาบ้านเรานั่นเอง แต่เป็นน้ำพริกเผาทะเลนะครับ เพราะส่วนผสมหลัก คืออาหารทะเล เช่น ปลาอินทรีเค็ม กุ้งแห้ง เป็นต้น

ซอส XO จะมีรสเผ็ดนำ ซึ่งหากเราทำซอสเก็บไว้แล้ว ก็สามารถนำไปทำอาหารได้หลายเมนูเลย แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า การทำอาหารด้วยซอส XO เราจะไม่นิยมปรุงเพิ่มเติมนะครับ เพราะจะเสียรสชาติของซอส เลยอยากแบ่งปันการทำอาหารจีนง่ายๆ ด้วยซอส XO สำหรับเมนูที่จะแนะนำวันนี้คือ “ข้าวผัดซอส XO” นะครับ

วัตถุดิบ 

  1. ข้าวสวย 170 กรัม
  2. ซอส XO 30 กรัม
  3. คะน้าซอย 20 กรัม
  4. กุ้งขาว 3 ตัว

 

 

ขั้นตอนการทำ

  1. ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่ซอส XO ลงไป คั่วให้หอม ไม่ต้องใส่น้ำมัน เพราะในซอสมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว
  2. น้ำกุ้งขาวที่เตรียมไว้ลงไปผัดกับซอส
  3. ใส่ข้าวสวยลงไป ผัดให้ให้เข้ากับซอส
  4. หลังจากผัดข้าวจนเริ่มแห้งแล้ว ให้เติมคะน้าซอยลงไป ใช้ไฟแรง รีบผัด รีบนำขึ้น เพื่อให้คะน้ายังคงความเขียวอยู่ ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยครับ

ปัจจุบัน ร้านอาหารจีนในไทย ก็นำเมนูนี้เข้ามาขายแล้วนะครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่าราคาค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว เลยอยากให้ลองทำซอส XO ไว้ทานเองดูนะครับ

ข้าวผัดซอส XO
ข้าวผัดซอส XO

วัตถุดิบ

  1. ปลาอินทรีเค็ม 200 กรัม
  2. กุ้งแห้ง 300 กรัม
  3. หมูแฮมจีน 300 กรัม
  4. หอยเซลล์แห้ง 600 กรัม
  5. พริกชี้ฟ้าแห้ง 600 กรัม
  6. พริกจินดาแห้ง 80 กรัม
  7. กระเทียมไทย 400 กรัม
  8. หอมแดง 400 กรัม
  9. น้ำมันพืช 1 ขวด

ขั้นตอนการทำ

  1. นำหอยเชลล์แห้งไปนึ่ง แล้วนำมาฉีกเป็นเส้นๆ
  2. นำพริกชี้ฟ้าแห้งมาเอาไส้และเม็ดออกให้หมด โขลกให้ละเอียด
  3. น้ำพริกจินดาแห้งมาทอด แล้วนำไปโขลกเช่นเดียวกันระวังอย่าให้พริกไหม้ หากมีพริกไหม้ จะต้องนำออก ไม่เช่นจะทำให้ซอสมีรสชาติขมได้นะครับ
  4. นำหอมและกระเทียมลงคั่วในกระทะ แล้วนำมาโขลกให้ละเอียด
  5. นำกุ้งแห้งมาโขลกให้พอแตก
  6. หมูแฮมจีนนำไปนึ่ง แล้วมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  7. ตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไป หลังจากนั้น ใส่ส่วนผสมทุกอย่างที่เตรียมไว้ลงไป เคี่ยวให้เข้ากัน จนกว่าจะงวด หลังจากนั้นปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่โหลหรือภาชนะ ไว้ทำอาหารต่อไป

 

ซอส XO สูตรดั้งเดิม จะเคี่ยวส่วนผสมต่างๆ โดยการเติมบรั่นดี Cognac XO

ลงไปด้วย แต่สำหรับสูตรนี้ อยากให้ทำแล้วสามารถเก็บไว้ประกอบอาหารทานได้กันทั้งครอบครัวมากกว่าครับ เลยไม่ได้ใส่บรั่นดีลงไปด้วยครับ




Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร กูลาซ เมนูอาหารนานาชาติ สุดแสนน่ากินสไตล์ยุโรป

กูลาซ
กูลาซ

“กูลาซ” คืออะไร กูลาซก็คือสตูว์เนื้อนั่นเองครับ แต่เป็นอาหารของชาวเยอรมัน เขาตั้งชื่อเมนูจำพวกสตูว์เนื้อว่ากูลาซ ไม่จำเป็นต้องใช้เนื้อวัวนะคะ ถึงเมนูจะชื่อสตูว์เนื้อ แต่เราสามารถนำมาได้หมด เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแพะ ตามแต่อยากทานเนื้อสัตว์ชนิดไหนเลยครับ ส่วนตัวผมเองคิดว่าถ้าเป็นเนื้อหมูคนจะนิยมทานมากกว่าเนื้อชนิดอื่นๆ ผมเลยขอแนะนำเมนูกูลาซ โดยใช้เนื้อหมูมาปรุงครับ แต่จะใช้เนื้ออะไรทุกท่านสามารถเปลี่ยนได้เลยโดยใช้สูตรเครื่องปรุงนี้เหมือนกันครับ

วัตถุดิบ 

  • เนื้อหมูหั่นเต๋า ความหนาประมาณ 1 นิ้ว
  • พริกหวาน 3 สี เหลืองเขียวแดง อย่างละ 1 ลูก (นำมาหั่นเต๋)
  • ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น (นำมาซอย)
  • หอมหัวใหญ่หั่น 1 หัว
  • กระเทียมสไลด์ 3 กลีบ
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะเขือเทศเข้มข้น 1.5 ถ้วยตวง
  • ใบกระวาน 3-4 ใบ
  • ผงปาปริก้า
  • โรสแม่รี่
  • เกลือป่น

ขั้นตอนการทำ

ในส่วนของการทำกูลาซหรือสตูว์เนื้อนั้น เราต้องใจเย็นนะครับ เพราะเราต้องค่อยๆ เคี่ยวไปจนน้ำซุปเริ่มแห้ง จนเนื้อเริ่มเปื่อย ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร จะใช้ไฟแรงเพื่อให้สุกเร็วๆ ไม่ได้นะครับ ที่สำคัญต้องคอยคนเป็นระยะด้วยครับ 

  1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอกลงไป
  2. นำเนื้อหมูที่หั่นเต๋าเตรียมไว้ โรยแป้งข้าวเจ้าสักเล็กน้อย แล้วเอาลงไปรวนในกระทะ รวนไปเรื่อยๆ เติมเกลือป่น 1 หยิบมือ โรยไปให้ทั่วกระทะ
  3. เติมผงปาปริก้า ตามความชอบเลยครับ ชอบมากใส่มาก ชอบน้อยใส่น้อย
  4. หลังจากรวนเนื้อหมูสุกจนได้ที่แล้ว เติมหอมหัวใหญ่กับกระเทียมสไลด์ลงไป
  5. ตามด้วยพริกหวาน 3 สี และต้นหอมญี่ปุ่น ผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  6. ใส่ใบกระวาน แล้วคนไปเรื่อยๆ
  7. หลังจากส่วนผสมทุกอย่างสุกหมดแล้ว ให้เติมน้ำมะเขือเทศเข้มข้น แล้วคนให้เข้ากันอีกครับ
  8. เติมน้ำซุปลงไป ปิดฝาหม้อปล่อยให้ตุ๋นเนื้อหมูให้เปื่อย
  9. เมื่อเริ่มเปื่อยแล้ว โรยโรสแมรี่ลงไปเล็กน้อย เพื่อความหอม
  10. ตุ๋นไปเรื่อยๆ เลยครับ จนกว่าเนื้อหมูของเราจะเปื่อย และน้ำซุปจะงวดลง เมื่อเปื่อยแล้วปิดไฟ ยกลงได้เลยครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ ดูสูตรและวิธีทำแล้ว ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ สีสันน่าตาน่าทานด้วย เพราะใส่พริกหวาน 3 สีลงไปตัด ได้กลิ่นหอมของโรสแมรี่หน่อยๆ เมนูนี้ไม่จำเป็นต้องทานกับข้าวนะครับ ทานเปล่าๆ หรือจะทานกับมันฝรั่งต้ม มันบด ก็เข้ากันครับ หรือถ้าจะทานกับอาหารที่เป็นแป้ง เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยวก็ทานได้เช่นกัน ทีนี้ เราก็สามารถทำอาหารเยอรมันทานเองได้อีก 1 เมนูแล้วนะครับ 

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร สปาเก็ตตี้ผัดกระเทียมพริกแห้งเบคอน อาหารนานาชาติ แสนอร่อย ทำเองได้ที่บ้าน

สปาเก็ตตี้ผัดกระเทียมพริกแห้งเบคอน
สปาเก็ตตี้ผัดกระเทียมพริกแห้งเบคอน

ถ้าเป็นเมื่อก่อน การจะหาอาหารอิตาเลียนทานคงต้องไปตามภัตตาคาร ร้านอาหารแต่ปัจจุบันนี้ อาหารอิตาเลี่ยนหลาย ๆ ชนิด เราก็สามารถทำทานกันเองที่บ้านได้แล้วนะครับ วัตถุดิบต่าง ๆ มีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ทั้งประเภทแป้ง และเนื้อสัตว์ รวมไปถึงวัตถุดิบทั้งผลิตในประเทศ และวัตถุดิบนำเข้า มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์กันเลยทีเดียว เลยอยากมาแนะนำเมนูง่าย ๆ สไตล์อิตาเลียนที่ทำทานเองได้ อร่อยด้วยนะครับ

สูตร สปาเกตตีผัดกระเทียมพริกแห้งเบคอน ในส่วนของปริมาณเบคอนที่ใช้ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละท่าน สำหรับผมคิดว่าปริมาณที่ใส่มานี้กำลังดี ทานกับเส้นสปาเกตตีไม่เลี่ยนจนเกินไป สำหรับใครที่ชอบทานเบคอนมาก ๆ จะใส่เพิ่มมากกว่านี้ก็ตามสะดวกเลยครับ

วัตถุดิบ 

  • เส้นสปาเกตตี ต้มสุก 170 กรัม 
  • เบคอน 60 กรัม
  • พริกแห้งทอด 5 กรัม
  • กระเทียมจีนสไลด์ ตามชอบ
  • ใบโหระพาอิตาเลียน (ถ้าไม่มีใช้โหระพาไทยแทนได้)
  • น้ำมันมะกอก สำหรับผัด (ใช้น้ำมันปาล์มหรือน้ำมันพืชแทนได้)
  • เกลือป่น
  • ผงปรุงรส
  • พริกไทยดำ (อันนี้ตามชอบของแต่ละท่าน)

ขั้นตอนการทำ

อันดับแรกก่อนเลยนะครับ สูตร สปาเกตตีผัดกระเทียมพริกแห้งเบคอน

 การต้มเส้นสปาเกตตี ถ้าจะให้ดี ไม่ควรต้มจนสุกมาก แค่ตอนต้มดูคำแนะนำข้างซองของผลิตภัณฑ์ แต่อย่าไปตามทั้งหมดนะครับ ต้องดูปริมาณว่าเส้นสปาเกตตีที่เราใช้ ปริมาณเท่าไหร่ ก่อนเวลาที่ข้างซองแนะนำ ให้ลองตักขึ้นมาชิมดู แค่ให้ตรงการเส้นไม่กรุบ ถือว่าใช้ได้ ให้เทลงตะแกรงแล้วล้างด้วยน้ำเย็นที่สะอาด และโรยน้ำมันมะกอกนิดหน่อย พอให้เส้นไม่ติดกัน ต้มแค่หนึ่งครั้ง ถ้าแช่แข็งอยู่ได้เป็นเดือนเลยทีเดียว สำหรับเบคอน หั่นให้ความกว้างประมาณ 2 นิ้ว เพราะหลังจากโดนความร้อนแล้ว เบคอนจะหดตัวลง ถ้าหั่นชิ้นเล็กเกินไป เวลาสุก ชิ้นจะเล็กมากไม่น่าทานครับ 

  1. ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อย
  2. ใส่กระกระเทียมจีนสไลด์ ลงไปผัดให้เหลือง
  3. ใส่เบคอนที่เตรียมไว้ลงไป ผัดกับกระเทียมให้ออกแห้งเล็กน้อย
  4. ใส่พริกแห้งทอดลงไป ถ้าใครชอบทานรสจัด จะใส่พริกแห้งหั่นท่อนลงไปด้วยก็ได้
  5. ใส่เส้นสปาเกตตีที่เตรียมไว้ลงไป ผัดให้เข้ากัน
  6. ใส่เกลือและผงปรุงรสเล็กน้อย 
  7. เมื่อชิมได้รสชาติที่ชอบแล้ว ใส่ใบโหระพาอิตาเลียนลงไป 
  8. ขั้นตอนสุดท้าย บดพริกไทยดำโรยหน้า

 

           เป็นไงครับ ไม่ยากเลยใช่มั้ย สูตร สปาเกตตีผัดกระเทียมพริกแห้งเบคอน วัตถุดิบก็หาง่าย ของบางอย่างไม่มีก็สามารถใช้ อย่างอื่นทดแทนกันได้ สำหรับท่านใดที่ไม่ชอบทานเบคอน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ เช่น เนื้อเค็ม ไส้กรอก เป็นต้น แต่แนะนำเคล็ดลับไว้นิดหน่อย การผัดสปาเกตตีไม่ควรใช้ตะหลิวผัด เพราะจะทำให้เส้นสปาเกตตีขาด ไม่น่าทาน ควรใช้ไม้พายแทนจะดีกว่าครับ



Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร ซุปกิมจิ เมนูอาหารนานาชาติสุดฮิตของเกาหลีที่คนไทยชอบ

ซุปกิมจิ
ซุปกิมจิ

ปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยนะครับ ว่าอะไรๆ ที่เป็นเกาหลีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากจริงๆ ทั้งศิลปินเกาหลี ที่มีทั้งบอยแบรนด์ และเกิร์ลกรุ๊ป รวมไปถึงซีรี่ย์เกาหลีกันเลยทีเดียว แล้วซีรี่ย์เกาหลีแต่ละเรื่องจะต้องมีฉากทานอาหารมายั่วเราเสมอ เห็นแล้วทำให้อยากทานอาหารเกาหลีขึ้นมาเลยครับ

 แล้วตอนนี้บ้านเราก็มีร้านอาหารเกาหลีให้เลือกมากมายหลายแบรนด์ ทั้งไก่บอนชอน หรือชีนือนิม ที่โด่งดังอยู่ในย่านเอแบค บางนา ซึ่งส่วนใหญ่ร้านอาหารเกาหลีก็จะอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้มอลทั้งหลาย ต้องออกไปหาทานกัน  แต่เราก็สามารถทำอาหารเกาหลีทานที่บ้านได้นะครับ เมนูง่ายๆ อย่าง “ซุปกิมจิ” ก็น่าสนใจนะครับ ทำง่ายด้วยครับ

วัตถุดิบ 

  • กิมจิ 200 กรัม
  • หมูสามชั้น/ เบคอน 150 กรัม
  • เต้าหู้อ่อนคินุ 1 กล่อง
  • เห็ดเข็มทอง 100 กรัม
  • ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
  • กระเทียมสับ 20 กรัม
  • หอมใหญ่ 50 กรัม
  • ซอสโคชูจัง
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำเปล่า

 

ขั้นตอนการทำ

ซุปกิมจินี่จะให้อร่อยต้องใช้หมูสามชั้น หรือเบคอนมาปรุงครับ เพื่อให้มีน้ำมันจากตัวหมูออกมาเวลาผัดจะได้หอมๆ แล้วสามารถนำต้นหอมลงไปผัดในน้ำมันนั้นได้เลย ส่วนของกิมจินั้นเดี๋ยวนี้สะดวกแล้วครับ มีขายทั่วไปไม่ต้องมานั่งทำเองให้ยุ่งยากครับ ส่วนของรสชาติ ในตัวกิมจิก็จะมีรสชาติแล้วประมาณหนึ่ง เวลาปรุงก็เติมซอสหรือเครื่องปรุงอื่นๆ เพิ่มแค่เล็กน้อย อันนี้ไม่มีสูตรตายตัวนะครับ ชอบแบบไหนปรุงแบบนั้นได้เลย มาดูขั้นตอนการทำต่อเลยครับ

  1. หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นพอดีคำ
  2. นำต้นหอมญี่ปุ่นและเห็ดเข็มทองมาหั่นเป็นท่อน
  3. หั่นเต้าหู้คินุให้เป็นลูกเต๋า เวลาหั่นให้เบามือนิดเพราะเต้าหู้คินุค่อนข้างนิ่มและเละง่ายครับ
  4. นำหมูสามชั้นใส่หม้อ ตั้งเตา เคี่ยวให้มีน้ำมันออกมา เมื่อมีน้ำมันออกมาแล้ว ใส่ต้นหอมและกระเทียมสับลงไปผัด จนให้มีกลิ่นหอม
  5. หลังจากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป ตามด้วยกิมจิ และเห็ดเข็มทอง
  6. ปรุงรสตามใจชอบครับ หลังจากนั้นพอซุปเริ่มเดือด ก็ใส่เต้าหู้อ่อนและไข่ไก่ลงไป ปิดไฟ ยกลง พร้อมทานครับ

เพียงแค่นี้ ก็มีซุปกิมจิทานแล้วครับ ยังมีเมนูอาหารเกาหลีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ อย่างต๊อกป๊อกกิ นี่ก็เป็นอีกเมนูที่ผมชอบมากเลยครับ สำหรับท่านที่จะทำซุปกิมจิ แล้วเกรงว่าจะหาวัตถุดิบยาก ไม่ต้องห่วงเลยครับแนะนำให้ไปฟู้ดแลนด์เลย ที่เดียวมีครบทุกอย่างแน่นอนครับ ตัวผมเองก็อาศัยฟู้ดแลนด์นี่แหละครับเวลาหาวัตถุดิบมาทำอาหารแต่ละเมนู ทานซุปกิมจิกันให้อร่อยนะครับ

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร แกงไก่เนย เมนูอาหารนานาชาติแสนอร่อย

แกงไก่เนย
แกงไก่เนย

หลาย ๆ ท่านคงชอบอาหารอินเดียกันใช่มั้ยครับ โดยเฉพาะท่านที่ชอบทานเครื่องเทศ แต่บางท่านจะติดภาพว่าเครื่องเทศในอาหารอินเดียนั้นมีกลิ่นแรง หรืออาหารอินเดียคนทำไม่สะอาด อะไรแล้วแต่ ผมยังเชื่อว่าอาหารอินเดีย ก็โดนใจใครหลายคนอยู่นะครับ บางท่านคิดว่าพ่อเป็นอาหารที่มีเครื่องเทศจะทำยาก ก็เฉพาะบางเมนูเท่านั้นครับ

บ้านเราตอนนี้หาทานไม่ยากเลยครับ แถวสุขุมวิทนี่เรียกได้ว่าตั้งติดกันเป็นแถว เมนูที่ผมชอบก็เนื้อตุ่นที่ทานกับโรตีครับ ตุ๋นเนื้อมาเปื่อยๆ ใส่เครื่องเทศหอมๆ ทานกับแป้งโรตี พูดถึงแล้วก็อยากทำทาน แต่ไม่มีเวลาเคี่ยวเนื้อขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นเรามาทำเมนูอีกเมนู ที่ทำง่ายๆ กันดีกว่าครับ เมนูที่ว่า “แกงไก่เนย” นั่นเองครับ วัตถุดิบหลักก็ซอสนั่นแหละครับ ส่วนฝีมือแทบไม่ต้องใช้เลยครับ

วัตถุดิบ

  • อกไก่หั่นเต๋า 300 กรัม
  • หอมหัวใหญ่สับ 100 กรัม
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอส Butter Chicken 200 กรัม

ขั้นตอนการทำ

สูตร แกงไก่เนย เมนูนี้เป็นอาหารอินเดียที่ทำง่ายมากเลยครับ เพราะทำจากตัวซอสสำเร็จรูปอยู่แล้ว เพียงแค่หั่นไก่ สับหอมหัวใหญ่ นอกนั้นให้ซอสจัดการครับ เมนูนี้ก็น่าจะเป็นที่โปรดปรานของแม่บ้านหลายท่าน เพราะทำง่ายนี่แหละครับ ตัวผมเองก็ทำบ่อยเหมือนกัน คนที่บ้านก็ชอบครับ เพราะเครื่องเทศไม่แรงเกินไป หอมกลิ่นเนยดีครับ

  1. หั่นอกไก่ให้เป็นลูกเต๋า
  2. สับหอมหัวใหญ่ ให้เป็นชิ้นเล็กๆ
  3. นำกระทะตั้งไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไป 
  4. พอน้ำมันร้อน ใส่หอมหัวใหญ่ลงไปผัดให้เหลือง หอม
  5. หลังจากหอมหัวใหญ่เหลืองแล้ว ใส่อกไก่ลงไปเลยครับ แล้วผัดจนเนื้อไก่สุกเหลืองเช่นเดียวกัน ให้แน่ใจว่าผัดไก่จนสุกเหลืองแล้วจริงๆ นะครับถึงจะใส่ซอสลงไป เพราะถ้าเราใส่ซอสไปแล้ว เนื้อไก่ก็จะไม่ได้กริลล์กับกระทะ
  6. เทซอสเติมลงไป ระหว่างนี้ผัดซอสให้เข้ากับไก่จนทั่ว แล้วปิดฝา ตั้งไฟอ่อนๆ ไว้ 15 นาทีครับ 

   เรียบร้อยแล้วครับแกงไก่เนย เมนูอาหารอินเดียง่ายๆ  ทำเองก็ได้ 

อร่อยด้วย ไม่ต้องฝ่าการจราจรที่ติดแสนติดไปถึงสุขุมวิท เพียงแค่มี Butter chicken Sauce ขวดเดียวพอเลยครับ นอกจากเมนูนี้แล้ว อีกเมนูที่น่าสนใจและอร่อยไม่แพ้กันก็คือไก่มาซาลา นะครับ ในส่วนของมาซาลานี่เราใช้ผงมาซาลาครับ กรรมวิธีไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่

ไม่ต้องกังวลเรื่องซอสนะครับมีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปเลยครับ ในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ตนะครับ แกงไก่เนยเป็นเมนูที่ทานกับข้าวนะครับ ข้าวสวยร้อนๆ กับแกงไก่เนย ที่มีกลิ่นหอมของเนยและเครื่องเทศอ่อน ๆ รับรองว่าประทับใจแน่นอนครับ